Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311918
ทั่วไป:13582491
ทั้งหมด:13894409
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 184, 185, 186 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46905
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/11/2012 5:13 pm    Post subject: Reply with quote

กทท.เร่ง MOU ร.ฟ.ท.ดันโลจิสติกส์พาร์คนำร่อง 2 ทำเลรับทวาย-โคราชป้อนแหลมฉบัง
ฐานเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2012 เวลา 16:29 น.

การท่าเรือฯเร่งสรุปแผนร่วมลงทุนจัดซื้อหัวรถจักร-แคร่และจัดหาที่ดินสร้างไอซีดี-ศูนย์กองเก็บสินค้า(CY) ให้เป็นโลจิสพาร์คตามแนวเส้นทางรถไฟเพื่อหวังรับมือการขนส่งสินค้าป้อนแหลมฉบัง รูปแบบแบ่งผลกำไรร่วมกัน “วิโรจน์” ปิ้งไอเดียป่าล้อมเมืองเล็งพื้นที่กาญจนบุรี-นครราชสีมานำร่อง ใช้ระบบฟีดเดอร์รถยนต์บรรทุกป้อนสู่ระบบรางให้มากขึ้น บิ๊กร.ฟ.ท.ยันมีผลการศึกษารองรับไว้นานแล้วพร้อมดำเนินการได้ทันที

เรือตรีวิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเตรียมนำเสนอนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมให้ผลักดันแผนการร่วมลงทุนกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ที่จะบริหารจัดการร่วมกันในการจัดสร้างโลจิสติกส์พาร์คตามแนวเส้นทางรถไฟเพื่อป้อนสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ผ่านการขนส่งด้วยระบบรางป้อนสู่ท่าเรือแหลมฉบังด้วยการที่กทท.ลงทุนจัดซื้อหัวรถจักรและแคร่ขนส่งสินค้า ส่วนร.ฟ.ท.ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่คือไอซีดีและรางรถไฟมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่แล้วนำผลกำไรที่ได้มาแบ่งกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือจะเกิดประโยชน์ด้านการจัดหารายได้ป้อนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างเห็นเด่นชัด

โดยจุดเด่นเนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งคู่ โดยกทท.มีรายได้ส่งคืนคลังปีละประมาณ 4,000 ล้านบาทจึงเอากำไรในแต่ละปีไปลงทุนร่วมกับร.ฟ.ท.จัดซื้อหัวรถจักร- แคร่เพื่อการขนส่งสินค้า นำร่องก่อนประมาณ 3 ขบวนในแต่ละเส้นทาง ใช้งบประมาณจัดซื้อขบวนละประมาณ 150 ล้านบาท แล้วนำผลกำไรมาแบ่งกันชดเชยงบประมาณที่กทท.ออกเงินให้ก่อน

ผอ.กทท.กล่าวอีกว่ารูปแบบดังกล่าวนั้นเป็นการพัฒนาตามกรอบการลงทุนตามการเพิ่มปริมาณสินค้าโดยการจัดซื้อหัวรถจักรที่ร.ฟ.ท.ดำเนินการช่วงที่ผ่านมาเป็นการลงทุนที่สูงมาก แต่ร.ฟ.ท.ยังประสบภาวะขาดทุนจึงให้กทท.ร่วมลงทุนโดยไม่ต้องยื่นขอกู้จากคลัง แต่เป็นการขยายกิจการและอำนวยการพาณิชย์ขนส่งภาครัฐซึ่งกรณีดังกล่าวนี้เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากการศึกษาความเหมาะสมเสร็จสมบูรณ์ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนแล้วจะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาเห็นชอบต่อไป

“จะจัดให้มีการลงนามความร่วมมือต่อกันในเร็วๆนี้โดยเป็นการรวมเอาจุดอ่อนของร.ฟ.ท.คือการไม่มีงบประมาณไปจัดซื้อหัวรถจักร-แคร่ แต่มีจุดแข็งด้านมีรางและพื้นที่ไอซีดีรองรับไว้แล้ว โดยให้กทท.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมทั้ง 2 แห่งไปลงทุนจัดซื้อหัวรถจักร-แคร่มาใช้ในการขนส่งสินค้าเป็นหลัก แล้วร่วมบริหารจัดการร่วมกัน โดยจะต้องมีการศึกษาข้อดีข้อเสียและรูปแบบการดำเนินงานร่วมกันก่อนว่าจะมีแนวทางเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด วัตถุประสงค์เพื่อให้การขนส่งสินค้าในพื้นที่ต่างๆป้อนจากรถยนต์บรรทุกในแต่ละพื้นที่ป้อนไปที่สถานีรถไฟหรือไอซีดีพาร์คในรูปแบบการบรรจุตู้คอนเทนเนอร์เพื่อขนส่งไปยังจุดต่างๆหรือป้อนให้กับท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากปัจจุบันการค้าชายแดนมีความตื่นตัวมากขึ้นทั้งจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกจะผ่านพื้นที่ประเทศไทยออกสู่ท่าเรือแหลมฉบังไปสู่ประเทศต่างๆ”

นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าการร.ฟ.ท.กล่าวว่าในเบื้องต้นร.ฟ.ท.ได้มีการเตรียมพื้นที่ ณ จุดสถานีรถไฟพื้นที่นครราชสีมาและกาญจนบุรีเป็นพื้นที่นำร่องก่อนที่จะขยายไปสู่พื้นที่อื่นๆในระยะต่อไป เช่น ขอนแก่น อุบลราชธานี แพร่ อุตรดิษถ์หรือเชียงใหม่ โดยเฉพาะกาญจนบุรีเพื่อรองรับท่าเรือน้ำลึกทวาย และพื้นที่นครราชสีมารองรับผลผลิตภาคการเกษตรจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอยู่มากในพื้นที่ นอกจากนั้นการค้าชายแดนด้านหนองคาย นครพนมและจุดอื่นๆก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งเข้าสู่เมืองหลวงจึงมีแนวคิดป่าล้อมเมืองรองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากสิ่งที่ได้รับคือมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชนได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญยังเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจด้านการลดต้นทุนทางโลจิสติกส์อย่างชัดเจนกว่าอีกด้วย

“กรณีดังกล่าวนี้ได้มีผลการศึกษาของร.ฟ.ท.ศึกษาไว้นานแล้ว เพียงแต่นำมาพิจารณารอบใหม่ก็สามารถดำเนินงานต่อเนื่องได้ทันทีโดยจะเร่งนำเสนอผู้ว่าการร.ฟ.ท.คนใหม่นำรายงานผู้บริหารกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันต่อไปเพราะถือเป็นความจำเป็นเรื่องต้นทุนการลงทุนที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีการขนส่งสินค้ามากขึ้นรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมมุ่งเน้นไปที่การขนส่งทางราง และทางน้ำ จึงต้องการลดต้นทุนการขนส่งทางถนนให้ลดลงมากที่สุด ซึ่งต้องเร่งให้มีการปรับเปลี่ยนจากการขนส่งด้วยรถบรรทุกให้เป็นระบบฟีดเดอร์ป้อนสินค้าเข้าสู่ระบบรางผ่านไอซีดีหรือCY จุดต่างๆรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์แทน”

นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ ร.ฟ.ท.กล่าวว่าปัจจุบันใช้ขบวนรถเพื่อการขนส่งสินค้าและโดยสารประมาณ 145 ขบวนโดยจัดเป็นเพื่อการโดยสารประมาณ 250 ขบวน และขนส่งสินค้าประมาณ 50 ขบวน ซึ่งตลอด 30 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่แต่อย่างใด ปัจจุบันมีหัวรถจักรใช้งานได้ประมาณ 200 คัน แต่สภาพใช้ได้ดีมีประมาณ 140 คันจึงไม่เพียงพอ ทำให้ต้องงดเดินรถเส้นทางเชียงใหม่ พิษณุโลกและอุบลจำนวน 6 ขบวนเพื่อนำหัวรถจักรมาใช้ลากในเส้นทางอื่นๆ นอกจากนั้นหัวรถจักรที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาซื้ออีกจำนวน 20 หัวขนาด 20 ตันเพลายังอยู่ระหว่างการรอกระทรวงการคลังพิจารณาการค้ำประกันทางการเงินของบริษัทผู้ได้รับการพิจารณาโดยต้องการนำไปใช้ให้บริการขนส่งสินค้าในเส้นทางฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบังให้เพียงพอต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
unique
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 12/09/2006
Posts: 258
Location: กทม.

PostPosted: 16/11/2012 8:50 pm    Post subject: Reply with quote

ผมเชื่อว่าสมาชิกหลายท่านในRotfaithai ยังเชื่อว่าการสร้างรถจักรและล้อเลื่อนต่างสำหรับรางกว้าง 1 เมตร
สร้างได้ยาก ต้องใช้เวลานานมาก ต้องแพงกว่ารถที่ใช้กับรางมาตรฐาน( 1.435 เมตร)มาก
ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ครับ ผู้ผลิตชั้นนำ เช่น GE, EMD, Siemens, Alstom, Bombardier, Vossloh ฯลฯ
ยินดีและเต็มใจที่จะผลิตรถจักรและล้อเลื่อนเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าอยู่แล้ว โดยการออกแบบให้เป็น modular design
ใช้ชิันส่วนมาตรฐานและสามารถตัด ลด เพิ่ม สร้าง ปรับตามความกว้างของราง ได้ตามความต้องการของลูกค้า
กอปรกับการใช้เทคโนโลยีในการออกแบบ(CAD)การผลิต(CAM) เครื่องจักรสมัยใหม่อย่างเช่นพวกCNC
โปรแกรมจัดการทรัพยากรในการผลิต(ERP) ผู้ผลิตสามารถออกแบบรถจักรและล้อเลื่อนตามความต้องการของลูกค้า
โดยแค่ปรับแก้ไขแบบที่มีชิ้นส่วนต่างที่เป็นโมดูลมาประกอบคลายกับการต่อเลโก้ เมื่อได้แบบที่ต้องการแล้ว
สามารถจะส่งใบสั่งซื้อและสั่งทำชิ้นส่วนผ่านระบบสารสนเทศทันที โดยมีLead timeช่วงเวลาหนึ่งก่อน
แล้วจึงนำชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบในขั้นตอนสุดท้าย มีตัวอย่าง Bombardier สามารถประกอบรถจักรTraxxในขั้นตอนสุดท้าย
ใช้เวลาแค่ 12 วันเท่านั้น ไม่แน่นะครับ ถ้าเราสั่งGE PowerHaul (PH37ACmi) UK specแต่ปรับสำหรับราง 1 เมตร
โดยปรับให้มีน้ำหนักกด 20 ตันต่อเพลา เดี๋ยวนี้และสั่งแบบด่วนที่สุด ขนส่งโดยใช้เครื่องบินAntonov จาก Erie, Pennsylvania มาลงที่สุวรรณภูมิ
เราอาจได้เห็นGE PowerHaul ทันเล่นสงกรานต์ปี 2556 ที่แยกยมราชก็เป็นได้ครับ Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 17/11/2012 1:23 am    Post subject: Reply with quote

^
เคยเจอในหนังสือพิมพ์เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว มีการยกประเด็นรถจักรสำหรับราง 1.000 เมตร ว่าราคาแพงกว่ารถจักรสำหรับรางขนาด 1.435 เมตร
โดยอ้างอิงราคารถจักร GEA ที่เราซื้อมาครับ และยกเป็นข้ออ้างเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงขนาดรางรถไฟบ้านเราในเวลานั้น

ก็คงจะจริงสำหรับราคารถจักรสเปคบ้านเราที่อาจจะราคาแพงกว่ารถสมรรถนะเท่าๆกันที่ใช้งานในยุโรปหรืออเมริกา แต่คนที่กล่าวอ้างนั้นได้วิเคราะห์กันหรือเปล่าว่าทำไมถึงแพง
(อันนี้อยู่บนพื้นฐานของการจัดซื้ออย่างตรงไปตรงมานะครับ)

ในความเห็นส่วนตัวของผม ถ้าราคารถจักรสำหรับบ้านเราจะแพงกว่าทางโน้น
เหตุผลสำคัญไม่ใช่อยู่ที่ขนาดความกว้างของราง แต่เป็นเรื่องน้ำหนักลงเพลาครับ

ถ้าเราใช้สเปคน้ำหนักลงเพลาพอๆกับบ้านเขา รถที่สร้างสำหรับบ้านเราจะมีความแตกต่างตรงความกว้างของล้อเท่านั้น ซึ่งตรงนี้แก้ไขไม่ยาก

แต่เนื่องจากบ้านเราสเปคน้ำหนักลงเพลาเพียง 15ตัน/เพลา ซึ่งต่ำกว่าบ้านเขา
คงไม่สามารถนำรถจักรต้นแบบมาแก้ไขปรับปรุงได้ทันที
เพราะหากต้องมีการเพิ่มเพลาล้อ (เช่นของเดิมเป็นแบบ Bo-Bo แล้วต้องปรับเป็นแบบ Co-Co เพื่อให้น้ำหนักลงเพลาไม่เกินพิกัดของบ้านเรา)
ก็อาจต้องแก้ไขแบบโครงสร้างของรถเพื่อให้สามารถเพิ่มเพลาล้อลงไปได้
หรือไม่ก็ต้องหาวิธีลดน้ำหนักรถทั้งคัน ซึ่งทำได้ยากเข้าไปใหญ่
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ทางผู้ผลิตบวกเป็นต้นทุนสำหรับคิดเงินกับเราแน่นอน

ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงการที่ปัจจุบันนี้ รฟท. ทยอยปรับปรุงเส้นทางในประเทศให้รองรับพิกัด U20 แล้ว
ผมคิดว่าในอนาคตต้นทุนในการจัดหาล้อเลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรนั้นจะไม่แพงไปกว่าในประเทศต้นทางเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งการจัดหาก็จะทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
(ไม่นับขั้นตอนการดำเนินการในบ้านเรานะครับ Wink )
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46905
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/11/2012 7:24 am    Post subject: Reply with quote

สถานีรถไฟสยามกลการ
PR.Siam Motors — 15 พฤศจิกายน 2555 14:16

สถานีรถไฟสยามกลการ เกิดจากเจตนารมณ์ของ ดร. ถาวร พรประภา ได้ซื้อซากรถไฟพร้อมโบกี้ที่ชำรุดเสื่อมสภาพตามกาลเวลา จากการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อปีพุทธศักราช 2531 อย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อนำมาซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด นับว่าเป็นมิติใหม่ของสวนสาธารณะที่เพิ่มศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อน และแหล่งนันทนาการเพียงแห่งเดียวในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

สถานีรถไฟสยามกลการ ต้องการถ่ายทอดความหมายดีๆ แก่คนรุ่นหลัง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเดินทางแสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ผ่านพาหนะในการเดินทาง เพราะการพบสิ่งใหม่ๆ ตามสถานที่ที่เราไม่เคยไปนั้น จะช่วยต่อเติมความไม่รู้ของเรา ได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้น มีประสบการณ์ในชีวิตมากขึ้น รวมถึงเราได้พบกับชีวิตของผู้คนมากมายในแต่ละพื้นที่ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้เรื่องราวต่างๆ ที่สำคัญบันทึกการเดินทางทุกครั้ง ได้เก็บภาพแห่งความประทับใจกับสถานที่สำคัญๆ เหล่านั้นไว้ในไดอารี่เพื่อเป็นความทรงจำที่ดี หากแต่การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุดยังคงเดินไปข้างหน้า ไปทุกที่ ทุกเวลา ที่เราอยากจะไป และตัวเราพร้อมเปรียบเสมือนเป็นการเดินทางสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่

ปีพุทธศักราช 2555 บริษัท สยามกลการ จำกัด มีอายุครบรอบ 60 ปี แห่งการก่อตั้ง และ ดร. ถาวร พรประภา ผู้ล่วงลับ มีอายุครบ 8 รอบ 96 ปี โดย ดร.พรเทพ พรประภา ทายาทผู้สืบทอดเจตนารมณ์ ได้ปรึกษากับพี่น้องครอบครัว “พรประภา” ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบด้านหน้าสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา เพื่อฉลองวาระสำคัญดังกล่าว พร้อมซ่อมแซมฟื้นฟูขบวนรถไฟนี้ ประกอบด้วยหัวรถจักรเก่า และโบกี้รถไฟจำนวนสามโบกี้ที่ใช้งานไม่ได้แล้วให้กลับคืนสภาพใกล้เคียงกับของที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และตั้งชื่อว่า “สถานีรถไฟสยามกลการ” แห่งแรกในเมืองพัทยา เพื่อเป็นสถานีแห่งการเรียนรู้เรื่องราวประวัติรถไฟไทย และต่างประเทศโดยสังเขป ตลอดจนสอดแทรกหลักปรัชญาชีวิตเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อหาความรู้ และประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43745
Location: NECTEC

PostPosted: 19/11/2012 9:54 am    Post subject: Reply with quote

^^^
เคยแวบไปที่ สยามคันทรี่คลับเพื่อดูรถขบวนนี้แหละครับ แต่กว่าจะรู้ทางไปเล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน Embarassed Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46905
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/11/2012 4:23 pm    Post subject: Reply with quote

ผมยังไม่เคยไปเลยครับ สงสัยต้องหาโอกาสไปดูบ้างแล้ว Very Happy

----

"ททท." เดินหน้าเต็มสูบเส้นทางเที่ยวรถไฟโอทอป ประเดิมกรุงเทพฯ-หัวหิน
เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา 14:37 น.

วันนี้ ( 19 พ.ย.) นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้จัดทำเส้นทางรถไฟโอทอปท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างกำหนดเวลาขาย โดยจะขายเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ก่อน เดินรถตั้งแต่วันพุธ-อาทิตย์ ขาย 3 รูปแบบ คือ ขายตั๋วรถไฟไปเช้าเย็นกลับผ่านพันธมิตร 12 บริษัท ราคา 900 บาท จองได้ง่ายเหมือนการจองตั๋วเครื่องบิน ที่ชำระค่าโดยสารทางตู้กดเงินสดอัตโนมัติ(เอทีเอ็ม), ขายตั๋วรถไฟพร้อมที่พัก ราคา 1,672 บาท สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการไปเที่ยวแบบค้างคืนและต้องการวางแผนท่องเที่ยวเอง และขายแพ็กเกจท่องเที่ยวรถไฟโอทอป ผ่านบริษัทนำเที่ยว ราคา 2,999 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว มีมัคคุเทศก์คอยให้ข้อมูล

“รถไฟโอทอปจะมีลักษณะแตกต่างจากขบวนรถไฟทั่วไป โดย ททท. ได้ใช้งบ 10 ล้านบาท ปรับปรุงตู้โดยสารรถไฟเอาไว้ 7 ตู้ เพื่อใช้ใน 3 เส้นทาง ได้แก่ หัวหิน พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี แต่จะเริ่มทดลองเดินรถเส้นทางหัวหินก่อน จากนั้นจึงจะเดินรถอีก 2 เส้นทางที่เหลือ โดยได้ปรับปรุงภายนอกตู้ให้มีลวดลายสวยงาม ส่วนภายใต้ตู้โดยสารจะนำสินค้าโอทอปมานำเสนอในรูปแบบอุปกรณ์ตกแต่ง ได้แก่ ผ้าม่านบนรถไฟ หมอนหนุนศีรษะ และสบู่ เป็นต้น รวมทั้งนำมาแจกเป็นของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวด้วย ส่วนในอนาคตหากเลยช่วงทดลองโครงการ 3 เดือนแล้ว วางแผนว่าอาจจัดทำนิตยสารรวมสินค้าโอทอปไว้บนรถไฟ ให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อ และรับสินค้าที่สถานีปลายทาง ลักษณะเดียวกับการเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเครื่องบิน”

ส่วนสาเหตุที่วางเส้นทางท่องเที่ยวรถไฟโอทอปเส้นทางหัวหิน พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี เพราะ ททท. ได้จัดทำแบบสอบถามนักท่องเที่ยว เกี่ยวกับจุดหมายท่องเที่ยวทางรถไฟที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไป พบว่า นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาตินึกถึงเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน อันดับแรก ในฐานะเส้นทางคลาสสิค รองลงมาคือ กรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา ในฐานะเส้นทางสายประวัติศาสตร์ และกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี เส้นทางสายธรรมชาติ

ทั้งนี้จะทดลองโครงการท่องเที่ยวรถไฟ 3 เส้นทาง รวม 3 เดือน หลังจากนั้นจะส่งมอบโครงการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยบริหารโครงการต่อในระยะยาว คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะคืนทุน มีกำไร และสามารถขยายผลจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวรถไฟโอทอปอื่นได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46905
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/11/2012 10:27 am    Post subject: Reply with quote

“ชัชชาติ” เร่งตั้งดรีมทีมพลิกโฉมการรถไฟ ดีเดย์ 7 ธ.ค.สั่งเวิร์คช้อปปฏิรูปร.ฟ.ท.
ฐานเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน 2012 เวลา 07:26 น.

“ชัชชาติ” นำทัพขันนอตรถไฟตามแผนยกเครื่องภายใต้งบ 1.7 แสนล้าน เร่งเพิ่มบทบาทการขนส่งทางน้ำและทางราง ยันไม่มีนโยบายปลดออกแต่เพิ่มศักยภาพแทน กำชับผู้ว่า “ประภัสร์” เข้มงวดราคากลาง เร่งลงทุนเพิ่มด้านรถไฟฟ้าให้สำเร็จหวังพลิกโฉมประเทศไทยภายใน 7-8 ปี ล่าสุดเปิดตัว “ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์” ร่วมเป็นบอร์ดร.ฟ.ท. ดีเดย์ 7 ธ.ค.เวิร์คช้อปปฏิรูปการรถไฟ

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังแถลงข่าวเรื่องการพลิกโฉมการรถไฟแห่งประเทศว่าเร่งเพิ่มบทบาทการขนส่งทางระบบรางให้มากขึ้นโดยในวันที่ 7 ธันวาคมนี้จะเวิร์คช้อปการปฏิรูปการรถไฟเป็นโครงการแรกด้วยการเพิ่มบทบาทด้านการขนส่งทางรถไฟ ควบคู่ไปกับทางน้ำ เพื่อลดบทบาทการขนส่งทางถนนให้น้อยลง ก่อนที่จะทยอยเวิร์คช้อปในโครงการอื่นๆต่อเนื่องกันไป

แต่เนื่องจากการรถไฟยังมีปัญหาหลายประการที่ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารในปี 2554 ลดลงเหลือเพียง 45,833 คนต่อวันจากที่ปี 2552 สูงถึง 47,485 คนต่อวันและการขนส่งสินค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง คือปี 2554 จำนวน 11,076 ตัน/ปี ส่วนในปี 2553 จำนวน 11,623 ตัน/ปีนอกจากนั้นยังมีปัญหาสภาพหัวรถจักร และสภาพทางที่เก่า ชำรุด มีการใช้งานมากว่า 40 ปีใช้งานอยู่ประมาณ 206 กิโลเมตรตลอดจนพนักงานหรือภาระหนี้บำนาญสูงกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปีส่งผลให้การพัฒนาองค์กรล่าช้าโดยปัจจุบันการรถไฟมีพนักงานและลูกจ้างจำนวน 15,430 คน แม้จะมีที่ดินอยู่กว่า 2 แสนไร่แต่ก็ยังเป็นภาระหนี้อยู่มากมายปัจจุบันการรถไฟขาดทุนปีละประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท

ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนปี 2553-2557 ตามแผนการอนุมัติกรอบวงเงิน 1.7 แสนล้านบาทอย่างเข้มข้นขึ้น จากที่ปัจจุบันมีโครงข่ายอยู่ประมาณ 4,363 กิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัดโดยที่ผ่านมาได้อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างทางช่วงคลองสิบเก้า-แก่งคอย การปรับปรุงรางระยะ 5 และ 6 ล่าสุดมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมายังอนุมัติให้ร.ฟ.ท.ดำเนินโครงการและจัดสรรเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ประกอบด้วยโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 4 สายทาง 265 กิโลเมตร วงเงิน 2,939 ล้านบาทและโครงการติดตั้งเครื่องกั้นเสมอระดับและปรับปรุงเครื่องกั้น 105 แห่งวงเงิน 195 ล้านบาท อีกทั้งยังอนุมัติให้ปรับปรุงทางที่ไม่ปลอดภัยในสายทางที่ยังไม่ได้รับจัดสรรแหล่งเงินลงทุน 8 สายทาง 849 กิโลเมตร วงเงิน 8,874 ล้านบาทโดยให้ใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศผ่านสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง


“รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญต่อการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับการเร่งเพิ่มบทบาทค่าโดยสาร แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงาน โดยจะเร่งเสริมศักยภาพให้องค์กรเกิดความเข้มแข็งมากขึ้น จะเร่งคัดดรีมที่มีอุดมการณ์การมีส่วนร่วม เร่งแก้ไขปัญหาภาระหนี้บำนาญ พร้อมกับจะเร่งหารายได้มาโป๊ะหนี้บำเหน็จบำนาญ พร้อมกับเร่งรัดให้ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยไปดูเรื่องราคากลางว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ และเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมามีโอกาสแข่งขันได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า 12 สายทาง”

ดร.ชัชชาติกล่าวอีกว่าล่าสุดมีโอกาสได้ไปนำเสนอแผนการลงทุนที่นิวยอร์ค ประเทศอังกฤษวงเงินสูงกว่า 66 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯในระยะเวลา 7 ปีซึ่งถือเป็นการลงทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมประเทศจริงๆด้วยการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่ออนาคตประเทศ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า 10 สาย ระยะทาง 410 กิโลเมตรโดยเชื่อว่าระยะเวลาประมาณ 7-8 ปีจะสามารถพลิกโฉมประเทศไทยได้ โดยพบอีกว่าอังกฤษลงทุนในประเทศไทยผ่านตลาดหุ้นมากถึง 34% จึงเร่งแนะนำต่างประเทศให้มาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนด้านระบบรางด้วยการเชิญชวนภาคเอกชนมาเสนอไอเดียแก่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดซึ่งกันและกัน

“ในการประชุมผู้บริหารระดับกระทรวงทุกเดือนจะเรียนเชิญภาคเอกชนเข้ามาร่วมเสนอแนะแลกเปลี่ยนแนวคิดมากขึ้น ทั้งทางน้ำทางบกว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งล่าสุดยังได้แต่งตั้งรศ.ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์ อธิการบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและอีกหลายๆท่าน มาร่วมเป็นคณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟซึ่งจะจัดประชุมทุกเดือนในวันจันทร์แรกของเดือนเช่นเดียวกับรถไฟสายสีแดง และโครงการสายอื่นๆที่จะเร่งรัดต่อไป”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46905
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/11/2012 11:08 pm    Post subject: Reply with quote

ประกาศศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง เชิญชวนเสนอราคาจ้างจัดทำหนังสือฉบับพิเศษเพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กร
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ปส./3576/2555

ด้วยกองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะว่าจ้างเอกชนจัดทำหนังสือฉบับพิเศษเพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรของการรถไฟฯ

ผู้ยื่นเสนอต้องจัดทำรายละเอียดรูปแบบหนังสือ ตามรายละเอียด ดังนี้
1. ขนาดกว้าง 9 นิ้ว สูง 8.5 นิ้ว
2. ปกกระดาษอาร์ตการ์ด 230 แกรม พิมพ์ 4 สี มีปีกปกข้างละ 44 นิ้ว เคลือบ PVC ด้านและหรือเคลือบ SPOT UV เฉพาะจุด และหรือ สีพิเศษ
3. เนื้อในพิมพ์กระดาษอาร์ตมัน 100 แกรม พิมพ์ 4 สี 232 หน้า
4. เข้าเล่มแบบเย็บกี่ไสกาว
5. รวมจัดทำต้นฉบับ ออกแบบจัดทำรูปเล่ม ค่าเดินทาง ค่าภาพ ค่าประสานงานการผลิต
6. จำนวนพิมพ์ 3,000 เล่ม

ราคากลาง 2,000,000.00 บาท


ประกาศ ณ วันที่ 23 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

( ลงนาม ) นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ
( นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ )
ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43745
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2012 10:45 am    Post subject: Reply with quote

ประภัสร์จ่อฟ้อง'นคร' หมิ่นไร้คุณสมบัติผู้ว่าการ รฟท.
หน้าหลักเศรษฐกิจ
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
26 พฤศจิกายน 2555, 22:11 น.

'ประภัสร์' จ่อฟ้องกลับ 'นคร' ส.ส. พรรค ปชป. ข้อหาหมิ่นประมาท หลังโดนอภิปรายพาดพิงในสภาผู้แทนราษฎรว่าขาดคุณสมบัติการลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. ...

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีถูก นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายพาดพิงในสภาผู้แทนราษฎรว่า ขาดคุณสมบัติการลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายนครในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยที่ตนไม่มีโอกาสได้ชี้แจงกับสภาฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขอเทปการอภิปรายและข้อมูลต่างๆ จากสภาฯ เพื่อนำมาประกอบการดำเนินคดี

ทั้งนี้ นายนครได้อภิปรายแบบบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างมหาศาล โดยกล่าวหาว่าตนมีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งขัดต่อคุณสมบัติการลงสมัคร ซึ่งเป็นการโกหก เนื่องจากตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคมนาคม ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.2555 ซึ่งนายกฯ ได้ลงนามและมีผลทันที จากนั้นจึงมาลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. และเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2555 ซึ่งเป็นระยะเวลาห่างกันถึง 6 เดือน

นอกจากนี้ ตามกฎหมายการรถไฟก็ไม่ได้มีการะบุ หรือกำหนดว่าผู้สมัครจะต้องพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองมาอย่างน้อยกี่ปี จึงจะสมัครเข้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท.ได้ ดังนั้น ตนไม่ได้ทำผิดกฎหมายและขาดคุณสมบัติอะไร รวมทั้งยังไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดมาก่อน แม้ว่าจะเคยลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงเทพมหานครมาก่อนหน้านี้แล้ว.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46905
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/11/2012 5:39 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดรถไฟสายโอทอป กทม.-หัวหิน
โพสต์ทูเดย์ 27 พฤศจิกายน 2555 เวลา 17:24 น.

Click on the image for full size

ททท.ทดลองเดินขบวนรถไฟสายท่องเที่ยวและสินค้า โอทอป เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน

น.ส.พสิษฐ์ตา อินทร์พันธ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน ประจวบคีรีขันธ์ ได้นำคณะสื่อ และเจ้าหน้าที่ ททท.ทำการทดลองนั่งรถไฟสายท่องเที่ยว-สินค้าโอทอป กรุงเทพฯ-หัวหิน โดยเดินทางมาถึงหัวหินในเวลา 14.45 น.

น.ส.พสิษฐ์ตา กล่าวว่า โปรแกรมการเดินทาง โครงการ“ส่งเสริมการท่องเที่ยวรถไฟ OTOP” เส้นทางกรุงเทพฯ – หัวหิน ทริป 2 วัน 1 คืน กำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ ขณะนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เพียงแต่รอกำหนดการที่จะให้นายกรัฐมนตรี เดินทาง มาเปิดอย่างเป็นทางการเท่านั้น

ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสร้างกระแสนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟและเพิ่มช่องทางกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวผนวกกับสินค้าโอทอปสู่ภาคอุตสาหกรรมและท้องถิ่นโดยตลอดเส้นทาง ของการเดินทางมาหัวหิน นั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศความคลาสสิคของหัวหิน ตั้งแต่การบริการ วัสดุ อุปกรณ์ของใช้ และเครื่องตกแต่งภายในขบวนรถไฟที่มีการปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายใน

นอกจากนี้ยังมีการนำสินค้าโอทอปของจ.ประจวบคีรีขันธ์ มาปรับใช้ พร้อมกันนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับประทาน อาหารและขนมระดับโอทอปของจ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี ที่มีบริการนักท่องเที่ยวระหว่าง เดินทาง เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงใน อ.หัวหิน อาทิ เพลินวาน ตลาดน้ำสามพัน นาม สักการะหลวงปูทวดวัดห้วยมงคล ฯลฯ และเลือกซื้อสินค้าโอทอป ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ คาดว่าโครงการนี้จะช่วยปลุกกระแสนิยมการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟมากยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 184, 185, 186 ... 486, 487, 488  Next
Page 185 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©