Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312367
ทั่วไป:14099904
ทั้งหมด:14412271
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 224, 225, 226 ... 497, 498, 499  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48732
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2014 8:38 am    Post subject: Reply with quote

ทหารสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบสถานีรถไฟกรุงเก่า หลังชาวบ้านร้องถูกคนจรจัดยึดเป็นที่พักพิง พร้อมดำเนินการผลักดันกลับภูมิลำเนา
เดลินิวส์ วันพุธ 11 มิถุนายน 2557 เวลา 07:44 น.

เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 11 มิ.ย.นายเรวัติ ประสงค์ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุชน ภัยธิราช นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา ร.ต.ท.ฐิติวุฒิ นามเทือง รองสว.ตำรวจรถไฟอยุธยา พร้อมนายสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา กำลัง อ.ส.และทหารจากกองพลทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ ตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ใช้บริการว่า พบกลุ่มคนเร่ร่อน อาศัยชานชลาสถานีรถไฟ ที่พักผู้โดยสารเป็นสถานที่หลับนอน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ จากการตรวจสอบ พบว่า บริเวณที่นั่งผู้โดยสาร ภายในสถานีรถไฟ มีประชาชนทั้งชายและหญิง และพระภิกษุสงฆ์ อาศัยม้านั่งเป้นที่พักผ่อนหลับนอน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบส่วนใหญ่แต่งกายมอมแมม และมีกลิ่นคล้ายกลิ่นสุราโชยออกมาจากร่างกาย ไม่พกบัตรประชาชนและไม่มีเอกสารติดตัว

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะ ขึ้นรถไฟจากกรุงเทพฯ เที่ยวสุดท้ายเพื่อมาอาศัยหลับนอนที่สถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา จะเดินทางกลับเข้าไปในกรุงเทพฯ เพื่อออกตระเวนเรี่ยไรและขอเงินตามสถานที่ต่างๆ แล้วขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับมานอนที่สถานีแห่งนี้ทุกวัน เจ้าหน้าที่จึงทำประวัติและแนะนำให้กลับบ้านในช่วงเช้าวันเดียวกัน จากการสอบถามประชาชนที่อยู่ที่สถานีรถไฟอยุธยาทราบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มาพักอาศัยเป็นประจำทุกวันร.ต.ท.ฐิติวุฒิ เปิดเผยว่าเรื่องของคนที่มาอาศัยสถานีรถไฟหลับนอนมีมานานและเท่าที่เห็นและเก็บหลักฐานเอาไว้แล้ว พบว่าส่วนใหญ่หน้าเดิม ๆ และมานอนเป็นประจำอยากให้ทางจังหวัดฯได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหานี้โดยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเกิดเหตุพระภิกษุถูกทำร้าย และยังมีเหตุการณ์ลักทรัพย์ด้วยด้านนายเรวัต กล่าวว่านายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ตรวจสอบและดำเนินการผลักดันกลุ่มคนเร่ร่อนเหล่านี้ กลับภูมิลำเนา เพื่อจัดระเบียบในช่วงที่ คสช.ประกาศเคอร์ฟิว เหากยังพบว่ากลุ่มคนที่เตือนไปแล้วยังลอยนวลอยู่ก็จะทำการแจ้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯได้ดำเนินการต่อไป.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2014 1:01 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งสรุปงบเมกะโปรเจ็กต์ คมนาคมประสานคลัง/เตรียมเคาะแหล่งทุน
วันศุกร์ที่ 06 มิถุนายน 2014 เวลา 15:29 น.
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,955 วันที่ 8 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คมนาคมแจงบิ๊ก คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ-สบน. - สงป. เคาะความชัดเจนแหล่งทุนเร่งขับเคลื่อนเมกะโปรเจ็กต์ ทั้งงบประจำปี 57 และงบเงินกู้ปี 58 ด้านสนข.ยังมีลุ้นแผนขับเคลื่อนระบบรางและโครงการทางถนนที่ผ่านอีไอเอแล้วหรือที่ไม่ต้องทำอีไอเอราว 20 โครงการหลัก alt หวังแจ้งเกิดถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา สนข.เคาะเจ้าภาพดำเนินการ ล่าสุดปลัดคมนาคมจี้ทุกหน่วยเตรียมข้อมูลโครงการเร่งด่วนหารือคสช.11 มิ.ย.นี้ก่อนนำเข้าหารือร่วม ก.คลัง

นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการหารือและชี้แจงความชัดเจนถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆของกระทรวงคมนาคมต่อพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ โดยมีหน่วยงานด้านการคลัง อาทิ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) และสำนักงบประมาณ(สงป.) ร่วมหารือด้วยนั้นได้ความชัดเจนในโครงการต่างๆทั้ง 5-6 หน่วยในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งพล.อ.อ.ประจินให้จัดลำดับความสำคัญและความเป็นไปได้จริงตลอดจนความพร้อมของโครงการให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการพัฒนาโครงการดังกล่าว ให้เกิดการบูรณาการอย่างไรโดยให้นำส่งข้อมูลต่อกระทรวงการคลังเพื่อนำเข้าหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 12 มิถุนายน

"ส่วนโครงการถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ในเบื้องต้นหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจคสช.เห็นสมควรให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)ไปเร่งพิจารณาหาหน่วยงานเจ้าภาพรับดำเนินการ"
ด้านดร.จุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสนข. กล่าวว่าการหารือร่วมกับสบน.ในครั้งนี้ถือเป็นการเคาะความชัดเจนด้านแหล่งทุนและโครงการใน 3 ช่องทางหลักคือใช้งบประมาณประจำปี ใช้งบเงินกู้ และใช้งบจากการร่วมทุน (PPPs)ซึ่งเป็นการหารือร่วมในภาพรวมไม่ว่าจะเป็นโครงการเร่งด่วนหรืองบประมาณของปี 2558 ตามที่มีการนำเสนอไปยังคสช.ว่าโครงการไหนจะนำไปดำเนินการก่อน-หลัง ใช้งบจากแหล่งทุนใด โดยท้ายที่สุดแล้วต้องรอให้คสช.เคาะความชัดเจน ซึ่งอาจต้องมีการหารือร่วมกันอีกหลายรอบ แต่มั่นใจว่าโครงการหลักที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเร่งผลักดันน่าจะได้รับการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นรถไฟทางคู่หรือโครงการทางถนน ตลอดจนโครงการทางน้ำตามที่ปรากฏเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปแล้ว"
ล่าสุดปลัดกระทรวงคมนาคมยังได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งสรุปการจัดลำดับความสำคัญทั้งโครงการเร่งด่วน(ต้องดำเนินการทันที) โครงการระยะสั้น(ดำเนินการในปีงบประมาณ 2558) ระยะกลาง(ดำเนินงานในปี 2559) และระยะยาว(ดำเนินการตั้งแต่ปี 2560) นำเสนอภายในสัปดาห์นี้เพื่อเตรียมนำเข้าหารือร่วมกับพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ที่จะมีการประชุมติดตามงานในวันที่ 11 มิถุนายนนี้
โดยโครงการที่จะใช้งบประมาณประจำปี และงบเพื่อการลงทุนที่สำคัญมีทั้งโครงการเร่งด่วนที่ผ่านการรับรองผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)แล้วหรือที่ไม่ต้องทำอีไอเอทั้งโครงการที่เป็นระบบรางและโครงการทางถนน ประมาณ 20 โครงการหลักที่พร้อมขับเคลื่อนได้ทันทีหากได้รับงบประมาณ ประกอบไปด้วย

โครงการทางรางที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ได้แก่
การติดตั้งเครื่องกั้น/อาณัติสัญญาณไฟสี/ระบบโครงข่ายโทรคมนาคม
โครงการรถไฟสายสีแดงอ่อน(ช่วงบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก
โครงการรถไฟสายสีแดงเข้ม(ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง)
โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยาย(ดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท)
โครงการก่อสร้างโรงรถจักรแก่งคอย

โครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี
รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม
ช่วงสมุทรปราการ-บางปู
รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ

ส่วนโครงการทางถนนของกรมทางหลวง(ทล.)และกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ได้แก่ การก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟจำนวน 83 แห่ง โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เส้นทางบางปะอิน-สระบุรี-นครศรีธรรมราช และเส้นทางบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี นอกจากนั้นยังมีโครงการทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ 10 โครงการ โครงการขยายถนน 4 ช่องจราจร โครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเลหรือรอยัลโคท(Royal Coast)

โครงการทางหลวงชนบทสนับสนุนประตูการค้าเชื่อมโยงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ/ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือเชียงแสน โครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ปริมณฑลและเมืองใหญ่ในภูมิภาค โครงการสะพานข้ามทางรถไฟ และโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า อ.เชียงของ จ.เชียงราย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 11/06/2014 4:42 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ทหารสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบสถานีรถไฟกรุงเก่า หลังชาวบ้านร้องถูกคนจรจัดยึดเป็นที่พักพิง พร้อมดำเนินการผลักดันกลับภูมิลำเนา
เดลินิวส์ วันพุธ 11 มิถุนายน 2557 เวลา 07:44 น.

จนท.กรุงเก่าลุยตรวจสถานีรถไฟอยุธยาช่วงเคอร์ฟิว พบคนจรจัดเพียบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2557 09:28 น.


พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังทหารกองพลทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ ตำรวจ นายสถานีรถไฟ และ อส.ตรวจสอบสถานีรถไฟอยุธยาช่วงเคอร์ฟิว หลังชาวบ้านร้องเรียนคนจรจัดเข้ายึดเป็นที่พักพิง พบมีทั้งขี้เหล้า และพระยึดม้านั่งเป็นที่พักผ่อนหลับนอนเพียบ นำตัวไปทำประวัติก่อนผลักดันกลับบ้าน

เมื่อเวลา 00.10 น. ของวันนี้ (11 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ พร้อมด้วย นายเรวัติ ประสงค์ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุชน ภัยธิราช นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา ร.ต.ท.ฐิติวุฒิ นามเทือง รองสารวัตรตำรวจรถไฟพระนครศรีอยุธยา พร้อมนายสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา และกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ได้สนธิกำลังร่วมกันออกตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ใช้บริการว่า พบกลุ่มคนเร่ร่อนอาศัยชานชาลาสถานีรถไฟที่พักผู้โดยสารเป็นสถานที่หลับนอน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ

จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณที่นั่งผู้โดยสารภายในสถานีรถไฟ มีประชาชนทั้งชาย และหญิง พระสงฆ์ อาศัยม้านั่งเป็นที่พักผ่อนหลับนอน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบส่วนใหญ่แต่งกายมอมแมม และมีกลิ่นคล้ายกลิ่นสุราโชยออกมาจากร่างกาย ไม่พกบัตรประชาชน และไม่มีเอกสารติดตัว

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะขึ้นรถไฟจากกรุงเทพฯ เที่ยวสุดท้ายเพื่อมาอาศัยหลับนอนที่สถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา จะเดินทางกลับเข้าไปในกรุงเทพฯ เพื่อออกตระเวนเรี่ยไร และขอเงินตามสถานที่ต่างๆ แล้วขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับมานอนที่สถานีแห่งนี้ทุกวัน เจ้าหน้าที่จึงทำประวัติ และแนะนำให้กลับบ้านในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้

ทั้งนี้ จากการสอบถามประชาชนที่อยู่ที่สถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา ทราบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มาพักอาศัยเป็นประจำทุกวัน

ร.ต.ท.ฐิติวุฒิ นามเทือง รองสารวัตรตำรวจรถไฟพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เรื่องของคนที่มาอาศัยสถานีรถไฟหลับนอนมีมานาน และเท่าที่เห็น และเก็บหลักฐานเอาไว้แล้วพบว่าส่วนใหญ่หน้าเดิมๆ และมานอนเป็นประจำ อยากให้ทางจังหวัดได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหานี้ โดยก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเกิดเหตุพระถูกทำร้าย และยังมีเหตุการณ์ลักทรัพย์ด้วย

ด้านนายเรวัติ ประสงค์ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ตรวจสอบ และดำเนินการผลักดันกลุ่มคนเร่ร่อนเหล่านี้กลับภูมิลำเนา เพื่อจัดระเบียบในช่วงที่ คสช.ประกาศเคอร์ฟิว หากยังพบว่ากลุ่มคนที่เตือนไปแล้วยังลอยนวลอยู่ก็จะทำการแจ้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯ ได้ดำเนินการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48732
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/06/2014 8:52 am    Post subject: Reply with quote

ตื่นข่าวทหารไล่จับ 'เขมร'แห่กลับบ้าน ขึ้นรถไฟแน่นขนัด
ไทยรัฐออนไลน์ 13 มิ.ย. 2557 07:20

Click on the image for full size

แรงงานกัมพูชาแตกตื่นข่าวกวาดล้างแรงงานเถื่อน แห่กลับบ้านกันเพียบตามเส้นทางรถไฟสายตะวันออก โดยเฉพาะสถานีหัวหมาก เบียดเสียดยัดเยียดกันขึ้นรถไฟถึงขนาดปีนเข้าทางหน้าต่าง เผยแรงงานเขมรที่เข้ามารับจ้างในไทยมีกว่า 4 แสนคน

กรณีแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานอยู่ในไทย แห่เดินทางกลับประเทศจนทำให้รถไฟสาย กรุงเทพ-อรัญฯแน่นไปด้วยชาวกัมพูชานั้น

ที่กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การแห่เดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมากของแรงงานกัมพูชา เกิดจากข่าวปากต่อปากว่าทหารไทยจะเข้ากวาดล้างจับกุม ซึ่งไม่เป็นความจริง แรงงานที่พากันกลับกัมพูชาเป็นกลุ่มที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เมื่อมีข่าวว่าทหารจะจับจึงกลัวและแห่กลับไป แต่แรงงานที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องยังทำงานอยู่ในประเทศไทยได้ การเดินทางกลับประเทศของแรงงานกัมพูชา อาจกระทบต่อภาคธุรกิจในเรื่องการขาดแคลนแรงงาน แต่สถานประกอบการต่างๆสามารถยื่นขอโควตานำเข้าแรงงานต่างด้าวกับกรมการจัดหางานได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีแรงงานกัมพูชาขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน จำนวน 441,569 คน ในจำนวนนี้มีแรงงานกัมพูชาที่พากันเดินทางกลับประเทศ ทั้งกลุ่มลักลอบเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย โดยได้มีการแจ้งนายจ้างว่า รัฐบาลกัมพูชาเรียกให้แรงงานกัมพูชาในไทย เดินทางกลับไปภายใน 3 วัน บอกว่าไทยจะปิดด่านไม่ให้เข้าออกประเทศ ทำให้มีการทยอยเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ คสช. ประกาศตั้งคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.) จำนวน 25 คน มี พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นรองประธานกรรมการ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่เสนอแนะนโยบาย มาตรการ และแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวทั้งระบบต่อ คสช.

นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ดีใจที่ คสช.ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว ที่ยังมีปัญหาคั่งค้างจำนวนมาก จึงตั้งคณะกรรมการ กนร. ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ โดยเฉพาะการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว ที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ ให้อยู่ในไทยได้อีก 1 ปี เนื่องจากใบอนุญาตการทำงานจะครบกำหนดในวันที่ 11 ส.ค. เกี่ยวข้องกับนโยบายของ คสช.เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน กระทรวงฯรับผิดชอบ ในการให้แรงงานต่างด้าวทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่อยู่ตามแนวชายแดนของไทย แบบมาเช้าเย็นกลับและแรงงานตามฤดูกาล รวมทั้งการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะงานก่อสร้างที่มีการเคลื่อนย้ายงานไปตามที่ต่างๆ นายจ้างที่จะพาแรงงานออกนอกจังหวัดที่ได้รับอนุญาต ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตเคลื่อนย้ายแรงงานกับกรมการจัดหางาน แต่มีค่าธรรมเนียมครั้งละ 1 พันบาทต่อการเคลื่อนย้าย นายจ้างมองว่าเป็นการเพิ่มภาระ เพราะลักษณะของงานไม่ได้อยู่เพียงจังหวัดเดียว อาจจะเสนอเรื่องนี้ต่อ กนร.พิจารณาด้วย พร้อมมอบหมายให้นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน ในฐานะรองประธานอนุกรรมการ กนร.นำประเด็นนี้ไปหารือฝ่ายเลขานุการ กนร. ว่าควรนำมาพิจารณาหรือไม่

ด้านบรรยากาศแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าไปทำงานในเขตพื้นที่ตอนในและเขตอุตสาหกรรมต่างๆใน กทม.และปริมณฑล อย่างผิดกฎหมาย ที่พากันเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 12 มิ.ย. มีผู้ใช้แรงงานชาวกัมพูชานับพันคนขนข้าวของส่วนตัวมาเฝ้ารอขบวนรถไฟฟรี สายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ตามสถานีรถไฟเส้นทางสายตะวันออก ตั้งแต่สถานีมักกะสัน คลองตัน หัวหมาก ทับช้าง ลาดกระบัง ฯลฯ กันอย่างแน่นขนัด เพื่อกลับประเทศทางชายแดน จ.สระแก้ว เนื่องจากได้ข่าวลือว่าทหารไทยจะกวาดล้างแรงงานเถื่อนให้หมดจากไทยภายในวันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่ขบวนรถไฟสายตะวันออกที่จะเดินทางไป อ.อรัญประเทศ มีเพียงวันละ 2 ขบวน คือ ขบวนรถไฟดีเซลรางธรรมดา 275 และ 279 โดยเฉพาะที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหมาก แรงงานกัมพูชาหลายร้อยคนมารอขบวนรถไฟดีเซลรางธรรมดา “275” ซึ่งจะออกจากสถานีหัวลำโพงมาถึงสถานีหัวหมากในเวลา 06.30 น. กันตั้งแต่เวลา 03.00 น. และเมื่อขบวนรถไฟ 275 มาถึงก็ต่างเบียดเสียดปีนขึ้นรถไฟ บางรายถึงขั้นปีนเข้าทางหน้าต่างรถไฟ เพราะกลัวจะไม่ได้กลับบ้านเกิด สร้างความเวทนาสงสารแก่ชาวบ้านบริเวณสถานีรถไฟหัวหมากและผู้มาใช้บริการรถไฟอย่างมาก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 20/06/2014 9:16 pm    Post subject: Reply with quote

ตร.รถไฟเมืองอุบลฯ ตรวจค้นขบวนรถไฟสกัดต่างด้าวผิด ก.ม.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2557 17:21 น.

พ.ต.ท.กันตภณ พึ่งสังข์ สารวัตรตำรวจรถไฟอุบลราชธานี ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ตรวจค้นดูเอกสารประชาชนที่เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีต้นทางอุบลราชธานี ไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศทุกขบวน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายลักลอบเข้าไปขายแรงงาน ตามนโยบายจัดระเบียบแรงงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมป้องกันการฉวยโอกาสของขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ลำเลียงยาเสพติด รวมทั้งอาวุธสงคราม เข้าไปยังส่วนกลางของประเทศ
ที่ผ่านมาตำรวจรถไฟ และตำรวจท่องเที่ยว สามารถจับกุมแรงงานชาวลาวที่เข้ามาลักษณะนักท่องเที่ยว แล้วฉวยโอกาสเข้ามาขายแรงงาน เฉลี่ยวันละ 50-100 คน ส่วนแรงงานกัมพูชาไม่พบการเดินทางผ่านช่องทางนี้

------------------------------------------------------------

Laughing โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว สายอิสานใต้ แรงงานต่างด้าวที่อาศัยรถไฟเดินทาง คงไม่มากเท่าสายตะวันออกนะ ครับ เพราะสายตะวันออกปลายรางอยู่ชิดชายแดนมากกว่า Rolling Eyes
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 21/06/2014 9:34 am    Post subject: Reply with quote

^^^
ที่อยุธยาก็มีคนงานเขมรมาทำงานในนิคมโรจนะ ด้วยนะ และ กำลังหา ทางขึ้นรถไฟจากอยุธยาไปอรัญประเทศ ตามข่าวต่อไปนี้

ตร.อยุธยาส่ง 48 แรงงานเถื่อนชาวเขมรกลับกัมพูชา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2557 15:38 น.




พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา ผลักดันแรงงานเขมรผิดกฎหมาย 48 คน กลับประเทศ หลังจับกุมได้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ขณะรอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับประเทศตนเองที่สถานีรถไฟอยุธยา

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด.ต.ชาลี สุพลจิตร ผบ.หมู่งานสอบสวนนำส่งผู้ต้องหา สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำรถบรรทุกผู้ต้องหามารับตัวผู้ต้องหาบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 48 คน เพื่อนำส่งกลับประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

หลังจากแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดถูกตำรวจรถไฟ นำโดย พ.ต.ท.เกียรติชัย เกิดโชค สว.ส.รฟ.อยุธยา ถูกจับกุมขณะมารอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับประเทศหลังจากแตกตื่นข่าวจะมีการกวาดล้างแรงงานเถื่อนผิดกฎหมายขั้นเด็ดขาด เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา แล้วนำส่ง ร.ต.ต.เสนีย์ พาชอบ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนปล่อยตัวผลักดันส่งกลับประเทศในวันนี้

นายเนียง อายุ 39 ปี แรงงานชาวกัมพูชา กล่าวว่า ตนได้เข้ามาทำงานก่อสร้างใน กทม.กับเพื่อนๆ แล้วมีข่าวว่าจะจับแรงงานต่างด้าวดำเนินคดีอย่างหนักพวกจนจึงกลัวเลยนัดกันเดินทางกลับบ้านเพื่อรอดูความชัดเจนก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ แต่ขณะที่รอขึ้นรถไฟอยู่ทางทิศเหนือของชานชาลาสถานีรถไฟอยุธยา ได้มีตำรวจรถไฟเข้ามาจับตน และเพื่อนๆ ที่เดินทางมาด้วยกันส่งโรงพักอยุธยา

ด้านนางพัชรนันท์ พันนธุ์พิริยะ จัดหางานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับแรงงานต่างด้าวที่มาขึ้นทะเบียนเพื่อทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 3 สัญชาติทั้งหมด 13,257 คนแบ่งเป็นสัญชาติพม่า 6,440 คน ลาว 1,554 คน กัมพูชา 5,263 คน

ส่วนที่ผิดกฎหมายไม่สามารถระบุจำนวนได้ แต่ก็มี ซึ่งทางจัดหางานได้ประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ เช่น วิทยุชุมชน หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และการประสานงานกับนายจ้างผู้ประกอบการที่ต้องใช้แรงงานต่างด้าวให้ทราบโดยตลอด

สำหรับที่มีข่าวว่าจะเข้มงวดการจับกุมแรงงานต่างด้าวนั้น ปกติถ้าเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเราก็ดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว แนะนำให้นายจ้างมาขอโควตาลูกจ้างเพื่อขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่มีข่าวว่าจะดำเนินการขั้นรุนแรงเด็ดขาดนั้นไม่มีแน่นอน แต่แรงงานคงตื่นตระหนกกันไปเอง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 24/06/2014 9:32 am    Post subject: Reply with quote

ททท.ชวน "เที่ยวด้วยรถไฟ" สัมผัสมุมมองใหม่ ระหว่างการเดินทาง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2557 17:41 น.


ททท.ชวน เที่ยวด้วยรถไฟ สัมผัสมุมมองใหม่ ระหว่างการเดินทาง
นางสมฤดี ชาญชัย เคาะระฆังเริ่มต้นการเดินทาง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย จัดกิจกรรม “แรลลี่ถ่ายรูป ปู๊น ปู๊น แชะ ชิลล์ ของดีเมืองโคราช” เส้นทางกรุงเทพฯ-ปากช่อง จ.นครราชสีมา หวังปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมชูต้นแบบการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ ที่สามารถเที่ยวกันได้เป็นหมู่คณะและสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ในมุมมองใหม่ๆ

เมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา นางสมฤดี ชาญชัย ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นผู้เคาะระฆัง เริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟ ในกิจกรรม “แรลลี่ถ่ายรูป ปู๊น ปู๊น แชะ ชิลล์ ของดีเมืองโคราช” ในเส้นทาง กรุงเทพฯ สถานีหัวลำโพง – สถานีสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยมีขณะนักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมบนรถไฟในครั้งนี้

ททท.ชวน เที่ยวด้วยรถไฟ สัมผัสมุมมองใหม่ ระหว่างการเดินทาง
คณะนักท่องเที่ยวในกิจกรรม “แรลลี่ถ่ายรูป ปู๊น ปู๊น แชะ ชิลล์ ของดีเมืองโคราช”

นางสมฤดี เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการกิจกรรม “แรลลี่ถ่ายรูป ปู๊น ปู๊น แชะ ชิลล์ ของดีเมืองโคราช” ว่า เพื่อเป็นการสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเทศโดยใช้การเดินทางด้วยรถไฟ เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ และส่งเสริทมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน

ททท.ชวน เที่ยวด้วยรถไฟ สัมผัสมุมมองใหม่ ระหว่างการเดินทาง
ทัศนียภาพ “ทุ่งดอกดาวเรือง” ระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟ

นางสมฤดี กล่าวต่อว่า กิจกรรมแรลลี่ฯ ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมนำร่องการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นขณะ หรือกลุ่มบริษัทที่ต้องการจัดกิจกรรมภายในองค์กรหรือตอบแทนลูกค้า เพราะการเดินทางโดยรถไฟนั้น สามารถที่จะรองรับผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมากและแต่ละโบกี้ก็ยังสามารถที่จะเชื่อมต่อหากันได้ ซึ่งสามารถที่จะจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ในขณะเดินทางอีกด้วย

อีกทั้งการเดินทางโดยรถไฟนั้นเป็นการเดินทางที่มีมนต์เสน่ห์ สามารถที่จะเห็นวิวทิวทัศน์ในมุมมองใหม่ๆ ตลอดสองข้างทาง และเชื่อว่าหากได้มีการส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้การเดินทางท่องท่องเที่ยวโดยใช้บริการรถไฟจะได้รับความนิยม

ท่องเที่ยวทางรถไฟเชิญทางนี้
http://www.railway.co.th/home/travel/travel.aspx
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 24/06/2014 7:55 pm    Post subject: Reply with quote

'ผลตอบแทนทางการเงิน' คือตัวเลขสมมติ-ฉุดรถไฟโต
by Chitnapa
Voice TV
20 มิถุนายน 2557 เวลา 17:28 น.

รายงานพิเศษการรถไฟฯ..องค์กรเก่าที่ถูกลืม ตอนที่ 3 : 'ผลตอบแทนทางการเงิน' คือตัวเลขสมมติ-ฉุดรถไฟโต

การรายงานผลงานรัฐวิสาหกิจต่อรัฐบาล ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ "ผลตอบแทนทางการเงิน" แต่สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นมองว่า ตัวเลขนี้ ไม่สามารถวัดการทำงานได้

การรายงานผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจต่อรัฐบาลผู้ถือหุ้นใหญ่ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงถึง "ศักยภาพ" ในการทำเงินเข้าเงินเข้าคลัง ซึ่งสิ่งที่แต่ละหน่วยงานนำมาเสนอ คือ "ผลตอบแทนทางการเงิน" ที่รัฐวิสาหกิจนั้นได้ทำในแต่ละไตรมาส แต่ละปี

แต่สำหรับรัฐวิสาหกิจ ที่เป็นองค์กรด้าน "ระบบโครงสร้างพื้นฐาน" ซึ่งหน่วยงานกลุ่มนี้ มีผลตอบแทนทางการเงินต่ำ บางที่ยังขาดทุน หรือยังไม่คืนทุน เพราะโครงสร้างพื้นฐานใช้เงินลงทุนมหาศาล ดังนั้นระยะเวลาในการคืนทุนจึงนาน อยู่ในหลัก 10 ปีขึ้นไป

สิ่งที่หน่วยงานกลุ่มนี้ให้มากกว่า "ผลตอบแทนทางการเงิน" หรือผลงานในรูปแบบเม็ดเงิน คือ" ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม" ที่ถูกมองข้ามไป ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในระบบงบประมาณ ไม่มีพูดถึง หรือมองเห็นความสำคัญ

ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า "รู้สึกน้อยใจ" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เพราะทุกครั้งที่นำผลดำเนินงานไปรายงานต่อกระทรวงการคลัง มักไม่มีใครให้ความสำคัญ เพราะเป็นหน่วยงานที่ไม่ทำกำไร ซ้ำยังมีหนี้ แต่พวกเขาลืมคิดว่า ทางกลับกัน รถไฟก็สร้างประโยชน์ต่อสังคมที่วัดเป็นตัวเงินไม่ได้ แม้จะพยายามผลักดันให้นำเรื่องการตอบแทนทางเศรษฐกิจ บรรจุไว้เป็น "หมายเหตุ" ในระบบงบประมาณ เพื่อให้ระบบได้รับทราบ แต่ยังไม่สำเร็จ

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ฝากถึงสังคมด้วยว่า ขอให้มองการรถไฟในแง่มุมที่ดีบ้าง ไม่ใช่เพียงการเอาการรถไฟฯไปเปรียบเทียบกับ ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน แต่รูปแบบการดำเนินงานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เคยมีข้อเสนอในเรื่องของการแก้ปัญหาผลการขาดทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า ควรให้ "เอกชน" เข้ามาบริหารงานแทนหรือไม่ เพื่อสร้างรายได้ สร้างกำไร ล้างหนี้ จะช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ติดตามได้ในรายงานพิเศษตอนที่ 4
Back to top
View user's profile Send private message
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 24/06/2014 10:50 pm    Post subject: Reply with quote

ศาล ปค.ให้ 178 ผู้ค้าจตุจักรร่วมฟ้องคดี ร.ฟ.ท.รีดค่าแผง-เสนอเพิกถอนโฉนดเอกชน “บ้านทับยาง”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2557 19:58 น.

ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลชั้นต้น รับผู้ค้าจตุจักร 178 ราย ร่วมเป็นผู้ฟ้องคดีการรถไฟฯ เรียกเก็บค่าแผงแพงกว่าที่กำหนด อีกด้านตุลาการผู้แถลงคดี เสนอความเห็นให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนโฉนดที่ดินเอกชน ที่ทับซ้อนพื้นที่ป่าบ้านทับยาง จ.พังงา

วันนี้ (24 มิ.ย.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร อีก 178 ราย เป็นผู้ร้องสอดในคดีที่ ผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร นำโดย นายสงวน ดำรงค์ไทย กับพวกรวม 789 ราย ฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กับพวกรวม 3 ราย ในคดีที่ ร.ฟ.ท. ออกประกาศเรียกเก็บค่าเช่าแผงค้าในอัตราที่แพงเกินกฎหมายกำหนด โดยก่อนหน้านี้ ศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับคำร้องสอดของผู้ค้าทั้ง 178 ราย ซึ่งเป็นผู้ฟ้องในลำดับที่ 621 - 789 ไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าฟ้องเกิน 90 วัน นับแต่วันรู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้อง โดยศาลได้ยึดประกาศเรียกเก็บค่าเช่าแผงของ ร.ฟ.ท. ฉบับวันที่ 2 มี.ค. 2555 เป็นเหตุที่ควรฟ้องคดีแล้ว แต่ศาลปกครองสูงสุด กลับเห็นว่า ร.ฟ.ท. ได้มีการออกประกาศหลายฉบับในการนำมาใช้บังคับกับผู้ค้าสินค้าแต่ละประเภท ในวันและเวลาที่แตกต่างกัน จึงทำให้กรอบระยะเวลาที่รู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องคดี ย่อมแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาประกาศของ ร.ฟ.ท. ที่ออกมามีผลบังคับใช้ต่อผู้ค้าทั้ง 178 ราย พบว่าการฟ้องคดีต่อศาลปกครองของผู้ค้าทั้ง 178 ราย ไม่เกินกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ศาลจึงมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นให้รับคำร้องสอดของผู้ค้าทั้ง 178 ราย ไว้พิจารณา

อีกด้านหนึ่ง ศาลปกครองกลางออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่ นางทัศนา นาเวศน์ ชาวชุมชนบ้านทับยาง ต.ท้ายเมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กับพวกรวม 36 ราย ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายกเทศบาลตำบลท้ายเหมือง และ นายงิ้มต่าม ลิ่มดุลย์ ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิที่ดินโฉนดเลขที่ 972 และ 973 รวมเนื้อที่ 170 ไร่ โดยอ้างจากเอกสาร ส.ค.1 ที่ซื้อสิทธิ์จากนายอุทัย ณ ระนอง ผู้ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ในพื้นที่บ้านทับยาง หมู่ 9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่าร่วมกันออกโฉนดที่ดินดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทับซ้อนพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ป่าไสอ่อน พื้นที่ป่าไสแก่ คลองพุกง เป็นเหตุให้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ทั้งนี้ ในการพิจารณาคดี ตุลาการเจ้าของคดีได้สรุปข้อเท็จจริงในคดี และให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายแถลงการณ์ปิดคดีด้วยวาจา

โดย นางทัศนา นาเวศน์ ผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า เหตุที่ตนกับพวกทั้ง 35 ราย อ้างว่าที่ดินดังกล่าวป็นของรัฐ เพราะเคยได้รับการบอกกล่าวจากคนงานเหมืองแร่ของนายอุทัย ณ ระนอง ว่า นายอุทัยได้เคยแจ้งแก่คนงานว่า เมื่อเลิกทำเหมืองแร่แล้ว ที่ดินดังกล่าวจะตกเป็นของรัฐ นอกจากนี้ ยังปรากฏในคดีพิพาทระหว่างนายงิ้มต่าม กับเทศบาลตำบลท้ายเหมืองว่า โฉนดที่ดินทั้งสองฉบับทับทางน้ำสาธารณประโยชน์ ขณะที่ นายสุราษฎร์ สุกปลั่ง ผู้รับมอบอำนาจจากนายงิ้มต่าม แจ้งต่อศาลว่า นายงิ้มต่าม ไม่ประสงค์แถลงด้วยวาจา

จากนั้น นายสมเกียรติ ชมวิสูตร ตุลาการผู้แถลงคดีได้แถลงความเห็นส่วนตัวที่ไม่มีผลผูกพันต่อการวินิจฉัยของคณะ โดยนายสมเกียรติ ระบุว่า จากหลักฐานข้อเท็จจริงในคดีนี้เห็นว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 972 และ 973 ที่นายงิ้มต่าม นำเอกสาร ส.ค.1 ที่ซื้อสิทธิ์จากนายอุทัย ณ ระนอง ผู้ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ในพื้นที่บ้านทับยาง หมู่ 9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มาออกโฉนดนั้น เป็นการออกโฉนดทับซ้อนพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ป่าไสอ่อน พื้นที่ป่าไสแก่ คลองพุกง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงเห็นควรที่คณะตุลาการเจ้าสำนวนจะมีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดินเร่งดำเนินการเพิกโฉนดที่ดินในส่วนที่ทับซ้อนพื้นที่สาธารณะประโยชน์ พื้นที่ป่าไสอ่อน พื้นที่ป่าไสแก่ คลองพุกง โดยมีตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด

**ย่อหน้าที่ ๒-๓-๔ ไม่เกี่ยวกับเรื่องของรถไฟนะ ครับ แต่เป็นเรื่องที่ตัดสินในวันเดียวกัน***
_________________
Click on the image for full size


Last edited by ksomchai on 27/06/2014 9:05 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48732
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/06/2014 8:05 am    Post subject: Reply with quote

ศัพท์ สำนวนทางกฎหมายนี้ ยากแก่การอ่านทำความเข้าใจจริง ๆ ครับพี่สมชาย
เวลาศาลตัดสินคดีความอะไร ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ดูรอบเดียวไม่เคยเข้าใจเลย
ต้องรอให้ใครที่มีความรู้มาแปลให้เป็นภาษาชาวบ้านอีกที Wink
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 224, 225, 226 ... 497, 498, 499  Next
Page 225 of 499

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©