View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/12/2012 11:23 am Post subject: |
|
|
ผู้ว่าฯ รฟท.นำคณะติดตามปัญหาไฟใต้สร้างขวัญกำลังใจพนักงาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ธันวาคม 2555 11:07 น.
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯ รฟท.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์รถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมมอบเครื่องยังชีพเป็นกำลังใจให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติในพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ถึงสุไหงโก-ลก
วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 08.00 น. นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย นายสาวิตร แก้วหวาน ประธานสหภาพพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การให้บริการรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถไฟในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับขึ้นรถไฟเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมอบเครื่องยังชีพให้กับพนักงานรถไฟและเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ตั้งแต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา จนถึงสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ
ทั้งนี้ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การให้บริการรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการประสานงานกับกองกำลังและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเกิดความปลอดภัยสูงสุด ทั้งเส้นทางรถไฟ ขบวนรถ พนักงานรถไฟและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งประชาชนที่ใช้บริการรถไฟ โดยภาพรวมขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจแต่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนการพัฒนารถไฟเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนนั้น จะมีการสร้างรถไฟรางคู่ ปรับปรุงราง และจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ เพื่อรองรับการเดินทางเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/12/2012 12:07 pm Post subject: |
|
|
'ประภัสร์' ลั่นขอ 3 ปี รถไฟไทยล้างภาพลบ 'ถึงก็ช่าง...ไม่ถึงก็ช่าง'
คมชัดลึก 17 ธ.ค. 55 ณัฎฐ์ชิตา เกิดแดง ... รายงาน
การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือร.ฟ.ท. รัฐวิสาหกิจที่มีอายุยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งหรือเกือบ 120 ปี แต่ที่ผ่านมากลับถูกมองว่ามีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างน้อยมากทั้งในแง่การให้บริการและการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงสถานะที่ขาดทุนเรื้อรังจนถูกมองภาพลักษณ์ไปในทางลบ และถูกประเทศเพื่อนบ้านทิ้งห่างเรื่องของระบบขนส่งทางรางอย่างมาก มาวันนี้ร.ฟ.ท.มีผู้ขับเคลื่อนองค์กรคนใหม่ นายประภัสร์ จงสงวน ที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ยังไม่ครบเดือนดี ที่สำคัญเคยมีประสบการณ์การทำงานที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม. มาก่อน จึงย่อมถูกจับตามองว่าจะเป็นหัวขบวนของรถไฟนำพาองค์กรไปในทิศทางใด ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจกับ "คม ชัด ลึก" ถึงแผนงานและเป้าหมายการทำงานในอนาคต โดยยืนยันว่าภายใน 3 ปีจะทำให้ร.ฟ.ท.กลับมาเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเหมือนในอดีตให้จงได้
3 ปีเร่งลงทุนปรับโฉมให้บริการ
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการร.ฟ.ท. ยอมรับว่าปัญหาใหญ่และถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขของรถไฟคือเรื่องการให้บริการที่ยังไม่ค่อยน่าประทับใจ เพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งรถไฟมาตั้งแต่สมัยรัฐกาลที่ 5 จนถึงขณะนี้เกือบ 120 ปี แต่ดูเหมือนเกินครึ่งหนึ่งของช่วงเวลาดังกล่าวที่รถไฟเหมือนถูกละเลย ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายและเและเรื่องของคนที่ทำให้รถไฟมีปัญหาสะสมมายาวนาน สิ่งที่รถไฟแทบไม่ได้ทำเลยในช่วงที่ผ่านมาคือการซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ ทำให้ระบบรางมีปัญหาหรือหัวรถจักรแทบจะไม่ได้ซื้อใหม่ ที่ใช้งานอยู่ก็มีอายุเยอะบางหัว 30 ปีบางหัว 50 ปี และใช้งานหนักมากทำให้ต้องวิ่งไปซ่อมไปและเสียบ่อยครั้ง สงผลกระทบต่อการให้บริการที่ต้องล่าช้าเป็นประจำ
ดังนั้นความจำเป็นเร่งด่วนคือต้องเร่งปรับปรุงการให้บริการพื้นฐานดังกล่าว ทั้งการจัดหาหัวรถจักร ขบวนรถ แคร่บรรทุกสินค้าเพิ่ม รวมถึงการปรับการเดินรถให้เป็นระบบรางคู่เพื่อสะดวกในการสวนกัน เนื่องจากที่ผ่านมาต้องเสียเวลารอสับหลีกรางรถไฟ หากรถขบวนใดขบวนหนึ่งมาถึงช้าก็ต้องรอกันทำให้ยิ่งล่าช้าไปจากเดิม เพราะเรื่องความปลอดภัยเองก็สำคัญที่สุด หากรางไม่ดีก็ต้องใช้ความเร็วต่ำ ทำให้ปัจจุบันรถไฟใช้ความเร็วอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในอนาคตก็อาจเห็นวิ่งได้ในความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะทำให้รถไฟวิ่งได้ตรงเวลา
"ระบบรางทั่วโลกเป็นรางคู่ทำให้รถไฟสามารถวิ่งได้ตรงเวลา เพราะสามารถควบคุมเวลาได้ รางคู่ทำไห้ไม่ต้องสับหลีกกัน รถไฟไทยจริงๆ แล้วส่วนใหญ่ออกจากสถานีตรงเวลา แต่ไปถึงสถานีปลายทางไม่เคยตรงเวลา เพราะต้องรอสับหลีกที่ว่าแล้ว หากหัวรถจักรเสียก็ยิ่งล่าช้าไปกันใหญ่ หากไทยมีรางคู่เชื่อว่ารถไฟจะวิ่งให้บริการได้ตรงต่อเวลาอย่างแน่นอน"
นายประภัสร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารถไฟเคยได้รับอนุมัติกรอบการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางและการจัดซื้อหัวรถจักรต่างๆ ไว้แล้วภายในวงเงิน 1.7 แสนล้านบาทระยะเวลา 7 ปี แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการเดินหน้าโครงการมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนโยบายปรับเปลี่ยนไปมา แต่ปัจจุบันรัฐบาลได้มอบหมายให้รถไฟเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนดังกล่าว หากเป็นไปได้ก็จะดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 ปีเพราะหากรออีก 7 ปีคงไม่ทันการณ์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในปี 2558 ที่จะมีการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีนั้น หากไทยยังไม่เร่งพัฒนาระบบขนส่งทางรางอาจจะเสียโอกาสและเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านได้ หลังจากนี้จึงจะเร่งเปิดให้มีการประมูลและเซ็นสัญญาได้ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้เพื่อลงมือก่อสร้างรางคู่ให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องเงินคงไม่มีปัญหากระทรวงการคลังและรัฐบาลพร้อมจัดหามาให้อยู่แล้ว
นอกจากการเร่งลงทุนระบบรางแล้ว ก็จะจัดหาขบวนรถเพิ่มอีก 9 ขบวน 115 โบกี้ หัวรถจักรอีก 50 หัวจากที่มีใช้งานในปัจจุบัน 100 หัว รวมถึงแคร่บรรทุกสินค้าอีกหลายร้อยตัว เพราะต่อไปนอกจากการขนคนแล้วยังเน้นใช้ในการขนส่งสินค้าด้วย หากการลงทุนสำเร็จตามแผนที่วางไว้ 3 ปีก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวไปสู่การเปลี่ยนจากใช้ดีเซลไปเป็นใช้ไฟฟ้าได้ในอนาคต ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอีกมหาศาลและต้องดูแหล่งพลังงานไฟฟ้าว่าเพียงพอหรือไม่ เพราะหากขยายจากรถไฟฟ้าในเมืองไปชานเมืองหรือต่างจังหวัดและหัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีปัญหาจราจรคงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมาหารือกัน
ระบบรางมาแรงพร้อมลุยรถไฟฟ้า
นอกจากการลงทุนตามแผนเดิมดังกล่าวแล้ว ในอนาคตรถไฟยังต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาทระยะ 7 ปีด้วย โดยในแผนงานดังกล่าวจะมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับขนส่งระบบรางประมาณ 65% โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 3-4 แสนล้านบาท เส้นกรุงเทพฯ-หนองคาย ใช้เงินลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท ยังมีเส้นกรุงเทพฯ-ระยอง และกรุงเทพฯ-หัวหินอีก รวม 4 เส้นทางน่าจะใช้เงินเกินครึ่งหรือ 1 ล้านล้านบาทแล้ว ยังไม่รวมเส้นทางรถไฟรางคู่จากชุมพรไปถึงปาดังเบซาร์ของมาเลเซีย และจากเชียงใหม่ไปเชียงราย หรือเส้นทางอื่นๆ เพื่อขยายการให้บริการให้ครอบคลุมทุกจังหวัด เนื่องจากขณะนี้มีรถไฟวิ่งไปได้ถึงเพียง 47 จังหวัดของประเทศไทยเท่านั้น หรือมีระยะทางประมาณ 4 พันกิโลเมตร เพิ่มขึ้นมาจากเดิมพันกิโลเมตรถือว่าน้อยมากๆ
นายประภัสร์ ยืนยันว่า การลงทุนระบบรางทำแล้วมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องใช้เงินลงทุนสูงอยู่บ้าง โดยจากผลศึกษาพบว่าจะช่วยให้มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทุกฝ่ายยอมรับ จึงมีแนวคิดว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดกว้างให้รถไฟนำผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาลงบัญชีเพื่อหักลบกับเงินลงทุนดังกล่าวเพื่อจะได้ทำให้บัญชีของการรถไฟดูดีขึ้นไม่ใช่มีตัวเลขแดงหรือขาดทุนมาตลอด แต่ไม่แน่ใจว่าแนวคิดนี้จะได้รับการสนับสนุนหรือไม่
"ที่ผ่านมาเงินพร้อมแต่งานไม่เดิน ก็ไม่อยากให้โทษที่คนหรือพนักงานของรถไฟ เพราะการทำงานขึ้นอยู่กับหลายส่วน โดยเฉพาะนโยบายหากไม่มีความชัดเจนก็ทำให้งานไม่เดิน ก่อนหน้านี้ผมเองก็ไม่แน่ใจนโยบาย แต่มาตอนนี้มั่นใจว่ารัฐบาลผลักดันการพัฒนาและลงทุนระบบขนส่งทางราง 100% หลังจากนี้จึงน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของรถไฟและพลิกโฉมไปในทางที่ดีขึ้นเทียบกับก่อนหน้านี้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ไม่เคยพูดถึงการพัฒนาระบบขนส่งทางรางแต่เน้นการลงทุนสร้างถนนรองรับการลงทุนผลิตรถยนต์จากบริษัทญี่ปุ่นที่แห่เข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมากแทน"
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลหันมาให้ควาสำคัญกับขนส่งทางราง ส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และไม่น้อยหน้าประเทศเพื่อนบ้าน ที่สำคัญทุกประเทศก็หันมาให้ความสำคัญกับขนส่งทางรางมากขึ้น ทั้งจีน ญี่ปุ่น หรือสหรัฐ เพราะการใช้รถยนต์หรือขนส่งทางถนนมีต้นทุนสูงจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ และนับวันจะหมดไป ที่สำคัญโครงการขนาดใหญ่ระดับล้านล้านบาทนี้รัฐบาลก็คงกำลังดูว่ารถไฟจะมีความพร้อมในการทำโครงการด้วยหรือไม่
เชื่อพนักงานรถไฟมีศักยภาพสูง
นายประภัสร์ให้ความเห็นเรื่องความพร้อมของร.ฟ.ท.ในการรองรับการเปลี่ยนเปลงขนาดใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าพนักงานของรถไฟไม่มีความพร้อมจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลง แต่จริงๆ แล้วที่สัมผัสกับคนรถไฟมาเกือบหนึ่งเดือนรู้สึกว่าทุกคนรักองค์กร และมีคนเก่งอยู่จำนวนมาก เพราะสมัยก่อนคนที่เข้าทำงานรถไฟได้ต้องเป็นคนเก่ง มีความเชี่ยวชาญพิเศษ จึงค่อนข้างเป็นงานที่เกียรติ มีหน้ามีตา แต่ที่ผ่านมานโยบายทำให้คนรถไฟไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ หรือการนำเสนอข่าวออกไปทางลบต่อเนื่องจนคนเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ต่อไปเชื่อว่าทุกคนจะทุ่มเททำงานเพื่อให้การรถไฟกลับมาเป็นองค์กรที่ส้รางความภาคภูมิใจเหมือนที่เรามีรถไฟวิ่งวันแรก ซึ่งในวันนั้นเราถือเป็นประเทศแรกหรือเบอร์หนึ่งในเอเชียที่มีรถไฟวิ่งและมีการเริ่มต้นในเวลาเดียวกับญี่ปุ่น แต่ตอนนี้เราถูกแซงไปเกือบหมดแล้ว
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการที่รถไฟมีบัญชีติดลบหรือขาดทุนมาตลอดก็อาจจะทำให้พนักงานรถไฟเสียกำลังใจไปบ้าง หากต่อไปมีการปรับการลงบัญชีใหม่ให้เอาการลงทุนที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมาหักลบกลบหนี้จากการลงทุนก็น่าจะทำให้ตัวเลขทางบัญชีของรถไฟมีโอกาสเป็นบวกบ้าง ส่วนเงินที่ใช้ไปก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะตั้งงบประมาณมาชำระคืนแต่ยืนยันว่ารถไฟมีหน้าที่ให้บริการพื้นฐานแก่ประชาชนจะไม่มีการเก็บค่าโดยสารหรือค่าบริการขนส่งสินค้าที่สูงเกินเหตุ ขอเพียงไม่ให้เป็นภาระแก่งบประมาณในระยะยาวก็เพียงพอแล้ว
สำหรับในปัจจุบัน รถไฟมีจำนวนรถวิ่งให้บริการที่ 240 ขบวนต่อวัน เป็นการให้บริการเชิงพาณิชย์หรือเก็บค่าโดยสารในระดับที่เลี้ยงตัวเองได้ 76 ขบวน ที่เหลือ 164 ขบวนเป็นการให้บริการเชิงสังคมหรือเก็บค่าโดยสารถูกหรือให้บริการฟรีตามนโยบายของรัฐบาลที่จะให้เป็นนโยบายถาวรต่อเนื่องไปในอนาคต
"จากจำนวนรถที่วิ่งในปัจจุบันหากคำนวณรายจ่ายและรายได้ต่อวันแล้วถือว่าไม่ขาดทุน แต่หากรวมภาระค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนอื่นๆ รวมถึงการจ่ายเงินบำนาญให้พนักงานรถไฟรุ่นเก่าๆ ก็จะเป็นผลให้มีรายจ่ายสูงกว่ารายได้และตัวเลขติดลบสะสมไปเรื่อยๆ โดยขณะนี้มีหนี้สินสะสมประมาณ 9 หมื่นล้านบาทก็หน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวงการคลังจะเข้ามาจัดการกับปัญหาที่ผ่านมา เพราะพนักงานเก่าๆ ทำงานช่วงที่รถไฟเป็นหน่วยงานราชการก็ควรจะได้รับบำนาญต่อไป"
นายประภัสร์ ยืนยันว่า รถไฟมีความพร้อมจะเดินหน้าในทุกโครงการ ที่ผ่านมาที่รถไฟถูกมองว่าไม่พร้อมคงต้องโทษผู้บริหารในช่วงนั้นๆ ว่าขาดจุดยืน ขาดหลักการที่ถูกต้อง ทำให้งานเขวไปบ้าง ขณะที่พนักงานเป็นผู้รับคำสั่ง ในอนาคตก็คาดหวังว่าจะแก้ภาพลักษณ์ในทางลบไปได้ ระหว่างนี้ก็ต้องเร่งสร้างภาพที่ดีทั้งการให้บริการและอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาดของสถานี ห้องน้ำในขบวนรถ การปรับปรุงซ่อมแซมทาสีรถไฟให้น่าใช้บริการ เป็นต้น ส่วนในอนาคตก็มีแผนจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่อีก 2 พันคนซึ่งได้รับอนุมัติมาแล้วหลังจากที่ไม่เคยเพิ่มมาเป็นเวลานาน โดยปัจจุบันมีพนักงานรถไฟทั่วประเทศประมาณ 1 หมื่นคน จากที่ต้องใช้จริงๆ 1.8 หมื่นคนจึงจะเพียงพอให้บริการ
รับบุกรุกที่แก้ยากการเมืองเอี่ยว
ส่วนงานอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับรถไฟก็มีเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีแดงที่หลังจากนี้ตนจะเร่งให้โครงการเดินหน้าโดยเร็ว หลังจากล่าช้ามานาน 2 ปี โดยส่วนของสัญญา 1 ได้ลงนามในสัญญาไปแล้ว สัญญา 2 ก็เดินหน้าไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงสัญญา 3 ที่น่าจะได้ข้อยุติในเร็วๆ นี้ การที่เส้นบางซื่อ-รังสิตไม่เกิดขึ้นทำให้การเชื่อมต่อกับเส้นตลิ่งชันไม่สามารถทำได้ และต้องนำรถดีเซลไปทดลองวิ่งก่อน ซึ่งจะมีการประเมินผลว่ามีใช้บริการของประชาชนมากน้อยแค่ไหนต่อไป ส่วนเรื่องของแอร์พอร์ตลิงค์ที่ยังมีปัญหาในการให้บริการและขาดทุนอยู่นั้น ยอมรับว่ามีปัญหาตั้งแต่เชิงโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาไม่เหมาะสมในการให้บริการ ทั้งลิฟต์ที่เล็กไป บันไดเลื่อนที่แคบและไม่มีที่จอดรถไว้บริการ จึงเป็นสาเหตุให้คนมาใช้บริการน้อย สิ่งที่ทำได้คือต้องติดตั้งลิฟต์ขนาดใหญ่เพิ่มเติม และลงทุนซื้อขบวนรถเพิ่มซึ่งก็ต้องใช้งบอีกจำนวนไม่น้อย
สำหรับที่ดินของการรถไฟที่มีคนพูดถึงกันมากนั้น จากจำนวนที่มีอยู่ประมาณแสนกว่าไร่ใน 47 จังหวัดนั้นมีที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ได้น้อยมาก และส่วนใหญ่ก็จะถูกบุกรุกเช่นในพื้นที่กทม. และหากเข้าไปดูจะเห็นว่าการบุกรุกดังกล่าวทำได้เพราะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะมีน้ำมีไฟ และมีเลขที่บ้านได้อย่างไร ตรงนี้จึงอยากให้มีการพูดความจริงกัน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากเห็นคือการนำที่ดินของรถไฟมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจริง โดยเล็งที่ดินบริเวณมักกะสันไว้เพราะไม่มีการบุกรุกและน่าจะทำโครงการขนาดใหญ่ได้ง่าย โดยอยากจะให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ มีทั้งโรงแรม ช็อปปิ้งมอลล์ ซึ่งคงต้องหารือกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และภาคเอกชนเพื่อประเมินการลงทุน คาดว่าน่าจะใช้เงิน 4-5 หมื่นล้านบาท หากให้เอกชนเข้ามาลทุนก็ต้องสัญญาระยะยาวคุ้มค่าการลงทุนด้วย แต่ก็อาจจะถูกคัดค้านอีก
"การทำโครงการต่างๆ ของภาครัฐมักจะเดินไปได้ช้า เทียบกับโครงการของเอกชนที่ไปได้เร็วมาก จึงน่าเสียดายโอกาสของประเทศไทยที่เสียไป หากทุกคนรักประเทศไทยก็อยากเห็นทุกคนหันมาร่วมมือกันทำมากกว่าพูดก็คงจะดี" นายประภัสร์กล่าวทิ้งท้าย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/12/2012 1:50 pm Post subject: |
|
|
คค.เผยเริ่มทดลองใช้ยางพาราทำถนนแล้ว
INN News วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 13:26น.
คมนาคม เผย กรมทางหลวงเริ่มใช้ยางพาราทดลองสร้างถนนทดสอบประสิทธิภาพแล้ว คาด ก.พ.ปีหน้ารู้ผล ส่วนหมอนรองรางรถไฟรอ มอก. รับรอง
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการนำยางพารา มาใช้ประโยชน์ในงานก่อสร้าง และบำรุงรักษาทางหลวง ทางพิเศษ และทางรถไฟ ได้มีการหารือถึงการนำยางพารามาใช้ ทั้งในการนำมาสร้างถนน และการทำเป็นหมอนยางรองรางรถไฟ ซึ่งในส่วนของถนน ทั้งกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ได้มีแผนทำการทดลองแล้ว โดยในส่วนของกรมทางหลวง จะทดลองในเส้นทาง ทล.305 ระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งจะมีการเปรียบเทียบระหว่าง การนำยางพารามาเป็นส่วนผสม กับ การทำถนนด้วยวิธีปกติ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ผลการทดลองจะแล้วเสร็จประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ 2556 ส่วนของกรมทางหลวงชนบท ได้มีการทดลองกับถนน ที่ จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 16 กิโลเมตร และสำหรับการทำหมอนยางรองรางรถไฟจากยางพารานั้น ในปัจจุบันได้มีการนำมาใช้บ้างแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการรับรองจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม จากการทดลองนำยางพารามาทำถนนแล้วเสร็จ จะต้องมีการพิจารณาถึงประสิทธิภาพ งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ มาตรการรองรับราคายางที่ไม่มีความเสถียรภาพ และผู้รับเหมาที่ต้องมีความความรู้ในการผสมยางพารา |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 17/12/2012 2:12 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | คค.เผยเริ่มทดลองใช้ยางพาราทำถนนแล้ว
INN News วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2555 13:26น.
คมนาคม เผย กรมทางหลวงเริ่มใช้ยางพาราทดลองสร้างถนนทดสอบประสิทธิภาพแล้ว คาด ก.พ.ปีหน้ารู้ผล ส่วนหมอนรองรางรถไฟรอ มอก. รับรอง
ฯลฯ
และสำหรับการทำหมอนยางรองรางรถไฟจากยางพารานั้น ในปัจจุบันได้มีการนำมาใช้บ้างแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการรับรองจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
ฯลฯ
|
พอจะมีข่าวไหม ครับ ว่าใช้งาน ที่ไหนบ้าง อยากเห็นโฉมหน้า หมอนรองรางรถไฟจากยางพารา ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/12/2012 4:23 pm Post subject: |
|
|
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ถ้ายังไม่ได้ มอก. คงจะยังไม่นำมาใช้จริงกระมังครับ
อยากเห็นเหมือนกัน เหตุใดในข่าวถึงบอกว่านำมาใช้บ้างแล้ว |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/12/2012 3:18 pm Post subject: |
|
|
ถ้าเห็นมีที่สถานีไหน อย่าลืมเก็บภาพมาให้ชมกันบ้างนะครับ หมอนยางพารา
ที่บ้านผมมีแต่"ที่นอนยางพารา" ครับ
----
นายกรัฐมนตรี สั่ง TCDC ออกแบบ ปิ่นโต สำหรับการบริการบนขบวนรถไฟความเร็วสูง
รัฐบาลไทย 18 ธ.ค. 55
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ริเริ่มแนวคิดยกระดับสินค้าโอท็อปไทย หวังเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย สร้างรายได้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่นและเพิ่มโอกาสทางการค้าแก่ผู้ประกอบการไทย
วันนี้ (18 ธ.ค.55) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) พัฒนา Thai Pinto (ไทยปิ่นโต) คัดเลือกและปรุงจากวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่น พัฒนาให้มีความสวยงามเป็น ชุดอาหารว่างพร้อมรับประทาน ให้มีความสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตสมัยใหม่ กำหนดวางจำหน่าย ณ สถานีรถไฟและบนรถไฟทั้ง 5 เส้นทางทั่วประเทศ
รัฐบาลไทย โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งในระบบรถและราง เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงภายในภูมิภาค(Connectivity) โดยเดินหน้าลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงใน 5 เส้นทาง เชื่อมต่อทั้งภายในและนอกประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนระบบการขนส่ง กระตุ้นการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ขยายโอกาสและลู่ทางการค้าสำหรับชุมชนและผู้ประกอบการไทย ดำเนินควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าโอท็อปไทย โดยคัดเลือก ปิ่นโต ซึ่งเป็นภาชนะใส่อาหารที่อยู่คู่กับสังคมไทย นำมาปรับรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิดการสร้างมูลค่าและเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายให้กับอาหารท้องถิ่น โดยนำเมนูอาหารที่มีชื่อเสียงและเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น มาปรุงให้เป็นอาหารพร้อมทาน บรรจุในบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่มีการพัฒนาให้คงรสชาติความอร่อย ถูกสุขอนามัย มีความปลอดภัยในการขนส่ง ในรูปแบบอาหารกล่องสำหรับรับประทานระหว่างการเดินทาง คล้ายกับข้าวกล่องเบนโตะของญี่ปุ่น ที่ให้บริการบนรถไฟความเร็วสูงจะกำหนดให้มีการวางจำหน่าย ณ สถานีรถไฟและบนรถไฟทั้ง 5 เส้นทางทั่วประเทศ คือ สายเหนือ สายใต้ สายตะวันออก สายตะวันออกเฉียงเหนือ 1 และ 2
ระหว่างนี้ ประชาชนและผู้สนใจยังสามารถเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์อื่น ภายในงาน 1 ทศวรรษ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว OTOP City 2012 ระหว่างวันที่ 15-23 ธันวาคม 2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43745
Location: NECTEC
|
Posted: 20/12/2012 6:06 pm Post subject: |
|
|
^^^
แต่ก่อน ใช้ไม้ยางพาราทำหมอนรถไฟแต่ต้องไปผ่านกระบวนการอบด้วยน้ำเกลือและ น้ำมัน ผสมคลีโอโซต ครวนนี้ใช้ น้ำยามพารามาหล่อเป็นยางก้อน แต่ ถ้าไม่มี ลวดโลหะมาเสริมท่าจะไปไม่รอดนา |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43745
Location: NECTEC
|
Posted: 21/12/2012 9:51 am Post subject: |
|
|
หนุ่มใหญ่ผูกคอตายคาห้องน้ำบนรถไฟหัวลำโพง
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 20 ธันวาคม 2555 19:36 น.
ตำรวจ สน.นพวงศ์ รับแจ้งคนผูกคอตายในห้องน้ำในสถานีรถไฟหัวลำโพง
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 16.00 ร.ต.ต.จตุรงค์ ไสยโยธา พนักงานสอบสวน สน.นพวงศ์ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตผูกคอตายบนรถไฟ ภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่ สน.นพวงศ์ แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชานชาลาที่ 7 ภายในห้องน้ำบนรถไฟขบวนที่ 368 ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่พบศพนายดลบุณ ชมบุญฑริก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224/10 หมู่ 3 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง สภาพศพนั่งหลังพิงผนังห้องน้ำ ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม ใช้เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินผูกคอตัวเองกับตะขอแขวนผ้าในห้องน้ำ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จากการตรวจค้นภายในตัวไม่พบตั๋วรถไฟ มีเพียงกระดาษจดรายชื่อเพลงลูกทุ่ง 1 แผ่นเท่านั้น เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10-12 ชม.
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งมาจาก จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา และเข้ามาถึงสถานีหัวลำโพงเมื่อเวลา 14.30 น. โดยขบวนดังกล่าวจะวิ่งออกไปยัง จ.ลพบุรี อีกครั้งในเวลา 16.10 น. ระหว่างนั้นพนักงานห้ามล้อรถไฟขบวนดังกล่าวได้ขึ้นตรวจสอบความเรียบร้อยบนขบวน เมื่อเดินมาถึงห้องน้ำที่เกิดเหตุก็พบว่าประตูห้องน้ำถูกล็อกจากภายใน จึงเปิดหน้าต่างห้องน้ำด้านนอกขบวนก็พบผู้ตายใช้เสื้อเชิ้ตผูกคอตัวเองตายดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะผูกคอตายเอง โดยเตรียมเรียกญาติผู้ตายมาสอบปากคำหาสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายคิดสั้นฆ่าตัวตายต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43745
Location: NECTEC
|
Posted: 22/12/2012 7:27 pm Post subject: |
|
|
พลิก ร.ฟ.ท.6 เดือน เห็นผล ประภัสร์ สั่งรื้อ/เลิกเล่นการเมือง/รถไฟไฉไลแน่นอน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามธุรกิจ ฉบับ ๑๙-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕
ผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่ไฟแรง ลุยปรับปรุงกิจการรถไฟขนานใหญ่ ลั่นภายใน 6 เดือน ได้เห็นโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิมแน่นอน ทั้งภาพและบริการ เผยกำลังเร่งจัดหา หัวรถจักร โบกี้ ภายใน 2 ปี หวังเรียกความเชื่อมั่นคืนหลังคนเริ่มใช้บริการน้อยลง พร้อมคัดสรรพนักงานที่มีอุดมการณ์เดียวกันพัฒนารถไฟอย่างจริงจัง ย้ำคนรถไฟมีความสามารถ แต่ต้องเดินหน้าอย่างมืออาชีพ เลิกเลิ่นการเมือง เชื่อรถไฟไทยกระเตื้องแน่
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ว่า ภายใน 6 เดือนนี้ ตนจะเร่งปรับปรุงคุณภาพการบริการของรถไฟ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืนมา เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางโดยรถไฟขาดความเชื่อมั่นในความตรงต่อเวลา ทำให้ผู้โดยสารลดลงเรื่อยๆจากอดีตมีปริมาณผู้โดยสารโดยรวม ๕๔ ล้านคนต่อปี ลดเหลือเพียง ๔๕ ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ตนจึงอยากเรียกความเชื่อมั่นนั้นกลับคืนมาเหมือนในอดีต ทั้งนี้ สาเหตุที่การเดินทางด้วยระบบรถไฟไม่ตรงต่อเวลา เนื่องจากต้องรอสับหลีก และมีจุดตัดกับถนนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสภาพรถไฟที่เก่า และมีปจำนวนไม่เพียงพอต่อการให้บริการ
สำหรับการปรับปรุงการให้บริการ ขณะนี้ การรถไฟฯอยู่ระหว่างการทำแผนปรับปรุงการให้บริการ และความสะอาด โดยมีแผนที่จะล้างทำความสะอาด โดยมีแผนที่จะล้างทำความสะอาดรถทุกขบวน ขบวนไหนดูเก่าทรุดโทรม ก็จะมีการทาสีใหม่ให้สดใสสวยงามน่สดู เรียกว่าปรับโฉมทั้งภายในและภายนอกให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่การรถไฟฯสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรองบประมาณจากภาครัฐ และผู้โดยสารเองก็ต้องการได้รับบริการที่ดี สะอาด สะดวก โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เชื่อว่าไม่เกิน 6 เดือน จะเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ส่วนการปรับปรุงโครงสร้างรางให้มีความแข็งแรง การจัดหาหัวรถจักร ขบวนรถไฟ และแคร่สินค้า เพื่อที่จะนำมาให้บริการที่มีความตรงต่อเวลา ปลอดภัยและเพียงพอต่อการบริการนั้น โดยจะเร่งจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน ๒ ปี ซึ่งต้องขอให้กระทรวงการคลังสนับสนุนและประสานความร่วมมือในการจัดสรรงบประมาณ ตามกรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติไว้แล้ว ๑๗๖,๐๐๐ ล้านบาทตามแผน จึงจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายเช่นกัน
นายประภัสร์ กล่าวว่า กรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาม นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ หด้ให้นโยบายแก่ ร.ฟ.ท. ให้เตรียมพนักงานเพื่อที่จะเดินหน้าไปพร้อมกับรัฐบาลนั้น เบื้องต้นจะต้องสรรหาคนในองค์กรที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือ เร่งพัฒนาการรถไฟฯอย่างจริงจัง และมีความจริงใจที่จะร่วมกันพัฒนาจริงๆ แต่ต้องอยู่ใต้ธรรมาภิบาล คือ ความ โปร่งใส ซื่อสัตย์ ยุติธรรม และไม่ทุจริต ซึ่งเชื่อว่าคนรถไฟมีความสามารถเยอะ แต่ที่หมดไฟไป เนื่องจากไม่มีใครเคยเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง
อยากจะวางรากฐานการรถไฟฯให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป เพราะผมก็เหลือเวลาบริหารงานอีกไม่นาน ถ้าสามารถอยู่อย่างยั่งยืนได้ก็เป็นเรื่องที่ดีต่อประเทศไทย แต่ถ้าหมดยุคผมไปแล้วสถานการณ์กลับมาเหมือนเดิมประเทศก็เหมือนเดิม ซึ่งอย่าลืมว่ารถไฟเป็นดังเส้นเลือดใหญ่ของระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับระบบโลจิสติกส์มาก"
ส่วนความกังวลเรื่องสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯจะไม่เห็นด้วยนั้น ตนไม่เป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะว่าพนักงานการรถไฟฯทุกคนก็อยากให้องค์กรกลับไปมีหน้ามีตาเหมือนในอดีตที่รัชกาลที่ ๕ ทรงเคยสร้างเอาไว้ จนเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกๆคน แต่ระยะหลังมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรก และถูกดึงเข้าไปร่วมสถานการณ์ต่างๆจนบางครั้งต้องตกเป็นจำเลยของสังคม จนส่งผลด้านลบกลับมายังองค์กร
"พนักงานการรถไฟฯ ต้องไม่เข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองเหมือนในอดีต แต่ก็สามารถชื่นชอบตามอุดมการณ์ของตนเองได้เหมือนเดิม แต่ทุกอย่างต้องไม่นำองค์กรเข้าไปยุ่งด้วย เพราะองค์กรของเราต้องสร้างความเป็นมืออาชีพ ซึ่งไม่ใช่อาชีพการเมือง และอย่าลืมว่า รถไฟไทย มีประชาชนฝากความหวังไว้กับเราเยอะมาก" |
|
Back to top |
|
|
|