Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 08/10/2019 7:18 pm Post subject:
การรถไฟฯ จัดขบวนรถพิเศษนั่งรถไฟลอยน้ำต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว เส้นทาง กรุงเทพ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เริ่มเปิดจำหน่ายตั๋ววันแรก 11 ตุลาคมนี้
*******************************
การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยว พานั่งรถไฟลอยน้ำต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว เส้นทาง กรุงเทพ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2562 มกราคม 2563 เริ่มเปิดจำหน่ายตั๋ววันแรก 11 ตุลาคมนี้ พร้อมให้บริการเที่ยวแรก 16 พฤศจิกายน 2562 จัดให้บริการตู้โดยสารพิเศษจัดเฉพาะเช่าเหมาคัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ จองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฤดูกาลการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่กำลังมาถึงในปีนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทาง กรุงเทพ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ให้เดินทางไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำหนึ่งเดียวของเมืองไทย ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยผืนน้ำและผืนป่าเขียวชอุ่มสองข้างทาง แบบไปเช้าเย็นกลับ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2562 มกราคม 2563
ทั้งนี้รถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสัก เที่ยวปฐมฤกษ์เปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2562 เป็นวันแรก และจะมีการให้บริการต่อในวันที่ 17, 23, 24, 30 พฤศจิกายน 2562 วันที่ 1, 7, 8, 14, 15, 21, 22 ธันวาคม 2562 และวันที่ 11, 12, 18, 19, 25, 26 มกราคม 2563 รวมจำนวน 18 วัน
สำหรับตารางเวลาเดินรถ เที่ยวไป ขบวนรถออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 07.10 น. จากนั้นหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ คือ สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี แก่งคอย แก่งเสือเต้น ถึงจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมดื่มด่ำกับความงดงาม ตื่นตาตื่นใจประมาณ 30 นาที เดินทางไปต่อที่สถานีโคกสลุง มีเวลาให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน ถ่ายภาพ ซื้อของ อีกประมาณ 30 นาที จากนั้นเดินทางกลับมาที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถึงเวลา 11.32 น. ให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น สัมผัสกับธรรมชาติบนสันเขื่อน เพลิดเพลินกับกิจกรรมการแสดงวิถีชีวิตของชุมชนไทยเบิ้ง การแสดง และจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง OTOP นั่งรถตัวหนอนชมบรรยากาศบริเวณสันเขื่อนฯ ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การก่อสร้างเขื่อนป่าสักฯ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ชมฟาร์มแพะ ฟาร์มแกะ หรือบริการรถรางวิ่งผ่านสันเขื่อนไปสักการะพระใหญ่ อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี โดยรถเที่ยวกลับ ออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 15.30 น. เพื่อเดินทางกลับถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 18.20 น.
นายเอกรัชกล่าวว่า ผู้สนใจเดินทางสามารถเลือกจองตั๋วโดยสารได้ทั้ง 2 แบบ คือ รถนั่งชั้น 3 ธรรมดา
รถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ส่วนค่าโดยสารเด็ก และผู้ใหญ่ราคาเดียวกัน ตามรายละเอียดดังนี้
1. ค่าโดยสารอัตราพิเศษรถนั่งชั้น 3 ธรรมดา (พัดลม)
* กรุงเทพ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ คนละ 290 บาท ไป-กลับ
* สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง คนละ 110 บาท ไป-กลับ
* แก่งเสือเต้น/เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โคกสลุง คนละ 60 บาท ไป-กลับ
* เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ คนละ 150 บาท เที่ยวกลับเที่ยวเดียว
2. ค่าโดยสารอัตราพิเศษรถนั่งชั้น 2 (ปรับอากาศ)
* กรุงเทพ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ คนละ 490 บาท ไป-กลับ
* สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง คนละ 220 บาท
* เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ คนละ 250 บาท เที่ยวกลับเที่ยวเดียว
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ให้บริการตู้โดยสารพิเศษจัดเฉพาะเช่าเหมาคัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ โดยสามารถเช่าพ่วงเพิ่มไปกับขบวนรถพิเศษได้โดยมีอัตราค่าเช่าตู้โดยสาร ไป- กลับ ดังนี้
1. รถโบกี้จัดเฉพาะปรับอากาศ (รถ OTOP Train) เดินทางได้ จำนวน 110 คน ราคา 51,400 บาท
2. รถโบกี้จัดเฉพาะปรับอากาศ (รถเสบียงครัวร้อน) เดินทางได้ จำนวน 20 คน ราคา 34,000 บาท
3. รถโบกี้จัดเฉพาะปรับอากาศ (รถเสบียงครัวเย็น) เดินทางได้ จำนวน 30 คน ราคา 34,000 บาท
4. หากเช่ารถเสบียงครัวร้อนหรือเสบียงครัวเย็น สามารถเช่ารถชุด PRESTIGE รถตู้นอนเดินทางได้ 8 คน รถประชุมใหญ่เดินทางได้ 30 คน และรถชุด VIP TRAIN รถตู้นอนเดินทางได้ 8 คน รถประชุมและสันทนาการเดินทางได้ 30 คน ในราคาคันละ 29,700 บาท (มีค่าใช้จ่ายพนักงานคุมเครื่องเสียงเพิ่ม อัตราคันละ 1,500 บาท/วัน)
ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ก่อนเดินทาง ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1433742616778366&id=100004279246898
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 15/10/2019 1:01 pm Post subject:
ร.ฟ.ท.ยันขั้นตอนประมูลไอซีดีลาดกระบัง ชง ครม.ชี้ขาด ยกเลิก-เคาะเซ็นสัญญา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 15 ตุลาคม 2562 06:30
ปรับปรุง: 15 ตุลาคม 2562 08:03
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 มีมติให้ทบทวนโครงการ และให้กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท.จัดทำรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงานที่เป็นสาระสำคัญของโครงการให้ครบถ้วนนั้น คาดว่าจะสรุปรายละเอียดตามที่ ครม.มีมติเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมได้ภายในสัปดาห์นี้เพื่อเสนอ ครม.ต่อไป
ทั้งนี้ ตามมติ ครม.ดังกล่าวได้ให้กลับมาพิจารณาจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการให้เป็นไปตามนัยกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ให้มีการศึกษาข้อมูลตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่ เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน และดำเนินการให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนฯ และให้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และ สศช. รวมทั้งความเห็นเพิ่มเติมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการไปพิจารณาประกอบการดำเนินการก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ประมวลข้อมูลตามที่ ครม.ได้ตั้งข้อสังเกต พร้อมเอกสารประกอบ โดยเฉพาะในประเด็นว่าได้ดำเนินการคัดเลือกตามหลักการที่ ครม.อนุมัติหรือไม่ กรณีมีผู้ยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนเพียง 1 ราย เป็นต้น โดยคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2556
สำหรับผลการประมูลไอซีดี ลาดกระบังนั้น กิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการ สัญญา 20 ปี มีมูลค่าลงทุนรวม 4,052 ล้านบาท ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้รับผลตอบแทนจากพื้นที่ 607,344 ตร.ม. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ยังไม่มีการยกเลิกการประมูลใดๆ เนื่องจากมติ ครม.ให้ทำข้อมูลเพิ่มเติมชี้แจงกระบวนการทำงานของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ขณะที่ยังอยู่ในระยะเวลาการยืนราคาของเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก ส่วนจะต้องการยกเลิกประมูลที่ผ่านมาหรือไม่ ต้องรอหลังจากเสนอ ครม.พิจารณาก่อน
ส่วนการบริหารไอซีดีลาดกระบัง ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.มีสัญญากับเอกชน 6 รายในการบริหาร 6 สถานี ซึ่งสัญญาได้สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2554 โดยมีการต่อสัญญามาตลอด และเนื่องจากผู้รับสัมปทานรายใหม่ยังไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ ดังนั้นจึงให้เอกชน 6 รายเดิมให้บริการต่อไปก่อนเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ประกอบการเดิมจะต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่ซึ่งจะใช้แทนเป็นค่าปรับตามระเบียบเพื่อไม่ให้มีปัญหา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 15/10/2019 1:21 pm Post subject:
ลุ้น จิรุตม์ นั่งบิ๊กบอร์ดรถไฟ
15 ตุลาคม 2562
ตัวเต็งจิรุตม์ นั่งบิ๊กบอร์ดรถไฟ ศักดิ์สยาม ชงครม.วันนี้แต่งตั้ง 8 คณะกรรมการ รฟท.ให้ทันเซ็นสัญญาไฮสปีดวันที่ 25 ต.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ต.ค.) กระทรวงคมนาคมจะเสนอรายชื่อคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชุดใหม่ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ประกอบด้วย
1.นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานกรรมการ
2.นายชยธรรม์ พรหมศร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงคมนาคม
3.นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง
4.นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นกรรมการ
5.นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด เป็นกรรมการ
6.นายธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการอิสระ/ประธานกรรมการตรวจสอบ/กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI เป็นกรรมการ
7.นายพินิจ พัวพันธ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นกรรมการ
8.นายวรวุฒิ มาลา รักษาการแทนผู้ว่าการรถไฟฯ เป็นกรรมการ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเผยว่าถ้าครม.เห็นชอบจะมีการจัดประชุมบอร์ดการรถไฟฯ ทันที เพื่อรับทราบการเตรียมความพร้อมลงนามสัญญา โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท จากนั้นจะนำแผนการก่อสร้างเสนอให้ ครม. เห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ และลงนามสัญญากับกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) ในวันที่ 25 ตุลาคม 2562
ตอนนี้เชื่อว่าการพิจารณาในขั้นตอนของบอร์ดจะไม่มีปัญหา ส่วนการลงนามสัญญาก็ทราบว่า ทางเอกชนอยากลงนาม แต่เงื่อนไขอยู่ที่ว่าการส่งมอบพื้นที่มีความจำเป็น หากไม่มีการกำหนดเวลาชัดเจนรมต.กระทรวงคมนาคมกล่าว
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/10/2019 3:29 pm Post subject:
อธิบดีขบ.ปธ.บอร์ดรฟท.
ข่าวสด (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2562
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในการประชุม ครม. กระทรวงคมนาคมจะเสนอรายชื่อบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชุดใหม่ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานบอร์ด
ส่วนกรรมการประกอบด้วยนายชยธรรม์ พรหมศร รอง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ตัวแทนคมนาคม, นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ ตัวแทนกระทรวงการคลัง, นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์, น.ส.ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด
นายธันวา ลาหศิริวงศ์ กรรมการอิสระ/ประธานกรรมการตรวจสอบ/กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) นายพินิจ พันพันธ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ktzmico เป็นกรรมการ และนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นกรรมการ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/10/2019 3:54 pm Post subject:
ครม. ตั้งบอร์ดรถไฟ 'จิรุตม์' นั่งประธาน
กรุงเทพธุรกิจ 15 ตุลาคม 2562
ครม. ตั้งบอร์ดรถไฟ "จิรุตม์ วิศาลจิตร" นั่งประธานกรรมการ
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.62 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอแต่งตั้งประธานและกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร นายอํานวย ปรีมนวงศ์ นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล นายธันวา เลาหศิริวงศ์ นายพินิจ พัวพันธ์ และ นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)
ทั้งนี้เพื่อแทนตําแหน่งที่ว่างลง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 15/10/2019 8:48 pm Post subject:
ครม.เคาะตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ เร่งประชุมด่วน 16 ต.ค. เข็นเซ็นไฮสปีด -จ่อฟ้องแพ่งสู้ค่าโง่โฮปเวลล์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 15 ตุลาคม 2562 17:18
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้(15 ต.ค. ) มีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวม 7 คน โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร , นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ,นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล, นายธันวา เลาหศิริวงศ์, นายพินิจ พัวพันธ์ เป็นกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ,นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ และนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ รฟท. ในฐานะกรรมการเลขานุการบอร์ด ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้การดำเนินกิจการ ของรฟท. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้บอร์ด รฟท.จะเร่งประชุมนัดแรก วันพุธที่ 16 ต.ค. ในช่วงบ่าย เพื่อพิจารณาโครงการสำคัญ เร่งด่วน ได้แก่ การพิจารณามอบอำนาจให้ ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ยื่นฟ้องศาลแพ่ง เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด , โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,421 ล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) ที่มีการปรับกรอบวงเงินจากที่ ครม. อนุมัติไว้ที่ 38,558.38 ล้านบาท เป็น 50,633.50 ล้านบาท
และ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ซึ่งจะมีการลงนามสัญญากับ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH)ในวันที่ 25 ต.ค. 2562 ซึ่งหากดำเนินการภายใต้กรอบ เงื่อนไข RFP และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้ต้องยกเลิกสัญญา ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการคัดเลือกฯได้มีการตรวจสอบร่างสัญญาอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ต.ค. เวลา 10.00 น. คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด อีอีซีจะมีการประชุม ซึ่งจะมีการพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้วย
@ เตรียมฟ้องแพ่งโฮปเวลล์ปมจดทะเบียนบริษัท ต่างด้าว
สำหรับการต่อสู้คดี โฮปเวลล์นั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่า คณะทำงานของกระทรวงคมนาคมและรฟท.ได้พบข้อมูลที่จะสามารถยื่นฟ้องคดีแพ่งได้ ในประเด็นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้รับการยกเว้น ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 (ปว. 281) เนื่องจากครม.ในขณะนั้นไม่ได้เห็นชอบให้ดำเนินการในการยกเว้น ปว. 281 เป็นต้น
คณะทำงานกระทรวงคมนาคมค้นพบข้อมูลในประเด็นที่สามารถฟ้องร้องได้ อย่างกรณีที่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการจดทะเบียนโดยมีผู้ถือหุ้นเป็นคนต่างด้าว เพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจในประเทศไทย จะต้องได้รับการยกเว้น ปว 281 เป็นประเด็นการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคณะทำงานมีความเห็นว่า การจดทะเบียนไม่ถูกต้อง ทำให้สัญญาโฮปเวลล์ ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งไม่ได้เป็นการเรียกค่าเสียหาย โดยคณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลค่อนข้างครบแล้ว จะนำเสนอบอร์ดรฟท.เพื่อมอบอำนาจในการฟ้องแพ่ง ซึ่งมีหลายประเด็นที่จะฟ้อง เป็นรายละเอียดทางคดีที่ยังเปิดเผยไม่ได้
โดยหลังบอร์ดเห็นชอบในวันที่ 16 ต.ค.ฝ่ายกฎหมาย รฟท.จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งทันที เนื่องจากมี ต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวมเป็นเงิน 11,888 ล้านบาท โดยไม่รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามคำสั่งศาลปกครอง ภายใน 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 19 ต.ค. 2562
สำหรับการจ่ายชดเชยนั้น ทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาแนวทาง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นประกอบแล้ว นอกจากนี้ ในทางคู่ขนาน ได้ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อยื่นฟ้องทางอาญาอีกทาง
ขณะที่ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2562 ได้มอบอำนาจให้ทางอัยการสูงสุด ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ไปแล้วรวมถึงการขอชะลอการบังคับคดี หรือขอขยายเวลาในการจ่ายเงินชดเชยออกไป แต่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา ตอนนี้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการตามหน้าที่ ซึ่งต้องรอการวินิจฉัยของศาลจะออกมาอย่างไร
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 16/10/2019 10:16 am Post subject:
ครม.เคาะตั้งบอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดใหม่-เร่งประชุมด่วน 16 ต.ค.เข็นเซ็นไฮสปีด-จ่อฟ้องแพ่งสู้ค่าโง่ โฮปเวลล์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 15 ตุลาคม 2562 17:18
ปรับปรุง: 15 ตุลาคม 2562 20:48
ครม.เคาะตั้งบอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดใหม่ ศักดิ์สยาม ส่ง จิรุตม์ นั่งหัวโต๊ะบัญชาการ ประชุมนัดแรก 16 ต.ค. งัดหลักฐานเตรียมฟ้องแพ่ง โฮปเวลล์ ปมจดทะเบียนบริษัท ต่างด้าว สู้ปมค่าโง่และเซ็นสัญญาไฮสปีด 3 สนามบินให้ได้ตามกำหนด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (15 ต.ค.) มีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวม 7 คน โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร, นายอำนวย ปรีมนวงศ์, นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล, นายธันวา เลาหศิริวงศ์, นายพินิจ พัวพันธ์ เป็นกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง), นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ และ นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ในฐานะกรรมการเลขานุการบอร์ด ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้การดำเนินกิจการ ของ ร.ฟ.ท. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท.จะเร่งประชุมนัดแรก วันพุธที่ 16 ต.ค. ในช่วงบ่าย เพื่อพิจารณาโครงการสำคัญ เร่งด่วน ได้แก่ การพิจารณามอบอำนาจให้ ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ยื่นฟ้องศาลแพ่ง เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด, โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,421 ล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) ที่มีการปรับกรอบวงเงินจากที่ ครม. อนุมัติไว้ที่ 38,558.38 ล้านบาท เป็น 50,633.50 ล้านบาท
และ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ซึ่งจะมีการลงนามสัญญากับ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) ในวันที่ 25 ต.ค. 2562 ซึ่งหากดำเนินการภายใต้กรอบ เงื่อนไข RFP และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้ต้องยกเลิกสัญญา ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการคัดเลือกฯได้มีการตรวจสอบร่างสัญญาอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ต.ค. เวลา 10.00 น. คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด อีอีซีจะมีการประชุม ซึ่งจะมีการพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้วย
เตรียมฟ้องแพ่ง โฮปเวลล์ ปมจดทะเบียนบริษัท ต่างด้าว
สำหรับการต่อสู้คดี โฮปเวลล์นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า คณะทำงานของกระทรวงคมนาคมและร.ฟ.ท.ได้พบข้อมูลที่จะสามารถยื่นฟ้องคดีแพ่งได้ ในประเด็นการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้รับการยกเว้น ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 (ปว. 281) เนื่องจาก ครม.ในขณะนั้นไม่ได้เห็นชอบให้ดำเนินการในการยกเว้น ปว. 281 เป็นต้น
คณะทำงานกระทรวงคมนาคมค้นพบข้อมูลในประเด็นที่สามารถฟ้องร้องได้ อย่างกรณีที่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการจดทะเบียนโดยมีผู้ถือหุ้นเป็นคนต่างด้าว เพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจในประเทศไทย จะต้องได้รับการยกเว้น ปว 281 เป็นประเด็นการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคณะทำงานมีความเห็นว่า การจดทะเบียนไม่ถูกต้อง ทำให้สัญญาโฮปเวลล์ ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งไม่ได้เป็นการเรียกค่าเสียหาย โดยคณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลค่อนข้างครบแล้ว จะนำเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.เพื่อมอบอำนาจในการฟ้องแพ่ง ซึ่งมีหลายประเด็นที่จะฟ้อง เป็นรายละเอียดทางคดีที่ยังเปิดเผยไม่ได้
โดยหลังบอร์ดเห็นชอบในวันที่ 16 ต.ค.ฝ่ายกฎหมาย ร.ฟ.ท.จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งทันที เนื่องจากมี ต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวมเป็นเงิน 11,888 ล้านบาท โดยไม่รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามคำสั่งศาลปกครอง ภายใน 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 19 ต.ค. 2562
สำหรับการจ่ายชดเชยนั้น ทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาแนวทาง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นประกอบแล้ว นอกจากนี้ ในทางคู่ขนาน ได้ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อยื่นฟ้องทางอาญาอีกทาง
ขณะที่ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2562 ได้มอบอำนาจให้ทางอัยการสูงสุด ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ไปแล้วรวมถึงการขอชะลอการบังคับคดี หรือขอขยายเวลาในการจ่ายเงินชดเชยออกไป แต่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา ตอนนี้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการตามหน้าที่ ซึ่งต้องรอการวินิจฉัยของศาลจะออกมาอย่างไร
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 16/10/2019 10:43 am Post subject:
ครม.ตั้งบอร์ดรถไฟ จิรุตม์ วิศาลจิตรนั่งประธาน
เผยแพร่: 15 ตุลาคม 2562
วันที่ 15 ต.ค. 62 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอแต่งตั้งประธานและกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร นายอํานวย ปรีมนวงศ์ นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล นายธันวา เลาหศิริวงศ์ นายพินิจ พัวพันธ์ และ นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)
ทั้งนี้เพื่อแทนตําแหน่งที่ว่างลง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป
บอร์ด '8เทพอสูรมังกร' รถไฟ ตั้งปุ๊บ ลงนามรถไฟฟ้าปั๊บ
ออนไลน์เมื่อ 15 ตุลาคม 2562
ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน
โดย...พรานบุญ
ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3514
หน้า 20 ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2562
บอร์ด '8เทพอสูรมังกร' รถไฟ ตั้งปุ๊บ! ลงนามรถไฟฟ้าปั๊บ
มาตามสัญญา มาตามหัวใจเรียก หา
เมื่อลมหนาวหวน มา จงตื่นจากหลับ ใหล....
ซึมเซาอยู่นาน วัน สิ้นกำลังทั้งกาย ใจ
ถึงรอนานเพียง ใด หัวใจก็ อดทน...
จู่ จู่ ก็หาย ไป กำลังใจที่เคย มี
อยู่ๆ ก็หวน มา ตามคำสัญญากับ ตัวเอง...
ขอเพียงสิ่งดลใจบาง อย่าง กระตุ้นเตือนข้าง ใน
ถึงเป็นแค่เพียงลมหนาวพัด ผ่าน วูบเดียวก็พอ ก็พอ..
ในที่สุดคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ทำคลอดคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แทนที่ชุดเดิม ที่ กุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และไม่ยอม หงอ เพื่อลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน 2.27 แสนล้านบาท ที่กลุ่มซีพีชนะการประมูลไป เนื่องจากเสนอเงื่อนไขให้รัฐบาลไทยจ่ายเงินในการลงทุนน้อยที่สุด แต่มีการเจรจาปรับเงื่อนไขในสัญญาจาก ทีโออาร์เดิม ยาวนานและแก้ไขในรายละเอียดมากที่สุดในประวัติศาสตร์การประมูลไทย
พรานฯ ที่ท่องไพรมาชั่วชีวิตพาท่านไปรู้จัก....8 เทพ อสูร มังกรฟ้าที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย ชุดใหม่ที่คณะรัฐมนตรีลุงตู่อนุมัติกัลลลล...
จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานกรรมการ รฟท.
จิรุตม์นั้นเป็นลูกหม้อกรมการขนส่งทางบก จบรัฐศาสตรบัณฑิต จากจุฬาฯ ไปเรียนต่อทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ซานดิเอโก สหรัฐฯ ก้าวขึ้นมาเป็นรองอธิบดี ก่อนถูกโยกออกไปเป็นผู้ตรวจราชการเมื่อ 30 สิงหาคม 2559 พอถึง 20 กันยายน 2560 ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า ดำรงตำแหน่งปีเดียว ไม่รู้ไปแก้ปัญหาไอยูยูหนักไปหน่อยหรืออย่างไร จึงโดนแขวนในเดือนตุลาคม 2561 ให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการ อีกครั้ง ก่อนจะแต่งตั้งเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม ในเดือนมกราคม 2562 ก่อนที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จะใช้งานในการขับเคลื่อนนโยบายด้านแท็กซี่ และรถสาธารณะ จนถูกอกถูกใจ และตั้งเป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยย้ายสลับขั้วกันกับ อธิบดีคนเก่า พีระพล ถาวรสุภเจริญ
ชยธรรม์ พรหมศร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงคมนาคม ชยธรรม์นั้นถือเป็นลูกหม้อ สนข.และครม.ลุงตู่มีมติแต่งตั้งไปเป็นผู้อำนวยการ สนข.เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา รอโปรดเกล้าฯ
การทำงานที่ผ่านมาของ ชยธรรม์ต้องบอกว่าเดี่ยวมือ 1 ในเรื่อง ถนน-หนทาง ปี 2559-2562 เป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ปี 2554-2559 เป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการทางหลวงระหว่างประเทศ กรมทางหลวง ปี 2552-2554 ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการก่อสร้างและประเมินผล กรมทางหลวง ปี 2551-2552 เป็น วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ (ระดับ 9) กรมทางหลวง ปี 2547-2551 เป็นผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กรมทางหลวง
ศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง สำหรับศุกร์ศิรินั้นเป็นรองอธิบดีหมาดๆ เคยเป็นธนารักษ์พื้นที่สุพรรณบุรี ถือว่ามาแบบตรงคน ตรงงาน เพราะดูแลงานในส่วนของเทคโนโลยีการสำรวจ และฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ งานในกองบริหารจัดการกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ กองบริหารที่ราชพัสดุภูมิภาค
อำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นกรรมการ รฟท.
อำนวยเคยเป็นกรรมการ รฟท.มาระลอกหนึ่งในสมัยรัฐบาล ลุงตู่ 1 เคยเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้) ปี 2554-2557 เป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ปี 2552-2554 :ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ปี 2551 เป็นที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ ปี 2549-2551 เป็นรองอธิบดีกรมธนารักษ์ ปี 2547 เป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ ปี 2546 เป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารที่ราชพัสดุ 1 กรมธนารักษ์
เรียกง่ายๆ ว่าถ้าจะถามว่าที่ตรงไหนเป็นที่ราชพัสดุ เรียก น้านวย...พูดได้ ตอบได้ ตรงประเด็น ยังกะเห็นลายนิ้วมือตัวเอง
ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่มบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ เป็นกรรมการ รฟท.
ไตรทิพย์นั้นถือว่าเป็นมือการเงิน เคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินส่วนกลาง บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ (MINT) เคยเป็นมือการเงินที่เชี่ยวชาญและเก่งในการเข้าไปช่วยเหลือและปรับโครงสร้างทางธุรกิจให้กับบริษัทที่มีปัญหาช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจยุคปี 2540 ให้สามารถพลิกฟื้นกลับมา ไม่ว่า บริษัท ทีพีไอ ปิโตรเคมีกัลฯ หรือบริษัท ไออาร์พีซีฯ (IRPC) รวมถึงการปรับหนี้ในธุรกิจนํ้าตาลที่โด่งดัง เคยเป็น 1 ในผู้อำนวยการบริหารสินทรัพย์ไทย ที่เป็นผู้ขายทรัพย์ปรับโครงสร้างหนี้ประเทศไทย เห็นหน้าหวาน แต่ใจเธอแข็งดุจเพชร เคยเขียนหนังสือเล่มหนาเตอะชื่อ กลโกงสะท้านโลก ให้คนไทยได้อ่านกัน
ธันวา เลาหศิริวงศ์ ประธานกรรมการตรวจสอบ/กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI เป็นกรรมการ ธันวานั้นเคยเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ปี 2558 ธันวาเป็น รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ก่อนลาออกเพราะมีปัญหาบางประการกับ นายพล ที่เป็นประธานทีโอที
ชีวิตธันวานั้นน่าสนใจมากๆ เคยเป็นนายกสมาคมการลงทุนเน้นคุณค่าแห่งประเทศไทย เป็นนักลงทุน วีไอ ตัวพ่อ
ธันวา จบภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปี 2530 ได้รับการยกย่องให้เป็นศิษย์เก่าวิศวะลาดกระบัง ดีเด่น เข้าทำงานในตำแหน่งวิศวกรระบบที่ บริษัท โตโย เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ทำงาน 3 ปีลาออก เป็นเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทยฯ ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ จนได้เป็นผู้บริหาร ก่อนจะถูกส่งตัวไปทำงานที่สิงคโปร์ เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นได้รับโปรโมตให้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ต่อจาก ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ที่มาทำงานในไทยคม แต่ทำงานพักหนึ่งก็ลาออกมาเป็นายกสมาคมวีไอ แทนที่ สุทัศน์ ขันเจริญสุข เจ้าของพอร์ตหุ้น พันล้านบาท
พินิจ พัวพันธ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นกรรมการ พินิจนั้นไม่เบาจบปริญญาโท เศรษฐศาสตร์, The London School of Economics and Political Science จบปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์, Tufts University เป็นกรรมการ บริษัท มะลิกรุ๊ป 2012 จำกัด เป็นรองประธานกรรมการบริษัท นมตรามะลิฯ และเป็นกรรมการในบริษัท การบินไทยฯ มาตั้งแต่ปี 2561
วรวุฒิ มาลา รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฯ เป็นกรรมการ รฟท.
วรวุฒินั้นถือว่าเป็นผู้รับไม้ในการเจรจาเรื่องรถไฟ 3 สนามบินมากับมือตั้งแต่ต้น รู้ดุจลายมือตัวเองเช่นกัน
8 อรหันต์ที่เป็นกรรมการ รฟท.คือบอร์ดฮิตาชิ ตั้งปุ๊บตามแผน ของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม บอกว่าจะต้องลงนามสัญญากับกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) ในวันที่ 25 ตุลาคม 2562
ลงนามกันอย่างไร รายละเอียดเป็นอย่างไร บอร์ดรถไฟคือหนังหน้าไฟในสัญญาไฮสปีดเทรน 2.2 แสนล้านบาท ที่มีเงื่อนไขยุบยิบ ถ้าส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ใน 1 ปี 3 เดือน ก็กลายเป็นค่าโง่ที่รัฐต้องเข้าไปแบกรับภาระให้เอกชนคู่สัญญา เงินชดเชยพิเศษหากมีข้อปัญหาในสัญญา จิปาถะบันเทิง รอให้ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า พิสูจน์
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
Posted: 21/10/2019 10:23 am Post subject:
ลุยหัวลำโพงช่วย'เด็กเร่ร่อน' ผลักดันครู กศน.สอนพิเศษ
ศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562 เวลา 11.10 น.
"ชุมชนเมือง-เดลินิวส์" ร่วมลงพื้นที่ "รมช.ศึกษาฯ" พาไปดูสภาพปัญหา "เด็กเร่ร่อน" ในสถานีรถไฟหัวลำโพง พร้อมเยี่ยชม "ตึกเดอะฮับ สายเด็ก" หวังช่วยให้การศึกษา เร่งผลักดันครู กศน.สอนเสริมยกระดับคุณภาพชีวิต
ปัญหาเด็กเร่ร่อน ยังคงเป็นปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลจะเร่งแก้ไข ในทุกด้านทั้งเรื่องพัฒนาคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย รวมถึงด้านการศึกษา ที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถพัฒนาชีวิตตนเองไปได้ในทางที่ดีขึ้น แต่ปัจุบันการเข้าถึงด้านการศึกษาตามระบบพื้นฐานที่รัฐบาลมีให้นั้นยังมีข้อจำกัดสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้
ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงลงพื้นที่พร้อมด้วย ดร.กมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.พะโยม ชินวงษ์ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายกุลธร เลิศสุริยะกุล ประธานเครือข่ายองค์กรเพื่อเด็กเร่ร่อน มูลนิธิสายเด็ก1387 และทีมครูกศน.เขตปทุมวัน ออกตรวจติดตามปัญหากลุ่มเด็กเร่ร่อน และให้กำลังใจครูสอนเด็กเร่ร่อนหรือเด็กด้อยโอกาสในบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงและพื้นที่ใกล้เคียง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พร้อมพูดคุยกับกลุ่มเด็กเร่ร่อนในละแวกดังกล่าวเพื่อทราบถึงปัญหาและความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้
ดร.กนกวรรณ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเด็กเร่ร่อนจำนวนมากตามเมืองใหญ่และต่างจังหวัดที่สำรวจได้ในตอนนี้ประมาณ 50,000 คนทั่วประเทศ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และสถานการณ์มีความรุนแรงและซ้ำซ้อนยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ กระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานกศน. ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายองค์กรเพื่อเด็กเร่ร่อน สมาคมสถาบันส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้เปิดตัวโครงการ Children in Street เพื่อค้นหาและวางมาตรการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนบนท้องถนนในพื้นที่ กทม.ให้สอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในการพัฒนาแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มเด็กบนท้องถนนในพื้นที่ กทม.ที่มีแนวโน้มจะหลุดออกนอกระบบการศึกษา
สำหรับแนวทางดังกล่าวถูกนำมาพัฒนาเป็นโครงการ Children in Street ในพื้นที่ กทม. โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบให้ความช่วยเหลือและกลไกปกป้องคุ้มครองกลุ่มเด็กและเยาวชนบนท้องถนน เพื่อยกระดับให้มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง และสนับสนุนให้เด็กกลุ่มนี้เติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง ในการสำรวจเด็กเร่ร่อน หรือเด็กที่ใช้ชีวิตตามท้องถนนในพื้นที่ กทม. โดยมอบหมายให้ครูจาก กศน. ในแขวงต่างๆ ซึ่งมีจำนวน 180 แขวง ลงพื้นที่สแกนหาเด็กกลุ่มนี้อย่างเต็มพื้นที่ ตามนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยใช้กลไกของ กสศ. มาบูรณาการ ดำเนินงานร่วมกับหน่วยจัดการศึกษาต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการในทุกระดับการศึกษา ซึ่งเราได้ต่อยอดและขยายผลความคืบหน้าในความร่วมมือช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆให้ตรงจุดและอย่างเข้มข้น ในกรุงเทพมหานคร กระทรวงศึกษาธิการ
โดย สำนักงาน กศน.กรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้กศน.เขตปทุมวัน ดำเนินการจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายเด็กเร่ร่อนในพื้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพงและพื้นที่ใกล้เคียง ปัจจุบันมีเด็กเร่ร่อนที่มาเรียนกับ กศน.เขตปทุมวันแล้วประมาณ30 คน โดยร่วมกับมูลนิธิสายเด็ก1387 จัดการเรียนการสอนใน ตึกเดอะฮับ สายเด็ก (The hub สายเด็ก) ซึ่งเป็นตึกแถว 2 ชั้นมีสถานที่กว้างขวางอยู่ใกล้หัวลำโพง สอนวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ช่วงเวลา 10.00-12.00 น. ซึ่งสถานที่ดังกล่าวยังเป็นที่พักอาศัย ที่อาบน้ำ และที่กินข้าวของเด็กเร่ร่อนบางคนที่ไม่มีที่พักอีกด้วย นอกจากนั้น ทางมูลนิธิสายเด็ก1387 ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมพัฒนาเด็กในรูปแบบต่างๆ เช่น การพาไปค่ายต่างจังหวัด กีฬาว่ายน้ำ และชกมวย เป็นต้น
ดร.กนกวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาให้กับเด็กเร่ร่อนในอนาคต ก็จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยจะใช้การจัดการศึกษา กศน.ให้แก่เด็กในสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นโมเดล ให้กับพื้นที่อื่นๆนำไปใช้ต่อไป ซึ่งปัจจุบัน ทาง กศน.มีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กเร่ร่อนในสถานศึกษา สังกัด สํานักงาน กศน. ปีงบประมาณ 2562 จํานวน 14 จังหวัด ได้แก่กรุงเทพมหานคร, ขอนแก่น, ชลบุรี, เชียงราย, นครราชสีมา, ภูเก็ต, ยะลา, สงขลา, สุราษฎรธานี,อุดรธานี, อุบลราชธานี, ระยอง, สกลนครและเชียงใหม่ มีครูผู้สอน 37 คน ผู้เรียน 2,000 กว่าคน ซึ่งหลังจากนี้ต้องหาแนวทางที่จะเพิ่มครู กศน.ที่สอนเด็กเร่ร่อนให้เพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบัน เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนเด็กที่ลงทะเบียนเรียนกับ กศน. และต้องมีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเด็กๆเหล่านี้ ต้องเน้นไปแนววิชาชีพที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับเด็กๆวันนี้ทำให้รู้ถึงความต้องการ ที่นอกจากจะเรียนรู้ตามหลักการแล้ว ก็ยังต้องการที่จะเรียนรู้ในวิชาชีพนั้นจริงๆเช่น เรียนเสริมสวย เรียนช่างวิชาชีพ เป็นต้น เพราะเมื่อจบแล้วก็ยังนำไปประกอบอาชีพมีรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต ซึ่งหลังจากนี้ จะให้สำนักงาน กศน.เขตปทุมวัน ไปวางแผนและปรับการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มแด็กเพื่อจะได้มาเรียนได้มากขึ้น อาจจะต้องแก้ไขโดยปรับเปลี่ยนเวลาเรียนเป็นช่วง 16.00 น. เป็นต้นไป รวมถึงต้องมีการจัดสรรอุปกรณ์เทคโนโลยีพร้อมระบบสื่อสารออนไลน์มาช่วยในการจัดการเรียนการสอนให้มีความน่าสนใจ รวมทั้งแก้ปัญหาเด็กกลุ่มที่ต้องทำงานไม่สามารถมาเรียน(พบกลุ่ม)ได้เต็มที่ พร้อมทั้งพัฒนาความสามารถของเด็กๆให้มีอาชีพ มีงานทำ ไม่เป็นภาระของสังคม ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือแรงงานควบคู่ไปด้วย
ด้าน น.ส.มาย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี 1ในกลุ่มเด็กเร่ร่อนหรือกลุ่มเด็กด้อยโอกาส เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ 4-5 ปีที่ตัดสินใจออกจากบ้านมามีความกลัวในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยหรือการทำมาหากิน แต่พอได้มาเรียนกับ กศน.ที่เดอะฮับ สายเด็ก ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้น รู้สึกว่าตนเองได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ ตอนนี้ก็เรียนและทำงานไปด้วย แต่สิ่งที่อยากให้ดูแลเพิ่มเติมคือต้องการให้มีการฝึกวิชาชีพตามความชอบของแต่ละคนและสามารถได้ฝึกทำงานได้จริงตามที่เรียน เพื่อจะได้นำไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้
ขณะที่ ร.ต.อ.ชาติชาย โจ่ยสา ผบ.หมู่ สถานีรถไฟตำรวจนพวงศ์ บก.ตำรวจรถไฟ หรือผู้กองโจ่ย ผู้ริเริ่มโครงการครูตำรวจข้างถนน กล่าวว่า เมื่อก่อนตอนปี40 ที่หัวลำโพงปัญหาเด็กเร่ร่อนเยอะมาก ทั้งเรื่องยาเสพติด การลักเล็กขโมยน้อย ตนจึงมีแนวคิดที่อยากจะช่วยให้เด็กเหล่านี้ไม่ทำตัวเป็นปัญหาสังคม จึงเริ่มมีการพูดคุยกับเด็กๆ ชักชวนให้มาเรียนหนังสือ กับตนโดยใช้โบกี้รถไฟที่ไม่ได้ใช้งาน ใช้เป็นที่สอนหนังสือเรื่อยมา จนปัจจุบัน เด็กๆเหล่านั้นได้มีที่เรียนกับครู กศน.ถือว่าเป็นโชคดีของกลุ่มเด็กๆที่มีผู้ใหญ่เห็นใจและให้ความสำคัญด้านการศึกษา ปัจจุบันนี้โบกี้สอนหนังสือดังกล่าวจึงเป็นห้องสมุดประชาชน ให้ชาวบ้านมาอ่านหนังสือกัน
รฟท. บูรณาการ พม.ดูแลคนไร้ที่พึ่งหัวลำโพง
19 ตุลาคม 2562
การรถไฟแห่งประเทศไทย บูรณาการความร่วมมือกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี้ยวข้องลงพื้นที่ปฏิบัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อช่วยดูแลกลุ่มคนไร้บ้าน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 เวลา 22.30 น.การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้บูรณาการความร่วมมือกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการตำรวจนครบาล กรุงเทพมหานคร กรมสุขภาพจิต กองบังคับการตำรวจรถไฟ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน บ้านพักเด็กฯ มูลนิธิร่วมกตัญญู ลงพื้นที่ปฏิบัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)
นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการ ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถกล่าวว่า การลงพื้นที่ปฏิบัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนไร้บ้าน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยมีการเข้าไปคัดกรองประวัติ สอบถามปัญหา และความต้องการช่วยเหลือจากคนไร้บ้าน เพื่อนำไปสู่การจัดหาแนวทางความช่วยเหลือที่เหมาะสม เช่น การจัดส่งกลุ่มคนไร้บ้านกลับภูมิลำเนา การติดต่อให้พักในบ้านพักพิงสำหรับผู้ไร้ที่พึ่ง การช่วยเหลือติดต่อครอบครัวหรือญาติ ตลอดจนการพัฒนาทักษะสร้างอาชีพจัดหางานที่เหมาะสม เพื่อให้มีรายได้ดูแลช่วยเหลือตัวเองในอนาคต
ทั้งนี้ผลจากการลงพื้นที่สอบถามและคัดกรองประวัติพบคนไร้บ้านในสถานีกรุงเทพทั้งหมด 107 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลไร้ที่พึ่งต้องได้รับการช่วยเหลือคุ้มครอง และไม่สามารถติดต่อกับเครือญาติได้ รวมถึงบางส่วนมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งการรถไฟฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลคนไร้บ้าน โดยนำส่งสถานที่คุ้มครองจำนวน 67 ราย มีอาการเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จำนวน 6 ราย พบความผิดและต้องดำเนินคดี จำนวน 1 ราย และประสานญาติรับกลับภูมิลำเนา 33 ราย
นายสมยุทธิ์ กล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือลงพื้นที่ปฏิบัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)ครั้งนี้ ยังเป็นการช่วยป้องกันและแก้ปัญหาด้านยาเสพติดปัญหาการค้ามนุษย์ และปัญหาอาชญากรรม ตลอดจนเป็นการดูแลอำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการในสถานีกรุงเทพอีกด้วย Last edited by Wisarut on 24/10/2019 11:10 am; edited 1 time in total
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group