View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
Posted: 26/12/2018 12:30 pm Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.หนี้ท่วมกว่า 1.04 แสนล้าน ครม.เคาะปี 62 กู้ 1.2 หมื่นล้านโปะขาดทุน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 17:45
ปรับปรุง: 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 10:17
ร.ฟ.ท.ขาดทุนสะสมทะลุ 1.5 แสนล้าน ส่วนยอดหนี้กว่า 1.04 แสนล้าน ปี 62 อ่วมยังขาดทุนต่อเนื่อง ครม.อนุมัติกู้ 1.2 หมื่นล้านเสริมสภาพคล่อง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ธ.ค. มีมติเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กู้เงิน จำนวน 12,000 ล้านบาทเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งดำเนินการตาม พ.ร.บ.การรถไฟฯ พ.ศ. 2594 มาตรา 39 (4) โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดความเหมาะสม พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในการกู้เงิน
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทำให้ขาดทุนสะสมตั้งแต่ปี 2550-2560 จำนวน 158,606.293 ล้านบาท และต้องกู้เงินมาดำเนินงานทุกปี โดยมีหนี้สินสะสมถึง ณ วันที่ 30 ก.ย. 2561 จำนวน 104,581.036 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน 800 ล้านบาท กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อีก 1 ปี ตั้งแต่ 30 มี.ค. 62-29 มี.ค. 63 เพื่อเป็นเงินกู้ระยะสั้น สำรองเสริมสภาพคล่องช่วงที่เงินสดขาดมือ
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ประสบปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายทำให้ขาดทุน เนื่องจากไม่มีการปรับค่าขนส่งให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2528 ขณะที่รัฐชดเชยการขาดทุนให้จำกัด และยังมีภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทาง รถจักรและล้อเลื่อนจำนวนมาก
โดยในปี 2562 คาดว่าจะมีเงินสดรับ 53,312.632 ล้านบาท (รายได้จากการดำเนินงาน 11,505 ล้านบาท เงินกู้เพื่อชำระหนี้ครบกำหนด 35,814.56 ล้านบาท และเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดหาให้ 5,993.072 ล้านบาท) และเงินสดจ่าย 65,412.632 ล้านบาท โดยมีเงินสดยกมาจากปี 2561 จำนวน 100 ล้านบาท ทำให้ ร.ฟ.ท.ขาดเงินสดใช้จ่ายที่ 12,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.ได้ให้ ร.ฟ.ท.รับฟังความเห็นขอบกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการ ในการต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้น ร.ฟ.ท.ควรพิจารณาคักเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการประมูลใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะทำสัญญาต่อไป เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านต้นทุนที่เหมาะสมตามอัตราดอกเบี้ยตลาด
และควรเร่งรัดดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ร.ฟ.ท.ให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม
ควรพิจารณาการกู้เงินในวงเงินและระยะเวลาที่เหมาะสม สร้างวินัยทางการเงินการคลัง และไม่เป็นภาระต่อองค์กรมากเกินความจำเป็น ให้ ร.ฟ.ท.ดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติ ครม. หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และควรจัดทำรายงานผลการให้บริการสาธารณะ (PSO) ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในบันทึกข้อตกลงการให้บริการสาธารณะ เพื่อให้ได้รับเงินชดเชยบริการอุดหนุนสาธารณะตามระยะเวลาที่กำหนด |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
Posted: 26/12/2018 9:30 pm Post subject: |
|
|
การรถไฟฯ ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ บำเพ็ญประโยชน์ ปรับภูมิทัศน์คูคลองสองข้างทางรถไฟ
********************************
วันนี้ (26 ธันวาคม 2561) กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร(สำนักงานเขตบางซื่อ) สำนักการระบายน้ำ ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ พัฒนาคลองเปรมประชากร และคูคลองที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพัฒนาพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ประกอบด้วย คูน้ำปลายซอยโชติวัฒน์ คูน้ำริมทางรถไฟสายใต้ คูน้ำซอยพ่วงทรัพย์ และคูน้ำหลังแฟลตตำรวจรถไฟ เพื่อเป็นการรวมพลังสามัคคีของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมทั้งชุมชน และประชาชนที่มีจิตอาสาในพื้นที่เขตบางซื่อ ณ บริเวณชุมชนโชติวัฒน์ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยมี พลเรือตรี ภิญโญ โตเลี้ยง ผู้ชำนาญการทหารเรือ เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี โดยมีนายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ เป็นผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
การจัดกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ คลองเปรมประชากรให้มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย จัดเก็บขยะริมคลอง ให้คลองสะอาด ปลอดขยะตลอดแนวคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการรณรงค์พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์รอบคลองเปรมประชากรให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน
ซึ่งในวันนี้ มีกำลังพล และจิตอาสาเข้ามาร่วมทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เป็นจำนวนมาก จิตอาสาต่างร่วมมือร่วมใจกันบำเพ็ญประโยชน์ ปฏิบัติภารกิจตามวัตถุประสงค์ในการขุดลอกคูคลอง กำจัดขยะ และปรับภูมิทัศน์โดยรอบ ตัดแต่งกิ่งไม้ ทำให้ภูมิทัศน์สวยงาม สะอาด และการระบายน้ำในคลองไหลสะดวก ไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ตลอดจนสภาพแวดล้อมพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ สะอาด สวยงาม ร่มรื่น
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2468062976541892 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
Posted: 02/01/2019 1:51 pm Post subject: |
|
|
ในปี2562 มีงานระบบรางหลายงานที่ต้องผลักดันต่อเนื่อง
รฟท.
1.งานรถไฟทางคู่และทางสายใหม่
1.1เปิดใช้ทางคู่2เส้นทางช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
1.2 เร่งก่อสร้างทางคู่ ระยะที่1 จำนวน5เส้นทาง และขอนแก่น-หนองคาย พร้อมทั้งติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ครบทุกสัญญา
1.3 เสนอครม.อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย และทางสายใหม่ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และทางคู่เฟส 2ที่จำเป็น
2.เริ่มดำเนินการปรับปรุงทางรถไฟ เพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแรงทางรถไฟ 7 เส้นทาง ได้แก่
2.1 วงเวียนใหญ่-มหาชัย
2.2 ทางรถไฟเข้าท่าเรือจุกเสม็ด พร้อมก่อสร้างสถานีอู่ตะเภา
2.3 สายแม่น้ำ
2.4 ช่วงฉะเชิงเทรา-ชท.คลองสิบเก้า
2.5 ช่วงชท.คลองสิบเก้า-แก่งคอย
2.6 หัวตะเข้-ฉะเชิงเทรา
2.7หาดใหญ่-ควนมีด
3.โครงการรถไฟความเร็วสูง
3.1 ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-นครราชสีมาครบทุกสัญญา
3.2ดำเนินการออกแบบรายละเอียดรถไฟความเร็วสูงช่วงนครราชสีมา-หนองคาย
4.โครงการรถไฟชานเมือง
4.1เสนอครม.อนุมัติก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) 3 ช่วง ได้แก่ รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, ตลิ่งชัน-ศาลายา,ตลิ่งชัน-ศิริราช
4.2เสนอ ครม.อนุมัติการเปลี่ยนแปลงโครงการ Missing Link
5. การเดินรถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 2เส้นทาง
5.1 การเดินรถไฟไทย-กัมพูชา ผ่านอรัญประเทศ-ปอยเปต
5.2การเดินรถไฟขนส่งสินค้าไทย-สปป.ลาว ช่วงหนองคาย-ท่านาแล้ง
6.การจัดหารถจักรและล้อเลื่อน รวมทั้งการปรับปรุงล้อเลื่อน
6.1การจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 16ตัน/เพลา จำนวน 50คัน
6.2 การจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ 184คันและดีเซลราง216คัน
6.3 จัดหารถสับเปลี่ยน20 คัน
6.4 การจัดหา บทต.1,000คัน
6.5 ดัดแปลงโบกี้ไฟฟ้ากำลัง 8+12 คัน
6.6 ดัดแปลงและปรับปรุงรถ ห้ามล้อจากระบบลมดูดเป็นระบบลมอัด 197คัน
6.7ปรับปรุงรถโบกี้ชั้นสาม (บชส.)
6.8 ปรับปรุงห้องสุขารถชั้น 2 เป็นระบบสูญญากาศ พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ใหม่ 54คัน
7.โครงการก่อสร้างรองรับรถจักรและล้อเลื่อน
7.1เร่งก่อสร้างโรงรถจักรแก่งคอย
7.2 ก่อสร้างโรงซ่อมรถจักรศรีราชา และอาคารที่ทำการหน่วย 10 ลาดกระบัง
7.3ก่อสร้างโรงรถโดยสารประเภทชุด พร้อมเครื่องจักร บ้านพักพนักงาน ที่สุพรรณบุรี
8.kickoff การพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางไทย
9.การบริหารงาน เร่งผลักดัน
9.1 การปรับโครงสร้างองค์กร รฟท.
9.2 การจัดตั้งบริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด
9.3 การจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อปฏิบัติการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟชานเมืองสายสีแดง
9.4 การบริหารจัดการพื้นที่โรงแรมรถไฟหัวหิน
9.5 การบริหารจัดการพื้นที่โรงงานมักกะสัน
9.6 การรับสมัครพนักงาน รฟท.1,904 อัตรา
9.7 การบริหารจัดการ ICD ลาดกระบัง
10. PPP ที่ดินรถไฟแปลงใหญ่ เช่น บางซื่อ กม.11 แม่น้ำ
รฟฟท.
1.ให้บริการรถไฟฟ้าครบ 9ขบวน
2. ก่อสร้าง sky walk ที่บ้านทับช้าง
รฟม.
1.เร่งรัดกำกับติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติ
2. เปิดให้บริการสะพานข้ามแยกรัชโยธินและสะพานข้ามแยกเสนานิคม
3.เปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว
4.สนับสนุนให้ ครม.อนุมัติ 2 เส้นทาง สีม่วงใต้ บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนภิเษก) และสีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-บางขุนนนท์)
5.ศึกษาและจัดทำรายงานPPP ระบบขนส่งมวลชนในเมืองภูมิภาค 3เมือง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต (รวมจ.พังงา) แหละนครราชสีมา
อื่นๆ
1.การปรับปรุงบัตรตั๋วร่วม
2.การจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง
3.จัดทำร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง เพื่อ ให้มีผลบังคับใช้
4.เริ่มจัดทำใบอนุญาตผู้ควบคุมรถไฟความเร็วสูง/รถไฟฟ้า
5.การจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาระบบราง
6.การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2092606880786246 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46886
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 07/01/2019 7:22 am Post subject: |
|
|
หมดสัญญา ! รฟท.เลิกจ่ายค่าจ้างวุฒิชาติ 31ม.ค.62
เผยแพร่: 7 ม.ค. 2562 06:22 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
รฟท.โล่งวุฒิชาติพ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯรฟท. ตามสัญญา จ้าง หมดภาระจ่ายผลตอบแทน 3.7 แสน /ด. ตั้งแต่ 3 1 ม.ค. 62 ระบุหลังถูกคำสั่งคสช.ม.44 เด้งเข้าสำนักนายกฯ แต่ได้รับเงินเดือนปกติ ลุ้นบอร์ดเปิดสรรหาฯใหม่
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่ มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2560 เรื่อง การปรับปรุงการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าฯ รฟท. พ้นจากตําแหน่ง และให้ไปดํารงตําแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2560 นั้น
ซึ่ง รฟท.ยังต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนให้นายวุฒิชาติ ตามสัญญาจ้างในอัตราเงินเดือน 370,000 บาท รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษประจำปี และสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับ ตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้ว มาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานให้รฟท.แล้ว
โดยในวันที่ 31 ม.ค.2562 นี้ สัญญาจ้างจะครบระยะเวลา4 ปี ซึ่งรฟท.จะหยุดจ่ายค่าตอบแทน เพราะถือว่าสัญญาจ้างได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยหลังจากนี้ เป็นอำนาจของคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จะพิจารณาว่าจะเปิดสรรหาผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ต่อไป อย่างไร
โดยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งไม่สามารถสรรหาผู้ว่าฯรฟท.ได้นั้น ได้มีการตั้งรักษาการผู้ว่าฯรฟท. ได้แก่ นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ซึ่งได้ผลักดันเปิดประมูลและก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะแรก 5 เส้นทาง ไปแล้ว
ปัจจุบัน มีนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟท. โดยได้มีการขับเคลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือไทย-จีน เสนทาง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ,โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอขออนุมัติ รถไฟทางคู่ เฟส2 ส่วนที่เหลือ เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46886
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 07/01/2019 12:48 pm Post subject: |
|
|
รฟท.จับมือสวทช.วิจัยพัฒนาระบบราง
INN News 7 มกราคม 2019 - 12:07
รฟท. จับมือ สวทช. พัฒนาด้านการวิจัยและส่งเสริมมาตรฐานการทดสอบผลิตภัณฑ์ระบบรางเล็งเป็นผู้ผลิตส่งออกในอนาคต
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตําแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและส่งเสริมมาตรฐานการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบรางระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมเปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสําคัญต่อการพัฒนาระบบขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะระบบรางให้มีความทันสมัยเทียบเท่านานาประเทศ พร้อมกับจัดทำยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่งระบบรางของประเทศ รฟท. จึงจัดทําข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและส่งเสริมมาตรฐานการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบรางกับสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อส่งเสริมมาตรฐานและการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบราง การยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านระบบรางในประเทศไทย ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งทางรางของประเทศไทยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ในระยะเริ่มต้นจะส่งเสริมมาตรฐานและการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบราง ในชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนน้อยก่อนจากนั้นจะต่อยอดไปผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนสูงขึ้นต่อไป เพื่อลดภาระการนําเข้าสินค้า การสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ รวมถึงเตรียมพร้อมสู่การขยายโครงข่ายระบบขนส่งทางรางในอนาคต ซึ่งเป็นโมเดลที่สอดคล้องกับหลายประเทศที่ได้มีการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งทางรางเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ระบบรางของไทย และพัฒนาสถานะประเทศไทยจากประเทศผู้ซื้อ มาเป็นประเทศผู้ผลิตเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมภายในประเทศ ตลอดจนช่วยขยายขีดความสามารถของไทยให้กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์รถไฟได้ในอนาคต |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
Posted: 08/01/2019 12:27 am Post subject: |
|
|
ผนึกกำลังผลิตชิ้นส่วนรถไฟในไทย
จันทร์ที่ 7 มกราคม 2562 เวลา 17.49 น.
รฟท. จับมือ สวทช. ช่วยทดสอบ ตรวจสอบรับรองผลิตภัณฑ์ในระบบรางให้เป็นมาตรฐานสากล หนุนผลิตชิ้นส่วนรถไฟในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งทางรางไทย
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน และรักษาการผู้ว่า รฟท. พร้อมด้วยนายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ทำพิธีลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและส่งเสริมมาตรฐานการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบรางระหว่าง รฟท. กับ สวทช. โดยนายวรวุฒิ กล่าวว่า ระบบรางมีบทบาทในการขนส่งของประเทศหลายระบบ ทั้งระบบรถไฟขนส่งในเมือง ระหว่างเมือง และรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) การลงนามครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนารถไฟยุคใหม่ เพื่อส่งเสริมมาตรฐาน และการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบราง รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การพัฒนาชิ้นส่วนอุปกรณ์รถไฟที่มีศักยภาพการผลิตในประเทศ เช่น วัสดุทางรถไฟ และวัสดุอื่นๆ
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า การพัฒนาวิจัยจะเน้นที่ระบบทาง และเครื่องยนต์บางชิ้นที่สามารถผลิตเองได้ ซึ่งเมื่องานวิจัยเสร็จแล้วในระยะแรกอาจไม่ได้ช่วยลดต้นทุน แต่จะส่งเสริมการผลิตมากกว่า เช่น รถสินค้า ตัวโครงประทาน สปิง และเบรก เหล่านี้สามารถใช้เหล็กผลิตในประเทศได้ อย่างไรก็ตามการผลิตรถทั้งคัน คงเป็นไปได้ยาก แต่หากส่งเสริมให้ใช้สิ่งของภายในประเทศทำให้ต้นทุนเทียบเคียงกับที่นำเข้ามาจากต่างประเทศก็ประสบความสำเร็จแล้ว ส่วนการช่วยลดต้นทุนนั้นต้องดูในระยะยาวต่อไป อย่างไรก็ตามภายในปี 62 จะเร่งรัดร่างขอบเขตของการประกวดราคา (ทีโออาร์) เชิญชวนนานาชาติมาลงทุน และถ่ายทอดเทคโนโลยีเรื่องดังกล่าวต่อไป
ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า สวทช. จะเข้ามาสนับสนุนเรื่องการวิเคราะห์และทดสอบ เพราะชิ้นส่วนต่างๆ จะต้องผ่านการวิเคราะห์และทดสอบ ซึ่งมาตรฐานต่างๆ ตามประกาศของ รฟท. นั้น สวทช. เคยให้การสนับสนุนวิเคราะห์และทดสอบแล้ว นอกจากนี้จะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในการยกระดับการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมอื่นเข้าอยู่ในระบบราง ทั้งนี้ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยนั้น คงขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนของแต่ละประเภท ซึ่งหากเกี่ยวกับเครื่องจักร และเครื่องกล อาจใช้ระยะเวลาสั้นกว่าเรื่องที่เกี่ยวกับอิเลคทรอนิกส์ เพราะเครื่องจักร เครื่องกล ใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับวัสดุศาสตร์ และการออกแบบ ส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มีการวิเคราะห์ และทดสอบรายละเอียดที่ยุ่งยากมากขึ้น
//---------------------------------
ฟื้นงานวิจัย-พัฒนา การรถไฟฯจับมือ สวทช.ลุยงานศึกษาเทียบชั้นต่างประเทศ
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 7 มกราคม 2562 - 11:48 น.
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การลงนามด้านการวิจัยและส่งเสริมมาตรฐานการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบรางร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารถไฟยุคใหม่ จากเดิมที่ ร.ฟ.ท.จะพัฒนาวิจัยและสร้างขบวนรถเองตั้งแต่ก่อตั้งใหม่เมื่อปี 2494 จนถึงยุคหนึ่งจึงเลิกวิจัยและพัฒนา เนื่องจากไม่คุ้มค่า มาใช้การจัดซื้อจัดจ้างอย่างเดียว
แต่ในปัจจุบันระบบรางในประเทศขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในการเดินทาง โดยจากที่รัฐบาลมีนโยบายลงทุนก่อสร้างมากขึ้น ทั้งระบบขนส่งสาธารณะภายในเมือง (รถไฟฟ้า) ระหว่างเมือง (ทางคู่) และรถไฟความเร็วสูง ร.ฟ.ท.จึงหันกลับมาเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนาอีกครั้ง หลังจากที่หยุดพัฒนามานาน เพื่อให้มีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ
ในระยะเริ่มต้นจะเน้นที่ระบบทางและเครื่องยนต์บางตัว ที่การรถไฟฯสามารถผลิตเองได้ก่อน แต่คงไม่ผลิตทั้งระบบ เพราะมีบางส่วนติดสิทธิบัตร อาจจะแบ่งผลิตเป็นส่วนๆก่อน โดยใช้ของที่ผลิตอยู่แล้วภายในประเทศ เพื่อต่อยอดกานผลิตในอนาคต อย่างไรก็ตามคงยังไม่คิดถึงขั้นตั้งเป็นโรงงานผลิต เพราะตลาดยังเล็ก ลงทุนไม่คุ้มค่า
นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การลงนามดังกล่าวในช่วงแรก ต้นทุนการผลิตของการรถไฟฯอาจจะไม่ได้ลดลงมาก แต่จะไปส่งเสริมการผลิตภายในประเทศแทน เช่น การผลิตรถสินค้า ตัวโครงรถสามารถใช้เหล็กที่ผลิตภายในประเทศได้ หรือเหล็กคอพ่วงที่ต้องสั่งจากต่างประเทศ ก็จะพยายามใช้วัตถุดิบที่ผลอตภายประเทศมากขึ้น ส่วนชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่ที่มีความซับซ้อนและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็ต้องใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติมก่อน
โครงการที่จะนำร่องเป็นโครงการแรกคือ การผลิตรถสินค้าทั้งคัน เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูงมาก ซึ่งได้พูดคุยกับสมาคมอุตสาหกรรมเหล็กไทยว่า ประเทศไทยสามารถผลิตเหล็กเหนียวได้เองหรือไม่ ถ้าได้ก็จะเป็นการลดต้นทุนด้านการนำเข้าลงและเป็นการสร้างงานภายในประเทศด้วย โดยภายในปีนี้ทีโออาร์ เขิญชวนลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจะแล้วเสร็จ โดยจะเชิญชวนทั้งไทยและและต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนด้วย
ด้าน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสวทช. กล่าวว่า สวทช.จะเข้ามาสนับสนุนด้านการวิเคราะห์และการทดสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่ตามมาตรฐานของการรถไฟฯ และการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะยกระดับการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่กระจายอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ เข้ามารวมในอุตสาหกรรมระบบรางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เบื้องต้น ระยะเวลาการวิจัยและพัฒนาต้องขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนของแต่ละประเภท หากเป็นชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องกลจะใช้เวลาศึกษาน้อยกว่าชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ เพราะต้องใช้เวลามากขึ้นและซับซ้อนกว่า
Last edited by Wisarut on 08/01/2019 1:13 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
Posted: 08/01/2019 12:27 am Post subject: |
|
|
ฟื้นงานวิจัย-พัฒนา การรถไฟฯจับมือ สวทช.ลุยงานศึกษาเทียบชั้นต่างประเทศ
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 7 มกราคม 2562 - 11:48 น.
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การลงนามด้านการวิจัยและส่งเสริมมาตรฐานการทดสอบสําหรับผลิตภัณฑ์ระบบรางร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารถไฟยุคใหม่ จากเดิมที่ ร.ฟ.ท.จะพัฒนาวิจัยและสร้างขบวนรถเองตั้งแต่ก่อตั้งใหม่เมื่อปี 2494 จนถึงยุคหนึ่งจึงเลิกวิจัยและพัฒนา เนื่องจากไม่คุ้มค่า มาใช้การจัดซื้อจัดจ้างอย่างเดียว
แต่ในปัจจุบันระบบรางในประเทศขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในการเดินทาง โดยจากที่รัฐบาลมีนโยบายลงทุนก่อสร้างมากขึ้น ทั้งระบบขนส่งสาธารณะภายในเมือง (รถไฟฟ้า) ระหว่างเมือง (ทางคู่) และรถไฟความเร็วสูง ร.ฟ.ท.จึงหันกลับมาเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนาอีกครั้ง หลังจากที่หยุดพัฒนามานาน เพื่อให้มีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ
ในระยะเริ่มต้นจะเน้นที่ระบบทางและเครื่องยนต์บางตัว ที่การรถไฟฯสามารถผลิตเองได้ก่อน แต่คงไม่ผลิตทั้งระบบ เพราะมีบางส่วนติดสิทธิบัตร อาจจะแบ่งผลิตเป็นส่วนๆก่อน โดยใช้ของที่ผลิตอยู่แล้วภายในประเทศ เพื่อต่อยอดกานผลิตในอนาคต อย่างไรก็ตามคงยังไม่คิดถึงขั้นตั้งเป็นโรงงานผลิต เพราะตลาดยังเล็ก ลงทุนไม่คุ้มค่า
นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การลงนามดังกล่าวในช่วงแรก ต้นทุนการผลิตของการรถไฟฯอาจจะไม่ได้ลดลงมาก แต่จะไปส่งเสริมการผลิตภายในประเทศแทน เช่น การผลิตรถสินค้า ตัวโครงรถสามารถใช้เหล็กที่ผลิตภายในประเทศได้ หรือเหล็กคอพ่วงที่ต้องสั่งจากต่างประเทศ ก็จะพยายามใช้วัตถุดิบที่ผลอตภายประเทศมากขึ้น ส่วนชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่ที่มีความซับซ้อนและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็ต้องใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติมก่อน
โครงการที่จะนำร่องเป็นโครงการแรกคือ การผลิตรถสินค้าทั้งคัน เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูงมาก ซึ่งได้พูดคุยกับสมาคมอุตสาหกรรมเหล็กไทยว่า ประเทศไทยสามารถผลิตเหล็กเหนียวได้เองหรือไม่ ถ้าได้ก็จะเป็นการลดต้นทุนด้านการนำเข้าลงและเป็นการสร้างงานภายในประเทศด้วย โดยภายในปีนี้ทีโออาร์ เขิญชวนลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจะแล้วเสร็จ โดยจะเชิญชวนทั้งไทยและและต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนด้วย
ด้าน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสวทช. กล่าวว่า สวทช.จะเข้ามาสนับสนุนด้านการวิเคราะห์และการทดสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่ตามมาตรฐานของการรถไฟฯ และการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะยกระดับการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่กระจายอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ เข้ามารวมในอุตสาหกรรมระบบรางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เบื้องต้น ระยะเวลาการวิจัยและพัฒนาต้องขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนของแต่ละประเภท หากเป็นชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องกลจะใช้เวลาศึกษาน้อยกว่าชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ เพราะต้องใช้เวลามากขึ้นและซับซ้อนกว่า |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43727
Location: NECTEC
|
Posted: 08/01/2019 6:01 pm Post subject: |
|
|
เปิดตัวรถไฟพาวเวอร์คาร์ ผลิตโดยคนไทย
หมวดข่าว:เศรษฐกิจ
วันที่ 08 มกราคม 2562 เวลา 15:24:25 น.
รถไฟไทยกำลังจะมีก้าวที่สำคัญเกิดขึ้น ล่าสุดเอกชนไทยสามารถผลิตรถไฟมาตรฐานสากลได้เป็นครั้งแรก
รถไฟพาวเวอร์คาร์ หรือ โบกี้ผลิตไฟฟ้า ให้กำเนิดไฟฟ้าป้อนตัวเครื่อง เปรียบเสมือนพาวเวอร์แบงก์ รองรับความต้องการไฟฟ้าของตู้โดยสารทั้งขบวน โบกี้พาวเวอร์คาร์นี้ จะวางไว้ลำดับที่ 2 ต่อจากหัวจักรที่ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อน ที่สำคัญกว่านั้น คือ รถไฟพาวเวอร์คาร์คันแรกที่ผลิตและประกอบในประเทศไทย ในราคา 12.5 ล้านบาท ยกเว้น ตัวเครื่องยนต์ที่สั่งผลิตจากประเทศจีน ซึ่งถูกกว่าการนำเข้าที่มีราคากว่า 70 ล้านบาท
นายเมธัส เลิศเศรษฐการ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ปิ่นเพชร มารีน ผู้คิดค้นและผลิต เปิดเผยว่าขณะนี้ทำสำเร็จและส่งให้การการรถไฟฯ ไปทดสอบมาตรฐาน และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณานำไปให้บริการเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 3 ตู้ และกำลังผลิตอีก 5 ตู้ ซึ่งจะเสร็จภายในปีนี้
ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว จะทำให้โฉมหน้าการรถไฟไทยเปลี่ยนไปจากเดิม คือ แต่ละตู้โดยสารจะมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า รองรับการใช้พลังงานของผู้โดยสารอยู่ด้านล่าง และทุกตู้ต้องใช้น้ำมัน แต่รถไฟพาวเวอร์คาร์นี้ จะรวมเครื่องยนต์มาไว้ในจุดเดียว และดึงกระแสไฟฟ้าไปให้แต่ละตู้โดยสาร ทำให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา เติมน้ำมัน ช่วยลดต้นทุนเรื่องค่าแรง และที่สำคัญประหยัดน้ำมันได้ถึง 30 ถึง 50% เลยทีเดียว
ขณะที่ ผู้ช่วยศาตราจารย์ดอกเตอร์ รัฐภูมิ ปริชาตปรีชา ผู้อำนวยการสถานวิจัยเพื่อวามเป็นเลิศด้านนวัตกรรมถนนและระบบราง เปิดเผยว่า รถไฟพาวเวอร์คาร์ คันดังกล่าว ผ่านมาตรฐานรถไฟยุโรป ทั้งด้านความแข็งแกร่งและการทรงตัว ดังนั้น นี่เป็นก้าวแรกของประเทศไทย ที่ก้าวไปสู่ประเทศผู้ผลิตรถไฟ หลังจากเป็นประเทศผู้นำเข้าเทคโนโลยีรถไฟมานาน ล่าสุดได้รับความสนใจจากประเทศอิหร่าน และ สปป.ลาว ติดต่อเข้ามาดูเพื่อซื้อไปใช้งานแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46886
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/01/2019 5:45 am Post subject: |
|
|
สุดยอด "สถานีรถไฟหัวหิน" ติด 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวอันซีนของคนจีน
ไทยรัฐออนไลน์ 8 ม.ค. 62
"สถานีรถไฟหัวหิน" จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติด 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวอันซีนของชาวจีน โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากกว่าปีละ 3 ล้านคน...
วันที่ 8 ม.ค. 62 นายประสงค์ โกมุก นายสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานีรถไฟหัวหินได้รับความนิยมสูงมากจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังเมืองหัวหิน หลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเว็บไซต์การท่องเที่ยวชั้นนำของจีน ยกให้สถานีรถไฟหัวหินเป็น 1 ใน 10 สถานที่ในประเทศไทย ที่ชาวจีนต้องมาเที่ยวชมสถาปัตยกรรมความงดงาม
ทั้งนี้ ด้วยผลโหวตในปี 2015 จำนวน 35 ล้านโหวต, ปี 2016 เป็น 60 ล้านโหวต สำหรับปี 2017 ไม่มีการสำรวจ หลังจากได้รับรางวัลจากผลโหวตต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ถือเป็นการยืนยันแหล่งท่องเที่ยวระดับอันซีน และล่าสุดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ไม่มีผลกระทบ หรือบดบังความงดงามของพลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ และป้ายสถานีรถไฟหัวหินแต่อย่างใด
สำหรับในอนาคต การรถไฟแห่งประเทศไทย มีแผนงานการปรับปรุงหลังจากที่การก่อสร้างรถไฟทางคู่เสร็จเรียบร้อย โดยกรมศิลปากรจะเข้ามาดูแลการปรับปรุง นอกจากนี้การที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางมาถ่ายภาพป้ายสถานีรถไฟหัวหินเป็นที่ระลึกมากกว่าปีละ 3 ล้านคน ทั้งมีหลายหน่วยงานสนใจจัดทำบูธในบริเวณใกล้เคียงเพื่อแสดงสินค้าและให้นักท่องเที่ยวโหลดแอปพลิเคชันสำหรับซื้อสินค้าพื้นเมือง สินค้าโอทอป ในระบบออนไลน์อีกด้วย. |
|
Back to top |
|
|
|