View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/02/2018 3:56 pm Post subject: |
|
|
ใช้วิธีสรรหารองผู้ว่าฯ "รถไฟ" เลิกระบบแต่งตั้งลุ้น 11 คนชิง
เดลินิวส์ จันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 07.30 น.
รฟท. เปิดสรรหารองการรถไฟฯ 2 ตำแหน่ง ทดแทนผู้เกษียณ ย้ำรับสมัครคนในเท่านั้น เลิกระบบแต่งตั้ง ลุ้น 11 คนชิงดำ
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า รฟท. ได้เปิดรับสมัครตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อนและรองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้า เพื่อทดแทนผู้เกษียณ เป็นการรับสมัครคนในเท่านั้น แต่ก็นับว่าเป็นครั้งแรกที่เปิดรับสมัครเพื่อใช้วิธีสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการรฟท.จากเดิมที่ใช้วิธีแต่งตั้ง โดยคาดว่าการสรรหาจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้คณะกรรมการคัดเลือกมีทั้งหมด 6 คน นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการรฟท.เป็นประธานและมีคณะกรรมการอีก 5 คน ได้แก่ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สินและรองผู้ว่าการกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับเกณฑ์การตัดสินนั้นจะเน้นการให้น้ำหนักคะแนนเรื่องการแสดงวิสัยทัศน์โดยเฉพาะเรื่องทิศทางขององค์กรในอนาคตด้านความรู้ความสามารถและด้านการเป็นผู้นำ ทั้งนี้หัวข้อที่จะให้คะแนนมากที่สุดคือเรื่องของประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือก
รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า ขณะนี้มีผู้สมัครตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน 5 คน ได้แก่
1.นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน
2.นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายก่อสร้าง 3
.นายจุลพงษ์ จุฬานนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ
.นายวัชรชาญสิริสุวรรณทัศน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายช่างกล
5.นายไพบูลย์ สุจิรังกุล วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา
ส่วนตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้ามีผู้สมัคร 6 คน ได้แก่
1.นายศิริพงศ์พฤทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน
2.นายสุชีพสุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายก่อสร้าง
3. นายอวิรุทธ์ ทองเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายกองการพัสดุ
4.นายสิทธิชัย บุญเสริมสุข วิศวกรใหญ่ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม
5.นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการสินค้า และ
6.นายไพบูลย์ สุจิรังกุล วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/02/2018 11:02 am Post subject: |
|
|
ลุ้นคัดเลือกรองผู้ว่าฯ รถไฟ 2 คน หวั่นเขียนเกณฑ์ล็อกตามใบสั่ง
เผยแพร่: 28 ก.พ. 2561 08:42: ปรับปรุง: 28 ก.พ. 2561 09:19: โดย: MGR Online
จับตาคัดสรรรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.วันนี้ เผยสเปกและเกณฑ์ให้คะแนนด้านอายุงาน การครองตำแหน่งน้อยไป เปิดช่องเอื้อบางคน ขณะที่เกณฑ์คะแนนวิสัยทัศน์สูงทั้งที่เป็นเรื่องที่ยังจับต้องไม่ได้ และใช้ความรู้สึกตัดสิน ชี้ควรวางเกณฑ์อาวุโสและวิสัยทัศน์ในระดับใกล้กัน ขณะที่ยังมีความกังวลว่าอาจยังมีอดีตบิ๊กรถไฟบางคนล้วงลูก วางทายาท สูบผลประโยชน์จากรถไฟเหมือนที่ผ่านมา
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า จากที่ ร.ฟ.ท.ได้เปิดรับสมัคร คัดเลือกรองผู้ว่าการ 2 ตำแหน่ง คือ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน และรองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้า เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่มี นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เป็นประธาน และมีรองผู้ว่าการที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันอีก 5 คนเป็นกรรมการ จะให้ผู้สมัครตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน 5 คน และตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้ามีผู้สมัคร 6 คน สัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 28 ก.พ. 2561
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์เสร็จ กรรมการคัดเลือกจะประชุมเพื่อสรุปผลทันทีก่อนนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ต่อไป
ทั้งนี้ เป็นที่จับตาว่าแม้ในการคัดสรรครั้งนี้จะเปิดกว้างมากกว่าการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในอดีตที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีกระแสข่าวระบุว่าอาจมีการวางตัวบุคคลที่จะได้รับคัดเลือกไว้แล้วจากอดีตผู้บริหารที่ยังคงพยายามเข้ามาก้าวก่ายกิจการในรถไฟ
หากพิจารณาจากเกณฑ์การให้คะแนน หัวข้อสมรรถนะที่เกี่ยวข้องกับงานในตำแหน่งที่พิจารณาจากความรู้ความสามารถ และผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาและวิสัยทัศน์ที่ 40 คะแนน กับหัวข้อด้านประวัติการทำงาน ระยะเวลาการเข้าสู่ตำแหน่งอายุงานที่ 15 คะแนน อาจจะมองได้ว่าให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวน้อยไปทั้งที่อายุงานในระดับ 12 และระดับ 13 เป็นปัจจัยสำคัญในการเป็นผู้บริหาร ความอาวุโส และบารมี ซึ่งโดยหลักการแล้วควรให้น้ำหนักใน 2 หัวข้อใกล้เคียงกัน เพราะที่ผ่านมารถไฟเคยมีปัญหาแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรม ไม่เหมาะสม ตั้งคนที่อาวุโสน้อยเกินไป มีปัญหาในการบริหารจัดการ
รายงานข่าแจ้งว่า การเป็นผู้บริหาร อายุงาน ผลการทำงาน ประสบการณ์ เป็นสิ่งที่จับต้องได้ และสามารถนำมาวิเคราะห์กับการบริหารคนที่มีเป็นหมื่นได้อย่างไร แต่การตั้งเกณฑ์ 15 คะแนนถือว่าต่ำเกินไป ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งมีการตั้งคะแนนไว้สูงมาก เป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้ เพราะเป็นการวัดจากความรู้สึก ดังนั้นมองได้ว่าหากไม่ให้ความสำคัญกับคะแนนของระยะเวลาและอายุงานที่ผ่านมาในการครองตำแหน่งระดับ 12, 13 ควรกำหนดเรื่องระยะเวลาในการครองตำแหน่งไว้ในคุณสมบัติให้ชัดเจนว่ากี่ปีแทน
แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.ระบุว่า เกณฑ์การให้คะแนนอาจจะสะท้อนได้ว่ามีการเปิดช่องหรือเอื้อประโยชน์ให้บางคนได้ แต่เกณฑ์ดังกล่าวคณะกรรมการคัดเลือกได้ประชุมและนำเกณฑ์ในการคัดเลือกระดับรองอธิบดีของหน่วยงานราชการมาเปรียบเทียบจึงกำหนดออกมา รวมถึงแนวการให้คะแนนของ ก.พ.ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลได้ทุ่มงบลงทุนมหาศาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟ มีการผลักดันรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงหลายเส้นทาง รวมถึงจะมีการลงทุนด้านหัวรถจักร รถโดยสาร รถสินค้าอีก ดังนั้นผู้บริหารรถไฟควรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะสามารถขับเคลื่อนรถไฟในอนาคตได้ และไม่ควรเป็นผู้บริหารที่ใช้มุมมองและวิสัยทัศน์แบบเดิมๆ ที่เป็นส่วนทำให้รถไฟเป็นองค์กรที่มีแต่ปัญหาและทุจริต คอร์รัปชันเหมือนที่ผ่านมา |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/03/2018 9:33 am Post subject: |
|
|
เร่งจัดหาล้อเลื่อนเพิ่มขนส่งฯแอลพีจี
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 3 มี.ค. 61 นโยบายเศรษฐกิจ
ปตท. ลงนามจัดหารถจักร 8 คัน รถพ่วง 125 แคร่ เพิ่มการขนส่งแอลพีจี น้ำมันทางราง ด้านร.ฟ.ท. แย้มจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันล้าน กำไร 13% เร่งเข็นโครงการจัดซื้อรถจักร 50 คัน วงเงิน 6 พันล้านเข้าบอร์ด หวั่นเกิดปัญหาขาดแคลนรถจักรในปี 64
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนสนใจการขนส่งสินค้าทางรางมากขึ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ร.ฟ.ท.และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)เพิ่งลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จะเพิ่มการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และน้ำมันทางราง
สัญญากำหนดให้ ปตท. ต้องจัดหาล้อเลื่อนตามสเปคที่ร.ฟ.ท. กำหนดไว้ ประกอบด้วยรถจักร 8 คัน อายุสัญญา 25 ปี และรถพ่วง 125 แคร่ อายุสัญญา 30 ปี ซึ่ง ปตท. จะจัดหาด้วยวิธีเช่าพร้อมจ้างซ่อมบำรุง คาดว่ารถจักร5 คันแรกและรถพ่วง 125 แคร่จะทยอยเข้ามาในปลายปี 2563 จากนั้นรถจักร 3 คันสุดท้ายจะตามมาภายหลัง โดยการรถไฟฯ จะลดค่าระวางให้ เพื่อตอบแทนที่ ปตท. จัดหาล้อเลื่อนเอง
สำหรับปัจจุบัน ปตท. ขนส่งแอลพีจีทางรถไฟอยู่แล้ว แต่ ปตท. ต้องการจะเพิ่มปริมาณการขนส่งให้มากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ปตท. ต้องการขนส่งน้ำมันทางรถไฟ ต่อจากท่อน้ำมันใน จ.ลำปางด้วย
สำหรับโครงการจัดซื้อรถจักร 50 คัน วงเงิน 6,500 ล้านบาทจะเร่งเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.พิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป เนื่องจากโครงการผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นานแล้วและมีการล้มประมูลไปถึง4 ครั้งแล้ว ถ้าหากรับมอบรถจักรล็อตนี้ไม่ได้ตามกำหนด ก็จะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนรถจักร เพราะการรถไฟฯ ต้องปลดระวางรถจักร 50 คันในต้นปี 2564
เมื่อบอร์ดเห็นชอบแล้ว ก็จะเสนอขอความเห็นจากคณะกรรมการกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง)จากนั้นจึงเปิดประมูลด้วยวิธีการประกวดราคานานาชาติ ซึ่งแม้จะมีผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียวก็เดินหน้าประกวดราคาต่อไปได้ และจะไม่กำหนดสัดส่วนขั้นต่ำของผู้ถือหุ้นชาวไทยสำหรับเงื่อนไขการประมูล (TOR) รอบนี้จะเปิดกว้างให้มากที่สุดแล้ว แต่ก็ต้องได้รถจักรที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันได้เพิ่มระบบควบคุมความปลอดภัยอัตโนมัติ (ATP)ไว้ในทีโออาร์ เพื่อให้รองรับระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้ด้วย ซึ่งการเพิ่มATPส่งผลให้ราคากลางเพิ่มขึ้น 8-10 ล้านบาทต่อคัน
นอกจากนี้ เตรียมเสนอโครงการเช่ารถจักรพร้อมซ่อมบำรุง 50 คัน ระยะเวลา 15 ปีบวก 5 ปี วงเงิน 14,000 ล้านบาทให้บอร์ดการรถไฟฯ พิจารณาเป็นวาระถัดไป สำหรับสาเหตุที่โครงการเช่ารถจักรล่าช้า เพราะเป็นเรื่องใหม่จึงต้องสร้างความั่นใจและพิสูจน์ว่าดีกว่าวิธีการจัดซื้อ ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) อย่างต่ำต้องอยู่ที่ 12% ด้านรูปแบบการประมูลอาจเป็นประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) หรือประกวดราคานานาชาติ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปในตอนนี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 05/03/2018 10:42 am Post subject: |
|
|
สั่งรถจักร SDA-3 แบบเดียวกะที่ทีพีไอใช้มาก็ดีนะ หรือ จะ SDA-4 มาก็ได้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/03/2018 6:33 pm Post subject: |
|
|
กทม.เร่งประสานการรถไฟฯพัฒนา คลองเสือดำ แก้ท่วมถ.ดินแดง-ถ.เพชรบุรีตัดใหม่
มติชนออนไลน์ วันที่ 5 มีนาคม 2561 - 17:41 น.
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ กทม. และสำนักงานเขตราชเทวี ลงพื้นที่ตรวจการพัฒนาคลองเสือดำ เขตราชเทวี
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่บริเวณคลองเสือดำและบึงเสือดำ เพื่อวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ช่วงซอยนานาเหนือ-คลองสามเสนใน ถนนดินแดง ถนนนิคมมักกะสัน และถนนกำแพงเพชร 7 โดยเฉพาะถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งจะมีคลองเสือดำและบึงเสือดำอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซ้ำถูกปิดใช้มาเป็นระยะเวลานาน กทม.จึงได้ประสาน รฟท.เพื่อขอความร่วมมือเข้าดำเนินการพัฒนาคลองเสือดำและบึงเสือดำ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ถึงแยกมิตรสัมพันธ์ ที่มักจะมีปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตก โดยจะทำการระบายน้ำผ่านคลองเสือดำลงสู่คลองแสนแสบ และอีกส่วนหนึ่งจะระบายสู่บึงมักกะสัน เพื่อจะระบายน้ำเข้าสู่อุโมงค์ระบายน้ำมักกะสันและอุโมงค์ระบายน้ำพระโขนงต่อไป
"เมื่อพัฒนาคลองเสือดำและบึงเสือดำนี้แล้วเสร็จ จะรองรับปริมาณน้ำได้เพิ่มมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนดินแดงและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 3 จุด ได้แก่ บริเวณสถานีสูบน้ำวัดมักกะสัน บริเวณสถานีสูบน้ำนิคมมักกะสัน และบริเวณประตูระบายน้ำบึงมักกะสัน ซึ่งคาดว่าการพัฒนาคลองเสือดำทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้" นายจักกพันธุ์ กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/03/2018 7:50 pm Post subject: |
|
|
"เสี่ยต้อยติ่ง" เฮ! ฟื้น "นิคมอุตฯอุดรธานี" หลัง สนข. ไฟเขียว "ท่าเรือทางบก"
ฐานเศรษฐกิจ 5 March 2018
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล (เสี่ยต้อยติ่ง) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด ผู้รับสิทธิดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ใช้เงินลงทุนหนึ่งหมื่นล้านบาท เเละโครงการนี้เคยประกาศหยุดการดำเนินโครงการฯ เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่มีความชัดเจนในเรื่องการตั้งศูนย์กระจายสินค้าทางรางในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี โดยศูนย์กระจายสินค้าทางรางเป็นจุดขายของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ. สำนักนโยบายเเละเเผนการขนส่งจราจร (สนข.) มีหนังสือลงนามโดย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผอ.สนข. ส่งถึงประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด เรื่องข้อเสนอโครงการท่าเรือบก (Inland Container Depot : ICD) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี โดยมีสาระหลักว่า
ตามหนังสือที่อ้างถึงนิคมอุตสหากรรมอุดรธานีได้เเจ้งข้อเสนอโครงการท่าเรือบก (Inland Container Depot : ICD) ในพื้นที่นิคมฯ เพื่อขออนุเคราะห์ในการพิจารณาเเละให้การสนับสนุนผลักดันข้อเสนอโครงการดังหล่าวโดยบรรจุในเเผนเเม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟสนับสนุนเขตเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเเละการพัฒนาพื้นที่นั้น
สนข. ได้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวเเล้วเห็นว่า การที่นิคมฯ เสนอใช้พื้นที่ของนิคมฯ ติดทางรถไฟเป็นจุดกองเก็บตู้สินค้าของจังหวัดนั้น เป็นเเนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง ดังนั้น สนข. จึงได้เสนอคณะกรรมการกำกับงานศึกษาเเผนเเม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวเเละการพัฒนาพื้นที่ พิจารณาการกำหนดพื้นที่เป็นลานกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard : CY) จากบริเวณสถานีหนองตะใภ้เป็นบริเวณพื้นที่นิคมฯ โดยบรรจุไว้ในเเผนเเม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวเเละการพัฒนาพื้นที่ในเเผนงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งสินค้าเป็นเเผนระยะกลาง (ปี 2565-69) เเละเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณามอบหมายให้การรถไฟฯ พิจารณาดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการนี้นายสุวิทย์ลงทุนเมื่อหลายปีก่อนในการตั้งศูนย์กระจายสินค้าทางรางเพื่อเป็นจุดขายของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ซึ่งหากมีศูนย์กระจายสินค้า จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าขนส่งให้กับผู้ลงทุนเเละจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกที่มีศูนย์กระจายสินค้าทางราง และเป็นจุดขายที่จะนำไปใช้เชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี
โดยบริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด เป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ในเขต ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี บนพื้นที่ 2,171 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการขยายตัวของเศรษฐกิจภายหลังการเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จ.อุดรธานี เป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เเละเป็นเมืองท่าที่สำคัญของภาคอีสานตอนบนที่ใช้กระจายสินค้าสู่หลายจังหวัดในประเทศไทย รวมถึง สปป.ลาว เชื่อมไปสู่จีน และเวียดนาม ที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ตั้งใน BOI โซน 3 อยู่ใกล้เส้นทางการขนส่งทั้งระบบราง ซึ่งมีทางรถไฟสายภาคตะวันออกฉียงเหนือผ่านติดกับพื้นที่ ทางถนนนั้นนิคมฯ เเห่งนี้ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ราวสองกิโลเมตรและห่างจากสนามบินนานาชาติอุดรธานี 14 กิโลเมตร |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44053
Location: NECTEC
|
Posted: 07/03/2018 10:58 am Post subject: |
|
|
'เยอรมัน'สอนวิศวกรรมระบบรางนศ.ไทย
6 มีนาคม 2561 - 18:04:00
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่กระทรวงคมนาคม ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างบัณทิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย - เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการเปิดหลักสูตรปริญญาโทร่วม 2 สถาบัน สาขาวิศวกรรมระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก นายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทยมาเป็นประธานในพิธี
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การพัฒนาระบบราง เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นการพัฒนาองค์ความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านระบบรางที่มีมาตรฐาน จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก แต่ทั้งนี้จะไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับการก่อสร้างเท่านั้น ยังรวมถึงการบริหารจัดการในทุกส่วนของระบบรางด้วย ซึ่งพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาบุคลากรของไทยให้มีองค์ความรู้ด้านระบบราง ทั้งเทคโนโลยี และวิศวกรรม เพื่อผลิตงานวิจัยและพัฒนาทางด้านระบบรางตามมาตรฐานของเยอรมันเพื่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบเทคโนโลยีระบบราง
ด้าน ผศ.ดร.สุพจน์เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรทางด้านระบบราง จึงจำเป็นต้องมีการต่อยอดเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งคาดว่าในอีก 4-5 ปี ข้างหน้าจะมีความต้องการบุคลากรด้านดังกล่าว 5,000 คนขึ้นไป อย่างไรก็ตามการเปิดหลักสูตรดังกล่าว จะเปิดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 61 เป็นปีแรก ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป รุ่นแรกรับนักศึกษา 10 คนก่อน จากนั้นภายใน 5 ปี คาดว่าจะมีนักศึกษาเพิ่มขึ้นเป็น 50 -100 คน
ศ.ดร.มณพิไลย นรสิงห์คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย เยอรมัน มจพ. กล่าวว่า หลักสูตรปริญญาโทร่วม 2 สถาบัน สาขาวิชาวิศวกรรมระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีระยะเวลาเรียน 3 ปี โดยนักศึกษาจะเรียนกับคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย RWTH Aachen ประเทศเยอรมัน อย่างน้อย 1 ปีการศึกษา และเรียนกับคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย เยอรมนี เป็นเวลา 1 ปีการศึกษา นักศึกษาทุกคนจะผ่านการฝึกงานภาคอุตสาหกรรมโดยเน้นในประเทศไทย หรือกลุ่มประเทศที่มีการดำเนินงานทางด้านระบบราง เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา รวมทั้งการทำวิทยานิพนธ์จากโจทย์อุตสาหกรรม เป็นเวลา 1 ปีการศึกษา โดยทุกกระบวนการจะเป็นไปตามมาตรฐานเยอรมัน
//-----------------------
ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ จับมือจุฬาฯ เปิดหลักสูตรปริญญาโทร่วม
วันที่ 6 มีนาคม 2561 - 16:36 น.
H.E. Mr. Peter Prügel เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน พร้อมด้วย คุณธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณพิไลย นรสิงห์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน (TGGS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กับ รศ. ดร. สุพจน์ เตชะวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เปิดหลักสูตรปริญญาโทร่วม 2 มหาวิทยาลัย (joint degree) สาขาวิศวกรรมระบบรางและโครงสร้างพื้นฐาน (Railway Vehicles and Infrastructure Engineering) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยอาเค่น แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน อีกทั้งหลักสูตรนี้เป็นการรองรับหลักสูตรปริญญาโทร่วม 3 มหาวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยอาเค่นในอนาคต
โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.วิไล รังสาดทอง รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มจพ. , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปมทอง มาลากุล ณ อยุธยา รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Prof. Dr. rer. Nat. Rudolf Mathar รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยอาเค่น ร่วมเป็น สักขีพยาน ณ กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/03/2018 7:34 am Post subject: |
|
|
ระทึก!EODพัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ
INN News 7 มีนาคม 2018
ระทึก! EOD พัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ พบเป็นเสื้อผ้าไม่ใช่ระเบิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดีจังหวัดพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เข้าตรวจสอบ กระเป๋าสีเขียวขนาดใหญ่น้ำหนักกว่า10 กิโลกรัม หลังพลเมืองดีแจ้งว่าพบกระเป๋าดังกล่าววางทิ้งไว้ตรงบริเวณสถานีรถไฟพัทลุง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา จนบ่าย ยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันบริเวณไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าโดยการนำผ้าปิดกันที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายหวั่นจะเกิดอันตราย และชาวบ้านที่พบเห็นกระเป๋าดังกล่าวต่างหวาดผวา
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่พบว่า ช่วงประมาณเวลา 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ได้มีผู้หญิงขับรถจักรยานยนต์ นำกระเป๋าใบดังกล่าวมาวางเอาไว้ แล้วขับรถจักรยายนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว จนเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ได้เข้าทำการตรวจสอบ โดยการลากกระเป๋าดังกล่าว ไปตามเส้นทางรถไฟห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 200 เมตร เพื่อเปิดกระเป๋า เนื่องจากตัวกระเป๋ามีการล๊อครหัสเอาไว้ทำให้เปิดด้วยมือเปล่าเป็นไปได้ยาก ซึ่งจากการเปิดกระเป๋าด้วยเชื้อปะทุของเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีพบว่าในกระเป๋าดังกล่าวข้างในบรรจุเสื้อผ้า และเอกสารหลักฐานใบอนุญาตขับขี่รถ ระบุชื่อ นางนันทนี อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/03/2018 7:34 am Post subject: |
|
|
ระทึก!EODพัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ
INN News 7 มีนาคม 2018
ระทึก! EOD พัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ พบเป็นเสื้อผ้าไม่ใช่ระเบิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดีจังหวัดพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เข้าตรวจสอบ กระเป๋าสีเขียวขนาดใหญ่น้ำหนักกว่า10 กิโลกรัม หลังพลเมืองดีแจ้งว่าพบกระเป๋าดังกล่าววางทิ้งไว้ตรงบริเวณสถานีรถไฟพัทลุง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา จนบ่าย ยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันบริเวณไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าโดยการนำผ้าปิดกันที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายหวั่นจะเกิดอันตราย และชาวบ้านที่พบเห็นกระเป๋าดังกล่าวต่างหวาดผวา
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่พบว่า ช่วงประมาณเวลา 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ได้มีผู้หญิงขับรถจักรยานยนต์ นำกระเป๋าใบดังกล่าวมาวางเอาไว้ แล้วขับรถจักรยายนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว จนเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ได้เข้าทำการตรวจสอบ โดยการลากกระเป๋าดังกล่าว ไปตามเส้นทางรถไฟห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 200 เมตร เพื่อเปิดกระเป๋า เนื่องจากตัวกระเป๋ามีการล๊อครหัสเอาไว้ทำให้เปิดด้วยมือเปล่าเป็นไปได้ยาก ซึ่งจากการเปิดกระเป๋าด้วยเชื้อปะทุของเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีพบว่าในกระเป๋าดังกล่าวข้างในบรรจุเสื้อผ้า และเอกสารหลักฐานใบอนุญาตขับขี่รถ ระบุชื่อ นางนันทนี อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47436
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/03/2018 7:35 am Post subject: |
|
|
ระทึก!EODพัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ
INN News 7 มีนาคม 2018
ระทึก! EOD พัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ พบเป็นเสื้อผ้าไม่ใช่ระเบิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดีจังหวัดพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เข้าตรวจสอบ กระเป๋าสีเขียวขนาดใหญ่น้ำหนักกว่า10 กิโลกรัม หลังพลเมืองดีแจ้งว่าพบกระเป๋าดังกล่าววางทิ้งไว้ตรงบริเวณสถานีรถไฟพัทลุง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา จนบ่าย ยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันบริเวณไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าโดยการนำผ้าปิดกันที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายหวั่นจะเกิดอันตราย และชาวบ้านที่พบเห็นกระเป๋าดังกล่าวต่างหวาดผวา
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่พบว่า ช่วงประมาณเวลา 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ได้มีผู้หญิงขับรถจักรยานยนต์ นำกระเป๋าใบดังกล่าวมาวางเอาไว้ แล้วขับรถจักรยายนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว จนเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ได้เข้าทำการตรวจสอบ โดยการลากกระเป๋าดังกล่าว ไปตามเส้นทางรถไฟห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 200 เมตร เพื่อเปิดกระเป๋า เนื่องจากตัวกระเป๋ามีการล๊อครหัสเอาไว้ทำให้เปิดด้วยมือเปล่าเป็นไปได้ยาก ซึ่งจากการเปิดกระเป๋าด้วยเชื้อปะทุของเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีพบว่าในกระเป๋าดังกล่าวข้างในบรรจุเสื้อผ้า และเอกสารหลักฐานใบอนุญาตขับขี่รถ ระบุชื่อ นางนันทนี อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี |
|
Back to top |
|
|
|