View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:09 pm Post subject: |
|
|
มองไปทางขวา เห็นภูเขาสีแดงๆ รูปร่างคล้ายกิ้งก่าหมอบอยู่ (เป็นจินตนาการของผมเองนะครับ) แถวนั้นอยู่ใกล้ๆ กับ บ้านทุ่งกระบ่ำ (ชื่อแปลกดีจังนะครับ)
ฟ้าเริ่มมืดลงทุกทีแล้ว เลยหมู่บ้านทุ่งกระบ่ำมาเล็กน้อย สังเกตุมีเสาส่งวิทยุสูงมากอยู่ต้นนึงตรงหัวโค้งข้างหน้า
ค่ำลง ค่ำลง แต่ยังพอถ่ายภาพได้ ก็ถ่ายกันไป ฝนยังพรำอยู่เบาๆ ไม่มีทีท่าจะหยุดเลยครับ แทบไม่น่าเชื่อว่าเส้นทางด้านหลังเมืองสุพรรณฯ นี้จะดูวังเวง เงียบเหมือนอยู่แถวชายแดนเลยนะครับ
ภาพซ้าย : ตอนนี้เรามาถึงสามแยกสุดถนนสาย 3306 ใกล้ อ.เลาขวัญ แล้วครับ ก็เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.เลาขวัญ สังเกตุแผ่นป้ายบอกหมายเลขถนน ทางซ้ายยังเป็นถนนเส้นเดิม ถ้าเลี้ยวขวา จะไปบรรจบกับถนนสาย กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี และสายบ่อยพลอย-อู่ทอง
ภาพขวา : เลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลก็เจอแผ่นป้ายบอกระยะทางถึง ตัวอำเภอเลาขวัญ อีกแค่ 6 กิโลเมตร |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:15 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้เรามาถึง ตัวอำเภอเลาขวัญแล้ว ก็เป็นอำเภอธรรมดาไม่ได้มีสัญญลักษณ์ หรือแลนด์มาร์คอะไรสวยๆ สมดังชื่อนะครับ
ผมหยุดรถเพื่อถ่ายภาพแผ่นป้ายบอกระยะทาง ที่เราจะต้องเลี้ยวขวาที่แยกหน้า ไปทาง อ.อู่ทอง ก่อนถึง โรงพยาบาลเลาขวัญเล็กน้อย ว่าแต่แผ่นป้ายนี้ปักอยู่ห่างจากแยกที่ว่านี้ไกลถึง 900 เมตรเลย นับเป็นการเตือนล่วงหน้าที่ไกลเกินไปหน่อยนะครับ เพราะคนที่ไม่คุ้นเคยอาจเผลอเลี้ยวขวาเข้าซอยใดซอยหนึ่งไปก่อนหน้า แยกขวาได้ครับ เพราะเมื่อเข้าใกล้แยกขวา กลับไม่มีแผ่นป้ายใดๆ บอกทางอีกเลย
เลี้ยวขวากลางตัวอำเภอเลาขวัญมาแล้ว (ตรงแยกนั้น ผมถ่ายภาพเบลอมาก เลยไม่ได้เอามาให้ดู) ประมาณ ครึ่งกิโลเมตร ก็จะมีทางแยกซ้ายไป อ.อู่ทอง ที่จะไปยังตัวเมืองสุพรรณฯ อันนี้ต้องคอยระวังไม่ให้เลยแยกนี้นะครับ ไม่งั้นถนนเส้นนี้จะพาเราไปยัง อ.อู่ทอง ทางทิศใต้ของตัวเมืองสุพรรณฯ ได้
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสาย 3468 ที่มุ่งตรงไปทางทิศตะวันออก ตัวเมืองสุพรรณฯ มาได้ ประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะมีทางแยกซ้ายมือไปยังวัดกกม่วง ที่คุณ บอล backpacker ได้เคยแวะมาพักคราวที่ออกจาก ถ้ำธารลอดเหมือนผม ปีที่แล้ว ได้ลองตามรอยสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน และบังเอิญเวลานี้ก็ใกล้เคียงกับที่คุณบอลมาเช่นกัน (ช้ากว่าผมประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะมัวแต่หาของหาย จนต้องวิ่งรถย้อนกลับไป แม้ต่อมาจะเจอขอที่หายก็กลับหลงทางอีก)
ถ้าตรวจสอบกับเว็บแผนที่กูเกิ้ลจะพบว่าแยกนี้ เพิ่งเลยเขตจังหวัดสุพรรณมาแค่ครึ่งกิโลเมตรเองด้วย
เส้นทางแวะไปยัง วัดกกม่วงนี้ แม้จะมีไฟทางตลอด แต่ก็ดูเงียบสงัด วังเวงน่าดู นี่ขนาดเวลายังไม่ถึงทุ่มครึ่งเลย คงเป็นเพราะฝนเพิ่งตกนะครับ ไม่งั้นคงได้เห็นชาวบ้านขับรถผ่านไปมาบ้าง
ด้วยระยะทางประมาณครึ่งกิโลเมตรก็ถึงแล้วครับ วัดกกม่วง ที่คุณบอลแวะมาพักตอนออกทริปทั่วไทย เมื่อก้าวเข้าสู่ เขตจังหวัดสุพรรณบุรี แต่เขามาถึงดึกกว่านี้ประมาณครึ่งชั่วโมงเองนะครับ มองเข้าไปข้างในวัดดูมืดและเงียบ คงไม่ดีแน่ที่ผมจะขับรถเข้าไปตอนนี้ จึงขอเก็บภาพซุ้มประตูด้านหน้าวัดไว้เพียงเท่านี้ แล้วก็เลี้ยวรถกลับไปยังเส้นทางเดิม เสียเวลาเข้ามาแป๊บเดียวก็ได้ตามรอยคุณบอลเพิ่มอีกจุด คุ้มสุดๆ ครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:25 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้ผมขับรถย้อนกลับมายังทางแยกเมื่อกี้ เพื่อเข้าสู่ถนนสาย 3468 เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.อู่ทองเช่นเดิมละครับ เวลาตอนนั้นยังไม่ทุ่มครึ่ง ดูบรรยากาศช่างเงียบวังเวงจริงๆ
วิ่งรถฝ่าความมืดมาได้ประมาณ 9 กิโลเมตรก็สุดถนนสาย 3468 คือสามแยก บ้านจร้า ตัดกับถนนสาย 333 เลี้ยวซ้ายไป อ.ด่านช้าง และ อ่างกระเสียวได้ ผมเลี้ยวขวาไปทาง อ.อู่ทอง เพื่อเข้าตัวเมืองสุพรรณฯ นะครับ เหลือบเห็นป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวสีฟ้าทางซ้ายมือ ระบุว่า ไปถ้ำธารลอดทางซ้าย? เล่นเอางง! เลยนะครับ เพราะพวกเราเพิ่งมาจากถ้ำธารลอดทางเส้นทางนี้ แสดงว่าทางข้างหน้าอาจเป็นถนนที่ใหญ่กว่า แต่ทางจะวิ่งอ้อมขึ้นไปทาง อ่างกระเสียวแล้วเลี้ยวขวาลงมา อ.หนองปรืออีกทีนั่นเองครับ
ภาพซ้าย : เลี้ยวขวาตรงบ้านจร้าใหม่ มาประมาณ 7 กิโลเมตรครึ่ง ต้องเลี้ยวซ้ายที่แยกหน้า (อีกแล้วนะครับ นับว่าซับซ้อนพอดูเลย ถ้าไม่มี GPS ช่วยบอกตำแหน่งตัวเองในแผนที่ คงจะไปตัวเมืองสุพรรณฯไม่ถูกแน่นอนครับ เพราะครั้นจะสอบถามชาวบ้าน ก็แทบไม่เห็นมีคนอยู่ข้างทางเลย นานๆ จะมีรถวิ่งสวนมาที ช่างดูลึกลับเหมือนอยู่แถว อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์เลยนะครับ ถ้าตรงไป ก็จะไป จ.นครปฐมโน่นเลยครับ
ภาพขวา : มาถึงแยกซ้ายไปตัวเมืองสุพรรณฯ โดยผ่าน บ้านสระแก้วแล้วครับ(สาย 3460) ทางยิ่งดูมืดเข้าไปอีก เฮ้อ..แปลกจริงๆ เข้าใกล้ตัวเมืองทำไมทางเล็กลงนะครับ เพราะคงไม่ใช่ทางสายหลักเข้าตัวเมืองนะครับ ถนนสี่เลนงามๆ ที่ออกจากด้านหลังตัวเมืองสุพรรณฯ (ทางทิศตะวันตก) นั้นมุ่งขึ้นเหนือไป อ.ดอนเจดีย์(สาย 322) กับ มุ่งลงใต้ไป อ.อู่ทอง(สาย 321) ไม่มีวิ่งตรงๆ มาทางนี้เลย น่าน้อยใจแทนชาวบ้านแถวนี้นะครับ
แม้ว่า ถนนสาย 3460 นี้นับเป็นถนนสายตรงจากด้านทิศตะวันตกเข้ามายังตัวเมืองสุพรรณฯ ได้ แต่ก็เล็ก มีถนนตัดขวาง และทางโค้งพอสมควร ด้วยระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตรจากต้นถนนเมื่อกี้ก็มาถึง บ้านสระแก้ว ที่มีแลนด์มาร์คเป็นสระศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 (ในภาพเป็นรั้วทางขวามือ) ข้างหน้าคือถนนสาย 322 ที่มุ่งไป อ.ดอนเจดีย์ทางซ้าย ส่วนเราก็เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองสุพรรณฯ ละครับ เฮ้อ.เป็นถนนใหญ่ 4 เลนสักทีครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:33 pm Post subject: |
|
|
วิ่งรถมาอีกไม่ไกล ก็ถึจุดตัดถนนวงแหวนด้านทิศตะวันตกของเมืองสุพรรณฯ (เลียนแบบ กรุงเทพฯนะครับ) มีแผ่นป้ายบอกทางขนาดใหญ่อยู่ข้างบน ผมตรงไปครับ ยังไม่อยากกลับบ้าน ขอแวะเที่ยวเมืองสุพรรณฯ ยามค่ำสักหน่อยครับ
วิ่งลอดสะพานถนนวงแหวนตะวันตกเมืองสุพรรณฯ เข้าไป ถนนจะเลี้ยวโค้งลงใต้ มีสามแยกขวามือ อยู่ข้างหน้า แผ่นป้ายบอกทางว่าถ้าเลี้ยวขวาข้างหน้าจะล่องไป อ.อู่ทอง ตามถนนสาย 321 สิ้นสุดถึง จ.นครปฐม
แต่ถ้าตรงไป ตามระยะทางแสดงในแผ่นป้ายขาว อีก 7 กิโลเมตรก็ถึงตัวเมืองสุพรรณฯ แล้ว ส่วนป้ายสีฟ้าจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามทิศทางถนนที่มุ่งไปนะครับ รู้สึกว่าแยกนี้มีป้ายให้ทั้ง 3 แบบครบเลยนะครับ
พอเข้าไปใกล้สามแยกข้างหน้า ที่มีชื่อว่า สามแยกอู่ยา เหลือบเห็นปั้มน้ำมันสีเขียว ของ บางจาก อยู่ฝั่งถนนตรงกันข้าม ชาวคณะก็ร้องขอเขาห้องน้ำกันทันที ดีเหมือนกัน 1 ชั่วโมงครึ่งของการเดินทางบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว และมืดมิด แถมมีฝนพรำมากว่าครึ่งทาง ย่อมกระตุ้นไตให้ปล่อยน้ำของเสียได้มากกว่าปกติ..
ก่อนจะไปกันต่อ ผมขอกางแผนที่เดินทางให้ดู ช่วงที่เข้าตัวเมืองสุพรรณฯ สักหน่อย ซึ่งมีการแวะทานมื้อเย็นอีกครั้ง ใกล้ๆ ทางเข้า พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร แล้วเข้ามแม่น้ำท่าจีนมาถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี เพื่อกลับบ้านกรุงเทพฯครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:37 pm Post subject: |
|
|
ระหว่างนั้น ชาวคณะก็เริ่มเรียกร้องให้แวะหาอะไรทานมื้อเย็นกันสักหน่อย ผมสบายตัวไปแล้ว เพราะได้ข้าวกล่อง ที่ทานตรง อ.หนองปรือ แต่ถึงคราวคนอื่นๆ เขาจะได้ทานกันบ้างแล้ว อย่างน้อยเมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ จะได้ไม่ต้องวิ่งหาของกินอีก ยิ่งดึกก็ยิ่งหายากครับ
ผ่านทางเข้า พิพิธภัณฑ์ลูกหลานมังกร มาเล็กน้อยก็เห็นร้านอาหารอยู่กลุ่มนึง เลยจอดครับ
จอดรถเลยร้านไปนิด แล้วเดินกลับมายัง ดูมีหลายร้านให้เลือกทานนะครับ (ติดกับร้าน Cockit)
คุณก้อยเห็นข้าวเหนียวทุเรียน ก็ตรงมาสั่งก่อนเลย ดูน่ากินมากครับ
ส่วนคนอื่นๆ เน้นข้าวเป็นหลักครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:42 pm Post subject: |
|
|
ข้ามแม่น้ำท่าจีนมาติดไฟแดงแยก"แขวงการทาง" หันไปทางซ้ายมีแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์งานสวดพระอภิธรรม ของ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ที่ถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2559 ช่วงนี้กำลังสวดอยู่พอดีที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหารครับ (ประกอบพิธีพระราชเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2559 ที่วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ)
ออกจากไฟแดงสี่แยกแขวงการทางมาแค่ 200 เมตรก็ติดไฟแดงอีกจุด ที่ถือว่าอยู่ใกล้กันมาก หันไปมองทางขวา ก็เจอหอนาฬิกา บรรหาร แจ่มใส ครับ
แต่การกลับไปกรุงเทพฯ เส้นทางสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี หรือ สาย 340 จะสะดวกและระยะทางสั้นกว่า แต่ตรงปลายถนนมาลัยแมนที่ต่อเข้ากับถนนสาย 340 ข้างหน้านี้ ไม่มีแยกไฟแดง หรือสะพานลอยต่างระดับให้ ต้องไปกลับรถกลางถนนเอง... ถ้าเป็นช่วงเทศกาลรถเยอะๆ ก็คงลำบากหน่อยละครับ ไม่งั้นก็ต้องไปกลับรถใต้สะพานข้ามแยกโพธิ์พระยา อีก 5 กิโลเมตรกว่าโน้นเลยครับ
สังเกตุแผ่นป้ายบอกทางไปกรุงเทพฯ ดูแปลกๆ ที่ลูกศรข้างล่างไม่มี กลายเป็นสีดำ ทำคิดไปว่าแต่ก่อนเลี้ยวขวาได้หรือ เลยมาลบออก แต่พอดูภาพในกูเกิ้ลสตรีทที่เขาถ่ายตอนกลางวันก็เห็นมีลูกศรปกติ แต่ร่องรอยการวาดใหม่ที่ไม่ใช่สีสะท้อนแสง เลยดูมืดในเวลากลางคืนนะครับ
เข้าสู่ถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี สาย 340 ที่ต้องไปกลับรถข้างหน้าในระยะทางกว่า 800 เมตร เนื่องจากเป็นถนนคู่ขนาน ต้องรีบเข้าช่องกลางข้างหน้าโดยเร็ว (ประมาณ 300 เมตร) แล้วรีบชิดขวา โชคดีรถไม่มาก เลยทำได้ง่ายครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 12/11/2017 11:47 pm Post subject: |
|
|
กลับรถมาวิ่งฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯละ วิ่งมาพักนึก ก็เห็นป้ายบอกทางแยกซ้ายไป อ.เสนา คำเตือนสำหรับที่คนจะไป อ.เสนา ต้องระวังอย่าเผลอเลี้ยวก่อนข้ามสะพานข้างหน้านะครับ คือต้องข้ามสะพานก่อนแล้วค่อยเลี้ยวซ้าย ไม่งั้นจะกลายเป็นกลับรถมาสุพรรณฯ อีกรอบ ฮี่ๆ
รถโล่ง ไร้ฝน วิ่งได้สะดวกดี ไม่นานก็เข้าสู่ อ.บางบัวทอง เริ่มเข้าสู่ตอม่อ รถไฟฟ้า ผ่านสถานีคลองบางไผ่ ไปแล้วครับ
วิ่งสบายเรื่อย ผ่านหน้าห้างเซนทรัลเวสต์เกต ที่ดูจะปิดแล้ว ถือว่าใกล้จะถึงบ้านผมแล้ว เวลาตอนนั้น 4 ทุ่มเศษ นับว่ายังไม่ดึกมากจึงขอปิดกระทู้ไว้แค่นี้นะครับ
แต่ในอนาคตจะมีภาคสองมาเติมต่อให้สมบูรณ์ เพราะในปีนี้(พ.ศ.2560) ผมได้ไป ทั้งช่องเขาขาด และถ้ำธารลอดใหญ่อีกครั้ง แต่ในอีกเส้นทาง คอยติดตามกันต่อไปนะครับ |
|
Back to top |
|
|
TONE8717
3rd Class Pass
Joined: 11/03/2015 Posts: 43
|
Posted: 13/11/2017 8:50 am Post subject: |
|
|
อ้อมโลกกันเลยทีเดียวครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 03/12/2017 11:43 pm Post subject: |
|
|
TONE8717 wrote: | อ้อมโลกกันเลยทีเดียวครับ |
ใช่ครับ เพราะขนาดผมออกจาก วัดถ้ำธารลอดใหญ่ ตอน 5 โมงเย็นกว่าๆ มาแวะรับประทานอาหารเย็น ที่ ตัวเมืองนครปฐม (ใกล้ทางขึ้นเขาวัง) เล่นเอา 3 ทุ่มกว่าเลย นับว่าไกลมากๆ แต่ได้อารมณ์แบบ แม่ฮ่องสอน - แม่สะเรียง - ฮอด เลยละครับ |
|
Back to top |
|
|
|