ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 01/10/2019 8:39 pm Post subject:

เปิดข้อมูล รฟท. เจาะจงจ้าง บ.ปุ้มปุ้ย บริการอาหารรถไฟ 3 ปี ติด 7 สัญญารวด 76 ล.
เขียนโดย isranews
เขียนวันที่ วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน 2562 เวลา 20:00 น.
“...รฟท. ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารกว้างฯ เป็นคู่สัญญาจ้างจัดบริการอาหารและเครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ รวมวงเงินกว่า 76 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 7 สัญญา...”

Mongwin · Posted: 02/10/2019 3:32 pm Post subject:

เล็งสร้าง "พิพิธภัณฑ์ สถานีรถไฟหัวหิน" หลังรถไฟทางคู่เสร็จ
แนวหน้า วันพุธ ที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 14.57 น.

วันที่ 2 ต.ค.62 นายประสงค์ โกมุก อดีตนายสถานีรถไฟหัวหิน เปิดเผยก่อนเกษียณอายุราชการว่า ขณะนี้ ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน ได้ย้ายหัวรถจักรไอน้ำ Baldwin 305 อายุเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟหัวหินและเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไปตั้งชั่วคราวที่ลานด้านข้างสนามกอล์ฟหลวงหัวหินด้านทิศตะวันออกเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง ในส่วนของสถานีรถไฟหัวหินในอนาคต

ส่วนแรกอาคารสถานีใหม่จะเป็นสถานีรถไฟแบบยกระดับเหนือพื้นดิน ความสูงจากพื้นดินประมาณ 8-10 เมตร จะสร้างห่างจากตัวสถานีเดิมไปทางทิศใต้ไม่มาก สังเกตจากแนวถังน้ำเหล็กสูงที่อยู่ฝั่งสนามกอล์ฟหลวงหัวหินทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ บริเวณนั้นจะเป็นที่ก่อสร้างของสถานีรถไฟใหม่ ในส่วนที่สองคือตัวอาคารสถานีในปัจจุบันและพลับพลาพระมงกุฎเกล้า แลนด์มาร์กดัง จะมีการพัฒนาให้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ เพื่อเก็บรักษาและบันทึกเรื่องราวต่างๆของสถานีรถไฟตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยจะทำเป็นพื้นที่ปิดและมีการเก็บค่าเข้าชมเพื่อบำรุงสถานที่

สำหรับชานชาลารางที่ 1 จะยังคงไว้ ไม่ได้ทำการรื้อถอนเพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าโดยรถสินค้า ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวหรือขบวนรถพิเศษในวาระสำคัญ ดังนั้นเรายังพอได้เห็นรถไฟวิ่งผ่านตัวสถานีเดิมอยู่ ส่วนหัวรถจักรไอน้ำ Baldwin 305 นั้นหลังจากทำการปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว จะนำมาตั้งไว้บริเวณชานชาลารางที่ 3 ในปัจจุบันซึ่งจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอาคารสถานีเดิม ขณะเดียวกันบริเวณที่เป็นวงเวียนด้านหน้าสถานี จะมีการย้ายโบกี้ห้องสมุดรถไฟและศาลพระพรหมออก เพื่อปรับภูมิทัศน์จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แทน

Wisarut · Posted: 03/10/2019 5:29 pm Post subject:

ตั๋ว 12 บาท นั่งรถไฟลอดอุโมงค์

วันที่ 16 กันยายน 2562 - 15:09 น.

อุตรดิตถ์ - สุดฟินนั่งรถไฟลอดอุโมงค์ ชมธรรมชาติปลายฝนต้นหนาว ค่าตั๋ว 12 บาท

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 ที่สถานีรถไฟศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ จุดสิ้นสุดสถานีรถไฟทางราบของรถไฟสายเหนือ นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์

นัดหมายส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน กว่า 50 คน เพื่อร่วมประเดิม เปิดปฐมฤกษ์ ทริป นั่งรถไฟ ลอดอุโมงค์ เข้าถ้ำ สู่วนเกษตรอินทรีย์ รับฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว และรองรับเที่ยวฟรี 10 ล้านคนแรก ด้วยค่าตั๋วรถไฟ ไป-กลับ เพียง 12 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน และตื่นเต้น เนื่องจากเป็นครั้งแรกของ จ.อุตรดิตถ์ ที่จัด ทริปท่องเที่ยวทางราง หรือทางรถไฟ โดยทริป “นั่งรถไฟ รอดอุโมงค์ เข้าถ้ำ สู่วนเกษตรอินทรีย์” จากสถานีรถไฟศิลาอาสน์ ต.ท่าอิฐ ไปยัง สถานีรถไฟปางต้นผึ้ง ต.บ้านด่านนาขามของ จ.อุตรดิตถ์

ทั้งนี้ที่สถานรถไฟศิลาอาสน์ เป็นจุดสับเปลี่ยนรถไฟ ย่านสินค้า จุดตัดตู้โบกี้รถไฟขึ้นสู่ภาคเหนือ ศูนย์รวบรวมตู้สินค้า (Container Yard) จุดสิ้นสุดสถานีรถไฟทางราบของรถไฟสายเหนือ จุดดังกล่าว เป็นที่ตั้งของหัวรถจักรไอน้ำแปซิฟิก ซึ่งผลิตที่ประเทศเยอรมันนำเข้ามาใช้เมื่อ ปี ค.ศ.1928 ที่นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาถึงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟ

จากนั้นเริ่มออกเดินทางจากสถานีรถไฟศิลาอาสน์ ด้วยขบวน 407 เวลา 09.09 น.ซึ่งเป็นขบวนรถไฟท้องถิ่น จำนวน 3 โบกี้ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยยังคงอนุรักษ์ไว้ เพื่อบริการประชาชนในชุมชน ตลอดการเดินทาง 2 ข้างรางรถไฟ หลากหลายด้วยวิถีชีวิตของชุมชนดั้งเดิม สดชื่นด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ วิวทิวทัศน์ สวนผลไม้ ทุเรียน ลางสาด ลางกอง และผ่านสถานีรถไฟบ้านด่าน ผ่านสถานีรถไฟปางต้นผึ้ง

จากนั้น สุดตื่นตา ตื่นใจ เมื่อขบวนรถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ปางตูบขอบ ความยาว 20 เมตร และเข้าอุโมงค์เขาพลึง ความยาว 360 เมตร ก่อนจะแวะลงที่ป้ายหยุดรถไฟ “เขาพลึง” เพื่อชมวิถีพอเพียง วนเกษตร ความมั่นคงของผืนป่าและสิ่งมีชีวิต ที่สวนเกษตรอินทรีย์ ของนายบุญธรรม ตุมตอง บ้านปางต้นผึ้ง หมู่ที่ 10 ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์

ซึ่งจุดดังกล่าวนี้ สัมผัสบรรยากาศ ธรรมชาติแบบสุดฟิน เช็คอินที่ปางต้นผึ้ง เข้าถ้ำน้ำรอด ชมสะพานข้ามทางรถไฟที่มีตอหม้อสูงที่สุด สะพานรวงผึ้งที่สวยงาม กิจกรรมเปิดฟ้า ส่องกล้อง “หอดูดาวบ้านด่านนาขาม” ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่อากาศเย็นสบาย และเดินทางกลับด้วยรถไฟ ที่สถานีปางต้นผึ้ง เข้าสู่เมืองอุตรดิตถ์ ด้วยราคาตั๋วรถไฟ ไป-กลับ 12 บาท

สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์เปิดปฐมฤกษ์ จัดทริปเพื่อส่งเสริมช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทางราง หรือทางรถไฟ จ.อุตรดิตถ์มีสถานีรถไฟย่อยมากถึง 9 สถานีและรองรับเที่ยวฟรี 10 ล้านคนแรกตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ทั้งอำเภอเมืองและอำเภอลับแล ผลผลิตลางกอง และ ลางสาด กำลังออกสู่ตลาด ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสทั้ง ชม ชิม ช้อป ต่อจาก

Wisarut · Posted: 03/10/2019 10:06 pm Post subject:

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
14 hrs ·

📢โปรดทราบ เนื่องด้วยประแจสับรางบริเวณยมราชขัดข้องทำให้ขบวนรถวิ่งผ่านไม่ได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการแก้ไข
🙏การรถไฟฯต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2959390260742492

Wisarut · Posted: 04/10/2019 10:45 am Post subject:

พร้อม! ปลัดคมนาคมตรวจความพร้อมสถานีรถไฟบุรีรัมย์รับ2แสนคนดูแข่ง “โมโตจีพี”
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 3 ตุลาคม 2562 เวลา 20:15 น.

วันที่ 3 ตุลาคม 2562 เวลา 18.00 น. นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก และนางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ตรวจความพร้อมการอำนวยความสะดวกปลอดภัยของสถานีรถไฟบุรีรัมย์

เพื่อรองรับการจัดงาน MOTO GP 2019 ระหว่างวันที่ 4 – 6 ตุลาคม 2562 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าชมงานกว่า 2 แสนคน
advertisement

ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เพิ่มเที่ยวรถไฟพิเศษจากสถานีหัวลำโพง ไปยังสถานีบุรีรัมย์ เพิ่มรถไฟ Sprinter จากจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงมายัง จ.บุรีรัมย์ และจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์ไปยังสนามแข่งโดยตรง

ปัจจุบันมีเที่ยวรถไปยัง จ.บุรีรัมย์ 58 ขบวน (รองรับผู้โดยสารได้ถึง 21,500 คน/วัน) และสามารถพ่วงตู้โดยสารได้จนเต็มหน่วยลากจูงเพื่อรองรับผู้โดยสารได้อีก 5,000 คน/วัน อำนวยความสะดวกการจองบัตรโดยสารผ่าน Application และการจ่ายค่าโดยสารด้วยระบบ QR code

นอกจากนี้ สถานีรถไฟบุรีรัมย์ได้เตรียมพื้นที่จอดรถ ปรับปรุงอาคารและบริเวณรอบสถานี โทรศัพท์สาธารณะ ป้ายบอกทาง ห้องน้ำ ปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดพื้นที่บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ เพิ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายการบริการ จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด

Wisarut · Posted: 07/10/2019 11:20 am Post subject:

นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ขบวนรถไฟสายใต้ถึงจุดหมายล่าช้ากว่าตารางเดินรถบ่อยครั้งว่า
ปัญหาดังกล่าวเกิดจากพื้นที่ภาคใต้เป็นดินอ่อน แตกต่างภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ที่เป็นดินแข็ง เมื่อมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน และช่วงหัวหิน-ชุมพร ระยะทางรวม 400 กิโลเมตร จึงอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง

การรถไฟฯ จึงต้องลดความเร็วในการเดินรถลงเพื่อความปลอดภัย จากเดิมใช้ความเร็ว 90 กิโลเมตรตลอดสาย
แต่เมื่อมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ก็ต้องชะลอความเร็วลง โดยอัตราความเร็วจะขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นดินแต่ละจุด บางจุดที่มีระยะทางเพียง 200-300 เมตร ก็ต้องชะลอความเร็วเหลือแค่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ บางสถานีต้องรื้อถอนทางหลีกออก เพื่อทำการก่อสร้างทางใหม่ ส่งผลให้การหลีกขบวนรถใช้เวลานานขึ้นในบางครั้ง ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ทำให้ขบวนรถไฟสายใต้ ทั้งขาเข้าและออกจากกรุงเทพฯ ถึงจุดหมายปลายทางล่าช้ากว่ากำหนดตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป

เมื่อเร็วๆ นี้ การรถไฟฯ จึงหารือกับผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้รับเหมาก็ได้ปรับแผนการก่อสร้างใหม่ ส่งผลให้การเดินรถในภาพรวมเริ่มดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าปัญหานี้จะคลี่คลายได้ทั้งหมดเมื่อไร นายฐากูรก็ตอบว่า สถานการณ์จะคลี่คลายตามความคืบหน้าของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วที่สุด น่าจะเป็นช่วงกลางปีหน้า

“ปัญหานี้ทำให้รถไฟสายใต้ล่าช้าเฉลี่ยมากกว่า 1 ชั่วโมง ผู้โดยสารบ่นเยอะ เราก็พยายามลดการดีเลย์ลงให้ได้มากที่สุด โดยเป้าหมายคือ ลดการดีเลย์ให้เหลือ 20-30 นาทีต่อขบวน ซึ่งเป็นตัวเลขที่พอรับได้” นายฐากูรกล่าว

นายฐากูรเปิดเผยต่อว่า สำหรับผู้โดยสารขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งจะเดินทางมาที่สถานีหัวลำโพง อาจพบปัญหาความล่าช้ามากกว่าปกติ เนื่องจากรถไฟสายใต้ที่ล่าช้าในช่วงชุมพร-นครปฐม ต้องมาแออัดกับรถไฟสายเหนือและสายอีสาน ในช่วงสถานีบางซื่อ-สถานีหัวลำโพง ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารอาจพิจารณาลงที่สถานีบางบำหรุ ซึ่งห่างจากถนนสิริธรเพียง 150 เมตร หรือสถานีบางซื่อ ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อ เพื่อใช้ขนส่งสาธารณะโหมดอื่นๆ เดินทางต่อไป เพื่อความสะดวกของผู้โดยสารเอง
https://www.thebangkokinsight.com/218609/

Wisarut · Posted: 07/10/2019 12:12 pm Post subject:

นั่งรถไฟไปเที่ยวไหนก็สนุก

ขอรับคู่มือนำเที่ยว ทางรถไฟในวันหยุดได้ที่หน่วยบริการเดินทาง สถานีกรุงเทพ และสถานีในเขตปริมณฑล หรือสามารถดาวโหลดไฟล์ PDF ได้ตามลิงค์ที่แนบมาครับ: คู่มือนำเที่ยว ทางรถไฟในวันหยุด

Wisarut · Posted: 07/10/2019 5:35 pm Post subject:

3ปีรถไฟใหม่(รถโดยสารจีน115คัน) 4 สายเรตติ้งดีไม่มีตก กรุงเทพ-เชียงใหม่ฮิตสุดเต็มตลอด. เบื่อดีเลย์ ตราบาป รฟท. สลัดไม่หลุด
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2564649850248611&set=a.1878620525518217&type=3&theater

Wisarut · Posted: 08/10/2019 9:50 am Post subject:

แปลกใจ...ในเมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบอัตรากำลังให้ รฟท. เมื่อ 20 พ.ย.61 สำหรับประจำปี2562 จำนวน 1,904 อัตรา ผ่านมาจนสิ้นปีงบประมาณ2562 และจะครบปีในเดือนหน้า จนป่านนี้ รฟท. ยังไม่มีการบรรจุพนักงาน รฟท. แล้วก็มาบอกว่าภาครัฐไม่สนใจไม่ให้ ที่ภาครัฐให้เป็นรอบๆ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับเนื้องาน และเพื่อมิให้เกิดภาระหนี้ค่าใช้จ่ายบุคลากรในอนาคตที่สูงเกินไปจนส่งผลต่อองค์กร รฟท. เอง - เอาเข้าจริงๆ พบว่าเป็นการเล่นการเมืองภายในองค์กรครับ
มติครม.เพิ่มเติมได้ที่นี่: https://cabinet.soc.go.th/doc_image/2561/9933046010.pdf
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2565969023450027&set=a.1957785667601702&type=3&theater

Wisarut · Posted: 08/10/2019 5:41 pm Post subject:

การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา เริ่มเปิดจองตั๋วแล้ว

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
8 ตุลาคม 2562

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ในฐานะที่พระองค์ทรงพระราชทานกิจการรถไฟให้แก่ปวงชนชาวไทย โดยเริ่มเปิดจองตั๋วโดยสารแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หรือ "วันปิยมหาราช" การรถไฟฯ ได้จัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ในฐานะที่พระองค์ทรงพระราชทานกิจการรถไฟให้แก่ปวงชนชาวไทย

ในโอกาสนี้การรถไฟฯ ได้นำขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ รถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี มาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวในเส้นทางสายประวัติศาสตร์ระหว่างสถานีกรุงเทพถึงสถานีอยุธยา เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

ทั้งนี้ขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 901/902 จะออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในวันที่ 23 ตุลาคม 2562 เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง และเที่ยวกลับออกจากสถานีอยุธยา
เวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.40 น. โดยมีสถานีที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าว ส่วนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – อยุธยา ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษ สามารถร่วมบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้

สำหรับอัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 290 บาท (บริการอาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ) โดยผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

นายเอกรัช กล่าวว่า สำหรับการจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวสายประวัติศาสตร์ ขบวนรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จะใช้ลากจูงขบวนในโอกาสพิเศษ และในวันสำคัญ ๆ โดยใน 1 ปี จะนำออกมาให้บริการประชาชน 6 ครั้ง ประกอบด้วย
1. วันที่ 23 ตุลาคม 2562 วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา
2. วันที่ 5 ธันวาคม 2562 วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา
3. วันที่ 26 มีนาคม 2563 วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา
4. วันที่ 3 มิถุนายน 2563 วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เส้นทางกรุงเทพ – นครปฐม
5. วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา
6. วันที่ 12 สิงหาคม 2563 วันแม่แห่งชาติ เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา