คำแนะนำบางประการสำหรับการไปเที่ยวรถไฟต่างประเทศด้วยตนเอง

[tuie]

สำหรับการต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ(ทรานสิต/transit) ณ สนามบินเซเรเมเตียโว (Sheremetyevo International Airport) โดยไม่ผ่าน ตม.เข้าประเทศรัสเซียนั้น ขั้นตอนหลักๆยังคล้ายๆกับการต่อเครื่องบินระหว่างประเทศโดยไม่ผ่าน ตม.เข้าประเทศที่สนามบินนั้นๆตั้งอยู่ แต่ก็มีขั้นตอนที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยตามประสาประเทศรัสเซียซึ่งยังมีระบบ ระเบียบไม่ค่อยจะเหมือนใครเขาดังที่จะเล่าให้ฟัง(อ่าน)กันครับ



ขากลับจากทริปรถไฟต่างประเทศครั้งล่าสุดของผมนั้น ผมใช้บริการสายการบินแอโร่ฟล็อต จากทาลลินน์(ประเทศเอสโตเนีย)-มอสโก-กรุงเทพฯ เวลาเช็ค-อิน และโหลดกระเป๋าที่สนามบินทาลลินน์ จะได้บอร์ดดิ้งพาสมา ๒ ใบ สำหรับเที่ยวบิน ทาลลินน์-มอสโก ๑ ใบ และสำหรับเที่ยวบิน มอสโก-กรุงเทพ อีก ๑ ใบ ส่วนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่โหลดไปเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์เช็ค-อิน ที่สนามบินทาลลินน์ แจ้งว่าสามารถรับที่ปลายทางกรุงเทพ(สุวรรณภูมิ)ได้เลย กระบวนการนี้เหมือนกับการเดินทางที่ต้องต่อเที่ยวบินระหว่างประเทศกลางทางทั่วๆไปครับ

สิ่งที่แตกต่าง คือ พอเที่ยวบินระหว่างประเทศจากทาลลินน์ มาถึงเมอมินัล D สนามบินเซเรเมเตียโว (Sheremetyevo International Airport) กรุงมอสโก ซึ่งมีทั้งโซนเที่ยวบินในประเทศรัสเซีย และโซนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ผู้โดยสารที่จะต่อเครื่องบินระหว่างประเทศไปยังประเทศอื่นจะต้องเดินไปตามป้าย ทรานสิต/ทรานส์เฟอร์ (transit/transfer) ไปเข้าช่องตรวจหนังสือเดินทาง (passport control) สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น ทั้งนี้ ต้องระมัดระวังว่า “ ช่องตรวจหนังสือเดินทาง (passport control) สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น” นี้ เป็นคนละช่องกับช่อง ตม.สำหรับผู้ที่จะเข้าไปเที่ยวประเทศรัสเซียนะครับ

เจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจหนังสือเดินทาง (passport control) สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น จะตรวจสอบพาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาสของเรา ดูหน้าเราว่าตรงกับในพาสปอร์ตไหม แล้วก็คืนให้โดยไม่มีการประทับตราเข้าเมืองของประเทศรัสเซียใดๆทั้งสิ้น ซึ่งขั้นตอนนี้นี่แหละครับที่แตกต่างไปจากการต่อเครื่องบินระหว่างประเทศโดยไม่เข้าเมืองประเทศที่ตั้งสนามบินนั้นๆในประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น ฟินแลนด์ ฯลฯ เพราะพอไม่มีการ “เข้าเมือง” ผู้โดยสารต่อเครื่องเดินอยู่แค่ในเขตพื้นที่ประตูเทียบเครื่องบินในสนามบินโดยไม่ออกมา "ด้านนอก" แล้ว ตามปกติจะไม่ต้องผ่านขั้นตอน ณ ช่องตรวจหนังสือเดินทาง (passport control) สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นแบบที่รัสเซียเลยครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

เมื่อผ่านช่อง ช่องตรวจหนังสือเดินทาง (passport control) สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น ภายในเทอร์มินัล D สนามบินเซเรเมเตียโว (Sheremetyevo International Airport) กรุงมอสโก เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะผ่านการตรวจสัมภาระและวัตถุต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ก็จะมีเจ้าหน้าที่สนามบินมาตรวจพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสของเราอีกครั้งหนึ่ง หากไม่มีปัญหาอะไรก็จะประทับตราลงบนบอร์ดดิ้งพาส จากนั้นก็นำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องฯเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ เดินผ่านเครื่องสแกน เมื่อผ่านขั้นตอนนี้มาได้ก็เดินลงมาโซนประตูเทียบเครื่องบินขาออก เที่ยวบินระหว่างประเทศของเทอร์มินัล D ได้เลย



เนื่องจากเที่ยวบิน มอสโก-กรุงเทพ จอดเทียบ ณ เทอร์มินัล F เราก็ต้องเดินจากเทอร์มินัล D ผ่านด้านในของเทอร์มินัล E ไปยังด้านในของเทอร์มินัล F โดยจะต้องคอยตรวจสอบหมายเลขประตูเทียบเครื่องบิน หรือเกท ให้ดีๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะที่สนามบินนี้มีการเปลี่ยนเกทกะทันหันบ่อยครั้งมากเลยครับ

จากประสบการณ์ต่อเครื่องบิน/เปลี่ยนเครื่องบิน ทั้งเที่ยวบินในประเทศรัสเซีย และเที่ยวบินระหว่างประเทศ ณ สนามบินเซเรเมเตียโว (Sheremetyevo International Airport) กรุงมอสโก ผมพอจะเข้าใจได้ว่าเหตุใดนักเดินทางหลายๆท่านถึงบอกว่าวุ่นวาย ไม่สะดวก แต่ถ้าเราเตรียมศึกษาข้อมูลไว้ให้ดีๆก่อนเดินทางว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างก็จะช่วยคลายความกังวลลงได้มาก และสามารถผ่านขั้นตอนต่างๆได้ด้วยความรวดเร็ว

สนามบินนี้กว้างใหญ่แต่แทบจะไม่มีทางเลื่อนให้ผ่อนแรง และเพิ่มความรวดเร็วในการเดินเลย แม้ว่าในเวบไซต์ของสนามบินจะบอกว่ามีชัตเติ้ลบัสบริการระหว่างเทอมินัล D-F แต่ผมว่าไม่น่าจะเร็วกว่าการเดินมากนักเพราะกว่าจะเดินไปรอรถ ๑๐-๒๐ นาที ต่อเที่ยว กว่าจะขึ้น-ลงรถ รวมๆแล้วคงเสียเวลาพอๆกับการเดิน

เวลาช่วงเช้า หรือช่วงเย็น เที่ยวบินขึ้น-ลง หนาแน่น คิวการตรวจพาสปอร์ต ตรวจความปลอดภัยก็จะยาว ทำให้เราเสียเวลามากขึ้นไปด้วย อย่างไรก็ดี ถ้าซื้อตั๋วเครื่องบินของแอโร่ฟล็อตแบบต้องต่อเครื่องฯที่มอสโก ทางสายการบินเขาจะกำหนดไว้เลยครับว่า ถ้าต้องต่อเครื่องในประเทศ หรือระหว่างประเทศ ณ เทอมินัลต่างๆ จะต้องมีเวลาอย่างน้อยเท่านั้น เท่านี้นาที หากเวลากระชั้นกว่านี้ระบบจะไม่ขายตั๋วให้ ซึ่งตามความเป็นจริงอย่างการเปลี่ยนเครื่องฯระหว่างประเทศจากเทอมินัล D ไปยังเทอร์มิมัล F ในเวบไซต์กำหนดว่าต้องมีเวลาไม่ต่ำกว่า 1:10 ช.ม. เอาเข้าจริง ผมใช้เวลาประมาณ ๓๐-๔๐ นาที ในการผ่านกระบวนการต่างๆรวมทั้งการเดินแบบสบายๆ ก็มาถึงประตูเทียบเครื่องบินที่จะเดินทางต่อแล้ว

หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่จะไปต่อเครื่องบินที่สนามบินเซเรเมเตียโว (Sheremetyevo International Airport) กรุงมอสโก เป็นครั้งแรกบ้างนะครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

ช่วงนี้ ผมกำลังเตรียมตัวไปเที่ยวรถไฟประเทศโรมาเนีย และประเทศบัลกาเรีย เลยมีข้อแนะนำบางประการเกี่ยวกับการซื้อตั๋วรถไฟท่องเที่ยวสองประเทศนี้มาฝากเพิ่มเติมครับ

-----------------------------------------------

ปกติการซื้อตั๋วรถไฟยุโรป แบบไป-กลับ มักจะมีราคาถูกกว่าแยกซื้อตั๋วทีละเที่ยวสองครั้ง ยกเว้นตั๋วรถไฟโรมาเนียที่จำหน่ายผ่านเวบฯการรถไฟแห่งประเทศโรมาเนีย ตั๋วไป-กลับ กลับมีราคาแพงกว่า การแยกซื้อตั๋วเที่ยวเดียวทีละใบ ไป ๑ ใบ กลับ ๑ ใบ



การซื้อตั๋วรถไฟโรมาเนียผ่านเวบฯ สะดวก รวดเร็วดี มีส่วนลด ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ แล้วพริ้นท์ อี-ทิกเก็ต ไปใช้โดยสารได้เลย เสียตรงที่ยังเลือกที่นั่งถูกใจได้เอง แบบเวบฯการรถไฟเยอรมนี อิตาลี โปรตุเกส สเปน ฯลฯ มิได้ครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

การซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางในยุโรปนั้น แม้ว่าปัจจุบันนี้ การรถไฟของประเทศต่างๆมักจะมีระบบจำหน่ายตั๋วออนไลน์ซื้อผ่านเวบฯ และพิมพ์อีทิกเก็ตออกมาได้แล้ว แต่อีกหลายเส้นทาง ส่วนใหญ่จะเป็นขบวนรถ "ผ่านเขต" เช่น รถด่วนโซเฟีย(บัลกาเรีย)-บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) ยังมิมีบริการดังกล่าว



หากไม่อยากจะไปลุ้นตอนเดินทางไปถึงยุโรปว่า จะซื้อตั๋วรถไฟขบวนที่หมายตาได้หรือไม่ อาจลองตรวจสอบราคาตั๋วผ่านเวบฯเรลยุโรปฯก่อนได้ แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อผ่านเวบฯเรลยุโรปฯทันที เพราะหลายๆครั้ง ราคาตั๋วรถไฟเมื่อรวมค่าธรรมเนียม และค่าจัดส่งทางไปรษณีย์แล้ว การซื้อผ่านเอเย่นต์จะได้ราคาถูกกว่าในเวบฯเรลยุโรปฯหลายร้อยบาทเชียวละครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

การรถไฟบัลกาเรีย มีระบบจำหน่ายตั๋วออนไลน์ผ่านเวบฯ ชำระค่าตั๋วด้วยบัตรเครดิตได้ สามารถเลือกที่นั่งถูกใจได้



แต่น่าเสียดายที่ระบบเปิดที่นั่งว่างให้เลือกได้คันละไม่กี่ที่นั่ง อีกทั้งยังมีขบวนรถที่เข้ามาอยู่ในระบบจำหน่ายตั๋วออนไลน์ค่อนข้างจะน้อย หากยังได้ขบวนรถ แลที่นั่งไม่ถูกใจ อาจต้องไปซื้อตั๋วเองที่สถานีครับ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปนั่งรถไฟบัลกาเรีย (Bulgaria) ซึ่งมีเส้นทางวิวสวยอยู่หลายสาย ตั๋วรถไฟบัลกาเรียก็ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับราคาตั๋วรถไฟของประเทศแถบยุโรปตะวันตกอย่าง เยอรมนี สวิสฯ ฝรั่งเศส ฯลฯ ถ้าซื้อตั๋วไป-กลับ ราคาตั๋วยิ่งถูกกว่าซื้อตั๋วเที่ยวเดียว ไป ๑ ใบ กลับ ๑ ใบ แต่การใช้ตั๋วไป-กลับ ของรถไฟบัลกาเรีย ออกจะมีหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติแตกต่างจากการใช้ตั๋วไป-กลับ ของหลายๆประเทศ ผมเลยนำมาเล่าสู่กันฟังไว้ในกระทู้นี้ก่อน เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สนใจจะไปนั่งรถไฟบัลกาเรียเที่ยวด้วยตนเองแบบไม่ง้อทัวร์กันบ้าง เพราะกว่าจะถึงคิวเปิดกระทู้เที่ยวรถไฟบัลกาเรียของผม คงอีกนาน



ตั๋วรถไฟบัลกาเรียเป็นตั๋วที่พิมพ์จากระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลหน้าตั๋วมีแต่ภาษาบัลกาเรี่ยน ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับแบบตั๋วรถไฟในหลายๆประเทศ ถ้าทำ “การบ้าน” ศึกษาภาษาบัลกาเรี่ยนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเอาไว้บ้าง ก็พออ่านเข้าใจได้ รถไฟบัลกาเรียส่วนใหญ่ไม่บังคับให้ต้องสำรอง(จอง)ที่นั่ง มีตั๋วแล้วก็ขึ้นไปเลือกที่นั่งถูกใจได้เลย (ยกเว้นขบวนรถด่วน และขบวนรถด่วนระหว่างประเทศ รถนอน ที่บังคับให้ต้องสำรองที่นั่งด้วย)



ตั๋วไป-กลับ ของการรถไฟแห่งประเทศบัลกาเรีย (BDZ/Bulgarian State Railways) ใช้แบบฟอร์มเดียวกับตั๋วเที่ยวเดียว เพียงแต่ราคาตั๋ว และกำหนดวันสิ้นสุดการใช้ตั๋วเที่ยวกลับจะพิมพ์ด้วยหมึกสีแดง การใช้ตั๋วไป-กลับ ขาไปไม่มีปัญหายุ่งยากใดๆ แต่พอถึงขากลับ หากจะใช้ตั๋วไป-กลับ ใบเดิมนี้ กลับขบวนรถเที่ยวใด ถึงแม้จะเป็นขบวนรถที่ไม่บังคับให้ต้องสำรอง(จอง)ที่นั่ง ก็ต้องนำตั๋วใบนี้ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สถานีต้นทางเที่ยวกลับ สลักหลังตั๋ว ประทับตรา และพิมพ์ตั๋วคอมฯ อีกใบหนึ่ง ข้อความเป็นหมึกสีแดงล้วนๆ ให้ใช้ควบกับตั๋วไป-กลับ ที่ซื้อไว้เดิมด้วย ไม่ใช่ว่ามีตั๋วไป-กลับ อยู่ในมือแล้ว ขากลับจะใช้ตั๋วใบนี้ ขึ้นรถเที่ยวกลับขบวนใดได้เลยนี่ไม่ได้นะครับ เพราะเจ้าหน้าที่/นายตรวจ จะถือว่าท่านทำผิดกฎ/ระเบียบการโดยสาร มีผลเท่ากับท่านไม่ได้ซื้อตั๋วเที่ยวกลับ ต้องเสียค่าโดยสารบวกค่าปรับอ่วมเลยครับ

ผมเองตอนแรกก็ไม่รู้เรื่องกฎ/ระเบียบการโดยสารรถไฟบัลกาเรียข้างต้นดอกครับ ซื้อตั๋วไป-กลับ เพราะเห็นว่ามีส่วนลดให้ตั้งกว่าร้อยละสิบ ในเวบฯ ของการรถไฟแห่งประเทศบัลกาเรีย (BDZ/Bulgarian State Railways) ภาคภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ลงข้อมูลดังกล่าวไว้ เคยอ่านกระทู้ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เขาใช้ตั๋วไป-กลับ ขึ้นรถเที่ยวกลับทันที เขาก็แค่บ่นๆว่า โดนปรับ เพราะมิได้นำตั๋วไป “validated” ก่อน แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดวิธีการ “validated” ตั๋วไป-กลับ สำหรับการใช้ตั๋วขึ้นรถไฟเที่ยวกลับเอาไว้ เวลาผมไปสถานีรถไฟที่บัลกาเรียก็ไม่เห็นจะมีเครื่องตอกตั๋วอัตโนมัติเพื่อ “validated” ตั๋วก่อนใช้การโดยสารแบบรถไฟประเทศแถบยุโรปตะวันตกเลยสักเครื่อง โชคดีที่ขาไปนายตรวจ (น่าจะเทียบเท่า พรร. บ้านเรา) ช่วยแนะนำวิธีการใช้ตั๋วไป-กลับ ในเที่ยวกลับให้ นายตรวจเองพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย เธอก็อุตส่าห์เดินหาชาวบัลกาเรี่ยนที่พูดภาษาอังกฤษได้ มาแปลความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่เธอต้องการจะสื่อสารให้ผมรับทราบ ต้องขอบคุณนายตรวจ และ ผดส.ชาวบัลกาเรี่ยน ผู้มีน้ำใจอารีย์ มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ เสียดายอ่านป้ายชื่อในภาษาบัลกาเรี่ยนของนายตรวจไม่ออก มิฉะนั้น ผมจะส่งจดหมายขอบคุณไปถึงผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศบัลกาเรียแล้ว

ไหนๆ พูดถึงเรื่องตั๋วรถไฟแล้ว ขอเล่าแถมไปถึงตั๋วรถเมล์ที่กรุงโซเฟียด้วยเลยครับ ราคาตั๋วรถเมล์ที่นี่ ราคาเดียว ๑ เลว่า (ประมาณ ๒๐ บาท) ซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถได้ตามร้านขายบุหรี่-ของชำ ใกล้ๆป้ายรถเมล์ แต่พอขึ้นรถแล้ว ต้องรีบนำตั๋วเข้าเครื่องตอกตั๋วทันที รถเมล์ส่วนใหญ่ยังไม่มีเครื่องตอกตั๋วอัตโนมัติ สอดไปแล้วตอกให้เลยดัง ตื๊ด แบบรถเมล์ฝั่งยุโรปตะวันตก (อีกแล้ว) คงมีแต่เครื่องตอกแบบกลไก สอดตั๋วเข้าไปแล้วเงียบสนิท จนอาจนึกว่าเครื่องเสีย เราต้องยกลิ่มเหล็กด้านล่างเพื่อให้กลไกด้านในเครื่องตอกลงไปบนตั๋วเองถึงจะเสร็จการ มิฉะนั้น จะถูกปรับเป็นเงิน ๒๐ เลว่า (ประมาณ ๔๐๐ บาท) หากมีสัมภาระขนาดใหญ่ก็ต้องซื้อตั๋วสำหรับสัมภาระอีกใบหนึ่งด้วยครับ

อนึ่ง การเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมาอ้างว่าไม่รู้กฎ/ระเบียบ การใช้ตั๋วรถสาธารณะ เลยไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องนี่ นายตรวจไม่รับฟัง ปรับสถานเดียวครับ (นายตรวจตามประเทศอื่นๆในแถบยุโรป ก็เป็นเช่นนี้)
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[mirage_II]

โอ้โฮ.. ต้องขอบคุณ คุณตุ้ยที่นำเรื่องราวการเดินทางในต่างแดนมาให้ฟังกันอย่างหลากหลายประเทศ นึกไม่ถึงว่าท่านเป็นนักเดินทางรอบโลกคนหนึ่งเลยนะนี่ เพราะแต่ละประเทศที่ไปก็ไกลไม่น้อย และบางแห่งก็เป็นความฝันของผม แต่ไม่รู้ว่าจะได้ทำให้เป็นจริงได้หรือไม่ เมื่อใด เพราะภาระ และรายได้ผมมันน้อยนิด แค่เที่ยวในไทย ปีละ 2 ครั้งแบบทริปยาวๆ ก็ต้องใช้เงินอนาคตกันเป็นบางครั้งแล้ว จะเคยไปต่างประเทศก็ 2 ครั้งใกล้ๆ คือ มาเลเซีย กับ สิงค์โปร โดยบริษัทส่งไป เมื่อ 20 กว่าปีมาแล้วโน้น ก็ต้องอาศัยติดตามดูภาพจากกระทู้คุณนี่แหละครับ สวยๆ ทั้งนั้น (หมายถึงวิว และขบวนรถไฟ นะครับ )

[tuie]

วันนี้ กระผมอยากจะแบ่งปันประสบการณ์การใช้วีซ่าสหราชอาณาจักรเข้าไปเที่ยวประเทศไอร์แลนด์ โดยไม่ต้องขอวีซ่าไอร์แลนด์สักนิด เผื่อจะเปนประโยชน์แก่นักเดินทางชาวไทยท่านอื่นบ้างครับ



กระผมใฝ่ฝันจะไปเที่ยวไอร์แลนด์มานานแล้ว พื้นที่เกาะไอร์แลนด์ประกอบไปด้วยประเทศไอร์แลนด์ มีกรุงดับบลินเปนเมืองหลวง และแคว้นไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักร มีเบลฟาสต์ เป็นเมืองเอก การเดินทางไปเที่ยวไอร์แลนด์เดี๋ยวนี้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากทางการไอร์แลนด์อนุญาตให้คนไทยที่มีวีซ่าสหราชอาณาจักร หรือวีซ่าอังกฤษ (ตามที่คนไทยนิยมเรียกประเทศนี้ว่า “อังกฤษ”) ก็สามารถไปเที่ยวไอร์แลนด์ได้โดยมิต้องขอวีซ่าไอร์แลนด์แยกต่างหากอีก แต่จะต้องเดินทางไปเที่ยวสหราชอาณาจักรก่อนถึงจะเข้าไปเที่ยวไอร์แลนด์โดยใช้วีซ่าสหราชอาณาจักรในลำดับต่อไปได้ (รายละเอียด เงื่อนไขต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ โปรดตรวจสอบจากเวบฯกระทรวงการต่างประเทศของไอร์แลนด์อีกครั้ง)

พอกระผมทราบข่าวการยกเว้นวีซ่าไอร์แลนด์สำหรับคนไทยตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็พยายามหาจังหวะลางานไปเที่ยวเวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งอยู่ในอาณาเขตของสหราชอาณาจักร เพื่อจะได้ใช้วีซ่าท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร แบบซี/มัลติเพิล ที่ขอจากสถานทูตอังกฤษในประเทศไทย เข้าไปเที่ยวประเทศไอร์แลนด์ต่อได้ต่อในทริปเดียวกันเสียเลย การเดินทาง “ผ่านเขต” จากเมืองเบลฟาสต์ ถึงกรุงดับบลิน สะดวกสบายด้วยขบวนรถด่วนระหว่างประเทศ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ช.ม. มีขบวนรถเดินไป-กลับ ตั้งแต่เช้าถึงค่ำทุกๆสอง ช.ม.

ประเทศไอร์แลนด์ กับสหราชอาณาจักร ไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่ม “เชงเก้น” อย่างประเทศส่วนใหญ่ในภาคพื้นยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย สวิสฯ อิตาลี ฯลฯ ซึ่งการเดินทาง “ผ่านเขต” ระหว่างประเทศในกลุ่มเชงเก้นด้วยกันมิต้องผ่านด่าน ตม. เราสามารถนั่งรถไฟ “ผ่านเขต” ของประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้เลยเสมือนการนั่งรถไฟข้ามจังหวัด ตอนแรกกระผมก็คิดว่า บนขบวนรถด่วนฯ เบลฟาสต์-ดับบลิน จะต้องมีเจ้าหน้าที่ ตม.ของฝ่ายสหราชอาณาจักร และฝ่ายไอร์แลนด์ มาตรวจหนังสือเดินทางบนขบวนรถเหมือนตอนที่กระผมนั่งรถไฟจากเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก(รัสเซีย)-เฮลซิงกิ(ฟินแลนด์) หรือจาก คาลินินกราด(รัสเซีย)-วิลเนียส(ลิธัวเนีย) ปรากฏว่าผิดคาด ไม่มี จนท.ตม. ไม่มีตำรวจของสองประเทศนี้ มาขอตรวจหนังสือเดินทางเลยแม้แต่คนเดียว คงมีแต่ จนท.รถไฟมาตรวจตั๋วตามปกติเท่านั้น ตอนที่ขบวนรถ “ผ่านเขต” จาก ไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร) เข้าสู่ประเทศไอร์แลนด์ ก็ไม่มีรั้วกั้นระหว่างทั้งสองประเทศ คงสังเกตได้จากธงชาติ และรูปแบบสถานี ป้ายต่างๆที่เปลี่ยนไปเท่านั้นเอง สรุปว่า เหมือนนั่งรถไฟข้ามจังหวัด ชมวิวเพลินๆ พรวดเดียวถึงกรุงดับบลิน ก็ลงจากรถแล้วเดินออกจากชานชาลาไปได้โดยไม่ผ่านด่าน ตม.ใดๆทั้งสิ้น นี่ถ้าเปนการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่มเชงเก้นด้วยกัน กระผมจะไม่แปลกใจเลย

ทุกอย่างราบรื่นดี ได้เดินทางมาถึงกรุงดับบลินแล้วก็น่าจะ “แฮปปี้” ใช่ไหมครับ แต่ตามประสานัก กด-หมาย ผู้มองโลกในแง่ร้าย(วิชาชีพอื่นเขาชอบว่านักกฎหมายเช่นนี้) กระผมก็นึกถึงระเบียบการเข้าเมืองของทางการไอร์แลนด์ที่ศึกษามาก่อนเดินทางข้อหนึ่งขึ้นมาได้ว่า

“ผู้ได้รับยกเว้นวีซ่าไอร์แลนด์ จะต้องเดินทางผ่านช่องทาง ด่านตรวจ ที่ถูกต้องตามกฎหมายของไอร์แลนด์ด้วย ฯลฯ”

….เอาละสิ....แล้วจากเบลฟาสต์มาดับบลินทางรถไฟนี่ มีช่องทาง ด่านตรวจที่ถูกต้องตามกฎหมายของไอร์แลนด์ที่ไหนกันละนั่น ตราประทับเข้าไอร์แลนด์ของ ตม.ก็ไม่มี (เพราะไม่เจอด่าน ตม.) เดี๋ยวถึงวันเดินทางกลับบ้านเราเจ้าหน้าที่ตรวจคนออกเมืองไอร์แลนด์ที่สนามบินเขาจะกล่าวหาว่าเราเข้าเมืองเขาโดยผิดกฎหมายไหมนี่

เที่ยวไป วิตกไป แต่ก็พยายามตัดความกังวลคิดหนทางรับมือเอาไว้ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจคนออกเมืองของไอร์แลนด์เขาติดใจเรื่องการเข้าเมืองไอร์แลนด์ของเรา เราก็ชี้แจงไปตามความเปนจริงสิว่า เรามี ยู.เค.วีซ่า เข้าไปเที่ยว ยู.เค.ก่อนจะเข้ามาเที่ยวไอร์แลนด์ถูกต้องตามระเบียบของทางการฯแล้ว แต่การเดินทางโดยรถไฟ “ผ่านเขต” มิมีกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองบนขบวนรถ แลมิมีด่านตรวจฯที่สถานีใดเลย จะมากล่าวหาว่าเราทำผิดกฎหมายคนเข้าเมืองของไอร์แลนด์คงไม่ถนัดนัก พร้อมเตรียมเอกสารประกอบการชี้แจง เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าที่พักตลอดทริป ตั๋วรถไฟ ฯลฯ คิดเตรียมประโยคที่ต้องพูดชี้แจงเอาไว้ล่วงหน้า (คนไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่ทำซ่าชอบแบกเป้เที่ยวต่างประเทศเอง ก็เป็นเช่นนี้แล)

พอถึงวันเดินทางกลับบ้านเรา กระผมไปที่สนามบินเช็ค-อิน รับบอร์ดดิ้งพาสมาตามปกติ ก็เดินเข้าโซนประตูเทียบเครื่องบิน ปรากฏว่ามีแค่เจ้าหน้าที่สนามบินตรวจบอร์ดดิ้งพาสเทียบกับหนังสือเดินทางของเรา แล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจความปลอดภัย จากนั้นก็เดินเข้าสู่โซนประตูเทียบเครื่องบินได้เลย ไม่มีด่านเจ้าหน้าที่ตรวจคนออกเมืองมาตรวจหนังสือเดินทางแลประทับตราออกใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างดูง่ายดายดุจการขึ้นเครื่องบินภายในประเทศ

อันที่จริงหลายๆประเทศในยุคนี้ ก็ไม่สนใจจะตรวจคนออกเมืองกันแล้ว คงเข้มงวดเฉพาะการตรวจคนเข้าเมืองเท่านั้น แต่มาเจอแบบนี้ที่ไอร์แลนด์กระผมก็อดแปลกใจมิได้ เพราะเท่ากับกระผมมิได้ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมืองจาก จนท.ฝ่ายไอร์แลนด์เลย เข้าใจว่าไอร์แลนด์คงมอบความไว้วางใจให้แก่ ตม.ของสหราชอาณาจักร ซึ่งกระผมเดินทางเข้าไปเที่ยวก่อนจะมาไอร์แลนด์ไปสิ้นแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจากสหราชอาณาจักรจึงเข้ามาไอร์แลนด์ได้ “ฉลุย”

แต่...เอ๊ะ.....กระผมนึกขึ้นมาได้(อีกแล้ว)ว่า ตามระเบียบการยกเว้นวีซ่าไอร์แลนด์สำหรับคนที่มีวีซ่าสหราชอาณาจักรอยู่แล้วนี่ เขามิได้ยกเว้นให้แก่พลเมืองทุกสัญชาตินี่นา(ชาวไทย ควรภูมิใจ) แล้วถ้าเกิดเปนคนสัญชาติอื่นที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขนี้ เกิดได้ ยู.เค.วีซ่า แล้วถือโอกาสนั่งรถไฟจากเบลฟาสต์ข้ามมาเที่ยวกรุงดับบลินแบบกระผมบ้างล่ะ ทางการไอร์แลนด์จะตรวจสอบ แลดำเนินคดีได้อย่างไร น่าคิดๆ....แต่ช่างเขาเถอะ...บ่ใช่เรื่องของเรา

(ภาพประกอบรีไพล์ : สถานี Dublin Connolly หนึ่งในสถานีรถไฟหลักของกรุงดับบลินซึ่งขบวนรถด่วน รปท.เบลฟาสต์-ดับบลิน เข้า/ออก สถานีนี้)
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/