RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311906
ทั่วไป:13576458
ทั้งหมด:13888364
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 101, 102, 103 ... 230, 231, 232  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/07/2012 11:25 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่ารฟม.ชงตั้งตำแหน่ง"ซีเอฟโอ" ดึง"รณชิต -ชัยสิทธิ์" กลับนั่งรองฯตามเดิม
วันศุกร์ที่ 20 กรกฏาคม 2012 เวลา 10:35 น.

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรฟม. ว่ามติของคณะกรรมการได้เห็นชอบตามที่ตนเสนอให้แต่งตั้งนายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษา รฟม. กลับมาทำหน้าที่รองผู้ว่าการ รฟม. ฝ่ายปฏิบัติการ

และแต่งตั้งนายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ ที่ปรึกษา รฟม. กลับมาเป็นรองผู้ว่าการ รฟม. ฝ่ายกลยุทธ์ เนื่องจากขณะนี้ รฟม.มีงานในความรับผิดชอบที่ต้องเร่งเดินหน้าหลายโครงการ และมีหลายสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่ โดยมีหลายโครงการที่จะเริ่มประกวดราคา จึงอยากให้มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยกันทำงาน ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นผู้มีความสามารถ

นอกจากนี้ตนยังได้เสนอบอร์ดปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ให้เพิ่มตำแหน่งซีเอฟโอ ทำหน้าที่บริหารความเสี่ยงด้านการเงิน มีตำแหน่งเทียบเท่ารองผู้ว่าการ ซึ่งทำให้มีรองผู้ว่าการ 5 ตำแหน่ง จากเดิม 4 ตำแหน่ง และเพิ่มตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการเพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง เป็น 6 ตำแหน่ง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 20/07/2012 8:31 pm    Post subject: Reply with quote

“ยงสิทธิ์” ลดขัดแย้งตั้ง “รณชิต-ชัยสิทธิ์” คัมแบ็กรองผู้ว่าฯ รฟม.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2555 14:04 น.

“ยงสิทธิ์” ประเดิมงานแรกเสนอบอร์ด รฟม.ตั้ง “รณชิต-ชัยสิทธิ์” นั่งรองผู้ว่าฯ รฟม.เหมือนเดิม ซื้อใจสลายขั้วลดขัดแย้ง เดินหน้าปรับโครงสร้าง รฟม. เพิ่ม CFO และผู้ช่วยผู้ว่าฯ ตั้งเป้าเดินหน้าเร่งงานรถไฟฟ้า 6 สายตามนโยบาย ต้องใช้คนมีประสบการณ์ช่วยทำงาน เล็งพัฒนาธุรกิจหารายได้เสริม ส่วนบอร์ดรับทราบผลเจรจาจ้าง BMCL เดินรถสีม่วงวงเงิน 8.4 หมื่น ล. ลดจากที่เสนอ 9.3 หมื่น ล. ตลอด 30 ปี เตรียมเสนอ ครม. พร้อมเล็งรีไฟแนนซ์เงินกู้ 8 หมื่น ล. หลังปี 54 ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนหมื่น ล.

นางรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 19ก.ค.ได้เห็นชอบโยกย้ายผู้บริหารรฟม.ตามที่นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่เสนอ โดยโยกย้ายนายรณชิต แย้มสอาด จากที่ปรึกษาระดับ 14 เป็นรองผู้ว่าฯ รฟม.(ปฎิบัติการ) และโยกย้ายนายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ จากที่ปรึกษาระดับ 14 เป็นรองผู้ว่าฯ รฟม.(กลยุทธ์) เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้าง รฟม.ใหม่ซึ่งได้มีการสรรหาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน (CFO) ระดับเท่ากับรองผู้ว่าฯ รฟม.เข้ามาบริหารจัดการการเงินและการพัฒนาธุรกิจเพื่อหารายได้เพิ่มตามคำสั่งของกระทรวงการคลัง

นายยงสิทธิ์กล่าวว่า การโยกย้ายนายรณชิต และนายชัยสิทธิ์มาเป็นรองผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมนั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพราะนอกจากเป็นการจัดกำลังคนที่มีประสบการณ์มาทำงานตามศักยภาพแล้ว เนื่องจาก รฟม.มีงานมากแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรยากาศในการทำงานลดความขัดแย้งในองค์กรด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเพิ่มระดับผู้ช่วยผู้ว่าการฯ อีก 2 คนด้วย รวมกับผู้ช่วยผู้ว่าการฯ ที่เดิมมี 4 คนเป็น 6 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังคนเพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจของ รฟม.

“ในการทำงานช่วง 1-3 เดือนแรกจะเร่งจัดสรรกำลังคนที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับงานที่มีก่อน และจะต้องมีการเพิ่มคนในส่วนที่มีไม่เพียงพอ เพราะพบว่างานบางเรื่องคนรับผิดชอบหลักเพียงคนเดียวซึ่งจะทำให้งานหนักเกินไป การส่งต่องานมีสภาพเป็นคอขวด ซึ่งเป้าหมายในการทำงานของผมคือ เร่งรัดการเซ็นสัญญารถไฟฟ้า 6 สายให้ครบตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้จะต้องทำแผนการพัฒนาธุรกิจเพื่อหารายได้เพิ่มให้องค์กรด้วย” นายยงสิทธิ์กล่าว

BMCL ลดค่าจ้างเดินรถสีม่วงเหลือ 8.4 หมื่น ล.

นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ด รฟม.ได้รับทราบผลการเจรจาค่าบริหารการเดินรถและค่าซ่อมบำรุงสัญญาที่ 4 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ กับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 13 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ได้ยุติแล้วที่วงเงินประมาณ 84,000 ล้านบาท จากที่ BMCL เสนอ 93,475 ล้านบาทตลอดอายุสัญญา 30 ปี รูปแบบ PPP โดยอยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ พร้อมกันนี้ ในส่วนของ รฟม.จะมีการทำแผนการบริหารการเดินรถเองเพื่อเป็นข้อมูลประกอบเปรียบเทียบ หาก ครม.ไม่เห็นแก่ผลการเจรจากับ BMCL โดยพบว่าหาก รฟม.เดินรถเองจะมีต้นทุนต่ำกว่าจ้างเอกชนเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยกรณีรัฐกู้เงินลงทุนเองจะต่ำกว่าประมาณ 1-2%

รวมถึงเห็นชอบผลการเจรจาต่อรองราคางานโยธาระบบรางโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญา 6 มูลค่า 3,638 ล้านบาท ซึ่ง บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ยอมปรับลดราคาลงเหลือ 3,585 ล้านบาทต่ำกว่ากรอบวงเงินและลดจากวงเงินที่เสนอ 4,142 ล้านบาทเกือบ 20% โดยวงเงินที่ปรับลด เช่น เอกชนยอมรับผิดชอบค่าภาษีศุลกากรนำเข้าชิ้นส่วนประมาณ 192 ล้านบบาท เป็นต้น ส่วนสาเหตุที่ยอมลดลงต่ำกว่ากรอบราคาเพราะอาจจะประเมินแล้วว่าหากไม่ลดจะต้องเปิดประมูลใหม่ซึ่งไม่แน่ว่าจะได้งานหรือไม่

นายรัชนีกล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ วงเงินประมาณ 80,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้สกุลเยน เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนสูง โดยปี 2554 ต้องขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 10,000 ล้านบาท ส่วนปี 2555 ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีกำไรประมาณ 1,080 ล้านบาท ซึ่งหลังจากได้ตั้งอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้ และหารือกฤษฎีกาแล้วว่า รฟม.สามารถดำเนินการได้ โดยร่วมกับสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมเสนอรายละเอียดการรีไฟแนนซ์ต่อ สบน.สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
Back to top
View user's profile Send private message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 21/07/2012 1:10 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
สายสีเหลือง ผมว่าถนนลาดพร้าวอิ่มตัวแล้วครับ ยากที่จะสร้างอะไรเพิ่มเติมเข้าไปแล้ว ไม่ว่าทางยกระดับหรือรถไฟฟ้า แม้แต่โมโนเรล
ย้ายสาธารณูปโภคก็ยากมาก
เป็นรถไฟใต้ดินแบบสายสีน้ำเงิน ก็งบประมาณสูง ไม่มีพื้นที่สร้างสถานี (ทางลง) ด้วยครับ

อีกอย่าง การเชื่อมโยงกับสายอื่นก็ไม่ค่อยดี ค่อนข้างโดดเดี่ยว คล้ายรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง Rolling Eyes


ผมว่าเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ควรจะทำเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินโดยเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร (บางซื่อ - หัวลำโพง) ที่สถานีรถไฟฟ้ารัชดา/ลาดพร้าว เพราะเนื่องจาก ถ.ลาดพร้าว มีการจราจรที่คับคั้ง และหนาแน่นจากห้าแยกลาดพร้าว จนไปถึงสีแยกลำสาลี เพราะเป็นย่านผู้คนอาศัยหนาแน่นมาก หากมีการก่อสร้างเส้นทางสายดังกล่าว ผู้ที่ทำงานก็สามารถใช้การเดินทางของเส้นทางสายนี้ได้โดยสะดวก ถึงแม้การลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจะมีงบประมาณที่ค่อนข้างสูงก็ตาม โดยการก่อสร้างอาจจะสร้างเป็นแบบใต้ดินตั้งแต่สถานีรัชดา/ลาดพร้าว ไปจนถึงสถานีแยกลำสาลี จากนั้นก็สร้างเป็นแบบลอยฟ้าไปจนถึงสถานีพัฒนาการ และอาจจะขยายต่อไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าสมุทรปราการ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าของกรุงเทพมหานคร (BTS) ได้

เพราะทุกวันนี้ถนนแถบทุกที่ที่จะให้รถวิ่งมีไม่เพียงพอสำหรับการขับขีและการเดินทางได้โดยสะดวก เพราะรถยนต์มีมาก แม้กระทั่งบนทางด่วนบางวันที่ฝนตก สิ้นเดือนเงินเดือนออก หรือจะเป็นช่วงเวลาที่เลิกงาน รถบนท้องถนนแถบจะไม่สามารถไปไหนได้ บางครั้งต้องอยู่บนรถนานเป็นชั่วโมงในจุด ๆ นั้น เพราะฉนั้นรถไฟฟ้าจึงมีหนทางเลือกหนึ่งในการเดินทางที่สามารถช่วยแบ่งเบาผู้คนในการเดินทางไปที่ไหนได้คล่องตัวและสะดวกยิ่งขึ้นนะครับ ในเส้นทางไหนหากมีการก่อสร้างได้ อยากจะให้รัฐบาลนำงบประมาณไปใช้ในการก่อสร้างในเส้นทางนั้น ลองดูนะครับ อีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า กรุงเทพฯ จะแออัดมากขนาดไหน หากไม่มีความคิดที่จะหาเมืองหลวงและก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ มาทดแทนกรุงเทพฯ นะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/07/2012 12:35 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการที่ถูกลืม!อุโมงค์ลอดสามแยกไฟฉาย กทม.ปรับแบบ3ปี ลุ้นต.ค.นี้ตอกเข็มรอบใหม่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 24 ก.ค. 2555 เวลา 09:30:49 น.

อุโมงค์ลอดสามแยกไฟฉาย หนึ่งในโครงการเจ็ดชั่วอายุคนของ "สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร" กำลังจะสร้างอยู่ดี ๆ ปรากฏว่ามีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) ทับซ้อนพื้นที่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ ทำให้ต้องปรับแบบใหม่

ประเด็นคือใช้เวลา "ปรับแบบ" อย่างเดียว 3 ปีเต็ม ความคืบหน้าล่าสุด "วินัย ลิ่มสกุล" ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม.ชี้แจงว่า สาเหตุที่ล่าช้าเพราะต้องเสียเวลาปรับแบบ เนื่องจากไซต์โครงการกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่าง "กทม.-กรุงเทพมหานคร" ในฐานะเจ้าของโครงการอุโมงค์ลอดฯ กับ "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" เจ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินดังกล่าว

ลำพังมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐ 2 หน่วยงานทับซ้อนกันก็สร้างปัญหาจราจรในพื้นที่ติดขัดเป็นเท่าทวีคูณอยู่แล้ว แต่การออกแบบเนื่องจากต่างหน่วยงานจึงกลายเป็นว่าต่างคนต่างออกแบบ ผลลัพธ์ในวันนี้ แทนที่จะ "ประสานงาน" กลับกลายเป็นการ "ประสานงา" เข้าอย่างจัง เมื่อ รฟม.ออกแบบให้มีสถานีรถไฟฟ้าสีน้ำเงินอยู่ในแนวเดียวกับอุโมงค์ลอดฯของ กทม.

"ที่ผ่านมา กทม.ต้องยุติการก่อสร้างอุโมงค์ลอดฯไว้ก่อน และตั้งคณะทำงานร่วมกับ รฟม.เพื่อหารือในการแก้ไขแบบใหม่ ถือว่ามีข่าวดีเพราะล่าสุดได้ข้อยุติแล้ว"

แบบใหม่ที่เป็นข้อยุติก็คือ ปรับลดความยาวของทางลอดและลดความกว้างลง ช่วยเพิ่มความกว้างของทางเท้าจากเดิม 1.50 เมตร เป็น 2.50 เมตร ผลพลอยได้คือประชาชนสามารถใช้พื้นที่ทางเท้าได้กว้างขวางมากขึ้น

รายละเอียดของการปรับแบบ ตัวอุโมงค์จะก่อสร้างเป็นทางลอด กว้างประมาณ 10.60 เมตร ความยาวประมาณ 594.45 เมตร ขณะที่ความยาวโครงการประมาณ 1,250 เมตร

โดยผนังพืด (Diaphragm wall) ที่อยู่ภายในของทางลอดจะมีความหนา 1 เมตร ความลึกประมาณ 35.45 เมตรจากระดับผิวถนน และตำแหน่งเสาของรถไฟฟ้าที่จะอยู่ติดกับผนังพืดของทางลอดจะถูกออกแบบให้เป็นเสาเข็มเจาะแบบผนังพืด (Barrette Pile) ขนาด 1x5 เมตร และ 1x12 เมตร ความลึกประมาณ 57.95 เมตร (จากระดับผิวถนน)

ทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ง่าย ๆ ว่า ผนังอุโมงค์ลอดฯของ กทม. สามารถรองรับการถ่ายเทน้ำหนักจากโครงสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินของ รฟม.ได้นั่นเอง

"ตอนนี้ กทม.ได้ส่งแบบแก้ไขงานก่อสร้างอุโมงค์บางส่วนให้กับบริษัทผู้รับเหมาแล้ว ในเวลาเดียวกันก็ได้เสนอเรื่องตามขั้นตอนให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เพื่อพิจารณาอนุมัติแบบก่อสร้างด้วย

คาดว่าจะได้รับการอนุมัติและจะเริ่มกลับมาลงมือตอกเสาเข็มเพื่อก่อสร้างโครงการได้อีกครั้งภายในเดือนตุลาคมนี้ โดย กทม.ขยายเวลาตามสัญญาก่อสร้างเป็น 1,465 วัน เพราะบวกช่วงเวลาที่เสียไปกับการปรับแบบด้วย" คำกล่าวของ "ผอ.วินัย"

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างอุโมงค์สามแยกไฟฉาย เป็นหนึ่งในโครงการแก้ไขปัญหาจราจรเร่งด่วนระยะกลางของ กทม.ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ลักษณะโครงการเดิมเป็นการก่อสร้างทางลอดใต้ทางแยกไฟฉาย ในแนวถนนจรัญสนิทวงศ์

มีความยาวทางลอดประมาณ 827 เมตร ขนาด 3 ช่องจราจร กว้าง 12 เมตร ความสูงช่องลอดประมาณ 5 เมตร ความยาวรวมทั้งโครงการ 1,250 เมตร ใช้งบประมาณ 788 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 820 วัน โดยมี "KPV-บริษัท กำแพงเพชรวิวัฒน์ก่อสร้าง จำกัด" เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง กำหนดเริ่มงาน 28 ตุลาคม 2552 ตามสัญญาเดิมจะต้องแล้วเสร็จไม่เกิน 25 มกราคม 2555

กล่าวสำหรับประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่ เพื่อไม่ให้หลงดีใจเก้อ "ประชาชาติธุรกิจ" สอบถามความคืบหน้าไปยัง "KPV" ผู้รับเหมาก่อสร้างอุโมงค์ลอดสามแยกไฟฉาย

แหล่งข่าวจากบริษัท KPV ระบุว่า ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินงานตามรายละเอียดของแผนงานไปบ้างแล้ว โดยมีเนื้องานหลักแบ่งเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (ตัวอุโมงค์), ระบบไฟฟ้า, ระบบประปา, ระบบโทรศัพท์ และระบบการสื่อสาร

ผลงานก่อสร้างตามสัญญาพบว่า มีงานที่แล้วเสร็จ 1 ระบบคือการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งติดตั้งเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน งานฝังหรือติดตั้งระบบใต้ดิน ได้แก่ ระบบไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ภาพรวมคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% ตามแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้ง 3 ส่วนภายในปลายปีนี้

"เหลือเพียงการก่อสร้างอุโมงค์เท่านั้นที่ยังไม่มีการดำเนินงานใด ๆ เนื่องจาก กทม.อยู่ระหว่างแก้ไขรูปแบบเพิ่มเติม ทั้งเรื่องการร้องเรียนและเสียงคัดค้านจากชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างว่า ตัวอุโมงค์อาจมีผลกระทบต่อการทำมาค้าขายย่านริมฟุตปาท" แหล่งข่าวกล่าวย้ำ

สรุปคนฝั่งธนฯยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า อุโมงค์ลอดฯ vs รถไฟฟ้า โครงการไหนจะเสร็จก่อนกัน...กันแน่
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 24/07/2012 10:24 pm    Post subject: Reply with quote

ตัวอย่างอุโมงค์ลอดสี่แยก ทับซ้อนกับแนวอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินในทุกวันนี้ ก็มีให้เห็นที่ถนนรัชดาภิเษกไงครับ

แต่ความลึกอุโมงค์ลอดอยู่ราวๆ 5 เมตร ส่วนความลึกของอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินนั้นลึก 20 เมตร
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/07/2012 10:43 pm    Post subject: Reply with quote

ที่ถนนรัชดาภิเษก ไม่ทราบว่าอย่างไหนสร้างก่อนครับ ระหว่างอุโมงค์ลอดกับอุโมงค์รถไฟใต้ดิน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 24/07/2012 11:37 pm    Post subject: Reply with quote

^
กรณีอุโมงค์ลอดทางแยกเหนือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุทธิสารและห้วยขวางนั้น เดิม กทม. ไม่ได้มีแผนเรื่องอุโมงค์มาก่อนครับ

พอดีว่า รฟม. จะต้องมีการขุดเปิดหน้าดินเพื่อสร้างสถานีในบริเวณแยกทั้ง 2 แห่ง พอดี กทม. จึงขอให้เพิ่มงานสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกขึ้นมา โดย กทม. รับผิดชอบเฉพาะค่าใช้จ่ายส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มเนื้องานอุโมงค์ลอดทางแยกเท่านั้น
ดังนั้นอุโมงค์ลอดทั้ง 2 แห่งนี้จึงใช้งบในการสร้างน้อยกว่าปกติครับ


สำหรับกรณีสามแยกไฟฉายนี้ต่างกันตรงที่ กทม. มีแผนมาก่อน แล้วพอดีว่า รฟม. ก็จะมาสร้างรถไฟฟ้าผ่านมาตรงจุดนี้ แต่ความแตกต่างที่เป็นปัญหาก็คือ รถไฟฟ้า รฟม. ตรงจุดนี้เป็นระบบลอยฟ้า เมื่อมาสร้างทับแนวอุโมงค์ลอดทางแยก จึงมีปัญหาเรื่องการวางตำแหน่งเสาตอม่อ

แต่ก็ยังดีที่กรณีนี้มีการพูดคุยกันก่อน ถ้าดูจากเนื้อข่าว ก็จะเห็นว่าจะมีการออกแบบให้ผนังอุโมงค์เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างเสาตอม่อด้วย (เสาช่วงนี้น่าจะเป็นรูปยูคว่ำคร่อมเหนืออุโมงค์นะครับ)

ซึ่งจะไม่ทำให้เสากินเนื้อที่ออกไปมาก เมื่อเทียบกับการสร้างเสาตอม่อรถไฟฟ้าผ่านแนวอุโมงค์ลอดทางแยกที่มีมาอยู่ก่อนแล้วอย่างที่แยกบางพลัด เพราะโครงสร้างคงต้องแยกจากกัน เนื่องจากไม่ได้ออกแบบผนังอุโมงค์เผื่อไว้ก่อน

แต่อย่างไรก็ตามโครงสร้างรถไฟลอยฟ้าเหนืออุโมงค์รถยนต์ลอดทางแยกคงดูไม่สวยงามเท่ากรณีอุโมงค์แยกสุทธิสารและห้วยขวางที่เป็นแบบใต้ดินทั้งคู่แน่ๆ

หรือแม้แต่จะเทียบกับโครงสร้างต่างระบบ แต่สลับเป็นสะพานลอยรถยนต์ข้ามทางแยกเหนืออุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน ก็น่าจะมีภาพที่น่าจะดูดีกว่ากรณีที่จะเห็นที่แยกไฟฉายอย่างแน่นอน Idea
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 25/07/2012 10:00 am    Post subject: Reply with quote

“ยงสิทธิ์ “คุย 4ปีข้างหน้ารฟม.หารายได้ใช้เอง
ข่าวทั่วไทย - เดลินิวส์
วันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555 เวลา 08:08 น.

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตนจะบริหารงาน รฟม.ให้โครงการต่าง ๆ เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วตามเป้าหมาย เนื่องจากมีผู้ว่าการตัวจริงมาทำงานแล้ว อีกทั้งตำแหน่งบริหารงานในส่วนของรองผู้ว่าการ รฟม.ทั้ง 4 ตำแหน่ง ก็มีครบแล้ว แต่ทั้งนี้โครงสร้างการบริหารงานปัจจุบันมีความเหมาะสมในการบริหารงานรถไฟฟ้าเพียง 1 สาย จึงอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่รองรับการบริหารงานรถไฟฟ้าที่กำลังมีเพิ่มขึ้น สำหรับการสรรหาตำแหน่งซีเอฟโอ มาทำหน้าที่บริหารความเสี่ยงด้านการเงิน ที่มีตำแหน่งเทียบเท่ารองผู้ว่าการ นั้น ขณะนี้ผู้ได้รับการสรรหาในอันดับที่ 1 ขอถอนตัวไป เนื่องจากเจรจาเรื่องผลตอบแทนไม่ลงตัว จึงเตรียมเรียกผู้ได้รับการสรรหาในอันดับที่ 2 และ 3 มาเจรจาต่อ คาดว่าจะไม่มีปัญหาจะได้ผู้ดำรงตำแหน่งซีเอฟโอเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ครั้งหน้า ตามที่บอร์ดได้กำชับเงื่อนไขเวลาไว้

นายยงสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบความก้าวหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ หัวลำโพง-บางแค มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จทันตามแผนงาน โดยสายสีม่วงจะเปิดให้บริการได้ในปี 2558 ซึ่งจะใกล้เคียงกับการเปิดให้บริการของสายสีน้ำเงินในปี 2559 อย่างไรก็ตามปัจจุบัน รฟม.เป็นองค์กรที่ไม่สามารถหารายได้ได้เอง ต้องพึ่งพิงรายได้จากรัฐบาลใช้เงินจำนวนมากมาก่อสร้างโครงการในการแก้ปัญหาการจราจร ทำให้การบริหารงานไม่คล่องตัว รวมถึงการควบคุมอัตราค่าโดยสารให้มีราคาถูกทำได้ยาก ตนจะเปลี่ยนแปลงตรงนี้ จะทำให้ รฟม.สามารถหารายได้ได้เอง นอกเหนือจากงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้สำเร็จภายใน 4 ปี ที่ตนดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. เชื่อว่าเมื่อค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง และ รฟม.มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จะช่วยปัญหาการจราจรได้มาก.
Back to top
View user's profile Send private message
JITBOON48
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 07/07/2006
Posts: 231
Location: ปากน้ำ สายไหม สัตหีบ

PostPosted: 25/07/2012 4:35 pm    Post subject: Reply with quote

แล้วที่แยกปิ่นเกล้ารถไฟฟ้าจะข้ามตรงไหนครับ เห็นอุโมงค์ใกล้เสร็จแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/07/2012 5:31 pm    Post subject: Reply with quote

นั่นสิครับ น่าสงสัยมากว่าจะข้ามทางคู่ขนานลอยฟ้าถนนบรมราชชนนีไปได้อย่างไร Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 101, 102, 103 ... 230, 231, 232  Next
Page 102 of 232

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©