ข่าว Airport Link

[Mongwin]

ท่าอากาศยานนานาชาติ
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า 7 ก.ค. 55

ปัญหาทางวิ่งฝั่งตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยุบตัวเมื่อค่ำวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมายังผลให้การจราจรทางอากาศที่ท่าอากาศยานดังกล่าวต้องชะงักอีกครั้งและทำให้สายการบินต่างๆต้องนำเครื่องไปลงที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา,ดอนเมืองและเชียงใหม่รวม 11 เที่ยวบิน

เป็นที่ทราบกันว่าปัจจุบันท่าอากาศย่านสุวรรณภูมิมีการซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออกอยู่ทำให้เหลือทางวิ่งฝั่งตะวันตกเพียงด้านเดียวและคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุมครั้งล่าสุดให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเร่งเปิดใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองทดแทนความแออัดของเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีสายการบินเข้ามาแวะขึ้นลงมากถึง 116 รายและมีผู้โดยสารผ่านเข้าออกตลอดปีจำนวน 48 ล้านคนซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในขณะก่อสร้างถึง 3 ล้านคนจึงมีความจำเป็นที่กระทรวงคมนาคมและการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยจะต้องหาทางขยับขยายเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน

ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องยากนั่นก็คือการให้ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นท่าอากาศยานนานาชาติของกรุงเทพมหานครเป็นแห่งที่ 2 อย่างที่เคยมีผู้เสนอมาแล้วว่ากรุงเทพมหานครและปริมณฑลซึ่งมีประชากรมากกว่า15 ล้านคนไม่ควรจะมีท่าอากาศยานนานาชาติรองรับผู้โดยสารเพียงแค่แห่งเดียวแต่ควรจะมีหลายแห่งเช่นเดียวกับมหานครขนาดใหญ่ของโลก

ตัวอย่างเช่นกรุงปารีสมีท่าอากาศยาน 5 แห่งคือชาร์ลเดอโกลส์,เลอบูเยต์,ออร์ลี่,ชาร์ลองวาตี้,โบวาติสทิลเล่ ในขณะที่กรุงลอนดอนมีท่าอากาศยานถึง9แห่งคือแกตวิค,ฮีธโรว์,สแตนสเตท,ลูตัน,ซิตี้แอร์พอร์ท,เซ้าเท็นด์,อ๊อกซ์ฟอร์ด,ลอยด์และบิ๊กกิ้นฮิลล์ ส่วนมหานครนิวยอร์คมีท่าอากาศยานนานาชาติขนาดใหญ่ 2 แห่งคือจอห์นเอฟเคนเนดี้และลากวาเดีย

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมน่าจะพิจารณารับโอนท่าอากาศยานอู่ตะเภาซึ่งอยู่ความดูแลของกองทัพเรือให้มาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติของภาคตะวันออกเพราะอู่ตะเภามีพื้นที่และทางวิ่งกว้างขวางและยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครเท่าใดนัก

และเรื่องที่กระทรวงคมนาคมน่าจะปรับปรุงเป็นการเร่งด่วนก็คือการขยายบริการของรถไฟแอร์พอร์ทลิงค์ออกไปโดยสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปท่าอากาศยานดอนเมืองและอู่ตะเภาเพื่อให้มีบริการที่เชื่อมโยงถึงกันเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารเหมือนในต่างประเทศแม้จะต้องใช้เงินลงทุนบ้างแต่ก็มีความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

[Mongwin]

“คมนาคม”ทบทวนแอร์พอร์ตลิ้งค์เชื่อมดอนเมือง เล็งใช้ทางร่วมกับไฮสปีด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2555 21:13 น.

สั่งสนข. ทบทวนแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยายเชื่อม 2 สนามบิน ประเมินจำนวนผู้โดยสารใหม่ เหตุโครงการทับซ้อนกับสายสีแดงและรถไฟความเร็วสูง เล็งลดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยใช้รางร่วมกัน โดยจัดระบบการเดินรถให้เหมาะสม

วานนี้ (9 ก.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อหารือถึงการพัฒนาระบบรางด้านเหนือของกรุงเทพฯ ที่เหมาะสมและชัดเจน เนื่องจากในแนวดังกล่าวจะมีโครงสร้างของ 3 ระบบ คือ รถไฟฟ้าสายสีแดง รถไฟฟ้าความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์(พญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง)

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า แนวดังกล่าวจะมีรางขนาด 1 เมตร คือ สายสีแดง และราง 1.435 เมตร คือ แอร์พอร์ตลิ้งค์และรถไฟความเร็วสูง จึงต้องทบทวนแผนและการบริหารการเดินรถ ซึ่งจะมีทั้งรถไฟฟ้า รถสินค้า และรถโดยสารทั่วไป ที่มีความเร็วต่างกันให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนมากที่สุด โดยมีสถานกลางที่บางซื่อ ซึ่งมอบหมายให้นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประชุมร่วมกับที่ปรึกษารายงานผลในสัปดาห์หน้า

ส่วนแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยายนั้นเนื่องจากมีแนวเส้นทางทับซ้อนกับสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ทบทวนตัวเลขผู้โดยสารใหม่ รวมถึงนโยบายการใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ประกอบด้วย เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารและการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ จะส่งผลต่อความคุ้มค่าของการบริหารการเดินรถของโครงการ นอกจากนี้จะต้องพิจารณาถึงการวางโครงสร้างรถไฟความเร็วสูงด้วย เนื่องจากสามารถใช้ทางร่วมกับแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้ เพราะใช้รางขนาด 1.435 เมตรเหมือนกัน

“นโยบายนายกฯ ยืนยันว่าจะต้องมีการเชื่อม 2 สนามบินแน่นอน แต่จะเชื่อมอย่างไร เป็นเรื่องของการบริหารการเดินรถ เช่น ให้แอร์พอร์ตลิ้งค์และรถไฟความเร็วสูงใช้ทางร่วมกันจะช่วยลดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานลง ซึ่งพบว่าที่สุวรรณภูมิ แอร์เอเชียมีผู้โดยสารต่อเครื่องเพียง 10 % เมื่อย้ายมาที่ดอนเมืองก็อาจจะลดลงอีก ตอนนี้ยังมีโอกาสทบทวนปรับปรุงแผนได้โดยนำแต่ละโครงการมามองในภาพรวม เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าที่สุด”นายชัชชาติกล่าว

อย่างไรก็ตามในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ไทยจะมีการจัดนิทรรศการรถไฟความเร็วสูง เพื่อแสดงเทคโนโลยีจากทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สนใจที่จะเข้ามาลงทุนรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทยอย่างมาก โดยล่าสุดทางจีนได้เสนอให้มีการเดินรถสินค้าในเส้นทางที่เชื่อมจีน-ลาว - หนองคาย – ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ด้วยโดยมีจุดแยกขบวนสินค้ากับผู้โดยสารที่ แก่งคอย

[Mongwin]

แอร์พอรต์ลิงค์จัดโปรโมชั่นให้ส่วนลดกระตุ้นการใช้บริการ
สำนักข่าวไทย วันพุธ ที่ 11 ก.ค. 2555

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.-ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ร่วมกับบริษัท คิงพาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงค์ทั้งระบบเอ็กซ์เพรสไลน์และซิตี้ไลน์ ที่ถือบัตรสมาร์ทพาส ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2555 โดยผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบซิตี้ไลน์จะได้รับส่วนลดร้อยละ 10-25 บริเวณร้านค้าชั้น 1 ดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่ใช้รถไฟฟ้าระบบเอ็กซ์เพรสไลน์จะได้ส่วนลดและบัตรของขวัญมูลค่า 300 บาท เมื่อใช้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะที่การใช้ระบบเช็คอินที่สถานีมักกะสันเดินทางไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็จะได้รับคูปองส่วนลดมูลค่า 2,100 บาท เพื่อซื้อสินค้าที่คิงพาวเวอร์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ นายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แอร์พอร์ตลิงค์ กล่าวว่า นอกจาก การจัดโปรโมชั่นให้ส่วนลดแล้ว ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้าสถานีมักกะสันจะมีร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางในการซื้อของและรับประทานอาหารจากร้านค้าชื่อดัง.-สำนักข่าวไทย

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิงก์ดิ้นดึงแอร์ไลน์เปิดเช็กอินมักกะสันเพิ่ม พร้อมจับมือคิงเพาเวอร์อัดโปรฯ กระตุ้นผู้โดยสาร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กรกฎาคม 2555 20:57 น.

แอร์พอร์ตลิงก์เตรียมหารือ AOC ดึงสายการบินตั้งเคาน์เตอร์เช็กอินที่สถานีมักกะสันเพิ่ม เหตุมีการบินไทยรายเดียว คนใช้บริการสุดน้อยเฉลี่ย 350 คนต่อเดือน คาดชัดเจนใน ส.ค. พร้อมจับมือคิงเพาเวอร์ และสามารถฯ อัดโปรโมชัน หวังเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร

นายปิยะ วิโรจน์โภคา ผู้จัดการส่วนแผนกการตลาด และพัฒนาธุรกิจ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการเช็กอินที่สถานีมักกะสันประมาณ 350 คนต่อเดือน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์ประมาณ 1 ล้านคนต่อเดือน หรือ 47,000 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็นสาย Express Line 3,000 คนต่อวัน และ City Line 42,000 คนต่อวัน ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมหารือกับคณะกรรมการดำเนินการธุรกิจการบิน (AOC) ซึ่งเป็นผู้ประสานงานสายการบินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดให้สายการบินอื่นๆ มาให้บริการเคาน์เตอร์เช็กอินที่สถานีมักกะสันเพิ่มจากปัจจุบันที่มีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพียงสายการบินเดียวที่ให้บริการ คาดว่าในเดือนสิงหาคมน่าจะมีความชัดเจน ซึ่งล่าสุดมีสายการบิน Jet Star ของออสเตรเลีย แสดงความสนใจ โดยช่วงแรกบริษัทจะไม่คิดค่าใช้บริการกับสายการบิน

ทั้งนี้ การหารือกับ AOC เพื่อเป็นการสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากสายการบินว่ามีความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งบริการเช็กอินที่สถานีมักกะสันของแอร์พอร์ตลิงก์จะช่วยให้ผู้โดยสารที่เดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับความสะดวกมากขึ้น โดยสามารถโหลดกระเป๋าได้ทันทีที่สถานีมักกะสันทำให้สามารถเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องบินได้ทันที” นายปิยะกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ และบริษัท สามารถ คอมเทค จำกัด จัดโปรโมชันพิเศษโดยให้คูปองชอปปิ้งมูลค่า 2,100 บาท สำหรับผู้โดยสารที่เช็กอินและโหลดสัมภาระที่สถานีมักกะสัน ส่วนผู้โดยสาร Express Line ได้รับบัตรส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่า 300 บาท และผู้โดยสารที่มีบัตรสมาร์ทพาส ซึ่งเป็นบัตรเติมเงิน เมื่อแสดงบัตรที่ร้านอาหารชั้นบี 1 จะได้รับส่วนลด 10-25% จนถึง 31 ธันวาคมนี้ คาดว่าโปรโมชันดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

ส่วนการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้น ขณะนี้มีการก่อสร้างทางเชื่อมต่อ หรือ Sky Walk ระหว่างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีมักกะสัน กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRTที่สถานีเพชรบุรี รวมถึงการก่อสร้างแลมป์ให้รถสามารถวิ่งเข้ามายังสถานีรถไฟฟ้าทั้งจาก เส้นทางอโศก ถนนจตุรทิศเชื่อมต่อถนนศรีอยุธยา และเส้นทางมักกะสันเพื่อลดปัญหาการจราจร ซึ่งโครงการทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2555 และจะสามารถใช้บริการได้ในปี 2556 รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสถานี และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดซื้อขบวนรถเพิ่มเติมอีก 7 ขบวน คาดว่าภายใน 2 ปีปริมาณรถจะเพียงพอต่อการให้บริการที่ปัจจุบันมีขบวนรถให้บริการเพียง 5 ขบวน ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องรอรถนาน

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิงค์เร่งปรับปรุง หวังดึงคนมาใช้บริการ
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
11 กรกฎาคม 2555, 13:46 น.

แอร์พอร์ตลิงค์เร่งปรับปรุงดึงคนใช้บริการ และแก้ไขปัญหาการจราจรรอบสถานี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้าไปใช้บริการมากขึ้น คาดเสร็จกลางปีหน้า...

วันที่ 11 ก.ค. 2555 นายปิยะ วิโรจน์โภคา ผู้จัดการส่วนแผนกการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์เกือบ 50,000 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็นรถไฟฟ้าแบบซิตี้ไลน์ 42,000-47,000 คนต่อวัน และแบบเอ็กซ์เพรสไลน์ 3,000 คนต่อวัน แต่มีผู้เข้ามาใช้บริการเช็กอินที่สถานีมักกะสัน เพียง 350 คนต่อเดือน ซึ่งถือว่ายังน้อยมาก

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น จึงเตรียมแผนปรับปรุงการให้บริการ โดยจะทำทางยกระดับจากถนนอโศก-ดินแดง ถนนจตุรทิศ และทำทางเข้าฝั่งถนนมักกะสัน เข้ามายังสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน เพื่อให้ผู้เข้ามาใช้บริการสะดวกสบายมากขึ้น รวมทั้งจะทำทางเดินลอยฟ้า หรือสกายวอล์ก เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพชรบุรีด้วย

ส่วนภายในสถานีจะเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยทำสวนและสถาปัตยกรรมไทย ในพื้นที่โดยรอบใหม่ทั้งหมด และเปิดให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่ เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ภายในสถานีทุกสถานี เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก โดยแผนทั้งหมดจะเริ่มดำเนินการภายในสิ้นปีนี้แล้วเสร็จกลางปีหน้า และคาดว่าจะทำให้ผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับบริษัท คิงพาวเวอร์ จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ใช้บริการเช็กอิน รถไฟฟ้าแบบเอ็กซ์เพรสไลน์ ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะได้รับคูปองส่วนลดในการซื้อสินค้า และร้านอาหารที่เข้าร่วมรายการ 5 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกระตุ้นผู้เข้ามาใช้บริการด้วย.

[Mongwin]

รถไฟฟ้า รฟท.รอคำตอบแยกแอร์พอร์ตเรลลิงค์
INN News วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2555 17:14น.

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. รอคำตอบ สบน. แยกแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ออกจาก ร.ฟ.ท. ส่วนการปรับเงินเดือนอยู่ระหว่างการพิจารณาของบอร์ด

นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า (แอร์พอร์ตเรลลิงค์) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการแยกแอร์พอร์ตลิ้งค์ออกจากการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เป็นบริษัทแม่นั้น อยู่ระหว่างการแบ่งแยกหนี้สินและทรัพย์สิน ประมาณ 7,035 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ทางสำนักบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน. ได้เห็นว่า แอร์พอร์ตลิ้งค์ควรรับหนี้สินอีก 4,000 ล้านบาท เข้าไปด้วย จะทำให้หนี้เพิ่มเป็น 11,000 ล้านบาท ซึ่งทางแอร์พอร์ตลิ้งค์อาจจะรับหนี้ก้อนดังกล่าวไม่ไหว แต่ทั้งนี้จะต้องรอคำตอบจาก สบน. อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับเงินเดือนประจำปี 1 ขั้น และปรับเงินเดือน 5% ตามมติ ครม. สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการของบริษัท

[black_express]

ผมยังไม่เข้าใจว่า การแยกบริษัท อยู่ในฐานะบริษัทลูกของการรถไฟฯ แต่เป็นอิสระในการบริหารงาน หรือแยกเด็ดขาด เป็นบริษัทอะไรไม่รู้อีกบริษัทหนึ่ง ใช้ประโยชน์จากที่ดินของการรถไฟฯ เกือบ 100% แต่ขาดทุนตลอดชาติล่ะครับ ?

สรุปแล้ว หากเป็นกรณีหลัง การรถไฟฯ จะไม่ได้รับประโยชน์อันใดจากแนวคิดที่ไม่รอบคอบอย่างนี้เลย

[NIIGATA]

แยกการบริหารงานออกมาจากหน่วยแม่ บางทีอะไรต่ออะไรอาจจะคล่องตัวกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ได้

ทุกวันนี้ก็ย่ำแย่เต็มทีแล้วครับ ....

[black_express]

ในที่นี้ ผมหมายถึงแยกเป็นบริษัทลูก โดยการรถไฟฯ ดูและเรื่องนโยบายกว้างๆ แต่มีการบริหารงานเป็นอิสระ

กับเป็นบริษัทอิสระ แยกออกจากการรถไฟฯ ไปเลย ซึ่งกรณีหลังนี้แหละครับ ที่ผมยังสงสัยอยู่ เพราะใช้ทรัพยากรต่างๆ เช่นที่ดินจากการรถไฟฯ โดยที่เจ้าของทรัพย์สินนั้น ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย

[Mongwin]

เร่งปรับแบบรถไฟเชื่อม 2 สนามบิน รองรับรถไฟเร็วสูง หวังประหยัดงบ 30%
สำนักข่าวไทย วันอังคาร ที่ 17 ก.ค. 2555

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. - นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาปรับแบบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 22 กม. มูลค่าประมาณ 33,000 ล้านบาท โดยมีแนวคิดที่จะใช้โครงสร้างดังกล่าวรองรับระบบรถไฟความเร็วสูงสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่จะดำเนินการในอนาคตด้วย เนื่องจากเห็นว่าจะช่วยประหยัดพื้นที่และงบประมาณในการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถประหยัดงบประมาณก่อสร้างได้ร้อยละ 20-30

“ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่รับผิดชอบจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูง ให้ศึกษาแนวทางการใช้โครงสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงร่วมกับโครงสร้างระบบรถไฟฟ้าเชื่อม 2 สนามบิน ซึ่งหากจะใช้โครงสร้างยกระดับร่วมกันก็ต้องปรับแบบโครงสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 2 สนามบินเตรียมไว้ เพื่อที่จะมีพื้นที่สำหรับวางระบบรางของรถไฟความเร็วสูง ปัจจุบันโครงการมีความพร้อมทั้งออกแบบแล้วเสร็จและได้รับความเห็นชอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว คาดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี แต่หากมีการปรับแบบก็อาจต้องเลื่อนเวลาเล็กน้อย” นายชัชชาติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อการเดินทางเชื่อม 2 สนามบินสะดวกมากขึ้น สายการบินและผู้โดยสารจะมาใช้สนามบินดอนเมืองเพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตปริมาณผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมืองจะถึงปีละ 30 ล้านคนแน่นอน สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง เป็นรถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตร ระยะทางประมาณ 22 กม. แบ่งเป็นโครงสร้างยกระดับ ช่วงพญาไท-พระรามที่ 6 และประดิพัทธ์-ดอนเมือง ระยะทาง 18.3 กม. และโครงสร้างใต้ดิน ช่วงพระรามที่ 6- ระนอง 1 ระยะทาง 3.5 กม.- สำนักข่าวไทย