อยากทราบเรื่องของการรองรับความเร็วสำหรับราง 1 เมตรครับ

JackSkyline · Warning 3 (Final) Joined: 11/02/2013 Posts: 118

สำหรับราง 1 เมตร เรารู้กันดี ว่าทำความเร็วได้เกิน 120 ขึ้น แต่ไม่เกิน 160

เท่าที่ผมรู้มา หัวรถจักรในปัจจุบันวิ่งได้ 100
แล้ว ถ้าเป็น ดีเซลไฟฟ้า ล่ะครับ
สำหรับคำถามนะคับ

ข้อ 1. อยากทราบว่า ที่เปลี่ยนเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ ลงใน ฮิตาชิ ปู่จีอี จีอีเอ หรืออัลสตอม
ถ้าเปลี่ยนเครือ่งยนต์ใหม่ที่แรงกว่าเก่าล่ะคับ
ถ้าเครือ่งยนต์แรงม้าสูงกว่าเก่ามาก และเปลี่ยนไดนาโม จะทำให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้แรงเข้ามอเตอร์มากขึ้น ทำให้มอเตอร์ปั่นล้อวิงเร็วขึ้นไหมครับ

ข้อ 2. อย่างปัจจุบันนี้ อัลสตอมเปลี่ยนเครือ่งเป็น MTU ซึ่งแรงม้ามากขึ้นกว่าเก่า จะทำให้แรงกระแสไฟฟ้าขับเคลื่อนให้ออกตัวเร็วขึ้น ทำความเร็วได้มากขึ้้นหรือไม่ครับ

ข้อ 3. ผมสงสัยมาก สำหรับราง 1 เมตร เราก็รู้กันดีว่า ดีเซลราง หรือไม่ก็ EMU สามารถทำความเร็วได้เกิน 120 อยู่แล้ว แต่ว่าสำหรับ แคร่ล้อโบกี้ สามารถทำให้รองรับความเร็วที่เกิน 100 กม./ชม. เช่น 120 กม./ชม.ได้หรือไม่ครับ ถ้าเกิดจะทำขึ้นมา จะทำแคร่ล้อซัก 125 กม./ชม. ได้หรือไม่ครับ
เพราะในปัจจุบัน ยังเป็น 90 กม./ชม. และ 100 กม./ชม. เราทำให้ซัก 120-130 กม./ชม.ได้หรือไม่ครับ สำหรับราง1 เมตร ถ้าหัวรถจักรวิ่งได้ แต่โบกี้ปัจจุบันไม่รองรับ
สำหรับ ดีเซลราง ไม่ได้ห่วงเรื่องนี้เพราะทำความเร็วเกิน 120 ได้ดีอยู่แล้วครับ

nop2 · Posted: 15/02/2013 8:13 am Post subject:

1. การเปลี่ยนเครื่องใหม่ไม่ช่วยให้เร็วขึ้น เพราะ ระบบอื่นๆ ไม่ว่าจะมอเตอร์หรือโบกี้ยังรองรับแค่ 100
2. ไม่ได้เร็วขึ้นครับ
3. การเปลียนแคร่ช่วยให้เร็วขึ้นจริง แต่สภาพทางต้องรับรองด้วย เพราะหัวรถจักรมีน้ำหนักมากพอควร การจะวิ่งเร็วได้ ทางต้องดีจริง และที่สำคัญต้องไม่มีอะไรมาตัดหน้าด้วย

http://id.wikipedia.org/wiki/CC203 รถจักรรางแคบที่วิ่งได้ 150 เห็นว่าของแอฟิกาใต้กำลังจะมีวิ่ง 160
_________________
"You are star I am darkness Our love brighter than the sun .."

headtrack · Posted: 15/02/2013 3:10 pm Post subject:

ตามความเห็นผม.-
การเปลี่ยนเครื่องยนต์รถจักรมิได้มีเป้าประสงค์ว่าจะให้รถแรงขึ้น แต่เพราะต้องการรถที่สมบูรณ์ เพราะเครื่องยนต์เดิมเสื่อมสภาพไม่คุ้มที่จะซ่อมแซมต่อไป
เห็นได้ว่าเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาเปลี่ยนจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับของเดิม แม้ได้กำลังมากขึ้นก็ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถมีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงของเดิมได้
ตรงนี้สำคัญยิ่งเพราะจะได้พิจารณาว่าการนำเครื่องยนต์ใหม่เข้ามาเปลี่ยนจะต้องดัดแปลงรถอย่างไรบ้าง หากขนาดของเครื่องต่างจากเดิมก็ลองศึกษา
กรณีของรถจักร Alsthom เครื่องยนต์ Caterpilar น่ะครับ ยิ่งหากน้ำหนักต่างจากเดิมมากๆ ก็อาจต้องดัดแปลงโครงสร้างและแคร่ของรถด้วย
จึงเป็นคำตอบว่าทำไมไม่เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้แรงมากๆ ไปเลย เพราะเครื่องยนต์ที่แรงขึ้นย่อมใหญ่ขึ้นหนักขึ้น
อีกทั้งเครื่องยนต์ที่แรงขึ้นก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ กระทั่ง Traction Motor และในการเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ
ก็ต้องกลับมาพิจารณาว่าจะนำมาติดตั้งเข้าตำแหน่งบนรถได้หรือไม่อีกเช่นกัน
...
เครื่องยนต์ที่แรงไม่ได้หมายความว่ารถจักรจะทำความเร็วได้มากขึ้นหรือได้อัตราเร่งมากขึ้น มิฉะนั้น GEK ก็เร็วสู้ Alsthom ไม่ได้
และยิ่งอัตราเร่งมากเกินจำเป็นก็ล้อดิ้นเป็นผลให้เกิดการลดรอบเครื่องตามระบบป้องกันความเสียหายกับอุปกรณ์รถจักรเอง
...
เรื่องขนาดทางกับกำลังเร็วก็อย่างที่หลายๆ ท่านอธิบายน่ะครับ ต้องคำนึงถึงแคร่ ตัวรถ ระบบตอนอาณัติสัญญาณ ระยะห่างสถานี สภาพทาง รัศมีโค้ง
หากจะเปลี่ยนเพียงแคร่ใหม่ ทุกวันนี้ผมว่าค่าเปลี่ยนแคร่ใหม่ Metre Guage กับค่าพัฒนาระบบห้ามล้อ อาจแพงกว่ารถเดิมเราหักค่าเสื่อมไปแล้ว
คำว่า "ไม่คุ้มค่า" จึงตามมา
...
_________________

Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow

JackSkyline · Warning 3 (Final) Joined: 11/02/2013 Posts: 118

suraphat · Posted: 15/02/2013 5:48 pm Post subject:

นั่นสิ กระผมว่าหลายๆคนคงจะสงสัยในประเด็นนี้มานานแล้วนะครับ

แต่ก็อย่างว่า ละครับ เขาคงลืมนึกถึงปัจจัยต่างกันไปนะครับ กล่าวคือ หากนำเอาหัวรถจักรในแต่ละรุ่นมาวิ่งแข่งกันในการวิ่งตัวเปล่า ในทางตรงพร้อมๆกัน รถจักรคันที่มีแรงมากกว่า ก็ย่อมวิ่งได้ดีกว่านะครับ

อีกอย่างหนึ่งที่หลายๆคนไม่คยได้นึกถึงเลย ก็คือเรื่องของหน่วยลากจูงที่จำกัดในแต่ละช่วงนะครับ
เพราะเคยสังเกตุไหม เวลาเราไปดักดูขบวนรถไฟที่บางซื่อ เราจะเห็นขบวนรถสายใต้พ่วงเอาเสียยาวเลย(ราว 15-17 หลังได้) แต่พอมาดูขบวนรถสายเหนือ สายอีสาน ก็กลับมีรถที่วิ่งยาวจนสุดเส้นทางไปราว 10-13 หลังเท่านั้น โดยมี 2 - 3 หลังก็ถูกนำไปตัดออกในกลางทางก็มี (โดยมากตัดที่ลำปาง และศิลาอาสน์) ซึ่งเป็นที่นี้ก็เพราะต้องการลดหน่วยลากจูงที่มีอยู่ในเส้นทางให้น้อยที่สุดนะครับ นี่คือแค่ใช้หัวรถจักรหัวเดียวกันนะครับ ซึ่งหลายคนทำไมถึงไม่ได้ถามละครับที่จะให้ขบวนรถสายเหนือ สาบอีสาน พ่วงรถเข้าไปในจำนวนที่เท่ากับขบวนในเส้นทางสายใต้ละครับ

JackSkyline · Warning 3 (Final) Joined: 11/02/2013 Posts: 118

rimura · Posted: 17/02/2013 11:01 am Post subject:

ทำได้ครับ แต่จะออกมาอย่างไร สั่งซื้อหรือทำเอง ใครเป็นคนทำ งบประมาณ ความคุ้มค่าในการออกแบบ ดัดแปลง ทำมันขึ้นมา แค่อุปกรณ์ชิ้นเดียว ระบบเดียว มันว่ากันได้ 2-3 ปีก็ยังไม่จบก็มีครับในบ้านเรา

โดยส่วนตัวผมเองก็เคยได้ยินมาว่า แคร่ของรถ บนอป, บนทป รุ่นใหม่ๆ จริงแล้วสามารถรองรับความเร็วได้ถึง 120 - 140 กม./ชม.พอๆกับของรถดีเซลราง เพียงแต่อาจจะด้วยข้อจำกัดอย่าง สภาพทาง สภาพการลากจูง และความปลอดภัยในส่วนอื่นๆ อย่างที่หลายๆท่านได้กล่าวไป ณ ตอนนี้ ยังไม่มากพอที่จะ "ปลดล็อก" ให้ใช้ได้ถึงระดับนั้นครับ

milkonline · Posted: 17/02/2013 12:03 pm Post subject:

^นึกไปถึงสเป็คของรถจักร GE เก่า นะครับ ที่ความเร็วสูงสุด 102 กม/ชม. แต่กำหนดตามระเบียบของ รฟท. ไว้ที่90 กม/ชม.
_________________
N-Scale model train lovers.

JackSkyline · Warning 3 (Final) Joined: 11/02/2013 Posts: 118

Wisarut · Posted: 18/02/2013 8:18 am Post subject:

^^^
ทางยิ่งชันหน่วยลากจูงก็ยิ่งลดลง - ดูจากกรณีรถจักรทั้งสามแบบก็ได้
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=326
http://58.181.223.131/bb/Default.aspx?g=posts&t=6538

นี่คือกรณีหน่วยลากจูง รถ บทต.
http://58.181.223.131/bb/Default.aspx?g=posts&t=6571