Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312183
ทั่วไป:13784707
ทั้งหมด:14096890
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 159, 160, 161 ... 286, 287, 288  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/08/2017 7:21 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟม.จัดกิจกรรมวันก่อตั้งครบ 25 ปี นำรายได้จากเงินสนับสนุนสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ
โดย MGR Online 21 สิงหาคม 2560 12:06 น.

25 ปี รฟม.เดินหน้ารถไฟฟ้า 6 เส้นทาง 13 โครงการ ปีหน้าเปิดสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 21 สิงหาคม 2560 - 21:23 น.

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2560 เป็นวันคล้ายวันก่อตั้งครบรอบ 25 ปี การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2535

โดยมีภารกิจที่สำคัญในการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้า ทั้งหมด 6 สายทาง 13 โครงการ เพื่อให้เกิดโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพและรองรับการเดินทางของประชาชนได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

โดยปัจจุบัน รฟม.ได้เปิดให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร 2 สายทาง ได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2547 และ รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน ซึ่งเปิดให้บริการประชาชนเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2559

หลังจาก รฟม.เปิดให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) มาระยะหนึ่งแล้ว รฟม. ได้เร่งรัดดำเนินงานเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าระหว่างสถานีเตาปูน ของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) และสถานีบางซื่อ ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ซึ่งมีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน ทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางข้ามระบบได้โดยเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีเตาปูน และใช้ระยะเวลาในการเดินทางระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อเพียง 2 นาที

ซึ่ง รฟม.ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-เตาปูน (เชื่อมต่อ 1 สถานี) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธี

สำหรับการก้าวสู่ปีที่ 26 ของ รฟม.นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าให้สำเร็จลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล

โดยมีโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เปิดให้บริการ 2 ช่วง คือ ช่วงหัวลำโพง-บางแค เปิดให้บริการปี 2562 และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เปิดให้บริการปี 2563

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ใต้) ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ เปิดให้บริการปี 2561 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการปี 2563 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี เปิดให้บริการปี 2566

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าที่ได้ดำเนินการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธาแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้าง มีจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการทั้ง 2 โครงการได้ในปี 2564

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2560 ปัจจุบัน รฟม.อยู่ระหว่างเตรียมการประกวดราคา โดยมีกำหนดเปิดให้บริการปี 2566

โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค – พุทธมณฑล สาย 4 ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายละเอียดเพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมขออนุมัติดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีกำหนดเปิดให้บริการปี 2566

นอกจากนี้ รฟม.ยังมีโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างศึกษา ออกแบบ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี อีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกา มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2566 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2566 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2568

ทั้งหมดนี้คือภารกิจที่สำคัญของ รฟม.ที่จะต้องเร่งรัดดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าที่รองรับการเดินทางของประชาชนได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ อันเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนช่วยส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ

---

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมวันคล้ายวันก่อตั้ง ครบรอบ 25 ปี
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
วันที่ข่าว : 21 สิงหาคม 2560

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมวันคล้ายวันก่อตั้ง ครบรอบ 25 ปี พร้อมนำรายได้จากเงินสนับสนุนสมทบทุน มูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นประธานในงานวันคล้ายวันก่อตั้ง รฟม. ครบรอบ 25 ปี พร้อมทั้งเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานเป็นเวลา 15 ปี 20 ปี และ 25 ปี และมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดในโครงการประกวดแนวคิดและรูปแบบการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรธิดาพนักงาน รฟม. และนักเรียนโรงเรียนตามแนวสายทางโครงการรถไฟฟ้า รฟม. โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงและผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมแสดงความยินดี นอกจากนี้ทาง รฟม. ได้รับมอบเงินสนับสนุนจากผู้แทนหน่วยงานต่างๆและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานเพื่อมอบให้แก่มูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ขณะที่ความคืบหน้าในการให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร ทาง รฟม.ได้เร่งดำเนินงานเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าระหว่างสถานีเตาปูน สายสีม่วง และสถานีบางซื่อ สายสีน้ำเงิน ซึ่งมีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางข้ามระบบได้โดยเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีเตาปูน และขณะนี้ได้มีโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างจำนวน 4 โครงการ และโครงการที่ได้ดำเนินการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโธยาแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้าง อีก 2 โครงการ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ครม.ได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติโครงการแล้ว และขณะนี้ รฟม. อยู่ระหว่างเตรียมการประกวดราคา รวมไปถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษา ออกแบบ เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และ ครม. อีก 3 โครงการ อย่างไรก็ตาม รฟม. จะเร่งดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าที่รองรับการเดินทางของประชาชนได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และช่วยส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ข้อมูลข่าวและที่มา
จำนวนผู้เข้าชม : 104
ผู้สื่อข่าว : กัญญาณัฐ พงศ์ธเนศภาคิน
Rewriter : ธนพิชฌน์ แก้วกา
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44398
Location: NECTEC

PostPosted: 22/08/2017 10:27 am    Post subject: Reply with quote

เร่งรถไฟฟ้า 4 สาย 2.3 แสนล.
22 สิงหาคม 2560 - 00:00

รฟม.เร่งเดินหน้าประมูล 4 สาย วงเงินกว่า 2.3 แสนล้าน คาดพร้อมเปิดบริการภายในปี 2566-68

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.อยู่ระหว่างเร่งรัดออกแบบและประกวดราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 4 สายทาง วงเงินรวม 2.32 แสนล้านบาท ประกอบด้วย
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงินรวม 101,112 ล้านบาท หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการไปเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้ตามเป้าหมายในปี 2566

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4 ระยะทาง 8 กม. งบประมาณ 17,262 ล้านบาทอยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อขออนุมัติ ครม. โดยมีกำหนดเปิดบริการปี 2566

นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 โครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาออกแบบ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคม และ ครม.ประกอบด้วย
3. รถไฟฟ้าสายสีเขียว
3.1 ช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 7 กม. งบประมาณ 9,803 ล้านบาท,
3.2 รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กม. งบประมาณ 13,701 ล้านบาท โดยมีกำหนดจะเปิดบริการในปี 2566 และ

4. รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 12.9 กม. งบประมาณ 90,271 ล้านบาท มีกำหนดเปิดบริการปี 2568

พ.ต.ท.อนุศิลป์ สิริเวชชะพันธ์ รักษาการรองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รฟม. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความแออัดของการให้บริการรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ว่า บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) ผู้รับสัมปทานเดินรถสายดังกล่าว และต่อขยายจากบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ได้สั่งซื้อขบวนรถใหม่มาให้บริการเพิ่มเติมแล้ว โดยจะทยอยรับมอบตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/08/2017 1:09 pm    Post subject: Reply with quote

แถวตรงประมูลรถไฟหลากสี เชื่อม1สถานีพุ่ง5หมื่นคนต่อวัน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 22 ส.ค. 2560 08:10

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.เตรียมประกวดราคาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 101,112 ล้านบาท เพื่อเปิดให้บริการปี 2566 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4 ระยะทาง 8 กม. กำลังปรับปรุงรายละเอียด โดยมีกำหนดเปิดบริการปี 2566 และยังมีโครงการที่กำลังศึกษาออกแบบ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคม และ ครม.อีก 3 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 7 กม. รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กม. ที่กำหนดเปิดบริการปี 2566 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 12.9 กม.มีกำหนดเปิดบริการปี 2568

พ.ต.ท.อนุศิลป์ สิริเวชชะพันธ์ รักษาการรองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงการเปิดเชื่อมต่อ 1 สถานี ระหว่างสถานีบางซื่อ-สถานีเตาปูน ว่า จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากก่อนหน้าที่มีผู้โดยสารสูงสุด 34,000 คนต่อวัน ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คน มั่นใจว่า จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเร่งด่วนตอนเช้าเวลา 07.00-09.00 น. การเปิดเชื่อมต่อ 1 สถานีดังกล่าว ยังส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีมีความหนาแน่นขึ้นด้วย ซึ่งนอกจากจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น ระยะเวลาของขบวนรถที่เข้าสถานียังช้าลง เนื่องจากวิ่งระยะทางไกลขึ้น คือ จากเดิมระยะห่าง 3.40 นาที ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4 นาที จึงส่งผลให้เกิดความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/08/2017 6:59 pm    Post subject: Reply with quote

ต.ค.นี้ยังไม่ได้ใช้ “ตั๋วร่วม” คมนาคมชงเข้า ครม. 29 ส.ค. เร่ง MOU ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าทุกระบบ
โดย MGR Online 22 สิงหาคม 2560 07:45 น. (แก้ไขล่าสุด 22 สิงหาคม 2560 08:58 น.)

ต.ค.นี้ยังไม่ได้ใช้ “ตั๋วร่วม” คมนาคมชงเข้า ครม. 29 ส.ค. เร่ง MOU ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าทุกระบบ

สนข.เผยเตรียมชงระบบตั๋วร่วมเข้า ครม. 29 ส.ค.นี้ ก่อนเดินหน้า เซ็น MOU ร่วมกับผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าทุกราย 31 ส.ค.นี้ ทั้ง รฟม.-BTS-BEM-แอร์พอร์ตลิงก์ โดยให้ รฟม.ทำหน้าที่ CTC ชั่วคราว ส่วนร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ เปิดรับฟังความเห็นจบใน ส.ค.เพื่อเร่งเสนอ ครม.เช่นกัน

นางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ( สนข.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนารับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ว่า ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ สนข.เตรียมเสนอรายละเอียดโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม) ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ จากนั้นในวันที่ 31 สิงหาคมจะมีการลงนามความร่วมมือ หรือ MOU ระหว่าง สนข. กระทรวงคมนาคมกับบริษัทเอกชนผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า ประกอบด้วย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์

ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินงานระบบตั๋วร่วม โดยในวันที่ 1 กันยายน รฟม.จะเปิดตัวการให้บริการระบบตั๋วร่วม ซึ่งในเบื้องต้น รฟม.จะทำหน้าที่บริหารจัดการและบำรุง รักษาระบบตั๋วร่วมหรือตั๋วแมงมุม (CTC) ชั่วคราว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้นำรายละเอียดผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิ์จำนวน 1.3 ล้านคน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ 11 ล้านคน ซึ่งในช่วงแรกจะใช้บริการรถไฟฟรี รถเมล์ฟรี จะสามารถใช้ร่วมกับบัตรผู้มีรายได้น้อยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน

นางวิไลรัตน์กล่าวว่า ในขณะเดียวกัน สนข.ได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ..... คู่ขนานไปด้วย ซึ่งขณะนี้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว อยู่ในขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ โดยจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้น สนข.จะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปประกอบการจัดทำรายงานผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างรอบคอบและเป็นระบบ จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป

“ที่ผ่านมา สนข.ได้ทำการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ทั้ง 4 เว็บไซต์ โดยการใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับโครงการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2560 สนข.จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนในระบบขนส่งและนอกระบบขนส่งอีกครั้ง” นางวิไลรัตน์กล่าว

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing System) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 เพื่อจัดทำนโยบายกำหนดมาตรการ/มาตรฐานระบบตั๋วร่วม ดำเนินการจัดหาผู้พัฒนาระบบตั๋วร่วมและจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) และการกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้พัฒนาระบบ รวมทั้งการดำเนินงานอื่นๆ ที่เป็นการสนับสนุนการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมให้ประสบความสำเร็จ เป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในภาพรวม ให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางและเชื่อมต่อระหว่างระบบรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร และทางพิเศษ

ทั้งนี้ การจัดทำระบบตั๋วร่วมต้องอาศัยกลไกด้านกฎหมายในการกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงาน และขอบเขตความร่วมมือการให้บริการ การมอบอำนาจหน้าที่ และกำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ การดำเนินงานที่มีความชัดเจน รวมถึงการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ระบบตั๋วร่วมและระบบขนส่งในประเทศไทย

ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ... จะมีการรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนและมีความเป็นรูปธรรมในด้านต่างๆ ได้แก่
1. โครงสร้างองค์กรที่มีหน่วยงานรับผิดชอบงานในระดับนโยบาย ระดับกำกับดูแล และระดับปฏิบัติการ ที่มีอำนาจหน้าที่ชัดเจน และสามารถดำเนินการด้านระบบตั๋วร่วมโดยตรง
2. มีหน่วยงานกำหนดมาตรการ/มาตรฐาน หลักเกณฑ์ วิธีการเชื่อมต่อ เพื่อให้การใช้งาน และการให้บริการระบบตั๋วร่วมมีมาตรฐานเดียวกัน และมีหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม รวมถึงกำหนดกรอบโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วม
3. มีหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วมเพื่อให้การให้บริการระบบตั๋วร่วมของผู้ประกอบการระบบขนส่งสาธารณะมีมาตรฐานเดียวกัน
4. มีกองทุนบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมซึ่งเป็นเครื่องมือในการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาระบบตั๋วร่วม และ/หรือระบบขนส่งสาธารณะ โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐ
5. ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยใช้บัตรโดยสารเพียงใบเดียว และได้รับส่วนลดค่าเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบจากการใช้ตั๋วร่วม รวมถึงการได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้วย

นางวิไลรัตน์กล่าวว่า สนข.จะนำข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ไปประกอบการจัดทำรายงานผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... อย่างรอบด้านและเป็นระบบ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/08/2017 7:19 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.เลื่อนตอกเข็ม “ชมพู-เหลือง” ติดส่งมอบพื้นที่-บอร์ดไฟเขียว พ.ร.ฎ.ลุยสร้างรถไฟฟ้า “ภูเก็ต,เชียงใหม่”
โดย MGR Online 22 สิงหาคม 2560 16:25 น. (แก้ไขล่าสุด 22 สิงหาคม 2560 16:33 น.)

รฟม.เคลียร์พื้นที่ ส่งมอบพื้นที่สายชมพู-เหลืองไม่ทัน ยืดส่งมอบ 6 เดือน ส่วนสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ขยับแผนเสนอ ครม.เป็น เม.ย. 61 รอผลศึกษารูปแบบการลงทุน PPP ใหม่ ด้านบอร์ด รฟม.อนุมัติ พ.ร.ฎ.ให้อำนาจ รฟม.ก่อสร้างรถไฟฟ้า “ภูเก็ต, เชียงใหม่” คาดชง ครม.อนุมัตินำร่องรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต ต.ค. 61 ตอกเข็ม ธ.ค. 62

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 53,519.50 ล้านบาท และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 51,931.15 ล้านบาท หลังลงนามสัญญากับกลุ่ม กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) รฟม.จะต้องส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างทันทีตามเงื่อนไขการลงทุนโดยเอกชน 100% หรือตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2560 เพื่อเริ่มต้นการนับระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน แต่เนื่องจากขณะนี้ยังติดเรื่องเวนคืนและพื้นที่บางแห่งยากในการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ทำให้ต้องปรับแผนส่งมอบพื้นที่เป็นเดือน ธ.ค. 2560 และค่อยเริ่มต้นนับเวลาก่อสร้าง ส่วนข้อเสนอซองที่ 3 ของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ที่จะต่อขยายเส้นทางสายสีชมพู และสีเหลืองนั้น บอร์ด รฟม.ให้ที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม คาดจะได้ข้อสรุปภายใน 4 เดือน

สำหรับสายสีส้ม ด้านตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ ระยะทาง 16.4 กม. วงเงินลงทุน 109,342 ล้านบาท อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมรูปแบบการลงทุน PPP คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ใน เม.ย. 61 เลื่อนจากแผนเดิมที่จะเสนอ ครม.ในเดือน ก.ค. 60 ทั้งนี้ จะไม่กระทบต่อการเดินรถสายสีส้มตะวันออกที่ก่อสร้างไปก่อน เนื่องจากสามารถแบ่งเฟสเดินรถได้ สายสีส้มด้านตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี อยู่ในขั้นตอนการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งจะเร่งเจรจากับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในหลายจุด สายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ซึ่ง ครม.เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างร่างทีโออาร์ประมูลและพิจารณาแบ่งสัญญาก่อสร้างตามกายภาพและมูลค่า คาดว่าจะเปิดประมูลก่อสร้างได้เดือน ธ.ค. 2560 เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2561

***บอร์ดอนุมัติ พ.ร.ฎ.ให้อำนาจ รฟม.ก่อสร้างรถไฟฟ้า “ภูเก็ต, เชียงใหม่”
สำหรับที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ที่มี พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ได้มีมติเห็นชอบพระราชกฤษฎีกาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา ซึ่งจะเป็นการให้อำนาจ รฟม.ในการดำเนินการรถไฟฟ้านอกพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจะดำเนินการที่ เชียงใหม่, ภูเก็ต นำร่อง โดยหลังจากนี้จะเสนอต่อไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ออกประกาศต่อไป

โดย รฟม.จะนำผลศึกษารถไฟฟ้ารางเบา จ.ภูเก็ต จะมีระยะทาง 60 กม. และรถไฟฟ้ารางเบา เชียงใหม่เบื้องต้น ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปดำเนินการออกแบบรายละเอียด ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยเส้นทาง จ.ภูเก็ตจะเชื่อมต่อถึง จ.พังงา คาดว่าจะเสนอ ครม.ขออนุมัติก่อสร้างช่วงเดือน ต.ค. 2561 เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2562 เปิดให้บริการปี 2566 ส่วนรถไฟฟ้ารางเบา เชียงใหม่ สนข.อยู่ระหว่างศึกษา ตามแผนงานคาดว่าจะเสนอ ครม.เดือน ม.ค. 2562 เริ่มก่อสร้างเดือน มี.ค. 2563 เปิดให้บริการปี 2566 ส่วนการลงทุน จะใช้รูปแบบร่วมทุนกับเอกชนหรือ PPP ทั้งแบบรัฐ ลงทุนงานโยธา และให้ท้องถิ่นและภาคเอกชนของจังหวัดลงทุนระบบและรถไฟฟ้า หรือเอกชนลงทุนทั้งหมด 100%

----

รฟม. ปรับแผนเลื่อนกรอบเวลารถไฟฟ้า 4 เส้น “ชมพู-เหลือง-ส้มตะวันตก-ม่วงใต้”
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 22 สิงหาคม 2560 - 20:55 น.

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ได้ปรับแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและได้รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รับทราบในวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา

แผนงานใหม่ได้เลื่อนกรอบเวลาดำเนินงานรถไฟฟ้า 4 เส้นทาง คือ

1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท และ

2. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะเลื่อนระยะเวลาเริ่มก่อสร้างออกไป 6 เดือน จากเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเดือนธ.ค. 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับการส่งมอบพื้นที่ของ รฟม.

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองกำหนดให้ รฟม. ต้องส่งมอบพื้นที่ทันที นับตั้งแต่วันที่สัญญามีผลบังคับใช้ แตกต่างจากสัญญาอื่นที่มีเวลาส่งมอบพื้นที่ให้ระยะหนึ่ง ดังนั้น รฟม. จึงขอเวลาจัดกรรมสิทธิ์พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายชมพูและสายสีเหลืองก่อน จากนั้นจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนในเดือนธ.ค. นี้ โดยตอนนี้ รฟม. ยังไม่ได้ขยายสัญญาให้เอกชน เพราะสัญญาจะเริ่มนับหนึ่งในวันที่เริ่มก่อสร้าง


สำหรับข้อเสนอซองที่ 3 หรือข้อเสนอเพิ่มเติม โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท รฟม. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาศึกษาความเหมาะสมแล้วและคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 4 เดือน

3. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยระยะทาง 16 กิโลเมตร วงเงิน 109,342 ล้านบาท ได้เลื่อนเป้าหมายการเสนอให้ ครม. เห็นชอบจากเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาเป็นเดือน เม.ย. 2561 เพื่อศึกษาการให้เอกชนร่วมทุน (PPP) ตามนโยบายของรัฐบาล โดยตอนนี้ รฟม. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาให้ศึกษาความเหมาะสมการพีพีพีงานโยธาและงานเดินรถเป็นระยะเวลา 4 เดือน คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้

กรอบเวลาใหม่จะส่งผลให้การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ล่าช้าออกไปประมาณ 9 เดือน เป็นเดือนก.พ. 2568 แต่จะไม่กระทบการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีแผนจะเปิดให้บริการก่อนในปี 2566
“โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีบทเรียนว่า ควรมีผู้เดินรถเจ้าเดียวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งก็อาจจะทำเป็นหลายๆ ทางเลือก โดยทางเลือกหนึ่งคือ รฟม. เดินเองตามที่ท่านประธานบอร์ดให้นโยบาย เพราะหลังจากที่เราสร้างหมดแล้ว มันก็ไม่ค่อยเหลือรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ให้สร้างแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะเดินรถ หรืออนาคตเราอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษากับหน่วยงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม ที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านเรา” นายฤทธิกากล่าว

4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 101,112 ล้านบาท ซึ่งจะเลื่อนเป้าหมายการประกวดราคาจากเดือนต.ค. เป็นเดือนธ.ค. นี้ ส่วนผลการประมูลก็จะเลื่อนจากเดือนส.ค. 2561 เป็นเดือนพ.ย. 2561

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะแบ่งการประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เป็นกี่สัญญา เพราะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และมูลค่างานก่อสร้าง แต่คาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2561 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566-2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/08/2017 8:05 pm    Post subject: Reply with quote

รถตู้กทม.ร้องขอขยายเส้นตายไมโครบัส เหตุรถไฟฟ้าทำผู้โดยสารหด
คมชัดลึก 25 ส.ค. 60

รถตู้กทม.ร้องขอขยายเส้นตายซื้อรถไมโครบัส เหตุรถไฟฟ้าผู้โดยสารหด 50%

นายปัญญา เลิศหงิม ประธานกลุ่มพัฒนากิจการรถตู้โดยสารสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปิดเผยภายหลังหารือกับนายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านการขนส่ง เมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ว่า กลุ่มพัฒนากิจการรถตู้ฯ ขอให้กระทรวงคมนาคมขยายอายุใช้งานรถตู้จาก 10 ปี เป็น 12 ปี และขอให้ขยายเส้นตายในการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถโดยสารขนาดเล็กไม่เกิน 20 ที่นั่ง (ไมโครบัส) ออกไปจากวันที่ 1 ต.ค.2560 เนื่องจากเอกชนยังไม่พร้อม

ตอนนี้ผู้ประกอบการรถตู้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่มีสภาพคล่องเพียงพอในการจัดซื้อรถไมโครบัสที่มีราคาแพง เพราะสภาพเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัวและมีผู้โดยสารลดลงจากโครงการรถไฟฟ้า โดยการก่อสร้างรถไฟฟ้าทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก จนกระทบต่อรถตู้ในบางเส้นทาง ส่วนเส้นทางที่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว ก็มีผู้โดยสารบางส่วนเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าที่เป็นทางเลือกใหม่แทน

เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เมื่อเริ่มเปิดให้บริการช่วง 1 ปีก่อน แต่ล่าสุดวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีม่วงได้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบริเวณสถานีเตาปูน ส่งผลให้ผู้โดยสารรถตู้หายไปถึง 50% ซึ่งผู้ประกอบการรถตู้ที่ได้รับผลกระทบมี 3 เส้นทาง คือ บางใหญ่-จตุจักร, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน-ไทรน้อย และบางใหญ่-สีลม ขณะเดียวกันผู้ประกอบการรถตู้สายบีทีเอสจตุจักร-อิมพีเรียลสำโรง ก็ได้รับผลกระทบจากกรณีที่รถไฟฟ้าบีทีเอสขยายบริการถึงสถานีสำโรง เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

เมื่อรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ ทยอยเปิดให้บริการจนครบ 10 เส้นทางในอนาคต ก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อรถตู้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด จำนวน 117 เส้นทาง จำนวนรถวิ่งให้บริการ 5,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ 3,000-4,000 คัน เป็นรถตู้ประเภทส่วนบุคคล ส่วนที่เหลือประมาณ 1,000 คันเป็นประเภทนิติบุคคล

“ในปี 2563 รถไฟฟ้าจะเริ่มทยอยเปิดใช้ ถ้าให้เปลี่ยนรถตู้เป็นไมโครบัสออกมาตอนนี้ เราเจ๊ง อยู่ไม่ได้ จึงต้องขอทางออกให้ผู้ประกอบการ โดยขอขยายอายุการใช้รถออกไปอีก 2 ปี เพื่อดูทิศทางว่าเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว จะแชร์รายได้ของรถตู้ไปขนาดไหน ” นายปัญญากล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/08/2017 6:41 am    Post subject: Reply with quote

เร่งพัฒนาที่รอบสถานีดึงคนใช้รถไฟฟ้า-ลดค่าใช้จ่าย
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 28 สิงหาคม 2560 - 20:43 น.

นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีการดำเนินการแล้ว 110 กิโลเมตร อยู่ระหว่างก่อสร้าง 122 กิโลเมตร อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) 97 กิโลเมตร และรอดำเนินการ 9.45 กิโลเมตร

ซึ่งจะทำให้แผนแม่บทรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะแรกดำเนินครบ หลังจากนี้ทาง สนข.กำลังศึกษาแผนแม่บทรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะที่ 2 ร่วมกับองค์กรเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า)


“ในอดีตที่ผ่านมาการก่อสร้างรถไฟฟ้าไม่สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่ ไม่มีผังเมืองเฉพาะกำหนดการพัฒนารอบสถานี จึงทำให้เกิดการพัฒนาที่ไม่เป็นระบบ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่” นายวิจิตต์กล่าว

ด้าน ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีที่จริงไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่พื้นที่รอบแม่น้ำ ถนน แล้วถึงมาเป็นระบบราง ซึ่งการคมนาคมและพื้นที่ถือเป็นหัวใจหนึ่งในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

“กรุงเทพฯ สวรรค์ของระบบรางต้องดูว่าความเป็นจริงจะชนะรถยนต์ได้ไหมใน 100 ปีที่ผ่านมามีผลอะไรกับเรา คนจนมีรถเก๋ง ส่วนคนรวยใช้บริการระบบขนส่งมวลชน เพราะค่าใช้จ่ายในระบบขนส่งมวลชนสูง” ดร.ชัชชาติกล่าวและว่า

ปัจจุบันรถไฟฟ้าเกิดขึ้น คอนโดก็เกิดขึ้นด้วย ซึ่งเทียบแล้วสัดส่วนมากกว่าบ้านเดี่ยว อนาคต กรุงเทพฯจะมีสกายวอล์กมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง เพราะระบบฟืดเดอร์เข้าไม่ถึงและมีค่าใช้จ่ายสูงในภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ก็ต้องสร้างระบบฟืดเดอร์รับ-ส่งให้กับผู้พักอาศัย

“การออกแบบสถานีที่ผ่านมาไม่ได้ดูคอนเซ็ปต์ เช่น การใช้ประโยชน์จากโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าและอาคารจอดและจร ให้มีคอมเมอร์เชียล” ดร.ชัชชาติกล่าว

รองศาสตราจารย์ ดร.พนิต ภู่จินดา นักวิชาการด้านผังเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีราคาที่สูง ทำให้คนย้ายที่พักอาศัยไปอยู่นอกเมือง เมื่อเฉลี่ยค่าเดินทางเท่ากับผ่อนรถยนต์ได้ 1 คัน จึงทำให้คนหันมาใช้รถยนต์มากขึ้น

“ต่อให้มีรถไฟฟ้า 10 สาย รถยนต์ก็มากขึ้นอยู่ดี เพราะระบบขนส่งมวลชนไม่ได้เข้าถึง เพราะฉะนั้นรัฐควรจะมีนโยบายให้คนอยู่ใกล้สถานีเพื่อดึงคนเข้าระบบ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย” ดร.พนิตกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/08/2017 6:23 pm    Post subject: Reply with quote

ไฟเขียว! ครม.อนุมัติ คอนโดชนชั้นกลาง ทำเลทองประชานิเวศน์ 3 เคาะตัวเลข 8 แสน-1 ล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 29 สิงหาคม 2560 - 18:09 น.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าใน กทม,และปริมณฑลในโครงการที่ 1 ประชานิเวศน์3 มีจำนวนบ้าน 556 หน่วย ใช้เงินลงทุน 464.4 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาและค้ำประกันเงินกู้ 443.8 ล้านบาท และเงินส่วนที่เหลือการเคหะแห่งชาติจะใช้งบประมาณของตนเอง ทั้งนี้ เงินลงทุนดังกล่าวไม่ใช่งบประมาณภาครัฐ แต่เป็นการเคหะแห่งชาติใช้เงินกู้หรือใช้เงินของตนเองในการก่อสร้าง ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การเคหะฯ จัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลาง ตามโครงข่ายรถไฟฟ้า กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 4 พื้นที่ โครงการร่มเกล้า โครงการลำลูกกา- คลอง2 โครงการบางปู และโครงการประชานิเวศน์ 3

“แต่มีบางโครงการที่ชะลอไว้ โครงการลำลูกกา – คลอง 2 ยังอยู่เรื่องการจัดทำอีไอเอ โครงการบางปูชะลอไว้ก่อนเพราะสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากอยู่แล้ว ส่วนโครงการร่มเกล้าอยู่ระหว่างรอการปรับผังเมือง ส่วนโครงการประชานิเวศน์ 3 จะมีการจัดทำอาคารชุด 8 ชั้นในพื้นที่ 6.3 ไร่ ประกอบด้วยอาคารห้องพัก 25.5 ตารางเมตร ประมาณ 94 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 30 ตารางเมตร 455 ยูนิต และเป็นพื้นที่ร้านค้า 7 ยูนิต วัตถุประสงค์จะ ให้ผู้ที่มีรายได้ไม่สูงนักเช่าซื้อ เป็นกลุ่มที่มีรายได้ 24,700 บาทถึง 35,300 บาท ต่อครัวเรือนเดือนขึ้นไป ส่วนอีกกลุ่มรายได้ปานกลางถึงสูง 35,300 บาท ต่อครัวเรือนเดือนขึ้นไป คนที่จะได้สิทธิจะเป็นกลุ่มที่รายได้ปานกลาง 30% กลางถึงสูง 70% กลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มจบใหม่ เริ่มงานใหม่ ครอบครัวใหม่ รัฐบาลตั้งใจจะจัดโครงการบ้านดังกล่าวให้ประชาชนที่มีรายได้ปานกลาง” นายกอบศักดิ์ กล่าว และว่าจะมีมูลค่าตั้งแต่ 828,000 บาท กระทั่งถึง 1,194,000 บาท เป็นโครงการนำร่องโครงการแรก ถ้าประสบความสำเร็จจะเดินหน้าต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/08/2017 6:47 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.เห็นชอบระบบตั๋วร่วม อี-ทิกเก็ต ประเดิมรถเมล์-รถไฟฟ้า 1 ต.ค.นี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 29 สิงหาคม 2560 - 17:48 น.

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบระบบตั๋วร่วม หรือ e-ticket หรือบัตรแมงมุม ซึ่งในอนาคตสามารถใช้ร่วมกันทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ โดยรถเมล์ ขสมก. 800 คันแรกจะติดตั้งระบบตั๋วร่วมภายใน 1 ต.ค.นี้ และ 2,600 คันจะติดตั้งภายในต้นปี 61 หลังจากนั้นรถไฟฟ้าต่างๆ คือรถไฟฟ้าสายสีม่วง แอร์พอร์ตเรียลลิงค์ สายสีเขียว และสายสีน้ำเงินน่าจะติดตั้งภายใน ก.ค.61

นอกจากนี้ บัตรตั๋วร่วมยังจะสามารถใช้ร่วมกับร้านค้าของกระทรวงพาณิชย์ และเป็นช่องทางในการรับประชารัฐสวัสดิการ โดยระยะแรกสำนักธุรกิจบัตรโดยสารของ รฟม.จะเป็นผู้บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋ว แต่ระยะต่อไปคือภายใน ก.ค.61 รฟม.จะจัดตั้งบริษัทเพื่อเป็นผู้บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม โดยที่ สนข.จะโอนสิทธิ์ระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางมาให้ รฟม.

ทั้งนี้ ผู้บริหารจัดการและบำรรักษาระบบตั๋วร่วมจะปรับปรุงและทดสอบระบบเพื่อให้สามารถใช้งานระบบตั๋วร่วมได้ทันตามกรอบระยะเวลา คือ รถเมล์เริ่ม 800 คัน วันที่ 1 ต.ค. รถไฟฟ้า 4 สาย หลังจากนั้นจะรวมระบบทางหลวงพิเศษและเรือโดยสารด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48012
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/08/2017 9:02 am    Post subject: Reply with quote

รีวิวรถไฟฟ้าหลากสี “สร้างเร็วกว่าแผน” “รามฯ-แจ้งวัฒนะ-ลาดพร้าว” อัมพาตแน่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 30 สิงหาคม 2560 - 08:23 น.

คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต

รถไฟฟ้าสายใหม่สารพัดสีในความรับผิดชอบของ “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” เริ่มเห็นความก้าวหน้าเป็นระยะ จะเปิดบริการตลอดเส้นทางปลายปี 2561 มีสายสีเขียวต่อขยาย “แบริ่ง–สมุทรปราการ” ระยะทางประมาณ 13 กม. จำนวน 9 สถานี ขณะนี้งานเสร็จเรียบร้อย 100% รอ “บีทีเอส–บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ” ติดตั้งระบบ หลังชิมราง 1 สถานีจากแบริ่ง–สำโรง

ถัดจากนั้นจะเป็นคิวของสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ระยะทาง 27 กม. จำนวน 20 สถานี ขณะนี้งานก่อสร้างรุดหน้า 94.62% ประเดิมช่วงหัวลำโพง–บางแค เปิดหวูดในเดือน มี.ค.2562 และช่วงบางซื่อ–ท่าพระ ในปี 2563


ส่วนสีเขียวต่อขยาย “หมอชิต–สะพานใหม่–คูคต” ระยะทาง 18.7 กม. จำนวน 16 สถานี ได้ผู้รับเหมารายใหญ่เป็นผู้ก่อสร้าง ไม่ว่า “อิตาเลียนไทยฯ, ยูนิคฯ, ซิโน–ไทยฯ” ต่างพร้อมใจเร่งการก่อสร้างฉลุย 39.07% เร็วกว่าแผนงานอยู่ที่ 2.13% หลังเปิดไซต์ไปเมื่อเดือน มิ.ย.2558 ตามแผนจะแล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2563

ขณะที่สายสีส้ม “ศูนย์วัฒนธรรม–มีนบุรี” ระยะทาง 23 กม. จำนวน 17 สถานี ที่แบ่งก่อสร้าง 6 สัญญา ผู้รับเหมากำลังทยอยเปิดหน้าดินปิดการจราจรเร่งรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคแนวถนนพระราม 9 และรามคำแหง เพื่อเร่งการก่อสร้างที่จะเริ่มอย่างเต็มสูบในปี 2561



ปัจจุบันผลงานโดยรวมคืบหน้า 1.40% เร็วกว่าแผน 0.11% แยกเป็น 1.งานอุโมงค์ใต้ดิน ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย–รามคำแหง 12 ของกลุ่มกิจการร่วมค้า CKST (บมจ. ช.การช่าง และ บมจ.ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น) วงเงิน 20,633 ล้านบาท คืบหน้า 1.22%

2.งานอุโมงค์ใต้ดิน ช่วงรามคำแหง 12-หัวหมาก ของกิจการร่วมค้า CKST วงเงิน 21,057 ล้านบาท คืบหน้า 0.73% 3.งานอุโมงค์ใต้ดิน ช่วงหัวหมาก–คลองบ้านม้า ของ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ วงเงิน 18,570 ล้านบาท คืบหน้า 2.64% 4.งานก่อสร้างโครงการยกระดับ ช่วงคลองบ้านม้า–มีนบุรี ของ บมจ.ยูนิคฯ วงเงิน 9,990 ล้านบาท คืบหน้า 0.73%

5.งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร ของกิจการร่วมค้า CKST วงเงิน 4,831 ล้านบาท คืบหน้า 0.42% และ 6.งานออกแบบและวางรางของ บมจ.ยูนิคฯ วงเงิน 3,690 ล้านบาท คืบหน้า 3.26%

กำลังรอส่งมอบพื้นที่เป็นโมโนเรล 2 สาย 2 สี มี “คีรี กาญจนพาสน์” เจ้าพ่อบีทีเอส ร่วมกับพันธมิตรรับเหมาซิโน–ไทยฯ และยักษ์พลังงาน “ราชบุรีโฮลดิ้งส์” ลงทุนและก่อสร้างกว่าแสนล้านบาท ทั้งสายสีชมพู “แคราย–มีนบุรี” ระยะทาง 34.5 กม. จำนวน 30 สถานี และสายสีเหลือง “ลาดพร้าว–สำโรง” ระยะทาง 30 กม. จำนวน 23 สถานี

ความคืบหน้าล่าสุด “สุรพงษ์ เลาหะอัญญา” เอ็มดีบีทีเอส เผยว่า จะเข้าพื้นที่รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้ง 2 เส้นทางได้ประมาณเดือน ธ.ค.2560 และเริ่มก่อสร้างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป จะแล้วเสร็จในปี 2564

ล่าสุด ระหว่างรอเคลียร์พื้นที่ ทางบีทีเอสระดมคนเดินสายแจกโบรชัวร์ให้ประชาชนอยู่ในแนวเส้นทางรับทราบรายละเอียดข้อมูลโครงการ เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมกับการปิดการจราจรเพื่อก่อสร้าง ที่คาดว่าน่าจะสาหัสอยู่ไม่น้อย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 159, 160, 161 ... 286, 287, 288  Next
Page 160 of 288

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©