View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
Posted: 18/04/2016 11:04 am Post subject: |
|
|
ปชช.แห่กลับเมืองกรุงฯ หัวลำโพงคนแน่นเอี้ยด
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 เม.ย. 2559 18:30
766 ครั้ง
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครของประชาชน ซึ่งหนาแน่นมาก โดยมีการแบกและถือสัมภาระทั้งเครื่องอุปโภค-บริโภค เช่น ข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ เพื่อนำมาเก็บตุนไว้ใช้เพื่อลดค่าใช้จ่าย ก่อนที่จะกลับมาทำงานตามปกติในวันพรุ่งนี้ ...
หัวลำโพงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โดย ไทยรัฐออนไลน์
18 เมษายน 2559 เวลา 08:52
แม้ว่าจะเป็นวันแรกของการทำงาน หลังจากที่ได้หยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่เช้าวันนี้ยังมีประชาชนบางส่วนที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ไปติดตามบรรยากาศกับคุณเจนศักดิ์ แซ่อึ้ง เกาะติดสถานการณ์อยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
//------------------
สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แน่น คนทะลักเดินทางวันหยุดสุดท้ายเทศกาลสงกรานต์
โดย MGR Online
17 เมษายน 2559 10:40 น. (แก้ไขล่าสุด 17 เมษายน 2559 11:22 น.)
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บรรยากาศการเดินทางในวันหยุดสุดท้ายเทศกาลสงกรานต์ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ผู้โดยสารทะลักแห่เดินทางกลับ คาดรถไฟสายใต้มีผู้โดยสารเกือบ 1 แสนคนตลอดช่วง 10 วันของเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ (17 เม.ย.) บรรยากาศการเดินทางในวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่แห่เดินทางกลับ โดยเฉพาะขบวนรถด่วน และรถเร็วเส้นทางขาล่องจากกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง 5 ขบวน ซึ่งทยอยเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟหาดใหญ่ตั้งแต่ 6 โมงเช้าของวันนี้ มีผู้โดยสารเต็มทุกขบวน ซึ่งส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว และเต็มไปด้วยสัมภาระข้าวของต่างๆ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเดินทางต่อมาจากทั้งภาคเหนือ อีสาน รวมทั้งกรุงเทพฯ
โดยในวันนี้รถไฟสายใต้ทุกขบวนถึงปลายทางใกล้เคียงกับเวลาที่กำหนด ส่วนขบวนรถขึ้นกรุงเทพฯ อีก 5 ขบวน จะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ประมาณบ่าย 2 โมงของวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารหนาแน่นเช่นกันเพื่อกลับเข้ากรุงเทพฯ
นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ตั๋วรถสารชั้น 1 รถนอนสายใต้จะยังคงเต็มไปจนถึงวันพรุ่งนี้ โดยประมาณการตัวเลขของผู้โดยสารรถไฟสายใต้ช่วง 10 วันเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 8-18 เมษายน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 1 หมื่นคน หรือกว่าเกือบ 1 แสนคน
หัวลำโพงยัง รปภ.เข้ม รองรับ ปชช.เข้ากรุงวันนี้หลังหยุดยาวสงกรานต์
โดย MGR Online
18 เมษายน 2559 09:41 น.
บรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) ยังคงมีประชาชนบางส่วนใช้บริการรถไฟเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อทำงานตามปกติ หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันนี้ ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด ตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยเดินตรวจตราความเรียบร้อย และให้บริการด้านข้อมูลและช่วยขนกระเป๋าสัมภาระของประชาชน โดยเฉพาะจุดรับ-ส่งผู้โดยสารของรถแท็กซี่
ส่วนบรรยากาศการเดินทางโดยรถไฟสายเหนือเที่ยวขาล่อง สถานีรถไฟ จ.พิจิตร เป็นไปอย่างคึกคัก แม้เป็นวันแรกของการทำงานหลังหยุดยาวช่วงสงกรานต์ โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารอใช้บริการ ทั้งรถไฟฟรี และรถด่วนพิเศษสปินเตอร์ รถด่วนนั่ง รถนอนปรับอากาศ ซึ่งถูกจองเต็มทุกที่นั่งและเต็มยาวไปจนถึงวันพรุ่งนี้
//---------------------- |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
Posted: 18/04/2016 11:05 am Post subject: |
|
|
รถไฟสายใต้ขากลับเข้ากรุงเทพฯ เต็มทั้ง 5 ขบวน ไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง
โดย MGR Online
17 เมษายน 2559 17:56 น. (แก้ไขล่าสุด 18 เมษายน 2559 09:21 น.)
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รถไฟสายใต้ขากลับเข้ากรุงเทพฯ เต็มทั้ง 5 ขบวน โดยเฉพาะขบวนรถไฟฟรีมีผู้โดยสารล้นจนต้องยืน แม้จะเสริมโบกี้เต็มพิกัดการลากจูงถึง 18 โบกี้ ไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง
วันนี้ (17 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเย็น มีผู้โดยสารเต็มสถานีเพื่อเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทำให้รถด่วน และรถเร็วทั้ง 5 ขบวน มีผู้โดยสารเต็มทั้งหมด
โดยเฉพาะขบวนรถเร็วที่ 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นขบวนรถไฟฟรีมีผู้โดยสารมากที่สุด และมีการเสริมตู้โบกี้เต็มพิกัดการลากจูงทั้งหมด 18 ตู้ และมี 5 ตู้ ที่เป็นโบกี้ให้บริการรถไฟฟรี ปรากฏว่า มีจำนวนผู้โดยสารล้น และเกินจำนวนตั๋วฟรีซึ่งมีจำกัดเพียง 574 ที่นั่งต่อวันเท่านั้น ส่วนที่เหลือจึงจำเป็นต้องยืน และนั่งตามพื้นเพื่อให้เดินทางได้ทันในวันนี้ และทางสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ สามารถระบายผู้โดยสารได้ทั้งหมดโดยไม่ตกค้าง
ทางด้าน พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจรถไฟ ร่วมกับ นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ ได้นำเจ้าหน้าที่ในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งตำรวจรถไฟ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจทางหลวง และตำรวจปคม.มาอำนวยความสะดวกแจกคู่มือแนะนำการเดินทางด้วยรถไฟให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ และแจกยาดม ยาหม่อง ตามโครงการตำรวจสอบสวนกลางปกป้อง คุ้มครอง ห่วงใย และร่วมส่งผู้โดยสารให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47384
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 22/04/2016 10:03 am Post subject: |
|
|
คมนาคม ลงนามเร่งสร้างศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 เม.ย. 2559 02:58
รมว.คมนาคม -กทท.ลงนามสร้างศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะเปิดได้ในปี 2560 โดยจะถือเป็นโครงการเร่งด่วน ในการก่อสร้างลานขนถ่ายสินค้าทางรถไฟและติดตั้งรางจำนวน 6 พวงราง...
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยในพิธีลงนามสัญญาโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง ที่โรงแรมอมารีวอเตอร์เกท ว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ลงนามกับกิจการร่วมค้าไอทีดี-ดับเบิ้ลยูเอช (ITD-WH Consortium) ประกอบด้วยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท Henan Weihua Heavy Machinery จำกัด ผู้ชนะการประกวดราคาเพื่อก่อสร้างในโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 2,944.93 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าในท่าเรือแหลมฉบังให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน หรือจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2560
นายอาคม กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งใน 20 โครงการเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นภายในปีนี้ โดยจะเป็นการก่อสร้างลานขนถ่ายสินค้าทางรถไฟ และติดตั้งรางรถไฟ จำนวน 6 พวงราง แต่ละรางมีความยาว 1,224 - 1,434 เมตร สามารถจอดขบวนรถไฟได้รางละ 2 ขบวน รวม 12 ขบวนในเวลาเดียวกัน พร้อมติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง เพื่อจัดเรียงตู้สินค้าในลานกองเก็บตู้สินค้า ตั้งเป้าหมายขนถ่านสินค้าแต่ละขบวนได้แล้วเสร็จในเวลา 1 ชั่วโมง จากปัจจุบันใช้เวลา 2 ชั่วโมง สามารถรองรับตู้สินค้าได้ 2 ล้านทีอียูต่อปี
"ปีนี้จะต้องเร่งลงทุนในทุกโครงการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด เพื่อรองรับความต้องการที่จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะหากรอให้ความต้องการเต็มศักยภาพแล้วค่อยทำ ก็อาจจะไม่ทันกับความต้องการที่เกิดขึ้น" นายอาคมกล่าว
นายอาคม กล่าวว่า นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว กทท.ยังอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ และการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพื่อดำเนินโครงการขยายท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 วงเงินประมาณ 8,400 ล้านบาท โดยขั้นตอนการศึกษาและแล้วเสร็จในปีนี้ จากนั้นจึงจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ดำเนินโครงการ และเปิดประกวดราคาในปี 2560
"หากผลการศึกษาเสร็จแล้ว แต่กระบวนการอีไอเอยังไม่แล้วเสร็จ ก็จะใช้อำนาจตาม ม.44 เพื่อเสนอ ครม.อนุมัติโครงการ และประกวดราคาไปก่อน เมื่ออีไอเอผ่านแล้วก็สามารถลงนามในสัญญาเพื่อก่อสร้างได้ทันที" นายอาคมกล่าว
ด้านเรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนทั้งไทยและจีนประมาณ 3 ราย ที่สนใจจะเข้าร่วมประกวดราคาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในลักษณะพีพีพีหรือไม่ เบื้องต้นมีการกำหนดสัดส่วนการลงให้เอกชนลงทุน 40% และ กทท. 60% แต่เอกชนบางรายเสนอขอลงทุน 100% ดังนั้นจึงต้องพิจารณาว่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็นเท่าไหร่ แต่คงให้ 100% ไม่ได้ ซึ่งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะส่งผลดี เพราะช่วยลดงบประมาณของภาครัฐได้
"การก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 จะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีจึงจะแล้วเสร็จ สามารถรองรับตู้สินค้าได้อีก 8 ล้านทีอียูต่อปี จากปัจจุบันรองรับได้ 11-12 ล้านทีอียูต่อปี โดยแต่ละปีมีการเติบโตของการใช้บริการประมาณ 4-5% คาดว่าปีนี้จะมีตู้สินค้าใช้บริการจริงอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านทีอียู" เรือเอกสุทธินันท์กล่าว. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
Posted: 22/04/2016 6:51 pm Post subject: |
|
|
กทท.MOU พัฒนาศูนย์ขนส่งสินค้าแหลมฉบัง
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ.2559 13:34 น.
การท่าเรือฯ เอ็มโอยู บริษัท ITD-WH Consortium พัฒนาศูนย์ขนส่งสินค้าแหลมฉบัง คาด ปี 61 เปิดให้บริการ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในงานลงนามสัญญาโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. และผู้แทนบริษัท ITD-WH Consortium ว่า การลงนามครั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาระบบขนส่งตู้สินค้าทางถนนมาสู่ระบบราง ลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและลดปัญหาการจราจรทางถนนที่คับคั่งสำหรับโครงการนี้ ทาง กทท. จะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมทั้งการบริหารและประกอบการ ภายใต้การตั้งหน่วยธุรกิจของโครงการ ที่ใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 2,944 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 18 เดือน หรือประมาณเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2561 และคาดว่าจะรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ 2 ล้านอีทียูต่อปี
นอกจากนี้ ในส่วนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย เพราะขณะนี้ท่าเทียบเรือ ที่ประเทศสิงคโปร์ มีเนื้อที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเป็นโอกาสของประเทศไทย ที่มีท่าเทียบเรือที่มีศักยภาพ และขณะนี้มีผู้สนใจร่วมลงทุน มาจากเอกชนจีน 2 ราย และเอกชนไทยที่รวมกลุ่ม 1 ราย อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษา โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 8 เดือน และคาดว่าปีหน้าจะเริ่มการประมูลได้
//---------------------------------------------------------
อาคม ติดเครื่อง แหลมฉบังเฟส 3 วงเงิน 8.3 หมื่นล้าน ใช้ ม.44 เร่งประมูลปี 60
โดย MGR Online
21 เมษายน 2559 17:47 น. (แก้ไขล่าสุด 21 เมษายน 2559 18:32 น.)
อาคม ยันใช้ ม.44 เร่งพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 วงเงิน 8.3 หมื่นล้าน คาดเสนอคณะ กก.PPP ปลายปีนี้ เปิดประมูลปี 60 เผยมีเอกชนจีนและไทยรวม 3 รายสนใจลงทุน แบบ 100% ขณะที่ กทท.เซ็นสัญญาจ้าง ITD สร้างศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ วงเงิน 1,926 ล้าน สร้าง 18 เดือน จูงใจใช้รถไฟขนส่งสินค้าเชื่อมท่าเรือ ลดระยะเวลา ลดใช้พลังงาน ลดต้นทุนลอจิสติกส์
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดและแนวทางในการลงทุน โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 คาดว่าจะใช้เวลา 8 เดือน คาดว่าช่วงปลายปีนี้จะสรุปเสนอคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) เพื่อขออนุมัติโครงการและเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 2560 โครงการนี้จะใช้มาตรา 44 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2559 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดังนั้น เมื่อประกวดราคาเสร็จกระบวนการลงนามในสัญญาจะต้องรอรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) อนุมัติก่อน
โดยขณะนี้มีเอกชนจีน 2 ราย และไทย 1 ราย แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน คือ บริษัท ไชน่า เมอร์ชานต์ส และกองทุนของจีน อีกรายเป็นบริษัทคนไทย ซึ่งได้ส่งทีมงานเข้ามาขอข้อมูลเพื่อไปทำการศึกษา โดยเฉพาะเอกชนไทยสนใจลงทุน 100% ซึ่งรูปแบบลงทุนจะเปิดประมูล PPP เอกชนที่สนใจสามารถยื่นประมูลตามขั้นตอน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องเร่งรัดการลงทุนเพราะเศรษฐกิจยังไม่โตเต็มที่ ต้นทุนต่างๆ จะยังต่ำ หากไปรอลงทุนช่วงที่เศรษฐกิจขึ้นไปแล้วจะไม่ทันเวลา โดยการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 นั้น เป็นเรื่องสำคัญเพราะท่าเรือไม่ใช่แค่บริการส่งออกและนำเข้าเท่านั้น ดังนั้นจะต้องพัฒนาท่าเรือไทยให้เป็นท่าเรือถ่ายลำ หรือ transshipment ports ด้วยซึ่งจะท่าเรือไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งทางน้ำในภูมิภาค (ฮับ)
สำหรับท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มูลค่าประมาณ 8.3 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3-5 ปี เพิ่มขีดความสามารถรองรับได้อีก 8 ล้านทีอียูต่อปี จากปัจจุบันที่เฟส 1 และ 2 มีขีดความสามารถที่ 11-12 ล้านทีอียูต่อปี ขณะที่มีปริมาณสินค้าแล้ว 7 ล้านทีอียูต่อปี มีอัตราการเติบโตประมาณ 4-5% ต่อปี ดังนั้นการพัฒนาเฟส 3 ต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้รองรับได้ทัน
เรือเอก สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการ กทท.กล่าวว่า ได้ศึกษาเปรียบเทียบการลงทุน 2 รูปแบบ คือ เอกชนลงทุน 100% ซึ่งภาครัฐจะไม่ต้องรับภาระ กับรัฐรับลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเช่นเดียวกับเฟส 1 และเฟส 2 โดยมีสัดส่วนประมาณ 40% เอกชนลงทุน 60% โดยจะเลือกรูปแบบที่ผลตอบแทนการลงทุนเหมาะสมที่สุด ขณะที่การคัดค้านของประชาชนในพื้นที่ขณะนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น โดย 2-3 ปีที่ผ่านมา กทท.ได้ทำงานร่วมกันชุมชนฟังความเดือดร้อนและสิ่งที่ประชาชนต้องการ และเร่งเข้าไปแก้ไข นโยบาย รมต.คือ เน้นเรื่องสันติสุข ประชาชนอยู่ในชุมชนได้ มีอาชีพมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้
โดยวันที่ 21 เม.ย. นายอาคมได้เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ระยะที่ 1 ระหว่าง กทท.กับ บริษัท ITD-WH Consortium, บริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท Henan Weihua Heavy Machinery Company Limited มูลค่าสัญญา 1,926 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน แล้วเสร็จเดือน ต.ค. 2560 ซึ่งเป็นการปรับการใช้พื้นที่ของ ทลฉ.ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ ประหยัดพลังงาน ลดปัญหาจราจรภายในท่าเรือและบนโครงข่ายถนน ส่งเสริมการใช้รางในท่าเรือ เชื่อมโหมด ถนน รางและท่าเรือเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางจาก 7% เป็น 15% ในอนาคต ที่สำคัญเป็นโครงการที่ต้องการเร่งรัดการลงทุนของภาครัฐ
ทั้งนี้จะมีการก่อสร้างทางรถไฟต่อเชื่อมจากสถานีแหลมฉบังระยะทางประมาณ 4.3 กม. เข้าไปภายในท่าเรือพื้นที่โซน 4 ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และ C เนื้อที่ 600 ไร่ ก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ และติดตั้งรางรถไฟ 6 พวงราง แต่ละรางมีความยาว 1,224-1,434 เมตร สามารถจอดขบวนรถไฟได้รางละ 2 ขบวน รวม 12 ขบวน ในเวลาเดียวกัน พร้อมติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง (Rail Mounted Gantry Crane : RMG) ทำงานคร่อม รางรถไฟได้ 6 รางในเวลาเดียวกัน ขีดความสามารถขนถ่ายสินค้าได้แล้วเสร็จ 1 ชม.ต่อขบวนจากเดิมประมาณ 2.5 ชม. สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ 2 ทีอียูต่อปี |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
Posted: 25/04/2016 3:00 am Post subject: |
|
|
ทูตเวียดนามนั่งรถไฟย้อนรอย ลุงโฮ หารือผู้ว่าฯ สร้างศูนย์มิตรภาพสองชาติที่พิจิตร
โดย MGR Online
22 เมษายน 2559 18:18 น. (แก้ไขล่าสุด 22 เมษายน 2559 18:35 น.)
พิจิตร - เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ย้อนรอยเส้นทาง ลุงโฮ ร่วมหารือผู้ว่าฯ พิจิตร เตรียมสร้าง ศูนย์มิตรภาพไทยเวียดนามบ้านดง รำลึกวีรกรรมบิดาแห่งเวียดนามสมัยมาพำนักที่เมืองชาละวัน พร้อมวางแนวทางพัฒนาการค้า-การท่องเที่ยวร่วมกัน
วันนี้ (22 เม.ย.) นางฉัตรพร ราษฏร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ต้อนรับนายเหวียน เติ้ด ถั่น (H.E. Nguyen Tat Thanh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย และคณะ ที่เดินทางด้วยขบวนรถไฟด่วนพิเศษกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แบบผู้โดยสารธรรมดา และไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร อีกทั้งไม่มีทีม รปภ.หรือตำรวจคุ้มกัน มาถึงจังหวัดพิจิตรเมื่อเวลา 13.00 น.
จากนั้นนายบุญเวทย์ ศรีพวงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และคณะ ได้ไปให้การต้อนรับที่สถานีรถไฟ จากนั้นเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้เดินทางเข้าปรึกษาข้อราชการจับนางฉัตรพร ผู้ว่าฯพิจิตร ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดพิจิตรเพื่อ รับทราบถึงคืบหน้าในการสร้าง ศูนย์มิตรภาพไทยเวียดนามบ้านดง ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นการเดินทางตามเส้นทางของ ลุงโฮ หรือ โฮจิมินห์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งเวียดนาม
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยยังได้หารือกับผู้ว่าฯพิจิตร ในเรื่องการฟื้นฟูประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ รวมถึงแนวทางการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การค้าการท่องเที่ยวจะร่วมกันสนับสนุนการสร้างศูนย์มิตรภาพไทยเวียดนามบ้านดง ต.ป่ามะคาบ ด้วยงบกว่า 20 ล้านบาท เพื่อให้ชาวเวียดนามที่ยังเคารพรักวีรบุรุษของตนได้มีโอกาสมาเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้นำเวียดนาม ที่จะถูกจำลองขึ้นในศูนย์มิตรภาพไทยเวียดนามที่จังหวัดพิจิตรต่อไป
ทั้งนี้ ตามประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ราวปี พ.ศ. 2471 -พ.ศ.2488 ประเทศเวียดนามในยุคนั้นตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ต่อมาท่านโฮจิมินห์ที่มีชื่อเดิมว่า เหรียน ชิง กุง เกิดเมื่อ 19 พฤษภาคม 2433 ขณะอายุเพียง 21 ปี แต่ทำงานในเรือเดินสมุทร จึงมีโอกาสเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา และยุโรป เคยทำงานเป็นพ่อครัวในฝรั่งเศส และได้ศึกษาการเมืองที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และเมื่อทราบว่าบ้านเกิดของตนถูกฝรั่งเศสยึดครอง โฮจิมินห์ จึงได้รวบรวมชาวเวียดนามในจีนก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามขึ้นในปี 2473 จากนั้นปี 2484 จึงเดินทางกลับเวียดนามในฐานะ ผู้นำขบวนการปลดปล่อยประชาชาติเวียดนาม" ซึ่งเป็นที่มาของการบันทึกประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญของโลก
โฮจิมินห์ มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับจังหวัดพิจิตรว่า ในช่วงที่เดินทางจากท่าเรือเจนัว ประเทศอิตาลี มาขึ้นบกที่สิงคโปร์ แล้วเดินทางสู่บางกอก (กรุงเทพฯ) แห่งกรุงสยาม โดยเรือโกลา จุดแรกเมื่อขึ้นบกที่กรุงเทพฯ ได้ตรงไปที่วัดโลกานุเคราะห์ ซึ่งเป็นวัดญวณ จากนั้นก็เดินทางขึ้นเหนือมายังบ้านดง ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร ที่มีชาวเวียดนามอาศัยทำมาหากินอยู่หลายครอบครัว และล้วนเป็นผู้รักชาติ โฮจิมินห์ จึงได้อาศัยอยู่ที่บ้านดง ต.ป่ามะคาบ
ระหว่างนั้น โฮจิมินห์ ได้ให้การศึกษาอบรมปลุกพลังคนเวียดนามให้สร้างความสามัคคีในการที่จะกอบกู้เอกราชให้กับประเทศชาติบ้านเกิดของตน โดยใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ที่ในสมัยนั้นต้องระดมคนข่วยกันเขียนด้วยมือ และนำไปแจกจ่ายให้กับผู้รักชาติชาวเวียดนาม ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ โฮจิมินห์ ที่เกิดขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ทำให้ท่านสามารถระดมชาวเวียดนามผู้รักชาติกลับไปช่วยกันกอบกู้เอกราชคืนจากประเทศฝรั่งเศสจนสำเร็จในที่สุด |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
Posted: 25/04/2016 3:01 am Post subject: |
|
|
9 คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรสหมู่ที่สถานีรถไฟหัวหิน
โดย MGR Online
24 เมษายน 2559 22:14 น.
ประจวบคีรีขันธ์ - สถานีรถไฟหัวหินร่วมกับอำเภอหัวหิน จัดจดทะเบียนสมรสหมู่ ณ สถานีรถไฟหัวหิน สถานีรถไฟความทรงจำแห่งรักเป็นครั้งแรก เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสคล้ายวันราชาภิเษกสมรส ซึ่งในครั้งนี้มีคู่รักจูงมือกันมาร่วมงานจำนวน 9 คู่ โดยเฉพาะคู่รักที่มีอายุถึง 82 ปี ก็มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
วันนี้ (24 เม.ย.59) การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยสถานีรถไฟหัวหิน ร่วมกับอำเภอหัวหินและกลุ่มกะตอยรักษ์หัวหิน จัดกิจกรรม "สถานีหัวหิน ความทรงจำแห่งรัก" โดยมีการจดทะเบียนสมรสหมู่คู่รักจากทั่วประเทศ บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สวยงามเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสคล้ายวันราชาภิเษกสมรส 28 เมษายน 2493 จากนั้นในวันที่ 29 เมษายนปีเดียวกันทั้งสองพระองค์ได้เสด็จแปรพระราชฐาน โดยรถไฟพระที่นั่งไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งปีนี้ครบรอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส 66 ปี
โดยกิจกรรมจดทะเบียนสมรสหมู่ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก มีคู่รักชาวหัวหิน และคู่รักจากต่างจังหวัดเข้าร่วมจำนวน 9 คู่ โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญคือ คู่รักสูงวัยอายุ 82 ปี ลุงประเทืองและป้าทองคำ กระแสสินธุ์ ชาวหัวหิน ซึ่งแม้จะจดทะเบียนสมรสอยู่กินกันมาหลายสิบปี แต่ก็ขอเข้าร่วมพิธีจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้ด้วย เพื่อย้อนรำลึกอดีตอันแสนหวานเมื่อครั้งวัยหนุ่มสาว ซึ่งในครั้งนี้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนทำพิธีจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รักทั้ง 9 คู่ พร้อมกล่าวคำอวยพร และร่วมถ่ายภาพกับคู่รักทั้งหมด ที่บริเวณด้านหน้าป้ายสถานีรถไฟหัวหิน และ พลับพลาพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น และสวยงาม เป็นที่รู้จักกันดีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็น และมีการจัดซุ้มดอกไม้รอบสถานีรถไฟอย่างสวยงาม
นายภูริภัสร์ คุ้มทรัพย์ และนางสาวธนัชญา ชื่นจิตต์ คู่รักจากจังหวัดสงขลา ซึ่งมาร่วมจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้ กล่าวว่า สถานีรถไฟหัวหินมีความสวยงามเคยเดินทางมาเที่ยวสมัยวัยเด็ก และทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จแปรพระราชฐานโดยรถไฟพระที่นั่งมาประทับ ณ วังไกลกังวล หลังเสร็จสิ้นพิธีในวันราชาภิเษกสมรส รู้สึกประทับใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ รู้สึกปลาบปลื้มและจะเก็บเป็นความทรงจำที่สวยงามต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
Posted: 25/04/2016 2:06 pm Post subject: |
|
|
ไอซีดีลาดกระบังไม่ผูกขาด! ศาลปกครองยกเลิกคำสั่งคุ้มครอง เร่งประมูลต่อ
โดย MGR Online
25 เมษายน 2559 06:38 น. (แก้ไขล่าสุด 25 เมษายน 2559 07:37 น.)
ศาลปกครองสูงสุดยกเลิกคำสั่งคุ้มครอง ปลดล็อกประมูลบริหาร ไอซีดี ลาดกระบัง ร.ฟ.ท.เดินหน้าเปิดยื่นซอง 16 พ.ค.นี้ เลือกรายที่เสนอค่าบริการต่ำสุดบริหารสัมปทาน 20 ปีเพื่อจูงใจให้ใช้ขนส่งทางรางเพิ่ม ยืนยันรายเดียวบริหาร 6 สถานีไม่ผูกขาด แต่เป็นการแก้ปัญหา
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 58 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการประกวดราคาเพื่อสรรหาเอกชนรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ทำให้ ร.ฟ.ท.ต้องระงับการประกวดราคา เนื่องจากบริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด (TIFFA) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง โดยระบุว่า TOR กำหนดคุณสมบัติให้ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลรายใหญ่หรือกิจการร่วมค้าเพียงรายเดียวเข้าบริหารทั้ง 6 สถานีนั้นเป็นการผูกขาด โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 59 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองแล้ว ทำให้ ร.ฟ.ท.สามารถเดินหน้าประกวดราคาต่อไปได้
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มอำนวยการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า หลังจากศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยกเลิกคุ้มครองแล้ว ร.ฟ.ท.จะเดินหน้าการประกวดราคาตามขั้นตอน พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56) โดยคณะกรรมการมาตรา 35 ได้ประชุมและกำหนดให้ผู้ที่ซื้อเอกสารประกวดราคาประมาณ 15 ราย ยื่นข้อเสนอเอกสารประกวดราคาในวันที่ 16 พ.ค. 59 และคาดว่าจะพิจารณาคุณสมบัติ ข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาแล้วเสร็จภายใน 1.5 เดือน
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ร.ฟ.ท.ต้องหยุดกระบวนการประกวดราคาทันที และได้มอบหมายให้ฝ่ายอนาบาล (กฎหมาย) ร.ฟ.ท.รวบรวมเอกสารรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการเพื่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครอง โดยเฉพาะการกำหนดให้มีผู้บริหารรายเดียวทั้ง 6 สถานีจากเดิมแยก 1 รายต่อ 1 สถานีนั้น เป็นการแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการที่มีในอดีต โดยพบว่าจะทำให้สามารถยกระดับคุณภาพการให้บริการดีขึ้น และได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการอย่างครบถ้วน เมื่อเปิดขายซองประกวดราคามีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคาจำนวนมากถึง 14-15 ราย พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้สามารถรวมกลุ่มเข้ามายื่นข้อเสนอได้ ไม่ได้มีการปิดกั้นแต่อย่างใด
สำหรับการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการไอซีดีลาดกระบัง จะพิจารณาข้อเสนอด้านราคารายที่เสนอค่าบริการต่ำที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อจูงใจให้ใช้รางในการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ร.ฟ.ท.ได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกไว้แล้ว โดยเอกชนจะรับผิดชอบลงทุน เครื่องมือให้บริการต่างๆ และค่าบำรุงรักษาถนนและสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีสภาพสมบูรณ์เท่านั้น
ส่วนผลตอบแทนภาครัฐนั้นกำหนดเป็นอัตราคงที่ โดยปีที่ 1-5 ที่อัตรา 67 บาทต่อตารางเมตร และปรับทุกๆ 5 ปีในอัตราคงที่ จนครบอายุสัมปทาน 20 ปี ซึ่งมีผลดีคือ เอกชนจะมีต้นทุนที่ชัดเจนและกำหนดค่าบริการที่เหมาะสมได้
สำหรับผู้ประกอบการที่บริหารไอซีดีเดิม ประกอบด้วย สถานี A บริษัท สยามเซอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด สถานี B บริษัท อีสเทิร์น ซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด สถานี C บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด สถานี D บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด สถานี E บริษัท ไทยฮันจิน โลจิสติกส์ จำกัด สถานี F บริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47384
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/04/2016 3:35 pm Post subject: |
|
|
ประกาศฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง สอบราคาจ้างจัดพิมพ์รายงานประจำปี ๒๕๕๔- ๒๕๕๗ (ฉบับรวม ๔ปี) พร้อมแผ่น CD-Rom จำนวน ๖๐๐ชุด และประจำปี ๒๕๕๘ พร้อมแผ่น CD-Rom จำนวน ๖๐๐ ชุด โดยวิธีสอบราคา
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ สจ.59005
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=27903
ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยฝ่ายการพัสดุ มีความประสงค์จะสอบราคาจ้างจัดพิมพ์รายงานประจำปี ๒๕๕๔- ๒๕๕๗ (ฉบับรวม ๔ปี) พร้อมแผ่น CD-Rom จำนวน ๖๐๐ชุด และประจำปี ๒๕๕๘ พร้อมแผ่น CD-Rom จำนวน ๖๐๐ ชุด โดยวิธีสอบราคา
ราคาประเมิน 1,241,200.00 บาท
...
...
กำหนดยื่นซองสอบราคาในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๙ จนถึงวันที่ ๑๑พฤษภาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๕.๐๐ ณ งานจัดจ้าง กองการจัดหาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และบริหารสัญญา ฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ ๑ ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคาในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙
ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคาได้ที่ งานจัดจ้าง กองการจัดหาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และบริหารสัญญา ฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ยศเส ตั้งแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๙ จนถึงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข ๐-๒๒๒๐-๔๖๖๘ ในวันและเวลาราชการ
ประกาศ ณ วันที่ 25 เดือน เมษายน พ.ศ. 2559
( ลงนาม ) นายวัลลภ อารีย์วงศ์
( นายวัลลภ อารีย์วงศ์ )
รองผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
สำเนาถูกต้อง
( นายฉลวย รักน้อย )
ช่างฝีมือ 2
25/04/2559 15:18:06 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44020
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|