View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44054
Location: NECTEC
|
Posted: 29/06/2018 12:34 pm Post subject: |
|
|
ต้องแวะชิม! ข้าวแกงเขียวหวานไก่ถอดเสื้อ ของดีของหรอยที่ สถานีรถไฟเทพา
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561,13:45
เสียงระฆังดังขึ้น ที่นี่สถานีรถไฟเทพา อ.เทพา จ.สงขลา หนึ่งในอำเภอที่อยู่ติดกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ MGR Online ภาคใต้ จึงอยากพาไปรู้จัก ไก่ทอดเทพา ที่ขายในบริเวณสถานีรถไฟ ที่ตั้งในย่านผู้คนสัญจรไปมา ในราคาแบบชาวบ้านๆ
ไก่ทอดเทพาไร้หนัง หรือ ไก่ถอดเสื้อ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงชิ้นไก่ทอดที่ไร้หนัง กรอบนอกนุ่มใน แตกต่างจากไก่ทอดตามท้องตลาดที่อมมัน และติดหนัง ขายมานานจนเป็นของขึ้นชื่อของ อ.เทพา
น้าไก่ หนึ่งในแม่ค้าขายข้าวแกงไก่ทอดเทพา เล่าให้ฟังว่า ข้าวแกงไก่ทอดเทพา ป้าเล็กเป็นคนบุกเบิกมาพร้อมเพื่อนๆ ข้าวแกงไก่ทอดมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว เขาจะลอกหนังออกแล้วก็ทอด ถ้าใส่หนังเข้าไปด้วยก็จะทำอมมัน เวลาแห้งหนังไก่จะไม่อืด ถ้าเอาหนังออกจะไว้ข้ามคืนก็ได้ไม่เสีย และจะดูน่ากิน
ส่วนรสชาติแกงเขียวหวานจะไม่เหมือนตามท้องตลาดทั่วไป รสชาติจะออกหวานๆ จะหอมใบโหระพา ที่นี่จะไม่ใช้โฟม และจะใช้ใบตองเพราะมันเป็นธรรมชาติ กลิ่นใบตองกับข้าวมันจะผสมกัน ออกมาเป็นความหอมของใบตอง เขาได้อนุรักษ์มานานแล้ว และส่งผลดีกับผู้ที่มารับประทานด้วย ราคาข้าวแกงไก่ชุดละ 40 บาท
สุดท้าย น้าไก่บอกด้วยว่า อยากให้มาลองชิมข้าวแกงไก่ทอดเทพา ว่าแตกต่างกับที่อื่นอย่างไร มานั่งรับประทานกินบรรยากาศร่มรื่นที่สงบ และสบาย
ปัจจุบันมีแม่ค้าที่ยังคงขายข้าวแกงไก่ทอดเทพา ซึ่งขายมาอย่างยาวนาน จำนวน 8 คน เป็นพี่น้องชาวมุสลิม 6 คน และชาวไทยพุทธอีก 2 คน รสชาติของแกงเขียวหวานจะแตกต่างกันไปของแต่ละเจ้าที่ขาย แต่ไก่ทอดยังคงไร้หนัง กรอบนอกนุ่มในเหมือนกัน
การเดินทางมารับประทานก็ง่ายมากๆ สามารถนั่งรถไฟสายใต้ ปลายทาง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หรือรถตู้สายหาดใหญ่-สะบ้าย้อย ร้านตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟเทพา เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 02/07/2018 10:44 am Post subject: |
|
|
เร่งปั๊มรายได้ให้การรถไฟฯมั่นใจพลิกกำไรใน10ปี
ไทยโพสต์ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:34 น.
กุลิศ' กางแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟ เร่งปั๊มรายได้ส่งสินค้า-เชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าพลิกกำไรภายใน 10 ปี เผยทางคู่เฟส 1-2 ฉุดรายได้โต 300% ทะลุ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี เร่งปั้นพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 ทำเลทอง
นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าแผนฟื้นฟูกิจการของรฟท.นั้นจะเน้นไปที่การเพิ่มรายได้ด้านการขนส่งสินค้าทางรางจากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขนส่งผู้โดยสาร ผ่านการพัฒนารถไฟทางคู่เฟส 1 จำนวน 5 เส้นทาง เปิดเดินรถทั้งหมดปี 2565 และรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทางเปิดเดินรถปี 2570 เพื่อรองรับการเป็นฮับการขนส่งสินค้าของภูมิภาคเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านกระตุ้นการค้าด่านชายแดนไทย-ลาว ไทย-มาเลเซีย อีอีซี-กัมพูชาและเชื่อมต่อท่าเรือขนาดใหญ่อย่างแหลมฉบัง-ท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศเมียนมาร์
นายกุลิศ กล่าวว่าดังนั้นจึงต้องเน้นลงทุนพัฒนาย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าตู้สินค้า(Container Yard) และศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ตามแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 แปลงใหญ่มูลค่ามากกว่า 4 แสนล้านบาทได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ สถานีแม่น้ำและพื้นทีมักกะสัน คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับรฟท.อย่างมากในอนาคต
นอกจากนี้รฟท.จะพิจารณาเรื่องของการลดรายจ่ายขององค์กรเพื่อแก้ปัญหาหนี้สะสมอย่างเป็นระบบ ดังนั้นจึงเตรียมศึกษาเรื่องต้นทุนมาตรฐานการขนส่งทางรถไฟที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันมีรถไฟบางเส้นทางคิดค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนจริงมากจนเกิดความไม่คุ้มค่า ทำให้การปรับเพิ่มค่าโดยสารเป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในแผนฟื้นฟูกิจการ
อย่างไรก็ตาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รฟท.วางยุทธศาสตร์แผนฟื้นฟูให้ชัดเจนสามารถมองเห็นอนาคตได้ว่าภายใน 5-10 ปี รฟท.จะมีโครงการใดบ้างที่เข้ามาเพิ่มรายได้และมีแผนใดบ้างในการลดรายจ่ายรวมถึงการพัฒนาเส้นทางรถไฟตามแผนยุทธศาสตร์ชาติควรเดินหน้าอย่างไร
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ระบุว่าประมาณการรายได้ตามแผนการฟื้นฟูกิจการของรฟท.โดยอิงจากค่าโดยสารปัจจุบันได้ระบุว่าองค์กรจะกลับมามีกำไรอีกครั้งภายในเวลา 10 ปี หรือในปี 2570 จากปัจจัยด้านการเพิ่มขึ้นของรายได้การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นหลังจากทยอยเปิดรถไฟทางคู่ประกอบกับรายได้ด้านการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สามแปลงใหญ่ซึ่งจะเริ่มรัยรู้รายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้พบว่ารายได้ในปีดังกล่าวจะอยู่ที่ 4.02 หมื่นล้านบาทประกอบด้วยรายได้เดินรถ 2.46 หมื่นล้านบาทและรายได้เชิงพาณิชย์ 1.55 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 3.68 หมื่นล้านบาทประกอบด้วยรายจ่ายการเดินรถ 1.83 หมื่นล้านบาท รายจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ 1.55 หมื่นล้านบาทและรายจ่ายค่าบำเหน็จบำนาญ 2.96 พันล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรรวมทั้งสิ้น3.17 พันล้านบาท จากปัจจุบันในปี 2560ซึ่งมียอดขาดทุนถึง 1.24 หมื่นล้านบาท คิดเป็นรายได้9.16 พันล้านบาทและรายจ่ายทั้งหมด 2.15 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวกล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามรฟท.มองว่ารายได้ด้านเดินรถจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2565 หลังจากเปิดเดินรถไฟทางคู่เฟสที่ 1 ได้ครบทั้ง 5 เส้นทาง คาดว่าจะมีรายได้ด้านเดินรถในปีดังกล่าวที่ 1.14 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 85% จากปัจจุบัน 6.16 พันล้านบาท เช่นเดียวกับรายได้จากการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นในปี 2565 ดังทำให้จะมีรายได้เข้ามาราว1.34 หมื่นล้านบาทคิดเป็นการเติบโต 343% จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 3.03 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปี 2570 หลังจากที่เปิดเดินรถไฟทางคู่เฟส 2 ครบทั้ง 9 เส้นทางจะทำให้รายได้เดินรถเพิ่มขึ้นเป็น 2.46 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวที่ 299% เมื่อเทียบกับปี2560 ส่วนด้านรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์จะอยู่ที่ 1.55 หมื่นล้านบาทคิดเป็นการเติบโต 15% จากปี 2565
ทั้งนี้ด้านอุปสรรคที่จะเข้ามาเป็นตัวฉุดรายได้ในอนาคตนั้นคือดอกเบี้ยเงินกู้ของรฟท.ซึ่งมีปริมาณที่สูงมากขึ้นจากอัตราหนี้สะสมที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีจากภาระค่าโดยสารที่เก็บต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงโดยพบว่าในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้าค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยเงินกู้ในแต่ละปีจะสูงถึง 1.55 หมื่นล้านบาทคิดเป็นปริมาณการเติบโต 420% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.98 พันล้านบาท โดยค่าปริมาณการเติบโตดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 7.71 พันล้านบาทคิดเป็นการเติบโต 158% จากปี 2560 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/07/2018 6:53 pm Post subject: |
|
|
รฟท.จับมือไต้หวัน หาแนวทางพลิกโฉมหัวลำโพง สู่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ก.ค. 2561 18:35
รฟท.และมูลนิธิรถไฟไทย ร่วมจัดกิจกรรม ถกผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวันหาแนวทางในการพลิกโฉมสถานีรถไฟหัวลำโพงสู่การเป็น "พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย" ในอนาคต ล่าสุดร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป สื่อภาษาจีนเกี่ยวกับประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมทางรถไฟ "Renaissance in Siam I: The Future of Hua Lamphong Railway Station" ร่วมวิเคราะห์โครงสร้างหัวลำโพง พร้อมแนะเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม ในการรวมสิ่งของเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ พร้อมยกตัวอย่างความสำเร็จของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางวัฒนธรรมของไต้หวันกว่า 50 ตัวอย่าง
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.61 นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ตามโครงการสร้างเส้นทางรถไฟสายทรานส์เอเชียซึ่งมีการลงมติอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ที่ผ่านมา รวมถึงโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูงในประเทศซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว ระบบขนส่งคมนาคมทางรถไฟของประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ในอนาคตสถานีรถไฟบางซื่อจะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรถไฟแห่งใหม่ของประเทศไทย ส่วนสถานีหัวลำโพงซึ่งเป็นสถานีหลักในปัจจุบันจะถูกนำไปพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟ โดยล่าสุดจึงได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (TECO) เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่รอบเส้นทางรถไฟของสถานีรถไฟหัวลำโพงซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ถึงร้อยปีจะสามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไรโดยการหารือได้จัดกิจกรรมเยี่ยมชมพื้นที่ทางวัฒนธรรมของการรถไฟไทย (Site Visit of Thailand Railway Cultural Venue) โดยผู้เชี่ยวชาญจากการรถไฟแห่งประเทศไทยนำคณะนักวิชาการจากไต้หวันและผู้เข้าร่วมกิจกรรมชมห้องแสดงนิทรรศการวัฒนธรรมทางรถไฟภายในสถานีรถไฟหัวลำโพงรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือต่างๆ ในด้านการรถไฟ
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้เข้าชมระบบการขนส่งทางรถไฟแบบใหม่ของสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นสถานีรถไฟหลักของกรุงเทพฯ ในอนาคต นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมอภิปรายแบ่งปันประสบการณ์และทัศนะในหัวข้อพิพิธภัณฑ์การรถไฟระหว่างไต้หวันกับประเทศไทย (Taiwan-Thailand Railway Museum Experiences Sharing Forum) ซึ่งได้เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้ร่วมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน
นายสือ ป๋อ ซื่อ รองผู้แทนรัฐบาล สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยกล่าวว่ากรณีศูนย์กลางการขนส่งทางรถไฟของประเทศไทยกำลังจะย้ายจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปยังสถานีรถไฟบางซื่อซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ ทำให้เกิดประเด็นอภิปรายต่างๆ ในด้านการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สถานีรถไฟ การนำทรัพยากรเดิมกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการขยายและปรับเปลี่ยนสู่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟ ไต้หวันจึงขอนำประสบการณ์หลายสิบปีในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมทางรถไฟ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วยนักวิชาการด้านทางรถไฟและการอนุรักษ์วัฒนธรรมของไต้หวัน
ศาสตราจารย์หวงจวิ้นหมิงได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการริเริ่มโครงการพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทเปและงานด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรม พร้อมอภิปรายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โดยย่อของการรถไฟในไต้หวันและแผนแม่บทของพิพิธภัณฑ์กระทรวงการรถไฟที่เป่ย์เหมิน ศาสตราจารย์กัวสงอิ๋งได้ยกตัวอย่างเกี่ยวกับทางเดินใต้ดินของเส้นทางรถไฟในไทเป และอภิปรายการนำทรัพยากรทางวัฒนธรรมกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์และการวางโครงการพื้นที่เชิงอนุรักษ์ในเส้นทางเลียบทางรถไฟ
ดร.เฉิน กวน ฝู่ ผู้อำนวยการฝ่ายวัฒนธรรม สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย กล่าวถึงทรัพยากรทางวัฒนธรรมในไต้หวัน รวมถึงประวัติศาสตร์การพัฒนานโยบายด้านการนำทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีการแบ่งปันประสบการณ์จากกรณีศึกษาจริงในพื้นที่ต่างๆ กว่า 50 ตัวอย่างในการนำทรัพยากรทางวัฒนธรรมกลับมาใช้ใหม่ ในลักษณะการสร้างพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นถิ่นและพื้นที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั้งในเมืองไทเป เมืองเกาสง เมืองไถหนาน เมืองฮวาเหลียน และเมืองอื่นๆ สุดท้าย ได้นำเสนอข้อเสนอแนะ 5 ประการแก่ประเทศไทย ได้แก่ การบูรณาการร่วมกับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นในเขตเมืองเก่า และการจัดทำโครงการร่วมกับประชาชนในพื้นที่ในการรวบรวมสิ่งของสำหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งปันเรื่องราวจากกลุ่มคนรักรถไฟของไทย ที่ได้เดินทางไปยังไต้หวันเพื่อศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการรถไฟของไต้หวัน ในการสร้างและพัฒนาเส้นทางรถไฟใหม่ของไต้หวันแต่ยังคงมีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิมไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางรถไฟ อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ หลังจากนี้อีกไม่นาน สถานีรถไฟความเร็วสูงของไต้หวันจะมีการสร้าง "ศูนย์การเรียนรู้รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน" ซึ่งจะจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ทดลองสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ด้วยตนเอง อาทิ ห้องจำลองการทำงานของพนักงานขับรถไฟ เป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่างที่ประเทศไทยสามารถนำไปศึกษาและต่อยอดได้ในอนาคต |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44054
Location: NECTEC
|
Posted: 08/07/2018 3:09 am Post subject: |
|
|
ลงทะเบียนวันแรก! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อใช้บริการรถไฟฟ้าฟรี
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21:30
ปรับปรุง: 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21:37
ประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้าฟรี โดยเปิดให้บริการเป็นวันแรก ณ สถานีรถไฟฟ้า (MRT) เตาปูน
วันนี้ (6 ก.ค.) ภาพบรรยากาศประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้มีรายได้น้อย เป็นวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้าฟรี โดยเปิดให้บริการเป็นวันแรก ณ สถานีรถไฟฟ้า (MRT) สายสีม่วง เตาปูน
สำหรับการลงทะเบียนทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยตั้งแต่วันนี้ 6 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2561 เวลา 11.00 - 20.00 น. ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ทุกสถานี สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน โดยจะใช้เวลาขึ้นทะเบียนประมาณ 5 วินาที ซึ่งจากขั้นตอนดังกล่าวบัตรสวัสดิการก็จะสามารถใช้งานได้กับรถไฟฟ้าในวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 44054
Location: NECTEC
|
Posted: 09/07/2018 10:52 am Post subject: |
|
|
รฟท.-ไต้หวันพลิกโฉมหัวลำโพง
5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และมูลนิธิรถไฟไทยร่วมจัดงานพลิกโฉมสถานีรถไฟหัวลำโพงสู่การเป็น พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย พร้อมร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (TECO) VISION THAI จัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมทางรถไฟ Renaissance in Siam I: The Future of Hua Lamphong Railway Station
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามโครงการสร้างเส้นทางรถไฟสายทรานส์เอเชีย และโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทยจะส่งผลให้ระบบขนส่งคมนาคมทางรถไฟของไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในอนาคตสถานีรถไฟบางซื่อจะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรถไฟแห่งใหม่ ส่วนสถานีหัวลำโพงซึ่งเป็นสถานีหลักในปัจจุบัน จะถูกพัฒนาไปเป็นพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟ ซึ่งล่าสุดได้หารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (TECO) เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่รอบเส้นทางรถไฟสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ถึงร้อยปีว่าจะสามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร พร้อมจัดกิจกรรมเยี่ยมชมพื้นที่ทางวัฒนธรรมของการรถไฟไทย (Site Visit of Thailand Railway Cultural Venue) โดยผู้เชี่ยวชาญจากการรถไฟแห่งประเทศไทยได้นำคณะนักวิชาการจากไต้หวันและผู้ร่วมกิจกรรมเข้าชมห้องแสดงนิทรรศการวัฒนธรรมทางรถไฟภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือต่างๆ ในด้านการรถไฟ รวมทั้งได้นำชมระบบการขนส่งทางรถไฟแบบใหม่ของสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นสถานีรถไฟหลักของกรุงเทพฯ
ด้าน นายสือ ป๋อ ซื่อ รองผู้แทนรัฐบาล สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย กล่าวว่า กรณีศูนย์กลางการขนส่งทางรถไฟของไทยกำลังจะย้ายจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปยังสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ ทำให้เป็นห่วงด้านการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สถานีรถไฟ การนำทรัพยากรเดิมกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการขยายและปรับเปลี่ยนสู่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟ ดังนั้นไต้หวันจึงได้นำประสบการณ์หลายสิบปีด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมทางรถไฟ เกี่ยวกับการริเริ่มโครงการพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทเปและงานด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมมาแบ่งปันเพื่อนำไปปรับใช้กับประเทศไทยต่อไป
ดร. เฉิน กวน ฝู่ ผู้อำนวยการฝ่ายวัฒนธรรม สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย กล่าวว่า ไต้หวันได้นำประสบการณ์กรณีศึกษาจริงในพื้นที่ต่างๆ กว่า 50 ตัวอย่าง เกี่ยวกับการนำทรัพยากรทางวัฒนธรรมกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงประวัติศาสตร์การพัฒนานโยบายด้านการนำทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในลักษณะการสร้างพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นถิ่นและพื้นที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั้งในเมืองไทเป เมืองเกาสง เมืองไถหนาน เมืองฮวาเหลียน และเมืองอื่นๆมาให้ประเทศไทยได้ศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง พร้อมกันนี้ยังมีข้อเสนอแนะให้ไทยบูรณาการร่วมกับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นในเขตเมืองเก่า และจัดทำโครงการร่วมกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อรวบรวมสิ่งของสำหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ด้วย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 11/07/2018 10:41 am Post subject: |
|
|
จับลอบขนซากหมูป่า1,000กก. ขึ้นรถไฟพบไร้ใบอนุญาต
เดลินิวส์ อังคารที่ 10 กรกฎาคม 2561 เวลา 22.07 น.
ปศุสัตว์บุกจับกุมการลักลอบเคลื่อนย้ายซากหมูป่า 1,000 กก. มูลค่ากว่า 1.6 แสนบาทขึ้นรถไฟด่วนพิเศษขบวนสุไหงโก-ลก-กรุงเทพ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ประจําท้องที่ต้นทาง
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กลุ่มด่านกักกันสัตว์ที่ 9 ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่นำกำลังตรวจสอบขบวนรถไฟด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38 สุไหงโก-ลก กรุงเทพฯ ซึ่งเข้าชานชลาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเวลา 18.00น.จากการตรวจค้น พบซากสัตว์ (หมูป่า) ชำแหละแล้วแช่น้ำแข็ง บรรจุในภาชนะสีขาว (ลังโฟม) จำนวน 31 ลัง น้ำหนักรวมประมาณ 1,000 กิโลกรัม วางปะปนอยู่ในตู้เก็บพัสดุส่งสินค้าในขบวนรถไฟดังกล่าว
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ดูแลตู้สินค้า แจ้งว่าไม่ทราบเป็นของผู้ใด เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจึงได้ตรวจยึดของกลางข้างต้น นำส่งพนักงานสอบสวนสถานี ตารวจภูธรอำเภอหาดใหญ่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ด้านนายสรยุทธ สีขาว หัวหน้าด่านกักกันสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ได้ของกลางเป็นซากหมูป่า 31 ลัง น้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 160,000 บาท. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/07/2018 2:25 pm Post subject: |
|
|
แขวงโรงงานอุตรดิตถ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นพัฒนาคน ยกระดับคุณภาพการให้บริการขนส่งทางรางที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงรถโดยสารในเขตภาคเหนือ และการบริหารจัดการที่ดีส่งเสริมการแข่งขันของประเทศ
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 12 ก.ค. 2561
http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNSOC6107120010031
นายวัชรชาญ สิริสุวรรณทัศน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แขวงโรงงานอุตรดิตถ์ จัดงาน open house มุ่งเน้นพัฒนาคน เพื่อให้คนไปพัฒนาพื้นที่ พัฒนาปรับปรุงระบบงาน และพัฒนาองค์กร ซึ่งเป็นต้นแบบการอนุรักษ์และการพัฒนาจัดการพื้นที่ สะอาด สะดวก และมีประสิทธิภาพ เป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงรถโดยสารในเขตภาคเหนือ ซ่อมรถโดยสารภาระหนัก ปานกลาง และรถนอกวาระ ซ่อมและส่งอะไหล่ที่จำเป็นในการซ่อมบำรุงที่มีความสำคัญมากในภูมิภาค มุ่งเน้นการให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการและเพิ่มการพัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกในการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การยกระดับคุณภาพการให้บริการขนส่งทางรางที่ทันสมัยและการบริหารจัดการที่ดีส่งเสริมการแข่งขันของประเทศ
วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ดำเนินการให้บริการขนส่งเชิงสังคม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและประเทศ ตอบสนองนโยบายในการให้บริการขนส่งราคาต่ำ และมีประสิทธิภาพของภาครัฐ ในการพัฒนาขยายและเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่ง พัฒนาปรับปรุงระบบงานให้มีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มศักยภาพของพนักงานมุ่งไปสู่มาตรฐานสากล
นายเสถียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวขอบคุณพนักงาน และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทุ่มเทพัฒนาระบบงาน ซ่อมบำรุงรถจักร ล้อเลื่อน และอื่นๆ เพื่อพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อจังหวัด และการรถไฟอีกด้วย
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : โกเมศ ช่วยบุญ
ผู้เรียบเรียง : สุนทรี ทับมาโนช
แหล่งที่มา : สวท.อุตรดิตถ์ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47448
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
|