View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42896
Location: NECTEC
|
Posted: 08/11/2012 2:08 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | ๑๙/ มาถึงบ้านภาชีที่ใหญ่กว้าง รถหลีกทางรางไขว่น่าใคร่เห็น
มีโรงใหญ่ปลูกขวางคร่อมทางเป็น กั้นร่มเช่นฝนแดดระแวดระวัง
รางรถค้อมอ้อมไปทั้งซ้ายขวา ตัวสถานีวางอยู่กลางตั้ง
มีตลาดสองฟากดุจฉากประดัง ใต้ทางยังมีอุโมงค์เป็นโพรงยาว
เดินได้ตลอดลอดทางกว้างวากว่า คนไปมาทางนั้นกันอื้อฉาว
ได้ปลอดภัยรถไขว่กันระนาว ถ้าเดินก้าวข้ามข้างบนรถชนตาย
.... |
อุโมงค์เปิดปี 2462 ครับ
Mongwin wrote: | ๒๐/ ถึงหนองวิวาทอยู่ดีไม่วิวาท เห็นต่างอาตม์ต่างอยู่ไม่สูสี
มนุษย์เราถ้าวิวาทขาดไมตรี ไม่มีดีมีแต่ร้ายทำลายกัน |
เปลี่ยนชื่อแต่ปี 2483 ครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/11/2012 2:46 pm Post subject: |
|
|
ปี ๒๔๗๓ นั้น ทาง standard gauge คงรื้อหมดแล้วนะครับ
ksomchai wrote: | ดูเหมือนตอนนั้นสายอิสานยังไม่เกิดเลย ครับ |
ขอบคุณพี่สมชายครับ ที่เข้ามาติดตามอ่าน
คุณหญิงไม่ได้กล่าวว่าทางแยกที่ชุมทางบ้านภาชีไปไหนจริง ๆ ด้วยครับ บอกเพียงว่าเป็นย่านสถานีใหญ่ มีรางมาก
อันที่จริงปีนั้น สายเหนือสร้างไปได้ถึงเชียงใหม่แล้วหลายปี
สายอีสานใต้เปิดเดินรถถึงอุบลราชธานีพอดี ๑ เม.ย. ๒๔๗๓ ก่อนหน้าที่คุณหญิงจะเดินทางไปสุโขทัย 2 เดือน
ส่วนสายอีสานเหนือ เพิ่งสร้างไปถึงโนนสูง ยังไม่ถึงบัวใหญ่ครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/11/2012 6:55 pm Post subject: |
|
|
๒๓/ ถึงหนองโดนโดนอีกตั้งกระมังนี่ โดนแต่ที่ทุกข์ซ้ำอีกกรรมเอ๋ย
มาจ่อตาว่าวุ่นดังคุ้นเคย พลางเมินเฉยชมตลาดสะอาดตา
มีโรงพักตำรวจตรวจผิดจับ คอยระงับความทุกข์เป็นสุขา
ตามแผ่นดินราบรื่นล้วนพื้นนา มีมรรคาไปถึงซึ่งคีรี
ใกล้มณฑปบริสุทธิ์พุทธบาท ประชาราษฎร์ครึกครื้นในพื้นที่
ความเจริญเดินถึงพนาลี ก็เพราะมีน้ำใช้ไม่กันดาร
ที่แห่งใดไร้น้ำสำคัญมาก เจริญยากขัดสนผลอาหาร
ถ้ามีห้วยน้ำหนองคลองลำธาร อาจตั้งบ้านตั้งหน้าการหากิน
๒๔/ ถึงบ้านกลับคิดใคร่กลับไปบ้าน เคยสำราญสถิตนิจศีล
มานั่งเมื่อยเหนื่อยตาดูป่าดิน กว่าถึงถิ่นกำหนดรันทดใจ
๒๕/ ถึงป่าหวายหวายเหนียวเป็นเกลียวเชือก มีแ...อกเหนียวแน่นแค่นไม่ไหว (ต้นฉบับขาดหายไป)
ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ใด มีเงินไม่มีโชคแก่โลกเอย
ที่เหลือล้นขนเข้าไว้ไม่จ่ายแจก ตายจะแบกเอาไปได้ไฉนเอ๋ย
คิดบางคนจนยากอ้าปากเงย กินน้ำเคยนุ่งห่มโสมมมอม
ควรเมตตาการุณย์เจือจุนบ้าง พอประทังร่างกายที่ผ่ายผอม
เหมือนช่วยคนเรือล่มระทมงอม กุศลย่อมจะได้หลายประการ |
|
Back to top |
|
|
milkonline
2nd Class Pass (Air)
Joined: 02/07/2009 Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี
|
Posted: 08/11/2012 11:20 pm Post subject: |
|
|
ใกล้จะถึงลพบุรีแล้วครับ _________________ N-Scale model train lovers.
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/11/2012 12:22 pm Post subject: |
|
|
ถึงแล้วครับ เจอลิงด้วย
---------
๒๖/ มาถึงลพบุรีทวีเศร้า เห็นซากเก่าปรางค์ปราสาทราชฐาน
สร้างลำดับนับกษัตริย์หลายรัชกาล เป็นบูราณนานครันกว่าพันปี
เดิมพระยากาวัณดิศราช ให้พราหมณ์อำมาตย์มาสร้างถางถิ่นที่
ตั้งปราสาทราชวังทั้งมณฑีร์ สิบเก้าปีพร้อมพรั่งทั้งอาราม
เมื่อพุทธศกดกพันเศษสองส่วน จุลสิบถ้วนระกาภาษาสยาม
เรียกว่าเมืองละโว้โสภณนาม พันสี่สิบสามบรรจุธาตุพระศาสดา
จุลมีสี่สิบสองในปีเถาะ อันงามเหมาะชูชาติศาสนา
ได้สองพรรษกษัตริย์ก็มรณา ครั้นต่อมาพระยาศรีธรรมไตร
ปิฎกองค์ทรงภิเศกเจ้าไกรสรณ์ ครองนครละโว้อันโตใหญ่
แล้วก็มาพระยาจันทปโชติไซร้ ต่อมานัยจะสูญสิ้นบุญญา
ภายหลังจึงพระนารายณ์มหาราช โปรดประพาสเมืองละโว้อันโอ่อ่า
ให้สร้างซ่อมพร้อมหมดรจนา เปลี่ยนนามว่าลพบุรีที่ยิ่งยง
พระเดชาอำนาจราชประวัติ สารพัดสมพระราชประสงค์
พอประชวรควรหรือหมดเดชยศลง เป็นน่าสงสารเหตุสังเวชใจ
ต้องกำจัดตัดอำนาจราชศักดิ์ ไม่ปกปักษ์ข้าหลวงทั้งปวงได้
ทรงสลดรันทดพระราชหฤทัย เอาธงชัยอรหันต์กันผดุง
ทรงอุทิศปรางค์ปราสาทราชมณฑีร์ ให้เป็นที่สีมาเขตวิสุง
บวชเสวกสามสิบสองปองบำรุง ได้สมมุ่งทุกคนพ้นไพรี
ยังเหลือแต่พระปิยะไม่ละราช ฉลองพระบาทบงกชบทศรี
กตัญญูรู้กตเวที พวกไพรีผลักตกฟกบรรลัย
เป็นกษัตริย์ขัตติยามหาเดช ต่างประเทศทั้งหลายไม่กรายใกล้
แต่เกิดมีศัตรูอยู่ภายใน กระทำให้ราชอำนาจถึงขาดลอย
พิโรธล้ำดำรงองค์พระแสง จะตัดแล่งกบฏให้ถดถอย
ไม่สมหวังด้วยกำลังพระองค์น้อย วาโยพลอยพาท่านสวรรคต
ปลูกไม้ใหญ่ใกล้เรือนเหมือนเช่นว่า ทับเคหาพังทลายกระจายหมด
ขับขี่ม้าตัวดีมีพยศ แต่ว่าหมดกำลังจะรั้งไว้
ลพบุรีมีตำนานหลายท่านสร้าง แต่ก็ร้างแล้วกลับต่อก่อสร้างใหม่
เป็นหลายครั้งหลายคราน่าอาลัย ขอจงให้มีผู้สร้างอย่างร้างเลย
ข้างขวามือมีศาลพระกาฬสูง มีพวกฝูงลิงไพรอาศัยเฉย
ตามต้นไม้ใหญ่น้อยคอยก้มเงย คนที่เคยขึ้นไปไหว้พระกาฬ
ให้ขนมส้มกล้วยรวยกินเสมอ ถ้าใครเผลอไม่ได้ให้อาหาร
เข้าแย่งของจากกายหลายประการ แล้วทะยานเอาไปทิ้งไว้กิ่งไม้
ต้องนำกล้วยอ้อยไปวางพลางเรียกหา เอาคืนมาเถิดเจ้าเราเปลี่ยนให้
รู้เหมือนคนเอามาวางอย่างเห็นใจ รวบของไปกินพลางยื่นคางชู
บางทีขึ้นรถไฟไปเที่ยวป่า นั่งหลังคาเต็มหมดไม่หดหู
คนไล่ขับกลับคะนองจ้องตาดู ตะคอกขู่เลิกคิ้วพลิ้วร่างกาย
พอรถหยุดสถานีที่ประสงค์ ก็เผ่นลงจากหลังคาเข้าป่าหาย
เที่ยวเสียสองสามคืนชื่นสบาย แล้วก็ผายมาคอยท่าสถานี
พอรถไฟใช้จักรมาพักหยุด ต่างรีบรุดขึ้นหลังคาไม่ล่าหนี
กลับยังที่เคยอยู่ลพบุรี สัตว์ยังมีใจสมัครรักถิ่นครอง
เราเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ รักชาติเถิดบำรุงไว้อย่าให้หมอง
จงร่วมใจร่วมจิตคิดปรองดอง อย่าคอยมองผิดกันฉะนั้นเลย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/11/2012 1:01 pm Post subject: |
|
|
๒๗/ ถึงตำบลโคกกระเทียมเรียมวิโยค มาพบโคกกระเทียมซ้ำอีกกรรมเอ๋ย
หวนสะท้อนร้อนใจไม่เสบย จำแลเชยชมอื่นให้คืนคลาย
เห็นสีดินดำคล้ำดังหมึก มีไพรพฤกษ์ทัศนาภูผาหลาย
เป็นแนวทิววิเวกเทียมเมฆพราย จดสุดสายเนตรไม่หมดบรรพตเวียน
๒๘/ ถึงหนองเต่าเท้าสั้นกระนั้นเต่า แข่งเอาเจ้ากระต่ายแพ้พ่ายเลี่ยน
ถือขายาวก้าวไวไปจวนเจียน แต่เต่าเพียรเดินไม่หย่อนถึงก่อนพลัน
ความเพียรดีมีตำราว่าไว้มาก แต่มิอยากทำตามเป็นความขัน
ไม่เพียรหาเพียรแต่จ่ายทุกรายวัน จะป้องกันความจนได้กลใด
๒๙/ ถึงทรายขาวขาวหรือดำในน้ำจิต สุดที่จะพิศให้แจ้งแถลงไข
ที่ใจดำอำมหิตยิ่งพิษไฟ ภายนอกใสขาวช่วงหลอกปวงชน
ที่ภายนอกมัวคล้ำแต่น้ำจิต ขาวสนิทใจฉ่ำดังน้ำฝน
เห็นใครมีทุกข์ร้อนช่วยผ่อนปรน ถ้าดูคนดูแต่ผิวมักพลิ้วแพลง
๓๐/ ถึงบ้านหมี่มี่ก้องมองระเหิด เขาระเบิดภูผามาเป็นแผง
เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนแรง เอาเหล็กแทงพะเนินดอกออกกระจาย
ที่เป็นก้อนคอนขนขึ้นบนรถ ทำมีหมดทุกขนาดตามมาดหมาย
พ่วงรถไฟยาวยืดไม่ฝืดคลาย ส่งไปขายตามระยะพระนคร
เขามีเพียรไม่น้อยขุดต่อยหิน เราขุดดินง่ายง่ายไม่สังหรณ์
ร้องลำบากยากเหนื่อยเมื่อยบาทกร จะนั่งนอนคอยท่าเวลาตาย
ศิลาแข็งแกร่งกล้าหนาแน่นสุด เขายังอุตส่าห์ทยอยงัดต่อยขาย
หวังได้เงินมาบำรุงผดุงกาย ให้สบายพูนสวัสดิ์วัฒนา
---------------
ภาพสถานีรถไฟบ้านหมี่ ปี ๒๕๐๐ โดยคุณ BigBoy
KTTA-50-L wrote: | กรมรถไฟและการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการระเบิดหินและย่อยหินเพื่อใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือ รวมทั้งใช้โรยทางรถไฟตามปกติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ |
ที่มา: ย้อนรอยที่หมวดศิลาบ้านหมี่ (ก่อนที่จะเลือนหายไป)
Last edited by Mongwin on 09/11/2012 1:34 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/11/2012 1:20 pm Post subject: |
|
|
ก่อนจะเดินทางต่อไป พักสายตากับหนังสือต้นฉบับครับ
ขอบคุณภาพต่าง ๆ จาก สยามบรรณาคม
ต้นฉบับนิราศสุโขทัยที่ผมนำมาลงที่นี่ มาจากหนังสือ ประชุมนิราศ ภาคที่ ๓ พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยสำนักพิมพ์ต้นฉบับ ซึ่งนำมาจากหนังสืออนุสรณ์บทประพันธ์ของคุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนา (ส้มจีน อุณหนันท์) ที่เจ้าภาพพิมพ์แจกในงานศพคุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนา (ส้มจีน อุณหนันท์) เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ณ เมรุวัดโสมนัสวิหาร
ถ่ายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ อายุ ๔๒ ปี
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/11/2012 2:48 pm Post subject: |
|
|
๓๑/ ถึงห้วยแก้วเงินหรือคือเหมือนแก้ว ถ้ามีแล้วก็อาจปรารถนา
นึกสิ่งใดได้สิ่งนั้นทันวิญญาณ์ เขาบูชาเงินกันทุกวันมี
จะเลวทรามต่ำช้าถ้ามีทรัพย์ เขามักนับว่าเลิศประเสริฐศรี
ที่ยากจนข้นแค้นถึงแสนดี เขาไม่ชี้เชิดชมนิยมยิน
๓๒/ ถึงจันเสนชื่อแฝงจันแดงแน่ เป็นยาแก้โรคภัยได้ทั้งสิ้น
กล่าวกันว่าถ้าใครได้ไปกิน จะมีอินทรีย์อ้วนเป็นนวลแดง
ไม่รู้แก่รู้ป่วยสวยเสมอ หาไม่เจอกันสักคราเป็นน่าแหนง
ถ้าฉันพบจะผจญขนเต็มแรง เอามาแบ่งให้ทุกคนได้ฝนกิน
ไม่เจ็บป่วยสวยแท้ไม่แก่เฒ่า มนุษย์เราก็จะสมอารมณ์ถวิล
จะมีสุขสำราญปานเมืองอินทร์ จะแสนยินดีตัวทั่วทุุกมวล
๓๓/ ถึงช่องแคแลบุกค้นทุกช่อง ไม่เห็นร่องรอยใดฤทัยหวน
รถสะท้อนร้อนอบนั่งซบซวน ยิ่งเรรวนใจหวามมาตามทาง
๓๔/ ถึงตำบลบ้านตาคลีนี้ประหลาด แผ่นดินดาดแดงทั่วไม่มัวหมาง
พฤกษาเขียวเกลียวกลมสมสำอาง ๓๕/ ถึงห้วยหวายดินก็อย่างแดงต่างกัน
สีชมพูดูงามอร่ามฉาย ๓๖/ บ้านหนองโพธิดินก็คล้ายกับที่นั่น
แต่แดงสีมีคล้ำเป็นสำคัญ ๓๗/ บ้านหัวงิ้วก็เช่นนั้นช่างขันจริง
สี่ตำบลนี้กระมังครั้งพระรถ ฆ่ารากษสตัดแล่งเป็นแง่งขิง
ว่าเลือดนองพสุธาน่าประวิง มาเห็นสิ่งสีดินให้กินใจ
๓๘/ มาถึงบ้านมะกอกยิ่งชอกช้ำ ดังใครนำกรดมากรอกทุกซอกใส่
ปวดระทมโทมนัสดวงฤทัย โอ้เวรใดแน่หนอมาทรมาน
---------
จากลพบุรีมา สถานีที่ไม่ปรากฏในนิราศคือ
- ท่าแค
- โพนทอง
- ดงมะกุ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45334
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/11/2012 3:19 pm Post subject: |
|
|
๓๙/ มาถึงบ้านเขาทองมองดูถิ่น เป็นเนินดินเหลืองแดงแข่งขนาน
รถไฟไปกลางเนินเหินทะยาน ๔๐/ ถึงสถานอ่างหินดินธรรมดา
เถาวัลย์วกกกพันวรรณพฤกษ์ เป็นเซิงซึกซึ้งไปไกลหนักหนา
ทั้งสองข้างป่าชัฏริมรัถยา สกุณาเคียงคลอกันจอแจ
เหมือนจะทักถามเราเจียวเจ้านก พลอยวิตกเห็นเรานั่งเศร้าแน่
โอปักษียังมีแก่ใจแท้ มนุษย์แชเชือนชาไม่การุณย์
๔๑/ ถึงหนองปลิงปลิงทากต้องบากบิด กลัวเกาะติดทำให้หัวใจขุ่น
สูบโลหิตสดสดให้หมดทุน หลงวายวุ่นลงหนองจะต้องคราง
----------
มีสถานีรถไฟลึกลับ คือ สถานีอ่างหินด้วยครับ
ซึ่งเคยพูดคุยกันในกระทู้นี้
สมุดกำหนดเวลาทำการเดินรถ ร.ศ. ๑๒๘ โดยคุณวิศรุต
ซากสถานีอ่างหิน อยู่ตรงนี้ครับ
http://map.longdo.com/?gmap=1&hybrid=1&gmap=1&lat=15.613677996958344&long=100.17056106126665&res=262144&map=epsg3857&locale=th
ยังพอมีสภาพป่ารกชัฏ ตามนิราศเหลืออยู่บ้าง แต่พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นไร่นา เกษตรกรรมหมดแล้ว (สถานีคงยุบเลิกไปในยุค ๒๔๘๐) |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 09/11/2012 5:01 pm Post subject: |
|
|
ไม่เคยได้ยินชื่อสถานีอ่างหินมาก่อนเลยครับ อ.เอก _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
|