View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 19/05/2012 10:09 am Post subject:
รถไฟใต้ดินชะลอขึ้นค่าตั๋ว 3 ด.
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- เสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2555 00:00:18 น.
น.ส.รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ได้แจ้งมายัง รฟม.โดยจะยังไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 1 บาท ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 ตามที่เสนอไปยังกระทรวงคมนาคม ในระหว่างนี้จะจัดทำโปรโมชั่นให้ผู้โดยสารใช้บริการได้ในอัตราเดิมต่อไปอีก 3 เดือน คือจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2555 หลังจากนั้นในเดือนตุลาคม 2555 จึงจะปรับขึ้นค่าโดยสารตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพื่อลดภาระให้กับประชาชน โดย รฟม.จะนำเสนอให้กระทรวงคมนาคม นำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
นางกฤตยา สุมิตนันท์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 27 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (โมโนเรล) หลังจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้มีการทบทวนโครงการแล้วเห็นว่าการใช้รถไฟฟ้าโมโนเรล เหมาะสมกว่าเป็นรถไฟฟ้าขนาดหนัก (เฮฟวี่เรล) ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปจะนำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป
สำหรับแผนดำเนินโครงการจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
1.การกำหนดรูปแบบการดำเนินโครงการให้เหมาะสมว่าจะเป็นแบบใด ซึ่งได้กำหนดแล้ว คือ โมโนเรล ดังนั้นก็เข้าสู่กระบวนการที่ 2 คือการกำหนดรายละเอียดการดำเนินโครงการที่เหมาะสม ซึ่งในขั้นตอนนี้จะต้องมีการปรับปรุงข้อมูลให้เหมาะสมกับสภาพจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การเวนคืน และรายละเอียดต่างๆ โดยบริษัทที่ปรึกษาโครงการจะต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) และมีการประกวดราคาต่อไป ตั้งเป้าหมายดำเนินโครงการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2560 ซึ่งการประกวดราคาจะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินทุนให้ด้วย หลังจากนั้นจึงจะดำเนินโครงการได้ โดยคาดว่าจะได้บริษัทเข้ามาดำเนินโครงการประมาณต้นปี 2556
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/05/2012 7:09 am Post subject:
"กิตติรัตน์"เอาจริงบี้งานคมนาคม
ไทยรัฐออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2555, 05:00 น.
เร่งโครงการเสร็จตามแผน"ชัชชาติ"ปิ๊งรถไฟเร็วสูงประจวบ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (22 พ.ค.) รมว.และ รมช.ของกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม รวม 6 คน จะหารือกันเพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการด้านการขนส่งทั้งหมด โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทาง ซึ่งจะดูว่าแต่ละโครงการมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร เพื่อหาทางแก้ไขให้โครงการเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล และจะนำข้อสรุปทั้งหมดเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองด้านเศรษฐกิจ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือครั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมข้อมูลรายงานความคืบหน้าการขนส่งทางราง ซึ่งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าบางเส้นทางยังล่าช้า เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่มีปัญหาขั้นตอนการประมูล จึงต้องเร่งแก้ไข ขณะเดียวกัน ยังเตรียมรายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาการขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 การพัฒนาเส้นทางการขนส่ง และการพัฒนาท่าเรือขนส่งสินค้า ซึ่งต้องเร่งผลักดันให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า หลังจาก ครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้เตรียมการรองรับการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจใต้ (เซาเทิร์น อีโคโนมิก คอร์ริดอร์) ตนมีแนวคิดที่จะให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาการทำรถไฟความเร็วสูงจากเดิมเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-หัวหิน เพิ่มเป็นกรุงเทพฯ-หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าและบริการ รวมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมด้านการขนส่งระหว่างอุตสาหกรรมต้นน้ำบริเวณท่าเรือทวายกับอุตสาหกรรมประมงและสินค้าเกษตรที่มีในภาคใต้ด้วย ครม.สัญจรอนุมัติงบ 15 ล้านบาทให้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ศึกษาปริมาณความต้องการสินค้าที่จะผ่านด่านสิงขร และด่านอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นเรื่องดี หากต่อไปพม่าสร้างท่าเรือทวายจริง ไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดขนส่งสินค้าด้านตะวันตกของไทยกับต่างประเทศ
ส่วนการพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 98 กม. ซึ่งก่อนหน้านี้ กรมทางหลวงได้ประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมลงทุน แต่ไม่มีผู้สนใจยื่นข้อเสนอนั้น เชื่อว่า เมื่อโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายมีความชัดเจน โครงการนี้จะมีผู้สนใจมากขึ้นแน่นอน สำหรับการพัฒนามอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม.นั้น แนวโน้มรัฐจะจัดเก็บค่าผ่านทางจากมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพ-ชลบุรี) และสาย 9 (บางปะอิน-บางพลี) และนำเงินกองทุนที่มีการออกเป็นพันธบัตร ใช้เป็นค่าก่อสร้าง ซึ่งได้หารือกับกระทรวงการคลังแล้ว คาดว่ามอเตอร์เวย์ทั้ง 2 สายจะมีความคืบหน้าในการดำเนินงานในปี 55-56.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 06/06/2012 5:12 pm Post subject:
จารุพงศ์ มั่นใจปลัด คค.ใหม่สนองการเมืองได้ดี ศิลปชัย เตรียมลุยไฮสปีดเทรน-รถไฟฟ้า 10 สาย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มิถุนายน 2555 14:36 น.
รมว.คมนาคมมั่นใจปลัดกระทรวงคนใหม่สนองนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ศิลปชัย ยันการทำงานเน้นปฏิบัติด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ เพราะที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมมักถูกข้อครหาเรื่องการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง ลั่นสานฝันนายกฯ ปู ดันไฮสปีดเทรน-รถไฟฟ้า 10 สาย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการแต่งตั้งนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม แทนนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เพื่อต้องการให้งานในตำแหน่งปลัดกระทรวงเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งนายศิลปชัยเป็นผู้อาวุโส และทำหน้าที่รักษาการมา 7 เดือนแล้ว แม้จะเหลืออายุราชการอีกเพียง 4 เดือน แต่เชื่อมั่นว่าจะทำงานในตำแหน่งนี้ได้ และสามารถสนองนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ตนได้มอบให้นายศิลปชัยจัดทำแผนลอจิสติกส์ รวมถึงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของกระทรวงคมนาคมในภาพรวมในระยะ 8-9 ปี โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย การลงทุนก่อสร้างท่าเทียบเรือ สนามบิน นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ดูแลเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน การจัดซื้อจัดจ้างให้สาธารณะตรวจสอบได้ โดยจะให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุดเพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชัน
ด้านนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ กล่าวว่า หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ การปฏิบัติหน้าที่จะเน้นเรื่องความโปร่งใสตรวจสอบได้ เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมมักถูกข้อครหาเรื่องการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนการจัดทำแผนจะดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. รวมถึงแผนภาพรวมเพื่อรองรับการลงทุนในระยะ 8 ปีตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44089
Location: NECTEC
Posted: 07/06/2012 2:55 am Post subject:
รฟม.ชี้ก.ย.สรุปที่ปรึกษาสีม่วง-เหลือง
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
7 มิถุนายน 2555 - 00:00
2 กลุ่มบริษัทยื่นข้อเสนอเป็นที่ปรึกษารถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง คาดเดือน ก.ย.2555 สรุปและเซ็นสัญญาจ้าง
นางกฤตยา สุมิตนันทน์ รองผู้ว่าการ (บริหาร) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ รฟม. ประกาศเชิญชวนให้เอกชนที่สนใจเป็นบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษา ทบทวนรายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ จัดเตรียมเอกสารประกวดราคา และดำเนินงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน พ.ศ.2535 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระหว่างวันที่ 2-19 เม.ย.2555 และกำหนดยื่นข้อเสนอในวันที่ 5 มิ.ย.2555 นั้น พบว่ากลุ่มบริษัทยื่นเอกสารจัดจ้างดังกล่าว ดังนี้
สายสีม่วงยื่นเอกสาร 2 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย 1.บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด เป็นบริษัทนำ
2.บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด
3.Hamburg-Consult GmbH
4.บริษัท วิสิทธิ์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด
5.บริษัท ดีทู คอนซัลท์ เอเชีย จำกัด
6.บริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด และ
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย
1.บริษัท เทสโก้ จำกัด เป็นบริษัทนำ
2.บริษัท ยูทิลิตี้ ดีไซน์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
3.บริษัท เชนี่ เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด
4.บริษัท องศาสถาปนิก จำกัด
5.บริษัท พีบี เอเชีย จำกัด
6. ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนสายสีเหลืองก็ยื่น 2 กลุ่มเช่นกันคือ กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย
1.บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด เป็นบริษัทนำ
2.Hamburg-Consult GmbH
3.บริษัท วิสิทธิ์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด
4.บริษัท ดีทู คอนซัลท์ เอเชีย จำกัด
5.บริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด
6.บริษัท ไพร์มสตรีท แอดไวเซอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด และ
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย
1.บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นบริษัทนำ
2.บริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด
3.บริษัท ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
4.บริษัท พีบี เอเชีย จำกัด
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษา จะดำเนินการประเมินผลและคัดเลือกข้อเสนอของที่ปรึกษาและเจรจาต่อรองต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาว่าจ้างได้ภายในเดือน ก.ย.2555
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 07/06/2012 1:20 pm Post subject:
ภารกิจแสนล้านในอุ้งมือคมนาคม
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1306 ประจำวันที่ 6-6-2012 ถึง 8-6-2012
กระทรวงคมนาคมเป็นอีกหนึ่งกระทรวงที่ถูกจับตามองอย่างมากกับภารกิจรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูง โครงการสร้างรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ โครงการพัฒนาระบบรถเมล์ หรือแม้กระทั่งปรับเปลี่ยนกรรมการผู้อำนวยการการบินไทย
จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดอก ให้สัมภาษณ์พิเศษ สยามธุรกิจ แบบคำต่อคำ
>> แผนงานคมนาคมแห่งชาติวันนี้มีอะไรคืบหน้าบ้าง?
วันนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนอยากได้งบประมาณไปสร้างถนนให้ประชาชนในพื้นที่ ใครที่มีถนนสองเลนก็อยากขยายเป็นสี่เลน ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล กิโลเมตร หนึ่งตกประมาณ 25-30 ล้านบาท ผมก็ต้องดูโครงการที่มีความจำเป็นจริงๆ แต่ที่ต้องทำแน่ๆ คือโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ เฉพาะสองโครงการนี้ก็ใช้งบประมาณกว่า 1.6 ล้านล้านบาท ถามว่าทำไมต้องทำ เพราะเรากำลังจะเป็นเออีซี ถ้าระบบการขนส่งของเราไม่พร้อม เรา ก็เป็นศูนย์กลางอาเซียนไม่ได้
>> ทุกวันนี้ระบบขนส่งสินค้าบ้านเราเป็นยังไง?
การขนส่งจำนวนมากยังอาศัยรถบรรทุกเป็นหลัก ในขณะที่การขนส่งทางราง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ขนสินค้าได้มากที่สุด แต่กลับมีการใช้งานไม่ถึง 5% เพราะระบบรางของเรายังไม่สมบูรณ์ แม้กระทั่งท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด ซึ่งเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าขนาดใหญ่ รถไฟยังเข้าไปไม่ถึง สร้างไปสิ้นสุดห่างจากท่าเรือแค่หนึ่งกิโลเมตร ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่สร้างไปให้ถึงท่าเรือ ต้องเสียเวลาขนสินค้าขึ้นรถบรรทุกไปส่งที่ท่าเรือ เช่นเดียวกับการขนส่งทางน้ำที่ยังมีปริมาณน้อยมาก ไม่ถึง 1% หลายจังหวัดมีทะเล แต่กลับ ไม่มีท่าเรือน้ำลึก ก็ต้องมาดูว่าจะสร้างท่าเรือเพิ่มได้หรือเปล่า หรือถ้าจำเป็นเราอาจจะสร้างสนามบินมาบตาพุด สนามบินแหลมฉบัง เพื่อให้การขนส่งทางอากาศนำสินค้าไปลงได้เลย
>> รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ 1.6 ล้านล้านบาท จะเอาเงินจากที่ไหนมาสร้าง?
หากใช้งบประมาณของเราก็คงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างเสร็จ ตอนนี้รัฐบาลจีนก็เสนอตัวขอเข้ามาลงทุน กำลังศึกษาว่าจะเข้ามาลงทุนใน ลักษณะไหน ผลประโยชน์เป็นยังไง ซึ่ง ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของกฎหมายไทย
>> ทำไมต้องปลดดีดีการบินไทย?
ผมว่าเรื่องนี้ทุกคนรู้ว่าเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม ไม่ใช่เกมการเมือง หรือ ความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งผลประกอบการ ในการบินไทยก็เป็นตัวชี้วัดอยู่แล้ว เอา เป็นว่าผมไปที่การบินไทยวันนี้จะพบว่า พนักงานหลายคนยกมือไหว้ผมเพิ่ม ขึ้นเยอะ
>> แล้วความขัดแย้งกรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสกับ กทม.?
เรื่องนี้กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า การที่ กทม.จะต่อสัญญาเดินรถไฟบีทีเอส ให้กับภาคเอกชน จะทำได้ก็ต่อเมื่อสัญญาสัมปทานเดินรถเหลือไม่เกิน 5 ปี แต่บีทีเอสยังมีระยะเวลาสัมปทานเหลือ อีกตั้ง 17 ปี การต่อสัญญาออกไปอีก 30 ปีก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว
>> รถเมล์เอ็นจีวีปีนี้จะได้ใช้หรือไม่?
เราคงค่อยทยอยผลิตออกมา โดยล็อตแรกจะเอาออกมาก่อน 1,800 คัน เป็นรถเมล์นำเข้าจากประเทศจีน ผมเองก็ใจร้อนอยากให้คนกรุงเทพฯ ใช้ รถเมล์ปรับอากาศทั้งหมด แต่ก็ต้อง ให้ผู้ประกอบการรถร่วมเขามีเวลาปรับ ตัวด้วย เพราะตอนที่เราเริ่มทำระบบขนส่งมวลชน ไม่มีใครมาลงทุน ก็ขอร้อง ให้เขามาลงทุน พอถึงวันนี้จะหักเขาทันควันก็คงไม่ค่อยยุติธรรม
>> แนวทางการบริหารรถไฟไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร?
ยอมรับว่าระบบรถไฟบ้านเราพัฒนาช้ามาก ส่วนหนึ่งมาจากการบริหารจัดการภายใน เรื่องนี้คงต้องสังคายนากันครั้งใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะรถไฟ รัฐวิสาหกิจหลายแห่งก็มีปัญหาเหมือนๆ กัน ทำแล้วขาดทุนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทั้งที่เอกชนบริหาร ธุรกิจแบบเดียวกันมีกำไรมากมาย อาจ เป็นเพราะเราไม่มีประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือซีเอฟโอ มืออาชีพเหมือนเอกชน ถ้าจำเป็นเราอาจต้องจ้างซีเอฟโอมาบริหารงานให้กับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อบริหารรายรับรายจ่ายไม่ให้รั่วไหล
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/06/2012 7:27 am Post subject:
"ยิ่งลักษณ์" เร่งโครงการรถไฟฟ้า เสนอผุดคอนโดติดรถไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2555 04:05 น.
ปู จี้ คมนาคม เร่งโครงการรถไฟฟ้า เอาใจคนกรุง จ่อหั่นงบฯหลังลดเส้นทางทับซ้อนกัน สั่งทบทวน มักกะสันคอมเพล็กซ์ แนะผุดคอนโดฯข้างรถไฟฟ้า
หลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ได้หารือกับรองนายกฯและทีมงานเพื่อติดตามความคืบหน้านโยบายเร่งด่วน 16 โครงการของรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ แจ้งประสานงานไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกหารือร่วมกับนายกฯที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็น 1 ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.เวลา 16.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สอบถามถึงแนวทางการดำเนินการ ปัญหาอุปสรรค และงบประมาณ ทั้งในส่วนของรถไฟฟ้าความไฟสูง ความเร็วต่ำ และส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิ้งค์ไปยังสนามบินดอนเมือง รวมถึงปัญหาหนี้สิน รฟท. โดยนายกฯได้ขอให้กระทรวงไปพิจารณาและดูเรื่องการใช้งบประมาณ รวมไปถึงการปรับลดงบประมาณให้เหมาะสม เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อหวังแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ กทม.และเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินการ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้สอบถามถึงความคืบหน้าของโครงการมักกะสันคอมเพล็กซ์ และได้มีการท้วงติงรูปแบบของแหล่งเงินทุน ซึ่งนายกฯได้เสนอการจัดทำคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่ต้องมีการเสนอโมเดลที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดหลักการที่ดีในการดำเนินการต่อ ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (ตลิ่งชัน-รังสิต) ซึ่งมีเส้นทางทับซ้อนกับกับสายแอร์พอร์ตลิงค์จากพญาไทไปดอนเมืองบางส่วน จึงได้สั่งการให้ นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ รมช.คมนาคม รับไปแก้ไข
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 09/06/2012 8:30 pm Post subject:
คมนาคมรื้อจ้างรับเหมา-ที่ปรึกษา ตะลึง!5ปีถลุงงบออกแบบ+ทำแผน1.2หมื่นล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 08 มิ.ย. 2555 เวลา 10:35:45 น.
แอร์พอร์ตลิงก์พ่นพิษ ฝากบทเรียนรัฐลงทุนมหาศาล แต่ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า กระทรวงคมนาคมตะลึงซ้ำสอง พบใช้งบฯจ้างที่ปรึกษาโครงการช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 1.2 หมื่นล้าน สั่งเพิ่มความเข้มนโยบาย "ขันนอต" เอ็กซเรย์ผู้รับเหมา-บริษัทที่ปรึกษา หากมีประวัติผลงานไร้คุณภาพให้ขึ้นบัญชีดำ-งดรับงาน จี้ติด 3 กรมหลัก "ทางหลวง-ทางหลวงชนบท-สนข." ทำงานรัดกุมเป็นกรณีพิเศษ เพราะงบฯเยอะ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ภายใต้นโยบาย "ขันนอต" เพิ่มเติม โดยสั่งการให้ตรวจสอบการทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้าง และบริษัทที่ปรึกษาออกแบบโครงการต่าง ๆ
โดยให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำนโยบายนี้ไปดำเนินการเป็นการเร่งด่วน กำหนดรูปแบบวิธีการให้เห็นเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน หรือภายในเดือนสิงหาคมนี้ เช่น บทลงโทษ การขึ้นบัญชีดำ เป็นต้น
จี้ 3 กรมหลัก ทล.-ทช.-สนข.
โดยเฉพาะ 3 หน่วยงานหลักที่อยากจะให้ตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ ประกอบด้วยกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่ง ทล.และ ทช.เป็นหน่วยงานที่มีงานก่อสร้างค่อนข้างมาก ส่วน สนข.เป็นหน่วยงานที่มีโครงการต้องจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษา ศึกษาและออกแบบโครงการของกระทรวงคมนาคมอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น จึงจำเป็นจะต้องควบคุมคุณภาพของบริษัทที่ปรึกษาด้วยเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมามีบางโครงการที่ออกแบบไม่ได้มาตรฐาน ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแบบเพิ่ม มีผลทำให้ต้องเสียงบประมาณก่อสร้างเพิ่มจนเกินความจำเป็น แต่กลับไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า เช่น โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ น่าจะเป็นตัวอย่างที่เห็นชัดได้โครงการหนึ่ง
"ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี 2550-2554 กระทรวงเสียงบประมาณสำหรับจ้างบริษัทที่ปรึกษาไปร่วม 12,052 ล้านบาท อยากให้ สนข.ลงมาดูคุณภาพของบริษัทที่ปรึกษาด้วย เช่น บริษัทไหนทำงานไม่ดีจะต้องขึ้นบัญชีไว้ ไม่ให้รับงาน เป็นต้น"
ขานรับ-พร้อมจัดระเบียบใหม่
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และกำหนดความเข้มข้นการตรวจสอบงานก่อสร้างของผู้รับเหมา ซึ่งมีผู้รับเหมาที่ขึ้นทะเบียนอยู่ประมาณ 1,000 บริษัท มีตั้งแต่รับเหมาชั้นที่ 1-4 และชั้นพิเศษ
ที่ผ่านมา ปัญหาที่พบคือผู้รับเหมาทำงานล่าช้า มาจากหลายสาเหตุเช่น น้ำท่วม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติขยายเวลาก่อสร้างให้ โดยผู้รับเหมาที่ผลงานล่าช้าจากแผนไป 1 เดือน กรมจะปรับตามสัญญาก่อสร้าง เช่น 0.1% ริบเงินค้ำประกันคืน เป็นต้น
นโยบายขันนอตที่สั่งการลงมาล่าสุด กรมจะเข้มงวดและเพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้รับเหมามีความตื่นตัวทำงานให้ได้คุณภาพ ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีปรากฏการณ์ที่ผู้รับเหมาทิ้งงานแต่อย่างใด อาจจะมีบ้างที่ผู้รับเหมาเกิดปัญหาสภาพคล่องด้านการเงิน จนเป็นสาเหตุทำให้งานก่อสร้างล่าช้าไปบ้าง
นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ต้องมาดูรายละเอียดว่านโยบายขันนอตจะให้ทำแบบเข้มข้นระดับไหน เช่น การตรวจคุณสมบัติของผู้รับเหมา ซึ่งขึ้นทะเบียนกับกรมประมาณ 1,000 บริษัท โดยเฉพาะสถานะการเงิน ที่ผ่านมางานก่อสร้างถนนที่ล่าช้า เนื่องจากผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ทำให้มีปัญหาทิ้งงานบ้าง แต่ไม่มากนัก
ส่วนบริษัทที่ปรึกษา กรมจะดำเนินการในรูปแบบเดียวกัน มีการตรวจสอบคุณสมบัติมากขึ้น ที่ผ่านมามีบางรายที่เกิดความผิดพลาด เช่น ศึกษาความเหมาะสมที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง เป็นต้น
รฟม.-สนข.สนองนโยบายเต็มที่
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง กล่าวว่า งานก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายคือ สายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) และสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) ยังล่าช้าอยู่บ้าง แต่ไม่มาก มีหลายปัจจัย ต่อไปจะปรับแผนให้การทำงานได้ตามเป้า เช่น สายสีม่วงคืบหน้า 45% ยังล่าช้าอยู่ประมาณ 10% บางส่วนล่าช้าด้วยตัวโครงการเอง เช่น ต้องรอสัญญางานวางราง และระบบรถไฟฟ้ามาให้พร้อม จะพิจารณาภาพรวมทั้งหมดอีกครั้ง หลังทุกอย่างแล้วเสร็จหมดแล้ว
ส่วนสายสีน้ำเงิน ปัจจุบันล่าช้าอยู่ประมาณ 2% มาจากหลายปัจจัย ทั้งการส่งมอบพื้นที่ ปัญหาทับซ้อนกับหน่วยงานอื่น เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนกรณีการจ้างบริษัทที่ปรึกษา กำลังพิจารณาถึงแนวทางและวิธีการ
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องจัดระเบียบบริษัทที่ปรึกษาใหม่หรือไม่ เนื่องจากบริษัทที่ปรึกษาได้มีการขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และยังไม่มีรายงานว่าบริษัทไหนถูกตัดสิทธิ์การทำงานแต่อย่างใด แต่ สนข.จะดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ด้วยการรวบรวมบริษัทที่ปรึกษาที่รับงานกับกระทรวงคมนาคมนำเสนอเป็นข้อมูลขึ้นไป และให้กระทรวงคมนาคมกำหนดเป็นนโยบายชัดเจนว่าแนวทางบริหารจัดการงานจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาจะต้องทำอย่างไร
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44089
Location: NECTEC
Posted: 11/06/2012 2:38 am Post subject:
ข่าวเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แบบ Monorail
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/06/2012 6:53 am Post subject:
ผังเมืองใหม่-กรุงเทพฯโฉมใหม่ เมืองรถติดสู่เมืองรถไฟฟ้า
ไทยรัฐออนไลน์ 11 มิถุนายน 2555, 05:30 น.
รายงานวันจันทร์-ผังเมืองใหม่-กรุงเทพฯโฉมใหม่ เมืองรถติดสู่เมืองรถไฟฟ้า
ระหว่างนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักผังเมือง กำลังดำเนินการผังเมืองรวมฉบับใหม่ เพื่อประกาศใช้ต่อเนื่องจากผังเมืองฉบับปัจจุบันที่เหลืออายุการใช้การอีกเพียง 1 ปี
ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ จะมีสาระสำคัญ และแตกต่างจากผังเมืองปัจจุบันอย่างไร.....วันนี้ รายงานวันจันทร์ จะไปหาคำตอบจาก ม.ร.ว.เปรมศิริ เกษมสันต์ ผอ.สำนักผังเมือง กทม.
-----------------------
ถาม-ผังเมืองใหม่ของกรุงเทพฯ มีที่มาที่ไปอย่างไร
ม.ร.ว.เปรมศิริ-เพราะผังเมืองรวมฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 15 พ.ค.2556 สำนักผังเมือง จึงดำเนินการวางผังเมืองฉบับใหม่ เพื่อบังคับใช้ต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ได้มุ่งเน้นให้กรุงเทพฯ พัฒนาแข่งขันกับมหานครอื่นในอาเซียน ทั้งการเป็นศูนย์กลางทางการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว รวมทั้ง มุ่งปรับเปลี่ยนกรุงเทพฯ จากมหานครที่มีวิกฤติจราจรทางรถยนต์ ก้าวไปสู่มหานครที่ใช้ระบบขนส่งมวลชนทางราง และพัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครสีเขียวที่ประหยัดพลังงาน
ถาม-มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากผังเมืองเดิมบ้าง
ม.ร.ว.เปรมศิริ-ผังเมืองใหม่มีการปรับเปลี่ยนแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินจากเดิม 31 บริเวณ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางราง ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 12 สายทาง และ ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับโครงการขนาดใหญ่ ต่างๆของรัฐบาล ได้แก่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, รัฐสภาแห่งใหม่ (เกียกกาย)
อีกทั้ง ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพการพัฒนาในปัจจุบันและอนาคตของพื้นที่บางบริเวณ โดยในส่วนของข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินนั้น ได้พิจารณาถึงกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขลักษณะ ความปลอดภัยของประชาชน และสวัสดิภาพของสังคมที่แตกต่างกันในแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน
เช่น อาคารพาณิชย์ที่มีพื้นที่เกินกว่า 10,000 ตารางเมตรในย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก กำหนดให้ต้องตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 16 หรือ 30 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน นอกจากการจำแนกพื้นที่การประกอบกิจกรรมที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขขนาดเขตทางของถนนสาธารณะ จากเดิมที่ได้กำหนดไว้ในผังเมืองรวมฉบับปัจจุบันเท่ากับ 10 เมตรเป็น 12 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้อาคารอยู่อาศัยรวม อาคารพาณิชย์ หรืออาคารสำนักงานที่มีขนาดใหญ่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและปัญหาการจราจรกับบริเวณพื้นที่ข้างเคียง
และ เพื่อพัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครสีเขียว ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผังเมืองใหม่ยังเพิ่มข้อกำหนด ให้มีการ จัดพื้นที่ว่างตามอัตราส่วนพื้นที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม (Open Space RatioOSR) ซึ่งเจ้าของอาคารจะต้องจัดให้มีพื้นที่น้ำซึมผ่านได้เพื่อปลูกต้นไม้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของอาคารด้วย
อีกทั้งยังกำหนดมาตรการให้มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินเพิ่มขึ้น (Floor Area Ratio-FAR Bonus) ในกรณีต่างๆ ได้แก่ การจัดให้มีที่ว่างเพื่อการใช้ประโยชน์สาธารณะ การจัดให้มีที่จอดรถยนต์สำหรับสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนฯ
นอกจากนี้ยังมีแผนอื่นๆได้แก่ แผนผังโครงการคมนาคมและขนส่ง เพื่อพัฒนาโครงข่ายถนนสายหลักและถนนสายรอง ทั้งที่เป็นถนนที่จะตัดขึ้นใหม่และการขยายถนนที่มีอยู่เดิมเพื่อให้เกิดเป็นโครงข่ายถนนที่มีความสมบูรณ์ ส่งเสริมให้มีการเข้าถึงสถานีระบบขนส่งมวลชนทางรางที่สะดวก และแผนผังโครงการสาธารณูปโภคซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วย
ถาม-คนกรุงเทพฯจะมีส่วนในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างผังเมืองรวมฉบับนี้อย่างไร
ม.ร.ว.เปรมศิริ-ก่อนการประกาศใช้ กทม.โดยสำนักผังเมือง จะประกาศเชิญชวนผู้มีส่วนได้เสีย แจ้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนด สามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขภายใน 90 วันนับตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมาถึงวันที่ 21 ส.ค.55 ได้ที่สำนักผังเมือง สำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต กทม.จะเสนอคำร้องต่อคณะกรรมการผังเมือง เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอต่อ รมว. มหาดไทยเพื่อออกกฎกระทรวงให้ใช้บังคับต่อไป.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 47489
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 12/06/2012 9:29 am Post subject:
การเคหะฯได้ที ชงพัฒนาที่ใกล้รถไฟฟ้า
วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 08:46:55 น.
นายวิฑูรย์ เจียสกุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกันระหว่าง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กคช. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะมุ่งเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามบริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนารถไฟฟ้าทั้ง 10 สาย ที่ทางรัฐบาลให้พิจารณาเป็นการเร่งด่วน
ทั้งนี้ กคช.จะทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อที่ดิน เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต 2 แนวทาง โดยแนวทางแรก กคช.จัดซื้อที่ดินบริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าของ รฟม. หรือ รฟม.จัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาร่วมกับ กคช.
ทั้งนี้ กคช.มีข้อเสนอในการใช้ที่ดินของ กคช. เพื่อก่อสร้างจุดจอดแล้วจร (Park&Ride) ดังนี้
สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เสนอให้รถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการเคหะชุมชนรามอินทรา
สายสีเขียวเข้ม (สมุทรปราการ-บางปู) เสนอพัฒนาเป็นจุดจอดแล้วจร บริเวณโครงการเคหะชุมชนบางปู
สายสีเขียวเข้ม (ลำลูกกา-คลอง 4) เสนอที่ดิน กคช.บริเวณลำลูกกา คลอง 12 ควรจัดระบบ Feeder เพื่อป้อนผู้โดยสารเข้าสู่สถานีลำลูกกา คลอง 5 ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าปลายทาง
สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เสนอให้รถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการเคหะชุมชนคลองจั่น โครงการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม และหมู่บ้านศรีนวมินทร์ และ
สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เสนอให้รถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการบ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์ โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ (พร้อมมิตร 1, พร้อมมิตร 18)
Back to top