View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/06/2012 1:13 pm Post subject: |
|
|
Tohoku_Line wrote: | ซื้อเพิ่ม 77 หัวรถจักร ??
ที่เคยเป็นของโครงการเดิมที่กำลังประกวดราคากันอยู่นี่รวม 2 ล๊อต 70 หัวรถจักรไม่ใช่เหรอครับ เอาอีก 7 หัวแถมมาจากไหนอีกล่ะนั่น |
นักข่าวเข้าใจว่า ล็อตแรก 7 หัว โดนล้มประมูลไป และกลับมาซื้อใหม่
ล็อตที่ 2 รวม 20 หัว (เป็นแบบน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน)
ล็อตที่ 3 รวม 50 หัว (เป็นแบบน้ำหนักกดเพลา 16 ตัน)
ดังนั้นรวมรถจักรทั้งหมด 7 + 20 +50 = 77 คันครับ Ans ซ.ต.พ. |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
|
Posted: 12/06/2012 6:27 pm Post subject: |
|
|
้เพื่อให้อ่านได้รู้เรื่องจะ เขียนอธิบายดั่งนี้
1. 9 Units Air conditioned power vans with facility compartments
2. 88 Units Air conditioned second class day & night coaches Consisting of
2.1 79 Regular Air conditioned second class day & night coaches
2.2 9 Special Air conditioned second class day & night coaches with handicap facility
3. 9 Units Air conditioned first class day & night coaches
4. 9 Units Air conditioned restaurant cars
Total 4,918,050,000 Baht |
|
Back to top |
|
 |
Tohoku_Line
3rd Class Pass


Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 12/06/2012 8:16 pm Post subject: |
|
|
ลอตนี้เป็นขบวนรถนอนทั้งหมด เท่ากับว่าต้องรับหน้าที่เป็นรถกลางคืน
ถ้าจำไม่ผิดคลับคล้ายคลับคลาว่าในงบ 1.7 แสนล้านของ รฟท. ก่อนหน้านี้มีงบจัดซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศใหม่ด้วยหรือเปล่าครับ ??
ถ้ายังไม่มี รฟท. น่าจะเสนอของบซื้อรถโดยสารประเภทรถนั่งปรับอากาศใหม่ด้วยนะครับ ทั้งนี้เพื่อรถแทนบรรดาแดวูกับสปรินเตอร์บ้าง จะได้เอามาทำขบวนรถด่วนพิเศษ(นั่ง) ในเส้นทางสายยาวช่วงเวลากลางวัน ไม่งั้นเดี๋ยวแดวูกับสปรินเตอร์พังไปหมดจะไม่มีรถด่วนพิเศษดีเซลรางสำหรับทำขบวนกันพอดี |
|
Back to top |
|
 |
pitipon_7
3rd Class Pass


Joined: 30/08/2010 Posts: 158
Location: สถานีชุมทางบ้านดินแดง
|
Posted: 12/06/2012 8:35 pm Post subject: |
|
|
Tohoku_Line wrote: | ลอตนี้เป็นขบวนรถนอนทั้งหมด เท่ากับว่าต้องรับหน้าที่เป็นรถกลางคืน
ถ้าจำไม่ผิดคลับคล้ายคลับคลาว่าในงบ 1.7 แสนล้านของ รฟท. ก่อนหน้านี้มีงบจัดซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศใหม่ด้วยหรือเปล่าครับ ??
ถ้ายังไม่มี รฟท. น่าจะเสนอของบซื้อรถโดยสารประเภทรถนั่งปรับอากาศใหม่ด้วยนะครับ ทั้งนี้เพื่อรถแทนบรรดาแดวูกับสปรินเตอร์บ้าง จะได้เอามาทำขบวนรถด่วนพิเศษ(นั่ง) ในเส้นทางสายยาวช่วงเวลากลางวัน ไม่งั้นเดี๋ยวแดวูกับสปรินเตอร์พังไปหมดจะไม่มีรถด่วนพิเศษดีเซลรางสำหรับทำขบวนกันพอดี |
จริงๆตาม TOR ตอนจัดซื้อ แดวูและสปิ้นเตอร์ มาใช้ เค้าต้องการนำรถ 2 ชนิดนี้มาเป็นรถชานเมืองนะครับ ซึ่งจริงๆควรจะยกเลิกรถทางไกลด้วยครับ เพราะตอนนี้ แดวูที่วิ่งอยู่ สภาพไม่สมบูรณ์เลย เพราะ วิ่งมาจากยะลา จอดไม่ถึงชั่วโมงต้องออกมาไปเชียงใหม่อีก เวลาซ่อมบำรุงไม่มีครับ แต่ถ้านำมาวิ่งชานเมือง เก็บ 40 บาทต่อคน วิ่งใกล้ๆ ได้พักบ่อยสภาพรถก็จะสมบูรณ์และจะไม่โทรมเร็ว รายได้ที่ได้มาไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมบำรุงแถมเสี่ยงต่ออุบัติืเหตุกับคู่ปรับเก่าอย่าง 10 ล้ออีกครับ |
|
Back to top |
|
 |
therock
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/09/2007 Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย
|
Posted: 12/06/2012 8:39 pm Post subject: |
|
|
พวกที่จะมาตัดกระทู้บอกว่ามันวิ่งๆได้นะมันวิ่งได้จริงแต่ดูสภาพแต่ละคันวิ่งแบบไม่ได้พักผ่อนเลยแค่ไม่กี่ปีเครื่องก็ไปหมดแล้ว ขึ้นเขาก็ไม่ไหว วันดีคืนดีก็ต้องตัดดีเซลไปลากกลับ
ในรายงานประจำปีทั้งตอนจัดซื้อสปินเตอร์มาใช้ ก็จะเอามาวิ่งคอมมูเตอร์ แต่พอได้แล้วก็เอามาวิ่งเป็นรถทางไกลกันเลย |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/06/2012 9:30 pm Post subject: |
|
|
คิดเข้าข้างการรถไฟ
คงจะมองว่าซื้อรถนั่งปรับอากาศมา (ไม่ว่าดีเซลรางหรือ บชท.ป.) ก็คงไม่ใช่จุดขายของการรถไฟ สู้การเดินทางด้วยรถประจำทาง (รถทัวร์ รถตู้) ไม่ได้น่ะครับ โดยเฉพาะการเดินทางระยะไกล
ส่วนรถนอนนี่แหละครับ ที่ยังขายได้ดี และรถทัวร์สู้ไม่ได้ บ้านเรายังไม่มีรถทัวร์แบบเตียงนอนอย่างเมืองจีน
รถนั่งปรับอากาศ คงจะรอรถไฟความเร็วสูงกระมังครับ นี่เห็นบอกว่าจะเอาดีเซลรางไปวิ่งบนว่าที่รถไฟฟ้าสายสีแดง ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีรถพอขึ้นไปวิ่งได้อย่างไร |
|
Back to top |
|
 |
alderwood
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 12/06/2012 10:07 pm Post subject: |
|
|
เรื่องดีเซลรางแดวูนั้น ถ้าว่ากันตาม TOR ก็จัดเพื่อวิ่งรถชานเมือง ลองดูดีๆครับ Sprinter จัดซื้อมาวิ่งรถชานเมือง แต่โปรโมทตอนมาใหม่ๆเลยว่าบริการรูปแบบใหม่ กับรถใหม่ วิ่งเร็วที่สุด ต่อมาพอเป็นแดวู แน่ใจเหรอว่าจะซื้อมาใช้งานตาม TOR เป๊ะๆ ผมว่ามันก็ต้องมีวิธีเพื่อที่ให้ได้รถมา จึงต้องอ้างว่าเพื่อรถชานเมือง และแดวูรุ่น 2 คงสั่งรถนอนมาพ่วงกับดีเซลรางเพื่อรถชานเมืองมั้งครับ ตามแผนเดิมคือรถนอนพ่วงดีเซลรางปรับอากาศ
ผมก็ยังยืนยันเสมอว่ามันวิ่งได้ไหม ได้ครับ แต่ต้องบำรุงรักษาตามรอบวาระของมันตามชั่วโมง หรือกม.ทำการ แต่ทุกวันนี้มันไม่ได้พักไงครับ มันก็พังเป็นธรรมดาครับ แต่ตอนนี้ถ้างดเดินดีเซลรางแดวูบางขบวน หรือหลายๆขบวน เพื่อเปิดโอกาสให้มันได้ถูกซ่อมบำรุง ซ่อมวาระ ซ่อมใหญ่ และกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ผมก็เห็นด้วย _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
 |
|
Back to top |
|
 |
Tohoku_Line
3rd Class Pass


Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 12/06/2012 11:30 pm Post subject: |
|
|
รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศผมว่าถ้าทำให้มันดีๆก็ขายได้ล่ะครับ อย่างสายอุบลราชธานี ข.21/22 นี่ถือว่าได้รับความนิยมพอสมควร ทำเวลาได้ไม่แพ้รถทัวร์ ติดก็ตรงที่เรื่องที่นั่งที่สบายสู้รถทัวร์วีไอพีบางเจ้าไม่ได้
ประเด็นหลักถ้าเทียบกับรถทัวร์ก็อาจจะเสียเปรียบที่รถทัวร์ตรงที่บางสายมีรถทัวร์ออกแทบทุกชั่วโมงหรือรึ่งชั่วโมง ขณะที่รถไฟ (รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ) ในเส้นทางเดียวกันมีแค่วันละเที่ยวหรือสองเที่ยวอย่างมาก ทำให้คนมองว่ารถทัวร์สามารถเลือกเวลาเดินทางได้หลากหลายกว่า ถ้ารถดีเซลรางนั่งปรับอากาศมีขบวนรถมากพอ สามารถเพิ่มเที่ยววิ่งให้มากขึ้นอีกสักนิดเพื่อให้ผู้โดยสารเลือกเวลาเดินทางได้หลากหลายขึ้น ผมว่ามันก็น่าจะสู้กับรถทัวร์ได้
ขืนจะให้ผู้โดยสารรถนั่งปรับอากาศมัวรอแต่จะพึ่งพารถไฟความเร็วสูง ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ผุดได้เกิดเมื่อไหร่คงไม่ได้การ ก็คงไม่ไหวล่ะมั้งครับเพราะรถดีเซลรางนั่งปรับอากาศที่มีอยู่มันก็ถึงคราวหมดอายุขัยกันบ้าง เกรงว่าจะหมดอายุขัยก่อนรถไฟความเร็วสูงได้เกิดเสียด้วยซ้ำ หรือบางสายที่รถไฟความเร็วสูงไปไม่ถึงหรือไม่มีโครงการก่อสร้างคราวนี้จะโดยสารรถอะไรกัน แม้แต่รถนั่งธรรมดาที่วิ่งๆกันอยู่ทุกวันนี้มันก็คงต้องปลดระวางกันเข้าสักวัน ถึงตอนนั้นรถไฟก็คงมีให้บริการแค่รถนอนตอนกลางคืน
ถ้าหากจะบอกว่าจะไม่สั่งซื้อรถนั่งดีเซลรางปรับอากาศมาเพิ่มเพราะสู้รถทัวร์ไม่ได้ อีกหน่อยถ้ารถทัวร์เกิดคึกคิดทำรถนอนเต็มรูปแบบมาสู้รถไฟได้ ถึงตอนนั้นรถไฟไม่ต้องคิดยกเลิกทำรถนอนไปอีกอย่างเพราะสู้รถทัวร์ไม่ได้เลยเหรอครับนั่น
อยากให้รถไฟคิดว่าเมื่อก่อนรถทัวร์ไม่เป็นที่นิยม ทำไมเขาจึงพัฒนาจนสู้และแย่งลูกค้าจากรถไฟไปได้ขนาดนี้ แล้วทำไมเราจะพัฒนาให้กลับมาสู้กับรถทัวร์ได้อย่างสมศักดิ์ศรีมั่ง เพราะถ้าคิดว่าจะไม่ทำอะไรเพราะสู้เขาไม่ได้ รถไฟก็คงทำได้แค่เพียงยอมแพ้นอนรอวันล่มสลายขององค์กรแล้วล่ะครับ (นึกถึง รสพ. เป็นตัวอย่างได้เลย)
---------------------------------------------------------------------------------------
เข้าไปอ่านคุณสมบัติรถนอนใหม่ถือว่าดูดีเลยทีเดียว หวังว่าพอได้รถมาจะคุณภาพดีอย่างที่กำหนดได้ล่ะครับ ถ้าขายดิบขายดีก็สั่งซื้อมาเพิ่มอีกเยอะๆก็แล้วกัน  |
|
Back to top |
|
 |
donatt76
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 13/06/2012 12:23 am Post subject: |
|
|
ไม่ได้เป็นช่าง แต่ผมขอเดาว่าเครื่องยนต์ที่ติดอยู่ใต้ท้องรถดีเซลรางเนี่ยมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานหนักอยู่แล้ว บริษัทผลิตรถเค้ายังชื่อ Daewoo Heavy Industry จริงมั้ยครับ เพียงแต่มาอยู่ในเมืองไทย มันขาดอย่างเดียวคือ การบำรุงรักษาตามระยะทาง การเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะเวลา จนในที่สุดก็เลย เจ๊งกระบ๊งอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นเรื่องเครื่องยนต์คงไม่ใช่ปัญหา
ส่วนที่บอกว่ามันไม่เหมาะกับการวิ่งทางไกล มันน่าจะเป็นเพราะผลิตภัณฑ์ในตัวรถมากกว่า เบาะที่นั่งที่แน่น เอนได้น้อย หรือแม้กระทั่งแต่ก่อนที่กลับทิศทางไม่ได้ รวมไปถึงการที่รถไม่มีที่สำหรับวางกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่...มันก็แสงให้เห็นแล้วว่า ตัวรถถูกออกแบบมาเมื่อใช้ในทางระยะสั้นๆ
แต่แดวูรุ่นหลัง (2525-2544) ที่เบาะเอนได้มากขึ้น จำนวนที่นั่งน้อยลง มีที่สำหรับเก็บสัมภาระหัวและท้ายตู้ รวมไปถึงการที่มีรถ พซน.ป.เข้ามาด้วย มันแสดงให้เห็นว่า รถรุ่นหลังมันออกแบบมาใช้เดินทางระยะไกลแน่ๆ เพราะคงไม่มีไอ้บ้าที่ไหนบ้องตื้นขนาดสั่งรถนอนมาวิ่งเป็นรถชานเมืองหรอกครับ
ดังนั้นถ้า รฟท. ยังต้องการใช้ ดีเซลรางมาวิ่งระยะไกล ต้องท่องไว้ว่ารถไฟก็เหมือนเครื่องบิน สิ่งที่ควรทำจริงๆมีอยู่ไม่กี่อย่าง
1. ซ่อมบำรุงตามระยะ ให้สภาพเครื่อง และสภาพรถมันอยู่เกิน 90% ... ให้รถได้มาการพักบ้าง ถ้ามันวิ่งไกล แล้วไม่ได้พัก ก็วิ่งระยะทำการ ชั่วโมงทำการให้มันสั้นลง...
2. ใช้การให้ได้ตามอายุ รถอายุเยอะๆ มันก็เหมือนเครื่องบินแก่ๆ ยิ่งเดินทางมาก มันก็ต้องซ่อมบำรุงมาก ถ้าไม่อยากซ่อมบำรุงมากก็ใช้งานให้น้อยลงเพื่อลดความสึกหรอ
3. Retrofit พัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสม รถเดินทางไกล มันต้องมีความสะดวกสบาย ถ้าสะดวกสบายเมื่อไหร่ จะอัพราคายังไงก็มีคนขึ้นอยู่ดี...
4. ต้องคิดว่ารอบๆตัว มีคู่แข่ง ของที่ใช้บริการสังคม ก็ทำไป...แต่ของเพื่อการพาณิชย์ ต้องสามารถแข่งขันได้...ดูง่ายๆ ทำไมที่เราบ่นกันว่า TG PG เก็บค่าตั๋วแพงกว่า OX หรือ FD แล้วทำไมเค้ายังครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้...อยู่ที่ รฟท แล้วล่ะว่าจะเลือกรัษาลูกค้าที่เต็มใจจ่ายเพื่อของที่ดีเอาไว้ หรือจะถีบคนกลุ่มนี้ไปให้คู่แข่ง
สุดท้าย มีคำถามว่า...แน่ใจใช่มั้ยครับว่าซื้อรถใหม่มา ไม่ใช่เหมือนซื้อเฟอรารี่ ถอยพรีอุส มาเพื่อวิ่งบนทางเกวียน หรืวิ่งบนคันนา? _________________
 |
|
Back to top |
|
 |
|