ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."

Wisarut · Posted: 03/04/2014 12:17 pm Post subject:

เตรียมเชคบิลตลาดนัดจตุจักร
ข่าวเศรษฐกิจ
เดลินิวส์
วันพุธ 2 เมษายน 2557 เวลา 15:12 น.

การรถไฟ เตรียมจัดการ ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรไม่ยอมต่อสัญญา อาจปิดแผงค้า และไปเปิดประมูลให้รายใหม่แทน หลังมีสัญญาค้าง 1,189 ราย

นายไพศาล ทรัพย์รุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน และรักษาการผู้อำนวยการ ตลาดนัดจตุจักร การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงการเปิดให้ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเข้ามาต่อสัญญาเช่าแผงค้าว่า ขณะนี้เหลือผู้ค้าที่ยังไม่เข้ามาต่อสัญญา อีก 1,189 ราย จากผู้ค้าทั้งหมด 8,480 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนที่เข้ามาต่อสัญญา 86% ไม่ต่อสัญญาอีก 14 % ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.มีรายได้จากการต่อสัญญาเช่าแล้ว 53.57 ล้านบาท และเหลือค้างอีก 20 ล้านบาท ซึ่งวันที่ 5 เม.ย.นี้ คณะกรรมการบริหารตลาดนัดจตุจักรจะประชุมหารือ เพื่อหาวิธีดำเนินการกับผู้ค้าที่ไม่เข้ามาต่อสัญญา

“สาเหตุที่ผู้เช่ายังมาต่อสัญญาน้อย น่าเกิดจากความคลาดเคลื่อนของข่าว เนื่องจากการรถไฟฯได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้ามาต่อสัญญาเช่าแผงในวันที่ 29-30 มี.ค. แต่มีข่าวออกมาว่าเป็นวันที่ 29-30 เม.ย.จึงอาจทำให้ผู้ค้าชะล่าใจ แต่ที่จริง ร.ฟ.ท.ได้แจกใบปลิวและประชาสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้ และย้ำแล้วว่าเป็นการต่อสัญญาครั้งสุดท้ายช่วงปลายเดือนมี.ค. 57”

นายไพศาล กล่าวว่า แนวทางดำเนินการกับผู้ค้าที่เช่าแผงและไม่ต่อสัญญาอีก 1,189 รายนั้น ทางคณะกรรมการบริหารตลาดนัดจตุจักร จะประชุมเพื่อมาตรการจัดการโดยเร็ว คาดว่าน่าจะมีมาตรการที่จัดอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกันที่ทางกรุงเทพมหานครเคยดำเนินการ โดยอาจปิดแผงค้า และนำไปเปิดประมูลให้ผู้ค้ารายอื่นที่ต้องการเช่าแผงค้าเพิ่มต่อไป

“ขณะนี้การรถไฟฯ มีงบประมาณบริหารจัดการพัฒนาฟื้นฟูตลาดนัดจตุจักรกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทางนายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้ให้นโยบายพัฒนาพื้นที่ตั้งของร้านค้าภายในตลาดนัดจตุจักรไปแล้ว ดังนั้นจะต้องมาจัดลำดับความสำคัญของโครงการพัฒนาว่า จะเริ่มทำในส่วนก่อน-หลัง”

นายชาตรี โสภณบรรณารักษ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า ขณะทราบว่าผู้ค้าที่ไม่ได้มาเซ็นสัญญาเช่าต่อแผงค้ามี 2 ส่วน คือ ผู้ค้าที่ฟ้องร้องกับร.ฟ.ท.และเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองประมาณ 600 ราย อีกส่วนหนึ่งคือผู้ค้าที่ค้างค่าเช่าแผง หรือเอกสารไม่ครบ ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องเจรจาต่อรองกับร.ฟ.ท.ก่อนที่ร.ฟ.ท.จะนำแผงค้าไปเปิดประมูลให้ผู้ค้ารายอื่นเช่าต่อ

"เข้าใจว่าการรถไฟฯ คงไม่ทำอะไรให้ผู้ค้าเดือดร้อน โดยเฉพาะรายที่ค้างค่าเช่าอาจจะต้องคุยกับการรถไฟฯให้ชัดว่าจะจ่ายเงินอย่างไร จ่ายดอกเบี้ยเท่าไรเป็นรายๆไป เพราะถือว่าผู้ค้ามีสิทธิ์ที่จะต่อรอง เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองส่งผลกระทบต่อการค้าขาย แต่หากผู้ค้ารายนั้นๆเพิกเฉย ไม่ยอมหารือ ทางการรถไฟฯก็มีสิทธิ์ยึดแผงค้าไปเปิดประมูลได้"

Wisarut · Posted: 10/05/2014 5:21 pm Post subject:

ร.ฟ.ท.เร่งปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารฯ หลังยอดค้างชำระค่าเช่าเพียบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2557 09:13 น.

นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้น ร.ฟ.ท.จะนำรูปแบบ (โมเดล) โครงสร้าง และการบริหารจัดการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และงานบริหารทรัพย์สินสภากาชาดไทยมาผสมผสาน เพื่อใช้กับการปรับโครงสร้างฝ่าย บริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.ให้สามารถบริหารจัดการข้อมูลแต่ละสัญญาได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันทรัพย์สิน ร.ฟ.ท. มีปัญหาค้างชำระค่าเช่าจำนวนมาก การบุกรุกพื้นที่ เรื่องคงค้างอยู่ที่ฝ่ายอาณาบาลจำนวนมาก จึงค่อนข้างล่าช้าไม่ทันการ
นอกจากนี้ ยังต้องเร่งจัดทำฐานข้อมูลทรัพย์สินให้ชัดเจน ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่เข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ยังดูข้อมูลทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท. ไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2557 นี้ แต่ต้องรอให้ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ดำเนินการปรับโครงสร้าง ร.ฟ.ท.อย่างเป็นรูปธรรมก่อน
นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การที่กระทรวงการคลังนำที่ดิน 3 แปลงของ ร.ฟ.ท.ไปปลดภาระหนี้เป็นระยะเวลานานถึง 90 ปี จะส่งผลให้ ร.ฟ.ท.สามารถแก้ปัญหากรอบภาระหนี้ได้อย่างมาก ทำให้สามารถกู้เงินเพื่อนำมาพัฒนาได้สะดวกยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญกระทรวงการคลังต้องประมูลยกแปลง จึงจะมีมูลค่าเพิ่มและดึงดูดความสนใจนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม หลายสัญญาพบว่า มีการฟ้องร้องเป็นคดีกันอยู่ในศาล ก็ทำให้ไม่สามารถต่อสัญญาได้ โดยนโยบายให้พยายามปรับปรุงการทำงานให้เกิดความสะดวก คล่องตัวมากขึ้น ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.ต้องมีการทำงานอย่างมืออาชีพ ไม่มีการดึงหรือดองเรื่องไว้ให้เกิดความล่าช้า คำตอบต้องชัดเจน สัญญายังอยู่ครบ ไม่หายไปไหน เพียงแต่อยู่ในคอมพิวเตอร์ และบางส่วนเป็นเอกสาร
ส่วนที่อยู่ในการดูแลของบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.จะเป็นแปลงขนาดใหญ่มากกว่า มีมูลค่ามากกว่าแปลงการเดินรถ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสถานี ปี 2557 นี้ ยังจะผลักดันให้มีการเติบโตด้านรายได้ประมาณ 5% ส่วนปี 2556 ที่ผ่านมา รับรายได้จากกรณีต่อสัญญาเช่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

Wisarut · Posted: 12/05/2014 9:23 am Post subject:

ร.ฟ.ท.เล็งยื้อเช่าที่ดิน 3 แปลง
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อวันจันทร์ที่ 05 พฤษภาคม 2557 เวลา 17:03 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,946 วันที่ 8 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การรถไฟฯดึงแผนศึกษาราคาเช่าที่ดิน 3 แปลงก่อนประเคนกระทรวงการคลังเพื่อปลดภาระหนี้ที่มีอยู่กว่า 1 แสนล้านบาท เพราะไม่เคยเปิดให้เช่านานถึง 90 ปี เผยข้อดีกรอบภาระหนี้เปิดกว้างให้กู้เงินได้สะดวกขึ้น หนุนคลังประมูลยกแปลง ด้านประธานบอร์ดร.ฟ.ท. ยันต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ เล็งยก 3 โมเดลใช้ปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารทรัพย์สินรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิส
แหล่งข่าวระดับสูงการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าขณะนี้ได้ชะลอกรณีการนำเสนอผลการศึกษาโครงการศึกษา วิเคราะห์ และกำหนดกรอบอัตรากำลัง เพื่อจัดเตรียมบุคลากรตามโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทางรางของประเทศ และกำหนดแนวทางในการพัฒนาที่ดิน เพื่อแก้ปัญหาภาระทางการเงินของร.ฟ.ท.ตามที่กระทรวงคมนาคมยุคนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดยกที่ดิน 3 แปลงหลักคือ มักกะสัน สถานีแม่น้ำ และกม.11 ย่านพหลโยธินให้กระทรวงการคลังนำไปพัฒนาเพื่อปลดภาระหนี้ของร.ฟ.ท.ที่มีมากกว่า 1 แสนล้านบาท ทั้งนี้เพื่อรอดูความชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่
ประการสำคัญจากการหารือร่วมกันของระดับผู้บริหารฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สิน ร.ฟ.ท. แล้วลงความเห็นว่าหากดำเนินการไปแล้วภายหลังรัฐบาลชุดใหม่ไม่เห็นชอบด้วยเกรงว่าจะเป็นการดำเนินงานโดยเปล่าประโยชน์จึงควรรอให้เกิดความชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่จะเหมาะสมกว่า
"เนื่องจากเห็นว่าหากต้องมีการเปิดให้เช่านานถึง 90 ปี(30 + 30 + 30 ปี)นั้นกรณีดังกล่าวนี้ร.ฟ.ท.ไม่เคยเปิดให้ดำเนินการเช่ามาก่อน จึงควรชะลอในกรณีดังกล่าวนี้ออกไปก่อนเพื่อรอนำเสนอรัฐบาลชุดใหม่เห็นชอบ โดยล่าสุดได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ให้คณะกรรมการ(บอร์ด) ร.ฟ.ท.พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการเป็นอย่างอื่นต่อไปแล้ว"
ด้านนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.กล่าวว่าการที่กระทรวงการคลังนำที่ดิน 3 แปลงของร.ฟ.ท.ไปปลดภาระหนี้เป็นระยะเวลานานถึง 90 ปีนั้นจะส่งผลให้ร.ฟ.ท.สามารถขจัดปัญหากรอบภาระหนี้ได้อย่างมาก ทำให้สามารถกู้เงินเพื่อนำมาพัฒนาได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญกระทรวงการคลังต้องประมูลยกแปลงจึงจะมีมูลค่าเพิ่มและดึงดูดความสนใจนักลงทุน
"กรณีชุมชนมักกะสันรัฐบาลต้องออกค่ารื้อย้ายให้เรียบร้อยก่อนจึงจะนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปพัฒนา โดยมีแผนย้ายชุมชนมักกะสันไปอยู่แก่งคอย หากสร้างใหม่ที่แก่งคอยคาดว่าในเบื้องต้นจะใช้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท"
ประการสำคัญการพัฒนาทรัพย์สินร.ฟ.ท.นั้นแนวคิดยังเห็นว่าไม่ควรรีบร้อนเพราะเสี่ยงต่อการขาดทุนได้เช่นกัน แต่ควรเปิดให้มีการพัฒนาเฉพาะในแปลงที่มีความเหมาะสม ช่วงไหนราคาดีควรรีบดำเนินการ ซึ่งนโยบายของนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการร.ฟ.ท.คนปัจจุบันเน้นดำเนินการอย่างเป็นธรรม อย่าดึงเรื่องการโอน ต้องให้ความสะดวกในการดำเนินงานกรณีที่มีการขอต่อสัญญาเช่าหากไม่ติดเงื่อนไขใด ๆ
"หลายสัญญาพบว่ามีการฟ้องร้องเป็นคดีกันอยู่ในศาลก็ทำให้ไม่สามารถต่อสัญญาได้ โดยนโยบายให้พยายามปรับปรุงการทำงานให้เกิดความสะดวก คล่องตัวมากขึ้น ฝ่ายบริหารทรัพย์สินร.ฟ.ท.ต้องมีการทำงานอย่างมืออาชีพ ไม่มีการดึงหรือดองเรื่องไว้ให้เกิดความล่าช้า คำตอบต้องชัดเจน สัญญายังอยู่ครบ ไม่หายไปไหนเพียงแต่อยู่ในคอมพิวเตอร์และเป็นเอกสารบางส่วน ส่วนที่อยู่ในการดูแลของบริหารทรัพย์สินจะเป็นแปลงขนาดใหญ่มากกว่า มีมูลค่ามากกว่าแปลงการเดินรถซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสถานี ซึ่งปีนี้ยังจะผลักดันให้มีการเติบโตด้านรายได้ประมาณ 5% ส่วนปีที่ผ่านมารับรายได้จากกรณีต่อสัญญาเช่าไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท"
ด้านรศ.ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์ ประธานกรรมการการรถไฟฯกล่าวว่าคงต้องชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อนจนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ ในเบื้องต้นจะยกโมเดลโครงสร้างและการบริหารจัดการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและงานบริหารทรัพย์สินสภากาชาดไทยมาผสมผสานใช้กับการปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารทรัพย์สินร.ฟ.ท.ให้สามารถบริหารจัดการข้อมูลแต่ละสัญญาได้รวดเร็วขึ้น
"โครงสร้างฝ่ายบริหารทรัพย์สินมีการปรับปรุงแน่ๆที่ผ่านมาไม่มีประสิทธิผลเท่าไหร่ งานบริหารต้องสามารถบริหารจัดการได้แล้วเสร็จรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิสจริงๆ ปัจจุบันทรัพย์สินร.ฟ.ท.มีปัญหาค้างชำระค่าเช่าจำนวนมาก การบุกรุกพื้นที่ เรื่องคงค้างอยู่ที่ฝ่ายอาณาบาลจำนวนมาก จึงค่อนข้างล่าช้าไม่ทันกาล นอกจากนั้นยังต้องเร่งจัดทำฐานข้อมูลทรัพย์สินให้ชัดเจน ซึ่งตลอดกว่า 1 ปีที่เข้ารับตำแหน่งบอร์ดร.ฟ.ท.ยังดูข้อมูลทรัพย์สินของร.ฟ.ท.ไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ คิดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีนี้รอให้ผู้ว่าการร.ฟ.ท.ดำเนินการปรับโครงสร้างการรถไฟฯอย่างเป็นรูปธรรมก่อน"

Wisarut · Posted: 12/06/2014 3:45 pm Post subject:

'ประภัสร์' แจงเก็บเพิ่มค่าจอดรถสวนรถไฟตามค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
โดย ณัฐญา เนตรหิน
ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
ตีพิมพ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 09 มิถุนายน 2014 เวลา 17:14 น.
จากกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประกาศขึ้นค่าจอดรถในสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ จากปกติรถยนต์ คันละ 10 บาท เป็น 20 บาท และรถจักรยานยนต์จาก 5 บาท เป็น 10 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2557 ที่ผ่านมา

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ชี้แจงว่า การขึ้นค่าจอดรถดังกล่าว เป็นการเสนอของฝ่ายบริหารของ ร.ฟ.ท. ที่เห็นว่าอัตราค่าที่จอดรถบริเวณดังกล่าวไม่ได้มีการปรับขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว อีกทั้งค่าจ้างของเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานในสวนวชิรเบญจทัศ ได้ปรับขึ้นตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้ค่าใช้จ่ายของ รฟท. เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ อัตราค่าที่จอดรถ ร.ฟ.ท.มีการเรียกเก็บในอัตราเดียวตลอดทั้งวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีข้อเสนอให้มีการคิดอัตราค่าที่จอดรถเป็นรายชั่วโมงเหมือนห้างสรรพสินค้าหรือพื้นที่อื่นๆ แต่เห็นว่าค่าบริการอาจจะมีราคาสูงกว่าแบบที่เก็บอัตราเดียว จึงไม่ได้มีการดำเนินการดังกล่าว ดังนั้นจึงอยากให้เห็นใจ ร.ฟ.ท.

Mongwin · Posted: 17/06/2014 7:35 pm Post subject:

กทม.เตรียมยื่นคสช. ขอ "จตุจักร" คืนสัปดาห์หน้า
มติชนออนไลน์ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 18:55:08 น.

วันที่ 17 มิ.ย. ที่ศาลาว่าการกทม. นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงแนวทางการเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาให้ กทม.กลับมาเช่าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรและบริหารจัดการตลาดอีกครั้งว่า ได้มีการประชุมและแจ้งให้บอร์ดตลาดนัดทราบแล้ว คาดว่าจะสามารถยื่นเรื่องไปยัง คสช.ได้ภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีผู้ค้าได้แจ้งถึงปัญหาค่าเช่าแผงที่มีราคาแพงกว่าตอนที่ กทม. บริหาร ซึ่งกทม.คิดค่าเช่าแผงละ 300 บาท หากเปลี่ยนมือผู้เช่าจะปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้น โดยค่าเช่าสูงสุดจะประมาณ 1,000 บาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วประมาณแผงละ 600 บาทต่อเดือน

"ล่าสุดได้มีผู้ค้าไปร้องเรียนยังคสช. โดยขอให้กทม.กลับมาบริหารตามเดิม ที่ผ่านมาผู้ค้าก็ได้ฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไปยังศาลปกครอง เรื่องค่าเช่าแผงที่สูงเกินอัตราที่กำหนด ซึ่งผู้ค้าก็ชนะคดี อย่างไรก็ตาม กทม. พร้อมที่จะกลับมาบริหาร ซึ่งตลาดนัดจตุจักรถือเป็นความสำเร็จของกทม. ในการแก้ปัญหาหาบเร่แผงลอยตั้งแต่สมัยอยู่ที่สนามหลวง และกทม.ก็มีหน้าที่บริหารตามกฎหมายในการดูแลและควบคุมตลาดตามพ.ร.บ.บริหารกทม. พ.ศ.2528 และยังสอดคล้องและถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2523" นายเฉลิมชัย กล่าว

Mongwin · Posted: 19/06/2014 1:30 pm Post subject:

ประภัสร์ แนะย้ายวินรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปบริเวณอโศกถาวร
RYT9.COM -- พฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2557 12:58:18 น.

ประภัสร์ แนะ การแก้ปัญหาการจราจรระยะยาวควรย้ายวินรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปบริเวณอโศก

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เผยถึงการจัดระเบียบวินรถตู้รอบพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า เห็นด้วยกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว โดยในวันที่ 23 จะเริ่มย้ายวินรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปที่สถานีแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน

ซึ่งหากเป็นย้ายวินรถตู้มาไว้ยังพื้นที่ของสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน ในระยะยาวนั้น คงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยจะนำพื้นที่ดังกล่าวไปให้กรมธนารักษ์เช่าระยะยาวเป็นเวลา 90 ปี เพื่อนำรายได้ไปใช้หนี้กระทรวงการคลัง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท หากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องการพื้นที่สำหรับทำจุดจอดรถตู้ถาวรนั้น อยากเสนอให้ไปใช้พื้นที่ตรงบริเวณอโศก ซึ่งเป็นพื้นที่อีกแห่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยพื้นที่อโศกนอกจากจะมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับรถตู้ได้ทั้งหมดแล้ว ประกอบกับยังเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT จึงน่าจะสะดวกต่อการเดินทางของผู้โดยสาร

Wisarut · Posted: 20/06/2014 1:44 am Post subject:

Mongwin · Posted: 20/06/2014 7:08 pm Post subject:

คสช.เคลียร์ "ประภัสร์" ยันแค่ขอยืมพื้นที่ใต้ "สถานีแอร์พอร์ตลิงค์" ทดลองจัดระเบียบรถตู้
มติชนออนไลน์ วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 18:57:35 น.

วันที่ 20 มิ.ย.พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กล่าวถึง กรณีที่นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คัดค้านการย้ายวินรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อจัดระเบียบวินรถตู้รอบพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อแก้ปัญหาการจราจร ว่า ล่าสุดได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับนายประภัสร์เรียบร้อยแล้ว โดยเราอธิบายไปว่าเราแค่ต้องการยืมพื้นที่ทดลองใช้ 1 เดือน เพื่อมาจัดระบบรถตู้ให้เข้าที่เข้าทาง เพราะเห็นว่าเป็นที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ทั้งนี้เราจะพยายามดำเนินการไม่ให้เกิดผลกระทบใครทั้งสิ้น เราไม่อยากให้ใครเดือดร้อน เมื่อครบกำหนดก็ต้องหาพื้นที่ใหม่มารองรับหากดำเนินการสำเร็จ โดยทางนายประภัสร์ ก็เข้าใจและไม่ขัดข้อง ทั้งนี้เราต้องการดูว่าการจัดระเบียบเป็นอย่างไร ทั้งการจราจร ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจัดระเบียบทั้ง รถตู้ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว และได้พูดคุยกับทุกส่วนโดยเราจะสรุปการทำงานในขั้นที่2 คือดูรายละเอียดการดำเนินการ ทั้งการแก้ พรบ.กฎกระทรวงต่างๆ โดยให้ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ดูรายละเอียดก่อนจะเสนอให้ คสช.พิจารณา

"คสช.มีนโยบายชัดเจนว่าการจัดระเบียบ รถตู้ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการด้วย ดังนั้นต้องแก้ไขทั้งระบบ ต้องทำให้ตกผลึกก่อน ก่อนเสนอ คสช. ให้พิจารณาทั้งนี้ การลงพื้นที่ของ ผบ.หน่วยที่รับผิดชอบในส่วนต่างๆ ทำให้พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร" ผบ.กกล.รอ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 21 มิ.ย.พล.ต.สมโภชน์ วังแก้ว ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่2รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเรื่องการจัดระเบียบคิวรถตู้เวลา 14.00 น. ที่ พล.ม.2 รอ.

Wisarut · Posted: 02/07/2014 10:09 am Post subject:

อ้อนคสช.-กทม.ขอกลับคุม"จตุจักร" "ประภัสร์"ขวางสุดตัว-ยันรฟท.บริหารดีอยู่แล้ว
ข่าวสดรายวัน
หน้า 8
ปีที่ 24 ฉบับที่ 8616
วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

"ประภัสร์"ดับเครื่องชนกทม. ขวางไม่ให้เข้ามา บริหารตลาดนัดจตุจักร หลังฝ่ายกทม.ยื่นเรื่องถึงคสช.ขอกลับมาดูแลอีกครั้ง ย้ำหลังรฟท.มาบริหารเอง เก็บค่าเช่าถูกกว่า และไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก ชี้ผู้ค้ากว่า 7 พันรายไร้ปัญหา

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ กทม.กลับเข้ามาเป็นผู้บริหารตลาดนัดจตุจักรแทนรฟท.ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินว่า ไม่เห็นด้วย เพราะตั้งแต่รฟท.เข้ามาบริหารตลาดนัดจตุจักรเอง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่พึงพอใจ

นายประภัสร์กล่าวอีกว่าส่วนผู้ที่คัดค้านมีเพียง 618 ราย และอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มที่มีหนี้ค้างชำระ รฟท.อยู่ เรื่องนี้จะฟังเสียงคนส่วนน้อยและไม่ดูแลคนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ค้าจริงไม่ได้ หาก กทม.จะขอเข้ามาเป็นผู้บริหารตลาดแห่งนี้ มองว่าหากเราเปิดให้เอกชนรายใหม่ที่มีความชำนาญเข้ามาร่วมประมูล และเข้ามาบริหารจัดการน่าจะดีและเกิดประโยชน์กับตลาดนัดจตุจักรมากกว่า

"เงินรายได้ที่ รฟท.จัดเก็บค่าเช่านั้นก่อนหน้านี้นำมาปรับปรุงตลาดให้มีสภาพที่ดีขึ้น เมื่อปี 2556 ติดตั้งทีวีวงจรปิด ปรับปรุงระบบกระจายเสียงในตลาด ปรับปรุงระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง ก่อสร้างห้องน้ำเพิ่มบริการฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ค้าในตลาด รวมทั้งการปรับเปลี่ยนหลังคาใหม่ และในปี 2557 ตั้งงบประมาณไว้ 70 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงทางเดิน เปลี่ยนสายไฟฟ้าเก่าทั้งหมด" นายประภัสร์กล่าว

ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดไฟไหม้ตลาดจตุจักรนั้น รฟท.เข้าไปดูแลซ่อมแก้ไขทั้งหมด และจัดหาพื้นที่ชั่วคราวให้ผู้ค้าได้ขายของโดยไม่คิดค่าเช่า และไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ จากผู้ค้า ส่วนอัตราค่าเช่าแผงปัจจุบัน รฟท.กำหนดค่าเช่าแผง 3,157 บาท ค่าภาษีโรง 415 บาท รวมเป็น 3,562 บาท เป็นอัตราตามระเบียบ

"สมัยที่กทม.บริหารตลาดจตุจักร แม้จะเก็บค่าเช่า แผงราคาถูกมาก แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วสูงกว่าที่ รฟท.เรียกเก็บ ส่วนการปรับปรุงตลาดหรือเพิ่ม สิ่งอำนวยความสะดวกก็เรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ค้าทั้งสิ้น ปัจจุบันตลาดนัดจตุจักรมีแผงค้าทั้งหมด 8,480 แผง หลังจากสัญญาเดิม 2 ปี สิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา บอร์ด รฟท.มีมติให้ผู้ค้ารายเดิมต่อสัญญาอีก 5 ปีในอัตราค่าเช่าเดิม ผู้ค้ากว่า 80% ต่อสัญญาแล้ว" นายประภัสร์กล่าว

Mongwin · Posted: 02/07/2014 3:45 pm Post subject:

ประชุมโครงการก่อสร้างรางรถไฟเข้าโครงการศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้-ทุ่งสง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 กรกฎาคม 2557

วันนี้ (2 ก.ค.2557) ที่ห้องประขุมศรีปราชญ์ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมเกียรติ จันหนู หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมโครงการก่อสร้างรางรถไฟเข้าโครงการศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้-ทุ่งสง โดยมีผู้แทนเทศบาลเมืองทุ่งสง สารวัตรแขวงบำรุงทางทุ่งสง การรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้รับจ้างเข้าร่วมประชุม

นายสมเกียรติ จันหนู กล่าวว่า เนื่องจากห้างหุ้นส่วนจำกัด อัศวอังกูร ซึ่งเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างรางรถไฟเข้าโครงการศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้-ทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ในวงเงินงบประมาณ 30,819,000 บาท ซึ่งเป็นงบรายจ่ายของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ตามโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้-ทุ่งสง (Southern of Cago Distribution Center-Thungsong) เพื่อเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าผ่านระบบรางรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ รวมทั้งเพื่อรองรับสามเหลี่ยมเศรษฐกิจอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย หรือ IMT-GT

ซึ่งผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานงวดที่ 1,2,3 และ 5 เป็นเงิน 20,032,350 บาทแล้ว แต่เหลืองวดงานที่ 4และ 6 ซึ่งได้สิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2557 แต่คณะกรรมการตรวจการจ้างไม่สามารถเซ็นต์รับงานจ้างได้ เนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากการรถไฟแห่งประเทศไทยในการเชื่อมต่อระบบราง เพื่อทดสอบระบบรางว่ามีความแข็งแรงและได้มาตรฐานหรือไม่ก่อน

นายศักดิ์ มาศวิวัฒน์ สารวัตรแขวงบำรุงทางทุ่งสง การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท.ยังไม่ได้อนุมัติให้เชื่อมต่อระบบรางรถไฟจากชุมทางทุ่งสงกับศูนย์กระจายส่งค้าทุ่งสง ซึ่งในการบริหารจัดการต้องมีค่าใช้จ่าย 3 ส่วนคือ ฝ่ายอาณัติสัญญาณ เป็นเงิน 550,000 บาท ฝ่ายการเดินรถคิดค่าบริหารจัดการเป็นเงิน 18 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี และฝ่ายช่างโยธา 28,700 บาท

หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า ตามระเบียบวิธีการจัดทำงบประมาณ จังหวัดไม่สามารถตั้งงบพัฒนาจังหวัด เพื่ออุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจได้ แต่โครงการก่อสร้างรางรถไฟดังกล่าวเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ทางจังหวัดจะต้องทำเรื่องโอนมอบทรัพย์สินทั้งหมด ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยไปบริหารจัดการอยู่แล้ว ดังนั้น การที่การรถไฟไม่น่าจะมาเรียกเก็บค่าบริหารจัดการในส่วนของการรถไฟอีก จึงขอให้แขวงบำรุงทางทุ่งสงทำหนังสือหารือไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง