ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

ศาลเลื่อนนัดพร้อมพนักงานรถไฟ ฟ้องหมิ่น “สรยุทธ” พาดพิงรถไฟตกรางที่ลำพูน

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 20 พฤษภาคม 2556 15:40 น.

ศาลเลื่อนนัดครั้งที่ 4 คดีพนักงานขับรถไฟ ฟ้องหมิ่น “สรยุทธ” พิธีกรเรื่องเล่าเช้านี้ หมิ่นฯใส่ร้ายเมาแล้วขับเหตุรถไฟตกรางที่ลำพูน ฝ่ายโจทก์แจงไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย แต่ขอให้แก้ข่าวให้ถูกต้อง

วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความคดีหมายเลขดำ อ.2928/2555 ที่ นายสมเกียรติ กิจโสภี พนักงานขับรถไฟ ประจำโรงรถจักรบางซื่อ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และ น.ส.พิชญทัฬน์ หรือ ไบร์ท จันทร์พุฒ สองพิธีกร “เรื่องเล่าเช้านี้” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2555 พิธีกรทั้งสองได้กล่าวถึงเหตุการณ์รถไฟขบวนรถด่วนนครพิงค์ ขบวนที่ 2 ตกรางเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2555 ที่ จ.ลำพูน ซึ่งกล่าวถึงพฤติการณ์ต่างๆ ที่น่าจะเป็นเหตุให้รถไฟตกราง ทำนองว่า คนขับหรือคนควบคุม ขับขบวนรถด้วยความเร็วสูงเต็มพิกัด หรือคนควบคุมประมาท หรือต้องการให้มีการตรวจสอบการดื่มสุราด้วย ซึ่งทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมรถขบวนดังกล่าว

โดยวันนี้ นายสมเกียรติ โจทก์ เดินทางมาพร้อมกับทนายความ ขณะที่ฝ่ายจำเลยคงมีเพียงทนายความเท่านั้นที่มาศาล

ขณะที่ นายสมนึก ทองคำดี ทนายความของนายสมเกียรติ โจทก์ เปิดเผยว่า การนัดพร้อมวันนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว หลังจากที่มีการยื่นฟ้อง ซึ่งศาลนัดพร้อมให้ 2 ฝ่ายได้พูดคุยเจรจากันก่อนที่จะเริ่มกระบวนการไต่สวนมูลฟ้อง โดยวันนี้ได้มีการกล่าวถึงรายงานบันทึกการสอบสวนเหตุรถไฟตกรางดังกล่าว ซึ่งฝ่ายโจทก์แจ้งศาลว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยได้บันทึกมาแล้ว โดยคดีนี้โจทก์ต้องการให้ฝ่ายจำเลยแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง โดยที่เราฟ้องไม่ได้เรียกค่าเสียหายใดๆ เลย ซึ่งศาลได้นัดพร้อมคู่ความอีกครั้งในวันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.หากพูดคุยกันก็ได้ ก็จะดำเนินการถอนฟ้องต่อไป แต่ขอให้อยู่บนเงื่อนไขการแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง

ด้าน นายสมเกียรติ โจทก์ กล่าวว่าก่อนที่จะฟ้องคดีนี้กลุ่มเพื่อนๆ พนักงานการรถไฟฯ ยังเคยร่วมลงชื่อเรียกร้องให้การอีกฝ่ายนำเสนอข่าวให้ถูกต้อง โดยผลการสอบสวนเหตุรถไฟตกรางก็ออกมาแล้วว่า พนักงานรถไฟไม่ได้บกพร่องต่อหน้าที่ โดยส่วนตัวต้องการให้มีการออกข่าวใหม่ให้ถูกต้อง เนื่องจากภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว ตนไม่เคยได้รับการประสานให้ไปออกรายการเพื่อชี้แจงแต่อย่างใด จึงอยากให้ดำเนินการเพื่อความถูกต้องต่อไป

[Wisarut]

[Wisarut]

[Mongwin]

ทอท.เร่งสุวรรณภูมิเฟส 2 ฟื้นดอนเมืองเต็มรูปแบบ เตรียมเปิดรถไฟขบวนพิเศษเชื่อม 2 สนามบิน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2556 20:52 น.

“คมนาคม”ยันกู้ลงทุน 2ลล. ยกระดับขนส่งไทยเป็นฮับ AEC ด้านทอท.เร่งสุวรรณภูมิเฟส 2 เสร็จปลายปี 59 พร้อมศึกษาเฟส 3,4 แบบคู่ขนาน ขณะเดียวเร่งฟื้นฟูดอนเมืองรับเที่ยวบินไม่จำกัด “พงศ์ศักติฐ์”เผยเตรียมให้บริการรถไฟขบวนพิเศษเชื่อมดอนเมือง-สุวรรณภูมิ หวั่นเปิด AEC กระทบคนทำงานเหตุปรับแนวคิดและวิธีทำงานไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ด้านผู้ประกอบการโลจิสติกส์แนะตั้งศูนย์พักรถ-รวมและกระจายสินค้าทุก 400 กม.

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง “Logistics and Transportation in time of Expansion”การเตรียมความพร้อมสำหรับประเทศไทย...เพื่อการขยายตัวด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ภายใต้โครงการ”วาระดิจิทัล รู้ทันโลก ร่วมเปิดไทย” ครั้งที่ 8 ซึ่งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สถาบันวิชาการกิจการนโยบายสาธารณะกับธุรกิจและการกำกับดูแลมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ร่วมกันจัดเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการขนส่งสำหรับนำไปเป็นแนวทางในการเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

โดยพล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า แม้ที่ตั้งประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยอยู่ในระดับต่ำ โดยมีงบลงทุนต่ำกว่า 25% ต่อเนื่องมากว่า 6 ปีแล้ว ทำให้ไทยมีต้นทุนการขนส่งสูง เสียเปรียบในการแข่งขันทางการค้า ดังนั้น จึงมีการทำแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. 2556-2563 วงเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต และรองรับการเข้าสู่ AEC ในปี 2558 โดยมีโครงการที่อยู่ในแผนการลงทุน แบ่งเป็นการลงทุนทางราง 82.92 % ทางถนน 14.47% ทางน้ำ 0.61% และด่านชายแดน 0.61 % เช่น โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โครงการรถไฟฟ้า 10 สาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โครงการขยายทางหลวง 4 ช่องจราจร โครงการก่อสร้างทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โครงการขยายโครงข่ายมอเตอร์เวย์ การพัฒนาท่าเรือชายฝั่งและการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบขนส่งแห่งภูมิภาคเอเชียต่อไป

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า การเปิดAEC จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง สิ่งที่กังวลคือคนทำงานในทุกภาคส่วนมีการปรับตัวให้ทันกับสิ่งท่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ทั้งวิธีคิดและวิธีการทำงาน ในส่วนของทอท.นั้น ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการโครงการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ 2 ให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคนเป็น 60 ล้านคนต่อปี วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 62,503 ล้านบาทโดยว่าจ้างบริษัทผู้ออกแบบแล้ว ใช้เวลาออกแบบ 10 เดือน หาผู้รับเหมาอีก 5 เดือนคาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จปลายปี 2559 และจะเริ่มทำแผนศึกษาการพัฒนาสุวรรณภูมิในเฟส 3,4 และรันเวย์ 3 และ 4 คู่ขนานไปพร้อมกันเพื่อเร่งขยายขีดความสามารถให้ทันกับการเติบโตของเที่ยวบินและผู้โดยสาร

ในขณะเดียวกันจะเร่งปรับปรุงท่าอากาศยานดอนเมืองให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) ซึ่งจะเสนอแผนให้บอร์ดทอท.พิจารณาในการประชุมวันที่ 29 พฤษภาคม โดยจะทยอยปรับปรุงเริ่มจากเทอร์มินอล 2 วงเงินประมาณ 2-3 พันล้านบาทก่อน ในขณะเดียวกันจะต้องประสานกับสายการบินต่างๆ ที่จะมาใช้บริการ ทั้งนี้ในส่วนของการให้บริการปัจจุบัน จะมีการปรับปรุงระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่าง 2 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ)เพื่อเพิ่มความสะดวกกับผู้โดยสาร เช่น เพิ่มรถให้บริการภายใน 1-2 เดือนและจัดรถไฟขบวนพิเศษให้บริการจากสถานีดอนเมือง-มักกะสัน-ทับช้าง และต่อรถยนต์เข้าสุวรรณภูมิ ซึ่งได้หารือกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แล้ว

“การลงทุน2 ลล.เน้นระบบรางเป็นหลักแต่ก็ถือเป็นระบบที่จะสนับสนุนกับทางอากาศไม่ได้แข่งขันกัน ในส่วนของทอท.ต้องมีการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านขนส่งทางอากาศให้ไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค ซึ่งต้องมีการลงทุนจำนวนมากโดยอยู่ระหว่างหาโมเดลเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ มาใช้ในการระดมเงินทั้งจากตลาดทุนและตลาดเงินรวมถึงหาพันธมิตรมาร่วมลงทุน เช่น ร่วมกับการบินไทยในการบริหารท่าอากาศยาน หรือร่วมกับพันธมิตรในอาเซียนบริหารท่าอากาศยานในอาเซียน เพื่อเพิ่มรายได้จาก Non Aero ให้เพิ่มมากกว่ารายได้จากเที่ยวบินและผู้โดยสาร”นายพงศ์ศักติฐ์กล่าว

ด้านนายเกริกกล้า สนธิมาศ ประธานสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย กล่าวว่า การลงทุน รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ในพ.ร.บ. 2 ล้านล้าจะประสบความสำเร็จจะต้องมีการจัดตั้งจุดพักรถบรรทุก ไอซีดี ศูนย์รวมและกระจายสินค้า รวมอยู่ในที่เดียวกันทุกๆ 400 กม.หรือกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งอยู่ตามแนวอาเซียนไฮเวย์ ที่จะมีรถขนส่งจากประเทศอาเซียนผ่านเข้ามา ทั้งนี้เพื่อบริหารจัดการด้านสินค้าอย่างเป็นระบบและเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยแล้วยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น ส่งเสริมการพัฒนาและแปรรูปสินค้าทางการเกษตรในแต่ละภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

[Wisarut]

มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ จัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ “Rolling Stock Technology Symposium” รองรับการคมนาคมระบบรางตามโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
ผู้สื่อข่าว : นภสร แก้วคำ(2) / สวท.
Rewriter : คณิต จินดาวรรณ / สวท. คณิต จินดาวรรณ / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
วันที่ข่าว : 16 พฤษภาคม 2556

มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ จัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ “Rolling Stock Technology Symposium” รองรับการคมนาคมระบบรางตามโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

รองศาสตราจารย์วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่่มีการผลิตหัวรถจักรเป็นของตนเอง เนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนด้านการคมนาคมระบบรางถึง 1 ล้าน 5 แสน 5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบจัดซื้อหัวรถจักรและระบบอาณัติสัญญาณประมาณร้อยละ 15-20 หรือประมาณ 2-3 แสนล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้เกิดการลงทุนที่คุ้มค่าและเหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อประเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ จึงได้จัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ “Rolling Stock Technology Symposium” ขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 พฤษภาคมนี้ โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน)รวมถึงบริษัทผู้ผลิตหัวรถจักรชั้นนำของโลก จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส แคนาดา สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีหัวรถจักรทุกประเภท

สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ ได้นำเสนอเทคโนโลยีหัวรถจักรที่ทันสมัย พร้อมทั้งเสนอแนวทางการเลือกหัวรถจักรที่เหมาะสม รวมถึงการตั้งโรงประกอบหัวรถจักรในประเทศไทยจะทำได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้จัดนิทรรศการหัวรถจักรเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการเลือกหัวรถจักรเมืองไทย ซึ่งอยู่ในงบ 2 ล้านล้านบาท จัดแสดงด้วย

[Mongwin]

ผงะ!ซ่อมรางรถไฟขุดเจอโครงกระดูกมนุษย์ 3 ศพ
เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2556 เวลา 15:55 น.

คนงานซ่อมรางรถไฟตะลึง ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ พร้อมเครื่องใช้ โบราณจำนวนมากฝังดิน คาดอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ร.ต.อ.ไพศาล อัยรา ร้อยเวร สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งจากคนงานที่ดำเนินการปรับปรุงรางรถไฟว่า ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ฝังอยู่ใต้ดินหลายศพ บริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไฟบ้านเกาะ บ้านตลาด หมู่ 3 ต.ตลาด จึงไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยฮุก 31 และแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา ที่เกิดเหตุพบคนงานรถไฟและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง กำลังรุมล้อมดูโครงกระดูกมนุษย์ สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ รวม 3 โครง และเศษกระดูกมนุษย์อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังขุดพบข้าวของเครื่องใช้โบราณจำนวนมาก อาทิ หม้อ ไห ลูกปัด และเศษเหรียญเงินโบราณ ซึ่งชาวบ้านที่ขุดพบต่างก็จุดธูปเทียนบูชา โดยบางรายได้มีการจุดธูปเพื่อขออนุญาตสิ่งเร้นลับนำกลับไปบูชาที่บ้าน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้าจะพบโครงกระดูก คนงานได้ใช้รถแบ็กโฮขุดดินเพื่อปรับปรุงสถานที่บริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไฟ และสังเกตพบโครงกระดูกมนุษย์ปะปนอยู่กับเศษดิน จึงช่วยกันสำรวจก็พบว่ามีโครงกระดูกมนุษย์ฝังอยู่ใต้ดินที่ความลึกประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งตอนแรกเกรงว่าจะเป็นศพที่ถูกฆาตกรรมแล้วนำมาฝังอำพรางคดี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ คาดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ มีอายุไม่ต่ำกว่า 100-200 ปี เนื่องจากในที่เกิดเหตุ นอกจากจะพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากแล้ว ยังมีสิ่งของเครื่องใช้โบราณ หม้อ ไห และเศษเหรียญโบราณอีกจำนวนหนึ่งฝังรวมอยู่ด้วย ส่วน นายรุ่งเพชร ขึงโพธิ์ กำนันตำบลบ้านโพธิ์ กล่าวว่า ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ต่างลงความเห็นว่า จะนำโครงกระดูกที่ขุดพบ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ โดยจะมีการตั้งสวดทำบุญให้ที่วัดโคกตลาด ต.ตลาด อ.เมืองนครราชสีมา เป็นเวลา 2 วัน จากนั้นก็จะทำพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป.


อัพโหลดโดยคุณมนัส กบขุนทด 27 พ.ค. 2013

[Mongwin]

ประภัสร์ชี้แจงมีบุคคลแอบอ้างใช้ประโยชน์พื้นที่การรถไฟฯ
โดย.. ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว 28 พฤษภาคม 2556 - 19:56:00

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ขณะนี้ได้มีผู้แอบอ้างติดประกาศให้เช่าพื้นที่ของการรถไฟฯ บริเวณพื้นที่ 35 ไร่ ใกล้กับสถานีขนส่งหมอชิต โดยอ้างว่าสถานที่ดังกล่าวจะเป็นแหล่งศูนย์รวมสินค้ามากมาย ทั้งค้าส่ง-ค้าปลีก เสื้อผ้ากระเป๋า รองเท้า ของกิน ของใช้ ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ปลาสวยงาม ในบรรยากาศตลาดไนท์บาร์ซาร์หมอชิต กลับหากสนใจจองพื้นที่ให้ติดต่อเบอร์โทรศัพท์ 0 9188 11224 และ 0 8457 44448 อีกด้วย



นายประภัสร์ฯ ชี้แจงว่า การรถไฟฯไม่เคยมีนโยบายและไม่เคยให้สิทธิกับบุคคลใดดำเนินการในที่ดินของการรถไฟฯผืนนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่การรถไฟฯจะดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ - รังสิต ดังนั้น การแอบอ้างว่าจะให้เช่าพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นการหลอกลวง และถือเป็นการบุกรุกที่ดินของการรถไฟฯ การรถไฟฯจึงขอร้องประชาชน พ่อค้า-แม่ค้า อย่าได้หลงเชื่อ และขอเตือนไปยังผู้กระทำการดังกล่าว ให้หยุดการกระทำทันที มิฉะนั้นการรถไฟฯจะดำเนินในทางกฎหมายกับ ผู้แอบอ้างทั้งทางแพ่งและทางอาญา

[Mongwin]

รื้อรูปแบบสัมปทานท่าเรือ-รถไฟ
วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8217 ข่าวสดรายวัน

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมเพื่อหา ข้อสรุปเชิงนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการกำหนดแนวทางและรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการให้สัมปทานประกอบการท่าเรือและโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรถไฟ วันที่ 28 พ.ค. ว่า กระทรวงคมนาคมจะใช้รูปแบบการให้สัมปทานแบบ Tendering หรือการพิจารณาคัดเลือกเอกชนที่เสนอค่าบริการที่จะเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการต่ำสุด แทนวิธีการ Bidding หรือการพิจารณาจำนวนเงินค่าตอบแทนสูงสุดที่จะจ่ายให้แก่หน่วยงานเจ้าของโครงการ สำหรับการให้สัมปทานในกิจการขนส่งทางน้ำและรถไฟ

ทั้งนี้ วิธีการ Tendering จะช่วยลดภาระการขนส่งทางน้ำและรถไฟ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งมาใช้ทางน้ำและรางเพิ่มขึ้น โดยโครงการที่มีความเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีการนี้คือ การสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งปัจจุบันสัญญาสัมปทานสิ้นสุดแล้ว

"รฟท. ในฐานะเจ้าของโครงการ จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่าจากเอกชน ซึ่งเอกชนที่จะเข้ารับการสรรหาเพื่อรับสัมปทานประกอบการไอซีดี ลาดกระบัง จะจ่ายค่าเช่าในอัตราเท่ากัน แต่จะแข่งขันกันที่อัตราค่าบริการที่ต่ำ เบื้องต้นจะสรรหาผู้ประกอบการในไอซีดีอย่างน้อย 2 ราย จากเดิมที่มีผู้ประกอบการ 6 ราย เพื่อให้เกิดการแข่งขัน" พล.ต.อ.วิเชียรกล่าว

นอกจากนั้น กระทรวงคมนาคมยังเตรียมที่จะใช้วิธีการ Tendering กับการบริหารจัดการท่าเรือของกรมเจ้าท่า ซึ่งมีทั้งหมด 148 แห่ง และประสบปัญหาไม่มีผู้ให้บริการท่าเรือหลายแห่ง โดยระยะแรกจะคัดเลือกท่าเรือที่รองรับระบบโลจิสติกส์ และท่าเรือใหม่ก่อน เช่น ท่าเรือที่อยุธยา ท่าเรือคลองวาฬ ซึ่งกรมเจ้าท่าจะสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับท่าเรือที่จะสรรหาเอกชน และปัญหาอุปสรรคต่างๆ ภายใน 1 เดือน

หน้า 9

[Mongwin]

รวบชาวพม่าหนีเข้าเมืองคาโบกี้รถไฟที่สุราษฎร์ฯ มุ่งหน้าสู่หาดใหญ่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2556 08:40 น.

สุราษฎร์ธานี - ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี จับกุมแรงงานเถื่อนชาวพม่าชาย-หญิง 74 คน ลักลอบขึ้นรถไฟฟรีจากชุมพรผ่านสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าหาดใหญ่ เป้าหมายประเทศมาเลเซีย

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พ.ต.อ.วันชนะ บวรบุญ ผกก.ตม.สุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.ท.จีรายุส คำมีศรี สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่ลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย หลังจากสืบทราบว่า จะมีขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติจะนำแรงงานต่างชาติขึ้นรถไฟขบวนที่ 717 กรุงเทพฯ-สุไหโก-ลก โดยนำแรงงานต่างชาติชายหญิง จำนวน 74 คน มาขึ้นรถไฟฟรีที่สถานีจังหวัดชุมพร ผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าลงสู่สถานีอำเภอหาดใหญ่ ขณะเข้าจับกุมตรวจค้นที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี บนขบวนรถไฟชั้น 3 พบแรงงานทั้งหมดกระจายกันนั่งไปตามตู้โบกี้โดยสารถึง 7 ตู้ ส่วนผู้นำทางคาดว่าเป็นคนไทยได้ไหวตัวหลบหนีไปขณะตรวจค้น

จาการสอบสวนทราบว่า แรงงานทั้งหมดลักลอบเข้ามาทางจังหวัดระนอง มีนายหน้านำขึ้นรถกระบะมาจังหวัดชุมพร และมีการเขียนรหัส AD หมายเลข 10 หมายเลข 21 เพื่อเป็นรหัสนำส่งในอำเภอหาดใหญ่ และประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทางการข่าวสืบทราบว่ามีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวขึ้นรถไฟไปยังอำเภอหาดใหญ่หลายครั้งแล้ว แต่พลาดการจับกุม

[Mongwin]

ชาวอุตรดิตถ์พันผ้าเหลืองรอบตอไม้หน้าสถานีรถไฟ-หลังเทศบาลฯตัดสน 100 ปีทิ้ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2556 14:11 น.

อุตรดิตถ์ - เครือข่ายประชาชนเมืองลับแล นำผ้าเหลืองผืนใหญ่พันรอบตอสน 100 ปี หน้าสถานีรถไฟฯ หลังถูกเทศบาลตัดโค่นเหลือแต่ตอ และใบที่แห้งกรอบ พร้อมเขียนป้ายบอก “หายใจต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”



รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ที่รวมตัวกันเป็น “เครือข่ายประชาชน หยุดเทศบาลตัดโค่นต้นไม้ในเมือง” นำผ้าเหลืองผืนใหญ่มาพันโอบรอบต้นสนขนาดเท่ากับ 2 คนโอบ อายุราว 100 ปี บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา หน้าสถานีรถไฟอุตรดิตถ์หลังเก่า ถนนสำราญรื่น เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์

พร้อมเขียนข้อความดัวยตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่ 2 แถว เพื่อให้กำลังใจต้นสนต้นดังกล่าวว่า “หายใจต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เพราะต้นสนต้นนี้ พร้อมกับต้นไม้จำนวนมากในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ถูกนายสำราญ เอื้อจิระวาณิชย์ นายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ สั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ทำการตัดโค่น จากปกติมีความสูงราว 30-40 เมตร แต่ปัจจุบันเหลือความสูงเพียงไม่ถึง 10 เมตร หรือเหลือแต่ตอ และใบที่แห้งกรอบเพียงประปราย หากมองผิวเผินด้านนอกคล้ายต้นที่สนตายแล้ว

จากการสอบถามประชาชนอยู่ย่านดังกล่าว ทราบว่า ต้นสนต้นนี้ปลูกพร้อมกับต้นที่อยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือราว 50 เมตร ระหว่างที่มีการสร้างอาคารสถานีรถไฟอุตรดิตถ์หลังเก่า ราว 100 ปีก่อน เพื่อให้ร่มเงากับประชาชนที่มาใช้บริการสถานีรถไฟ และประชาชนทั่วไปในเขตเทศบาล นอกจากนี้เด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ ยังใช้เป็นจุดยืนรอผู้ปกครองมารับหลังเลิกเรียน เพราะมีร่มเงาเย็นสบาย

ชาวเมืองอุตรดิตถ์ ยังบอกอีกว่า ไม่เพียงต้นสน 100 ปีต้นนี้เท่านั้น ที่ถูกเทศบาลฯตัดโค่นทิ้ง ยังมีต้นไม้บริเวณถนนฤดีเปรม หน้าอาคารส่วนราชการคลัง หรือถนนสายโรงรถจักรดีเซล การรถไฟแห่งประเทศไทย จ.อุตรดิตถ์ ที่มีอายุกว่า 20 ปี ก็ถูกเจ้าหน้าที่เทศบาลต้นโค่นทิ้งหลายร้อยต้น พอถูกชาวบ้านต่อต้าน เทศบาลฯได้จัดซื้อต้นไม้มาปลูกทดแทนเพียงบางส่วนเท่านั้น