ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Mongwin]

โฉมหน้า 7 อรหันต์บอร์ดรถไฟ เร่งกู้ซาก เรียกศรัทธา คัดสรรบิ๊กม้าเหล็ก
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 23 ก.ค. 2557 เวลา 08:43:31 น.

เผยโฉมหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทั้ง 7 คน มานั่งคุมการบริหารงานของ "การรถไฟฯ" ให้ลื่นไหลไปตามนโยบาย "คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" และปลัดกระทรวงคมนาคม "สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์"

เพราะนาทีนี้ "การรถไฟฯ" ได้ชื่อว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่ยอดแย่ ขาดทุนบักโกรกร่วม 1 แสนล้านบาท ถึงขั้นต้องเร่งฟื้นฟูองค์กรเป็นการด่วน ยิ่งเจอคดีเดนมนุษย์ฆ่าข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์องค์กรเก่าแก่ 117 ปียิ่งติดลบ จึงต้องมีผู้เชียวชาญมานั่งเป็นบอร์ดคุมนโยบาย

งานนี้คสช.ส่ง "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" อดีตบิ๊กไปรษณีย์ไทยนั่งเป็นประธาน หวังมาช่วยพัฒนาศักยภาพการรถไฟฯ ให้พลิกฟื้นขึ้นมาได้เหมือนไปรษณีย์ไทย



ด้าน "ชุณหจิต สังข์ใหม่" รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้มาช่วยดูระบบจัดซื้อจัดจ้างให้โปร่งใส หลังที่ผ่านมามีปัญหามาโดยตลอด จนทำให้โครงการไม่เดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ ยิ่งขณะนี้กำลังเร่งจัดหาหัวรถจักร รถโดยสารใหม่ และประมูลงานสัญญาใหญ่ ๆ ต้องอาศัยผู้ชำนาญการมาช่วยเร่งให้ทุกอย่างรุดหน้า

ที่น่าสนใจ "พลโทชาญชัย ภู่ทอง" แม่ทัพภาคที่ 2 จะเกษียณเดือนก.ย.นี้ ได้นั่งเป็นกรรมการ นับเป็นครั้งแรกรอบ 20 ปีที่ทหารมานั่งเป็นบอร์ด จะมาช่วยเร่งสรรหาผู้ว่าการคนใหม่คนที่ 18 ต่อจาก "ประภัสร์ จงสงวน" ว่ากันว่า...เก้าอี้นี้กำลังวิ่งกันฝุ่นตลบทั้งลูกหม้อและคนนอก

ขณะที่ "ภาณุมาศ ศรีสุข" อดีตผู้บริหารบจ.ซิเมนต์ไทย โลจิสติกส์ จะมาช่วยดูเรื่องโลจิสติกส์ให้ ส่วน "จุฬา สุขมานพ"* ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะมาเร่งรัดรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าสายสีแดง
* ปัจจุบันเป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า

สำหรับ"สราวุธ เบญจกุล" ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ที่นั่งเป็นบอร์ดรถไฟมายาวนาน 6-7 ปี มาช่วยดูเรื่องกฎหมาย เช่นเดียวกับ "ยุทธพงษ์ อภิรัตนรังษี" ผู้แทนจากอัยการสูงสุด ถูกดึงมาช่วยดูสัญญาจัดซื้อจัดจ้างและเช่าที่ดินในการประชุมบอร์ดนัดแรก "สร้อยทิพย์" ซึ่งเคยเป็นประธานบอร์ดมาก่อน

ถือโอกาสมอบนโยบายยาวเป็นหางว่าวให้บอร์ดชุดใหม่ ซึ่งงานนี้อาศัยจากประสบการณ์จริงล้วน ๆ

"บอร์ดรถไฟชุดนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ ระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และผู้แทนจาก สนข.ที่ประสานงานกับกระทรวงได้ มาช่วยขับเคลื่อนให้งานรวดเร็วขึ้น" ปลัดคมนาคมกล่าว

"ส่วนประธานบอร์ดคนใหม่ อยากให้ช่วยพัฒนาพนักงานทุกระดับ สร้างขวัญกำลังใจและแรงจูงใจการทำงานเหมือนที่ทำให้ไปรษณีย์ไทย เพื่อฟื้นฟูรถไฟให้เป็นไปตามที่คสช.และกระทรวงคาดหวังไว้ รถไฟมีทรัพย์สินมูลค่า 3 แสนล้าน ถึงมีหนี้แสนล้าน แต่องค์กรยังไปไหว"

ปลัดคมนาคมยังบอกอีกว่า จะเร่งรัดทำแผนฟื้นฟูโครงสร้างองค์กรทุกด้าน เช่น บุคลากร สถานะการเงิน บริหารทรัพย์สิน โครงสร้างพื้นฐาน ส่งให้ คสช.พิจารณาใน 15 วันนับจากวันที่มีการแต่งตั้งอนุคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการของรัฐวิสาหกิจขึ้นมาพิจารณา

รวมถึงเร่งรัดโครงการในแผนลงทุน 1.76 แสนล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติตั้งแต่ปี 2553-2557 ปัจจุบันมีแค่ก่อสร้างรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และซื้อหัวรถจักร 20 คัน ที่เหลือยังไม่มีความคืบหน้า เช่น ทางคู่ 5 สาย ซื้อรถจักร จะต้องเร่งชี้แจงให้ข้อมูล คสช.เพื่อให้โครงการเดินหน้า เพราะหัวรถจักร รถไฟทางคู่ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการให้บริการที่มีคุณภาพ

อีกทั้งจะแก้ปัญหารั่วไหลการจัดเก็บรายได้จากทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศให้ติดตามสัญญาที่ค้างชำระ และไม่เคยมีการปรับค่าเช่าให้เหมาะสม เพื่อหารายได้มาพัฒนาบริการและลงทุนโครงการใหม่ ๆ

"บุคลากรที่พูดว่าขาด ต้องสำรวจความต้องการแต่ละส่วนงานพร้อมเสนอไว้ในแผนฟื้นฟู ส่วนรถไฟสายสีแดงก็เร่งรัดโดยเร็ว ให้การเปิดใช้บริการได้ตามแผน"

อีกนโยบายที่สำคัญ คือ โครงการรถไฟเชื่อมกับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนตามนโยบาย คสช. จะต้องเตรียมมีสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของและสายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม

ขณะที่ "ออมสิน" ยอมรับว่า การรถไฟมีการหย่อนยานไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่มีจริง เรื่องเร่งด่วนตอนนี้ ต้องปรับปรุงความสะอาด การบริการ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น

ปัจจุบันแต่งตั้ง "ประเสริฐ อัตตะนันทน์" หัวหน้าหน่วยด้านบริหารทรัพย์สิน รักษาการผู้ว่าการฯ ช่วงรอสรรหาผู้ว่าการคนใหม่แล้วเสร็จ จะใช้เวลา 5 เดือน และเร่งสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ ให้มีตำรวจรถไฟดูแลทั้งบริเวณสถานีและขบวนรถ ทำเลดี้โบกี้ในสายเหนือ ใต้และอีสาน เริ่มวันที่ 1 ส.ค.นี้ ส่วนปัญหาหนี้สินและหารายได้เพื่อล้างขาดทุนแสนล้านบาท จะพิจารณานัดต่อ ๆ ไป ขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้สังคมเข้าใจรถไฟไทยมากขึ้นก่อนเป็นลำดับแรก

----

การรถไฟฯ จับมือกัมพูชาเตรียมก่อสร้างสะพานรถไฟร่วม
ThaiPBS Thu, 24/07/2014 - 20:49


การรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่งกัมพูชาทำพิธีถอนเสาสะพานรถไฟระหว่างไทยกับกัมพูชาชุดเก่า เพื่อเตรียมทำพิธีวางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้างใหม่ในวันพรุ่งนี้ เชื่อหากทั้ง 2 ประเทศดำเนินการก่อสร้างโครงการครั้งนี้เสร็จสิ้นจะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาเพิ่มขึ้น

เมื่อเวลา16.30 น. ของวันนี้ (24 ก.ค.57) ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่งกัมพูชาในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อทำการถอนเสาสะพานรถไฟระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาชุดเก่า ก่อนที่จะทำพิธีวางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้างสะพานใหม่ในวันพรุ่งนี้

นายสุประภาส เสนีวงศ์ ณ อยุธยา วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการสร้างสะพานรถไฟระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงทางรถไฟช่วงคลองสิบเก้าถึงสุดสะพานคลองลึก ซึ่งใช้งบประมาณทั้งหมด 2,822 ล้านบาท คิดเป็นระยะทางทั้งหมด 174 กิโลเมตร โดยจะเป็นการปรับปรุงรางใหม่ทั้งหมด เช่นการเปลี่ยนไม้หมอน หรือปรับปรุงหินโรยทาง และในงบประมาณจำนวนนี้ยังแบ่งไปใช้ในโครง การก่อสร้างเส้นทางรถไฟอรัญประเทศถึงคลองลึกระยะทาง 6 กิโลเมตร ที่ใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 111ล้านบาท และการสร้างสะพานรถไฟข้ามแดนระหว่างคลองลึกและปอยเปตระยะทาง 43 เมตร ที่ใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 30ล้านบาท

โดยเชื่อว่าในส่วนของการก่อสร้างเส้นทางรถไฟอรัญประเทศถึงคลองลึกจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนปีนี้ แต่ในส่วนของการปรับปรุงทางรถไฟช่วงคลองสิบเก้าถึงสุดสะพานคลองลึก และการสร้างสะพานรถไฟข้ามแดนระหว่างคลองลึกถึงปอยเปตคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558 เชื่อว่าหากโครงการนี้เสร็จสิ้นการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ด้านนายอุนซอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่งกัมพูชา กล่าวว่าเส้นทางรถไฟของกัมพูชามีทั้งหมด 2เส้นทางคือกรุงพนมเปญถึงปอยเปต ระยะทาง 386 กิโลเมตร และกรุงพนมเปญถึงสีหนุวิลล์ ระยะทาง 264 กิโลเมตร โดยความร่วมมือในการสร้างสะพานรถไฟระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการเส้นทางรถไฟกรุงพนมเปญถึงปอยเปต ซึ่งขณะนี้เหลือเส้นทางการสร้างอีกเพียงแค่ 6 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับสะพานรถไฟระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ โดยกำหนดการสร้างเส้นทางในส่วนที่เหลือ 6 กิโลเมตรคาดว่าจะเริ่มในช่วงต้นปี 2558 และจะใช้เวลาในการสร้างประมาณ 8 -10 เดือน และจะใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเชื่อว่าหากสร้างเสร็จจะทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าทางบกจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 64

[Mongwin]

บอร์ด รฟท.ถกแผนแก้ขาดทุน โยนคลังรับภาระหนี้ 6 หมื่นล.
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 25 ก.ค. 2557 19:35

บอร์ด รฟท.ถกแผนฟื้นฟูแก้ขาดทุน เล็งให้คลังรับภาระหนี้สะสม 6 หมื่นล้าน สั่งตรวจสอบจัดเก็บค่าเช่าที่ดิน ให้เหมาะสม เร่งเจรจา ปตท.ค้างจ่ายค่าเช่าให้ได้ข้อยุติ คาดแผนลงทุน 10 ปี พัฒนารถไฟทางคู่ จะทำให้ปี 67 เริ่มมีกำไร...

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ รฟท. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับแผนฟื้นฟู รฟท.โดยยังต้องจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย เพื่อให้มีความชัดเจนในทางปฏิบัติ และจะมีการหารือกับกระทรวงการคลังอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อขอให้กระทรวงการคลัง เข้ามารับภาระหนี้สินสะสม ที่ รฟท.ต้องแบกรับภาระในกาลงทุนด้านโครงพื้นฐาน รวมถึงกรณีที่ รฟท.ต้องใช้เงินอุดหนุนการให้บริการเนื่องจากไม่มีการปรับค่าโดยสารคิด เป็นวงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จากภาระหนี้สะสมทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้หนี้สินของ รฟท.ลดลงเหลือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปตรวจสอบและควบคุมดูแลเรื่องการจัดเก็บค่าเช่าที่ดินทั้งหมด ส่วนกรณีที่ดินที่ให้บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ยังค้างหนี้ค่าเช่านั้น ยังหาข้อยุติไม่ได้ โดยมีการส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา ซึ่งจะเร่งให้มีการเจรจาตกลงเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการกำหนดอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม

สำหรับแผนฟื้นฟู เบื้องต้นจะเป็นแผนระยะยาว 10 ปี มีเงื่อนไขที่จะต้องมีการลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง และมีการจัดหาระบบรถ หัวรถจักรใหม่ ซึ่งจะทำให้ภายในปี 2560 รฟท.จะเริ่มมีความพร้อมในการให้บริการ โดยได้มีการประเมินผลเบื้องต้นจะทำให้ รฟท.เริ่มมีกำไรครั้งแรกในปี 2567 ประมาณ 500 ล้านบาท

ส่วนแผนการเพิ่มรายได้ มีแนวคิดที่จะหารายได้จากการติดป้ายโฆษณาบนขบวนรถไฟ คล้ายกับรถไฟฟ้าบีทีเอส และประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทางรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกด้วย.

[Wisarut]

ข่าวจากทีมพีอาร์

[Wisarut]

ปฏิรูปรถไฟไทย ภารกิจที่ยังห่างไกลความจริง
Thai PBS
เสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2557 - 20:06

แม้ว่าจะมีรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายประภัสร์ จงสงวน ถูกปลดจากตำแหน่งภายหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 13 บนโบกี้รถไฟตู้นอน แต่จนถึงขณะนี้แนวทางปฏิรูป รฟท. ก็ยังไม่มีความชัดเจน ขณะนี้ รฟท. ประสบปัญหาขาดทุนเข้าขั้นวิกฤต และบอร์ดการรถไฟฯ เตรียมเจรจากับกระทรวงการคลัง เพื่อโอนรับภาระหนี้จากการดำเนินโครงการรัฐ และโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 6 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้พลิกฟื้นองค์กร

http://www.youtube.com/watch?v=tK0xL-80CU8

“ได้เวลาปฏิรูปรถไฟไทย“ ตอน ทำความเข้าใจกับขนาดของรางรถไฟไทย
http://program.springnewstv.tv/24357/%C2%93%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%C2%93-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2

ได้เวลาปฏิรูปรถไฟไทย“ ตอน รถไฟไทยส่งเสริมการท่องเที่ยว
http://program.springnewstv.tv/24465/%C2%93%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%C2%93-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7

[Wisarut]

อนาคตรถไฟไทยกับประธานบอร์ดร.ฟ.ท.
หน้า ธุรกิจ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 27 กรกฎาคม 2557 11:31

"ออมสิน ชีวะพฤกษ์" ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.ภารกิจล้างภาพลบรถไฟ-ล้างหนี้แสนล้าน



รายการ Ringside สังเวียนหุ้น ทางสถานีโทรทัศน์ NOW26 ตอน "อนาคตรถไฟไทย" พูดคุยกับ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ดการรถไฟฯคนใหม่ ผู้หาญกล้าประกาศแผนพัฒนารถไฟไทย ขอมีกำไรในปี 2567

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดร.ฟ.ท. ว่า ครั้งแรกที่ได้รับเชิญจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน

"มีนายทหารท่านหนึ่งโทรมา เขาก็รายงานตัวเรียบร้อยว่ามาจากไหน ใครให้โทรมา แล้วก็บอกว่าหัวหน้า คสช.ให้ผมไปทำหน้าที่ประธานบอร์ดรถไฟ ผมก็ตอบเขาไปว่าทำไม่ได้หรอก ผมไม่เคยทำ นายทหารที่โทรมาก็บอกว่า ทาง คสช.คัดเลือกจาก 8 รายชื่อที่มีการเสนอมา และเราเชื่อว่าคุณจะทำได้ เมื่อ คสช.มั่นใจ เราก็โอเค ถ้าคุณคิดว่าผมทำได้ผมก็จะทำ ก็ตอบรับไปแบบงงๆ แล้วก็วางสายไป" นายออมสินเล่าถึงช่วงที่ถูกทาบทาม

"ตอนนั้นผมก็ยังงงๆ นะ วางสายไปก็ยังคิดว่าใครโทรมานะ จำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ที่เขาบอกว่าให้ไปเป็นประธาน ร.ฟ.ท. ซึ่งหัวหน้า คสช.ก็ไม่ได้สั่งหรือกำชับการทำงานอะไรเป็นพิเศษ โดยระบุเพียงว่าอยากให้ ร.ฟ.ท.เป็นองค์กรที่โปร่งใส ตรวจสอบได้"

เริ่มจากสิ่งที่ประชาชนบ่น

ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.คนใหม่ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เริ่มทำงานมาได้เห็นเลยว่ามีสิ่งที่รอการแก้ไขจากเราเยอะมาก

"ผมจะเริ่มทำงานจากสิ่งที่ประชาชนบ่นมากในช่วงที่ผ่านมา คือความปลอดภัยและความสะอาดของรถไฟไทย การทำงานของ ร.ฟ.ท.มีหลักสำคัญคือ ผู้โดยสารต้องมีความปลอดภัยสูงสุด เราต้องทำให้ได้จริงๆ ตามที่เราตั้งใจ ผมได้เชิญผู้บังคับการตำรวจรถไฟมาหารือ ทราบว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ เราก็ให้ทางตำรวจรายงานมาว่ายังขาดอะไร และอะไรที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแม้เขาจะขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เขารับเงินเดือนจากเรา"

นายออมสิน กล่าวต่อว่า ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเข้มงวดมากขึ้น และอีกเรื่องคือความสะอาดของห้องน้ำ เป็นเรื่องที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ที่ผ่านมาเราจ้างบริษัทเอกชนมาทำความสะอาด ค่าจ้างไม่ได้ถูก แต่ทำไมถึงไม่สะอาด การตรวจสอบงานทำไมหย่อนยาน ผลงานที่ออกมาไม่ดีห้องน้ำตามสถานีก็ไม่ได้มาตรฐาน ฉะนั้นจะเร่งแก้ตรงนี้ด้วย

"รถไฟไทยเดินเครื่องมานาน บางสิ่งบางอย่างก็ต้องเสื่อมไปบ้าง เราก็ต้องไปขันน็อตทุกอย่างให้เข้าที่ ให้มีสัญญาณบวกจากประชาชน ให้เสียงบ่นเป็นเสียงชื่นชม" ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.ระบุ

ล้างภาพ"อนุรักษนิยม"

นายออมสิน กล่าวอีกว่า งานของรถไฟไทยหนักกว่าตอนที่เข้าไปปรับองค์กรไปรษณีย์ไทยเยอะมาก ยอมรับว่าหนักใจมาก แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้

"วันที่ผมเข้าไปทำงานได้เชิญคณะผู้บริหารของ ร.ฟ.ท.มาหารือกันว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และมีอะไรที่ต้องเร่งทำ จากนั้นในวันที่ 30 ก.ค.นี้ผมจะเชิญสหภาพการรถไฟฯมาคุยกัน ก็ต้องบอกเขาตรงๆ ว่าผมมาคนเดียวนะ และไม่ได้ชำนาญเรื่องการรถไฟ การจะมาทำงานตรงนี้คงไม่สามารถทำสำเร็จได้หากผมทำงานกับกรรมการแค่ 7 คน ตอนที่ผมสามารถพลิกไปรษณีย์ไทยได้ เป็นเพราะว่าพนักงานทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี"

ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. บอกว่า สิ่งที่ตั้งใจจะทำอีกอย่างหนึ่ง คือ ต้องล้างภาพเดิมๆ ของการรถไฟฯ ภาพอนุรักษนิยม หน้านิ่งขรึมอุปกรณ์ทำงานแบบเดิมๆ ต้องปรับใหม่ให้เป็นการทำงานที่มีแต่รอยยิ้ม พร้อมให้บริการประชาชน

"เหมือนตอนไปรษณีย์ เราเปลี่ยนจากเสื้อผ้าสีกากีกับจักรยานเก่าๆ ให้เป็นเสื้อสีแดง มีรอยยิ้มสดใส ภาพการอนุรักษ์ของการรถไฟฯมีค่อนข้างเยอะ เราต้องล้างภาพนี้ออกไป เพื่อให้ประชาชนเห็นสิ่งใหม่ๆ บ้าง"

มั่นใจอนาคตรถไฟไม่ขาดทุน

เขายังกล่าวถึงภาระอันหนักอึ้งเรื่องหนี้สะสมของ ร.ฟ.ท.ว่า การรถไฟฯมีหนี้สะสมอยู่ถึงหลักแสนล้านบาท โดยเราได้เตรียมทำโรดแมพแผนการฟื้นฟูกิจการของการรถไฟฯเพื่อแก้ปัญหาขาดทุน โดยเตรียมจะเสนอให้กระทรวงคลังรับภาระไปบางส่วน เนื่องจากหนี้ส่วนหนึ่งของการรถไฟฯมาจากการลงทุนตามนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงค์ และโครงการรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ซึ่งส่วนนี้คิดเป็นหนี้สินสูงถึงประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

ขณะที่หนี้จากการดำเนินงานของการรถไฟฯจริงๆ มีประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งการจัดการกับหนี้รถไฟในส่วนนี้มองว่าไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการรถไฟฯมีสินทรัพย์สูงถึง 3 แสนล้านบาท เราจะนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยการนำที่ดินการรถไฟฯไปพัฒนาซึ่งเรื่องนี้มีแผนและค้างการพิจารณามาตั้งแต่รัฐบาลและผู้บริหารของการรถไฟฯชุดที่แล้ว ซึ่งขณะนี้การรถไฟฯมีที่ดินที่มีโอกาสในการพัฒนาสูงหลายแห่ง เช่น มักกะสัน จตุจักร รวมทั้งที่ดินบริเวณทางรถไฟทั่วประเทศ

"จากหนี้ทั้งหมดแสนล้านบาท มีหนี้จริงๆ ของการรถไฟฯประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นหนี้จากโครงการประชานิยมของรัฐบาล แต่เราต้องมาแบกภาระ ก็จะขอให้กระทรวงการคลังรับภาระตรงนี้ไปบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเชื่อว่าในอนาคตจะสามารถปรับการดำเนินการของการรถไฟฯให้ไม่ขาดทุนได้ เพราะการรถไฟฯมีสินทรัพย์มากถึง 3 แสนล้านบาท ก็ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปตรวจสอบและควบคุมดูแลเรื่องการจัดเก็บค่าเช่าที่ดินทั้งหมดให้เกิดประโยชน์สูงสุด" ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.ระบุ

เดินหน้ารถไฟทางคู่

นายออมสิน กล่าวต่ออีกว่า แผนการฟื้นฟูและพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และโครงการแผนพัฒนาการรถไฟฯภายใต้กรอบงบประมาณ 1.7 แสนล้านบาทนั้น ทางบอร์ด ร.ฟ.ท.จะพิจารณาถึงความพร้อมของแต่ละโครงการว่าโครงการใดสามารถดำเนินการได้ทันที โครงการใดที่จะต้องนำเสนอ คสช.พิจารณาก่อน โดยเฉพาะโครงการที่มีงบลงทุนเกิน 100 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดได้มีการประชุมหารือไปเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ จะเดินหน้าแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท. เบื้องต้นจะเป็นแผนระยะยาว 10 ปี มีเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง และมีการจัดหาระบบรถและหัวรถจักรใหม่ ซึ่งจะทำให้ได้ภายในปี 2560 ร.ฟ.ท.จะเริ่มมีความพร้อมในการให้บริการ โดยได้มีการประเมินผลเบื้องต้นว่าจะทำให้ ร.ฟ.ท.เริ่มมีกำไรครั้งแรกในปี 2567 ประมาณ 500 ล้านบาท

ส่วนแผนการเพิ่มรายได้นั้น ร.ฟ.ท.มีแนวคิดจะหารายได้จากการติดป้ายโฆษณาบนขบวนรถไฟ คล้ายกับรถไฟฟ้าบีทีเอส และประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทางรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย

จัดระเบียบแอร์พอร์ต ลิงค์

ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูว่า แอร์พอร์ต ลิงค์ จะตกราง เพราะการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จึงได้ไปลองนั่งดู ก็พบว่าไม่ได้แย่อย่างที่มีข่าวลือ แต่ยอมรับว่าความเร็วของรถแอร์พอร์ตลิงค์ลดลงจากช่วงที่เปิดให้บริการแรกๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดการบำรุงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นจะเชิญผู้บริหารแอร์พอร์ตลิงค์มาหารืออย่างด่วนที่สุดเพื่อให้การดำเนินงานดีกว่านี้

"ตอนแรกมีข่าวว่าแอร์พอร์ต ลิงค์ ประสิทธิภาพแย่ คนกลัวว่าจะตกราง ผมก็รีบไปดูของจริง ไปใช้บริการจริง ก็ผมว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่ข่าวลือบอก คนใช้บริการเต็มแน่นตลอดช่วงเวลาเร่งด่วน สิ่งหนึ่งที่ผมเห็น คือ ความเร็วของรถไฟลดลงจากช่วงแรก ซึ่งตรงนี้เราต้องมาดูว่าเกิดจากอะไร สามารถแก้ไขสถานการณ์ไปก่อนได้หรือไม่ เรามั่นใจว่าประสิทธิภาพการทำงานในอนาคตจะดีกว่านี้ และอยากให้มีการขยายเพื่อเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง" ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.กล่าว

[Wisarut]

ททท.-ร.ฟ.ท.-4 สมาคมท่องเที่ยว จัด “ครอบครัวสุขสันต์…สิงหาพาแม่เที่ยว”


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2557 10:38 น.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ททท.ภาคกลาง กระตุ้นตลาดเดือนสิงหาคม จับมือ 4 สมาคมท่องเที่ยว-ร.ฟ.ท. จัด “ครอบครัวสุขสันต์…สิงหาพาแม่เที่ยว” นั่งรถไฟทัวร์นครปฐม-ราชบุรี พร้อมเสนอกิจกรรมยกครัวทัวร์กันเอง

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง เปิดเผยว่า ททท.ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นสังคมที่เล็กที่สุดในสังคมไทย แต่มีความหมาย เพราะสามารถส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่น่าภาคภูมิใจ โดยเฉพาะสังคมครอบครัวที่มีความสุข ความอบอุ่น ซึ่งทำให้ประเทศชาติมีความอบอุ่นด้วย และสามารถนำมาเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

โดยในช่วงวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ และมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวนอกฤดูกาลตลอดเดือนสิงหาคม ภายใต้แนวคิด “ครอบครัวสุขสันต์” กับกิจกรรมคาราวาน “สิงหาพาแม่เที่ยว” เพื่อส่งเสริมให้ครอบครัวใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมท่องเที่ยวด้วยกัน

ซึ่ง ททท.ได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวทางรถไฟ ประกอบด้วย วันที่ 9-10 สิงหาคม 2557 ขบวนรถไฟท่องเที่ยวสายธรรมชาติ @ จังหวัดกาญจนบุรี : แดนสวรรค์ตะวันตก(กทม.-กาญจนบุรี-กทม.)

วันที่ 12 สิงหาคม ขบวนรถไฟหัวรถจักรไอน้ำโบราณเที่ยวพิเศษ @ นครปฐม “ครอบครัวสุขสันต์ 12 สิงหาพาแม่เที่ยว” (กทม.-นครปฐม-กทม.)

วันที่ 23-24 สิงหาคม รถไฟไฮโซ เที่ยวราชบุรี : ชุมชนคนอาร์ต @ จังหวัดราชบุรี กับรถไฟสายคลาสสิคเที่ยวพิเศษ “กิน เที่ยว ช้อป โอทอป เทรน / OTOP TRAIN” (กทม.-ราชบุรี-กทม.)

วันที่ 30-31 สิงหาคม รถไฟไฮโซ เที่ยวท่องล่องชมวิถีชุมชน @ นครปฐม กับรถไฟสายคลาสสิคเที่ยวพิเศษ “กิน เที่ยว ช้อป โอทอป เทรน / OTOP TRAIN” (กทม.-นครปฐม-กทม.)

ททท.-ร.ฟ.ท.-4 สมาคมท่องเที่ยว จัด “ครอบครัวสุขสันต์…สิงหาพาแม่เที่ยว”
ขอบคุณภาพจาก www.เที่ยวภาคกลาง.com

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง ตลอดทั้งเดือนสิงหาคม 2557 เช่น วันที่ 1-31 สิงหาคม “ทุ่งดอกกระเจียวบานสื่อรักวันแม่ @ ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี”

วันที่ 8-12 สิงหาคม งานเดินวิ่ง และนิทรรศการ “เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี @ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน” จ.ฉะเชิงเทรา

วันที่ 9 สิงหาคม คาราวานท่องเที่ยว “ครอบครัวสุขสันต์-สิงหาพาแม่เที่ยว” 5 ภูมิภาค @ หน้าสยามนิรมิต กทม. (ภาคกลาง เหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออก) เกือบ 2,000 คน

วันที่ 9-12 สิงหาคม ขับรถเที่ยวภาคกลางคาราวาน “ครอบครัวสุขสันต์-สิงหาพาแม่เที่ยว @ 19 จังหวัดภาคกลาง” ดำเนินการโดย ททท.สำนักงานภาคกลาง 8 สำนักงาน

วันที่ 9-12 สิงหาคม “อิ่มอุ่น น้ำนมแม่ @ อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม” จ.ราชบุรี

ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจตลอดเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวที่สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2250-5500 ต่อ 1333-36 หรือ www.เที่ยวภาคกลาง.com
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000084806

[Mongwin]

บอร์ดการรถไฟฯตีกลับแผนฟื้นฟูแสนล้าน ให้ทำแผนลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ให้ชัด
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 28 ก.ค. 2557 เวลา 09:20:02 น.

บอร์ดการรถไฟฯตีกลับแผนฟื้นฟูแสนล้าน ให้ทำแผนลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ให้ชัด เร่งหารือคลังยกที่ดินมักกะสัน-แม่น้ำแลกหนี้

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดยังไม่เห็นชอบแผนฟื้นฟูของการรถไฟฯ ที่มีภาระหนี้สะสม 109,317 ล้านบาท เนื่องจากแผนการเพิ่มรายได้ยังไม่ชัดเจน จะมีการหารือร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคมในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะให้นำเสนอที่ประชุมบอร์ดพิจารณาอีกครั้งวันที่ 1 สิงหาคมนี้

"รายละเอียดแผนงานการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อทำแล้วจะเป็นยังไงมีรายได้เท่าไหร่ เพราะปัญหาของรถไฟ คือปรับค่าโดยสารไม่ได้ จะต้องเพิ่มรายได้จากการบริหารทรัพย์สิน จะต้องดูว่าที่ดินมีอยู่แปลงไหนมีศักยภาพจะสร้างรายได้"

นายออมสินกล่าวอีกว่า ปัจจุบันการรถไฟฯมีภาระหนี้ 2 ส่วน คือ 1.ภาระหนี้ที่การรถไฟฯรับเองจากนโยบายรัฐบาลในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและรถไฟฟรี มีประมาณกว่า 7 หมื่นล้านบาท และ 2.ภาระหนี้จากโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์กว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งแนวทางจะให้คลังมารับภาระหนี้ส่วนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนที่เหลือการรถไฟฯจะรับภาระเอง

"แผนฟื้นฟูจะใช้เวลาดำเนินการ 10 ปีนับจากปี 2558-2567 โดยปี 2567 จะมีกำไร 500 ล้านบาท จะขยับจากแผนเดิมที่ทำไว้ปี 2554-2563 ตามที่ ม.เกษตรศาสตร์ศึกษาให้ เพราะล่าช้ามานาน"

อย่างไรก็ตาม ใน 5 ปีแรกจะเร่งก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 สายให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเสริมศักยภาพด้านการเดินรถ เมื่อโครงข่ายดีสมบูรณ์ จะทำให้มีรายได้จากค่าโดยสารและการขนส่งสินค้าเพิ่ม

ส่วนรายได้จากการบริหารทรัพย์สินมีที่ดินกว่า 2.3 แสนไร่ จะเร่งรัดเก็บค่าเช่าที่ดินครอบคลุม เช่น แปลงของสำนักงานใหญ่ ปตท. เป็นต้น และเร่งจัดหาประโยชน์จากแปลงทึ่มีศักยภาพ เพื่อจะนำรายได้ส่วนนี้มาชำระหนี้บำนาญที่การรถไฟฯจะต้องรับภาระไปอีก 30 ปี วงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

ส่วนการนำที่ดินที่มักกะสันและสถานีแม่น้ำเพื่อแลกหนี้นั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะใช้เป็นแนวทางลดภาระหนี้ของการรถไฟฯ ถ้าเกิดมีแนวคิดตรงกันเพื่อช่วยการรถไฟฯให้สามารถอยู่บนขาตัวเองได้ ก็จะมีการพิจารณาเดินไปข้างหน้าด้วยกัน จะมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับกระทรวงการคลังในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้

[Mongwin]

ลูกจ้างถูกเบี้ยวค่าแรง
ช่อง 7 สี วันที่ 28 พ.ค. 2556 เวลา 10:48 น.

คลิปวิดีโอข่าว http://s.ch7.com/w/33254

หมู่บ้านรินทร์ทอง ซอย 4 ลำลูกกา ปทุมธานี ชาวบ้านต่างเอือมระอาพฤติกรรมวัยรุ่น ตั้งกลุ่มตีกันกลางดึก ไม่แค่ทะเลาะก่อก่วน แต่ใช้อาวุธปืนมายิงมั่วสนุกมือ กระสุนทะลุเข้าบ้านชาวบ้าน

โชคดียังไม่โดนใครเสียชีวิต แต่ชาวบ้านก็ไม่เป็นอันทำมาหากิน วงจรปิดเห็นหน้าชัดๆ วัยรุ่นก่อเหตุป่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา งานนี้อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบเต็มๆ งัดกฏหมายออกมาปราบปรามดูแลความสงบให้ประชาชน

โครงการปรับปรุงเครื่องกั้นถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟช่วงเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ติดขัด ผู้รับเหมายังส่งงานให้การรถไฟไม่ได้ งานไม่ได้มาตรฐาน บริษัทเอกชนต้องว่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวมาเข็นแผงกั้นทางรถไฟแทน แต่กลับเบี้ยวไม่จ่ายค่าแรง ลูกจ้างลากแผงกั้นรถไฟไม่ได้รับเงินจ้างมา 3 เดือนแล้วตั้งแต่กุมภาพันธ์

นายสถานีทำเรื่องเบิกไปทุกเดือน ได้รับใบจ่ายกลับมาทุกครั้ง แต่มีแค่ตัวเลขบนกระดาษ ไม่มีเม็ดเงิน คนทำมาหากิน ทำงานย่อมหวังค่าตอบแทน การรถไฟรับทราบแล้วรีบเรียกบริษัทมาไกล่เกลี่ยแก้ปัญหา

ชาวบ้านหมู่ 2 และหมู่ 18 ตำบลสระสี่มุม กำแพงแสน นครปฐม ร้องเรียนโรงงานเถื่อนมาตั้งในพื้นที่ดำเนินกิจการเผายางรถยนต์เก่า เพื่อสกัดน้ำมันเตาและใยเหล็กในขาย ก่อมลพิษ ควันดำ กลิ่นเหม็นฟุ้งกระจาย ชาวบ้านเดือดร้อน เหม็นจนแสบจมูก หายใจไม่ออก

นายก อบต.สระสี่มุมตรวจสอบแล้ว เป็นโรงงานของ ผอ.โรงพยาบาลกำแพงแสน เปิดโดยไม่ขออนุญาตเคยร้องไปถึงนายอำเภอก็ยังนิ่ง ล่าสุดกรมโรงงงานอุตสาหกรรมจังหวัด, นายอำเภอกำแพงแสน และ DSI ลงพื้นที่ตรวจสอบ และสั่งปิดไปเรียบร้อยแล้ว

[Mongwin]

[Mongwin]

คมนาคมสั่งร.ฟ.ท.สรุปแผนฟื้นฟูให้เสร็จ1ส.ค.นี้-เผยมีหนี้กว่าแสนล้านบาท
มติชนออนไลน์ วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17:35:39 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยการประชุมแผนฟื้นฟูร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ว่า ร.ฟ.ท.มีภาระหนี้สะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 วงเงิน 109,317ล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่เกิดจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 33,229 ล้านบาท การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 13,950.99 ล้านบาท การจัดหารถจักรและล้อเลื่อน 11,856.16 ล้านบาท และการขาดทุนจาการดำเนินงาน 50,280 .96 ล้านบาท ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะต้องทำสรุปแยกรายละเอียดตัวเลขในส่วนที่รัฐจะต้องรับภาระและส่วนที่ ร.ฟ.ท.ต้องรับผิดชอบ โดยต้องสรุปเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จากนั้นจะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) และ ซุปเปอร์บอร์ดต่อไป

นางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า สำหนับแผนการปรับโครงสร้าง ร.ฟ.ท.จากเดิมกำหนดเป็นแผนดำเนินการช่วงปี 2553-2557 โดยจะมีการขยายรถไฟทางคู่ การจัดหารขบวนรถ หัวรถจักรและระบบอาณัติสัญญาณ แต่การดำเนินงานไม่มีความคืบหน้าจึงต้องปรับเป็นแผนดำเนินการปี 2557–2560 แทน ดังนั้นตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่การขยายรถไฟทางคู่แล้วเสร็จพร้อมกับการรับมอบขบวนรถและหัวรถจักรใหม่เข้ามา ซึ่งจะเป็นช่วงที่ ร.ฟ.ท.เริ่มบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเต็มที่

นางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนของการพัฒนาที่ดินจากสินทรัพย์ที่มีอยู่นั้น ร.ฟ.ท.มีที่ดินที่เป็นทำเลอยู่ใจกลางเมือง 3 แปลง คือ พื้นที่ย่านมักกะสัน 512 ไร่ พื้นที่ย่านพหลโยธิน 1,070 ไร่ และสถานีแม่น้ำ 277 ล้านบาท และยังมีพื้นที่ในต่างจังหวัดอีก 11 แปลง ที่จะต้องไปพิจารณาในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ ร.ฟ.ท. รวมทั้งให้หาข้อสรุปว่าที่มีแนวคิดจะนำที่ดินย่านมักกะสันและสถานีแม่น้ำให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเข้ามาบริหารแทนเพื่อล้างหนี้สินสะสมที่มีอยู่หรือไม่ หรือ ร.ฟ.ท.จะบริหารเอง

ด้านนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการผู้ว่า ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ประเด็นหลักที่จะแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูการขาดทุนของ ร.ฟ.ท.ได้ คือ ต้องแยกภาระหนี้ในส่วนที่รัฐจะต้องรับภาระ คือ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานตามที่มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ รวมทั้งหนี้สินจากการดำเนินงาน ซึ่งมีผลทำให้ ร.ฟ.ท.ต้องรับภาระดอกเบี้ยด้วย ซึ่งการดำเนินงานของ ร.ฟ.ท.หลังจากนี้ไปจะเร่งรัดจัดหาขบวนรถใหม่ หัวรถจักร รวมทั้งการขยายทางคู่ 5 เส้นทาง ได้แก่
1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร
2.มาบกะเบา- ถนนจิระ จ.นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร
3.ถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร
4.นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร และ
5.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร
ซึ่งการดำเนินงานตามแผนดังกล่าวจะทำให้ ร.ฟ.ท.ปรับปรุงการบริหารจัดการที่ดีขึ้นตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป