View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/02/2017 8:58 pm Post subject: |
|
|
บอร์ด ร.ฟ.ท.ถกด่วนชงซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ หาทางออกแก้ล็อกสเปกรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
โดย MGR Online 27 กุมภาพันธ์ 2560 18:27 น. (แก้ไขล่าสุด 27 กุมภาพันธ์ 2560 20:33 น.)
อาคม เรียกรักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.หารือ ก่อนบอร์ดชุดใหม่นัดถกหาทางออกปมล็อกสเปกประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง เย็นวันเดียวกัน เตรียมข้อมูลเสนอซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมแจงซอยสัญญา เปิดกว้างแข่งหลายรายแต่มีปัญหาเรื่องงานส่อไม่สำเร็จ ชี้ก่อสร้างรถไฟมีทั้งงานทาง วางรางและอาณัติสัญญาณ รวมสัญญาใหม่ 1 รายต่อ 1 โครงการ ลดความยุ่งยาก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้เรียกนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มาหารือเมื่อวันที่ 27 ก.พ. กรณีการเลื่อนเคาะราคาประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งมีข้อร้องเรียนว่าจะสามารถตอบคำถามชี้แจงได้หรือไม่ หรือหากตอบไม่ได้ จะต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร คงต้องหาแนวทางที่เหมาะสม ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องถึงขั้นปรับแก้ทีโออาร์หรือไม่ เรื่องนี้นโยบายรัฐบาลต้องการเร่งรัด และที่ผ่านมามีความล่าช้ามามากแล้ว ไม่อยากให้โครงการล่าช้าไปกว่านี้
ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวภายหลังเข้าพบ รมว.คมนาคม ว่าได้รายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหาการประกวดราคารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และในวันเดียวกันนี้ (27 ก.พ.) จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ชุดใหม่ ที่มีนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ เป็นประธานเพื่อพิจารณาแนวทาง เป็นทางเลือกเสนอต่อคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธาน โดยเบื้องต้นมี 2 แนวทาง คือ เดินหน้าต่อไปตามเดิม หรือจะปรับปรุงทีโออาร์แล้วเปิดประมูลใหม่ ซึ่งในแต่ละแนวทางจะต้องประเมินข้อดีและข้อเสีย ระยะเวลาที่จะต้องใช้ ประกอบไปด้วย ส่วนซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างจะเลือกแนวทางใด หรือจะมีความเห็นเพิ่มเติมเป็นอย่างอื่นก็ต้องรอความชัดเจนต่อไป
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการพิจารณาทางออกของการประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับความเสี่ยงหรือไม่ เพราะกรณี 1 โครงการ ให้ยกงานหรือซอยสัญญา จากเดิมที่กำหนด 1 โครงการต่อผู้รับเหมา 1 รายนั้นจะมีความเสี่ยงว่าความสำเร็จของงานจะลดลงได้ เพราะการก่อสร้างรถไฟทางคู่ไม่ได้มีเฉพาะการก่อสร้างทางเท่านั้น แต่ยังมีการวางราง การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งการให้ผู้รับเหมารายเดียวรับผิดชอบจะไม่มีปัญหาเรื่องการประสานงาน ขณะที่การให้ 1 โครงการต่อ 1 ผู้รับเหมานั้นจะมีข้อท้วงติงเรื่อง การเข้าแข่งขันได้น้อยรายหรือล็อคสเปกหรือไม่
ในวันที่ 28 ก.พ.ได้นัดกับทางเลขาฯ ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างเพื่อสรุปกรอบก่อน ส่วนซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างจะประชุมเมื่อใด คงต้องรอการยืนยันต่อไป อย่างไรก็ตาม นโยบายรัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการ จึงต้องเร่งรัดให้ได้ข้อสรุป โดยการดำเนินการต้องมีความโปร่งใส
โดยทาง ร.ฟ.ท.ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีที่ต้องเลื่อนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เสนอราคารถไฟทางคู่ 5 เส้นทางออกไปก่อน โดยระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 โครงการ เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้มีความโปร่งใส
สำหรับการกำหนดราคากลาง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 โครงการนั้น ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถ และมีเชี่ยวชาญในการจัดทำราคากลาง และมีคณะกรรมการพิจารณาราคากลางของการรถไฟแห่งประเทศไทย พิจารณากำหนดราคากลาง ตามระเบียบการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าด้วยการจ้าง พ.ศ. 2544 โดยมีการสืบราคาเหล็กรางรถไฟ UIC 54 E1 จากผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศญี่ปุ่น จีน และไทย จำนวน 5 ราย และคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเลือกราคาที่สืบได้ต่ำสุดเป็นราคากลาง
ส่วนที่เลือกดำเนินการแต่ละโครงการเป็นสัญญาใหญ่ เนื่องจากหากมีการแบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็นตอนๆ ตามระยะทาง มูลค่าโครงการโดยรวมจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องมีการจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (PMC) เพิ่ม ค่าก่อสร้างในการวางรางเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องสร้างโรงเชื่อมรางเพิ่มตามจำนวนของสัญญา ค่าดำเนินการของผู้รับจ้างเพิ่มขึ้น เป็นต้น และโครงการมีความเสี่ยงมากขึ้น หากตอนใดมีความล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของโครงการทั้งโครงการ
ขณะที่การบริหารโครงการก่อสร้างที่มีผู้รับจ้างหลายรายมีความยุ่งยาก อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารการเดินรถในช่วงระหว่างก่อสร้าง และการแยกสัญญาเป็นตอนๆ ผู้รับจ้างอาจเลือกใช้ระบบรางรถไฟ และระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องมีการบริหารจัดการ spare part ที่ยุ่งยากมากขึ้น เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่หลากหลาย
กรณีแบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็นสัญญางานโยธา งานทางรถไฟ งานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม มูลค่าโครงการโดยรวมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีค่าดำเนินการเพิ่มขึ้น เช่น ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (PMC) ค่าดำเนินการของผู้รับจ้าง เป็นต้น ส่วนระยะเวลาในการก่อสร้างนานขึ้น เนื่องจากการก่อสร้างงานทางรถไฟ และงานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ต้องรอให้สัญญางานโยธาแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ก่อน หากมีการดำเนินการสองสัญญาพร้อมกันในพื้นที่เดียวกันจะมีความยุ่งยากมาก หากมีการร้องเรียนหรือมีปัญหาในขั้นตอนของการจัดจ้างในสัญญางานทางรถไฟ หรืองานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลให้สัญญาดังกล่าวเริ่มช้ากว่าแผน จะส่งผลกระทบต่อความล่าช้าของโครงการ ซึ่ง ร.ฟ.ท.เคยประสบปัญหาจากการแยกสัญญาก่อสร้างรถไฟแล้วในอดีต จึงได้กำหนดให้ดำเนินการเป็นสัญญาใหญ่ |
|
Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 44619
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/02/2017 7:31 am Post subject: |
|
|
จดมีดหมอคลอดรถไฟทางคู่
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 ก.พ. 2560 06:01
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้จะเรียกคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มารับทราบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะงานระบบราง
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวชี้แจงถึงการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 โครงการว่า กรณีการเลื่อนประกาศรายชื่อผู้รับจ้างที่มีสิทธิเสนอราคาออกไป เนื่องจากอยู่ในระหว่างตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 โครงการ เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มีความโปร่งใส ส่วนการกำหนดราคากลางทั้ง 5 โครงการ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่มีความมีเชี่ยวชาญในการจัดทำราคากลาง และมีคณะกรรมการพิจารณาราคากลางของ ร.ฟ.ท. พิจารณากำหนดราคากลาง ตามระเบียบ ร.ฟ.ท.ว่าด้วยการจ้าง พ.ศ.2544 โดยมีการสืบราคาเหล็กรางรถไฟ UIC 54 E1 จากผู้ผลิตและตัวแทน จำหน่ายทั้งในประเทศญี่ปุ่น จีน และไทย จำนวน 5 ราย และคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเลือกราคาที่สืบได้ต่ำสุดเป็นราคากลาง
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการติดตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ซึ่งกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรถไฟฟ้า 5 โครงการและโครงการทางพิเศษ (ทางด่วน) 1 โครงการ มูลค่ารวม 316,580 ล้านบาท ในเดือน เม.ย.นี้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 131,004 ล้านบาท ใน Action Plan 2559 โดยคาดว่าคณะกรรมการ (บอร์ด) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะพิจารณาในต้นเดือน มี.ค. จากนั้นจะสามารถเสนอให้ ครม.พิจารณาในเดือน เม.ย.นี้. |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/02/2017 5:55 pm Post subject: |
|
|
อาคมสั่งร.ฟ.ท.ทำข้อมูลทางคู่5เส้นชงซูเปอร์บอร์ด
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 17:06 น.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่ง ร.ฟ.ท. ทำข้อมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้น ชงซูเปอร์บอร์ด ดู TOR พรุ่งนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เลื่อนการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้มีความโปร่งใส โดยระบุว่า ได้มอบนโยบายให้กับการรถไฟฯ ตรวจสอบข้อมูลและเตรียมรายละเอียดของโครงการให้ครบถ้วน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างที่มี นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานโดยมีอำนาจในการตรวจสอบโครงการลงทุนของภาครัฐทุกโครงการ ส่วนจะมีการปรับแกไขทีโออาร์ แนวทางการดำเนินโครงการถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างว่าจะมีข้อเสนอและมีข้อแนะนำอย่างไรบ้าง ให้กับ การรถไฟฯ เพื่อให้โครงการมีความโปร่งใส
ด้าน นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การรถไฟฯ ได้จัดเตรียมข้อมูลและข้อเท็จจริงทุกประเด็นของทีโออาร์โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางแล้วโดยเตรียมจะชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างในวันพรุ่งนี้ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เวลา 13.00 น. |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 01/03/2017 1:55 pm Post subject: |
|
|
ชงซูเปอร์บอร์ดคุมจัดซื้อจัดจ้างรถไฟทางคู่ 7 เส้น
โพสต์ทูเดย์ 01 มีนาคม 2560 เวลา 08:43 น.
คมนาคมสั่ง รฟท.เตรียมข้อมูลทางคู่ 7 เส้นส่งให้ซูเปอร์บอร์ดพิจารณา ชี้แก้ทีโออาร์ใหม่ฉุดโครงการอืด 3-4 เดือน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย(บอร์ด รฟท.) และผู้บริหาร รฟท. ไปจัดทำนำข้อมูลโครงการรถไฟทางคู่ 7 เส้นทางเสนอให้ คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) พิจารณา ซึ่งในส่วนของ รฟท.ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ โดยในจำนวนนี้มี 2 เส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้วและอีก 5 เส้นทางเป็นโครงการใหม่ที่อยู่ในขั้นตอนประกวดราคา
"ทางซูเปอร์บอร์ดที่จะเป็นผู้กำกับการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส และยังเป็นผู้ที่ให้ข้อเสนอแนะโดยเฉพาะ โครงการใหญ่ๆ ให้เกิดความโปร่งใส ส่วนจะแก้ทีโออาร์รถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ซูเปอร์บอร์ด" นายอาคม กล่าว
ด้าน นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การพิจารณารถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเดินหน้าอย่างไร หากต้องการแก้ไข ทีโออาร์ก็จะทำให้การดำเนินโครงการช้าไปประมาณ 3-4 เดือน ส่วนการดำเนินการเพื่อซอยแบ่งงานก่อสร้างเป็นช่วงๆ นั้น ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/03/2017 8:39 pm Post subject: |
|
|
บอร์ดรฟท.แก้ทีโออาร์รถไฟทางคู่แสนล้าน
เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2560 เวลา 11.11 น.
บอร์ดรฟท.ชุดใหม่ลุยแก้ทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 เส้น เปิดกว้างให้ผู้รับเหมาที่เป็นคนไทยมากขึ้น
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท. ได้ปรับปรุงเงื่อนไขร่างการประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 สัญญา มูลค่า80,000-100,000 ล้านบาทใหม่ โดยเน้นการแก้ไขทีโออาร์เพื่อเปิดกว้างให้ผู้รับเหมาที่เป็นคนไทย รวมถึงให้ผู้รับเหมามากรายเข้าร่วมประมูลได้มากขึ้น มีเงื่อนไขใหม่ อาทิ กำหนดให้ผู้เข้าประมูลต้องจดทะเบียนโดยมีคนไทยถือหุ้นมากกว่า 50% และมีผู้ร่วมทุนเป็นต่างด้าวได้สูงสุด 49% ผู้ชนะประมูลต้องมีผลงานไม่น้อยกว่า 15% ของมูลค่าโครงการ ต่ำกว่าเงื่อนไขเดิมกำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 50%
นายอำนวย กล่าวต่อว่า หลังจากบอร์ดรฟท. ได้ประชุมแก้ไขทีโออาร์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาได้เสนอคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เพราะถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการให้เร่งแก้ปัญหาเพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างให้เกิดขึ้นได้เร็วที่สุด โดยที่ผ่านมา แม้ รฟท.เปิดให้ซื้อซองประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ทั้ง 5 โครงการไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นซองประมูล เพื่อรอแก้ไขร่างทีโออาร์ใหม่ก่อน และหลังจากนี้อาจเปิดให้ซื้อซองและยื่นประมูลใหม่อีกครั้ง
นายอำนวย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แก้ไขทีโออาร์ผู้มารับช่วงงานต่อ จากเดิมกำหนดว่าต้องเคยมีผลงานกับ รฟท. ทำให้ผู้รับเหมาที่มีคุณสมบัติมีเพียง 6-7 ราย แต่ทีโออาร์ใหม่จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยทีผลงานกับ รฟท. สามารถรับช่วงงานต่อได้ ทำให้มีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นกว่า 50 ราย ขณะเดียวยังแก้ไขส่วนของผู้รับติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟ สามารถเข้าร่วมกับผู้ประมูลกี่รายก็ได้ จากเดิมกำหนดว่าจะเข้าร่วมกับผู้เข้าประมูลได้รายเดียว รวมถึงผู้รับเหมางานอุโมงค์ซึ่งเป็นงานเทคนิคสูงมีผู้ประกอบการเพียง 2-3 รายก็เปิดกว้างให้ผู้ประมูลจะร่วมงานกับผู้รับเหมาอุโมงค์ก่อนหรือหลังการประมูลได้
ทั้งนี้การแก้ไขทีโออาร์นี้ หากยังอยู่ในเงื่อนไขวงเงินก่อสร้างเท่าเดิม ก็สามารถเปิดขายซอง ยื่นซองและประกวดประมูลราคาใหม่ได้ทันที แต่หากวงเงินก่อสร้างโครงการเปลี่ยนไป รฟท. ต้องเสนอครม.เห็นชอบอีกครั้ง แต่ทั้งหมดจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพราะเป็นโครงการที่รัฐบาลเร่งลงทุนเพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างขีดความสามารถของเศรษฐกิจไทย
สำหรับรถไฟทางคู่ทั้ง 5 สายประกอบด้วย
1.ช่วงนครปฐม-หัวหินระยะทาง 169 กม.วงเงิน 19,000ล้านบาท
2.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 116 กม.23,000ล้านบาท
3.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กม. 28,000ล้านบาท
4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84กม. 9,800 ล้านบาท และ
5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กม.16,000ล้าน. |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/03/2017 10:39 pm Post subject: |
|
|
"ประสาร" แจงซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างยังไม่เคาะ "รื้อ" ทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 สาย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 03 มี.ค. 2560 เวลา 19:31:42 น.
"ประสาร" แจงซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างยังไม่เคาะ "รื้อ" ทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 สาย แต่ให้ "หยุด" เดินหน้าประมูลไว้ก่อน เร่งเคลียร์ประเด็นข้อร้องเรียน ระบุบอร์ด รฟท.ชุดใหม่ ขอเวลาพิจารณาสรุปทางเลือกแก้ปัญหาก่อนมาฟันธงกันอีกครั้ง 10 มี.ค.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ วันนี้ (3 มี.ค.) ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 3 หลังจากได้รับแต่งตั้ง โดยครั้งแรกประชุมไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. เพื่อทำความเข้าใจขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการฯ ตามคำสั่งมาตรา 44 รวมถึงมอบหมายกรมบัญชีกลางที่เป็นเลขานุการไปรวบรวมข้อมูลต่าง ๆเกี่ยวกับโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 7 เส้นทาง
ส่วนครั้งที่ 2 ประชุมเมื่อวันที่ 1 มี.ค. คณะกรรมการฯ ได้เชิญคณะจัดการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาให้ข้อมูลต่าง ๆเพื่อให้เกิดความชัดเจน และ การประชุมครั้งที่ 3 นี้ได้เชิญคณะกรรมการ รฟท. (บอร์ด รฟท.) มาหารือ ซึ่งบอร์ด รฟท. ที่เป็นชุดใหม่ แต่ก็มีแนวทางมาเสนอให้พิจารณา แต่ยังเป็นทางเลือก
"ทางบอร์ด รฟท. ขอเวลาอีกสักนิดว่า อยากจะไปสรุปทางเลือก ว่าทางไหนดีที่สุด เราก็เลยนัดกันประชุมอีกครั้งในวันที่ 10 มี.ค." นายประสารกล่าว
ทั้งนี้ นายประสาร กล่าวว่า ในเบื้องต้น คุยกันว่า รถไฟทางคู่ 7 เส้นทางนั้น มี 2 เส้นทาง ที่เซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างไปเกือบปีแล้ว ก็ให้เดินหน้าต่อไป แต่ทางบอร์ดจัดซื้อจัดจ้างและบอร์ด รฟท. เห็นตรงกันว่า จะต้องมีการติดตามการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งทางบอร์ด รฟท. ได้มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมา แล้วปรับปรุงกลไกในการติดตามต่อไป
ส่วนอีกรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทาง ที่ยังอยู่ระหว่างประมูล โดยมีเอกชนยื่นซองเข้ามาแล้วนั้น ยังหยุดไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งหวังว่าจะสรุปได้ในการประชุมวันที่ 10 มี.ค.นี้ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
"คิดว่าครั้งหน้า จะได้ข้อสรุป เพราะตอนนี้ฟังแล้วก็ชัดเจนขึ้น แนวความคิดต่าง ๆทั้งบอร์ด รฟท. และบอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง เพียงแต่ต้องรอดูประเด็นต่าง ๆให้รอบคอบอีกนิด วันนี้ก็แลกเปลี่ยนกันว่า แต่ละประเด็นที่เราเห็นว่ามีนัยยะ หรือไม่มีนัยยะ ตรงกันไหม ก็ค่อนข้างจูนใกล้เคียงกัน" นายประสารกล่าว
ส่วนจะต้องปรับปรุงทีโออาร์ใหม่หรือไม่นั้น นายประสาร กล่าวว่า ยังไม่อยากฟันธงลงไปในขณะนี้ เพราะต้องรอข้อสรุปก่อน ซึ่งจากที่พิจารณาทีโออาร์ของ 5 โครงการถือว่าดีกว่า 2 โครงการแรก แต่ทางบอร์ด รฟท. ชุดใหม่ก็มองว่ายังไม่เพอร์เฟ็กต์ (สมบูรณ์แบบ) ขณะที่ประเด็นเรื่องราคากลางก็มีประเด็นที่ต้องพิจารณากันด้วย
นายประสาร กล่าวด้วยว่า น่ายินดีที่ทางบอร์ด รฟท. มองไปถึงโครงการอื่น ๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไม่ใช่แค่ 7 โครงการนี้ด้วย ว่าหากไม่ปรับปรุง ก็อาจจะเป็นประเด็นที่จะมีคนยกขึ้นมาร้องเรียนอีกได้
"โจทย์ใหญ่ที่เราดูตอนนี้ ก็คือ 5 เส้นทางก็มีการเดินมาระดับหนึ่ง ถ้าปล่อยก็เดินต่อ ข้อดีอาจจะเร็วขึ้น แต่ก็จะมีข้อสงสัยของคนที่ยังคาใจอยู่ มีคนตั้งข้อสงสัยอีก และจะกลายเป็นเรื่องที่กระทบโครงการอื่นในอนาคต กับอีกแนวทางก็คือ แก้ข้อสงสัยต่าง ๆเสีย ไม่ให้คาใจ ทำให้คลีนไปเลย และเป็นรากฐานของโครงการต่อ ๆไป แต่ว่าต้นทุนก็มี เพราะถ้าปรับปรุง ก็อาจจะกินเวลาออกไป ซึ่งให้ไปร่วมกับกรมบัญชีกลางคำนวณระยะเวลาออกมาให้ชัดว่าจะดีเลย์เท่าไหร่ อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบเวลาที่อาจจะดีเลย์กับทั้งโครงการที่ต้องใช้เวลา 3 ปี ก็ถือว่าไม่มาก" นายประสารกล่าว
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการ รฟท. กล่าวว่า ข้อเสนอที่บอร์ด รฟท. เสนอให้บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างพิจารณาครั้งนี้ ยังมีหลายทางเลือก ขณะเดียวกันบอร์ด รฟท. ก็มีกรรมการหลายท่านที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ดังนั้นอาจต้องให้เวลาในการพิจารณาก่อนจะตัดสินใจอย่างชัดเจนอีกที
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า รฟท. เสนอทางเลือกในการแก้ไขทีโออาร์ใหม่ โดยกำหนดให้ผู้เข้าประมูลต้อง มีคนไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% และมีผู้ร่วมทุนเป็นต่างด้าวได้ถึง 49% ขณะเดียวกันผู้ชนะประมูลต้องมีผลงานไม่น้อยกว่า 15% ของมูลค่าโครงการ จากเดิมกำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าโครงการ เพื่อเปิดกว้างให้ผู้มีคุณสมบัติเข้ามาประมูลมากขึ้น
ขณะเดียวกันในกรณีผู้มารับช่วงงานต่อ ก็จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยรับงาน รฟท. มารับงานต่อได้ จากทีโออาร์เดิมที่กำหนดว่าต้องเคยมีผลงานกับ รฟท. นอกจากนี้ ในการทำระบบอาณัติสัญญาณ ก็ให้สามารถจับคู่กับผู้เข้าประมูลงานก่อสร้างได้มากกว่า 1 ราย จากเดิมให้จับคู่ได้แค่รายเดียวเท่านั้น |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/03/2017 12:56 pm Post subject: |
|
|
ลุยตั้งอนุบอร์ดเกาะติดสัญญารถไฟรางคู่
กรุงเทพธุรกิจ 04 มีนาคม 2560
"ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง" ไฟเขียวเดินหน้า 2 เส้นทางรถไฟรางคู่ ตั้งอนุกรรมการติดตามการทำตามสัญญา ส่วนอีก 5 เส้นทางให้ "คง" ไว้ก่อน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. วานนี้ (3 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. ชุดใหม่ได้หารือเรื่องเงื่อนไขการประมูล (TOR) รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ต่อเนื่องจากการประชุมแรกเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
การประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. ครั้งนี้ได้ทำความเข้าใจและหาจุดอ่อนของTORพร้อมเสนอแนวคิดในการปรับปรุงTORให้ดีขึ้นและคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติจึงควรเดินหน้าหาข้อสรุปโดยเร็ว โดยจะนำเรื่องที่หารือเสนอให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) พิจารณาต่อไป
แต่เบื้องต้นบอร์ด ร.ฟ.ท. ยังไม่พบช่องโหว่สำคัญในTORแต่เห็นว่าสามารถเปิดTORให้กว้างขึ้นได้อีก เช่น ถ้าซูเปอร์บอร์ดต้องการให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมมากขึ้น ก็ต้องแยกงานที่เอกชนไทยทำได้ออกมาประมูลต่างหาก ซึ่งประเมินว่าถ้ามีการปรับTORก็ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน แต่ถ้ามีการปรับราคากลางหรืองบประมาณก็ต้องใช้ระยะเวลามากกว่านั้น
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟท. วานนี้ว่า ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างพิจารณาข้อดี-ข้อเสียและแนวทางการปรับTORรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง โดยไม่ได้พิจารณายกร่างTORใหม่แต่อย่างใด โดยบอร์ด ร.ฟ.ท. ต้องนำข้อมูลที่หารือไปรายงานให้ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างพิจารณาชี้ขาดต่อ
ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับTORจะแบ่งช่วงสัญญาการก่อสร้างออกเป็นช่วงๆ หรือไม่ หรือจะปรับในส่วนไหนเพื่อให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาดำเนินการได้มากขึ้น ซึ่งทางซูเปอร์บอร์ดจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะใช้แนวทางไหนนายอานนท์ กล่าว
สำหรับ TOR เดิมได้กำหนดให้ผู้รับเหมาที่จะร่วมทุนประมูลโครงการ ต้องมีประสบการณ์ดำเนินโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งหากพิจารณาในส่วนของผู้รับเหมาก่อสร้างที่เคยร่วมงานกับกรมทางหลวง (ทล.) จะมีถึง 50 ราย โดยทั้งหมดสามารถไปจับคู่กับบริษัทที่เชี่ยวชาญในเรื่องของการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางได้
แต่ถ้ามีการเปิดประกวดราคาใหม่นั้น ร.ฟ.ท. จะต้องประกาศเชิญชวนให้ต่างชาติเข้ามาร่วมโครงการให้มากขึ้น หลังจากโครงการเดิมได้เปิดให้ต่างชาติเข้ามาร่วมดำเนินการด้วยเช่นเดียวกัน แต่มีไม่มากนัก โดยมีจากจีน และเกาหลีใต้เท่านั้นที่เข้ามาร่วมกับผู้รับเหมาไทยยื่นซองประกวดราคา
จริงๆ ผู้รับเหมาที่สามารถก่อสร้างรางรถไฟได้ในประเทศไทยก็จะมีประมาณ 7-8 ราย ดังนั้นการที่จะเพิ่มจำนวนผู้รับเหมาให้มากขึ้น ก็จะต้องเชิญต่างชาติเข้ามาร่วมกับผู้รับเหมาไทยให้มากขึ้นด้วยนายอานนท์ กล่าว
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง กล่าวภายหลังการประชุมวานนี้ว่า บอร์ดร.ฟ.ท.ได้เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการลงทุนรถไฟรางคู่ทั้ง 7 เส้นทาง แยกเป็นโครงการที่เซ็นสัญญาและดำเนินการก่อสร้างแล้ว 2 โครงการ ซึ่งให้เดินหน้าก่อสร้างไปได้ แต่ต้องมีการติดตามความคืบหน้า การทำตามเงื่อนไขสัญญา โดยทางบอร์ดรถไฟจะมีการตั้งอนุกรรมการเพื่อปรับปรุงกลไกการติดตาม 2 โครงการนี้
ส่วนอีก 5 โครงการ ให้คงไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องการปรับเงื่อนไขรายละเอียดโครงการ ซึ่ง คาดว่าจะมีการสรุปรายละเอียดหรือทีโออาร์ในการประชุมครั้งหน้าในวันที่10 มี.ค.นี้ หลังจากนั้นจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป
เราได้ศึกษาข้อกังวลต่างๆ บางเรื่องก็ไม่มีนัยสำคัญ ซึ่งทางบอร์ดรถไฟก็ชี้แจงได้ แต่บางเรื่องก็เป็นนัยสำคัญจริงๆ ซึ่งวันนี้ทางบอร์ดรถไฟก็ได้เสนอแนวทางมาให้พิจารณาด้วย แต่ก็ยังเป็นทางเลือกอยู่ ก็ขอเวลาในการสรุปทางเลือกที่ดีให้มีความรัดกุมรอบคอบ ทางบอร์ดรถไฟเองก็มองการณ์ไกล ไม่ได้มองแค่ 7 โครงการนี้ เพราะต่อไปยังมีโครงการอื่นๆ ซึ่งแนวทางที่สรุปก็อาจจะนำมาใช้ในโครงการอื่นด้วย
นายประสาร กล่าวว่า คณะกรรมการกำกับฯจะพยายามหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งแต่ละแนวทางก็มีข้อดีข้อเสีย หากให้โครงการทำได้เร็ว แต่ยังมีเรื่องคาใจอยู่ ต่อไปก็จะมีการร้องเรียนโครงการอื่นๆอีก เราก็ต้องมีการแก้ไขข้อกังวลให้คาใจ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับโครงการอื่นๆด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการทบทวนโครงการก็มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อาจจะล่าช้าไปอีกหลายเดือน ซึ่งก็ได้มอบให้ทางกรมบัญชีกลางไปคำนวณเรื่องความล่าช้า อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับการก่อสร้างโครงการที่ใช้เวลา 3 ปี การล่าช้าที่เป็นเดือน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์อาจจะไม่สูง |
|
Back to top |
|
 |
Wisarut
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 44619
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48298
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/03/2017 8:17 pm Post subject: |
|
|
รฟท.ยันได้ข้อสรุปทีโออาร์รถไฟทางคู่5เส้นภายใน 8 มี.ค.
โพสต์ทูเดย์ 06 มีนาคม 2560 เวลา 19:57 น.
รฟท.ยันได้ข้อสรุปทีโออาร์ทางคู่ 5 เส้นภายใน 8 มี.ค. พร้อมส่งต่อซูเปอร์บอร์ดเคาะตัดสินอนาคต
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการได้เสนอ รายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์)รถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือซูเปอร์บอร์ด ได้เสนอให้นำทีโออาร์กลับมาดูรายละเอียดให้มากขึ้นโดยเฉพาะการดูว่าจะมีทางเลือกอะไรอีกบ้างเพื่อให้รอบคอบมากขึ้น ดังนั้นในวันที่ 8 มี.ค.นี้ คณะกรรมการ รฟท.จะจัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้งโดยจะนำรายละเอียดที่ รฟท.พิจารณาไว้แล้ว และข้อแนะนำของทางซูเปอร์บอร์ดมาพิจารณาร่วมกัน
"ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะแบ่งการประกวดราคาออกเป็นช่วงหรือแค่ปรับแก้ทีโออาร์ เพราะแต่ละคนก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน บางคนบอกว่าถ้าแบ่งเป็นช่วงก็ทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอีก เป็นต้น หรือบางคนก็บอกว่า หากต้องการความโปร่งใสก็ต้องแบ่งเป็นช่วง เป็นต้น ก็ต้องนำข้อมูลมาปรับให้สมดุลกันมากขึ้น"นายอานนท์ กล่าว
ขณะที่นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ประธานคณะกรรมการ รฟท. (บอร์ด) กล่าวว่า ในการประชุมครั้งหน้าเพื่อพิจารณาร่างทีโออาร์นั้น เบื้องต้นต้องนำทีโออาร์มาพิจารณาอีกครั้งโดยเพิ่มเติมข้อแนะนำของซูเปอร์บอร์ด ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานว่าจะต้องแยกเป็นช่วงหรือไม่อย่างไร คงต้องรอให้ฝ่ายปฏิบัติการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาก่อนเพื่อเร่งหาข้อสรุปต่อไป
"ที่ผ่านมาก็พิจารณาเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงคิดว่าในวันที่ 8 มี.ค.นี้จะสรุปได้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆก็มีอยู่แล้ว ก็เป็นการพิจารณาเพิ่มเติมว่าหากปรับทีโออาร์จะมีผลกระทบอะไรบ้าง คงต้องรอดูรายละเอียดในที่ประชุมก่อน"นายวรวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทาง ประกอบด้วย
1.เส้นทาง ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 19,000 ล้านบาท
2.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. วงเงิน 23,000 ล้านบาท
3.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กม. วงเงิน 28,000 ล้านบาท
4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท และ
5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 16,000 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
 |
|