ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)

Wisarut · Posted: 16/08/2019 3:57 pm Post subject:

16 ส.ค.62 มาเป็นผู้แทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในจังหวัดนครราชสีมาครั้งที่1/2562 ณ ห้องประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

...มาให้ข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากหน่วยงาน และผู้แทนภาคประขาชนในประเด็นการแก้ไขปรับแบบจุดตัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ(สัญญาที่2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ) ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา บริเวณสะพานข้ามแยกสีมาธานี โดยมีผู้แทนจาก ทล. สนข. และรฟท. เข้าร่วมประชุมด้วย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2464122670301330&set=a.1957785667601702&type=3&theater

Wisarut · Posted: 19/08/2019 7:59 pm Post subject:

ขร.เปิดแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก เร่งพัฒนาระบบรางยุค 4.0
19 สิงหาคม 2562

....เริ่มเห็นภาพชัดมากขึ้นสำหรับแผนพัฒนาภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย โดยเฉพาะแผนการพัฒนาระบบรางในปัจจุบันที่เข้าสู่ยุค 4.0

โดยรัฐบาลได้ตั้ง “กรมการขนส่งทางราง หรือ ขร.” เข้ามาขับเคลื่อนในเรื่องนี้โดยมี ”สราวุธ ทรงศิวิไล” ทำหน้าที่อธิบดี ขร.คนแรก และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ทำหน้าที่รองอธิบดี ขร. คนแรกด้วยเช่นกัน..

ปัจจุบัน แม้ ขร. จะยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากยังรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติระเบียบกฎหมายที่จะใช้เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนตามแผนพัฒนาระบบรางได้อย่างเต็มที่นั้น โดย ขร. ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางยุค 4.0 ไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว

ประเดิมกันตั้งแต่รถไฟเพื่อใช้ในการขนส่งระหว่างเมืองเพื่อเชื่อมต่อภูมิภาค ทั้งรถไฟทางคู่ ขนาดทางมิเตอร์เกจกว้าง 1 เมตรเพื่อเพิ่มความเร็วรถโดยสารจาก 60 กม.ต่อชั่วโมง เป็น 100 กม.ต่อชั่วโมง และรถขนส่งสินค้าจาก 39 กม.ต่อชั่วโมง เป็น 60 กม.ต่อชั่วโมง และรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ตลอดจนรถไฟเชื่อมสามสนามบิน เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ และกรุงเทพ-หัวหิน-สุราษฎร์ธานี

ชำแหละแผนพัฒนารถไฟทางคู่!

ตามแผนพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ทั้ง 2,936 กม.รวมวงเงินลงทุนกว่า 4.6 แสนล้านบาทนั้นตามแผนระยะเร่งด่วน(ปี 2560-2564) จำนวน 7 เส้นทาง รวมระยะทาง 993 กม. รวมวงเงินลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างงานโยธา ส่วนแผนระยะกลาง(ปี 2565-2569) 8 เส้นทาง รวมระยะทาง 1,553 กม. วงเงินลงทุนกว่า 2.8 แสนล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเสนอครม.อนุมัติโครงการ เช่นเดียวกับแผนระยะยาว(ปี 2570-2579) 2 เส้นทาง รวมระยะทาง 390 กม. วงเงินลงทุนกว่า 5.7 หมื่นล้านบาท ได้แก่เส้นทางชุมทางคลองสิบเก้า-อรัญประเทศ และเส้นทางชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก

นอกจากนั้น ยังมีแผนพัฒนารถไฟทางสายใหม่อีก 14 เส้นทาง รวมระยะทาง 2,350 กม. คิดเป็นวงเงินลงทุนกว่า 5.4 แสนล้านบาท โดยแผนระยะเร่งด่วน(ปี 2560-2564) 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ (รอดำเนินการตาม พ.ร.ฎ.เวนคืนและเตรียมการประกวดราคา) ตามแผนจะเปิดให้บริการในปี 2568 เส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม(รอดำเนินการตาม พ.ร.ฎ.เวนคืน และ ครม.อนุมัติเมื่อ พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา) จะเปิดให้บริการปี 2568 และเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น (ออกแบบรายละเอียด)
แผนระยะกลาง(ปี 2565-2569) 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางนครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-แม่สอด เส้นทางกาญจนบุรี-บ้านภาชี(เชื่อมไปแหลมฉบัง) เส้นทางสงขลา-ปากบารา และเส้นทางชุมทางบ้านภาชี-อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

แผนระยะยาว(ปี 2570-2579) 7 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางมาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด เส้นทางอุบลราชธานี-ช่องเม็ก เส้นทางกาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อน เส้นทางนครสวรรค์-บ้านไผ่ เส้นทางทับปุด-กระบี่ เส้นทางสุรารษฎร์ธานี-ดอนสัก และเส้นทางชุมพร-ระนอง

เดินหน้าพัฒนาไฮสปีดเทรน!

รวมระยะทาง 2,506 กม. วงเงินลงทุนกว่า 1,7 ล้านล้านบาท ประกอบไปด้วยแผนระยะเร่งด่วน (ปี 2560-2564) 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เส้นทางกรุงเทพ-ระยอง (ระยะที่ 1 ความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินแบบไร้รอยต่อ จากดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และระยะที่ 2 อู่ตะเภา-ระยอง) เส้นทางกรุงเทพ-พิษณุโลก เส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย
แผนระยะกลาง (ปี 2565-2569) 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง กรุงเทพ-หัวหิน และเส้นทางพิษณุโลก-เชียงใหม่ ส่วนแผนระยะยาว (ปี 2570-2579) 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางหัวหิน-สุราษฎร์ธานี และสุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์

อัพเดตล่าสุด 2 โครงการหลัก

โครงการพัฒนาระบบรางภายใต้ความร่วมมือไทย-จีน ระยะทาง 252 กม. จำนวน 6 สถานี คาดใช้ระยะเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาทีนั้น กำหนดศูนย์ซ่อมบำรุงหรือเดโป้ไว้ที่เชียงรากน้อย ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้ความเร็วสูงสุด 250 กม.ต่อชั่วโมงความจุผู้โดยสาร 600 ที่นั่งต่อขบวน จำนวนตู้โดยสารสูงสุด 8 ตู้ต่อขบวน วงเงินลงทุนโครงการช่วงนี้ 1.79 แสนล้านบาท ล่าสุดมีความคืบหน้าการก่อสร้างช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ประมาณ 55% นอกจากนั้นสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. เริ่มงานก่อสร้างไปแล้วบางส่วน ส่วนที่เหลือสัญญาอื่นๆอยู่ระหว่างพิจารณาการประกวดราคาและเร่งเสนอขออนุมัติลงนามสัญญาให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ดำเนินการโดยเร็วต่อไป นอกจากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ยังได้รับงบประมาณไปดำเนินการออกแบบรายละเอียดระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย อีก 355 กม.

https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2469550469758550

Wisarut · Posted: 20/08/2019 6:24 pm Post subject:

ข่าวจาก กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม

Wisarut · Posted: 02/09/2019 11:28 am Post subject:

เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม2562 เวลา 23.30 น. นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางรางและเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางรางเข้าร่วมสังเกตการณ์ฝึกซ้อมแผนการจัดการเหตุการณ์ของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด กรณีเหตุการณ์ประแจสับรางเสียและขบวนรถไฟฟ้าเสียบนเส้นทางหลักทำการอพยพโดยวิธีรถไฟฟ้าสู่รถไฟฟ้า(Train to Train)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2491202920926638&set=a.2313261335387465&type=3&theater

Mongwin · Posted: 03/09/2019 6:25 am Post subject:

ปิ๊งไอเดียตั๋วรถไฟหักภาษี
ไทยโพสต์ Tuesday, September 03, 2019 04:39

คมนาคมไล่บี้หน่วยงานเบิกจ่ายงบ62

ราชดำเนิน * จับตากรมราง คลอดมาตรการลดราคาตั๋วรถไฟฟ้า 6 ก.ย.นี้ ฟุ้งคนใช้รถไฟฟ้าซื้อตั๋วครบ 1.5 หมื่นใช้ลดหย่อนภาษีได้ คมนาคมจี้หน่วยงานเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 62 มั่นใจสิ้นเดือน ก.ย.นี้เบิกจ่ายได้ตามเป้า ด้าน "ศักดิ์สยาม" ไล่บี้ประมูลรถไฟไทย-จีนชี้เสร็จเปิดให้บริการในปี 2566 แน่

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ คณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งทางราง จะมีการพิจารณาและอนุมัติมาตรการลดค่าครองชีพในการเดินทางแก่ผู้ใช้ระบบรถไฟฟ้า ในส่วนของการลดราคาค่ารถไฟฟ้านั้นจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือการจัดทำตั๋วเดือน ที่จะลดราคาจากค่าโดยสารเฉลี่ย รวมทั้งการปรับลดราคาการเดินทางนอกชั่วโมงเร่งด่วน (ออฟพีก) รวมถึงจะเสนอมาตรการจูงใจ ใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นด้วยการให้ผู้โดยสารซื้อตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าในระบบใดก็ได้ครบ 15,000 บาท สามารถนำเงินมาลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้ ซึ่งรูปแบบจะเป็นลักษณะเดียวกันกับนโยบายช็อปช่วยชาติ

"คณะกรรมการจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ก่อนที่จะนำมาตรการ แนวทางการลดค่าครองชีพ เรื่องค่าโดย สารนี้เสนอต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อเสนอแนวทางต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากมีการอนุมัติคาดว่ามาตรการลดราคาช่วงออฟพีกจะสามารถนำมาดำเนินการทดลองก่อน 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค.2562 นี้เป็นต้นไป" นายสราวุธกล่าว

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2562 ว่า ในปีงบประมาณ 62 กระทรวงคมนาคมได้รับงบประมาณรวม 2.5 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงบลงทุน 1.74 แสนล้านบาท ล่าสุดมีการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมไปแล้ว 1.39 แสนล้านบาท คิดเป็น 67% ส่วนงบลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 1.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 64% คาดเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 62 ในวันที่ 30 ก.ย.62 จะสามารถเบิกจ่ายงบภาพรวมได้ตามเป้าหมายที่ 80% หรือ 1.64 แสนล้านบาท ส่วนงบลงทุนอยู่ที่ 78% หรือ 136 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับปีงบประมาณที่ผ่านมา

"งบภาพรวมเหลืออีกประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท และงบลงทุนเหลืออีก 2.3 หมื่นล้านบาท ขณะนี้มีเพียงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หน่วยเดียวที่เบิกจ่ายงบได้ 100%" นายชัยวัฒน์กล่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการ พัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟระ หว่างไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นคร ราชสีมา วงเงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาท ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการ พร้อมปัญหาอุปสรรค และมีมติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งประกาศประกวดราคาสัญญา 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย ภายในต้นเดือน ก.ย.62 นี้ รวมถึงดำเนินการด้านเอกสารประกวดราคา สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ภายในเดือน ก.ย.เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมการเจรจากับฝ่ายจีนเพื่อให้ได้ข้อยุติของสัญญา 2.3 ซึ่งเป็นสัญญาระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งขบวนรถและการฝึกอบรมบุคลากร ก่อนส่งให้ สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างฉบับสุดท้าย และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป รวมถึงให้ขยายระยะเวลาดำเนินการสัญญา 2.3 ให้อยู่ในกรอบเวลา 120 วัน เนื่องจากการเจรจา ยังไม่ได้ข้อยุติร่วมกัน จึงต้องขยายระยะเวลา และยังให้มีการทบทวนปรับกรอบวงเงินสัญญา 2.3 เสนอกระทรวงคมนาคมโดยเร็วเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อ สร้างและเปิดให้บริการในปี 2566 ตามแผนงานที่กำหนดไว้.

Wisarut · Posted: 05/09/2019 8:06 pm Post subject:

วันนี้ (5 ก.ย. 62) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน INTERMAT ASEAN และ CONCRETE ASIA 2019 พร้อมทั้งเยี่ยมชม บูทนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ณ IMPACT Exibition Centre, Hall 9 - 10
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/489443205165962?__tn__=H-R

Wisarut · Posted: 06/09/2019 3:50 pm Post subject:

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารการขนส่งทางราง ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ โดยมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์
และแผนงาน และผู้แทนจากสำนักปลัดกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
แห่งประเทศไทย สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 ณ ห้องประชุม 501 อาคาร สนข. ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าของรถไฟฟ้าแต่ละสาย แบ่งเป็น ๒ แนวทาง คือ จัดทำตั๋วโดยสารรถไฟฟ้ารายเดือน
และลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้านอกช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนี้

๑) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ปัจจุบันมีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 15 - 45 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยต่อคนที่ 31 บาท/คน/เที่ยว หากมาลดราคาเป็นตั๋วรายเดือน
ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 25 บาท/เที่ยว ส่วนราคาที่จะจัดเก็บนอกช่วงเวลาเร่งด่วนจะอยู่ที่ 15 - 25 บาท/เที่ยว
๒) รถไฟฟ้าสายสีม่วง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน
มีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 14 - 42 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยต่อคนที่ 21 บาท/คน/เที่ยว หากจัดทำเป็นตั๋วรายเดือน ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15 - 20 บาท/เที่ยว ส่วนราคาที่จะจัดเก็บนอกช่วงเวลาเร่งด่วนจะอยู่ที่ 14 - 25 บาท/เที่ยว
๓) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน
มีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 16 - 42 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยต่อคนที่ 25 บาท/คน/เที่ยว หากจัดทำเป็นตั๋วรายเดือน ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 20 - 25 บาท/เที่ยว ส่วนราคาที่จะจัดเก็บนอกช่วงเวลาเร่งด่วนจะอยู่ที่ 16 - 30 บาท/เที่ยว

๔) รถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีค่าโดยสารที่จัดเก็บอยู่ที่ 16 - 44 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยต่อคนที่
29 บาท/คน/เที่ยว ปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอสมีการจัดทำตั๋วรายเดือน ซึ่งค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 26 บาท/เที่ยว
ทั้งนี้ จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย หรือลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยให้ซื้อบัตรโดยสารรายเดือนที่กำหนดเที่ยวการเดินทาง 300 บาท/20 เที่ยวการเดินทาง และดำเนินมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริม
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โดยให้นำใบกำกับภาษีจากการซื้อบัตรโดยสาร
เช่น บัตรโดยสารรายเดือน/ตั๋วเที่ยวการเดินทาง/การเติมเงินมาใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

***********************************************
Cr: กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2502462803133983&set=a.2313261335387465&type=3&theater

Wisarut · Posted: 06/09/2019 3:55 pm Post subject:

ปูเสื่อรอ! ‘คมนาคม’ เร่งถกเอกชน คาดลดค่ารถไฟฟ้าภายในปีนี้
6 กันยายน 2562
....“คมนาคม” จ่อนัดเอกชนเคลียร์ปมลดค่ารถไฟฟ้า ยันสรุปรู้ผลเดือนนี้ คาดประกาศใช้ภายในปีนี้ พร้อมจี้ BEM แก้ปัญหารถไฟฟ้าขัดข้อง ลั่นอนาคตต้องใช้กฎหมายเอาผิดเอกชน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า การประชุมกำหนดแนวทางลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขร.ตั้งเป้าหมายจะประชุม 2 ครั้ง คือ วันนี้ (6 ก.ย. 2562) และอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อสรุปแล้วนั้น จะนำเสนอแนวทางให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา โดยเชื่อว่าการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า จะสามารถประกาศบังคับใช้ได้ปีนี้

“เบื้องต้น ต้องหารือกับผู้ประกอบการถึงรูปแบบในการปรับลดราคา เช่น บีทีเอส ปัจจุบันมีตั๋วเดือนอยู่แล้ว โดยมีรูปแบบการใช้งาน ซื้อภายใน 1 เดือน คิดค่าเดินทางเป็นเที่ยว ถูกสุดเที่ยวละ 26 บาท สูงสุดมากกว่า 45 บาท ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินและแอร์พอร์ตลิงค์ที่ยังไม่มีตั๋วเดือน ซึ่งต้องหารือว่ามีแนวทางปรับลดค่าโดยสาร เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างไร” อธิบดี ขร. กล่าว

อธิบดี ขร. กล่าวต่ออีกว่า เตรียมหารือร่วมกับเอกชนว่า จะสามารถปรับลดราคาจากราคาสูงสุดสูงสุด 45 บาท เหลือ 25 บาทได้หรือไม่ โดยในปัจจุบันช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (ออฟพีค) หรือมีเวลาประมาณ 13 ชั่วโมง ซึ่งจะมีการลดค่าโดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากมีจำนวนผู้โดยสารน้อย และจะเป็นการดึงดูดให้มีคนมาเดินทางมากขึ้น ช่วยลดความแออัด ทั้งยังลดการใช้รถส่วนตัวด้วย ในส่วนของช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งเช้า-เย็นอยู่ที่ 5-6 ชั่วโมงนั้น จะเสนอแนวทางลดราคาจากการจัดทำตั๋วเดือนกับลดค่าโดยสารทำเพดานสูงสุดช่วงหลังชั่วโมงเร่งด่วน

***คาดสรุปผลลดค่ารถไฟฟ้าเดือนนี้***

อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือหน่วยงานต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ จะไม่กระทบกับสัญญาสัมปทานและงบประมาณที่จะใช้ รวมถึงจะหารือว่ามีความพร้อมหรือไม่ และฟังเงื่อนไขของผู้ประกอบการ เนื่องจากรถไฟฟ้าใช้ระบบที่แตกต่างกัน แต่ในเบื้องต้นนั้น ทุกฝ่ายยินดีที่จะเข้าร่วม แต่ถ้าจะทำให้เกิดทั้งระบบ ทั้งสัมปทานและภาครัฐ คาดว่าจะสรุปภายในเดือนนี้ ขณะที่ในส่วนของกรมการขนส่งทางรางที่รับนโยบายจากกระทรวงคมนาคม จะดำเนินการภายใต้กรอบที่ภาครัฐต้องไปรับภาระชดเชยต่างๆ น้อยที่สุด หรือไม่ต้องรับภาระเลย โดยรูปแบบนี้มองว่า หน่วยงานที่ให้บริการอาจจัดเก็บรายได้ต่อเที่ยวลดลง แต่ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

สำหรับประเด็นที่รถไฟฟ้าใต้ดินเกิดปัญหาขัดข้องบ่อยนั้น อธิบดี ขร. กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ประกอบการระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มขบวนรถ ทำให้อาจเกิดเหตุขัดข้อง แต่พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้กำชับตามนโยบายกระทรวงฯ กล่าวคือ หากเกิดเหตุขัดข้องต้องรายงานให้ผู้โดยสารและกระทรวงคมนาคมรับทราบ อย่าปล่อยให้เกิดปัญหาขาดการสื่อสารจนผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ อำนาจลงโทษผู้ประกอบการที่บกพร่องเกี่ยวกับปัญหาการเดินรถนั้น กรมการขนส่งทางรางอยู่ระหว่างรออำนาจตาม พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางรางฉบับใหม่ ที่จะให้กรมฯ กำหนดบทลงโทษ ระหว่างนี้ยังเป็นมาตรการขอความร่วมมือผู้ประกอบการในระหว่างที่รอกฎหมายใหม่
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2502465633133700&set=a.2313261335387465&type=3&theater

Wisarut · Posted: 09/09/2019 11:48 am Post subject:

ลดแน่ค่ารถรฟม.สิ้นเดือนก.ย.นี้ ชง"ศักดิ์สยาม"หั่นราคา
ศุกร์ที่ 6 กันยายน 2562 เวลา 19.15 น.
ชง”ศักดิ์สยาม”หั่นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสิ้นเดือนก.ย.นี้ จัดโปรตั๋วเดือนและช่วงออฟพีค พร้อมหารือคลังเพิ่มวงเงินบัตรคนจนกระตุ้นให้ใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น คาดเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ภายในสิ้นปีนี้

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารการขนส่งทางราง ครั้งที่ 1/2562 โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเข้าประชุม ว่า ที่ประชุมได้รับหลักการแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าของรถไฟฟ้าแต่ละสายใน 2 แนวทาง คือ จัดทำตั๋วโดยสารรถไฟฟ้ารายเดือน และลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้านอกช่วงเวลาเร่งด่วน(ออฟพีค) ดังนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 15 - 45 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยที่ 31 บาท/คน/เที่ยว หากลดราคาเป็นตั๋วรายเดือนค่าโดยสารจะอยู่ที่ 25 บาท หรือ 30 บาท/เที่ยว ส่วนราคาที่จะจัดเก็บช่วงออฟพีค จะอยู่ที่ 15 - 25 บาท/เที่ยว

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วง ปัจจุบันจัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 14 - 42 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยที่ 21 บาท/คน/เที่ยว หากจัดทำเป็นตั๋วรายเดือน ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15 - 20 บาท/เที่ยว ส่วนราคาที่จะจัดเก็บช่วงออฟพีคจะอยู่ที่ 14 - 25 บาท/เที่ยว สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 16 - 42 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยที่ 25 บาท/คน/เที่ยว หากเป็นตั๋วรายเดือน ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 20 - 25 บาท/เที่ยว ส่วนราคาที่จะจัดเก็บช่วงออฟพีคจะอยู่ที่ 16 - 30 บาท/เที่ยว

ขณะที่รถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 16 - 44 บาท/คน/เที่ยว และมีการเดินทางเฉลี่ยที่ 29 บาท/คน/เที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำตั๋วรายเดือนแล้วมีค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 26 บาท/เที่ยว อย่างไรก็ตามจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง พิจารณาหามาตรการส่งเสริมให้ผู้ถือบัตรมาใช้บริการรถไฟฟ้าให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีตัวเลขของผู้ถือบัตรใช้บริการรถไฟฟ้าเพียง4 หมื่นคนต่อวันจากจำนวนผู้ถือบัตรทั้งสิ้น 1.3 ล้านคน

“แนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าว จะกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10 % ทั้งนี้ที่ประชุมจะหารือกับอีกครั้งใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อสรุปตัวเลขการปรับลดอัตราค่าโดยสาร รวมถึงจำนวนเงินที่จะต้องชดเชยให้กับผู้ประกอบการเมื่อมีการปรับลดค่าโดยสารลง ซึ่งยังไม่สามารถสรุปตัวเลขที่ชัดเจนได้แต่คาดว่าไม่ถึง 1 พันล้านบาท จากนั้นจะนำเสนอนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อพิจารณาภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติ ซึ่งแนวทางดังกล่าวน่าจะไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันในเดือนต.ค. แต่คงใช้ได้ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน”นายสราวุธ กล่าว

รายงานข่าวจากระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ในการประชุมยังมีข้อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย หรือลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยให้ซื้อบัตรโดยสารรายเดือนที่กำหนดเที่ยวการเดินทาง 300 บาท/20 เที่ยวการเดินทาง และดำเนินมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โดยให้นำใบกำกับภาษีจากการซื้อบัตรโดยสาร เช่น บัตรโดยสารรายเดือน/ตั๋วเที่ยวการเดินทาง/การเติมเงินมาใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
... อ่านต่อที่ :

“กรมราง”คาดลดค่าตั๋วรถไฟฟ้าได้ปลายปี ถก BEM –แอร์พอร์ตลิงก์ ออกบัตรเดือนจูงใจ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 6 กันยายน 2562 เวลา 17:45

“กรมราง”ถกแนวทางลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า คาดสรุปเสนอ”รมว.คมนาคม”ในก.ย. เริ่มใช้ปลายปี 62 ตั้งโจทย์ ลดราคาช่วงนอกเวลาเร่งด่วน ดึงผู้โดยสารใช้เพิ่ม และให้ สายสีม่วง และแอร์พอร์ตลิงก์ ทำตั๋วเดือน (จำกัดจำนวนเที่ยว) จูงใจ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารการขนส่งทางราง ครั้งที่ 1/2562 ว่า ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ให้บริการรถไฟฟ้าทั้งหมดมาร่วมพิจารณาแนวทางการส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางในระบบขนส่งมวลชนโดยมีการลดภาระค่าครองชีพด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ในเบื้องต้น ได้ข้อสรุป 2 แนวทาง ได้แก่

1. การส่งเสริมการใช้ตั๋วเดือน (จำกัดจำนวนเที่ยว) ของผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าในรายที่ยังไม่มีการดำเนินงานหรือยังไม่เปิดให้สามารถดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนใช้บริการตั๋วแบบรายเดือน ได้แก่ การเดินทางในโครงข่ายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (สายสีแดง) และโครงข่ายรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) พิจารณาลดอัตราสูงสุด เช่น 20 25 30 บาท
ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางและเห็นชอบในหลักการร่วมกันในการส่งเสริมมาตรการดังกล่าว เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ได้แก่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (รถไฟฟ้า BTS) ที่ให้บริการส่งเสริมการเดินทางโดยระบบตั๋วโดยสารแบบรายเดือน โดยผู้ให้บริการรายอื่นๆ ได้รับหลักการในที่ประชุม ซึ่งต้องนำเสนอในรายละเอียดต่อคณะกรรมการของแต่ละหน่วยงานโดยเร็วในลำดับต่อไป

2. การส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางในช่วงเวลาที่ความจุของรถไฟฟ้าไม่เต็มประสิทธิภาพ (Non - Peak hours) หรือในช่วงนอกระยะเวลาเร่งด่วน ทั้งนี้ ปัจจุบันประชาชนเดินทางในช่วงระยะเวลาเร่งด่วน (Peak hours) ในช่วงเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จะมีผู้โดยสาร 55 % ของการเดินทาง ส่วนช่วงนอกระยะเวลาเร่งด่วน (Non - Peak hours) ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 13 ชั่วโมงนั้นจะมีปริมาณผู้โดยสาร 45% ของการเดินทาง อีกทั้งกรอบระยะเวลาที่กำหนดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนกับนอกเวลาเร่งด่วนมีความแตกต่างกัน
ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบร่วมกันในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้โครงข่ายรถไฟฟ้าที่เต็มประสิทธิภาพในช่วงชั่วโมงที่มีความจุของรถไม่เต็มประสิทธิภาพให้เติมเต็มการให้ประโยชน์ซึ่งจะก่อให้เกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่รัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางรางให้ประชาชนได้ใช้บริการได้เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้แต่ละหน่วยงานจัดทำรายละเอียด เช่น อัตราค่าโดยสารขั้นสูงในช่วงนอกระยะเวลาเร่งด่วน (Non - Peak hours) และการกำหนดกรอบเวลาของชั่วโมงเร่งด่วนให้ตรงกันในแต่ละระบบ รวมทั้งรูปแบบที่เหมาะสมของตั๋วรายเดือน ราคาต่อเที่ยวที่เหมาะสม รวมทั้งกรอบระยะเวลาที่สามารถดำเนินงานตามแนวทางดังกล่าว และ ประชุมคณะกรรมการอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์

และคาดว่านำเสนอกระทรวงคมนาคมได้ภายในปลายเดือน กันยายน เพื่อเริ่มดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวได้ภายในปลายปี 2562

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางให้ใช้ระบบขนส่งทางรางได้มากขึ้น การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ผู้โดยสารในระบบเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและปัญหามลพิษในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

@แอร์พอร์ตลิงก์พร้อมลดค่าตั๋ว 40%
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ รฟฟท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ กล่าวว่า มาตรการลดลดค่าครองชีพ ในส่วนของแอร์พอร์ตลิงก์ สามารถลดราคาลงได้ 40 % แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา คือ ระหว่างเวลา 05.30 น.-07.00 น. ช่วงที่ 2 ระหว่างเวลา 10.00 น. - 17.00 น. และช่วงที่ 3 ระหว่างเวลา 20.00 น. - 24.00 น. จากอัตราค่าโดยสารปกติ เริ่มต้นที่ 15-45 บาท เหลือ 15 - 25 ตามระยะทาง เป็นระยะเวลา 3 เดือน ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 15-45 บาท ส่วนบัตรรายเดือนคาดว่าจะอยู่ที่ราคา 300-500 บาท

คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท. พิจารณาอนุมัติภายในเดือนก.ย. นี้ นอกจากนี้คาดว่าในเดือนธ.ค. นี้ จะสามารถนำระบบตั๋วร่วม แมงมุมมาใช้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ได้

สำหรับปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ในปัจจุบัน หลังจากนำขบวนรถมาให้บริการครบทั้ง 9 ขบวน สามารถให้บริการผู้โดยสารทุก 8 นาที เฉลี่ยมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 75,000 เที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 14% ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 65,000 - 68,000 เที่ยวคนต่อวัน

ในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดีมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 80,000 เที่ยวคนต่อวัน วันศุกร์ใช้บริการประมาณ 90,000 เที่ยวคนต่อวัน หรือ

สำหรับหน่วยงานที่ร่วมประชุมครั้งนี้ ได้แก่ สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักปลัดกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส

Wisarut · Posted: 09/09/2019 5:29 pm Post subject:

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดการประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 3 โครงการศึกษาระบบกำกับดูแลกิจการขนส่งทางรางสำหรับประเทศไทย เรื่อง "การกำหนดอัตราค่าโดยสารและค่าบริการของการขนส่งทางราง"

วันนี้ (9 ก.ย. 62) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 3 โครงการศึกษาระบบกำกับดูแลกิจการขนส่งทางรางสำหรับประเทศไทย เรื่อง "การกำหนดอัตราค่าโดยสารและค่าบริการของการขนส่งทางราง" ณ ห้องเพรสซิเด้น 1 - 2 โรงแรม InterContinental Bangkok กรุงเทพฯ พร้อมด้วยนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ข้าราชการ ขร. และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม โดยการประชุมมีการนำเสนอภาพรวมการกำหนดอัตราค่าโดยสารของระบบการขนส่งทางรางทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งการเสวนาในหัวข้อ "การกำหนดอัตราค่าโดยสารและค่าบริการ" และร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อนำข้อมูลจากผู้เข้าร่วมประชุมไปใช้พัฒนาระบบกำกับดูแลกิจการขนส่งทางรางสำหรับประเทศไทยต่อไปในอนาคต
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/491931074917175?__tn__=H-R