View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Vera
3rd Class Pass
Joined: 09/11/2006 Posts: 201
Location: เชียงใหม่ กรุงเทพ
|
Posted: 23/02/2007 1:41 pm Post subject: 110 ปีรถไฟไทย กับการพัฒนาต่อไปในอนาคต |
|
|
ในวันที่ 26 มีนาคม 2550 นี้ก็จะครบรอบ 110 ปีรถไฟไทย พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ สมาชิกอยากเห็น
รถไฟไทยของเราพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ไปในรูปแบบไหนบ้างครับ |
|
Back to top |
|
|
TomThumb
3rd Class Pass
Joined: 14/01/2007 Posts: 29
|
Posted: 23/02/2007 3:48 pm Post subject: |
|
|
1. โดยรวมอยากให้พัฒนาเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ความสะดวกสบาย ความรวดเร็วและตรงเวลา และบริการอย่างมืออาชีพ ทำให้การรถไฟมีศักดิ์ศรีและความยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต
2. อยากให้ขยายเส้นทางให้พอเพียงแต่ความต้องการ ช่วงใดที่การจราจรหนาแน่นต้องขยายเป็นทางคู่หรือทางสาม ควรขยายเส้นทางสายเหนือไปถึงเชียงราย สายใต้ไปถึงภูเก็ต
3. อยากให้ปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณให้ทันสมัย เพิ่มเครื่องกั้นที่จุดตัดทางรถไฟให้ทั่วถึง
4. อยากให้มีรถจักรและตู้รถไฟสภาพดีให้บริการอยู่เสมอ ควรซื้อใหม่เมือถึงเวลาที่เหมาะสม
5. บริการบนขบวนรถควรทำอย่างมืออาชีพและได้มาตรฐานและเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการอาหารบนรถเสบียง
6. การค้ากำไรควรทำแต่พอเพียงและคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นอันดับแรก อย่าติดโฆษณาทับกระจก อย่าติดป้ายโฆษณาถี่จนดูเลอะเทอะ
7. การสร้างและบำรุงรักษาสถานีโดยเฉพาะสถานีเก่าแก่ ต้องคำนึงถึงศิลปะสถาปัตยกรรมและความสะอาด สะดวกสบายของผู้โดยสารด้วย (สถานีรถไฟหัวลำโพงทำได้ดี) |
|
Back to top |
|
|
Nippon_M
3rd Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 294
|
Posted: 23/02/2007 4:26 pm Post subject: |
|
|
110 ปีการรถไฟ ก็อยากให้การรถไฟรับใช้ประชาชนชาวไทย อยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป |
|
Back to top |
|
|
GEA4548
2nd Class Pass
Joined: 10/12/2006 Posts: 594
Location: กรุงเทพฯ
|
Posted: 23/02/2007 9:40 pm Post subject: |
|
|
TomThumb wrote: | 1. โดยรวมอยากให้พัฒนาเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ความสะดวกสบาย ความรวดเร็วและตรงเวลา และบริการอย่างมืออาชีพ ทำให้การรถไฟมีศักดิ์ศรีและความยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต
2. อยากให้ขยายเส้นทางให้พอเพียงแต่ความต้องการ ช่วงใดที่การจราจรหนาแน่นต้องขยายเป็นทางคู่หรือทางสาม ควรขยายเส้นทางสายเหนือไปถึงเชียงราย สายใต้ไปถึงภูเก็ต
3. อยากให้ปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณให้ทันสมัย เพิ่มเครื่องกั้นที่จุดตัดทางรถไฟให้ทั่วถึง
4. อยากให้มีรถจักรและตู้รถไฟสภาพดีให้บริการอยู่เสมอ ควรซื้อใหม่เมือถึงเวลาที่เหมาะสม
5. บริการบนขบวนรถควรทำอย่างมืออาชีพและได้มาตรฐานและเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการอาหารบนรถเสบียง
6. การค้ากำไรควรทำแต่พอเพียงและคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นอันดับแรก อย่าติดโฆษณาทับกระจก อย่าติดป้ายโฆษณาถี่จนดูเลอะเทอะ
7. การสร้างและบำรุงรักษาสถานีโดยเฉพาะสถานีเก่าแก่ ต้องคำนึงถึงศิลปะสถาปัตยกรรมและความสะอาด สะดวกสบายของผู้โดยสารด้วย (สถานีรถไฟหัวลำโพงทำได้ดี) |
เห็นด้วยกับกระทู้นี้เป็นอย่างยิ่งครับ ถ้าหากรถไฟพัฒนาตามนี้ได้มากสัก 2-3 ข้อ ผมว่าคนไทยคงจะประทับใจการรถไฟแห่งประเทศไทยและหันกลับมาใช้รถไฟไทยมากขึ้นแน่ๆครับ |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 31/03/2007 6:01 pm Post subject: |
|
|
1. ความสะอาดคือสิ่งสำคัญ
2. ความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์ต่างๆ ต้องใช้งานได้ บ่อยครั้งที่ต้องลุ้นว่าใช้งานได้หรือไม่ ซึ่งข้อนี้จะทำให้ผู้ใช้รถขบวนที่ต้องจ่ายเงินแพงหงุดหงิดมากที่สุด |
|
Back to top |
|
|
shinoda
3rd Class Pass (Air)
Joined: 16/10/2006 Posts: 309
Location: พิจิตร
|
Posted: 31/03/2007 7:05 pm Post subject: |
|
|
ความสะอาด ความสะดวก ความสบาย
และควรปรับปรุงคุณภาพบริการของพนักงานด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 27/05/2007 2:18 am Post subject: |
|
|
ขออนุญาตจุดประเด็นนี้อีกครั้งครับ
พอดีวันนี้ได้ฟัง จส 100 เรื่องความเห็นของการพัฒนาระบบคมนาคมในประเทศ...หลายความเห็นมุ่งเป้าไปที่ระบบราง ซึ่งก็หมายถึงรถไฟทุกประเภทล่ะครับ ว่าอยากให้พัฒนาระบบราง
ผมอยากให้แยกรถ 2 ปรเภทออกจากกัน คือรถเชิงสังคม กับรถเชิงพาณิชย์
รถเชิงสังคม พวกรถธรรมดา รถชานเมือง ไม่ผิดหรอกครับที่จะต้องเก็บค่าโดยสารถูก และใช้ล้อเลื่อนเก่าตามสภาพมาปรับปรุงให้บริการ
รถเชิงพาณิชย์...อันนี้อยากให้แยกเป็น 3 class ด้วยกัน
Class A คือ รถระดับ 4-5 ดาว ซึ่งตอนนี้ การรถไฟไม่มีรถประเภทนี้เลย แม้แต่รถด่วนนครพิงค์ รถด่วนระหว่างประเทศ หรือรถด่วนสปริ้นเตอร์ ก็ยังไม่เข้าขั้น (แต่ก่อนอาจจะถึง แต่ตอนนี้มาตราฐานตกครับ)
รถระดับ A นี่ต้องเป็นรายได้หลักของการรถไฟฯ ฉะนั้นค่าโดยสารจะต้องสูงกว่ารถประเภทอื่น อาจจะแพงกว่าถึงเท่าตัว...แน่นอนว่าค่าโดยสารแพง การบริการที่ได้ก็ต้องดีตามไปด้วย ดังนี้
- ตัวรถต้องมีสภาพใหม่ อายุการใช้งานของรถประมาณ 5-7 ปี เต็มที่ไม่เกิน 10 ปี และที่สำคัญอายุการใช้งานน้อย ไม่ใช้ปะปนกับรถขบวนอื่น
- ความสะอาดทั้งภายในภายนอก ต้องได้มาตราฐานโรงแรมระดับ 3 ดาวเป็นอย่างน้อย
- การเดินรถต้องรวดเร็ว ทำความเร็วประมาณ 100-120 km/h โดยเฉลี่ยตลอดเส้นทาง
- ตรงเวลามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เรียกว่า ขบวนอื่นจะต้องหลีกทางให้ขบวนนี้ อาจจะหยุดรับส่งน้อยกว่าขบวนอื่น
- พนักงานให้บริการ ต้องอยู่ในมาตราฐานที่ดี ถึงดีมาก ประเภทที่ว่าได้รับ Complain เกิน 10 ครั้ง ก็ต้องย้ายขบวน
- บริการเสริม เช่น เครื่องดื่มต้อนรับ ขนมของว่าง รวมไปถึงอาหารคอยให้บริการ หนังสือพิมพ์หรือนิตยสารบนรถ (บวกเพิ่มแฝงไปในค่าตั๋วได้)
แน่นอนว่ารถ Class A การลงทุนค่อนข้างสูง อาจจะต้องให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยการรถไฟเป็นพี่เลี้ยง และ ไม่เอาเพดานค่าโดยสารมาเป็นตัวบังคับ...และอาจมีเพียงสายละ 1 - 2 ขบวน ขบวนละ 5-8 โบกี้เท่านั้นเท่านั้น
Class B รถด่วนพิเศษ รถด่วน รายได้หลักอีกประการของการรถไฟ...ค่าโดยสารต้องสูง แต่ไม่สูงกว่า Class A เพราะเป็นรถที่มุ่งทำกำไร เป็นรถระดับ 3-3.5 ดาว
- ใช้ล้อเลื่อนชุดปัจจุบัน (รถนอน Daewoo รุ่นใหม่ / ดีเซลรางแดวู) แต่ต้องตกแต่งและปรับปรุงด้านความสะอาด และอุปกรณ์บนรถและรูปลักษณ์ภายนอกให้โดดเด่น สวยงามกว่าปัจจุบัน
- พนักงานให้บริการ ต้องมาตราฐานระดับดี
- การเดินทางต้องรวดเร็ว ตรงเวลา โดยที่ขบวนอื่น (ยกเว้น Class A) จะต้องหลีกทางให้ ไม่ใช่ไปรอหลีกขบวนอื่นอย่างในปัจจุบัน
รถ Class B นี้ปัจจุบันก็ได้แก่ ด่วนพิเศษนครพิงค์ ด่วนแดวูกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-ยะลา ด่วนพิเศษบัตเตอร์เวิร์ธ...แต่ราคาค่าบริการอาจปรับขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับต้นทุน
Class A และ Class B ไม่ได้เน้นให้คนจน ใช้บริการ ตลาดหลักคือ ชั้นชั้นกลาง ระดับเงินเดือน 8-9000 บาทขึ้นไป ให้ใช้บริการ ฉะนั้นจะต้องเป็นรถที่สร้างกำไรและอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง และต้องสามารถนำรายได้มาชดเชยกับรถระดับต่ำกว่า และรถเชิงสังคม
Class C รถด่วน รถเร็ว บางขบวน ที่วิ่งอยู่ในปัจจุบัน มาตราฐาน 1-2 ดาว
รถประเภทนี้ เรียกว่า ขนส่งผู้โดยสารถึงที่หมายเป็นพอ เป็นรถเชิงพาณิชย์ที่ล่าช้าที่สุด ค่าโดยสารระดับปัจจุบันเหมาะสมดีอยู่แล้ว ควรปรับปรุงด้านของความสะอาดให้ได้มาตราฐาน ส่วนรูปลักษณ์ภายในและภายนอก ไม่จะเป็น
รถ Class C อาจจะต้องเป็นรถที่ต้องแบกรับภาวะขาดทุนอยู่บ้าง แต่ก็ต้องน้อยที่สุด อาจแก้ไขโดยการใช้รถปรับอากาศ หรือรถนอน เข้ามาให้บริการ โดยลดจำนวนรถชั้น 3 ให้น้อยที่สุด
เน้นเพื่อบริการชนทุกระดับในระยะทางไกล
ที่กล่าวมา คือ รถไฟในฝัน ซึ่งคงเป็นจริงได้ยากมากๆ
แล้วเพื่อนๆล่ะครับฝันไว้อย่างไรบ้าง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 28/05/2007 11:59 am Post subject: |
|
|
เออ พวกที่ KTMB เขาแสดงให้ดูว่าการปรับปรุงใหม่นี้ทำให้ รถเร็ว ที่ไม่ทำเงิน และ รถธรรมดา กะ รถท้องถิ่น ถูกยุบเกือบหมดเลย เหลือแต่ รถท้องถิ่นฝั่งกลันตัน เพราะ คนที่นั่นชอบงัดข้อกะรัฐบาลกลาง แถมรถทื่วิ่ง ... ก็วิ้งเฉพาะเวลากลางคืน (นอกจาก KL Kommuter)
ก็รอดูว่าทางคู่ไปอิโปห์จะเสร็จเมื่อไหร่ เพราะ จะได้สบโอการฟื้นฟูขบวนรถบางขบวนที่ยกเลิกไป บ้างหละน่า |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 28/05/2007 12:22 pm Post subject: |
|
|
จากแนวคิดของคุณ Donatt ผมว่า เราควรจะต้องมีรถพ่วงใหม่ๆมาเสริมทัพกัน4-5 ปี สักชุด รวมถึงรถจักรใหม่ที่กำลังดีไม่เดี้ยงกลางทาง
ที่จริงก็อยากให้ฝันนั้นเป็นจริงอยู่เหมือนกัน
ป.ล.และท่าจะดีหากชั้นสามเราติดเเอร์ทุกคัน อิอิ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 28/05/2007 12:25 pm Post subject: |
|
|
ผมช่างฝันน่ะครับ...อย่าว่ากันนะ |
|
Back to top |
|
|
|