View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/09/2014 7:38 pm Post subject: |
|
|
บันทึกข้อมูลไว้ช่วยจำ สำหรับราคาโคมตะเกียงประแจครับ
----
ประกาศฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาจ้างทำโคมตะเกียงประแจ ชนิดลูกศรขวา และลูกศรซ้าย รวม 2 รายการ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ ผจจ./จจ.119/2557
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=22130
ด้วยฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะสอบราคา จ้างทำโคมตะเกียงประแจ ชนิดลูกศรขวา และลูกศรซ้าย รวม 2 รายการ
1.โคมตะเกียงประแจ ชนิดลูกศรขวา จำนวน 40 โคม
2.โคมตะเกียงประแจ ชนิดลูกศรซ้าย จำนวน 40 โคม
ราคากลาง 438,000.00 บาท
...
ประกาศ ณ วันที่ 16 เดือน กันยายน พ.ศ. 2557
( ลงนาม ) สุรพงษ์ เสตางกูล
( นายสุรพงษ์ เสตางกูล )
หัวหน้ากองบริหารงานทั่วไป
สำเนาถูกต้อง
( นายปรีชา พงษ์สุข )
พนักงานบริหารงาน 6
9/16/2014 11:05:52 AM |
|
Back to top |
|
|
milkonline
2nd Class Pass (Air)
Joined: 02/07/2009 Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี
|
Posted: 17/09/2014 1:29 pm Post subject: |
|
|
ตกประมาณชุดละห้าพันนะครับ _________________ N-Scale model train lovers.
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43919
Location: NECTEC
|
Posted: 17/09/2014 6:38 pm Post subject: |
|
|
มือจ่อยิงเด็กช่างกลบนรถไฟโผล่มอบตัว อ้างสำนึกผิด เจอ 2 ข้อหาหนัก
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 17 กันยายน 2557 10:56 น.
โจ๋วัย 17 ปีมือยิงเด็กช่างกลบนรถไฟโผล่มอบตัวแล้ว อ้างเจอหน้ากันบนรถ 2-3 ครั้งแถมถูกมองหน้า เลยแค้นจัดชักปืนยิงก่อนกระโดดลงรถหนีไปเรียนตามปกติ อ้างสำนึกผิดเลยให้ผู้ปกครองพาเข้ามอบตัว เจอข้อหาหนักทั้งพยายามฆ่า-พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีนายบุณยกร วัฒนะอาภรณ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศิลปกรรม สาขาวิชาศิลปะการถ่ายภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ถูกจ่อยิงบนขบวนรถไฟฟรี ที่ 316 ลพบุรี-กรุงเทพ ขณะจอดเทียบชานชาลาสถานี กม.11 บางซื่อ ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงและเขตจตุจักร กทม. จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลา 07.45 น.วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปกครองนำตัวนายกบ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ ขอเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.อัคคภาคย์ จิตต์ประยูร สวญ.ส.รฟ.นพวงศ์ และพ.ต.ท.ทรงกลด พัฒนวราภรณ์ พงส.ผนพ. ที่ ส.รฟ.นพวงศ์ เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ (16 ก.ย.) จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญอัยการ นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ และทนายความเข้าร่วมสอบปากคำ เนื่องจากนายกบเป็นเยาวชน
จากการสอบปากคำนายกบให้การว่า วันเกิดเหตุนั่งรถไฟมากับขบวนที่เกิดเหตุ จากสถานีรถไฟรังสิต โดยนั่งที่ตู้ 4 บริเวณกลางตู้ หันหน้าไปทางท้ายขบวน ต่อมานายบุณยกรได้ขึ้นรถไฟมาจากป้ายจุดจอดรถไฟทุ่งสองห้อง และเดินมานั่งตู้เดียวกัน โดยหันหน้าชนกัน ซึ่งนายบุณยกรมองหน้าตนทำให้ตนซึ่งเขม่นกับนายบุณยกรอยู่แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยเจอบนรถไฟขณะเดินทางมาเรียน 2-3 ครั้งแล้ว จึงใช้ปืนยิงนายบุณยกร หลังจากก่อเหตุได้วิ่งลงจากรถไฟ และระหว่างวิ่งหลบหนีได้ทิ้งปืนลงคลองเปรมประชากรแล้วนั่งจักรยานยนต์รับจ้างไปถนนพระราม 5 แล้วต่อรถแท็กซี่ไปที่ถนนระนอง 2 เพื่อเข้าโรงเรียนตามปกติ
โดยอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวได้สั่งซื้อมาจากทางเว็บไซต์ราคา 3,000 บาท เมื่อ 7 วันก่อนเกิดเหตุเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว เนื่องจากตนมีเรื่องกับนักศึกษาต่างสถาบันอยู่บ่อยครั้ง โดยหลังเกิดเหตุตนรู้สึกผิดกับการกระทำดังกล่าว จึงได้ให้ผู้ปกครองพาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พานายกบไปชี้จุดเกิดเหตุและแจ้งข้อหาพยายามฆ่า และมีและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหานำส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป
//------------------------------------------------------------
ตร.นำตัว 6 นศ.ไปชี้จุดทำแผนยิง 2 นศ.ปทุมวันเสียชีวิต
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2557 12:20 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนักศึกษา 6 คน จากสถาบันแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน ผู้ต้องหาคดียิงนายพลวัต จันทร์วิเศษ และนายชิษณุพงษ์ ศรีคชา นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ริมทางสถานีรถไฟบางซื่อ ไปสอบสวนขยายผล
จากการสอบสวน ตำรวจมีหลักฐานทั้งภาพวงจรปิด พยานที่เห็นเหตุการณ์ จนสามารถจับกุมนักศึกษาทั้ง 6 คนได้ ทั้งหมดรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงจากความไม่พอใจ และตอบโต้ที่เพื่อนร่วมสถาบันถูกยิงเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ผู้ต้องหายังรับสารภาพด้วยว่า ไปก่อเหตุยิงนายพชร กัมพลาศิริ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ที่ซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) เมื่อวันที่ 1 กันยายน แต่ต่อมาทราบว่าเป็นการยิงผิดตัว
หลังการสอบสวนตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปชี้จุด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43919
Location: NECTEC
|
Posted: 18/09/2014 10:34 am Post subject: |
|
|
ทลฉ.ชง ครม.ขอลงทุนพัฒนาศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ 2.9 พันล้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กันยายน 2557 09:25 น.
กทท.พร้อมชงโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ทลฉ. 2.9 พันล้านเสนอ ครม.อนุมัติ พร้อมเร่งออกแบบ เตรียมติดตั้งรางรถไฟใหม่ 6 ราง พร้อมปั้นจั่นเคลื่อนที่เดินบนรางคร่อมรางรถไฟ ยกตู้สินค้าพร้อมกัน 6 ราง หรือ 12 ขบวนได้ในคราวเดียว รองรับตู้สินค้าได้สูงสุด 2.0 ล้านทีอียู/ปี
เรือเอก สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Rail Transfer Terminal) วงเงินรวมกว่า 2,900 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ ทลฉ. ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาวิเคราะห์โครงการและออกแบบรายละเอียดสำหรับก่อสร้างในรูปแบบของย่านขนถ่ายตู้สินค้า อาคารสำนักงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่ง กทท.จะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการฯ ด้วย คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2561 ซึ่งจะเป็นโครงการหนึ่งที่สนับสนุนการลดต้นทุนลอจิสติกส์ และช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ
ทั้งนี้ ตามแผนดำเนินโครงการจะมีการรื้อย้ายรางรถไฟเดิม และติดตั้งรางรถไฟใหม่ จำนวน 6 ราง และติดตั้งปั้นจั่นเคลื่อนที่ชนิดเดินบนรางคร่อมรางรถไฟ (Rail Mounted Gantry Grane - RTG) เพื่อยกขนตู้สินค้าพร้อมกันทั้ง 6 ราง หรือ 12 ขบวนได้ในเวลาเดียวกัน และยังเป็นเครื่องมือหลักในการจัดเรียงตู้สินค้าในลานกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard) ซึ่งจะก่อสร้างทั้งสองฝั่งของพวงรางรถไฟ ซึ่งจะสามารถรองรับตู้สินค้าได้ 2.0 ล้านทีอียู/ปี นอกจากนี้ยังได้มีการจัดระบบการจราจรเข้า-ออก แบบเดินรถทางเดียวภายในพื้นที่เพื่อช่วยให้การขนถ่ายสินค้ามีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งมีการออกแบบอาคารสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้เอื้อต่อการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้สามารถขยายขีดความสามารถในการรองรับการดำเนินงานในอนาคตให้ได้มากที่สุด
ส่วนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น บริษัทที่ปรึกษาได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบทั้งด้านทรัพยากรกายภาพ และชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิตเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43919
Location: NECTEC
|
Posted: 18/09/2014 10:39 am Post subject: |
|
|
ทำแผนแก๊งอุเทนถวาย ยิง นศ.ปทุมวัน-เทคโนฯกรุงเทพ ดับรวม 3 ศพ
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 17 กันยายน 2557 19:16 น.
ทำแผน นศ.วิทยาเขตอุเทนถวาย ยิง นศ.ช่างกลปทุมวัน 2 ศพ บริเวณฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ วันเดียวกันยังได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนยิง นศ.เทคโนโลยีกรุงเทพ เสียชีวิตภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) พื้นที่สน.หัวหมาก
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุประกบยิง นายพลวัต จันทร์วิเศษ อายุ 21 ปี และ นายชิษณุพงษ์ ศรีคชา อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เป็นเหตุให้เสียชีวิตบริเวณฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ ถนนเทอดดำริ พื้นที่ สน.เตาปูน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา
วันนี้ (17 ก.ย.) พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ท.นพคุณ ไพเราะ สว.สส พ.ต.ต.สุรเดช ฉัตรไทย สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน และเจ้าหน้าทีท่ทหาร ป.พัน.1 รอ. รวมกว่า 100 นาย ได้นำตัว นายกบินทร์ จิโรจน์มนตรี นายปัญญา เขมวัชรเลิศ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยใช้เลาประมาณ 30 นาที
โดยก่อนเกิดเหตุ นายณัฐกร กรรมแต่ง ได้ทำหน้าที่จัดหาอาวุธปืน จากนั้น นายจิรายุทธ สุวรรณโชติ นายอรรถพล ยี่แม่นยิง และ นายคมสันต์ ชูศิลป์ ได้ทำการชี้เป้าหมายให้กับ นายกบินทร์ ที่บริเวณผู้เป็นมือปืน และ นายปัญญา ซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ จยย. ที่บริเวณห้างโลตัส สาขาเจริญผล ก่อนที่ทั้งคู่จะขับรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำ-แดง ทะเบียน ฬสม 483 กทม. ซึ่งเป็นแผนป้ายทะเบียนที่ขโมยมาเพื่อสวมตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ขับรถ จยย. ติดตามผู้เสียชีวิต จนกระทั่งมาตามพบผู้เสียชีวิตทั้งคู่อีกครั้งที่แยกศรีอยุธยา จากนั้นได้ขับรถ จยย. เส้นทางถนนพระราม 6 เข้าถนนประดิพัทธ์ มายังถนนเทอดดำริ จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ ก่อนที่นายกบินทร์จะชักปืนขนาด .38 ออกมายิงใส่ นายพลวัต เข้าที่หูด้านขวาทะลุหูด้ายซ้ายจำนวน 2 นัด ส่วน นายชิษณุพงศ์ ถูกยิงเข้าที่หูด้านขวา 1 นัด และกระเป๋าสะพาย 1 นัด รวมจำนวน 4 นัด เป็นเหตุทั้งสองเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถหลบหนีไปตามถนนเทอดดำริ ก่อนกลับรถเพื่อหลบหนีไปตามเส้นทางเดิมมุ่งหน้า 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้หนีไปกบดานอยู่ที่บ้านพักย่านบึงกุ่ม กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้ หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน จะสงตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขัง ที่ สน.หัวหมาก ซึ่งทาง สน.เตาปูน จะแนบสำนวนของคดีดังกล่าวไปกับสำนวนคดีของ สน.หัวหมาก จากนั้นในวันพรุ่งนี้ ทางพนักงานสอบสวนสน.หัวหมากจะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังยังศาลอาญารัชดาภิเษกต่อไป
โดยบรรยากาศในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมา อีกทั้งยังมีเพื่อนสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันมารอดูการทำแผนกว่า 10 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันให้ออกจากพื้นเพื่อความปลอดภัย
ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผทค.พงส. พ.ต.ท.โสภณ ยานธรรม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุมตัว นายกบินทร์ จิโรจน์มนตรี หรือ เอฟ นายปัญญา เขมวัชรเลิศ หรือ โต้ง และ นายอรรถพล ยี่แม่นยิง หรือ ต้น ผู้ต้องหาที่ร่วมกัน นายพชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ จนเสียชีวิตภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) ในพื้นที่ สน.หัวหมาก เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง
จุดแรกตำรวจคุมตัวไปที่ปากซอยรามคำแหง 103 ซึ่งเป็นจุดที่ นายปัญญา ขับขี่รถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมี นายกบินทร์ นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 107 ซอยวัดศรีบุญเรือง มายังจุดที่ 2 ที่บริเวณหน้าอาคารอัสสกาญจน์ เพลส เลขที่ 231 อาคาร 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน สวมหมวกนิรภัย ก่อนจะจอดบริเวณฝั่งตรงข้ามอาคารดังกล่าว หลังจากนั้น นายกบินทร์ ได้เดินลงจากรถ จยย. ก่อนใช้อาวุธปืนขนาด .32 จ่อยิงเข้าที่ศีรษะจำนวน 1 นัด เมื่อผู้ตายล้มลง จึงกระหน่ำยิงอีก 4 นัด และขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดต่างๆ ตามเส้นทางที่ทั้ง 2 คนหลบหนีอีกทั้งสิ้น 7 จุด หลังก่อนเหตุนายปัญญาได้ขับขี่จักรยานยนพานายกบินทร์เลี้ยวซ้ายออกบริเวณปากซอย มุ่งหน้าไปตามเส้นทางถนนรามคำแหง ก่อนเลี้ยวซ้ายที่แยกคอกม้า เพื่อไปยังถนนเสรีไทย เลี้ยวซ้ายบริเวณแยกนิด้า ผ่านหน้าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งจุดนี้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพทั้ง 2 ไว้ได้ ก่อนจะขับขี่จยย.ขึ้นสะพานยกระดับบางกะปิ ไปยังถนนลาดพร้าว และเลี้ยวซ้ายที่บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เข้าสู่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อไปยังบ้านพักของนายกบินทร์ ย่านรามอินทรา
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังนำตัว นายอรรถพล ไปทำแผนบริเวณแสนสบายคอมเพล็กซ์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามซอยรามคำแหง 103 ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ นายอรรถพล มานั่งรอ นายกบินทร์ เพื่อที่จะบอกความเคลื่อนไหวของผู้ตาย
โดยบรรยากาศในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น มีประชาชนพร้อมทั้งญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตและเพื่อนสถาบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จำนวนมากมารอดูการทำแผนครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมกำลังตำรวจชุดจู่โจม เฝ้าคอยระวัง และกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องตลอดการทำแผน อย่างไรก็ตาม ขณะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนนั้น มีรถยนต์ของทางนักศึกษาสถาบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ คอยขับตามตลอดการทำแผน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าตรวจค้น พร้อมทั้งว่ากล่าวให้นักศึกษากลุ่มดังกล่าวไม่ให้ขับตาม
นายกำพล กัมพลาศิริ บิดาของ นายพชร ผู้เสียชีวิต ซึ่งเฝ้าดูการทำแผนพร้อมครอบครัว กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจมาก และรู้สึกโกรธแค้นมาก ถ้าเป็นไปได้อยากทำร้ายผู้ต้องหาเสียตอนนี้เลย เพื่อชดใช้ให้ลูกชายเพียงคนเดียว ส่วนตัวแล้วตนเองไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการยิงผิดตัว และขอให้การเสียชีวิตของลูกตนเองเป็นกรณีเริ่มต้นการแก้ปัญหานักเรียนตีกันอย่างจริงจัง พร้อมทั้งวอนให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานของตัวเองให้ดี ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย นอกจากนั้น ตนเองยังจะปรึกษาทนายความเพื่อจะเรียกร้องทางแพ่ง เอาผิดกับทางผู้ปกครองของผู้ต้องหาเป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อให้ผู้ปกครองผู้ต้องหารับรู้ว่า ถ้าตนเองดูแลบุตรหลานไม่ดีก่อให้เกิดผลเสียกับครอบครัวคนอื่นอย่างไร |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/09/2014 11:29 am Post subject: |
|
|
บอร์ดรถไฟอนุมัติแผนวิสาหกิจปี 58 เดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผนแอ็คชั่นเพลน
วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20:02 น. ข่าวสดออนไลน์
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดร.ฟ.ท. ได้อนุมัติแผนวิสาหกิจและแผนปฏิบัติการ ร.ฟ.ท.ปี 2558 ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มงานต่างๆ อาทิ แผนปฏิบัติการ แผนงานด้านทรัพยากรมนุษย์ แผนบริหารงานการตลาด เป็นต้น ซึ่งมีงานครอบคลุมทั้งหมดรวมทั้งแผนงานโครงการกว่า 100 แผนงาน ซึ่งแต่ละแผนงานจะมีแอ็คชั่นเพลนของแต่ละแผนงานเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ
นอกจากนี้ ได้อนุมัติว่าจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีการคัดเลือกเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง คือ
1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย
2.ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี
3.ขอนแก่น-หนองคาย
4.หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
5.ชุมพร-สุราษฎร์ธานี และ
6. สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์
พร้อมสั่งให้ร.ฟ.ท.ไปจัดทำรายละเอียดเรื่องการเช่าหัวรถจักร 20 คันมาเสนอในการประชุมบอร์ดครั้งหน้า ทั้งนี้ เพื่อนำมาใช้ระหว่างที่ร.ฟ.ท.ยังจัดซื้อหัวรถจักรได้ไม่ครบตามที่ต้องการใหับริการ
สำหรับโครงการที่บรรจุอยู่ในแผนวิสาหกิจและแผนปฏิบัติการ ปี 2558 อาทิ
โครงการติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะชนิดพกพา และเครื่องเอ็กซเรย์ ใช้ตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในพื้นที่เสี่ยงอันตรายโดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรองรับการคมนาคมขนส่งในอนาคต,
โครงการจัดหาระบบควบคุมจัดการเดินขบวนรถ,
โครงการจัดสร้างสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ สถานีที่ 2 ฝั่งไทย,
โครงการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงที่ศรีราชา เป็นต้น
นายออมสิน กล่าวต่อว่า ได้หารือกับบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ให้ไปจัดทำรายละเอียดการแบ่งอำนาจบริการจัดการ จัดซื้อจัดจ้าง รายได้ และทรัพย์สินออกจาก ร.ฟ.ท. ว่า บริษัท รถไฟฟ้าฯ ต้องการสิ่งใดบ้างเพื่อบรรจุลงในแผนรัฐวิสาหกิจปี 2558 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ส่วนแผนฟื้นฟูองค์กรนั้นอยู่ระหว่างเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้ง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43919
Location: NECTEC
|
Posted: 19/09/2014 1:53 pm Post subject: |
|
|
4 ผู้ท้าชิง "ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท." เทียบฟอร์มบิ๊กทหาร VS บิ๊ก บขส.-ทีโอที
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
19 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 11:39:22 น.
เปิดโฉมหน้าแล้วผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้ว่าการ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" คนที่ 18 มีทั้งหมด 4 คนที่ตบเท้าเข้าชิงดำ ส่วนใครจะเข้าเส้นชัยกุมเม็ดเงินลงทุนระบบรางยุค "รัฐบาลประยุทธ์ 1" มูลค่านับแสนล้านบาท ตามกำหนดกลางเดือนตุลาคมนี้มีคำตอบ
โดยประธานสรรหาคือ "พล.ท.ชาญชัยภู่ทอง" แม่ทัพภาคที่ 2 หนึ่งในเงื่อนไขการตัดสินคือกฎเหล็กจะต้องเคยผ่านงานบริหารองค์กรที่มีผลประกอบการ 5,000 ล้านบาท
สำรวจรายชื่อมาแรงสุดหนีไม่พ้น "พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา" อายุ 54 ปี ดีกรีลูกอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 "พล.ท.วศิน อิศรางกูร ณ อยุธยา" ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหมเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผ่านงานด้านทหารช่าง พกความมั่นใจจากสายสัมพันธ์ซี้ปี้กกับบิ๊ก "คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" สายบูรพาพยัคฆ์
อย่างไรก็ตาม แม้จะมาแรงแค่ไหนแต่ชื่อนี้เคยพลาดหวังเมื่อครั้งลงสมัครชิงผู้ว่าการ "กทพ.-การทางพิเศษแห่งประเทศไทย" ปี 2554 โดยมี "อัยยณัฐ ถินอภัย" ผู้บริหารลูกหม้อที่รักษาโควตาให้กับคนในได้สำเร็จ
เช่นเดียวกับ "วุฒิชาติ กัลยาณมิตร" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) วัย 51 ปี ในสังกัดกระทรวงคมนาคมด้วยกัน เพียงแต่ข้ามห้วยจาก "บขส." ที่นั่งบริหารเกือบเต็ม 2 สมัย หรือ 7 ปีเศษ เจ้าตัวมาเขียนใบสมัครทั้งที่ยังเหลือเวลาทำงานกับ บขส.อีกร่วม 11 เดือน
เทียบฟอร์มกันแล้ว "วุฒิชาติ" ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะมีต้นตระกูลเดียวกับ "พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร" แต่ก็ต้องวัดกันที่วิสัยทัศน์และผลงานว่าจะเข้าตากรรมการสรรหาหรือไม่
ส่วนผู้สมัครหน้าเก่าอย่าง "กฤต ธนิศราพงศ์" อายุ 56 ปี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ลงชื่อชิงชัยเป็นครั้งที่ 2 โดยก่อนหน้านี้เคยเดินสายสมัครชิงผู้ว่าการ "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" และผู้อำนวยการ "กทท.-การท่าเรือแห่งประเทศไทย" มาแล้ว
ผู้สมัครรายสุดท้าย "พิทักษ์พงษ์ ทัพอินทรพรหม" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สายประสิทธิผลองค์กร อายุ 52 ปี วงในเช็กกันวุ่นอยู่เพราะยังไม่รู้ต้นสายปลายทางว่าใครส่งเข้าประกวด แต่คาดว่าน่าจะเป็นระดับบิ๊ก ๆ ไม่งั้นคงไม่กล้าหาญชาญชัยมาชิงดำแดนสนธยาแห่งนี้
น่าสังเกตว่าการสรรหาบิ๊กเบอร์ 1 การรถไฟฯครั้งนี้ไร้เงาคนใน อาจเพราะติดปัญหาเงื่อนไขเวลาการนั่งทำงานบนเก้าอี้นี้จะต้อง 2 ปีขึ้นไป ทำให้ไม่มีผู้บริหารลูกหม้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วนพอจะชิงดำได้ เนื่องจาก 5 รองผู้ว่าการในขณะนี้มีเวลาเหลือไม่ถึงกำหนด ยกเว้น "ประเสริฐ อัตตะนันท์" ที่นั่งควบตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการในปัจจุบัน แต่เจ้าตัวก็ยอมยกธงขาวแม้อายุงานเหลือ 3 ปีกว่าจะถึงคิวเกษียณ
แหล่งข่าววงในระบุว่า เหตุผลที่ "คนใน" รักษากิริยาในการสรรหาครั้งนี้ เป็นเพราะมองทางไหนก็มีแต่เผือกร้อนก้อนโต ทั้งภารกิจด้านภาพลักษณ์และภารกิจที่ต้องเข้ามากอบกู้สถานะการเงินองค์กรที่ต้องทำแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อเคลียร์หนี้ท่วมท้นกว่า 1 แสนล้านบาท
ในขณะที่งานท้าทายสำหรับผู้สมัครทั้ง 4 คนมีงานใหญ่รออยู่บานเบอะ ทั้งงานจัดซื้อหัวรถจักร-รถโดยสารใหม่ แคร่ขนสินค้า ยกเครื่องระบบอาณัติสัญญาณ ประมูลรถไฟทางคู่ 6 สายใหม่ รถไฟฟ้าสายสีแดง โครงการต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จากพญาไท-สนามบินดอนเมือง รถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร ความเร็ว 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ยังไม่นับรวมภารกิจกู้ซากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ที่กำลังสุ่มเสี่ยงจะหยุดให้บริการอยู่รอมร่อ เมื่อรถไฟฟ้า 9 ขบวนจะถึงคิวซ่อมใหญ่ 1.3 ล้านกิโลเมตรในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ ปัจจุบันจอดนิ่ง ๆ 4 ขบวน เพื่อถอดอะไหล่มาเสริมให้กับอีก 5 ขบวนได้วิ่งบริการผู้โดยสารไปพลาง ๆ ระหว่างรออะไหล่ จนกว่าการซ่อมใหญ่จะแล้วเสร็จ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 เดือน
เรื่องนี้เดิมพันสูง "ภากรณ์ ตั้งเจตสกาว" รองผู้ว่าการการรถไฟฯ และรักษาการซีอีโอแอร์พอร์ตลิงก์ กล่าวย้ำหลายครั้งว่า เหตุการณ์เลวร้ายสุดอาจถึงขั้นต้องปิดบริการทันที เพื่อความปลอดภัย
ทั้งหมดนี้เป็นทั้ง "ความยาก-ความง่าย" ของภารกิจการรถไฟฯที่คนในพูดไม่ค่อยออก แต่คนนอกก็ยังอยากจะอาสาเข้ามาลุยไฟ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/09/2014 4:14 pm Post subject: |
|
|
ปลัดคค.เร่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้า
INN News วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2557 15:57น.
ปลัดคมนาคม เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดให้เป็นไปตามเป้า หลังพบเบิกจ่ายแค่ร้อยละ 60
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเร่งรัดติดตามการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กระทรวงคมนาคม ว่า หน่วยงานรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมได้รับการอนุมัติงบประมาณประจำปี 2557 จำนวน 434,714 ล้านบาท ซึ่งมีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วจำนวน 261,202.19 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.09 ทั้งนี้ ในส่วนของงบลงทุนประจำปี 2557 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจของกระทรวงได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ากว่าเป้าหมายที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของกรอบวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน
อย่างไรก็ตาม แต่ละหน่วยงานต้องเร่งพิจารณารายละเอียดว่าติดปัญหาหรืออุปสรรคใด และหาทางแก้ไขเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ที่สามารถเบิกจ่ายได้ร้อยละ 26 ล่าช้ากว่าแผน เนื่องจากติดปัญหาการปรับแบบโครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต รวมถึงความล่าช้าของโครงการจัดซื้อโบกี้ขนสินค้า ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้ได้ตามแผนงาน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/09/2014 3:36 pm Post subject: |
|
|
TOR งานจ้างก่อสร้างสถานีรถไฟย่อยปาดังเบซาร์(สถานี2) ในฝั่งประเทศไทย ศูนย์บำรุงทางภาคใต้
http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2557/57661705tor.pdf
1. ความเป็นมา
การใช้บริการรถไฟของประชาชนทั่วไป พ่อค้า นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และการขนส่งที่ใช้บริการรถไฟในประเทศและต่างประเทศ ทางด่านปาดังเบซาร์ได้รับความเดือดร้อนไม่สะดวกอย่างยิ่ง หลังจากที่ประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียได้ทำการปักปันเขตแดนและสร้างกำแพงประเทศ สถานีรถไฟปาดังเบซาร์อยู่ในประเทศมาเลเซีย ในการใช้บริการสถานีรถไฟในประเทศ และการขนส่งในประเทศและระหว่างประเทศ ในส่วนของประเทศไทยมีปัญหาอย่างมาก การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รับอนุมัติงบประมาณประจำปี 2557 เพื่อการจ้างเหมาก่อสร้างสถานีรถไฟย่อยปาดังเบซาร์(สถานี2) ในฝั่งประเทศไทย โดยการจ้างปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549
2. วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นที่เชิดชูสร้างศักยภาพเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศเทียบเท่ากับต่างประเทศ
2. เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างประเทศ ให้ได้รับความสะดวกในการโดยสารรถไฟ
งบประมาณ/ราคากลาง : 10,161,000.00 บาท |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/09/2014 4:32 pm Post subject: |
|
|
ชง 17 เส้นทางใหม่เชื่อมจังหวัด ร.ฟ.ท.ขยายรับระบบราง/2 บริษัทลุ้นข้อเสนอ
วันอังคารที่ 23 กันยายน 2014 เวลา 13:11 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
ร.ฟ.ท.เปิด 17 เส้นทางรถไฟสายใหม่ เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสำคัญ และระบบรางในอนาคต มีบริษัทที่ปรึกษาสนใจเสนอตัวถึง 5 กลุ่ม สุดท้ายเหลือ 2 รายที่ยื่นข้อเสนอ กลุ่ม "อินเด็กซ์ อินเตอร์-กลุ่มโชติจินดา มูเชล" ลุ้นผลเสนอราคาเดือนตุลาคมนี้
แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ร.ฟ.ท.มีแนวคิดขยายเส้นทางรถไฟใหม่ 17 เส้นทาง เชื่อมต่อจังหวัดสำคัญ (Spur Lines)ถือเป็นการขยายโครงข่ายให้บริการระบบรางที่จะเสริมกับโครงข่ายเส้นทางหลักที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการรถไฟได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น และอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมาใช้ระบบราง ซึ่งถือเป็นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและช่วยประหยัดต้นทุนการขนส่งของประเทศในภาพรวม ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และความแออัดจากการขนส่งทางถนน ช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจชุมชนและการขยายความเจริญสู่ภูมิภาค รวมทั้งการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค
"ทั้ง 17 เส้นทางถือเป็นแผนหลักในอนาคตที่เป็นฟีดเดอร์ขยายออกไปจากเส้นทางหลัก โดยศึกษาทั้งทางวิศวกรรม ระยะทาง ความเหมาะสมเส้นทาง ผ่านทางเขา ทางลาด สะพาน ช่องทางน้ำ อุโมงค์ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ แนวทางการเติบโตของสินค้าและผู้โดยสาร ที่มีผลต่อการพัฒนาเมือง"
สำหรับเส้นทางสายใหม่ทั้ง 17 เส้นทาง มี Quote: |
1.เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน
2.แพร่-น่าน
3.กันตัง-ท่าเรือรถไฟกันตัง
4.พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-แม่สอด
5.พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร
6.หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม
7.อุดรธานี-สกลนคร-นครพนม
8.โนนสะอาด-หนองบัวลำภู
9.ศรีสะเกษ-ยโสธร-ร้อยเอ็ด
10.มุกดาหาร-อำนาจเจริญ-อุบลราชธานี
11.อุบลราชธานี-ช่องเม็ก
12.สถานีน้ำตก-ด่านเจดีย์สามองค์-ตันบูชายัต(เมียนมาร์)
13.ชุมทางบ้านภาชี-สุพรรณบุรี
14.ชุมทางศรีราชา-มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด
15.ชุมพร-ระนอง
16.ทับปุด-กระบี่ และ
17.ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา |
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณการศึกษาความเป็นไปได้และศึกษาออกแบบของโครงการดังกล่าว ร.ฟ.ท.เสนอขออนุมัติงบจำนวน 90 ล้านบาท แต่ได้อนุมัติเพียง 11 ล้านบาท หลังจากเปิดให้บริษัทที่ปรึกษายื่นข้อเสนอ ปรากฏมีผู้แสดงความสนใจ 5 ราย แต่มีเพียง 2 กลุ่มที่ยื่นข้อเสนอ ได้แก่ กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ที่มีบริษัท พีเอสเค คอนซัลแทนส์ จำกัด และบริษัท ล้านนา เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ส จำกัด ร่วมทีมด้วย กลุ่มที่ 2 บริษัท โชติจินดา มูเซล คอนซัลแตนส์ จำกัด ที่มีบริษัท ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติ้ง จำกัด และบริษัท ดีไว พลัส จำกัด ส่วนอีก 3 กลุ่มที่ถอนตัวไปมี กลุ่มบริษัท นิวแอสเซท แอดไวเซอรี่ จำกัด บริษัท เทน คอนซัลแตนส์ จำกัด และบริษัท อินทิเกรเทด เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด
"ทางร.ฟ.ท.จะเร่งให้ได้ตัวที่ปรึกษาภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้หลังจากนั้นจะต่อรองราคา คาดว่าประมาณกลางเดือนตุลาคมจึงจะได้ตัวที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าวต่อไป"
ทั้งนี้ ขอบข่ายการดำเนินการจะต้องศึกษาแนวเส้นทางรถไฟ วิเคราะห์ปริมาณผู้โดยสารและสินค้า สภาพธรณีวิทยา ผลการศึกษาทางวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจและสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม ตำแหน่งที่ตั้งของย่านขนส่งสินค้าที่เหมาะสม ประมาณราคาค่าก่อสร้างในเบื้องต้น ทบทวนแนวเส้นทางรถไฟเดิม และจัดลำดับความสำคัญและจัดทำแผนงานรวมทุกแนวเส้นทางโดยที่ปรึกษาจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดขอบเขตงานนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนและให้เริ่มปฏิบัติงานภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากร.ฟ.ท.
"จะเป็นผลดีต่อหน่วยงานร.ฟ.ท.ในช่วงแรกนี้ แต่งบประมาณที่ได้รับยังถือว่าน้อยมาก ดังนั้นที่ปรึกษาจะต้องจัดลำดับความสำคัญ 1-2-3 ว่าเส้นไหนเหมาะสำหรับการขนส่ง หรือท่องเที่ยว หากเส้นไหนมีความสำคัญอันดับ 1 ร.ฟ.ท.ก็สามารถจะให้ศึกษาออกแบบและศึกษาสิ่งแวดล้อมต่อเนื่องกันไปได้ทันที และหากมีงบประมาณก่อสร้างก็สามารถหยิบมาดำเนินการได้ทันทีเช่นกัน"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,986 วันที่ 25 - 27 กันยายน พ.ศ. 2557 |
|
Back to top |
|
|
|