ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Mongwin]

'ชัจจ์'สั่งตรวจเข้มหัวรถจักร-รางรถไฟ
ไทยรัฐออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2555, 22:15 น.

'ชัจจ์' สั่งเข้มตรวจเข้มเพิ่มความถี่ตรวจราง–หัวรถจักรรับหน้าฝน หลังตกถี่เกิน ทำชาวบ้านผวา ชี้ปัญหาใหญ่ เกิดจากคนรถไฟละเลยหน้าที่ ล่าสุด ครม.อนุมัติซื้อหัวรถจักรใหม่อีก 70 หัว...

วันที่ 29 พ.ค. 2555 พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เผยถึงมาตรการการแก้ไขและป้องกันปัญหารถไฟตกราง ร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายบริหาร รฟท. จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบรางรถไฟทั่วประเทศ โดยจะต้องเสนอแผนกลับมาให้ตนภายใน 2-3 วัน ซึ่งรายละเอียดแผนจะต้องมีการนำเสนอแบ่งระยะเวลาในการตรวจสอบรางพื้นที่ใดมีความเสี่ยงของพื้นดินจะยุบตัวในตรวจสอบ 2 วัน และหากมีความเสี่ยงน้อยให้ตรวจสอบ 15–30 วัน รวมทั้งต้องจัดสายตรวจเดินเท้าเข้าพื้นที่ที่เข้าถึงยาก และสายตรวจประจำวัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้าฝนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพของรางให้เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะจุดเสี่ยง เส้นทางโค้ง ทางลาดเส้นทางขึ้น–ลงเขา รวมทั้งให้ตรวจพิกัดความเร็วในแต่ละจุดว่ามีความเหมาะสมว่า จุดไหนต้องมีการเพิ่มหรือลดความเร็ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น และจะมีการจู่โจมซุ่มตรวจรางโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

“สาเหตุรถไฟตกรางหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เกิดจากเจ้าหน้าที่โยธาที่รับผิดชอบดูแลเรื่องราง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างกลที่ดูแลหัวรถจักร ละเลยในการตรวจสอบความปลอดภัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากคุณภาพของรางและเครื่องจักรชำรุด และได้ให้ฝ่ายบริหารไปดูเรื่องการเพิ่มโทษสำหรับคนที่กระทำความผิด รวมทั้งจะต้องมีการลงโทษระดับสูงด้วย ไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น”

สำหรับแผนการเพิ่มความปลอดภัยของ รฟท. ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้จัดซื้อหัวรถจักรใหม่จำนวน 70 หัว ซึ่งคาดว่า รถไฟไทยจะมีหัวรถจักรใหม่ 200 หัว และการปรับปรุงรางใหม่ที่สมบูรณ์ ภายในปี 57 ส่วนการสรรหาผู้ว่าการ รฟท. แทนนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. คนปัจจุบัน ที่จะมีหมดวาระในเดือน มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ รฟท. ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพื่อสรุปแนวทางการสรรหา และคาดว่าจะได้ผู้ว่าการคนใหม่ภายในปลายเดือน มิ.ย.

[Mongwin]

ชมรมคนรักรถไฟ
ไทยรัฐออนไลน์ โดย: กิเลน ประลองเชิง 30 พฤษภาคม 2555, 05:01 น

ผมฟังข่าวรถไฟตกราง เป็นครั้งที่สามในรอบเดือน...แล้วก็เกิดความคิดแทนผู้มีอำนาจทางการเมืองว่า เราน่าจะได้เวลาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกระบวนการรถไฟ แบบถึงลูกถึงคนกันเสียที

ตามประวัติ...รถไฟสายแรกของหลวงคือสายกรุงเทพฯ-อยุธยา เริ่มเปิดเดินรถเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2439 วันนี้ถือเป็นวันสถาปนากิจการรถไฟไทย...นี่คือส่วนแรกของรถไฟสายเหนือ

แต่รถไฟสายแรกในไทยจริงๆเป็นของบริษัทชาวเดนมาร์ก เริ่มเดินรถมาก่อนหน้ารถไฟหลวงสามปี สถานีต้นทางอยู่หัวลำโพง...(ฝั่งตรงข้ามหัวลำโพงรถไฟหลวง) ปลายทางปากน้ำสมุทรปราการ ระยะทาง 21 กม. มีนายเอ ดูเปล เดอ ริเชอเลียว รับราชการเป็นกัปตันเรือพระที่นั่งเวสาตรี เป็นหัวแรงสำคัญ

เมื่อได้สัมปทาน 50 ปี จากรัฐบาลสยาม เมื่อ พ.ศ.2429 16 ก.ค.2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จทำพิธีเริ่มการก่อสร้าง และเสด็จไปทรงทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2436

มีพระราชดำรัส ตอนหนึ่งว่า

เรามีความยินดีที่ได้รับหน้าที่อันเป็นที่พึงใจ คือจะได้เป็นผู้เปิดรถไฟสายนี้ ซึ่งเป็นที่ชอบใจและปรารถนามาช้านานแล้วนั้น ได้สำเร็จสมดังประสงค์ในครั้งนี้ เพราะเหตุว่าเป็นรถไฟสายแรกที่จะเปิดในบ้านเมืองเรา แล้วยังจะมีสายอื่นต่อๆไปอีกเป็นจำนวนมาก

เราหวังใจว่า เป็นการเจริญแก่ราชการและการค้าขาย ในบ้านเมืองของเรายิ่งนัก

โรม บุนนาค เขียนไว้ในบันทึกแผ่นดิน ชุด เรื่องเก่าเล่าสนุก 3 ว่า รถไฟสายปากน้ำมี 12 สถานี คือบางกอก ศาลาแดง คลองเตย บ้านกล้วย พระโขนง บางจาก บางนา สำโรง จระเข้ บางนางเกรง มหาวงศ์ และสถานีปากน้ำ ตรงท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์

กิจการรถไฟสายนี้ขาดทุน จนทางราชการต้องให้เงินกู้ยืม เหตุผลที่รัฐบาลต้องช่วย ไม่ใช่เหตุผลทางธุรกิจ แต่เป็นเหตุผลทางยุทธศาสตร์

ครั้งเหตุการณ์ ร.ศ.112 (13 ก.ค.2436) ฝรั่งเศสส่งเรือรบสองลำ ฝ่าแนวป้องกันของป้อมพระจุลจอมเกล้า...เข้ากรุงเทพฯ นายเอ ดูเปล เดอ ริเชอเลียว

(พลเรือตรีพระยาชลยุทธโยธิน ผู้อำนวยการป้องกันปากแม่น้ำ) ได้ขึ้นรถไฟสายนี้ ตามเรือรบฝรั่งเศสเข้ามา

ระหว่างรถไฟวิ่ง...มีกระสุนปืนใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นของฝ่ายไหน ตกในขบวนรถ ผู้โดยสารตายไป 2 คน บาดเจ็บ 1 คน

พระยาชลยุทธโยธินเข้ากราบทูล ขอเอาเรือพระที่นั่งจักรีพุ่งชนเรือรบฝรั่งเศส แต่เสียงส่วนใหญ่ฝ่ายไทย ไม่ต้องการก่อเรื่องใหญ่ เป็นชนวนให้ฝรั่งเศสหาเรื่องต่ออีก...จึงไม่ใช้แผนนี้ ใช้วิธีเจรจาแทน

รถไฟสายปากน้ำเลิกใช้หัวรถจักรไอน้ำ หันมาใช้รถไฟฟ้า...โดยผู้รับสัมปทานเดิม...จนสิ้นสุดเวลาสัมปทาน กรมรถไฟรับช่วงดำเนินการต่อ มาเลิกเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2503 ในรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

จากนั้นก็มีการรื้อรางรถไฟถมคลอง ขยายเป็นถนนพระราม 4 ร่องรอยรถไฟสายปากน้ำ ยังมีหลงเหลืออยู่ให้เห็นในเส้นทางรถยนต์ ที่เรียกกันว่า ถนนทางรถไฟสายเก่า

อ่านประวัติรถไฟสายแรก...ถึงตอนพระยาชลยุทธโยธิน นั่งรถไฟมาขอเอาเรือพระที่นั่งจักรี พุ่งชนเรือรบฝรั่งเศส...แล้วก็ตื่นใจในเลือดนักสู้ของพระยาชลยุทธโยธิน...แล้วก็นึกรักรถไฟขึ้นมาจับใจ

ถึงวันนี้ เวลาก็กว่าร้อยปีมาแล้ว ภาพรวมๆการรถไฟพัฒนาไปไม่ทันรถไฟบ้านเมืองอื่น...ยังเป็นรถไฟอยู่ในกรอบของเก่า ทั้งเป็นของเก่าที่มีอายุ 100 ปี เข้าเกณฑ์วัตถุโบราณ...
หลักของวัตถุโบราณ เขาไม่ทิ้งไม่ตกแต่งต่อเติม แต่จะดูแลรักษาเอาไว้ในสภาพเดิมๆ ถึงจะแล่นแล้วตกราง พังแล้วพังอีก...ก็ต้องทำใจ...ดูแลรักษาไว้ ทั้งรถทั้งคน ซึ่งก็ยังเก่ายังโบราณพอๆกัน

ยึดหลักนี้ ก็ดูจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องโอนการรถไฟ จากกระทรวงคมนาคม ไปขึ้นกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ถึงวันนี้เราคงไม่หวังอะไรมากไปกว่ามีรถไฟเอาไว้ดู เอาไว้นั่งเสี่ยงภัย

ผมว่านะ...น่าจะนั่งเพลินกว่ารถไฟเหาะตีลังกาในสวนสนุก เป็นไหนๆ.

กิเลน ประลองเชิง

[black_express]

เป็นข้อเขียนเชิงประชดจริงๆ ใช่ไหมครับ ?

[Wisarut]

'ชัจจ์'ลั่น รฟท.ได้หัวจักรครบปี 57
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
พุธที่ 30 พฤษภาคม 2555 เวลา 05:39

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเชิญผู้บริหารกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อหารือถึงสาเหตุที่รถไฟตกราง ว่าสำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดรถไฟตกรางบ่อยครั้งนั้นมี 2 สาเหตุ คือ

1.เนื่องจากทางไม่ดีทางอ่อนยุบตัวง่ายและอีกส่วนหนึ่งคือรางขยายตัวเนื่องจากอากาศร้อน และ
2.ตัวล้อเลื่อน ล้อเบรก ห้ามล้อไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เกิดเหตุตดังกล่าว

"โดยสรุปได้ว่าไม่เกี่ยวกับเครื่องจักรไม่สมบูรณ์ แต่เป็นที่บุคคลที่ควบคุมเครื่องจักรกล และผู้ตรวจรางที่ไม่ดีไม่มีการตรวจสอบจึงทำให้ทางชำรุดดังกล่าว ทั้งนี้ ได้มีการมอบหมายให้ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ออกคำสั่ง และแผนงานปฏิบัติงาน โดยจะต้องรายละเอียดแผนดังกล่าวให้ผมรับทราบ" พล.ต.ท. ชัจจ์ กล่าว

สำหรับมาตรการการป้องกันอุบัตินั้น ขณะนี้ได้มีการเน้นย้ำว่า จะต้องตรวจสอบความปลอดภัยทางเส้นทาง ทั่วประเทศ โดยเฉพาะทางโค้ก ทางลงเขา และในจุดที่เป็นจุดเลี่ยง อย่างไรก็ตาม ส่วนการแก้ไขปรับปรุงทางขณะนี้บางจุดได้มีการเริ่มแก้ไขแล้ว อาทิเช่น ในส่วนของสายเหนือ เส้นทางพิษณุโลก-เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับเหมาแล้ว โดยสัญญาจะสิ้นสุดในปี 2556 และเส้นทางสายใต้กรุงเทพฯ-หนองปลาดุก-หัวหิน ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2557 จะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ รวมถึงการประมูลหัวจักรใหม่ 70 หัว และซ่อมบำรุง 57 หัว จะแล้วเสร็จในปี 2557เช่นกัน

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการฝ่ายวิศวกรรมและก่อสร้าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคางานโยธาระบบราง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่บางซื่อ สัญญาที่ 6 กล่าวว่า คณะกรรมการได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคา ซึ่งมีบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผ่านเกณฑ์การประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค ซองที่ 2 ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) เข้ามาเพียงรายเดียว โดย บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ได้เสนอราคาที่ 4,142 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคากลางที่ 3,638 ล้านบาท หรือประมาณ 504 ล้านบาท โดยทางคณะกรรมการ จะใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดเรื่องราคา 2-3 สัปดาห์ จากนั้นจะเสนอให้ไจก้าเห็นชอบ และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้อนุมัติดำเนินการต่อไป

[Mongwin]

ปรับปรุงทางหนองปลาดุก-หัวหิน มีป้ายโครงการมาปักไว้แล้วครับที่ริมชานชาลาสถานีชุมทางหนองปลาดุก
ใกล้ได้เวลารถสายใต้ช้ากันแล้วครับ

---------------

รมช.คมนาคมเร่ง รฟท.ปรับปรุงระบบรางและเดินหน้ารถไฟความเร็วสูง
สำนักข่าวไทย วันพฤหัสบดี ที่ 31 พ.ค. 2555

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. - พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในงานสัมมนา “ก้าวสู่ทศวรรษใหม่การรถไฟไทย” ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะต้องเร่งพัฒนาระบบรางภายในประเทศที่มีอยู่ 4,000 กิโลเมตร ในระบบรางเดิมความกว้าง 1 เมตร เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่ง ด้วยความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยการปรับปรุงสภาพราง หมอนรถไฟ โดยขณะนี้สามารถดำเนินการแล้วร้อยละ 40 คาดว่าจะปรับปรุงระบบรางทั้งประเทศเสร็จปี 2557

นอกจากนี้ ยังจะต้องจัดซื้อหัวรถจักรเพิ่มอีก 70 หัว ซ่อมหัวรถจักรเดิมอีก 56 หัว ซื้อตู้และแคร่ 300 คัน เนื่องจากศักยภาพรถไฟในปัจจุบันจะรองรับการใช้บริการของประชาชนได้ต้องมีประมาณ 300 หัวรถจักร จากปัจจุบันวิ่งให้บริการ 120 หัวรถจักร สำหรับรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์จะก่อสร้างขยายเพิ่มจากมักกะสันต่อไปยังดอนเมือง โดยจะซื้อขบวนรถไฟเพิ่มอีก 7 ขบวน วงเงินลงทุน 5,000 ล้านบาท เพื่อให้การเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเชื่อมไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองใช้เวลาเพียง 45 นาที

พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวอีกว่า รฟท.จะเร่งคัดเลือกบุคลากรเข้ามาทำงานหลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ 2,400 คน เพื่อปฏิบัติงานรองรับภารกิจที่จะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อีกทั้งการฝึกอบรม ระบบสวัสดิการ การสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ให้มีความกระตือรือร้นในการทำงาน สำหรับการสร้างรถไฟสายยาว กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ –หนองคาย จีนแสดงจำนงแล้วว่าจะก่อสร้าง ลงทุนให้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับจีน แต่คาดว่าจีนคงไม่มีเงื่อนไขเข้มงวดเหมือนกับไปลงทุนก่อสร้างรถไฟที่ประเทศลาว.-สำนักข่าวไทย

-------------

ชัจจ์จี้รถไฟเร่งพัฒนาคน พบทำงานไม่กระตือรือร้น
ไทยโพสต์ 1 June 2555

“ชัจจ์” สั่งเดินหน้าพัฒนาปรับปรุงทั้งรถไฟ–คนรถไฟ ระบุที่ผ่านมาพนักงานไม่กระตือรือร้นในการทำงาน ด้านกรรมาธิการฯ เสนอตั้งกระทรวงรถไฟ ยกระดับให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เปิดเผย ในงานสัมมนา “ก้าวสู่ทศวรรษใหม่การรถไฟไทย” ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องเร่งพัฒนาระบบรางภายในประเทศตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งบประมาณ 1.76 แสนล้านบาท ให้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะการพัฒนารางที่มีอยู่ 4,000 กม.ให้รถไฟสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 100-120 กม./ชม. ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว 40% ส่วนที่เหลืออีก 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในปี 2557 นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ยังต้องปรับปรุงในบุคลากรคนรถไฟ เนื่องจากการทำงานของพนักงานที่ผ่านมาไม่มีการกระตือรือร้น ไม่ยอมรับฟังเสียงใคร ทำให้การทำงานเสียระบบ ไม่สามารถพัฒนาได้

“ที่ผ่านมา คนรถไฟเอาแต่ใจ ไม่ฟังความคิดเห็นจากคนอื่น และหลังจากนี้จะเร่งคัดเลือกบุคลากรเข้ามาทำงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เคยอนุมัติไว้จำนวน 2,400 คนนั้น จะต้องสร้างแรงจูงใจให้เกิดความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน และสามารถรองรับภารกิจที่จะเพิ่มขึ้น” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว

ว่าที่ร้อยตรี พงศ์พันธ์ สุนทรชัย รองประธานคณะกรรมาธิการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรมหาชนและกองทุน กล่าวว่า เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน จำเป็นต้องยกฐานะ ร.ฟ.ท.เป็นกระทรวง ซึ่งล่าสุด ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งกระทรวงรถไฟ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร.

[Mongwin]

ดันโปรโมทโอทอปบนตู้รถไฟทำตลาดกระตุ้นต่างชาติควักกระเป๋าซื้อ
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม 2555 เวลา 17:26 น.

ท่องเที่ยวปิ้งไอเดีย "ขนสินค้าโอทอป" ขายบนรถไฟกระตุ้นต่างชาติซื้อ

วันนี้ ( 1 มิ.ย.) นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งการให้กระทรวงเร่งเดินหน้านโยบายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการผลักดันสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ให้กลายเป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น โดยกระทรวงฯเตรียมจัดงานรวมสินค้าโอทอปที่น่าสนใจมานำเสนอ ที่สนามกีฬาแห่งชาติเร็วๆ นี้ เพื่อโปรโมทสินค้าโอทอป ขณะเดียวกันมีแนวคิดให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไปจับมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย นำสินค้าโอทอปที่มีคุณภาพ มีความโดดเด่นไปนำเสนอขายบนตู้รถไฟ ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเป็นรูปแบบของตู้จัดแสดงสินค้าโอทอปโดยเฉพาะ

"การขายสินค้าโอทอปบนตู้รถไฟ เป็นแนวทางเบื้องต้นที่มองไว้ โดยจะทำเพื่อทดลองตลาด จะได้รู้ว่าสินค้าโอทอปรายการไหนที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่ไปใช้บริการรถไฟ จากนั้นจะได้ดึงสินค้าที่โดดเด่นจริงๆ มาทำตลาดโปรโมทนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะทุกวันนี้สินค้าโอทอปในไทยมีมาก แต่กลับไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเลย เพราะสินค้าส่วนใหญ่ไม่มีความแตกต่างกัน และยังขาดการประชาสัมพันธ์อีกด้วย” นายสุวัตร กล่าว

[Mongwin]

ประกาศฝ่ายการช่างโยธา
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกาศสอบราคาจ้างเหมางานซ่อมบำรุงทางเพื่อรองรับขบวนรถขนส่งสินค้าโดยคอนเทนเนอร์ กม.458/5 - 487/3 ระหว่างสถานีชุมทางบ้านดารา กับสถานีสวรรคโลก ในแขวงบำรุงทางอุตรดิตถ์ กองบำรุงทางเขตลำปาง ศูนย์บำรุงทางภาคเหนือ ฝ่ายการช่างโยธา
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ยธ.08300/5/298

การรถไฟแห่งประเทศไทย ประสงค์จะทำการสอบราคาจ้างเหมางานซ่อมบำรุงทางเพื่อรองรับขบวนรถขนส่งสินค้าโดยคอนเทนเนอร์ กม.458/5 - 487/3 ระหว่างสถานีชุมทางบ้านดารา กับสถานีสวรรคโลก ในแขวงบำรุงทางอุตรดิตถ์ กองบำรุงทางเขตลำปาง ศูนย์บำรุงทางภาคเหนือ ฝ่ายการช่างโยธา
ราคากลาง 1,999,900.00 บาท
ประกาศ ณ วันที่ 1 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2555

( ลงนาม ) ยศ อินทสุก
( นายยศ อินทสุก )
วิศวกรกำกับการกองบำรุงทางเขตลำปาง
ในนามวิศวกรอำนวยการศูนย์บำรุงทางภาคเหนือ

[Mongwin]

รางรถไฟ - หัวรถจักรเสื่อมสภาพขั้นวิกฤติ
Thai PBS Sun, 03/06/2012 - 12:56

วิศวกรโยธาของ สนข.ยอมรับรางรถไฟทั่วประเทศ และหัวรถจักรที่มีกว่า 100 หัว ขณะนี้เสื่อมสภาพเข้าขั้นวิกฤติมีโอกาสเสี่ยงรถไฟตกรางมากขึ้น หลังผลการศึกษาเมื่อ 2 ปีที่แล้วระบุชัดว่าจะถึงขั้นวิกฤติในปีนี้ และปีหน้า



-----------

แก้ปัญหารถไฟเสื่อมคุณภาพจัดซื้อหัวรถจักรใหม่เพิ่มขึ้น 77 หัว
Thai PBS Sun, 03/06/2012 - 17:40

ระยะนี้ หลายคนคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับรถไฟขนส่งผู้โดยสารและขบวนขนส่งสินค้าตกรางถี่มากขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการรู้ล่วงหน้ามาก่อนราว 1 - 2 ปีที่ผ่านมาว่า อาจเกิดปัญหารถไฟตกรางมากขึ้น จากความเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานของรถไฟ ซึ่งปัญหาสภาพเส้นทางรถไฟเก่า จนขบวนรถตกรางบ่อยนี้ ส่งผลให้กระทรวงคมนาคม เสนอจัดซื้อหัวรถจักรใหม่เพิ่มขึ้น 77 หัว และเร่งปรับปรุงรถไฟไทย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า

ปัจจุบัน ไทยมีเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,000 กิโลเมตรใน 47 จังหวัด ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุรถไฟทั้งขนส่งผู้โดยสาร และขบวนขนส่งสินค้าตกรางหลายครั้ง โดยผลศึกษาของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ระบุว่า เนื่องจากปีนี้ เป็นช่วงจังหวะเวลาที่ราง และหัวรถจักรเสื่อมสภาพมากที่สุดตามอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องทราบปัญหามาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว

และขณะนี้ คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดซื้อหัวรถจักร เพิ่มขึ้นอีก 77 หัวรถจักร จากที่มีใช้งานในปัจจุบัน 120 หัวรถจักร เพื่อนำมาทดแทนตั้งแต่ปี 2556 โดยขั้นตอนอยู่ระหว่างเริ่มกระบวนการประกวดราคา สำหรับสภาพเส้นทางรถไฟ ทะยอยปรับปรุงไปแล้วกว่าร้อยละ 40 โดยเฉพาะเส้นทางสู่ภาคเหนือ และภาคใต้ รวมทั้งปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ และจุดตัดกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยเป็นแผนส่วนหนึ่งของงบประมาณที่การรถไฟฯ ได้รับปี 2553 จำนวน 1 แสน 7 หมื่นล้านบาท

ล่าสุดคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้เปิดรับสมัครพนักงานการรถไฟฯ อีกจำนวน 2,400 อัตรา ในสาขาต่างๆ เพื่อมาเสริมกับอัตราที่ขาดแคลน ขณะที่กระทรวงคมนาคม ร่วมกับการรถไฟฯ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ธนบุรี ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเปิดสถาบันพัฒนาระบบรางภาคพื้นอาเซียนในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านรถไฟเป็นการเฉพาะ จากปัจจุบันที่มีโรงเรียนการรถไฟฯ แต่ผลิตบุคลากรได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

[Mongwin]

ผู้ว่าร.ฟ.ท.ตรวจรางรถไฟ-มอบนโยบาย
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2555 8:54น.

เช้าวันนี้ ผู้ว่า ร.ฟ.ท. ลงพื้นที่ ตรวจรางรถไฟ เส้นทางตะวันตก พร้อมมอบนโยบายแก่พนักงาน

ในเช้าวันนี้ เวลา 07.30 น. นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเดินทางไปตรวจสภาพทางและรางรถไฟในเส้นทางตะวันตกเพื่อตรวจความปลอดภัย การซ่อมบำรุงดูแลรักษาสภาพทางและราง รวมไปถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และมอบนโยบายในการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยให้แก่พนักงานและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ช่วงระหว่างเส้นทางกรุงเทพฯ - กาญจนบุรี

[Mongwin]

ผู้ว่าฯ รฟท.จู่โจมตรวจรางรถไฟเชื่อปัญหาตกรางหมดไปใน 1 เดือน
สำนักข่าวไทย วันจันทร์ ที่ 04 มิ.ย. 2555

กาญจนบุรี 4 มิ.ย.- ผู้ว่าฯ รฟท.ลงสำรวจความปลอดภัยของราง มั่นใจสถานการณ์รถไฟตกรางจะดีขึ้นภายใน 1 เดือนข้างหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่ตรวจรางรถไฟ เส้นทางสถานีหนองปลาดุก - จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีระยะทาง 132 กม. ตามแผนปฏิบัติการจู่โจมตรวจตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่ให้ รฟท.จัดทำแผนปฏิบัติการออกตรวจรางรถไฟทั่วประเทศและรายงานผลทุก 3 วันในระยะ 1 สัปดาห์ และระยะ 1 เดือน โดยวันนี้ รฟท.ได้มีการรถตรวจรางพิเศษ EM80 วิ่งทดสอบราง

นายยุทธนา กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรีในวันนี้ เป็นการออกจู่โจมตรวจ โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทราบล่วงหน้า โดยได้มอบหมายให้ผู้บริหาร รฟท.ระดับรองผู้ว่าการฯ ออกตรวจรางทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานระดับปฏิบัติการมีความพร้อม และกระตือรือร้นในการออกตรวจราง เพื่อป้องกันปัญหารถไฟตกราง สำหรับเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางที่จัดทำระบบปรับปรุงรางจากหมอนไม้เป็นหมอนคอนกรีตแล้วจำนวน 63 กม. คาดว่าจะเปลี่ยนได้ทั้งหมดภายในระยะเวลาอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่ง รฟท. มีแผนที่จะเปลี่ยนมาใช้หมอนคอนกรีตทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่า ที่ผ่านมาปัญหารถไฟตกลงราง มาจาก 3 สาเหตุ ได้แก่ ไม่มีการปฏิบัติตามคู่มือและออกตรวจตราสม่ำเสมอของบุคลากร จึงกระตุ้นให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาหัวรถจักรที่มีสภาพเก่า บางคันมีอายุมากกว่า 40 ปี อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องนี้จะดีขึ้นหลังจาก รฟท.ได้รับการจัดสรรงบประมาณปฏิรูประบบราง 1.7 แสนล้านบาท โดยภายใน 2 ปีข้างหน้า จะมีการสั่งซื้อหัวรถจักรใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ ก็ยังมีปัญหาเรื่องรางเก่า ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไข เมื่อปฏิบัติการตามแนวทางแก้ปัญหาทั้ง 3 ด้านแล้ว คาดว่าปัญหารถไฟตกรางจะดีขึ้น โดยภายใน 1 เดือนข้างหน้าจะลดลงเหลือน้อยที่สุดจนถึงไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนปฏิบัติการออกตรวจรางของผู้บริหารการรถไฟฯ ในสุดสัปดาห์นี้ ได้ออกตรวจทั้งรถไฟสายเหนือ อีสาน และใต้ ซึ่ง รฟท.จะมีการรายงานผลการตรวจให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รับทราบในสัปดาห์หน้า.