ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 29/12/2016 6:59 pm Post subject:

ปรับโฉม"สถานีรถไฟ"ปี60 ยึดเกณฑ์มาตรฐานสนามบิน
เดลินิวส์
พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 เวลา 09.03 น.

"รมช.คมนาคม" สั่ง "รฟท." ปรับโฉมสถานีรถไฟ ใช้มาตรฐานสนามบิน เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนรองรับไทยแลนด์4.0

นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 60 มีนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยกระดับการให้บริการทั้งการปรับปรุงรถไฟ และการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงการปรับปรุงสถานีรถไฟทั่วประเทศ ให้มีความทันสมัยในรูปแบบเดียวกับสนามบิน โดยให้มีการแบ่งแยกชัดเจนระหว่าง "ตัวสถานี" กับ "ตัวชานชลา" จะทำให้ผู้ใช้บริการได้รับทั้งความสะดวกสบาย และความปลอดภัย

นายพิชิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะนำเทคโนโลยีมาใช้ด้วย โดยเฉพาะการจำหน่ายตั๋วโดยสารที่จะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถจองตั๋วได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันต้องให้ผู้ใช้บริการสามารถเช็กข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้ด้วย ทั้งการจองตั๋วและเส้นทางรถไฟ เป็นต้น โดยมอบหมายรฟท. ไปจัดทำแผนพร้อมรายละเอียดมานำเสนอภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อยกระดับการให้บริการสอดคล้องกับนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยกระดับประเทศเข้ายุคไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยสู่ “Value–Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ใช้โมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่จากทำมาก ได้น้อยไปเป็นทำน้อย ได้มาก ใช้เทคโนโลยี่และนวัตกรรมต่างๆ มาช่วยในการผลิต สิ่งในส่วนของการบริการประชาชนก็จะใช้โมเดลเดียวกันคือเทคโนโลยี่ใหม่และนวัตกรรมเพื่อความสะดวก สบายและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน

Wisarut · Posted: 29/12/2016 7:16 pm Post subject:

ประชาชนที่ใช้บริการของการรถไฟเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากเป็นวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 โดยในขณะนี้(วันที่29ธันวาคม2559) ตั๋วเต็มทุกขบวน ที่หัวลำโพง กรุงเทพฯ
ภาพอนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)
https://www.facebook.com/nationphoto/posts/10154889589482855

Mongwin · Posted: 03/01/2017 12:04 am Post subject:

ประชาชนแห่เดินทางกลับกรุงเทพฯ แน่นสถานีรถไฟหนองคาย
โดย MGR Online 2 มกราคม 2560 21:32 น.

Click on the image for full size

ที่สถานีรถไฟหนองคาย มีประชาชนมาใช้บริการเดินทางเข้ากรุงเทพฯจำนวนมาก

หนองคาย - ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังจากหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ สถานีรถไฟหนองคายต้องเสริมขบวนรองรับ ไม่ให้ผู้โดยสารตกหล่น

วันนี้ (2 ม.ค.60) บรรยากาศการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ที่สถานีรถไฟหนองคาย ในช่วงเย็นวันนี้ มีประชาชนชาวหนองคาย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หอบหิ้วข้าวของ กระเป๋าสัมภาระ ข้าวสาร ของฝาก มาใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟเป็นจำนวนมาก โดยขบวนรถที่ออกจากสถานีรถไฟหนองคาย ไปยังสถานีหัวลำโพงมี 3 ขบวน ทั้งขบวนรถด่วน , ขบวนรถเร็ว(รถไฟฟรี) และขบวนพิเศษ “อีสานมรรคา” ที่เป็นรถไฟขบวนใหม่ทุกตู้ ประชาชนจองซื้อตั๋วเต็มล่วงหน้าในทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนรถพิเศษ “อีสานมรรคา” นั้นประชาชนจองเต็มทุกที่นั่ง

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เสริมตู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ถึงปลายทางที่หนองคาย ให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถไฟตลอดการเดินทาง

Wisarut · Posted: 04/01/2017 1:37 am Post subject:

ประชาชนแห่เดินทางกลับกรุงเทพฯ แน่นสถานีรถไฟหนองคาย
โดย MGR Online
2 มกราคม 2560 21:32 น. (แก้ไขล่าสุด 3 มกราคม 2560 09:05 น.)

ประชาชนแห่เดินทางกลับกรุงเทพฯ แน่นสถานีรถไฟหนองคาย
ที่สถานีรถไฟหนองคาย มีประชาชนมาใช้บริการเดินทางเข้ากรุงเทพฯจำนวนมาก

หนองคาย - ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังจากหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ สถานีรถไฟหนองคายต้องเสริมขบวนรองรับไม่ให้ผู้โดยสารตกหล่น

วันนี้ (2 ม.ค. 60) บรรยากาศการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ที่สถานีรถไฟหนองคาย ในช่วงเย็นวันนี้มีประชาชนชาวหนองคาย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหอบหิ้วข้าวของ กระเป๋าสัมภาระ ข้าวสาร ของฝาก มาใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟเป็นจำนวนมาก โดยขบวนรถที่ออกจากสถานีรถไฟหนองคายไปยังสถานีหัวลำโพงมี 3 ขบวน ทั้งขบวนรถด่วน, ขบวนรถเร็ว (รถไฟฟรี) และขบวนพิเศษ “อีสานมรรคา” ที่เป็นรถไฟขบวนใหม่ทุกตู้ ประชาชนจองซื้อตั๋วเต็มล่วงหน้าในทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนรถพิเศษ “อีสานมรรคา” นั้นประชาชนจองเต็มทุกที่นั่ง

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เสริมตู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ถึงปลายทางที่หนองคายให้เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถไฟตลอดการเดินทาง

Wisarut · Posted: 09/01/2017 4:21 pm Post subject:

คนร. เห็นชอบ 5 ยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ ไฟเขียว รฟท. พัฒนาที่ดินมักกะสัน-เดินรถไฟฟ้าสายประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 09 มกราคม 2560 เวลา 15:27:13 น.

คนร. เห็นชอบ 5 ยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ ไฟเขียว รฟท. พัฒนาที่ดินมักกะสัน-เดินรถไฟฟ้าสายสีแดงเอง พร้อมเร่งไอแบงก์หาพันธมิตรให้จบภายใน มิ.ย.นี้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้เปิดเผยว่า การประชุม คนร. ครั้งที่ 1/2560 วันนี้ (9 ม.ค.) ณ ห้องสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ทั้งนี้ คนร. ได้เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ และมอบหมายให้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจเป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการสำคัญของกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ไทยแลนด์ 4.0 แผนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) และนำสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน มาใช้
เป็นกรอบแนวคิดในการพัฒนายุทธศาสตร์ขึ้น

ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : กำหนดบทบาทรัฐวิสาหกิจให้ชัดเจน เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ โดยกำหนดบทบาทและทิศทางการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้ชัดเจนและแยกบทบาทระหว่างผู้กำกับดูแล ผู้กำหนดนโยบายและผู้ให้บริการออกจากกันอย่างชัดเจน

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : เร่งการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยการจัดให้มีแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจราย 5 ปี ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน พร้อมทั้งสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจจัดหาเงินทุนจากแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับโครงการลงทุน และการระดมทุนจากแหล่งเงินทุนทางเลือกอื่นๆ เช่น การส่งเสริมให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPPs) หรือการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจการเงินที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ จะจัดให้มีกลไกในการชดเชยให้แก่รัฐวิสาหกิจที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐภายในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : สนับสนุนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะการมุ่งสร้างนวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 และแผนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชนและลดต้นทุนการดำเนินงาน

และ ยุทธศาสตร์ที่ 5 : ส่งเสริมระบบธรรมาภิบาลให้มี ความโปร่งใสและมีคุณธรรม มีกลไกส่งเสริมและสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการ เพื่อเป็นองค์กรคุณธรรม มีกลไกกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ บริหารความเสี่ยงและประเมินผลที่เพียงพอเหมาะสม มีโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงานสมัยใหม่ พัฒนาศักยภาพบุคลากรควบคู่กับการมีคุณธรรม กำหนดระบบแรงจูงใจการดำเนินงานที่เหมาะสม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

"ยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจจัดทำขึ้นโดย สคร. ร่วมกับ สศช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเจ้าสังกัด คณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจ (PAC) เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้รัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรคุณธรรมและเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่ความ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" นายเอกนิติกล่าว

นอกจากนี้ ในส่วนการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง คนร. ได้รับทราบผลการดำเนินงานตามแผนการแก้ไขปัญหา รวมทั้งแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรของรัฐวิสาหกิจปี 2560 และกรอบเป้าหมายการประเมินผลการดำเนินงานประจำปี 2560 ของรัฐวิสาหกิจทั้ง 7 แห่ง ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจเสนอ

โดยได้มีการพิจารณาเรื่องที่สำคัญของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง สรุปได้ดังนี้
..

5) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนร. รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาของ รฟท. ทั้งนี้ สำหรับข้อเสนอของ รฟท. ที่จะรับผิดชอบเรื่องการดำเนินการพัฒนาที่ดินย่านมักกะสันและดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเอง มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยนายพิชิต อัครทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ รฟท. พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะต้องกำหนดเงื่อนไขความสำเร็จ รวมทั้งจะต้องสามารถลดภาระหนี้สินของ รฟท. ลงด้วย
..
ทั้งนี้ คนร. ได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท พิจารณาแผนธุรกิจของ บมจ. ทีโอที บมจ. กสท และบริษัทในเครือที่จะจัดตั้งขึ้นให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และให้นำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ภายในต้นเดือน ก.พ. 2560

Wisarut · Posted: 10/01/2017 11:00 am Post subject:

ร.ฟ.ท.ลุยเปิดซองราคาประมูลไอซีดีลาดกระบัง ยันผ่านรายเดียวมีเกณฑ์ต่อรอง
โดย MGR Online
9 มกราคม 2560 08:42 น. (แก้ไขล่าสุด 9 มกราคม 2560 09:43 น.)

ร.ฟ.ท.เดินหน้าเปิดซองราคาประมูลบริหารไอซีดี ลาดกระบัง 11 ม.ค.นี้ เผยแม้มีเอกชนผ่านเทคนิคมารายเดียวแต่สามารถกำหนดเกณฑ์พิจารณาข้อเสนอราคาและต่อรองได้ เป้าหมายเพื่อจูงใจให้ใช้รางในการขนส่งสินค้าเพิ่มค่าบริการต้องต่ำ ยอมรับมีร้องเรียนแต่ยังไม่เลื่อนเปิดซองราคา

นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกโครงการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติ (ซองที่ 1) และข้อเสนอด้านเทคนิค (ซองที่ 2) ของผู้ยื่นประมูล 3 ราย ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค 1 ราย ซึ่งกำหนดจะเปิดซองข้อเสนอราคาในวันที่ 11 ม.ค. 2560 ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีเอกชนบางรายยื่นอุทธรณ์ ซึ่งได้ชี้แจงตามกระบวนการไปแล้ว

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า หลังจากศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยกเลิกคุ้มครอง ร.ฟ.ท.จะเดินหน้าการประกวดราคาตามขั้นตอน พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56) ซึ่งมีผู้ยื่นข้อเสนอ 3 ราย ได้แก่ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย), บริษัท คอนเทนเนอร์ ดีโป้ กรุงเทพ จำกัด, กิจการร่วมค้า อาร์ ซี แอล แอนด์ แอทโซซิเอทส์ โดยมีกิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคเพียงรายเดียวและได้รับสิทธิ์ในการเปิดซองข้อเสนอด้านราคา ซึ่งเป็นซองที่ 3

ทั้งนี้ กระบวนการประมูลก่อนหน้านี้ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนใน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 จึง
อาจจะใช้เวลาในการพิจารณาแต่ละขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีผู้ผ่านเกณฑ์เทคนิครายเดียว ดังนั้นการเปิดข้อเสนอด้านราคา คณะกรรมการฯ จะมีการประชุมเพื่อกำหนดเกณฑ์การพิจารณาและต่อรอง และประเมินข้อเสนอว่าถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในทีโออาร์หรือไม่

สำหรับการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการไอซีดีลาดกระบัง จะพิจารณาข้อเสนอด้านราคารายที่เสนอค่าบริการต่ำที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อจูงใจให้ใช้รางในการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ร.ฟ.ท.ได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกไว้แล้ว โดยเอกชนจะรับผิดชอบลงทุน เครื่องมือให้บริการต่างๆ และค่าบำรุงรักษาถนนและสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีสภาพสมบูรณ์เท่านั้น  ส่วนผลตอบแทนภาครัฐนั้นกำหนดเป็นอัตราคงที่ต่อตารางเมตรต่อเดือน โดย

ปีที่ 1-5 ที่อัตรา 67 บาท
ปีที่ 6-10 อัตรา 71 บาท
ปีที่ 11-15 อัตรา 74 บาท
ปีที่ 16-20 อัตรา 78 บาท หรือ

ปรับทุกๆ 5 ปีในอัตราคงที่ จนครบอายุสัมปทาน 20 ปี ซึ่งมีผลดีคือ เอกชนจะมีต้นทุนที่ชัดเจนและกำหนดค่าบริการที่เหมาะสมได้ 

Wisarut · Posted: 15/01/2017 4:28 am Post subject:

ร.ฟ.ท.เปิดขบวนรถนำเที่ยวเขื่อนป่าสักฯ ทุกเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือน ม.ค.นี้
โดย MGR Online
13 มกราคม 2560 09:37 น. (แก้ไขล่าสุด 13 มกราคม 2560 09:39 น.)

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดขบวนรถนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ "ตามรอยพระบาท เที่ยวเขื่อนของพ่อ" ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ของเดือนมกราคม 2560 รวม 6 เที่ยว ในอัตราค่าโดยสารพิเศษไปกลับ กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสัก-กรุงเทพฯ คนละ 270 บาท

โดยขบวนรถออกจากสถานีกรุงเทพฯ เวลา 07.10 น. หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี แก่งคอย แก่งเสือเต้น จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ โคกสลุง ถึงที่หยุดรถเขื่อนป่าสักฯ ในเวลา 11.32 น. ส่งผู้โดยสารลงเที่ยวภายในเขื่อนป่าสักฯ ส่วนขากลับขบวนรถออกเวลา 15.00 น. ถึงสถานีกรุงเทพฯ เวลา 18.00 น.

ทั้งนี้ เปิดจำหน่ายตั๋วแล้ววันนี้ ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ หรือจองผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1690

Wisarut · Posted: 15/01/2017 4:29 am Post subject:

เมืองรถม้าจัดรถไฟ 3 โบกี้ ให้เด็กนั่งฟรี ด้านบ่อเกลือน่านสุดคึกคักมีทั้งดนตรี ทั้งขนมเพียบ
โดย MGR Online
14 มกราคม 2560 15:57 น. (แก้ไขล่าสุด 14 มกราคม 2560 16:07 น.)

วันนี้ (14 ม.ค.) บรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดลำปาง ตั้งแต่ช่วงเช้า มีหน่วยงานราชการ เอกชน และชุมชนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ เพื่อมอบความสุขให้เด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติกันอย่างคึกคัก

ที่บริเวณสถานีรถไฟนครลำปาง บรรยากาศการจัดงานทุกปีคึกคักเป็นอย่างมาก พ่อแม่ผู้ปกครอง ได้นำบุตรหลานมาร่วมกิจกรรม เล่นเกม รับของขวัญที่ชื่นชอบ โดยเฉพาะตุ๊กตา รวมทั้งมีการแจกขนม และอีกกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษหนึ่งปีมีครั้งเดียว โดยทางการรถไฟฯ ได้จัดกิจกรรมโบกี้ขบวนรถไฟพิเศษ ให้เด็กๆ ได้นั่งข้ามแม่น้ำวัง เพื่อชมความสวยงาม ทำให้เด็กๆ ต่างมีความสุข สนุกสนานกันทุกคน

นายคะนอง ฤทธิ์มหันต์ นายสถานีรถไฟนครลำปาง กล่าวว่า ในปีนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับภาคเอกชนต่างๆ ได้นำของรางวัลมาให้เด็กทุกคน รวมทั้งการรถไฟฯ ได้จัดขบวนพิเศษรถไฟฟรีระยะสั้น ให้เด็กๆ ได้นั่งรถไฟข้ามแม่น้ำวัง โดยทางสถานีรถไฟนครลำปาง นำหัวรถจักรมาชักลาก พร้อมตู้โบกี้ จำนวน 3 โบกี้ ระยะทาง 3 กิโลเมตร เริ่มวิ่งออกจากสถานีลำปาง ไปยังทางข้ามรถไฟ บ้านทับหมาก ต.สบตุ๋ย และข้ามสะพานดำรถไฟ ที่ข้ามแม่น้ำวัง และวิ่งไปกลับสถานีรถไฟนครลำปาง ซึ่งมีผู้ปกครองพาเด็กๆ จองคิวขึ้นนั่งกันเต็มทุกโบกี้ ซึ่ง 1 โบกี้ จะนั่งได้ทั้งหมดรวมกว่า 200 คน รวม 600 คน/เที่ยว ซึ่งตลอดทั้งวันเด็กๆ ยังคงแห่ต่อคิวเข้าแถวขึ้นรถไฟฟรีอย่างต่อเนื่อง และคึกคักตลอดทั้งวัน

Wisarut · Posted: 16/01/2017 9:35 am Post subject:

'พิชิต'กางภารกิจ 1 ปี ปฏิรูปการรถไฟ
โดย : นพวรรณ เตชะเสนีย์
วันที่ 16 มกราคม 2560, 08:45
อ่านแล้ว 292 ครั้ง

"พิชิต อัคราทิตย์" กางภารกิจ 1 ปี ปฏิรูปการรถไฟ ดันขนส่งหนุนอีอีซี

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อปีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งตามโรดแมพของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) "พิชิต อัคราทิตย์" เข้ามาช่วยงานทีมเศรษฐกิจใน "ครม.ประยุทธ์4" ในฐานะ "รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม" ซึ่งภารกิจที่รออยู่ หนีไม่พ้นสารพัดเมกะโปรเจคที่ต้องผลักดันให้จบภายในรัฐบาลชุดนี้

แต่“พิชิต” บอกว่างานสำคัญอันดับแรก คือ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เนื่องจากเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของรัฐบาล ซึ่งเป็นความหวังในการฉุดประเทศไทยให้พ้นกับดักรายได้ปานกลาง

หน้าที่ของกระทรวงคมนาคมคือ ผลักดันโครงการโลจิสติกส์ต่างๆ ทั้งบก-น้ำ-ราง-อากาศ เพื่อสนับสนุนให้อีอีซีเกิดขึ้น เพราะโลจิกติกส์เปรียบเสมือนสายพานในโรงงาน ที่จะช่วยขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค พร้อมกับสร้างความเติบโตให้กับเมือง

ทั้งนี้ การพัฒนาโลจิกติกส์จะมี 2 นัยยะ หนึ่งเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ โดยยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี ของกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่า จะลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศดลดลง2%จากปัจจุบันอยู่ที่14.2%ต่อจีดีพี และจะเข้าไปดูการลงทุนระบบขนส่งทางน้ำเป็นพิเศษ เนื่องจากมีต้นทุนต่ำที่สุด แต่ยังเห็นภาพการพัฒนาน้อย

นัยยะที่2 เป็นเรื่องการเติบโต เพราะประเทศไทยจะวางตัวเองในฐานะโลจิสติกส์ฮับ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อมโยงกับอีอีซีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่รัฐบาลวางไว้

"อีอีซีจะเชิญชวนนักลงทุนว่า มาอยู่ที่นี่เถอะ เราจะให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เขามาอยู่ที่นี่ เขาจะผลิตได้ด้วยต้นทุนต่ำที่สุด เขาจะสามารถส่งสินค้าหรือเอาวัตถุดิบเข้ามาที่อีอีซีในประเทศไทยด้วยต้นทุนต่ำที่สุด โดยเราขายอุตสาหกรรมประเภทหนึ่ง คืออุตสาหกรรมโลจิสติกส์"

ภารกิจสำคัญไม่แพ้กัน คือ การสานต่อแผนปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศไทยจากช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ โดยกุญแจสำคัญอยู่ที่การบริหารทรัพย์สินจำนวนมหาศาลให้เกิดประสิทธิภาพ และ ลงทุนรถไฟทางคู่ให้ครบทั้งประเทศเพื่อสนับสนุนอีอีซี

โดยล่าสุดได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งแยกฝ่ายบริหารสินทรัพย์ซึ่งเป็นหัวใจหลักออกมาตั้งเป็นบริษัทภายใน 3 เดือน เพราะการตั้งบริษัทจะเปิดกว้างให้ว่าจ้างบุคคลากรเข้ามาได้ทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการดึงมืออาชีพระดับโลกเข้ามาด้วย

การรถไฟฯ จะถือหุ้นบริษัทแห่งนี้ 100% ตามข้อกฎหมาย แต่จะปรับเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการโดยแยกฝ่ายนโยบายและปฏิบัติการออกจากกันเพราะถ้าให้รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นและบริหารด้วยองค์กรก็จะไม่เกิดความคล่องตัว

“โครงสร้างที่มองไว้คือ ข้างบนเป็นตัวแทนเจ้าของเงินและส่งผ่านความต้องการผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น ข้างล่างเป็นบอร์ดบริหารซึ่งจะดูแลเรื่องการลงทุนอย่างอิสระ ถ้าแบ่งอำนาจ2ส่วนออกจากกันได้จะแก้ปัญหาความคล่องตัวไปได้ ซึ่งโมเดลนี้ถูกใช้ในการบริหารกองทุนฯ ในต่างประเทศ”

นอกจากนี้ต้องผลักดันการลงทุนรถไฟทางคู่ให้ครบทุกเส้นทางในประเทศ แม้จะไม่ใช่โครงการที่ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อน แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้สามารถควบคู่การขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและกำหนดตารางเวลาที่แน่นอนได้

รัฐมนตรีช่วยคมนาคมยังสนใจโครงการพัฒนาสถานีกลาง (Grand station)2แห่งของการรถไฟฯ ในกรุงเทพฯ คือ สถานีกลางบางซื่อและสถานีมักกะสัน เพราะมองว่าจะช่วยยกระดับเมืองหลวงของไทยให้เทียบชั้นมหานครระดับโลก เช่น ดูไบ หรือสิงคโปร์

สำหรับสถานีกลางบางซื่อจะเป็นชุมทางของรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงรถไฟความเร็วสูง ด้านสถานีรถไฟมักกะสันจะเชื่อมกรุงเทพฯ กับ จ.ระยอง หนึ่งในพื้นที่ของEECส่งผลให้ความเจริญจากเขตกรุงเทพฯ ขยายออกไปและยังวางแผนให้มักกะสันเป็น Showroom of the World ที่จะขายสินค้าที่เราผลิตในรุ่นต่อไป

“ผมดูภาพวิสัยทัศน์ มันดูน่าสนใจ เป็นตัวหนึ่ง ถ้าเราขายไอเดียนี้ได้ กรุงเทพฯ จะมีโชว์รูมระดับโลกอยู่แห่งหนึ่งซึ่งเอาสินค้าจากอุตสาหกรรมใหม่มาขายที่นี่ได้ ตั้งอยู่ในนี้เลย และให้คนทั่วโลกใช้เวลา1ชั่วโมงลงเครื่องที่สุวรรณภูมิและวิ่งมาที่นี่ได้เลย มันจะเป็นศูนย์จัดการประชุม เป็นที่พัก ซึ่งนักธุรกิจทั่วไปต้องการ”

นายพิชิต กล่าวว่าแม้โครงการสถานีกลางบางซื่อ สถานีมักกะสัน และโครงการอื่นๆ จะออกแบบไว้ดีมาก แต่ปัญหาในทุกยุคทุกสมัยคือการผลักดันให้เกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงตั้งใจจะเข้ามาช่วยรัฐบาลวางโครงสร้างพื้นฐานแล้วให้คนอื่นไปดำเนินการต่อ เหมือนกับโครงการสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งหากเริ่มต้นได้ ก็สามารถไปต่อได้ในยุคถัดได้

นอกจากนี้ "พิชิต" จะดูแลการระดมทุนของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund :TFF)ในแง่สินค้าซึ่งต้องน่าสนใจในสายตาของนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อย

"ในปีหนึ่ง ถ้าผมวางโครงสร้างพื้นฐานให้เขาต่อยอดระยะยาวได้ก็น่าจะเป็นเป้าที่อยากจะทำ เมื่อหมดหน้าที่และมีรัฐบาลเลือกตั้งเข้ามา ผมอยากให้เขาจำว่าผมเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งของรัฐบาล ซึ่งได้ทำหน้าที่ในฐานะมืออาชีพที่ดีที่สุด ผมถือว่ามาทำงานนี้ก็เป็นงานหนึ่งทำต้องทำให้ดีที่สุด"

Wisarut · Posted: 16/01/2017 12:25 pm Post subject:

ตำรวจรถไฟหัวหินจับหนุ่มเพิ่งพ้นคุกรับจ้างขนยาบ้าเกือบ 3 หมื่นเม็ดลงใต้
โดย MGR Online
16 มกราคม 2560 08:20 น. (แก้ไขล่าสุด 16 มกราคม 2560 10:39 น.)

ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจรถไฟหัวหิน รวบหนุ่มสุราษฎร์ธานี เพิ่งพ้นโทษออกมาเพียง 3 เดือน รับจ้างขนยาบ้า 28,000 เม็ด ยาไอซ์ ยาอี และยาเค มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาทลงใต้ สารภาพได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท อาศัยจังหวะช่วงน้ำท่วมเพราะคิดว่าตำรวจไม่ได้ตรวจเข้ม

พ.ต.ท.ศักรินทร์ ไม้น้อย รองผู้กำกับการ 3 รักษาราชการแทนสารวัตรตำรวจรถไฟหัวหิน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหัวหิน เข้าทำการตรวจค้นรถไฟขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขนยาเสพติดลงภาคไต้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นตรวจค้นตั้งแต่สถานีเพชรบุรี ต่อเนื่องจนถึงหัวหิน จนพบผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่ตู้นอนชั้น 2 ปรับอากาศ รถคันที่ 15 เลขที่นั่ง 3 จึงนำตัวมาสอบสวนสืยสวนที่สถานีตำรวจรถไฟหัวหิน โดยการจับกุมมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยผู้ต้องหารายนี้คือ นายสุเมธ แผนมณี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 3 ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสุเมธ เคยต้องโทษในคดีชิงทรัพย์ที่เรือนจำสุราษฎร์ธานี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 3 เดือน มาประกอบอาชีพช่างทาสี ส่วนของกลางที่จับกุมในครั้งนี้ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายสีเขียว ประกอบด้วย ยาบ้าจำนวน 28,000 เม็ด ยาไอซ์บรรจุถุง จำนวน 4 ถุง น้ำหนักถุงละ 100 กรัม ยาอี 15 เม็ด และยาเค บรรจุขวด จำนวน 4 ขวด

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายสุเมธ ให้การรับสารภาพว่า ได้ติดต่อรับงานจากเพื่อนของเพื่อนซึ่งรู้จักได้ประมาณ 2 เดือน โดยได้รับค่าจ้าง 30,000 บาท โดยผู้จ้างบอกว่าให้ไปนั่งเฝ้าของเฉยๆ เมื่อถึงปลายทางจะมีคนมาเอาของ โดยตนได้เดินทางไปกรุงเทพฯ กับเพื่อนชื่อนายน๊อต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้เดินทางมาที่สถานีรถไฟ เมื่อขึ้นไปนั่งก็มีคนนำกระเป๋ามาวางให้ ตนก็นั่งเฝ้ากระเป๋าดังกล่าว และไม่คิดว่าจะโดนจับเนื่องจากอยู่ในช่วงน้ำท่วมภาคไต้ คิดว่าตำรวจคงไม่ได้คุมเข้ม แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาตรวจค้นจนพบหลักฐานทั้งหมด

ทั้งนี้ ของกลางที่ตรวจยึดจับกุมได้ในครั้งนี้หากหลุดรอดออกไปได้จะมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ภายหลังตรวจค้นจับกุมแล้ว ตำรวจรถไฟหัวหิน จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป