นั่งรถไฟไปออกรอบ กับก๊วนกอล์ฟที่พลูตาหลวง (ชุดใหญ่)

[CENTENNIAL]

ถ้าสะพานที่ข้ามทางหลวงเส้นนี้เป็นสะพานยาวที่ยาวต่อเนื่องมาจากข้ามแม่น้ำบางปะกงแล้ว น่าจะเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ฉะเชิงเทรา - พนมสารคาม - กบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว - นครราชสีมา( ปักธงชัย ) มากกว่านะครับพี่บอมบ์ เส้นทางนี้ผมใช้บ่อยครับ

เป็นรีวิว ที่ยอดเยี่ยมครับพี่ ดูสนุก ปนสาระ เฮฮา เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยครับ

[Nakhonlampang]

ยืนยันตามที่เอ็มบอกมาครับ
สะพานรถไฟที่สร้างข้ามทางหลวงนับต่อจากสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงไปจนถึงพลูตาหลวงนั้น สะพานแรกสร้างข้ามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ช่วง ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ครับ

[CivilSpice]

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม จากทั้งน้องเอ็ม และพี่หนุ่มด้วยครับ ผมกลับไปแก้ไขเรียบร้อยละ

[black_express]

ครับ...หลังจากที่ปล่อยให้คุณบอมบ์ฉายเดี่ยวทั้งไปและกลับแล้ว ในส่วนของผมก็ขอแปะภาพในมุมมองอื่นติดตามท้ายก็แล้วกันครับ

ที่ล่าช้า ด้วยเหตุ drive E เครื่องคอมฯ ผมกลับไปเยี่ยมญาติ โดยไม่มีกำหนดกลับ จะซ่อมก็รองบตกเบิกมาก่อน เลยเกิดอาการยักย้ายถ่ายเทไฟล์ภาพลงเครื่องกันให้อุตลุต กว่าจะแก้ขัดไปได้ ต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ

เอาเป็นว่า มาโผล่ตอนเช้าตรงที่หยุดรถอโศกดีกว่าครับ

ใกล้ๆ สี่แยกอโศก เส้นทางสายประจำตอนเรียนรามฯ ตั้งแต่ยังไม่มีสะพานลอยแห่งนี้ จนกระทั่งแล้วเสร็จ แถมด้วยทางด่วนสายรามอินทราพาดผ่านด้วยสิ

มองดูแล้ว ผมแก่ตัวไปอักโข เฮ้อ...





สมัยทำงานอยู่ที่ระยอง ผมลองขึ้นรถไฟสายพลูตาหลวง มาแล้วครั้งหนึ่ง ต่อจากรถเร็วเด่นชัย - กรุงเทพ ซึ่งเข้ามาได้เวลาพอดี ถึงสถานีพลูตาหลวง ต่อสองแถว รอขึ้นรถเมล์สายชลบุรี - สัตหีบ - ระยอง เข้าบ้านพักได้ปาไปตั้งบ่ายโมงกว่า

ดีที่ว่าวันนั้นหน่วยงานเขาจัดกิจกรรมวันเฉลิมฯ ตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง เลยรอดตัวไป

ถ้าเป็นวันธรรมดาหรือ ? คงต้องมีเรื่องชี้แจงกับนายว่า ทำไมเข้าที่ทำงานแค่ครึ่งวัน ?



สำหรับรถไฟสายนี้ที่คงเส้นคงวาเห็นจะเป็นจำนวนผู้โดยสารที่ลงเลยจากฉะเชิงเทรา มีอยู่ไม่กี่คน แถมการรถไฟฯ เหมาเอาว่าวันหยุดไม่มีผู้โดยสาร เลยงดเดินวันเสาร์ - อาทิตย์ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะจากกรุงเทพฯ มาลงสถานีพัทยา ไม่ถึง 40 บาท

ร้อยบาทเอาสลึงเดียวว่า ราคานี้ มารถทัวร์ไม่ได้แน่นอน ไม่รู้ว่าเขาคิดผกผันกันได้อย่างไร ? เหอๆๆๆ

พอ ข.ชานเมือง รังสิต - หัวตะเข้ ผ่านไปแล้ว ก็ถึงคิว ข.ชานเมือง ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ ที่จะเข้าจอดบ้างล่ะ แต่ไปตั้งหลักตรงที่หยุดรถฟากเลยถนนรัชดาภิเษกโน้นครับ มี THN ทำขบวนมาด้วยสิ





พอท้ายขบวนนี่สิ เลยมีเฮ... ไหงกลายเป็น RHN ไปซะง้านล่ะ คนละเวอร์ชั่นเชียวนิ เก่งจริงๆ

ได้เวลากลับบ้านแล้วสิ... เดี๋ยววันจันทร์ ค่อยมาต่อเรื่องนะครับ

[black_express]

ขบวนรถสายบ้านพลูตาหลวงวันนั้น มีผู้โดยสารใส่เสื้อเหลืองค่อนขบวนเชียวครับ ลืมสนิทเลยว่า ถึงแม้กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะหยุดงานกันสองวัน แต่ที่ฉะเชิงเทรา และชลบุรีไม่หยุดนี่ครับ

ดังนั้น พอถึงฉะเชิงเทรา ก็ลงจากรถค่อนขบวนเช่นกัน คงเหลือกลุ่มหนึ่ง ติดขบวนรถไปลงที่สถานีพัทยา

เชื่อไหมครับว่า...มีอีกหลายๆ คนไม่ทราบว่า นั่งรถไฟไปลงพัทยาก็ได้ อาจเป็นเพราะไม่มีขบวนรถในวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือว่าอ่อน ปชส. ก็ไม่รู้สิ ?

เผื่อมีขบวนรถสุดสัปดาห์ กรุงเทพ - พัทยา ขึ้นมาก็ได้...





ขอบายผ่านช่วงอโศก - ชท.ฉะเชิงเทรา ไปเลยนะครับ เพราะมีรูปจากคุณบอมบ์ลงไปแล้วเหลือเฟือ มาตื่นตัวอีกหนหนึ่งในช่วงขบวนรถกำลังเข้าจอดตรงที่หยุดรถแปดริ้ว

สมัยเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ผมเคยสมคบกับเพื่อนซี้ปึ้ก ขึ้นดีเซลรางชานเมือง กรุงเทพ - แปดริ้ว ลงที่สถานีแปดริ้ว ซึ่งเป็นอาคารไม้เก่า ใหญ่โตกว่าสถานีฉะเชิงเทรา ( ที่ยังไม่ได้ต่อเติมชานชาลา ) เดินย่ำต๊อกไปไหว้หลวงพ่อโสธร กันสองคน แล้วกลับมาขึ้นรถ บขส. ( สายเก่า ผ่านบางปู) เข้าเอกมัย เอามันส์เข้าว่า

มาถึงตอนนี้ เสียดายที่รีบรื้ออาคารสถานีแปดริ้วออกไปหมด ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับทัศนวิสัยด้านการเดินรถเท่าไหร่ แต่ก็แล้วไปแล้ว...

หาอดีตคืนมาไม่ได้อีก เหลือแต่ความทรงจำ



พักสายตากับบ้านพักด้านตรงข้ามชานชาลาที่หยุดรถแปดริ้วครับ

[black_express]

จากชานชาลา ( เดิม ) ที่หยุดรถแปดริ้ว เส้นทางรถไฟสายสัตหีบจะเริ่มยกระดับ ผ่านย่านสถานีรถไฟกับบริเวณบ้านพักรถไฟ ( เดิม ) ตีโค้งเพื่อขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ที่นับว่า เป็นสะพานรถไฟ คสล. ยุคปัจจุบัน มีความโค้ง และยาวมากๆ เพราะต้องเพิ่มระยะลาดสำหรับขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านไป - มา ล้วนแต่มีน้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัดทั้งสิ้น สังเกตได้จากสภาพสันราง 80 ปอนด์ ที่เกือบราบและรอยเบียดกับบังใบล้อรถไฟ







ดูสภาพทางแล้ว ผมไม่แปลกใจครับ ที่มีการผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระหว่าง ชท.ฉะเชิงเทรา - ชท.ศรีราชา พร้อมด้วยแนวทางสามเหลี่ยม ( cord line ) ไปเชื่อมกับเส้นทางสู่ ชท.คลองสิบเก้า ด้วย

ขอให้เกิดไวๆ นะครับ

[Wisarut]

พี่ตึ๋ง, กรณีทางคู่ กะ ทางเบี่ยงนี้ท่าจะไม่พอเสียแล้ว น่าจะมีการฟื้นฟูทางเอาราง 100 ปอนด์ หมอนโมโนบล็อก มาเปลี่ยนกะราง 70-80 ปอนด์ หมอนทวินบล็อกกะหมอนไม้ แถมอัดหินล้างหินใหม่ ให้รับโหลดได้ 20-25 ตัน

[black_express]

สมควรทำครับ คุณวิศรุต ขนาดหมอนโมโนบล็อก ยังถอดเปลี่ยนใหม่เป็นแห่งๆ เลย

คิดดูเถอะครับว่า น้ำหนักขบวนรถ มีมากมายขนาดไหน ?

[black_express]

จากสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ขบวนรถเริ่มทำเวลาล่ะครับ เพราะสถานีรายทางเริ่มห่างกันมาก เหมือนคุณบอมบ์พูดเอาไว้

ริมเขตทางด้านซ้าย มีสถานีวัดความดันก๊าซธรรมชาติตั้งเป็นระยะๆ คงเป็นท่อส่งก๊าซเข้าโรงจักรไฟฟ้าบางปะกง , พระนครใต้ และก็นิคมอุตสาหกรรมริมเส้นทาง จรด อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ใช่ไหมครับป๋า ?





แล้วก็เข้าสู่สถานีดอนสีนนท์ สถานีแรกบนเส้นทางสายสัตหีบ ตั้งอยู่ในท้องที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนเข้าสู่เขต อ.พานทอง จ.ชลบุรี ครับ

[black_express]

ช่วงขาไปเนี่ย...ขอรวบรัดสักหน่อยครับ เพราะมุมมองคล้ายๆ กับคุณบอมบ์ เลยกะว่าจะเน้นช่วงขากลับ เพราะได้จังหวะอยู่ท้ายขบวนรถ มองได้โล่งตาหน่อย อิ..อิ..

ที่ย่านสถานีชุมทางศรีราชาครับ มีอะไรๆ ที่น่าเก็บภาพอยู่หลายอย่าง เพราะเป็นที่ตั้งหน่วยเชื่อมรางของ บ.อิตัลไทย เครื่องมือ เครื่องจักรกลที่ดูแปลกตา รวมอยู่ที่นี่...





จังหวะเหมาะ..ได้ภาพหัวรถจักรดีเซลไฮดรอลิกส์ SCHOEMA ของ บ.อิตัลไทย มาเป็นบำเหน็จมือ



ด้วยเหตุเส้นทางสายนี้ก่อสร้างในยุคหลัง โครงสร้างสะพานจึงเป็น คสล.แทบทั้งหมด และกลายเป็นต้นแบบสะพานบนเส้นทางในโครงการทางคู่ - ทางสาม ของการรถไฟฯ ด้วย ( แถมด้วยระบบอาณัติสัญญาณไฟสีตลอดเส้นทาง )



แล้วเส้นทางแยกสู่สถานีแหลมฉบัง ก็ค่อยๆ แยกออกไปจนลับตา...