Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311906
ทั่วไป:13576492
ทั้งหมด:13888398
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 347, 348, 349 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 21/10/2019 1:03 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.ทรานส์ฟอร์ม เตรียมผุดแผนขายตั๋วดิจิทัล

18 ตุลาคม 2562

บอร์ดรถไฟ อนุมัติ 920 ล้าน จ้าง “แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น” พัฒนาระบบขายตั๋วดิจิทัล คาดเปิดใช้ ธ.ค.2563 ย้ำดึงทุกช่องทางจำหน่ายตั๋วหวังยกระดับบริการ

นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้ว่าจ้างบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ทำการพัฒนาระบบตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง หรือระบบ D-ticketหรือตั๋วดิจิทัลวงเงิน 920 ล้านบาท

โดยหลังจากนี้ AIT จะต้องกลับไปพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วระบบใหม่ให้รองรับการจำหน่ายตั๋วได้ทุกช่องทาง ทั้งจำหน่ายภายในสถานีซื้อผ่านออนไลน์ ซื้อผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสารบนรถไฟผ่านคอมพิวเตอร์มือถือแบบพกพาหรือ Handheld Computer ในกรณีที่ผู้โดยสารขึ้นระหว่างทางพร้อมทั้งพัฒนาตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ขณะที่ระบบการชำระเงินค่าโดยสารก็จะต้องมีความสะดวกและหลากหลายมากขึ้น โดยสามารถชำระเป็นเงินสด หรือชำระผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ได้

อย่างไรก็ตาม การลงนามว่าจ้างเอกชนรายดังกล่าว ร.ฟ.ท.จะเร่งรัดตามมติบอร์ดเร็วๆ นี้ จากนั้นจะเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นและระบบขายตั๋ว ซึ่งตามเอกสารประมูลโครงการ(ทีโออาร์) กำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จภายใน 15 เดือน ภายหลังลงนามในสัญญา แต่เบื้องต้น ร.ฟ.ท.จะเร่งให้เสร็จ และเปิดให้บริการระบบจำหน่ายตั๋วดิจิทัลให้เร็วขึ้นคาดว่าจะเปิดใช้ได้ในเดือน ธ.ค.2563

อย่างไรก็ตาม ระบบตั๋วดิจิทัล จะเป็นระบบซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นชื่อ D-ticket สมัครสมาชิกและยืนยันข้อมูล จากนั้นจะสามารถดำเนินการจองตั๋วและชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะได้รับรหัสยืนยันและคิวอาร์โค้ด เพื่อแสดงข้อมูลการเดินทาง

รวมทั้งระบบดังกล่าวยังรองรับระบบการจองตั๋วรูปแบบอื่น ทั้งการซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านสถานีทั่วประเทศ การซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1690 โดยการแจ้งรายละเอียดการเดินทางแก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นโดยผู้โดยสารจะได้รับรหัสยืนยัน เพื่อนำรหัสไปออกตั๋วที่สถานีพร้อมชำระเงินภายใน 24ชั่วโมง

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า บอร์ดได้อนุมัติการเดินหน้าโครงการระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ตามที่คณะกรรมการที่แล้วตั้งอนุกรรมการศึกษา โดยครอบคลุมรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง คือ สายเหนือ ใต้ อีสาน หลังจากบอร์ดอนุมัติเตรียมลงทุนกับเอกชนที่ชนะการประมูล คาดว่าจะสามารถลงนามปี 2562 ถึงต้นปี 2563
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/10/2019 2:05 pm    Post subject: Reply with quote

เช็กอินรัวๆแลนด์มาร์คใหม่
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แห่เซลฟี่@4StationYรถไฟ 'แพร่-บุรีรัมย์-ลพบุรี-ชุมพร'

นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจาก รฟท.ได้จัดกิจกรรม Station Y ปรับปรุงภูมิทัศน์โดย รอบสถานีรถไฟให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นแหล่งการศึกษาเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม มีการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวภายในจังหวัดและมีจุดถ่ายรูปเช็กอินสวย ๆ นำร่อง 4 สถานี ได้แก่ สถานีบ้านปิน (แพร่) สถานีบุรีรัมย์ สถานีลพบุรี และสถานีชุมพร เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า แต่ละสถานีได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจุดประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดและจุดที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอิน

นายฐากูร กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรม StationY ตัว Y มาจากคำพ้องเสียงของคำว่า Why ที่แปลว่าทำไม ซึ่งเมื่อมาที่สถานีแห่งนี้จะได้รู้ว่าทำไมต้องมาที่นี่ ถือ เป็นจุดเริ่มต้นในการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา ของชุมชนรวมถึงข้อมูลเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ ต่าง ๆ ตลอดจนให้สถานีรถไฟเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยียนเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในชุมชนตลอดจนเปิดโอกาสสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชน และละแวกใกล้เคียงของสถานีรถไฟ

นายฐากูร กล่าวอีกว่าหลังจากนี้จะทยอยจัดกิจกรรมดังกล่าวในสถานีอื่น ๆ ต่อไป โดยสาเหตุที่เริ่ม 4 สถานีนี้ก่อน เพราะเป็นสถานีที่มีความพร้อม ได้รับการรองรับเป็นศูนย์ราชการสะดวก (GECC) จากสำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดในเมืองรอง ซึ่ง รฟท.ต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองตามนโยบายของรัฐบาล และที่สำคัญ 4 สถานีนี้เป็นเมืองรองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ชัดเจนด้วย อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดกิจกรรมที่สถานีใดต่อไปเบื้องต้นต้องไม่ใช่สถานีที่อยู่ในขอบเขตของงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เพราะสถานีบางแห่งอาจต้องรื้อย้าย หากจัดกิจกรรมจะไม่ได้รับความสะดวก.

--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ต.ค. 2562 (กรอบบ่าย)--
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/10/2019 5:33 am    Post subject: Reply with quote

“จิตอาสา “ร่วมพัฒนาเส้นทางรถไฟวันปิยมหาราช
เผยแพร่: 23 ต.ค. 2562 20:54 ปรับปรุง: 23 ต.ค. 2562 21:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

"จิตอาสา"ร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำความสะอาดขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ เพื่อถวายพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร.5

เมื่อนี้( 23 ต.ค.)กลุ่มจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เข้าพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผู้แทนนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาพร้อมภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ผู้บัญชาการทหารและตำรวจ ผู้บริหารศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ปลัดกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง เข้าร่วม ณ บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง

สำหรับ กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งนี้ มีพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นำคณะทำกิจกรรมจิตอาสา ทาสีรั้ว เก็บขยะ ทำความสะอาดตู้รถไฟบริเวณชานชาลา ทำความสะอาดพื้นบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง และเยี่ยมชมการจัดระเบียบการสื่อสารและสายไฟฟ้าบริเวณหน้าสถานีรถไฟ

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนี้ยังมีขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์แบบแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดเดินพิเศษเนื่องในวันปิยมหาราช ในเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ - อยุธยา - กรุงเทพฯ โดยมีจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ร่วมทำความสะอาดตู้รถไฟในขบวนนี้ก่อนออกเดินทางด้วย ซึ่งขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนี้ยังคงความโดดเด่นเป็นแบบฉบับของรถจักรไอน้ำดั้งเดิม ปัจจุบันมีเหลือใช้งาน 2 คันจากที่การรถไฟฯ เคยสั่งมาใช้งานจำนวน 30 คัน โดยออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในวันที่ 23 ตุลาคม 2562 เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง สำหรับอัตราค่าโดยสารนั้น ไป-กลับ อยู่ที่คนละ 290 บาท

อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอดมา เช่น ด้านการปกครอง ด้วยทรงตระหนักถึงภัยอันตรายของการแสวงหาอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตกที่กำลังแผ่เข้ามาในเวลานั้น จึงทรงพยายามปรับปรุงระบบการปกครองให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปฏิรูประเบียบวิธีการปกครองให้ทันสมัยขึ้น ด้านการศาล ทรงปฏิรูประบบกฎหมายและการศาลให้ทันสมัย และขจัดสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่ไทยต้องเสียเปรียบแก่ชาวต่างชาติ โดยปรับปรุงระเบียบการศาลให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ด้านการศึกษา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างโรงเรียนหลวงขึ้นหลายแห่ง กระจายไปตามวัดต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้บุตรหลานของประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ และด้านสังคม ทรงยกเลิกระบบไพร่ โดยให้ไพร่เสียเงินแทนการถูกเกณฑ์ นับเป็นการเกิดระบบทหารอาชีพในประเทศไทย นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเลิกทาสแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากออกกฎหมายให้ลูกทาสอายุครบ 20 ปีเป็นอิสระ จนกระทั่งออกพระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ซึ่งปล่อยทาสทุกคนให้เป็นอิสระและห้ามมีการซื้อขายทาสในที่สุด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/10/2019 5:52 am    Post subject: Reply with quote

สัมภาษณ์พิเศษ: จิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานบอร์ดการรถไฟคนใหม่ ภารกิจสางปมเก่า-ล้างหนี้แสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แวดวงคมนาคมยุคพรรคภูมิใจไทยเป็นใหญ่ ตอนนี้สปอตไลต์ฉายส่องไปที่ "จิรุตม์ วิศาลจิตร" อดีตรองปลัดกระทรวงคมนาคมที่ ได้รับความไว้วางใจจากเจ้ากระทรวงคนปัจจุบัน "เสี่ยโอ๋-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เป็นมือขวารันนโยบายจากรองปลัดด้านการขนส่ง ได้รับการโปรโมตเป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก คืนรังเก่าสมใจ หลังช่วงปี 2559-2562 จากรองอธิบดีถูกย้ายเข้ากรุเป็นผู้ตรวจราชการ นั่งอธิบดีกรมเจ้าท่าและรองปลัดกระทรวง ก่อนจะคัมแบ็กเบอร์ 1 กรมขนส่งทางบก ในวัย 54 ปี

ล่าสุดได้รับความไว้วางใจจาก "เสี่ยโอ๋" นั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ชุดใหม่ ได้รับไฟเขียวจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นประธานบอร์ด คนที่ 40 เรียบร้อยโรงเรียนภูมิใจไทย

เป็นการตอกย้ำถึงความไว้วางใจ ที่มีต่อกันระหว่าง "จิรุตม์" และ "ศักดิ์สยาม" เพราะต้องไม่ลืมว่า ร.ฟ.ท.ในยุคนี้แม้จะเป็นองค์กรเก่าแก่ มีภาระหนี้สินติดตัวใกล้แตะ 2 แสนล้านบาท

แต่มีที่ดินทั่วประเทศ 39,419 ไร่ ที่สามารถมาสร้างรายได้ และการลงทุนสารพัดเมกะโปรเจ็กต์ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง ทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ที่รัฐบาลจัดสรรเงินลงทุนขับเคลื่อนโครงการอีกหลายแสนล้านบาท

ในทุกยุคสมัย ร.ฟ.ท. จึงเป็นองค์กรที่น่าพิสมัยสำหรับ นักการเมือง แต่ด้วยสไตล์การทำงานและเป็นดินแดนที่สนธยา จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด

"ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษประธานบอร์ดรถไฟคนที่ 40 ของประเทศไทยถึงภารกิจสุดท้าทายเพื่อขับเคลื่อนองค์กรมีอายุ 130 ปี ให้พลิกฟื้นมีกำไร

Q : ภารกิจเร่งด่วน

หลังได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ที่ให้เร่งแก้ปัญหา 3 เรื่อง ขณะนี้ ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเป็นโครงการของอีอีซี ก็เห็นชอบ ร่างสัญญาและแผนส่งมอบพื้นที่ เรียบร้อยแล้ว รวมถึงให้นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เป็นตัวแทนไปลงนาม ก็เห็นชอบเรียบร้อย ตอนนี้เหลือเซ็นกันวันที่ 24 ต.ค.นี้อย่างเดียว

อีกเรื่องเป็นการเร่งรัดสัญญา 2.3 งานระบบรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 50,600 ล้านบาท ก็อนุมัติแล้ว ซึ่งจะลงนามได้ทันการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้

และเรื่องการแก้ปัญหาคดีโฮปเวลล์ ซึ่งคณะทำงานที่มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน พบหลักฐานที่จะสามารถฟ้องแพ่ง เพื่อเอาผิดบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด คู่สัญญาในขณะนั้นได้ โดยพบว่าการขออนุมัติโครงการ บริษัท โฮปเวลล์ ไม่ได้ดำเนินการตามประกาศคำสั่งคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 (ปว.281) ลงวันที่ 24 พ.ย. 2515 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำกับการทำธุรกิจของคนต่างด้าว สำหรับหลักฐานที่พบคือ ไม่มีการขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่องดเว้นสัดส่วนการถือหุ้นคนต่างด้าวที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด

ที่ประชุมบอร์ดจึงมีมติให้ ร.ฟ.ท.นำหลักฐานใหม่ที่พบยื่นฟ้องดำเนินคดีและให้ ร.ฟ.ท.ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้งดการบังคับคดีที่จะต้องชำระค่าชดเชยจำนวน 12,000 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี จากการแพ้คดีโฮปเวลล์เมื่อ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีกำหนดต้องจ่ายวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา

Q : ภารกิจอื่นที่รัฐมนตรีให้นโยบายไว้

มีเรื่องแผนฟื้นฟูของ ร.ฟ.ท.ต่อ พร้อมกับกำชับว่า การทำโครงการลงทุน ต่าง ๆ จะต้องโปร่งใส เพราะตามแนวยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล กำหนดให้กระทรวงคมนาคมเน้นหนักมาที่ระบบรางเป็นหลัก รวมถึงการหารายได้ของ ร.ฟ.ท.จะเอารายได้จากค่าโดยสารอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมองหาช่องทาง หารายได้ในส่วนอื่น เช่น พัฒนาให้เกิดการขนส่งสินค้าทางรางให้มากขึ้น เส้นทางไหนมีศักยภาพที่จะทำได้ก็เอามาช่วยดูกัน

หรือการนำที่ดินของ ร.ฟ.ท.มาพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ ถือว่าโชคดี ที่ในบอร์ดมีอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ เช่น นายอำนวย ปรีมนวงศ์ เป็นต้น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินมาอยู่ในบอร์ดก็คาดว่าจะมาช่วยบริหารจัดการกันได้

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับตน อาจจะต้องขอเวลาศึกษาและดูรายละเอียดของแผนฟื้นฟูก่อน หลังจากนี้ในที่ประชุมบอร์ดครั้งต่อไปอาจจะต้องทำปฐมนิเทศบอร์ดทั้งคณะ โดยเอาแผนฟื้นฟูมาดูว่า จะดำเนินการตามแผนนี้อะไรอย่างไรได้บ้าง เพราะตอนนี้ก็หมดเรื่องเร่งด่วน ที่จะต้องพิจารณาแล้ว ก็มีเวลานำแผนฟื้นฟูมาศึกษากัน รวมถึงตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฯ หลังเว้นช่วงมานานแล้ว

Q : โปรเจ็กต์ลงทุนต่าง ๆ จะได้รับการผลักดันต่อ

ผลักดันต่อแน่นอน เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ชุดที่แล้ว เราจะนำมาทำให้เป็นรูปธรรม คาดว่าจะเป็นไปตามแผนแน่นอน ส่วนไอเดียใหม่ ๆ ของท่านรัฐมนตรี เช่น การเปิดให้เอกชนมาร่วม เดินรถในเส้นทางของรถไฟนั้น ก็คงต้องนำเอานโยบายของท่านมาขับเคลื่อน และประกอบกับแผนฟื้นฟูให้สามารถใช้ประโยชน์จากทางคู่ที่กำลังเพิ่มการลงทุนให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้ ให้กับรถไฟในทางหนึ่งด้วย

Q : แนวทางการทำงานของบอร์ดหลังจากนี้

ถ้าไม่มีอะไรเร่งด่วน ก็ประชุมกัน เดือนละครั้ง แต่ถ้าฉุกเฉินก็ปรับไป ตามความเหมาะสม และจะตั้งคณะ กลั่นกรองวาระการประชุมก่อนเข้าบอร์ด มอบหมายนายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ และหนึ่งในกรรมการ เป็นประธานคณะ ซึ่งคณะทำงานชุดนี้มีทั้งสิ้น 5 คน

โดยจะดึงคนนอกมาช่วยเป็น คณะทำงาน เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน, ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และตัวแทนกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นต้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/10/2019 8:33 am    Post subject: Reply with quote

จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟหัวลำโพง
Oct 22, 2019
MGR Online VDO

23/10/2019 จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟหัวลำโพง
จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานรรกไฟหัวลำโพง เพื่อถวายเป็นพระราชกุสลและน้อมรำลึกเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


https://www.youtube.com/watch?v=SXv9gjsH_Y4
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 24/10/2019 3:38 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“จิตอาสา “ร่วมพัฒนาเส้นทางรถไฟวันปิยมหาราช
เผยแพร่: 23 ต.ค. 2562 20:54 ปรับปรุง: 23 ต.ค. 2562 21:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จิตอาสา ร่วมปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562

จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต ร.5 ณ บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง
รายงานข่าวระบุว่า จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เข้าพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง


สำหรับการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผู้แทนนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาพร้อมภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ผู้บัญชาการทหารและตำรวจ ผู้บริหารศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ปลัดกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง เข้าร่วม

“กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาดบริเวณเส้นทางรถไฟ ถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งนี้ มีพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นำคณะทำกิจกรรมจิตอาสา ทาสีรั้ว เก็บขยะ ทำความสะอาดตู้รถไฟบริเวณชานชาลา ทำความสะอาดพื้นบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง และเยี่ยมชมการจัดระเบียบการสื่อสารและสายไฟฟ้าบริเวณหน้าสถานีรถไฟ”

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนี้ยังมีขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์แบบแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดเดินพิเศษเนื่องในวันปิยมหาราช ในเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ - อยุธยา - กรุงเทพฯ โดยมีจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ร่วมทำความสะอาดตู้รถไฟในขบวนนี้ก่อนออกเดินทางด้วย ซึ่งขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนี้ยังคงความโดดเด่นเป็นแบบฉบับของรถจักรไอน้ำดั้งเดิม ปัจจุบันมีเหลือใช้งาน 2 คันจากที่การรถไฟฯ เคยสั่งมาใช้งานจำนวน 30 คัน โดยออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในวันที่ 23 ตุลาคม 2562 เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง สำหรับอัตราค่าโดยสารนั้น ไป-กลับ อยู่ที่คนละ 290 บาท

“พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอดมา เช่น ด้านการปกครอง ด้วยทรงตระหนักถึงภัยอันตรายของการแสวงหาอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตกที่กำลังแผ่เข้ามาในเวลานั้น จึงทรงพยายามปรับปรุงระบบการปกครองให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปฏิรูประเบียบวิธีการปกครองให้ทันสมัยขึ้น ด้านการศาล ทรงปฏิรูประบบกฎหมายและการศาลให้ทันสมัย และขจัดสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่ไทยต้องเสียเปรียบแก่ชาวต่างชาติ โดยปรับปรุงระเบียบการศาลให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ด้านการศึกษา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างโรงเรียนหลวงขึ้นหลายแห่ง กระจายไปตามวัดต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้บุตรหลานของประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ และด้านสังคม ทรงยกเลิกระบบไพร่ โดยให้ไพร่เสียเงินแทนการถูกเกณฑ์ นับเป็นการเกิดระบบทหารอาชีพในประเทศไทย นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเลิกทาสแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากออกกฎหมายให้ลูกทาสอายุครบ 20 ปีเป็นอิสระ จนกระทั่งออกพระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ซึ่งปล่อยทาสทุกคนให้เป็นอิสระและห้ามมีการซื้อขายทาสในที่สุด”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 28/10/2019 11:54 am    Post subject: Reply with quote

“วันปิยมหาราช” การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำ 824-850 อายุ 67 ปี
สังคม
28 ตุลาคม 2562

ทุกวันที่ 23 ตุลาคม "วันปิยมหาราช" รถจักรไอน้ำโบราณ แบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จะออกมาทำหน้าที่ลากขบวนรถพิเศษให้คนไทยรุ่นปัจจุบัน ได้สัมผัสประวัติศาสตร์ เส้นทางกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในรัชกาลที่ 5
https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/684021262107411/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2019 3:22 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน ครั้งที่ 41 แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และแนวทางการยกระดับรถไฟในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
29 ตุลาคม 2562

วันนี้ (29 ต.ค. 62) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประธานคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน ครั้งที่ 41 เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของรถไฟในภูมิภาคอาเซียน โดยมี นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน และมีผู้บริหารรวมทั้งเจ้าหน้าที่การรถไฟจากประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศกัมพูชา ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมา และประเทศเวียดนาม รวมถึงผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน กว่า 250 คน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การรถไฟทั้ง 8 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ ที่ให้เกียรติเข้าร่วมงานเป็นปีแรก โดยในการประชุมครั้งนี้ จะแบ่งการหารือเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้บริหารการรถไฟ กลุ่มคณะทำงานด้านการตลาดและปฏิบัติการ กลุ่มคณะทำงานด้านเทคนิค โดยข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์จากสมาชิกรถไฟอาเซียนในครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพการรถไฟในภูมิภาคอาเซียนให้เทียบเท่าสากล และยังเป็นที่จับตามองของกลุ่มอุตสาหกรรมการรถไฟต่างๆ ได้เข้ามาร่วมพัฒนาไปด้วยกัน

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Website ของการรถไฟอาเซียน (ASEAN Railways Portal) ซึ่งเป็น Website ที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านการรถไฟของประเทศสมาชิก 7 ประเทศ คือ กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา ไทย และเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง

ที่ผ่านมา ประเทศไทย โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางกับประเทศต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และส่งมอบรถดีเซลรางให้ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนไทยและกัมพูชา สามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าชายแดนด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ สปป. ลาว โดยการเปิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังไทย - ลาว และยังมีโครงการรถไฟไทย-จีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 ส่วนประเทศมาเลเซีย การรถไฟฯ ก็ได้มีการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับรถไฟสายสุไหงโกลก – ปาซีร์มัส โดยจะฟื้นฟูรถไฟสายนี้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนทางภาคใต้ของประเทศไทยอีกด้วย

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการรถไฟอาเซียน ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกประเทศ เพื่อผลักดันโครงสร้างพื้นฐานทางรางให้มีศักยภาพ และสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้รอยต่อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและการค้าชายแดน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2019 3:24 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟขนหินวิ่งเส้นเขากระโดงผ่านแยกทางรถไฟ ระหว่าง 30 ตุลาคม - 25 พฤศจิกายน 2562 โปรดโปรดระมัดระวังกันด้วยครับ ไม่ทราบเวลา ระมัดระวังด้วยครับ
https://www.facebook.com/192513650817247/photos/a.267668416635103/2489953037739952/?type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2019 6:23 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟท. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน ครั้งที่ 41 แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และแนวทางการยกระดับรถไฟในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
29 ตุลาคม 2562


ไทยโชว์แผนเชื่อมระบบรางเพื่อนบ้าน เวทีอาเซียนซัมมิท

เผยแพร่: วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2562

กางแผนเชื่อมระบบรางอาเซียนไร้รอยต่อ หนุนคนไทยใช้รถไฟไปรอบโลก ทุ่ม 1 ล้านล้านบาท ปั้นบางซื่อ ฮับขนส่งคุณหมิง-สิงคโปร์

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยในงาน ASEAN Railway CEOs’ Conference ว่าประเทศไทยได้จัดงานการประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน เพื่อเตรียมพร้อมรับงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (Asean Summit) ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศไทย ซึ่งในงานจะมีการพูดถึงการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางอาเซียน การทำตลาดเชิงพัฒนาระบบรางของชาติ การยกระดับอุตสาหกรรมทางราง ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพการรถไฟในภูมิภาคอาเซียนให้เทียบเท่าสากล

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Websiteของการรถไฟอาเซียน (ASEAN Railways Portal)ซึ่งเป็น Websiteที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านการรถไฟ องค์ความรู้ ตลอดจนเส้นทางเดินรถไฟของประเทศสมาชิก 7 ประเทศ คือ กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา ไทย และเวียดนาม


สำหรับประเทศไทย ขณะนี้สามารถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ได้แก่

1.ภาคใต้ ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ซึ่งมีจุดเชื่อมที่สุไหงโกลก จังหวัด นราธิวาส และปาดังเบซาร์ จังหวัด สงขลา โดยเชื่อมต่อระบบรางของมาเลเซียไปสิงคโปร์ได้

2. ภาคอีสาน ไทย-สปป.ลาว-จีน นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อระหว่างกัน รองรับขนส่งคนและสินค้า สามารถเชื่อมต่อระบบรางไปยังเส้นทาง คุณหมิง-ปักกิ่ง ใช้เวลา 8 ชม. เมื่อไปถึงปักกิ่งสามารถเชื่อมต่อระบบรางไปยังรัสเซียและประเทศกลุ่มยุโรป

3.ภาคตะวันออก ไทย-กัมพูชา ในปี 2562 ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการเตรียมเปิดเดินรถเชื่อมต่อกันช่วงอรัญประเทศ-ปอยเปต พร้อมมอบรถไฟ 1 ขบวนให้เป็นของขวัญแก่รัฐบาลกัมพูชา

4.ทางภาคตะวันตก ไทย-เมียนมาร์ อยู่ระหว่างหารือระหว่างรัฐบาล เพื่อเปิดเดินรถไฟเชื่อมบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ และทางฝั่งทวาย

5.หารือกับมาเลเซีย เกี่ยวกับรถไฟสายสุไหงโกลก-ปาซีร์มัส โดยจะฟื้นฟูรถไฟสายนี้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนทางภาคใต้

“การใช้บริการโดยสารด้วยรถไฟมีความนิยมมาช้านานและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อระบบรางอาเซียนเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุในยุค Aging Society การเดินทางด้วยรถไฟสะดวกสบายกว่า รวมถึงกลุ่มทัวร์ที่ชื่นชอบการชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง และการท่องเที่ยวในประเทศตามแนวเส้นทางรถไฟ อีกทั้งยังสามารถขนส่งสินค้าระหว่างชาติอาเซียนได้อีกด้วย”นายวรวุฒิกล่าว


นายวรวุฒิ กล่าวว่า ด้านความคืบหน้ารถไฟไฮสปีดนั้น เริ่มจากโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน ได้เสนอเรื่องการเวนคืนพื้นที่โครงการ จำนวน 800 ไร่ มูลค่าราว 3,000 ล้านบาทเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)

หากได้รับความเห็นชอบจะเสนอการออกพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 เดือน พอดีกับช่วงที่ให้เวลาเอกชนออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างเพื่อกำหนดจุดการส่งมอบพื้นที่ต่อไป

ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ขณะนี้จะเร่งลงนามสัญญาก่อสร้างทุกสัญญา เปิดใช้ในปี 2566-2567 ควบคู่ไปกับการออกแบบศึกษารายละเอียดการก่อสร้าง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย พร้อมออกแบบสะพานรถไฟเชื่อมหนองคาย-เวียงจันทน์ ก่อนเปิดประมูลเพื่อก่อสร้างต่อไป

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งว่าแผนพัฒนารถไฟของ รฟท.ที่นำเสนอในการประชุมระดับผู้นำรถไฟอาเซียนนั้นประเทศไทยมีแผนพัฒนาระยะ 5 ปี เพื่อขยายโครงข่ารระบบรางให้ครอบคลุม 4,565 กม. ได้แก่ รถไฟทางคู่ 2,476 กม. รถไฟความเร็วสูง 1,248 กม. รถไฟสายใหม่เข้าสู่จังหวัดต่างๆ 841 กม.

สำหรับรถไฟทางคู่ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเฟสแรก รวม 5 เส้นทาง เปิดใช้ ปี 2565-2566 พร้อมแผนลงทุนรถไฟทางคู่ เฟส 2 วงเงินมากกว่า 3 แสนล้านบาท ขยายเส้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ช่วงกรุงเทพ-สุไหงโกลก รวมถึงครอบคลุมภาคอีสานและภาคเหนือ

ขณะที่รถไฟความเร็วสูงมีอยู่ในแผน 3 สาย ลงทุนมากกว่า 7 แสนล้านบาท ได้แก่

1.รถไฟความเร็วสูงสายอีสานกรุงเทพ-หนองคาย

2.รถไฟความเร็วสูงสายเหนือ กรุงเทพ-พิษณุโลก

3.รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา

ส่วนสถานีกลางบางซื่อ เปิดใช้ปี 2564 จะเป็นสถานีใหญ่สุดในอาเซียนบนพื้นที่ 275,000 ตารางเมตร หวังเป็นศูนย์กลางระบบราง ทำให้เส้นทางรถไฟสายคุณหมิง-สิงคโปร์ สามารถเชื่อมต่อไปยังสองสนามบินหลักในไทยที่มีผู้โดยสารมากกว่า 100 ล้านคนต่อปี และเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงเดินทางไปจีนได้ หรือเลือกใช้รถไฟทางคู่ไปเชื่อมต่อมาเลเซียและสิงคโปร์ พร้อมรองรับระบบรถไฟฟ้ารวมถึงรถไฟใต้ดินในกรุงเทพ เป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารที่อยากสัมผัสเมืองหลวงของประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาย่านการค้า แหล่งช็อปปิ้งบริเวณโดยรอบสถานี เหมือนกับสถานีระบบรางขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เช่น โตเกียวและโอซาก้าเป็นต้น




ถกผู้ว่าฯรถไฟอาเซียน 8 ประเทศ ไทยเล็งฟื้นเดินรถโกลกฯ- มาเลเซีย
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2562 เวลา 19:25


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เป็นประธานเปิดการประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน ครั้งที่ 41 เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของรถไฟในภูมิภาคอาเซียน โดยมี นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน และมีผู้บริหารรวมทั้งเจ้าหน้าที่การรถไฟจากประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศกัมพูชา ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมา และประเทศเวียดนาม และไทย รวม 8 ประเทศ เข้าร่วมงาน

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ประเทศฟิลิปปินส์ เพิ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เป็นครั้งแรก ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการรถไฟอาเซียน ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกประเทศ เพื่อผลักดันโครงสร้างพื้นฐานทางรางให้มีศักยภาพ และสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้รอยต่อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและการค้าชายแดน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน

โดยแบ่งการหารือเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้บริหารการรถไฟ กลุ่มคณะทำงานด้านการตลาดและปฏิบัติการ กลุ่มคณะทำงานด้านเทคนิค

ทั้งนี้ รฟท.จะนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์จากสมาชิกรถไฟอาเซียนในครั้งนี้ ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพการรถไฟในภูมิภาคอาเซียนให้เทียบเท่าสากล และยังเป็นที่จับตามองของกลุ่มอุตสาหกรรมการรถไฟต่างๆ ได้เข้ามาร่วมพัฒนาไปด้วยกัน

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Website ของการรถไฟอาเซียน (ASEAN Railways Portal) ซึ่งเป็น Website ที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านการรถไฟของประเทศสมาชิก 7 ประเทศ คือ กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา ไทย และเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รฟท. ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางกับประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และส่งมอบรถดีเซลรางให้ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนไทยและกัมพูชา สามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวก

และร่วมมือกับ สปป. ลาว โดยการเปิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังไทย - ลาว และยังมีโครงการรถไฟไทย-จีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564

ส่วนทางด้านใต้ ติดต่อประเทศมาเลเซีย รฟท. ได้มีการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับรถไฟสายสุไหงโกลก – ปาซีร์มัส โดยจะฟื้นฟูรถไฟสายนี้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย อีกด้วย

ผนึก8ประเทศลุยระบบรางไร้รอยต่อ
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - Mega Project
29 ตุลาคม 2562


การประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน ครั้งที่ 41 เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพของรถไฟในภูมิภาคอาเซียน โดยมี นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน และมีผู้บริหารรวมทั้งเจ้าหน้าที่การรถไฟจากประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศกัมพูชา ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมา และประเทศเวียดนาม รวมถึงผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่29 ต.ค. 62มี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประธานคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการประชุม

ทั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการรถไฟอาเซียน ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกประเทศ เพื่อผลักดันโครงสร้างพื้นฐานทางรางให้มีศักยภาพ เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและการค้าชายแดน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า ที่ผานมารฟท. ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางกับประเทศต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และส่งมอบรถดีเซลรางให้ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนไทยและกัมพูชา สามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าชายแดนด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ สปป. ลาว โดยการเปิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังไทย - ลาว และยังมีโครงการรถไฟไทย-จีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 ส่วนประเทศมาเลเซีย การรถไฟฯ ก็ได้มีการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับรถไฟสายสุไหงโกลก – ปาซีร์มัส โดยจะฟื้นฟูรถไฟสายนี้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าชายแดนทางภาคใต้ของประเทศไทยอีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 347, 348, 349 ... 486, 487, 488  Next
Page 348 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©