RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311905
ทั่วไป:13576183
ทั้งหมด:13888088
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 344, 345, 346 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 23/09/2019 4:09 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"รฟท."จ่อเปิดให้เอกชนร่วมทุนเดินรถ
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562

รฟท. - กรมรางฯ' เดินหน้าศึกษา PPP 'รถไฟไทย' : ให้ 'เอกชน' เป็นผู้ร่วมให้บริการ
https://www.thebangkokinsight.com/211786/

"ร.ฟ.ท." เปิดเอกชนเช่ารางรถไฟ *ชู PPP ดึงผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสาร-สินค้า
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2534462453267351&set=a.1878620525518217&type=3&theater


‘ร.ฟ.ท.’เพิ่มมูลค่าใช้งาน'รางรถไฟ'
23 กันยายน 2562

ร.ฟ.ท.เล็งเปิดพีพีพีดึงเอกชนร่วมเดินรถขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า หวังบริหารจัดการสล็อตใช้รางอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มรายได้ - ลดภาระการลงทุน ด้านกรมการขนส่งทางราง จ้างทีดีอาร์ไอศึกษาแผนการใช้ประโยชน์จากราง
เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมให้คุณท้าทายไปได้ทุกสภาพถนน
ให้คุณควบคุมการขับขี่ได้ดั่งใจเเม้ถนนเเบบออฟโรด หรือออนโรด ไปได้ทุกจุดหมายไม่มีข้อจำกัด

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายที่จะเร่งรัดพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศ ให้มีการใช้ประโยชน์จากรางรถไฟที่มีอยู่ของ ร.ฟ.ท.ให้เกิดประโยชน์สูงสุดรวมทั้งยังเป็นการเร่งลดต้นทุนการขนส่ง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการเอกชนไทย และลดภาระการลงทุนของ ร.ฟ.ท. ที่ประสบปัญหาขาดทุนสะสมมาโดยตลอด



ขณะนี้ ร.ฟ.ท.จึงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนเดินรถขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้า ในรูปแบบเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) โดยให้เอกชนจัดหาขบวนรถเข้ามาร่วมให้บริการขนส่ง ผ่านการเช่ารางรถไฟจาก ร.ฟ.ท. เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากรางรถไฟให้มากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันความสามารถในการใช้รางรถไฟ หรือ สล็อต (slot) ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เหลืออยู่



“ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมว่าจะเปิดพีพีพีรูปแบบใด แต่รัฐจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และการรถไฟฯ ไม่เคยทำมาก่อนจึงต้องศึกษาข้อมูลด้วยความละเอียดรอบคอบ”



รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ระบุว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ขร.ทำการศึกษาวิจัย และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากรางรถไฟที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดคู่ขนานไปกับการศึกษาของ ร.ฟ.ท.โดยมีแนวคิดที่จะสนับสนุนให้เอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการให้บริการใหม่ๆ รวมทั้งยังเป็นการหารายได้ให้กับ ร.ฟ.ท.โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม



ซึ่งล่าสุด ขร.ได้เชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางรถไฟมาที่สนใจจะเข้ามาเดินรถเข้ามาหารือ เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคแล้ว และอยู่ระหว่างจัดทำมาตรการส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางรางในระยะสั้น เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคม โดยเบื้องต้นมีแนวทางการสนับสนุนภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถในระยะสั้น คือ 1.รวบรวมสล็อตที่เหลืออยู่ของ ร.ฟ.ท.ในขณะนี้ นำมาเปิดให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า



2.ระหว่างที่ พ.ร.บ.การขนส่งทางรางประกาศใช้ ร.ฟ.ท. ต้องดำเนินการปรับปรุงแบบการให้บริการ โดยส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในเชิงการจัดหาขบวนรถ เพื่อประกอบการในลักษณะการจ้างวิ่งในรูปแบบ PPP Gross Cost ทดแทนการลงทุนจาก ร.ฟ.ท. ด้วยตนเองในเส้นทางที่มีศักยภาพ และ 3. เร่งปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของ รฟท. เพื่อให้เอกชนขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เช่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สามารถเข้ามาเดินรถเพื่อขนส่งสินค้า



“กรมฯ ได้ให้ทีดีอาร์ไอ ช่วยศึกษาระบบกำกับดูแลกิจการขนส่งทางราง เพื่อจัดทำข้อมูลและร่างกฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐานการประกอบกิจการขนส่งทางราง รวมได้หารือเรื่องการใช้ประโยชน์จากรางร่วมกับการรถไฟฯ แล้ว อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดพีพีพี และจัดทำข้อเสนอแนะการดำเนินงานในระยะเร่งด่วนกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 23/09/2019 4:13 pm    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” จ่อชงชื่อ 4 ประธานบอร์ด
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
23 กันยายน พ.ศ. 2562 08:10 น.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าขณะนี้ตนได้เตรียมที่จะลงนามเห็นชอบรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมไปดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งส่งรายชื่อดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อรอพิจารณาอนุมัติ ประกอบไปด้วย ประธานบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ส่วน บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และ บมจ.การบินไทย ก็มีการอนุมัติชื่อผู้ที่จะมานั่งในบอร์ด เพื่อทดแทนบอร์ดที่ลาออก และครบวาระไปก่อนหน้านี้ แต่ยังแต่งตั้งไม่เป็นทางการ เนื่องจากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องรอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติอย่างเป็นทางการ

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า ส่วนบอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่ยังเว้นว่างอยู่ ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้ง เนื่องจากต้องการรอให้กระบวนการแก้มติที่ประชุม ครม.ประเด็นของผู้มีอำนาจในการพิจารณายุติข้อพิพาทระหว่าง กทพ. และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) แล้วเสร็จก่อน ซึ่งปัจจุบันทราบว่าเรื่องการแก้มติ ครม. ถูกเสนอไปยังสำนักเลขา ครม.รอบรรจุวาระแล้ว ส่วนแนวทางยุติข้อพิพาท คณะทำงานที่มีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ได้นำเสนอแนวทางมาที่ตน เบื้องต้นมองว่ามีทางออกที่เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อที่ รมว.คมนาคม เสนอไปนั้น มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม ว่าที่อธิบดีกรมการขนส่ง (ขบ.)ได้รับเสนอชื่อให้เป็นประธานบอร์ด กทท. ขณะที่นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมขนส่งทางราง (ขร.) ว่าที่อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นประธานบอร์ด รฟม. ส่วนนายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม จะไปนั่งประธานบอร์ด ขสมก.ส่วนประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานบอร์ดคนปัจจุบันเตรียมยื่นหนังสือลาออกมีการวางตัวนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม หรือนายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปเป็นประธานบอร์ด.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 24/09/2019 11:04 am    Post subject: Reply with quote

คลอดเกณฑ์ออก “ใบขับขี่รถไฟ”

ไทยรัฐฉบับพิมพ์
20 กันยายน พ.ศ. 2562 08:38 น.


เงินเดือนหลักแสน!รองรับระบบรางประเทศ
“คมนาคม” ตั้งคณะทำงานคลอดหลักเกณฑ์ออก “ใบขับขี่รถไฟ” หนุนโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีดเทรน และการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสีต่างๆรอบกรุง รวมทั้งการเปิดให้เอกชนลงทุนขนส่งสินค้าทางรางแบบพีพีพี เชื่ออีก 6 เดือนสรุปหลักเกณฑ์และมาตรฐานได้ “กรมราง” โวอาชีพขับไฮสปีดเทรนน่าสนใจ เงินเดือน 1 แสนอัป

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถไฟ ว่า กระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนกระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง, ผู้ให้บริการรถไฟทุกระบบ และมีสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เป็นที่ปรึกษา เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และออกมาตรฐานการออกใบขับขี่รถไฟ

ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งการขับขี่รถไฟความเร็วสูงต้องมีหลักเกณฑ์และทักษะพิเศษกว่ารถไฟทั่วไป

ประกอบกับก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนโยบายส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาลงทุนขนส่งสินค้าทางราง โดยจ่ายค่าตอบแทนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แต่เอกชนหลายราย เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พบว่า การลงทุนซื้อหัวรถจักรและแคร่มีปัญหาในขั้นตอนการประกันภัย เพราะบริษัทประกันภัยถามหาหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานของผู้ขับขี่รถไฟ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางรางจึงเห็นว่า ควรเร่งจัดทำมาตรฐานผู้ขับขี่เป็นการเร่งด่วน เพื่อสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงการส่งเสริมกิจการขนส่งทางรางของประเทศไทย

นายสรพงศ์กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมคณะทำงานครั้งแรกในครั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าควรแบ่งหลักเกณฑ์การออกใบขับขี่รถไฟเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1.รถไฟฟ้าที่ให้บริการภายในเมือง (Metro)

2.รถไฟทางไกล (Intercity) ที่ให้บริการขนส่งสินค้า

3.รถไฟทางไกลที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสาร และ

4.รถไฟทางไกลที่ใช้ความเร็วสูง

โดยหลังจากนี้ คณะทำงานจะเร่งสรุปรายละเอียดและเงื่อนไขการออกใบขับขี่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลภายใน 6 เดือน จากนั้นจะมีการออก “ใบรับรองการขับขี่” ให้กับผู้ปฏิบัติงาน ต่อมาเมื่อ พ.ร.บ.การขนส่ง

ทางรางเริ่มมีผลบังคับใช้ กรมการขนส่งทางรางก็จะมอบ “ใบขับขี่รถไฟ” ให้ผู้ปฏิบัติงานที่มีใบรับรองโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางจะประกาศหลักเกณฑ์และมาตรฐานผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆของระบบราง รวมถึงผู้ขับขี่รถไฟ โดยจะมอบอำนาจให้หน่วยงานต่างๆดำเนินการจัดตั้งศูนย์สอบใบขับขี่ ฝึกอบรม และคุมมาตรฐานด้วยตัวเอง ส่วนกรมจะกำกับดูแลมาตรฐานและคุณภาพในภาพรวมเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและประกาศของกระทรวงคมนาคม

สำหรับผู้ขับขี่รถไฟความเร็วสูงนั้นจะมีมาตรฐานและหลักเกณฑ์เข้มงวดมากกว่าปกติ ซึ่งจะเทียบเท่ากับผู้ขับเครื่องบิน เพราะการขับรถไฟความเร็วสูงจะมีความเครียดมากกว่าปกติและต้องรับผิดชอบชีวิตคนจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่รถไฟความเร็วสูงก็จะมีรายได้สูงตามไปด้วย เช่น ในประเทศจีนจะมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 หยวน หรือมากกว่า 150,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ส่วนในประเทศไทยก็น่าจะมีรายได้ในหลักแสนบาทต่อเดือนใกล้เคียงกัน แต่พนักงานขับรถไฟไทยในปัจจุบันก็มีรายได้ไม่น้อย ประมาณ 50,000-80,000 บาทต่อเดือน

“เรื่องนี้ต้องเร่งทำ เพื่อประโยชน์ของการรถไฟฯเอง เพราะการรถไฟฯจะได้ประโยชน์จากค่าเช่าใช้ทางจากการส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีบทบาท อันนี้เป็นไปตามนโยบายของ รมว.ศักดิ์สยาม ขณะเดียวกัน พอมีระบบรถไฟความเร็วสูงและมีมาตรฐาน วางหลักเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าวิชาชีพการขับขี่รถไฟจะเป็นวิชาชีพที่ได้รับความสนใจอย่างยิ่งสำหรับประชาชนคนไทย เพราะมีรายได้สูง” นายสรพงศ์กล่าว

นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า ในต่างประเทศจะกำหนดให้มีการสอบใบขับขี่รถไฟความเร็วสูงใหม่ทุกๆ 5-10 ปี แล้วแต่ประเทศ ส่วนผู้ให้บริการรถไฟในประเทศไทย เช่น รถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟฟ้า MRT ก็จะมีการทบทวนและทดสอบความรู้ใหม่ทุกๆปีอยู่แล้ว แต่เมื่อประเทศไทยจะออกใบขับขี่รถไฟ ก็ต้องมาพิจารณาหลักเกณฑ์ด้วยว่าจะต้องมีการสอบใบขับขี่ใหม่ทุกๆกี่ปี

สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ขับรถไฟทั้งหมดราว 1,800-2,000 คน แบ่งเป็นรถไฟฟ้าในเมือง 700-800 คน และรถไฟทางไกล 1,100-1,200 คน แต่ในอนาคตปริมาณผู้ขับขี่ก็จะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะรถไฟฟ้าในเมือง คาดว่าความ ต้องการผู้ขับขี่จะเพิ่มจาก 800 คน เป็น 6,000 คน ภายใน 7-10 ปีข้างหน้า

เพราะรถไฟฟ้ากำลังทยอยเปิดเส้นทางใหม่ๆ เช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือสายสีเขียวส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นต้น และมีการเพิ่มขบวนใหม่เฉลี่ย 10% ต่อปี ส่วนรถไฟความเร็วสูงก็คาดว่าจะต้องการผู้ขับขี่ประมาณ 100 คนต่อเส้นทาง.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 24/09/2019 11:09 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คลอดเกณฑ์ออก “ใบขับขี่รถไฟ” เงินเดือนหลักแสน!รองรับระบบรางประเทศ

ไทยรัฐฉบับพิมพ์
20 กันยายน พ.ศ. 2562 08:38 น.



ไทยจะออกใบขับขี่รถไฟ อาชีพนี้รุ่งมากเงินเดือนแสนอัพ
คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย "เทียนหยด"
24 กันยายน 2562 เวลา 08.00 น.

ข่าวดีกับการจะออกใบอนุญาตขับรถไฟครั้งที่ 1 ช่วยกันปั้นนักรางที่มีคุณภาพ เงินเดือนแสนอัพ สร้างมาตรฐานยกระดับระบบรางของไทยสู่สากลและเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร อังคารที่

สัปดาห์นี้ มาบอกข่าวดีที่ประเทศไทย กำลังจะออกใบอนุญาตขับรถไฟกันแล้ว อานิสงค์เรื่องนี้จะทำให้เกิดเทรนอาชีพที่จะรุ่งสุดๆ ในยุคที่รัฐบาลลงทุนโครงสร้างขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบราง ทั้งรางคู่ รถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรน รถไฟฟ้าหลากสีในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ อาชีพอะไรน้อ??? จะพาไปเฉลยยย!!!

คณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถไฟครั้งที่ 1 ที่มี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานการประชุม โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ผู้ให้บริการรถไฟทุกระบบ รวมทั้งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ในฐานะที่ปรึกษาเข้าร่วมประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปเรื่องหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถไฟเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. รถไฟฟ้าที่ให้บริการภายในเมือง (Metro) 2. รถไฟทางไกล (Intercity) ให้บริการขนส่งสินค้า 3.รถไฟทางไกลที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสาร และ 4. รถไฟทางไกลที่ใช้ความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)



ประเทศไทยอยู่ระหว่างผลักดันและก่อสร้างไฮสปีดเทรน 2 เส้นทาง ได้แก่ ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และไฮสปีดไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา นอกจากนี้ยังกำลังก่อสร้างทางคู่และรถไฟฟ้าหลากสีในกรุงเทพฯ และจะตอกเข็มในหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด ขณะที่การขับรถไฟความเร็วสูงต้องมีหลักเกณฑ์และทักษะพิเศษกว่ารถไฟทั่วไป กระทรวงคมนาคมและขร.จึงจัดทำมาตรฐานผู้ขับขี่เป็นการเร่งด่วน เพื่อสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงส่งเสริมกิจการขนส่งทางรางของประเทศไทย



...ฉายภาพให้เห็นชัดขึ้น นั่นก็คือต่อไปประเทศไทยจะออกใบขับขี่ให้ผู้ขับรถไฟ เพื่อความปลอดภัยของระบบราง เหมือนการออกใบขับขี่รถยนต์ประเภทต่างๆ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนนั่นเอง ลองนึกภาพว่าขนาดมีการออกใบขับขี่บนท้องถนน แต่ประเทศไทย ยังมีสถิติอุบัติเหตุในระดับแชมป์โลก จึงต้องออกใบขับขี่มากำกับมาตรฐานพนักงานขับรถไฟด้วย

กรมการขนส่งทางราง ในฐานะผู้ควบคุมมาตรฐานและความปลอดภัยของระบบรางทั้งประเทศ จะเป็นผู้ประกาศหลักเกณฑ์และมาตรฐานผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆ ของระบบราง รวมถึงผู้ขับขี่รถไฟ โดยมอบอำนาจให้หน่วยงานต่างๆ จัดตั้งศูนย์สอบใบขับขี่ ฝึกอบรม และคุมมาตรฐานด้วยตัวเอง ส่วน ขร.จะทำหน้าที่กำกับดูแลมาตรฐานและคุณภาพในภาพรวม คล้ายๆ กับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ที่เป็นทั้งผู้กำกับควบคุมดูแลและผู้ปฎิบัติออกใบขับขี่ให้ประชาชน แต่กรมรางไม่ออกใบขับขี่ จะให้ผู้ประกอบการ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หรือ บริษัทผู้รับสัมปทานอย่างบีทีเอส ออกใบขับขี่เอง โดยกรมรางจะเป็นผู้กำกับดูแลมาตรฐาน



นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง บอกว่า เมื่อมีใบขับขี่เชื่อว่าวิชาชีพการขับขี่รถไฟในไทยจะได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะในประเทศจีนผู้ขับรถไฟไฮสปีดได้รับเงินเดือนสูงกว่า 3 หมื่นหยวน หรือราว 1.5 แสนบาท ส่วนพนักงานขับรถไฟในไทยมีรายได้ประมาณ 50,000-80,000 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ขับรถไฟความเร็วสูงจะมีมาตรฐานและหลักเกณฑ์เข้มงวดมากกว่าปกติ เทียบเท่าผู้ขับเครื่องบิน เพราะมีความเครียดกว่าปกติและต้องรับผิดชอบชีวิตผู้คนจำนวนมาก ทั้งนี้คณะทำงานฯ จะเร่งสรุปรายละเอียดและเงื่อนไขการออกใบขับขี่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนออก”ใบรับรองการขับขี่รถไฟ”ให้ผู้ปฎิบัติงานและเมื่อพ.ร.บ. การขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้จะออก”ใบขับขี่รถไฟ” ให้ผู้ปฏิบัติงานที่ได้ใบรับรองแล้วโดยอัตโนมัติ

ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า หลายประเทศกำหนดให้สอบใบขับขี่รถไฟไฮสปีดใหม่ทุก5-10 ปี ส่วนผู้ให้บริการรถไฟในประเทศไทย เช่น รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที จะทบทวนและทดสอบความรู้ใหม่ทุกที เมื่อประเทศไทยจะออกใบขับขี่รถไฟก็ต้องมาพิจารณาหลักเกณฑ์ว่าจะต้องสอบใบขับขี่ใหม่ทุกๆ กี่ปี

ปัจจุบันไทยมีผู้ขับรถไฟทั้งหมด 1,800-2,000 คน เป็นรถไฟฟ้าในเมือง 700-800 คน และรถไฟทางไกล 1,100-1,200 คน ในอนาคตปริมาณผู้ขับขี่รถไฟจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างรถไฟฟ้าในเมือง คาดว่าความต้องการผู้ขับขี่จะเพิ่มจาก 800 คน เป็น 6,000 คนภายใน 7-10 ปี เพราะรถไฟฟ้าหลากสีกำลังก่อสร้างและทยอยเปิดบริการ มีการเพิ่มขบวนใหม่เฉลี่ย 10% ต่อปี ส่วนรถไฟความเร็วสูงคาดว่าต้องการผู้ขับขี่ประมาณ 100 คนต่อเส้นทาง ขณะที่พนักงานขับรถไฟไทยในปัจจุบันก็มีรายได้ไม่น้อยประมาณ 50,000-80,000 บาทต่อเดือน



มาถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าผู้อ่านจะมีคำถามแน่นอนว่า....จะเรียนขับรถไฟได้ที่ไหน?? ขณะนี้หลายสถาบันการศึกษาได้กำหนดหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อผลิตบุคลากรด้านระบบรางแล้ว ส่วนหน่วยงานเฉพาะทางอย่างรฟท. หรือรฟม. ก็เปิดสอบคัดเลือกบุคลากร ด้านบริษัทผู้ประกอบการก็เปิดรับสมัครพนักงานที่เกี่ยวข้อง สามารถติดตามข่าวสารได้จากหน่วยงานโดยตรง

ช่วยกันปั้นนักรางที่มีคุณภาพ ออกใบขับขี่รถไฟที่ได้มาตรฐานยกระดับระบบรางของไทยสู่สากลและเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
..................................
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 25/09/2019 3:57 pm    Post subject: Reply with quote

บีโอไอผลักดันผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยสู่อุตฯระบบราง
พุธที่ 25 กันยายน 2562
บีโอไอ ชี้อุตสาหกรรมระบบราง สร้างโอกาสผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย พร้อมช่วยยกระดับขีดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนของผู้ประกอบการไทย รับแผนยุทธศาสตร์พัฒนาระบบราง และอุตสาหกรรมสนับสนุน ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับภูมิภาค

นางสาวบงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมระบบรางและอุตสาหกรรมสนับสนุน เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาขึ้นในประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ซึ่งในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย มีโครงการระบบรางใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นต้น

“โครงการเหล่านี้ทำให้เกิดความต้องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น ทั้งตัวตู้รถไฟ อุปกรณ์ชานชาลา ระบบราง ระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ระบบอาณัติสัญญาณ รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนทั้งโออีเอ็ม และอะไหล่ทดแทน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้มากขึ้น”

อย่างไรก็ดี บีโอไอโดยกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน (กพช.) ได้มีการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสนับสนุนและสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตและมีศักยภาพมากขึ้น และมีโอกาสเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อากาศยาน และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น

สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมระบบรางนั้น บีโอไอได้เปิดให้การส่งเสริมใน 2 ส่วน คือกิจการขนส่งทางราง และกิจการผลิตและ/หรือซ่อมรถไฟ ชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ระบบราง โดยมีสิทธิประโยชน์ ดังนี้
กิจการขนส่งทางราง จะได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ซึ่งกิจการผลิตและ/หรือซ่อมรถไฟ ชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ระบบราง จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 - 8 ปี โดยมี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กิจการผลิตขบวนรถและ/หรือตู้รถ เช่น ตู้รถโดยสาร ตู้สินค้า เป็นต้น จะได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี

,2.กิจการซ่อมรถไฟ หรือชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์สำหรับระบบราง ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี และ3.กิจการผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์สำหรับระบบราง ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี โดยต้องมีขั้นตอนการผลิตตามที่คณะกรรมการเห็นชอบ

“การส่งเสริมอุตสาหกรรมระบบราง จะช่วยพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของไทย ช่วยพัฒนาขีดความสามารถของผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกันจะช่วยให้มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางยังจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในอาเซียน เชื่อมโยงการค้า และการลงทุนในภูมิภาคอีกด้วย”

//---------------------------

บีโอไอ ชี้อุตสาหกรรมระบบราง สร้างโอกาสผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย พร้อมช่วยยกระดับขีดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนของผู้ประกอบการไทย รับแผนยุทธศาสตร์พัฒนาระบบราง และอุตสาหกรรมสนับสนุน ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับภูมิภาค

...นางสาวบงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "อนาคตผู้ประกอบการไทยกับการผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมระบบราง" ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ว่า อุตสาหกรรมระบบรางและอุตสาหกรรมสนับสนุน เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาขึ้นในประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต"

ทั้งนี้ ในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย มีโครงการระบบรางใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นต้น

"โครงการเหล่านี้ทำให้เกิดความต้องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น ทั้งตัวตู้รถไฟ อุปกรณ์ชานชาลา ระบบราง ระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ระบบอาณัติสัญญาณ รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนทั้งโออีเอ็ม และอะไหล่ทดแทน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้มากขึ้น" นางสาวบงกชกล่าว
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2539239932789603&set=a.2020745444639057&type=3&theater
https://www.nationtv.tv/main/content/378743502/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 27/09/2019 11:28 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
บีโอไอหนุนระบบรางชูเป็นฮับภูมิภาค
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2562 00:00:37 น.

บีโอไอหนุนเอสเอ็มอีผลิตชิ้นส่วนในไทย ปรับตัวคว้าโอกาสอุตสาหกรรมระบบราง
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2562 08:37 น.

น.ส.บงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาอนาคตผู้ประกอบการไทยกับการผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมระบบราง เพื่อเป็นเวทีกลางให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีได้ทราบข้อมูลอุตสาหกรรมระบบราง รวมทั้งสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริม เนื่องจากอุตสาหกรรมรางถือว่ามีบทบาทสำคัญในไทย เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

“ในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย มีโครงการระบบรางใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้เกิดความต้องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น ทั้งตัวตู้รถไฟ อุปกรณ์ชานชาลา ระบบราง ระบบอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ระบบอาณัติสัญญาณ รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนทั้งโออีเอ็มและอะไหล่ทดแทน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้มากขึ้น”

“การส่งเสริมอุตสาหกรรมระบบรางจะช่วยพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของไทย ช่วยพัฒนาขีดความสามารถของผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกันจะช่วยให้มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางยังจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในอาเซียน เชื่อมโยงการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอีกด้วย”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2019 10:31 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรถไฟฯลาออกยกชุดมีผลทันทีพรุ่งนี้ 'กุลิศ'อ้างไม่เกี่ยวการเมืองกดดัน
วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562, 15.48 น.

บอร์ดรถไฟลาออกยกชุดมีผลทันทีพรุ่งนี้ ขณะที่"กุลิศ"ยอมรับห่วงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงล่าช้า เปิดไม่ทันปี 64

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หรือบอร์ด รฟท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมสรุปผลการทำงานของบอร์ดในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งบอร์ด รฟท.ได้มีการยื่นใบลาออกทั้งหมด และได้แจ้งการลาออกให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบแล้ว โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

"ยืนยันว่าการลาออกไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง โดยบอร์ดกำหนดกรอบเวลาที่จะมีการลาออกสิ้นเดือนกันยายนมาระยะหนึ่งแล้ว ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา หรือในยุค คสช. เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม หากจะมีการลาออกเพื่อให้กระทรวงคมนาคมสามารถแต่งตั้งบุคคลเข้าไปเป็นบอร์ดช่วยขับเคลื่อนนโยบายตามที่ตั้งเป้าหมายไว้"นายกุลิศ กล่าว

และว่า สิ่งที่เป็นห่วงและฝากให้บอร์ดชุดต่อไปรีบเข้ามาช่วยสานต่อ นอกจากปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์แล้ว ก็มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ปัจจุบันนี้ประสบปัญหาล่าช้าจากการบุกรุกพื้นที่โครงการ ความล่าช้าในส่วนของการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ขณะที่การประกอบตัวรถไฟฟ้าเริ่มทยอยเสร็จแล้ว ในส่วนนี้ยอมรับว่ามีความกังวลว่าโครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันในต้นปี 2564 ตามเป้าหมายหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ที่ต้องไปเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบังที่อยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างเฟสใหม่ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นทางรถไฟควรจะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนท่าเรือ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์เชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำเต็มกำลังของแล้ว ที่เหลือหลังจากนี้คงต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาเร่งดำเนินการสานต่อ

สำหรับประเด็นปัญหาการลงนามในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมขีดเส้นให้กลุ่มซีพีต้องมาลงนามวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และมีความกังวลว่าหากการลงนามไม่เกิดขึ้นจะต้องมีการเปลี่ยนเอกชนที่ประมูลได้คะแนนรองลงมาเข้ามาดำเนินการแทนจะเกิดความยุ่งยากหรือไม่ ในช่วงที่ รฟท. ไม่มีคณะกรรมการฯ มองว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ด รฟท.ในช่วงที่ผ่านอยู่แล้ว เนื่องจากโครงการมีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ดำเนินการและมีการรายงานผลดำเนินการลงสู่คณะกรรมการอีอีซีชุดใหญ่เลย




บอร์ดรถไฟออกยกชุดมีผลพรุ่งนี้
วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562,

บอร์ดรถไฟลาออกยกชุด มีผลทันทีพรุ่งนี้ ขณะที่ประธานบอร์ดยอมรับห่วงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงล่าช้า เปิดไม่ทันปี 64 และปัญหาล่าช้าอีกหลายโครงการ



นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หรือบอร์ด รฟท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ได้ยื่นใบลาออกพร้อมคณะกรรมการทั้งหมด โดยแจ้งต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบแล้วโดยมีผล อย่างเป็นทางการ ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 1 ตุลาคม 2562)

“การประชุมวันนี้เป็นการประชุมสรุปผลการทำงานของบอร์ดในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งบอร์ด รฟท.ได้มีการยื่นใบลาออกทั้งหมด และได้แจ้งการลาออก ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบแล้ว โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป”



นายกุลิศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ไม่ได้ มีแรงกดดันจากการเมือง โดยบอร์ดกำหนดกรอบเวลาการลาออกสิ้นเดือนกันยายนมาระยะหนึ่งแล้ว ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา หรือในยุค คสช. เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม


บอร์ดรถไฟลาออกมีผล1ต.ค.62..พรุ่งนี้มีประชุม บอร์ดรถไฟนัดสุดท้าย เบื้องต้นจะไม่พิจารณาวาระใดๆ เป็นเพียงสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อเตรียมส่งมอบให้คณะกรรมการชุดใหม่

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1691825

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หรือบอร์ด รฟท. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมสรุปผลการทำงานของบอร์ดในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งบอร์ด รฟท.ได้มีการยื่นใบลาออกทั้งหมด และได้แจ้งการลาออกให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบแล้ว โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การลาออกไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง โดยบอร์ดกำหนดกรอบเวลาที่จะมีการลาออกสิ้นเดือนกันยายนมาระยะหนึ่งแล้ว ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาหรือในยุค คสช. เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม หากจะมีการลาออกเพื่อให้กระทรวงคมนาคมสามารถแต่งตั้งบุคคลเข้าไปเป็นบอร์ดช่วยขับเคลื่อนนโยบายตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

“สิ่งที่เป็นห่วงและฝากให้บอร์ดชุดต่อไปรีบเข้ามาช่วยสานต่อ นอกจากปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์แล้ว ก็มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ปัจจุบันนี้ประสบปัญหาล่าช้าจากการบุกรุกพื้นที่โครงการ ความล่าช้าในส่วนของการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ขณะที่การประกอบตัวรถไฟฟ้าเริ่มทยอยเสร็จแล้ว ในส่วนนี้ยอมรับว่ามีความกังวลว่าโครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันในต้นปี 2564 ตามเป้าหมายหรือไม่” นายกุลิศ กล่าว

สำหรับประเด็นปัญหาการลงนามในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมขีดเส้นให้กลุ่มซีพีต้องมาลงนามวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และมีความกังวลว่าหากการลงนามไม่เกิดขึ้นจะต้องมีการเปลี่ยนเอกชนที่ประมูลได้คะแนนรองลงมาเข้ามาดำเนินการแทนจะเกิดความยุ่งยากหรือไม่ ในช่วงที่ รฟท. ไม่มีคณะกรรมการฯ มองว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ด รฟท.ในช่วงที่ผ่านอยู่แล้ว เนื่องจากโครงการมีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ดำเนินการและมีการรายงานผลดำเนินการลงสู่คณะกรรมการอีอีซีชุดใหญ่เลย
https://www.thebangkokinsight.com/216006/


Last edited by Wisarut on 01/10/2019 6:10 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 01/10/2019 10:52 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรถไฟทิ้งเก้าอี้ยกชุด ปูทางแต่งตั้งใหม่/หวั่นเมกะโปรเจกท์สะดุด
วันอังคาร ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.



นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือบอร์ด ร.ฟ.ท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯเมื่อวันที่30 กันยายน 2562 ว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการทำงานของบอร์ดในช่วงที่ผ่านมาและในวันเดียวกันนี้บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้มีการยื่นใบลาออกทั้งหมด และได้แจ้งการลาออก ให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมทราบแล้ว โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป

พร้อมยืนยันว่าการลาออกไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง โดยบอร์ดกำหนดกรอบเวลาที่จะมีการลาออกสิ้นเดือนกันยายนมาระยะหนึ่งแล้ว ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา หรือในยุค คสช. เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม หากจะมีการลาออกเพื่อให้กระทรวงคมนาคมสามารถแต่งตั้งบุคคลเข้าไปเป็นบอร์ดช่วยขับเคลื่อนนโยบายตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ส่วนสิ่งที่ยอมรับว่ายังมีความเป็นห่วงและฝากให้บอร์ดชุดต่อไปรีบเข้ามาช่วยสานต่อ นอกจากปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์แล้ว ก็มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ปัจจุบันนี้ประสบปัญหาล่าช้าจากการบุกรุกพื้นที่โครงการ ความล่าช้าในส่วนของการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ขณะที่การประกอบตัวรถไฟฟ้าเริ่มทยอยเสร็จแล้ว ในส่วนนี้ยอมรับว่ามีความกังวลว่าโครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันในต้นปี 2564 ตามเป้าหมายหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ที่ต้องไปเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบังที่อยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างเฟสใหม่ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นทางรถไฟควรจะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนท่าเรือ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์เชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำเต็มกำลังของผมแล้ว ที่เหลือหลังจากนี้คงต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาเร่งดำเนินการสานต่อ” นายกุลิศ กล่าว

ส่วนประเด็นปัญหาการลงนามในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมขีดเส้นให้กลุ่มซีพีต้องมาลงนามวันที่ 15 ตุลาคม 2562 นั้น และมีความกังวลว่าหากการลงนามไม่เกิดขึ้นจะต้องมีการเปลี่ยนเอกชนที่ประมูลได้คะแนนรองลงมาเข้ามาดำเนินการแทนจะเกิดความยุ่งยากหรือไม่ในช่วงที่ ร.ฟ.ท. ไม่มีคณะกรรมการฯนายกุลิศ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ด ร.ฟ.ท.ในช่วงที่ผ่านอยู่แล้ว เนื่องจากโครงการมีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ดำเนินการและมีการรายงานผลดำเนินการลงสู่คณะกรรมการอีอีซีชุดใหญ่เลย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 01/10/2019 12:46 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Station Y ที่สถานีลพบุรี ประตูสู่อารยธรรมศิลปกรรมหลายสมัย
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
1 ตุลาคม 2562

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Station Y ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสถานีรถไฟให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน และแหล่งการศึกษาเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรม การประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวภายในจังหวัด หวังให้สถานีเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริม สนับสนุนด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ สามารถเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชนได้อีกทางหนึ่ง

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เวลา 10.00 น. ที่สถานีลพบุรี การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม Station Y ที่สถานีลพบุรีกับคอนเซ็ปประตูสู่อารยธรรม ศิลปกรรมหลายสมัยโดยมีนายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชัยเวช ปานะวุธิ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงนครสวรรค์ และนายสถานีลพบุรี ตลอดจนคณะผู้บริหาร พนักงานการรถไฟ น้องๆนักเรียนโรงเรียนเทศบาลเมืองพระพุทธบาท เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้กว่า 250 คน

นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม Station Y มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานีรถไฟเป็นศูนย์กลางและแหล่งการเรียนรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชน รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละท้องถิ่นควบคู่กันกับประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายในจังหวัด โดยเฉพาะสถานีลพบุรีเป็นสถานีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาโดยรถไฟและสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดได้แบบไปเช้าเย็นกลับ โดยเบื้องต้นการรถไฟฯ ได้วางแผนเริ่มดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟต้นแบบจำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีลพบุรี สถานีบ้านปิน สถานีชุมพร และสถานีบุรีรัมย์

สำหรับรูปแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์ ได้มีการออกแบบป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ จุดถ่ายรูปเช็คอิน ให้มีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น โดยนำเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญมาประชาสัมพันธ์แสดงความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ อาทิ การจัดทำป้ายแนะนำการท่องเที่ยวของจังหวัด ป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับการโดยสารรถไฟ ข้อควรระวัง ประวัติของสถานี ตลอดจนมีการยกระดับสถานีรถไฟให้มีความสะอาด สวยงามอยู่เสมอๆ

ส่วนการจัดกิจกรรม Station Y ที่สถานีลพบุรี ได้มีการเปิดโอกาสให้คณะผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ น้องๆนักเรียนโรงเรียนเทศบาลเมืองพระพุทธบาท และประชาชนในพื้นที่กว่า 250 คน ได้ร่วมกันระบายสีตกแต่งรูปปูนปั้นตุ๊กตาลิง ซึ่งแสดงความเป็นอัตลักษณ์สำคัญของชุมชนกับสถานีรถไฟ การแสดงระบำลพบุรี ตลอดจนมีการรับประทานอาหารกลางวันเพื่อสร้างสัมพันธ์ร่วมกันกับชุมชน

นายฐากูรกล่าวว่า เป้าหมายของการดำเนินกิจกรรม Station Yเพื่อต้องการพัฒนาสถานีรถไฟให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น รวมถึงเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และใช้สถานีรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นในการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของชุมชน รวมถึงข้อมูลเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ตลอดจนให้สถานีรถไฟเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือน เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนเปิดโอกาสสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนและละแวกใกล้เคียงของสถานีรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 01/10/2019 6:10 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรถไฟทิ้งเก้าอี้ยกชุด ปูทางแต่งตั้งใหม่/หวั่นเมกะโปรเจกท์สะดุด
วันอังคาร ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.



นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือบอร์ด ร.ฟ.ท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯเมื่อวันที่30 กันยายน 2562 ว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการทำงานของบอร์ดในช่วงที่ผ่านมาและในวันเดียวกันนี้บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้มีการยื่นใบลาออกทั้งหมด และได้แจ้งการลาออก ให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมทราบแล้ว โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป

พร้อมยืนยันว่าการลาออกไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง โดยบอร์ดกำหนดกรอบเวลาที่จะมีการลาออกสิ้นเดือนกันยายนมาระยะหนึ่งแล้ว ยอมรับว่าบอร์ดชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา หรือในยุค คสช. เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม หากจะมีการลาออกเพื่อให้กระทรวงคมนาคมสามารถแต่งตั้งบุคคลเข้าไปเป็นบอร์ดช่วยขับเคลื่อนนโยบายตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ส่วนสิ่งที่ยอมรับว่ายังมีความเป็นห่วงและฝากให้บอร์ดชุดต่อไปรีบเข้ามาช่วยสานต่อ นอกจากปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์แล้ว ก็มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ปัจจุบันนี้ประสบปัญหาล่าช้าจากการบุกรุกพื้นที่โครงการ ความล่าช้าในส่วนของการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ขณะที่การประกอบตัวรถไฟฟ้าเริ่มทยอยเสร็จแล้ว ในส่วนนี้ยอมรับว่ามีความกังวลว่าโครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ทันในต้นปี 2564 ตามเป้าหมายหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ที่ต้องไปเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบังที่อยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างเฟสใหม่ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นทางรถไฟควรจะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนท่าเรือ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์เชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำเต็มกำลังของผมแล้ว ที่เหลือหลังจากนี้คงต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาเร่งดำเนินการสานต่อ” นายกุลิศ กล่าว

ส่วนประเด็นปัญหาการลงนามในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมขีดเส้นให้กลุ่มซีพีต้องมาลงนามวันที่ 15 ตุลาคม 2562 นั้น และมีความกังวลว่าหากการลงนามไม่เกิดขึ้นจะต้องมีการเปลี่ยนเอกชนที่ประมูลได้คะแนนรองลงมาเข้ามาดำเนินการแทนจะเกิดความยุ่งยากหรือไม่ในช่วงที่ ร.ฟ.ท. ไม่มีคณะกรรมการฯนายกุลิศ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ด ร.ฟ.ท.ในช่วงที่ผ่านอยู่แล้ว เนื่องจากโครงการมีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ดำเนินการและมีการรายงานผลดำเนินการลงสู่คณะกรรมการอีอีซีชุดใหญ่เลย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 344, 345, 346 ... 486, 487, 488  Next
Page 345 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©