RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312063
ทั่วไป:13658912
ทั้งหมด:13970975
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 263, 264, 265 ... 489, 490, 491  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 29/12/2015 10:17 am    Post subject: Reply with quote

เต็มทุกเที่ยว! คนแห่กลับฉลองปีใหม่ รถสายเหนือคนแน่น


โดย MGR Online

28 ธันวาคม 2558 10:23 น. (แก้ไขล่าสุด 28 ธันวาคม 2558 11:34 น.)



เชียงใหม่ - ประชาชนเริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อเนื่อง จนรถโดยสารสาธารณะเส้นทางสายเหนือเต็มทุกเที่ยว ต้องเสริมเที่ยวรถเป็น 2 เท่า นักท่องเที่ยวบางรายไม่มีตั๋ว ต้องเหมารถแท็กซี่-สองแถวแทน ขณะที่ตั๋วรถไฟเชียงใหม่ทั้งขาขึ้น-ล่อง ระหว่าง 1-4 ม.ค.ถูกจองเกลี้ยง เหลือแต่ตั๋วยืน

วันนี้ (28 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่แห่งที่ 3 เริ่มมีประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองปีใหม่ เดินทางมาซื้อตั๋ว-รอรถกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถโดยสารสาธารณะเส้นทางระหว่างจังหวัดสายเหนือตอนบนเต็มทุกเที่ยว

โดยเฉพาะเส้นทางสายเชียงใหม่-เชียงราย ทางบริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด หรือกรีนบัสไทยแลนด์ ต้องเสริมเที่ยวรถเพิ่มเป็น 2 เท่า จากเดิมที่เคยจัดรถวิ่งวันละ 150 เที่ยวก็เพิ่มเป็น 300 เที่ยวต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้นักท่องเที่ยวบางรายที่ต้องการจะเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่องเที่ยวต่อที่เชียงรายต้องเหมารถแท็กซี่ และสองแถวแบบยกคันไป ส่วนรถโดยสารระยะทางไกล ทางบริษัทฯ ก็ได้เพิ่มเที่ยวรถ จากเที่ยววิ่งปกติเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับ

ด้านนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งเจ้าหน้าที่เข้มงวดทั้งพนักงานขับรถ ที่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ และสารเสพติด รวมทั้งรถต้องมีความพร้อมก่อนออกเดินทาง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ที่คาดว่าแต่ละวันจะมีประชาชนเดินทางผ่านสถานีขนส่งเชียงใหม่ กลับภูมิลำเนาไม่ต่ำกว่าวันละ 4 หมื่นคน

ส่วนที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ก็มีประชาชนทยอยเดินทางไปใช้บริการขบวนรถไฟเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ทำให้รถไฟขบวนสปรินเตอร์ที่ออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ในเวลา 08.50 น.ที่ผ่านมา เต็มทุกที่นั่งตั้งแต่ต้นทาง เช่นเดียวกับขบวนรถไฟฟรี ที่ออกจากสถานีเชียงใหม่ตั้งแต่ 06.30 น. ปลายทางกรุงเทพมหานครก็เต็มทุกขบวน ประชาชนต้องตีตั๋วยืนตั้งแต่ต้นทาง คนที่ตกค้าง ก็ต้องนั่งรอขบวนรถไฟฟรี เส้นทางเชียงใหม่-นครสวรรค์ ที่ออกในเวลา 09.30 น.แทน

ขณะที่ตั๋วรถไฟทั้งขาขึ้น และขาล่อง เส้นทางสายเหนือตั้งแต่วันที่ 1-4 มกราคม 2559 ถูกจองล่วงหน้าเต็มหมด เหลือแต่ตั๋วยืนเท่านั้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47367
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/12/2015 2:14 pm    Post subject: Reply with quote

สู่หนึ่งเดียวในอาเซียน : รถไฟไทย-มาเลเซีย เชื่อมอาเซียน
สำนักข่าวไทย 2015/12/28 9:06 PM



สงขลา 28 ธ.ค. – การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดขบวนรถไฟเส้นทางใหม่ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เพื่อเชื่อมต่อกับขบวนรถไฟฟ้าของประเทศมาเลเซีย เส้นทางปาดังเบซาร์-กัวลาลัมเปอร์-ยะโฮร์บาห์รู ถึงชายแดนมาเลเซีย-สิงคโปร์ นับเป็นการเชื่อมเส้นทางรถไฟสายอาเซียนให้ประชาชนในภูมิภาคเดินทางท่องเที่ยวสะดวกมากขึ้น

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ขบวนรถไฟดีเซลรางปรับอากาศ (DRC) ขบวนนี้ เป็นขบวนรถไฟเส้นทางใหม่ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์ เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางกับขบวนรถไฟฟ้า (ETS) ความเร็ว 150 กม./ชม. ของบริษัทการรถไฟแผ่นดินมลายู จำกัด (KTM) ประเทศมาเลเซีย เป็นการเชื่อมเส้นทางรถไฟของทั้งสองประเทศพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เปิดให้บริการละวัน 4 เที่ยว ราคาโดยสาร 80 บาทตลอดสาย เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวและการขนส่งระหว่างประเทศมากขึ้น

ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารรถไฟมาเลเซียและลาว ร่วมกันเปิดป้ายสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ 2 (ฝั่งไทย) เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ใช้บริการต้องข้ามพรมแดนไปใช้บริการที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ 1 ฝั่งมาเลเซียเท่านั้น นับเป็นความร่วมมือด้านรถไฟครั้งสำคัญระหว่างไทยและมาเลเซีย หลังจากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยจะเร่งพัฒนาระบบรางคู่ 10 สาย ภายในปี 2559-2560 และจะพัฒนาสู่ระบบไฟฟ้าต่อไปในอนาคต โดยจะเริ่มนำร่องที่เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์

ด้านการบริการบริษัทการรถไฟแผ่นดินมลายู (KTM) ของประเทศมาเลเซีย ขณะนี้มีความก้าวหน้าแล้วอย่างมาก นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการรถไฟฟ้าความเร็ว 150 กม./ชม. เชื่อมเส้นทางไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ รองรับการค้าเสรีอาเซียน

ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟดีเซลรางจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ เมื่อผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองที่สถานีปาดังเบซาร์ 2 (ฝั่งมาเลเซีย) แล้ว สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าขบวนนี้สู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ร่นระยะเวลาจาก 12 ชั่วโมง เหลือเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น ค่าโดยสาร 80 ริงกิต (ประมาณ 700 บาท)

ด้วยความสัมพันธ์ด้านการรถไฟของทั้งสองประเทศยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ในวันนี้สามารถเปิดเส้นทางให้บริการรถไฟเชื่อมไทย-มาเลซีย- สิงคโปร์ รองรับการพัฒนาและเติบโตของประชาคมอาเซียน และในอนาคตอันใกล้นี้บริษัทการรถไฟแผ่นดินมลายูของประเทศมาเลเซียมีแผนร่วมกันสร้างโรงงานผลิตรถไฟกับการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47367
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/12/2015 4:03 pm    Post subject: Reply with quote

“บิ๊กตู่”ลงนาม ประกาศเวนคืนอสังหาฯ 9 ฉบับ-มอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-โคราช” “บางใหญ่– กาญจนบุรี”
โดย MGR Online 29 ธันวาคม 2558 15:30 น.

Click on the image for full size

Click on the image for full size


“บิ๊กตู่”ลงนาม ประกาศสำนักนายกฯ 9 ฉบับ เวนคืน อสังหาริมทรัพย์ สร้างทางหลวงพิเศษ 2 สาย “บางประอิน-โคราช” และ “บางใหญ่ - กาญจนบุรี” พร้อมขยายทางหลวงแผ่นดิน 3 สาย และ สร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท อีก 4 สาย

วันนี้(29 ธ.ค.) มีรายงานว่า เว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 9 ฉบับ ว่าด้วยการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ลงนามโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเป็นการเวนคืน เช่น เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) 2 ฉบับ ขยายทางหลวงแผ่นดิน 3 ฉบับ และ สร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท 4 ฉบับ ประกอบด้วย

ฉบับแรก เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมาเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๖ ในท้องที่อำเภอบางปะอิน อำเภอวังน้อย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอหนองแค อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างทางหลวงพิเศษสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมา ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๖เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่สอง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี พ.ศ. ๒๕๕๖ ในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อำเภอพุทธมณฑล อำเภอนครชัยศรี อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และอำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างทางหลวงพิเศษสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี พ.ศ. ๒๕๕๖เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่สามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบ ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในท้องที่อำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การขยายทางหลวงแผ่นดินสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไป จะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจ เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่สี่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเลเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๕ ในท้องที่อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การขยายทางหลวงแผ่นดินสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเล ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่ห้า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท อต. ๒๐๑๔ และทางหลวงชนบท อต. ๕๐๐๓ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่หก ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท สฎ. ๒๐๐๗ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานีพ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่เจ็ด ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๓๘ กับทางหลวงชนบท ลย. ๔๐๐๙ บริเวณบ้านท่าข้าม นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การขยายทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย จากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่แปด ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท พบ. ๑๐๐๑ และทางหลวงชนบท พบ. ๑๐๑๐ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพาน ข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวก และความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไป จะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจ เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่เก้า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณ ทางหลวงชนบท พบ. ๑๐๓๙ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภคซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจาก เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 30/12/2015 5:25 am    Post subject: Reply with quote

Laughing อ่านข่าวนี้แล้ว เวนคืนเพื่อสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณ ทางหลวงชนบท ของถนนสายต่าง ๆ ตามข่าวนี้
ไม่มีมีสะพานข้ามทางรถไฟ ทางหลวงชนบทถนน กลางนา - ยายพลอย บ้านผมเลยนะ ครับ จุดนี้ก็น่าสร้างอยู่เหมือนกัน
แทบไม่ต้องเวนคืนที่ดินเลย หรือว่ารอสร้างพร้อมรถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร

Click on the image for full size
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47367
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/12/2015 11:08 am    Post subject: Reply with quote

รอดูในรายงานการออกแบบรายละเอียด ทางคู่ประจวบ-ชุมพรครับพี่สมชาย ว่าจะจัดการจุดตัดแห่งนี้อย่างไร มกราคม 59 นี้ก็คงจะได้ประกวดราคาแล้ว Very Happy

----

บรรยากาศการเดินทางกลับบ้านทางรถไฟที่ จ.หนองคาย ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ 30 ธ.ค. 2558

บรรยากาศการเดินทางกลับบ้านทางรถไฟที่จังหวัดหนองคาย ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เกินครึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวลาว ที่มีการเดินทางต่อไปยัง สปป.ลาว
บรรยากาศการเดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่โดยทางรถไฟที่สถานีรถไฟหนองคาย ในช่วงเช้าของวันนี้ไม่ค่อยคึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เกินครึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวลาว ที่มีการเดินทางต่อไปยัง สปป.ลาว โดยบางส่วนได้ซื้อตั๋วรถไฟระหว่างประเทศไทย-ลาว หนองคาย-ท่านาแล้ง ในขณะที่บางส่วนได้ต่อรถเพื่อเดินทางโดยรถบริการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สำหรับสาเหตุที่ทำให้การเดินทางกลับโดยรถไฟ ไม่คึกคัก อาจจะเกิดจากที่ปีนี้ราคาน้ำมันไม่แพง จึงทำให้มีการเดินทางกลับโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวแทน
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : จุมพล สายแวว
ผู้เรียบเรียง : พิสิษฐ์ ศิริโชติอมรกุล
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย

----

เนืองแน่น! ชุมทางรถไฟหาดใหญ่เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ออกเดินทางช่วงหยุดยาวปีใหม่
โดย MGR Online 30 ธันวาคม 2558 10:43 น.

Click on the image for full size

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บรรยากาศที่สถานีรถไฟหาดใหญ่เนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและออกไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่ จนขบวนรถไฟเต็มทุกเที่ยว ระบุปีนี้คึกคักหลังมีการเปิดเส้นทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

วันนี้ (30 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เป็นไปอย่างคึกคัก รถไฟทุกขวนมีผู้โดยสารเนืองแน่น เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและออกไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ ตั๋วชั้น 1 และชั้น 2 ถูกจองเต็มล่วงหน้ามาเป็นเดือนและยาวไปจนถึงวันที่ 3 มกราคมปีหน้า

สำหรับบรรยากาศการเดินทางด้วยรถไฟที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ในปีนี้คึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะมีการเปิดเส้นทางใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถระหว่างประเทศ ซึ่งเพิ่มเป็น 2 ขบวนคือ ขบวนลังกาวีไปกลับกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ ซึ่งมี 1 เที่ยวต่อวัน และขบวนรถเชื่อมต่อระหว่างประเทศ DRC เส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซีย ที่ไปเชื่อมต่อกับขบวนรถไฟฟ้าด่วน ETS ที่สถานีปาดังเบซาร์ ให้บริการไปกลับ 4 เที่ยวต่อวัน ทำให้ในปีนี้สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47367
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/12/2015 1:56 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดการเดินขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าผ่านระบบตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดย MGR Online 30 ธันวาคม 2558 13:20 น. (แก้ไขล่าสุด 30 ธันวาคม 2558 13:24 น.)

Click on the image for full size

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมศุลกากร เปิดการเดินขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ ผ่านระบบตรวจสอบตู้สินค้าทางรถไฟด้วยเครื่องเอกซเรย์ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วันนี้ (30 ธ.ค.) ที่บริเวณอุโมงค์เอกซเรย์ขบวนรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กรมศุลกากร โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เดินทางมาเป็นประธานเปิดการเดินขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าผ่านระบบตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมด้วย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแขกผู้เกียรติร่วมงาน

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เผยว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมากรมศุลกากรได้พัฒนาปรับปรุงระบบงานศุลกากรหลายด้าน เพื่อยกระดับศุลกากรไทยให้ได้มาตรฐานสากล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และเพื่อให้การดำเนินทางพิธีการทางศุลกากรเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้รับบริการ โดยยังคงให้ความสำคัญต่อภารกิจด้านป้องกัน และปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงภาษี ตลอดจนสินค้าที่ไม่พึงประสงค์ควบคู่กันไป

กรมศุลกากร จึงได้นำเครื่องเอกซเรย์มาใช้ในการตรวจสอบตู้สินค้าที่ขนส่งทางรถไฟ ซึ่งระบบตรวจสอบดังกล่าวเป็นวิธีการตรวจสอบที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของสากล และเป็นวิธีที่องค์กรศุลกากรโลก (WCO) สนับสนุนให้หน่วยงานศุลกากรทั่วโลกนำไปปฏิบัติ

นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาการจราจร และปัญหามลพิษที่เกิดจากการขนส่งทางถนน ซึ่งเป็นการขนส่งที่สิ้นเปลืองพลังงาน และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม โดยปัจจุบันการขนส่งด้วยรถยนต์ กับระบบรางคิดเป็นสัดส่วน 9:1 โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนารถไฟทางคู่บนเส้นทางขนส่งที่หนาแน่น และพัฒนาระบบการให้บริการขนส่งทางราง บริการยกตู้สินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบัง

โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการขยายลานกองตู้สินค้าที่ขนส่งมาทางรถไฟ หรือเรียกว่า โครงการศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2563 ปัจจุบัน ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือที่มีตู้สินค้าผ่านเข้า-ออกมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่ 24 ของโลก โดยมีอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 11-13% ต่อปี ซึ่งในปี พ.ศ.2559 คาดว่าจะมีตู้สินค้าผ่านเข้า-ออกที่ท่าเรือแหลมฉบังเกิน 10 ล้านทีอียู และตามแผนการพัฒนาขยายท่าเรือ ในปี พ.ศ.2563 คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์สูงถึง 16 ล้านทีอียู ซึ่งจะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือที่มีตู้สินค้าผ่านเข้า-ออก มากเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากประเทศสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และเซินเจิ้น ของสาธารณรัฐประชาชนจีน

“เพื่อเป็นการส่งเสริมระบบลอจิสติกส์ของประเทศไทย และรองรับการเติบโตทางการค้าระหว่างประเทศที่มีอัตราสูงขึ้นในอนาคต กรมศุลกากร และการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการขนส่ง และเครือข่ายลอจิสติกส์ ลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ภาคธุรกิจไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำระบบนี้มาใช้งาน”

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 04/01/2016 7:31 pm    Post subject: Reply with quote

สถานีรถไฟหัวลำโพงคึกคัก!! ปชช.ซื้อตั๋วออกต่างจังหวัดเพียบ
โดย MGR Online
2 มกราคม 2559 09:26 น.

บรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพงช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงของเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ 2559 พบว่า ยังคงมีประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทยอยเดินทางมาเพื่อซื้อตั๋ว และรอขึ้นรถเดินทางออกต่างจังหวัดตั้งแต่เช้าจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว หรือ กลุ่มเพื่อน ขณะที่วันนี้เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ามากรุงเทพมหานครแล้ว หลังจากกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กลับครอบครัว
ส่วนทางด้านการรักษาความปลอดภัย มีชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและพนักงานรักษาความปลอดภัย คอยดูแลประชาชนอยู่ประจำตามจุดต่าง ๆทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึง เจ้าหน้าที่ทหาร มาตั้งจุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสาร

//-----------------

ผู้ว่าการรถไฟฯ สั่งเพิ่มตู้-ขบวน ขนคนกลับ กทม.
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 กราคม 2559 16:00


การรถไฟฯ จัดขบวนรถพิเศษ 5 ขบวน ขนคนกลับเข้ากทม.หลังสิ้นสุดวันหยุดยาวปีใหม่ พร้อมเพิ่มตู้โดยสารให้เต็มหน่วยลากจูงในทุกขบวน ช่วง 3-4 ม.ค.นี้ เผยมีประชาชนใช้บริการเฉลี่ยวันละกว่า 1 แสนคน...

วันที่ 3 ม.ค.59 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟฯ แจ้งว่า การรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารจำนวน 5 ขบวน ที่จะรับผู้โดยสารจากเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และยังคงเพิ่มตู้โดยสารให้เต็มหน่วยลากจูงในทุกขบวนและทุกเส้นทาง ซึ่งคาดว่าในวันนี้ จะมีผู้ใช้บริการถึง 120,000 คน จากจำนวนผู้โดยสารในวันที่ 2 มกราคม 2559 ที่เริ่มมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือมีจำนวนผู้โดยสารเดินทางจำนวน 101,793 คน

ส่วนในวันพรุ่งนี้ การรถไฟฯ ยังจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารอีก 5 ขบวน ในเส้นทางอุตรดิตถ์ อุบลราชธานี อุดรธานี และศรีสะเกษ เพื่อบรรเทาความแออัดของการเดินทางในวันสุดท้ายของวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่

ทั้งนี้ สถิติจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟทั้งขบวนปกติและขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในช่วงเทศกาลในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2558 ถึงวันเสาร์ที่ 2 มกราคม 2559 ไปและกลับ รวมทั้งสิ้น 600,133 คน เฉลี่ยวันละ 100,022 คน.

//---------------


ร.ฟ.ท.-บขส.คาดผู้โดยสารเดินทางเที่ยวขากลับวันนี้มากสุด
โดย MGR Online
3 มกราคม 2559 12:44 น.

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้การการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท.เปิดเผยถึงบรรยากาศบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนเวลา 6.00 น.วันนี้ (3 ม.ค) เนื่องจากปกติของการเดินทางโดยสารรถไฟออกจากต้นทางส่วนใหญ่ จะเดินทางมาถึงสถานีรถไฟกรุงเทพมหานคร (หัวลำโพง) ว่า ร.ฟ.ท.ได้เสริมรถจากต้นทางสถานีอุบลราชธานี 2 ขบวน อุดรธานี 1 ขบวน และสถานีศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 1 ขบวน นอกเหนือจากการเสริมโบกี้เข้าไปกับขบวนรถไฟปกติที่มีผู้โดยสารจองตั๋วเดินทางไว้ ร.ฟ.ท.ประเมินว่า วันนี้จะมีผู้โดยสารเดินทางในเที่ยวขากลับมากที่สุด 120,000 คน ส่วนการเตรียมระบบขนส่งสาธารณะไว้ที่ปลายทางสถานีหัวลำโพง รองรับการเดินทางเชื่มต่อ เชื่อว่าคิวรถแท็กซี่ที่มีอยู่ปกติ และแท็กซี่ที่หมุนเวียนมาส่งผู้โดยสาร จะมีเพียงพอต่อการใช้บริการ
นายนพรัตน์ การรุณยะวนิช รักษาการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ บขส.ประเมินว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางกลับมากที่สุดในเที่ยวขากลับ หรือ ประมาณ 170,000 คน บขส. จึงได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อประสานกับขนส่งจังหวัดทุกแห่ง เพื่ออำนวยการจัดรถให้เพียงพอ โดยได้ประสานรถบขส. รถร่วมบริการ และรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถ 30 ซึ่งในวันนี้จะมีการเพิ่มเที่ยววิ่งสูงสุดได้ถึง 1,500 เที่ยว เชื่อว่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน โดยรถโดยสารทุกคัน เมื่อเดินทางมาถึงสถานีขนส่งหมอชิต จะให้รีบตีรถเปล่ากลับไปรอรับผู้โดยสารที่ต้นทางแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นชุมทางเดินทางสำคัญ เช่น จ.นครราชสีมา จ.นครสวรรค์ คาดว่าปริมาณรถที่เพิ่มเที่ยววิ่งวันนี้ จะเพียงพอต่อการใช้งาน
ขณะที่การจัดรถสาธารณะมารับส่งผู้โดยสารต่อเชื่อมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลวันนี้ บขส.ได้รับความร่ววมือจากกองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถเมล์ 23 เส้นทาง หมุนเวียนเข้ามารับผู้โดยสารที่สถานีหมอชิต ขาเข้า และได้ประสานงานให้ผู้ประกอบการสหกรณ์แท็กซี่ เข้ามารับส่งผู้โดยสารให้มากที่สุดด้วย


หัวลำโพงคึกคัก!! ปชช.ทยอยเข้ากรุงเพียบ
โดย MGR Online
3 มกราคม 2559 15:36 น.

บรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพงช่วงบ่ายยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีประชาชนทยอยเดินทางกลับจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศโดยรอบนั้น เป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่ได้นำสัมภาระข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของฝาก รวมไปถึงข้าวสารอาหารแห้ง นำกลับติดตัวมาด้วย
ขณะที่การอำนวยความสะดวกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ได้ร่วมกับกองกำลังทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ตั้งจุดอำนวยความสะดวก เพื่อคอยบริการประชาชนที่เดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร ขณะที่การจราจรโดยรอบ ยังคงใช้การได้อย่างคล่องตัว ส่วนรถแท็กซี่ รวมไปถึงรถโดยสารขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยังคงมีให้บริการกับประชาชนเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งประชาชนที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด สามารถลงรถไฟ และต่อรถไปยังสถานที่ปลายทางได้ในทันที


ปชช.แห่ใช้บริการรถไฟฟรีกลับ กทม.อย่างต่อเนื่อง
โดย MGR Online
3 มกราคม 2559 16:36 น.

บรรยากาศการเดินทางกลับกรุงเทพฯ และเขตภาคกลาง ช่วงวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีรถไฟนครราชสีมา เมื่อช่วงสายวันนี้ ประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการโดยสารรถไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะขบวนรถไฟท้องถิ่น หรือรถไฟฟรี เที่ยวขาล่องปลายทางสถานีรถไฟกรุงเทพฯ หรือหัวลำโพง ซึ่งมีขบวน 234 สุรินทร์-กรุงเทพฯ และขบวน 146 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งต้องทนยืนเบียดเสียดกัน เนื่องจากที่นั่งในแต่ละโบกี้มีผู้โดยสารนั่งมาจากต้นทางแล้ว
นายจาริก ดาวหน นายสถานีรถไฟนครราชสีมา เปิดเผยว่า ห้วงเวลาเทศกาลสำคัญจะมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่าปกติ เฉลี่ย 2-3 เท่า หรือประมาณ 5 พันคนต่อวัน ขบวนรถไฟท้องถิ่นถือเป็นขวัญใจของบรรดาผู้ใช้แรงงาน และผู้หาเช้ากินค่ำ แต่ละขบวนจะมีผู้โดยสารต่อเที่ยวหลายร้อยคน ทางสถานีได้เปิดให้ผู้ประสงค์จะโดยสารไปกับขบวนรถไฟฟรี ใช้สิทธินำบัตรประจำตัวประชาชนมายื่นขอตั๋วโดยสารก่อนขบวนรถออก 30 นาที หากเป็นช่วงเทศกาลจะเปิดก่อนเวลา ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยจะมีการกวดขันห้ามผู้โดยสารห้อยโหนออกมาจากขบวนรถ รวมทั้งห้ามขึ้นบนหลังคาอย่างเด็ดขาด หากไม่เชื่อฟังขบวนรถจะไม่เคลื่อนออกจากสถานี


ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ออกบริการ ปชช.เดินทาง ขบวนรถขึ้น กทม.แน่นขนัดต้องตีตั๋วยืน


โดย MGR Online

3 มกราคม 2559 16:55 น. (แก้ไขล่าสุด 3 มกราคม 2559 16:59 น.)


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ปล่อยแถวดูแลความปลอดภัยประชาชน และนักท่องเที่ยวในการเดินทางวันสุดท้ายปีใหม่ เส้นทางขาขึ้นกรุงเทพฯ แน่นขนัดต้องตีตั๋วยืน

วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ พ.ต.ต.ชาญศราวุธ แสงอรุณ สารวัตรสถานีตำรวจรถไฟหาดใหญ่ ปล่อยแถวกำลังตำรวจรถไฟหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ ออกดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางในช่วงวันหยุดสุดท้ายช่วงปีใหม่ ตามนโยบายของกองบังคับการตำรวจรถไฟ “ทุกขบวนปลอดภัย ตำรวจรถไฟพร้อมให้บริการ”


ซึ่งในวันนี้การเดินทางด้วยรถไฟหนาแน่นที่สุด ผู้โดยสารต้องเบียดเสียดกันขึ้นลงรถไฟ และตั้งแต่ช่วงบ่าย 3 โมง ซึ่งเป็นช่วงที่ขบวนรถไฟขาขึ้นกรุงเทพฯ ทั้ง 5 ขบวนทยอยออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสารที่มารอเดินทาง โดยเฉพาะขบวนรถไฟฟรีซึ่งผู้โดยสารล้นจนไม่มีที่นั่งต้องตีตั๋วยืน


ทางตำรวจรถไฟ และสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ได้จัดซุ้มน้ำดื่มไว้ให้บริการฟรี และนำมาสคอตตำรวจรถไฟ ออกแจกจ่ายคู่มือการเดินทางด้วยรถไฟให้ปลอดภัย พร้อมลูกอมให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว

ร.ฟ.ท.เพิ่มรถพิเศษ 5 ขบวน รองรับ ปชช.เดินทางกลับ กทม.
โดย MGR Online
3 มกราคม 2559 17:22 น.

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท. ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 5 ขบวนที่จะรับผู้โดยสารจากเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร และยังคงเพิ่มตู้โดยสารให้เต็มหน่วยลากจูงในทุกขบวนและทุกเส้นทาง ซึ่งคาดว่าในวันนี้ (3 ม.ค.) จะมีผู้ใช้บริการถึง 120,000 คน จากจำนวนผู้โดยสารในวันที่ 2 มกราคม (2559)ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มมีผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีจำนวนผู้โดยสารเดินทาง 101,793 คน และในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) ร.ฟ.ท.ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารอีก 5 ขบวนในเส้นทางอุตรดิตถ์ อุบลราชธานี อุดรธานี และศรีสะเกษ เพื่อบรรเทาความแออัดของการเดินทางในวันสุดท้ายของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ จากสถิติจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟทั้งขบวนปกติ และขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในช่วงเทศกาลในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2559 ไปและกลับ รวมทั้งสิ้น 600,133 คน เฉลี่ยวันละ 100,022 คน

ศรีสะเกษแห่ขึ้นรถไฟฟรีเข้ากรุง ตั๋วเต็มทุกชั้นทุกขบวน ขณะหอม-กระเทียมยอดของฝากญาติ
โดย MGR Online

3 มกราคม 2559 22:54 น. (แก้ไขล่าสุด 4 มกราคม 2559 07:42 น.)

ศรีสะเกษแห่ขึ้นรถไฟฟรีเข้ากรุง ตั๋วเต็มทุกชั้นทุกขบวน ขณะหอม-กระเทียมยอดของฝากญาติ
ชาวศรีสะเกษแห่ขึ้นรถไฟฟรีเดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนตั๋วเต็มทุกชั้นทุกขบวนไปจนถึง 5 ม.ค. พร้อมจำหน่ายตั๋วยืนให้ผู้โดยสาร ที่สถานีรถไฟศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ วันนี้ (3 ม.ค.)

ศรีสะเกษ - ชาวศรีสะเกษแห่ขึ้นรถไฟฟรีเดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนตั๋วเต็มทุกชั้นทุกขบวนพร้อมจำหน่ายตั๋วยืน ด้านการรถไฟฯ เสริมขบวนรถไฟไปกรุงเทพฯ วันละ 4 เที่ยวเพื่อให้บริการประชาชนให้เพียงพอ ขณะหอมแดง กระเทียมของดีเมืองดอกลำดวน เป็นสินค้ายอดของฝากญาติพี่น้อง

เมื่อเวลา 18.45 น. วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟศรีสะเกษ ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ประชาชนชาวศรีสะเกษที่พากันกลับมาเยี่ยมบ้านต่างพากันมารอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่ไปทำงาน และบางคนไปเรียนหนังสือ เมื่อรถไฟมาเทียบชานชาลาต่างพากันหอบหิ้วสัมภาระส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระสอบข้าวสารอาหารแห้งเพื่อนำเอาไปเป็นอาหารระหว่างที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดขึ้นไปบนรถไฟกันอย่างเร่งรีบ

เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟศรีสะเกษได้คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาใช้บริการอย่างเต็มที่ ซึ่งรถไฟฟรีได้รับความนิยมจากประชาชนชาวศรีสะเกษเป็นอย่างมาก ต่างพากันโดยสารรถไฟฟรีเดินทางไปยังกรุงเทพฯ จนเต็มขบวน ส่วนขบวนรถไฟอื่นๆ ทั้งรถด่วน รถเร็ว มีการจองตั๋วโดยสารจนเต็มทุกขบวน และมีการจำหน่ายตั๋วให้แก่ผู้โดยสารโดยไม่มีที่นั่งหรือตั๋วยืนด้วย ซึ่งตั๋วรถไฟถูกจองล่วงหน้าเต็มไปจนถึงวันที่ 5 ม.ค.

นายเสถียร ทองลอง นายสถานีรถไฟศรีสะเกษ กล่าวว่า ในช่วงหยุดยาวเทศกาลขึ้นปีใหม่มีประชาชนชาวศรีสะเกษมาใช้บริการโดยสารรถไฟเพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เพียงพอต่อการให้บริการประชาชนจึงได้เพิ่มขบวนรถไฟขึ้นอีกวันละ 4 ขบวน ซึ่งปรากฏว่ารถไฟฟรีได้รับความสนใจจากประชาชนพากันมาใช้บริการเป็นจำนวนมากจนล้นแทบทุกตู้ ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนได้ใช้ความระมัดระวังระหว่างเดินทางโดยรถไฟ ไม่ให้ใช้หลังคาตู้โดยสารรถไฟเป็นที่นั่งอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณตลาดหอมกระเทียมท่าเรือ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตลาดหอมแดง กระเทียมที่ใหญ่ที่สุดของจ.ศรีสะเกษ ได้มีบรรดาประชาชนชาวศรีสะเกษและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่กำลังเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลังจากเทศกาลปีใหม่ผ่านพ้นไปแล้ว ได้พากันมาหาซื้อหอม กระเทียมเพื่อนำเอาไปฝากญาติพี่น้องและผู้ที่เคารพนับถือที่อยู่กรุงเทพฯ กันอย่างคึกคัก บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต้องพากันนำเอาหอมแดงและกระเทียมที่เป็นของดีศรีสะเกษมาขายให้นักท่องเที่ยว เนื่องจากหอมแดงและกระเทียมของศรีสะเกษขึ้นชื่อว่าเป็นหอมแดงและกระเทียมที่นำเอาไปประกอบอาหารได้อร่อย ซึ่งแม่ค้าตั้งราคาขายหอมแดงไว้ที่ กก.ละ 35 บาท 3 กก. 100 บาท และกระเทียม กก.ละ 140 บาท โดยในช่วงนี้ขายหอม กระเทียมได้ดีมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวพากันมาหาซื้อหอม กระเทียมเป็นจำนวนมากทุกวัน

นางรักเร่ ชิดประสงค์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/158 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม กล่าวว่า ตนมาเยี่ยมญาติที่ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครปฐม ดังนั้นจึงได้มาหาซื้อหอม กระเทียม ที่เป็นของ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนำเอาไปฝากญาติพี่น้องที่กรุงเทพฯ และที่ จ.นครปฐม โดยซื้อหอม กระเทียมกว่า 20 กก. เพราะจะได้นำเอาไปฝากญาติพี่น้องได้ครบทุกคน โดยหอมกระเทียมของ จ.ศรีสะเกษเป็นที่นิยมมากที่กรุงเทพฯ เพราะมีกลิ่นฉุน เมื่อนำเอาไปประกอบอาหารทำให้อาหารมีรสชาติอร่อย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 05/01/2016 8:48 pm    Post subject: Reply with quote

ปชช.ยังตกค้างมารอขึ้นรถไฟ-รถโดยสารเดินทางกลับ บุรีรัมย์สังเวยปีใหม่แล้ว 9 ศพ


โดย MGR Online

4 มกราคม 2559 13:23 น. (แก้ไขล่าสุด 4 มกราคม 2559 16:08 น.)

ปชช.ยังตกค้างมารอขึ้นรถไฟ-รถโดยสารเดินทางกลับ บุรีรัมย์สังเวยปีใหม่แล้ว 9 ศพ
ประชาชนที่ยังตกค้างได้มารอขึ้นรถไฟ ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เพื่อเดินทางกลับไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ คึกคัก หลังเสร็จสิ้นฉลองเทศกาลปีใหม่ 2559ยังภูมิลำเนา วันนี้ ( 4 ม.ค.)

บุรีรัมย์ - ปชช.ที่ตกค้างได้มารอขึ้นรถไฟและรถโดยสารเที่ยวเสริมที่สถานีขนส่ง และสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เพื่อเดินทางกลับไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ คึกคัก ขณะที่วันหยุดสุดท้ายเทศกาลปีใหม่ คนแห่เดินทางกลับเนืองแน่นถึง 23.00 น. พนักงานขับรถอ่อนเพลียต้องหยุดวิ่ง 5 คัน ส่วนอุบัติเหตุทางถนน 6 วันอันตราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ศพ

วันนี้ (4 ม.ค.) บรรยากาศหลังวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2559 ยังมีประชาชนที่ตกค้างได้มารอใช้บริการที่สถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเดินทางกลับไปทำงานยังกรุงเทพมหานคร และตามจังหวัดต่างๆ อย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยบางส่วนที่เลือกเดินทางกลับในวันนี้เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความแออัด เนื่องจากเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุดสุดท้าย ได้มีประชาชนมาใช้บริการทั้งรถไฟ และรถประจำทางเพื่อเดินทางกลับเนืองแน่นตลอดทั้งวัน ส่วนรถเที่ยวปกติถูกจองเต็ม ทำให้ต้องมารอใช้บริการในขบวนหรือเที่ยวรถเสริม ทั้งสถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสารต้องใช้เวลาในการระบายผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางกลับจนถึงเวลา 23.00 น.

จากการที่ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการเดินทางกลับพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเข้มทั้งสภาพรถและพนักงานขับรถ และพบว่ามีพนักงานขับรถที่มีสภาพอ่อนเพลียที่จำเป็นต้องให้หยุดพัก และเปลี่ยนให้คันอื่นวิ่งแทนจำนวน 5 คัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และความปลอดภัยของผู้โดยสาร

ส่วนข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 จ.บุรีรัมย์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2558 - 4 มกราคม 2559 มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุรวมจำนวน 80 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 82 ราย เป็นชาย 67 หญิง 15 ราย และมีผู้เสียชีวิต 9 ราย หากเปรียบเทียบจากห้วง 7 วัน ระวังอันตรายช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2558 พบว่าปีนี้ยอดการเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยอดผู้เสียชีวิตยังน้อยกว่าปีที่ผ่านมา


//-------------
เพิ่มขบวนรถไฟฟรีอุบลฯ ระบายผู้โดยสารตกค้าง


โดย MGR Online

4 มกราคม 2559 12:07 น. (แก้ไขล่าสุด 4 มกราคม 2559 12:44 น.)

ตามสถานีรถไฟและสถานีขนส่งผู้โดยสารจ.อุบลฯ ยังมีผู้โดยสารตกค้างอีกมาก

อุบลราชธานี - นักท่องเที่ยวและแรงงานที่หยุดเที่ยวเทศกาลปีใหม่ ยังมีตกค้างตามสถานีรถไฟและสถานีขนส่ง รถติดตามถนนสายหลัก ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย ยังเสริมขบวนรถไฟฟรีรับผู้โดยสารที่เหลืออีก 2 ขบวน ส่วนรถโดยสารมีการเพิ่มอีก 30 เที่ยว คาดกลับสู่ภาวะปกติวันพรุ่งนี้

วันนี้ (4 ม.ค. 59) บรรยากาศการเดินทางกลับหลังเทศกาลปีใหม่ที่สถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุบลราชธานี ยังมีแรงงานและนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้เดินทางกลับเมื่อวาน เพื่อหลีกเลี่ยงปริมาณผู้โดยสารที่หนาแน่น รถติดตามถนนสายหลัก จึงเลือกมาเดินทางกลับวันนี้ได้มารอขึ้นรถยังหนาแน่น

โดยสถานีรถไฟจังหวัดอุบลราชธานีได้จัดขบวนรถเสริมอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ โดยเป็นขบวนรถไฟฟรี 2 ขบวน ออกจากสถานีช่วงเช้าและเย็น ส่วนสถานีขนส่งผู้โดยสารก็เพิ่มรถจากปกติขึ้นอีก 30 เที่ยว เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และกลับมาเดินรถได้ตามปกติในวันที่ 5 ม.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่สถิติช่วง 7 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2558 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2559 จังหวัดอุบลราชธานี เกิดอุบัติเหตุจำนวน 365 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บ 325 คน เสียชีวิต 7 คน โดยรายล่าสุดเป็นชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 30 ปี ขี่จักรยานยนต์ชนกับจักรยานยนต์ที่สะพานต่างระดับบ้านบัวท่า-บัวเทิง ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44020
Location: NECTEC

PostPosted: 06/01/2016 11:01 am    Post subject: Reply with quote

จากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอน...แรงงานแบกข้าวสารกลับกรุง
โดย ไทยรัฐออนไลน์
4 ม.ค. 2559 11:00


บรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
คนไทยผู้ใช้แรงงาน ต่างหอบหิ้วสัมภาระ หอบลูกจูงหลาน กลับจากบ้านเกิดเข้าเมืองกรุง ทำงานหาเลี้ยงชีวิตกันต่อไป หลังจากกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ พ่อบ้านหลายคนเอาข้าวสารจากบ้านมากินด้วย เพื่อลดค่าครองชีพในเมืองใหญ่ เป็นภาพที่เห็นได้ทุกครั้ง หลังช่วงเทศกาลสำคัญของไทย...
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47367
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/01/2016 4:15 pm    Post subject: Reply with quote

ประตูอัตโนมัติรถไฟหนีบมือเด็กหญิง 2 ขวบบาดเจ็บที่หาดใหญ่
โดย MGR Online 7 มกราคม 2559 16:05 น.

Click on the image for full size

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุประตูอัตโนมัติขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 41 กรุงเทพ - ยะลา หนีบมือเด็กหญิงวัย 2 ขวบได้รับบาดเจ็บ ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

วันนี้ (7 ม.ค.) เกิดอุบัติเหตุประตูอัตโนมัติของขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 41 กรุงเทพ - ยะลา หนีบมือ ด.ญ.นิฟิดาวห์ เลาะมอง อายุ 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่บริเวณโคนเล็บนิ้วชี้กับนิ้วกลาง ตำรวจรถไฟและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี ช่วยปฐมพยาบาลและรีบนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งว่านอกจากมีบาดแผลแล้วยังมีผลกับกระดูกหรือไม่ ซึ่งเด็กอยู่ในอาการตกใจและร้องให้ตลอดเวลา

โดยอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ขบวนรถไฟที่41 เข้าสู่ชานชลาสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ และแม่ซึ่งเดินทางมากับรถไฟขบวนนี้ ได้อุ้มลูกออกจากตู้โดยสาร แต่ขณะที่กำลังผ่านประตูอัตโนมัติซึ่งต้องกดปุ่มเปิด เด็กน่าจะเอามือไปจับประตู เมื่อประตูปิดจึงหนีบเข้าที่มือและเด็กได้กระชากมือออกมาด้วยความตกใจทำให้เกิดเป็นแผล ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทางสถานีรถไฟหาดใหญ่รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเนื่องจากเกิดขึ้นขณะใช้บริการรถไฟ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 263, 264, 265 ... 489, 490, 491  Next
Page 264 of 491

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©