Main Menu
Homepage
Members Zone
·
ข้อมูลส่วนตัว
ข่าวสารส่วนตัว
·
บริการเว็บเมล์
·
กระดานข่าว
กระดานฝากข้อความ
·
รถไฟไทยแกลลอรี่
รายนามสมาชิก
·
แบบสำรวจ
สมุดเยี่ยม
·
เกี่ยวกับสมาชิก
News & Stories
·
เรื่องทั้งหมด
·
เนื้อหาสาระ
·
เรื่องสำหรับพิมพ์
·
ยอดฮิตติดอันดับ
·
ค้นหาข่าวสาร
·
ค้นหากระทู้เก่า
Contents
·
กำหนดเวลาเดินรถ
·
ประเภทขบวนรถโดยสาร
·
ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
·
แผนที่เส้นทางรถไฟ
·
อัตราค่าโดยสาร
·
คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
·
รูปแบบการให้บริการรถไฟ
·
หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
·
ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
·
ระบบติดตามขบวนรถ
Services
·
Downloads
·
GoogleSearch
·
Hotels Booking
·
FlashGames
·
Wallpaper 1
·
Wallpaper 2
·
Wallpaper 3
·
Wallpaper 4
Information
·
เกี่ยวกับเรา
·
นโยบายความเป็นส่วนตัว
·
แผนผังเว็บไซต์ฯ
ส่งข้อแนะนำติชม
·
ติดต่อลงโฆษณา
·
แนะนำและบอกต่อ
·
สถิติทั้งหมด
·
สำหรับผู้ดูแลระบบ
Sponsors
Visitors
มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:
311900
ทั่วไป:
13571860
ทั้งหมด:
13883760
คน ตั้งแต่
01-08-2004
Rotfaithai.Com :: View topic - เรื่องหายาก .. ดูดมาจากเวบเก่า
Forum FAQ
Search
Usergroups
Profile
Log in to check your private messages
Log in
เรื่องหายาก .. ดูดมาจากเวบเก่า
Goto page
Previous
1
,
2
,
3
...
33
,
34
,
35
...
73
,
74
,
75
Next
Rotfaithai.Com Forum Index
->
สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic
::
View next topic
Author
Message
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
Posted: 11/06/2012 10:42 pm
Post subject:
เรื่องเล่าในอดีตแบบคนละเขตคนละแขวงนี้ น่าจัดเสวนานะครับ
พวกเรา (รุ่นเลยหลักสี่ เกือบหลักหก) หาแถวๆอีสานมาแจมด้วยก็ดีนะครับพี่นพ
เล่ากันสามวันสามคืนไม่เลิกแน่ ว่าแต่จะมีใครฟังกันไหมนี่
_________________
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007
Posts: 46857
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 12/06/2012 7:28 pm
Post subject:
ช่อง 7 รายการภาพเก่าเล่าใหม่ 08-06-2555 17:58
สิงหาคม ปี 2530 ได้มีการปิดซ่อมแซมสะพานพระราม 6 สะพานเหล็กผสมคอนกรีต ที่ใช้เชื่อมข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากด้านฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก หลังจากสะพานแห่งนี้ สร้างเสร็จและเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 2470 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทำให้ประชาชนที่จะสัญจรไปมา สองฝั่งแม่น้ำ ต้องใช้การเดินข้ามสะพานแทน
สะพานพระราม 6 ถือเป็นสะพานรถไฟแห่งแรกที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะมีถนนคอนกรีตคู่กันไป จนเมื่อมีการสร้างสะพานพระราม 7 คู่ขนานในปี 2535 สะพานพระราม 6 จึงยกเลิกให้รถข้ามและปรับปรุงให้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเฉพาะรถไฟเพียงอย่างเดียว ในเวลาต่อมา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007
Posts: 46857
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/09/2012 3:10 pm
Post subject:
สถานีรถไฟบางกอกน้อย ปี 2512 จากภาพยนตร์เรื่อง เหนือบารมี
คลิปโดยคุณมนัส กิ่งจันทร์ครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007
Posts: 46857
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/09/2012 8:45 pm
Post subject:
รายการแฟนพันธุ์แท้ ตอน รถไฟไทย ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. 46 หรือเกือบสิบปีมาแล้ว ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ผลิตรายการโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
มีผู้เข้าร่วมแข่งขันคือ
1. คุณมนัส อ่อนสังข์ ("พี่ลาเต้" เว็บคอลัมนิสต์ Dek-D.com)
2. คุณศวิน ดุราศวิน (คุณหนุ่ม บางบัวทอง นักปั่นจักรยาน)
3. คุณพัธราชัย พัฒนสุวรรณา (คุณบอย
pattharachai
)
4. นพ.รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ (พี่หมอ
Rakpong
)
5. คุณศุภสิทธิ์ โทนุสิทธิ์ (คุณฟาง
Main_Reservoir
)
เผยแพร่เมื่อ 20 ก.ย. 2012 โดยคุณ SDUful
Back to top
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
Posted: 20/09/2012 9:30 pm
Post subject:
ผมได้ดูรายการวันที่ออกอากาศด้วย ครับ วันนี้พอรู้ว่าจะมีรายการเกียวกับรถไฟ ผมใม่ยอมออกไปไหนเลย รออยู่หน้าจอ
ไม่คิดเลยว่าเวลาล่วงเลยไป ๕ ปี เราจะใด้รู้จักกันที่นี่
รถไฟไทยดอทคอม
_________________
Back to top
Tob96
3rd Class Pass (Air)
Joined: 04/04/2006
Posts: 472
Location: ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จ.นครราชสีมา , ถนนเชื้อเพลิง ช่องนนทรี กทม.
Posted: 20/09/2012 11:40 pm
Post subject:
คืนวันที่รายการแฟนพันธุ์แท้ออกอากาศ ทางช่องไอทีวีมีรายการเกี่ยวกับปู่ ๔๐๑๐ ด้วยใช่ไหมครับ ถ้าผมจำไม่ผิด
_________________
เราเหล่าม้าเหล็ก...ยามวิ่งเร็วดั่งพายุ...ยามหยุดนิ่มนวลดุจสายน้ำไหล.....
Back to top
Pornly
3rd Class Pass
Joined: 18/10/2006
Posts: 45
Posted: 21/09/2012 8:32 am
Post subject:
ขอบคุณครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007
Posts: 46857
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 21/09/2012 8:58 am
Post subject:
Tob96 wrote:
คืนวันที่รายการแฟนพันธุ์แท้ออกอากาศ ทางช่องไอทีวีมีรายการเกี่ยวกับปู่ ๔๐๑๐ ด้วยใช่ไหมครับ ถ้าผมจำไม่ผิด
ใช่ครับ เป็นรายการย้อนรอย โดยคุณคงกะพัน แสงสุริยะ ตอน อุบัติเหตุรถไฟชนกันที่ตลิ่งชัน เช้าวันที่ 21 ส.ค. 2522 ครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC
Posted: 15/10/2012 8:04 pm
Post subject:
ความติดจะเพิ่มโหลดเพลาจาก 10 ตันครึ่งเป็น 15 ตันนั้น มีมาแต่ปี 2473 แล้ว โดยจะทำกะทางคู่ไปบ้านภาชีและ ทางไปเมืองเพชรบุรีก่อน แล้วถอดสะพาน โหลดเพลา 10 ตันครึ่งไปใช้ที่สายขอนแก่น-หนองคาย - แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองซะก่อน เลยต้องรอไป
เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเยือนอเมริการ ปี 2474 นั้นพระองค์ มีพระราชประสงค์จะกู้เงินจากนายธนาคารชาวสหรัฐ อเมริกันมาทำในเรื่องนี้ให้สำเร็จแต่เจอเงื่อนไขโหด คือ
1. ให้ยกกรมรถไฟหลวงให้เป็นของธนาคารในอเมริกันเพื่อเป็นเครื่องค้ำประกัน
2. ให้เลิกสัมปทานป่าไม้ของอังกฤษ-เดนมาร์ก กะ เหมืองแร่ดีบุกที่คนออสซี่ได้สัมปทานโดยประเคนให้อเมริกันแทน
3. รวมถึงการยกการค้าข้าวให้อเมริกันค้าข้าวด้วย ...
เลยต้องงดดำริที่จะขอกู้เงินอเมรกันไป จนความวิบัติแห่งสงครามมาเยือนเลยสบช่องที่จะเอาราง 70 ปอนด์ และ สะพานเหล็ก 15 ตันมาเปลี่ยนเสียที
ระหว่างนั้นรัฐบาลสยามสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้ซื้อของญี่ปุ่นจากนิปปอนสตีล มาแทนการซื้อรางเหล็ก จาก กรุปป์ กับ คาร์เนกี้ และสะพานเหล็กจาก ไดเดและเดอเวเดล เพราะประทับใจว่าคนญี่ปุ่นผลิตของได้เหมือนฝรั่งในราคาที่ถูกกว่า - นอกเหนือจากการซื้อรถจักรมิกาโด ญี่ปุ่น มาแต่ปี 2479 (ปีที่เศรษฐกิจสยามเริ่มฟื้นตัวจริงๆ)
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC
Posted: 26/10/2012 11:31 am
Post subject:
ของฝากจากสหาย
โดย: บาราย
คัมภีร์จากแผ่นดิน ไทยรัฐ
21 ตุลาคม 2555, 05:00 น.
...
โกวิท ตั้งตรงจิตร เล่าไว้ตอนหนึ่งในหนังสือ ความหลังครั้งสงคราม (สำนักพิมพ์พิมพ์คำ สถาพรบุ๊คส์จำหน่าย) ว่า ประเทศไทยในช่วงเวลานั้น รัฐบาลเป็นฝ่ายอักษะ จึงมีหวอสัญญาณภัยดังทั้งกลางวันกลางคืน ผู้คนที่เคยตื่นกลัววิ่งหนีหาที่หลบภัย เจอกันนานๆเข้าก็ชักชิน ไม่หนีกันแล้ว หันมาตั้งหน้าตั้งตาหากินดีกว่า
ในเวลานั้น จะหาทำเลไหนค้าขายร่ำรวยได้เร็วเหมือนในกรุงเทพฯเป็นไม่มี
ถ้า เซ็งลี้ เก่ง วันเดียวก็อาจจะหาเงินใช้ได้หลายพันบาท กระบวนการค้าขายแบบนายหน้า - ไม่ต้องมีเงินทุนเป็นแสนเป็นล้าน หาสินค้าจาก ผู้ขายเอามาให้ผู้ซื้อ แล้วก็คิดกำไรได้โดยไม่ต้องมีสินค้าในมือ หรือมีสินค้าอยู่ในร้านเลย
คนจีนบางพวก เรียกการค้าแบบจับเสือมือเปล่าว่า พะคัง
ต้นเหตุของความขาดแคลนสินค้า มาจากภาวะ สงคราม อ่าวไทยเต็มไปด้วยทุ่นระเบิด ที่เครื่องบิน บี 24 บี 29 ของฝ่ายพันธมิตรบินมาทิ้งไว้ สินค้าจากต่างประเทศเข้าไทยไม่ได้ พ่อค้าที่หากินกับกองทัพญี่ปุ่น ก็หากำไรได้ง่ายๆ เพราะไม่ว่าจะตั้งราคาไว้แค่ไหน กองทัพซามูไรสู้ราคาเสมอ
ไม่เพียง สินค้าสงคราม ขาดตลาด ข้าวปลาอาหารซึ่งเคยอุดมสมบูรณ์ในเมืองไทย ก็พลอยขาดตลาด เพราะญี่ปุ่นกว้านซื้อข้าวปลาอาหารและของจำเป็นทุกชนิดที่ไทยผลิตได้ เอาไปใช้เป็น
เสบียงเลี้ยงกองทัพ สินค้าก็แพงขึ้นทุกสัปดาห์ เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง
โกวิท ตั้งตรงจิตร บอกว่า ญี่ปุ่นซื้อสินค้าราคาแพงจากไทยได้ไม่อั้น เพราะบังคับกู้เงินเอาจากรัฐบาลไทย เมื่อเงินไม่พอ ก็พิมพ์ธนบัตรไทยออกใช้เอง ทำให้เงินเฟ้อรุนแรง ของแพงทั้งยังหายาก สบู่กรด สบู่ซันไลต์ คนไทยไม่มีเงินซื้อ ต้องเอาน้ำด่างจากขี้เถ้าเอามาใช้ซักผ้า
ไม้ขีดไฟไม่มีขาย คนไทยก็ต้องหาเหล็กตะไบมาตีหินเหล็กไฟใส่กระบอกนุ่นแทนไม้ขีดไฟ กลายเป็นมนุษย์สมัยหินไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
กิจการขนส่งทางรถไฟ ญี่ปุ่นยึดไปใช้ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ คนไทยต้องใช้เรือ ซึ่งกินเวลาหลายวัน เกลือทะเลแถวสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ถังละ 5 บาท มาถึงกรุงเทพฯ เพิ่มเป็น 10 บาท พอส่งไปขายแถวเชียงใหม่ เชียงราย เพิ่มเป็นถังละ 150-170 บาท (ขึ้นไปเชียงตุง แค่กระสอบเล็กนิดเดียว ต้องซื้อด้วยทองคำหนัก 1 จั๊ต [หรือ จ๊าบ ที่ผู้การถาวรเคยเล่น - ทองคำหนัก 1 บาท])
สถานการณ์ยากลำบากนี้ รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการควบคุมให้คนไทยซื้ออาหารด้วยบัตรปันส่วน
เพราะปัญหาเงินเฟ้อในสมัยแบงก์ญี่ปุ่น คนไทยจะซื้อสินค้าแต่ละอย่างก็ต้องพกเงินเป็นปึกใหญ่ ธนบัตรใบละพันจึงถูกพิมพ์ออกมา พ่อค้าแม่ขายนิยมพกติดตัวไปค้าขาย ไม่ต้องขนเงินใส่กระเป๋าหลายใบเวลาออกไปซื้อสินค้าตลาดสำเพ็ง
โกวิทเล่าตอนเมืองไทยเมื่อปลายสงครามไว้ว่า...วันที่ 7 พ.ค.2484 เยอรมนี คุกเข่ายอมแพ้กองทัพสัมพันธมิตร ฮิตเลอร์ จอมนาซี ฆ่าตัวตาย เมื่อกองทัพบกรัสเซียบุกเข้ายึดเยอรมนี
หลังข่าวเยอรมนียอมแพ้ไม่กี่วัน เวลา 10.00 น. คนกรุงเทพฯก็ได้เห็นเครื่องบิน บี 24 ป้อมบินลิเบอเร-เตอร์ฝูงใหญ่ บินต่ำกว่าปกติ เสียงดังมาก ทั้ง
ยังเห็นเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ ชื่อ พี.38ไลต์นิ่งที่แปลว่าสายฟ้า ลำตัวผิดกว่าเครื่องบินขับไล่ ที่เคยได้เห็นมาในโลก บินแฉลบลงมาอวดโฉมชาวกรุงเทพฯ
เจ้าเครื่องบินไลต์นิ่ง บินเฉียดท่าเตียนไปทางท่าราชวรดิฐ ตรงข้ามกรมอู่ทหารเรือ ขณะนั้นมีเรือดำน้ำ 2 ลำ เรือสินสมุทร และเรือพลายชุมพล ลอยลำอยู่ (ทำหน้าที่ปั่นไฟให้รถรางสายบางคอแหลม) ทหารเรือดำน้ำตอนนั้นคงแยกมิตรแยกศัตรูไม่ถนัด ก็ใช้ปืนประจำเรือยิงกราดเข้าใส่ ทั้งที่ไม่ถูกเครื่องบิน แต่ฝ่ายเครื่องบินที่ก็ยอมไม่ได้ แตกหมู่บิน 2 ลำออกเป็นบินเดี่ยว จิกหัวลงมากราดยิงใส่เรือดำน้ำ ผล...เรือดำน้ำของไทยถูกยิงเสียหาย มีทหารเรือและชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ บาดเจ็บไปหลายคน
ขณะที่เรือดำน้ำไทยยิงสู้ แต่อีกด้านเป็นที่เปิดเผยในเวลาต่อมา มีการส่งข่าวประสานกันล่วงหน้า ว่าสหรัฐอเมริกาจะทิ้งเครื่องเวชภัณฑ์และยารักษาโรคให้ทหารไทยเตรียมรถไปรับได้ราว 10 คัน แล้ว ก็รีบบึ่งเอาไปซุกมิดชิดในค่าย (เรื่องนี้ลุงสรศัลย์ เคยเล่าไว้ด้วยครับ)
ข่าวสหรัฐฯทิ้งเครื่องเวชภัณฑ์และยาให้ไทย แพร่ไปทั่ว เพราะพร้อมกันนั้นสหรัฐฯ ได้โปรยใบปลิวบอกข่าว ข้อความในใบปลิว มีดังต่อไปนี้
ส่งยามากำนัล...สหายชาวไทย สารนี้มาจากเครื่องบิน...เราชาวอเมริกัน ทราบถึงความยากแค้นที่ญี่ปุ่นนำมาสู่บ้านเมืองของท่าน วันยิ่งล่วงไป สุขภาพของพลเมืองไทยยิ่งทรุดโทรมลง จำนวนคนไทยที่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคภัยเพราะขาดยารักษา มีมากขึ้นทุกวัน
ในฐานที่เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคำนึงถึงสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและอเมริกาที่มีมาช้านานแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่ชาวอเมริกันจะต้องวิตกกังวลและใคร่จะช่วยเหลือ
เราได้ส่งยามาช่วย จ่าหน้าถึงโรงพยาบาลไทย โดยที่เกรงว่าญี่ปุ่นอาจเป่าหูท่านว่ายานี้ไม่บริสุทธิ์ ฉะนั้น เราจึงแนะมายังแพทย์ เภสัชไทย ให้วิเคราะห์ยาทั้งหมดที่เราส่งมานี้ก่อนนำไปใช้ และระวังอย่าให้ญี่ปุ่นเจือปนด้วยยาพิษ หรือทำให้ยานี้เสื่อมคุณภาพ ด้วยประการหนึ่งประการใดได้
จงมีขันติ ญี่ปุ่นกำลังแพ้ ญี่ปุ่น ตลอดจนโรคาพยาธิและผีมัจจุราชที่มันนำเข้ามา จะถูกขับพ้นไปจากประเทศไทย...
เมื่อเครื่องบินบี 24 บินกลับไป ญี่ปุ่นก็ส่งรถออกมา หวังขอแบ่งยาจากไทย แต่คนไทยช่วยกันปิดข่าว ทหารญี่ปุ่นหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับไปด้วยความโกรธ.
Back to top
Display posts from previous:
All Posts
1 Day
7 Days
2 Weeks
1 Month
3 Months
6 Months
1 Year
Oldest First
Newest First
Rotfaithai.Com Forum Index
->
สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
All times are GMT + 7 Hours
Goto page
Previous
1
,
2
,
3
...
33
,
34
,
35
...
73
,
74
,
75
Next
Page
34
of
75
Share
|
Jump to:
Select a forum
General
----------------
ข้อตกลงและข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์ฯ
สัพเพเหระ
พักผ่อนหย่อนใจ
ประชาสัมพันธ์กิจกรรม
Member's Zone
----------------
กำหนดตารางนัดหมาย
บทความ, เรื่องสั้นพิเศษ และทริปพิเศษ
คำถามเด็ดแฟนพันธุ์แท้รถไฟไทย
ซื้อขาย/แลกเปลี่ยน
กิจกรรมร่วมสนุก
สภากาแฟ
ภาพ/วิดีโอรถไฟไทยจากผลงานของสมาชิก
ทริปตะลอนทัวร์สไตล์รถไฟไทยดอทคอม
สำรวจทางรถไฟและมุมมอง Unseen รถไฟไทย
Railway of Thailand
----------------
เรื่องทั่วไปและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับรถไฟไทย
ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
เส้นทางรถไฟ, ค่าโดยสาร และเรื่องเกี่ยวกับการเดินรถ
รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย
สถานีรถไฟและสถาปัตยกรรมสำคัญเกี่ยวกับรถไฟไทย
โครงสร้างทางวิศวกรรมที่เกี่ยวกับรถไฟไทย
อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
Electrical Railways of Thailand
----------------
รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ARL)
รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
Foreign Zone (English Language Only)
----------------
General Topics
State Railway of Thailand/Thai Rail Fans
World Railways
----------------
เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ
ภาพรถไฟต่างประเทศ
ภาพประสบการณ์เดินทางกับรถไฟต่างประเทศ
Railway Games & Models
----------------
Railway Games & Train Simulator
Railway Models
Problems & Support
----------------
Problems, Bugs & Helpdesk
You
cannot
post new topics in this forum
You
cannot
reply to topics in this forum
You
cannot
edit your posts in this forum
You
cannot
delete your posts in this forum
You
cannot
vote in polls in this forum
Powered by
phpBB
© 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©