Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311907
ทั่วไป:13577045
ทั้งหมด:13888952
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 350, 351, 352 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 13/11/2019 3:45 pm    Post subject: Reply with quote

แผนยังไม่ชัด! บอร์ด ร.ฟ.ท.เด้งประมูลซื้อแคร่สินค้า 965 คัน เคาะยูนิคฯ รับสัญญาไฮสปีด “ไทย-จีน”
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 พฤศจิกายน 2562 23:04
ปรับปรุง: 15 พฤศจิกายน 2562 11:01


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดวันที่ 14 พ.ย.ว่า ที่ประชุมยังไม่อนุมัติโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) จำนวน 965 คัน เนื่องจากข้อมูลยังไม่ชัดเจน และบอร์ดได้เร่งให้ ร.ฟ.ท.ทำเวิร์กชอปเพื่อวางยุทธศาสตร์ใหม่ รองรับการดำเนินงานในอนาคตที่การก่อสร้างรถไฟทางคู่จะเสร็จ แผนการเดินรถสินค้า และโดยสารจะเป็นอย่างไร เมื่อได้ยุทธศาสตร์จะได้นำไปกำหนดแผนฟื้นฟูที่นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมต่อไป

“ตอนนี้งานรถไฟจะพัฒนาเป็นท่อนๆ บอร์ดอยากเห็นยุทธศาสตร์ที่เป็นภาพรวมที่จะทำให้เกิดรายได้เพิ่ม งานส่วนไหนทำเอง ส่วนไหน Outsource ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ชี้แจงว่าการปรับยุทธศาตร์ต้องใช้เวลาเพราะต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วย แต่บอร์ดอยากเห็นแนวคิด ก็ให้ทำออกมาเบื้องต้นก่อน”

นอกจากนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้อนุมัติผลการประมูลงานโยธา โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 253 กม. งานสัญญา 4-6 ช่วง พระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.6 กม. โดยจะลงนามหลังจาก EIA ส่วนเพิ่มเติมผ่านแล้ว

สำหรับสัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี เป็นงานก่อสร้างคันทางระดับดิน ระยะทาง 7.02 กม. โครงสร้างทางรถไฟยกระดับ 24.58 กม. งานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า 7 แห่ง ราคากลาง 11,170,855 ล้านบาท บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เสนอด้านราคาต่ำสุด 9,429 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 16.1%

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า บอร์ดยังไม่อนุมัติจัดหาโบกี้บรรทุกตู้สินค้าจำนวน 965 คัน วงเงินกว่า 2.3 พันล้านบาท โดยให้ทำข้อมูลเพิ่มเติมในหลายประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน เช่น เปรียบเทียบตัวเลขระหว่างซื้อกับเช่าให้ชัดเจนเข้าใจง่าย ข้อสมมติฐานต้องชัดเจนกว่านี้

ทั้งนี้ ในทีโออาร์จะกำหนดให้มีการผลิตในประเทศ โดยมีชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local content ) 40% ซึ่งในแง่เทคนิคมีความเป็นไปได้ เพราะภายในประเทศสามารถผลิตได้ และใช้เหล็กในประเทศไม่ต้องนำเข้า ไม่มีต้นทุนด้านภาษีนำเข้า แต่ทั้งนี้ ในภาคเอกชนจะมีการลงทุนค่อนข้างสูงหากต้องการยื่นประมูล ในขณะที่จำนวนการจัดซื้อมีจำกัด หรือไม่เพิ่มขึ้น เอกชนอาจไม่กล้าลงทุนและไม่มีผู้ยื่นประมูล

อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการปรับปรุงทีโออาร์อีกเล็กน้อยเพื่อให้มีความเป็นไปได้ในการลงทุนของเอกชนในประเทศ เช่น การซ่อมบำรุงหลังการขายในราคาที่ตกลงกัน เป็นต้น เพราะการทำต้องมองระยะยาว ยืนยันไม่ได้เอื้อเอกชน แต่ต้องมองภาพรวมของธุรกิจด้วย ซึ่งการจัดหาแคร่สินค้าจำนวน 965 คันเพื่อรองรับอนาคตที่รถไฟทางคู่จะแล้วเสร็จ ร.ฟ.ท.จะเพิ่มรายได้จากการขนส่งสินค้าในอนาคต

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ จะเสนอโครงการจัดซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) จำนวน 965 คัน วงเงิน 2,323 ล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ถ้าบอร์ดเห็นชอบหลักการตามที่เสนอ ก็จะเปิดประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยแบ่งเป็นเฟสๆ ต่อไป

สำหรับโครงการนี้ การรถไฟฯ เลือกจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าด้วยวิธีการซื้อ เนื่องจากมีราคาถูกกว่าวิธีเช่า ขณะเดียวกันก็กำหนดให้ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) อย่างต่ำ 50% เนื่องจากการผลิตรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าใช้เทคโนโลยีไม่สูงมากและสามารถผลิตในประเทศได้ จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมระบบรางในประเทศไทย

ด้านรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าที่จัดหาได้ ก็จะช่วยเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางตามนโยบายของรัฐบาล โดยขณะนี้ผู้ประกอบการมีความต้องการขนส่งสินค้าทางรางในปริมาณมาก และจะเพิ่มมากขึ้นอีก หากมีการเดินหน้าโครงการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) ลาดกระบังอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมบอร์ดการรถไฟฯ วันพรุ่งนี้ นอกจากนี้มีวาระพิจารณาโครงการจัดซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 965 คัน วงเงิน 2,323 ล้านบาทแล้ว ก็จะมีการเสนอผลการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน สัญญาที่ 4-6 งานโยธาสำหรับช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กิโลเมตร ที่มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นผู้ชนะการประมูล ด้วยราคาต่ำสุดที่ 9,429 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 16.1% ให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาด้วย
https://www.thebangkokinsight.com/238404/


Last edited by Wisarut on 22/11/2019 5:02 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 14/11/2019 11:27 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ป่วยชักบนรถไฟ

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 เวลา.22.04 น.กู้ชีพ ทต.มาบฯ รับแจ้ง มีผู้ป่วยชักเกร็ง บนขบวนรถไฟ ที่ สถานีรถไฟมาบอำมฤต ตลาดมาบฯ ม.1 ดอนยาง ปะทิว
กู้ชีพทต. มาบฯ พบผู้ป่วยชายไทย59ปี เดินทางมากับรถไฟจาก อ.นาบอน ปลายทางกทม. เกิดอาการชักเกร็ง น้ำลายฟูมปาก ตาค้างและหมดสติปลุกตื่น
กู้ชีพทต.มาบฯ ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เบื้องตัน นำส่งรพ.มาบฯ
Cr : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2284547604989416&id=100003025960486
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2645301205516808&set=a.1878620525518217&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 14/11/2019 12:06 pm    Post subject: Reply with quote

จ่อรื้อแผนฟื้นฟูฯรฟท. -รับภาระหนี้พุ่ง1.67แสนล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 พฤศจิกายน 2562 เวลา 03:52

ผู้จัดการรายวัน 360 - รฟท.ยังอ่วม คาดการณ์ปีนี้ขาดทุนจากการดำเนินอีกกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วน Ebitda ติดลบกว่า 4.7 พันล้าน ดันหนี้สินสะสมทะลุ 1.67 แสนล้านบาท คณะกรรมการ รฟท. เตรียมเวิร์คช้อปผู้บริหาร เร่งทบทวนยุทธศาสตร์และฟื้นฟูแก้จุดอ่อนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมหาทางเพิ่มรายได้จากทรัพย์สินและทำการตลาดกระตุ้นผู้โดยสาร

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารรฟท. เพื่อรับฟังข้อมูลการดำเนินงาน ต่างๆ ของรฟท. ว่า ได้มีการดำเนินงานอย่างไร โครการสำคัญ มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร โดยหลังจากนี้ บอร์ดรฟท. จะประชุมเวิร์คช้อป ร่วมกับ ฝ่ายบริหารรฟท.เพื่อวางยุทธศาสตร์ ในการ แก้ปัญหาและขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมายต่อไปอย่างไร

ทั้งนี้ จากที่ได้รับฟังข้อมูลแผนยุทธศาสตร์และแผนฟื้นฟู รฟท. ซึงมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ดังนั้น ต้องมีการทบทวนปรับปรุง ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และทิศทางของรฟท.ในอนาคต และให้เกิดศักยภาพสูงสุด เช่น การเพิ่มรายได้ จากการเดินรถ การบริหารทรัพยสิน จะมีแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาอ่างไร ที่ไม่ขัดต่อระเบียบและกฎหมาย

“ตอนนี้คือต้องหาทางลดการขาดทุน จาก Ebitda หรือรายได้ลดรายจ่ายก่อน ซึ่งอาจต้องดูเป็นรายเส้นทาง ขาดทุนเพราะอะไร เอาการตลาดเข้าไปช่วยได้หรือไม่ ขณะที่รฟท.จะต้องมุ่งทำการตลาดมากขึ้นเพื่อเป็นหนทางในการเพิ่มรายได้ และอนาคตจะเดินรถด้วยไฟฟ้า ต้องวางยุทธศาสตร์ด้านคน ด้านระบบการทำงาน รองรับอย่างไร เป็นต้น”

อย่างไรก็ตาม บอร์ดรฟท.มีผู้ทรงคุณวุฒิ หลายด้าน ทั้ง ไฟแนนซ์ นักกฎหมาย และผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ที่จะร่วมกันช่วยปรับปรุงแผนและยุทธศาสตร์ให้รฟท.

รายงานข่าวแจ้งว่า รฟท.ได้รายงานข้อมูลต่อบอร์ดในเรื่องโครงสร้างองค์กร และความก้าวหน้าการดำเนินงานต่างๆ เช่น แผนฟื้นฟูการรถไฟฯ โครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและแผนงานในอนาคต ,การบริหารทรัพย์สิน,การจัดการเดินรถไฟฟ ด้วยระบบไฟฟ้า (Signling Electrification Ridership) เป็นต้น

โดยปัจจุบัน ถึงเดือนต.ค. 2562 รฟท.มีหนี้สินสะสม ประมาณ 1.67 แสนล้านบาท โดยคาดว่า ผลประกอบการในปี 2562 จะมีรายได้ ประมาณ 1.05 หมื่นล้านบาท มีรายจ่าย 1.52 หมื่นล้านบาท มีผลขาดทุน (Ebitda) กว่า 4.7พันล้านบาท และขาดทุนจากการดำเนินงาน ประมาณ 1.83 หมื่นล้านบาท


ร.ฟ.ท.หนี้พุ่ง 1.6 แสนล้าน ปีนี้ขาดทุน 1.8 หมื่นล้าน-บอร์ดเร่งปรับแผนฟื้นฟู
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 พฤศจิกายน 2562 เวลา 07:49
ปรับปรุง: 14 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10:57


ร.ฟ.ท.ยังอ่วม ปีนี้ขาดทุนกว่า 1.8 หมื่นล้าน ส่วน Ebitda ติดลบกว่า 4.7 พันล้าน ดันหนี้พุ่งเป็น 1.67 แสนล้าน บอร์ดเตรียมเวิร์กชอปผู้บริหาร เร่งทบทวนยุทธศาสตร์และฟื้นฟูแก้จุดอ่อน หาทางเพิ่มรายได้จากทรัพย์สินและทำการตลาดกระตุ้นผู้โดยสาร

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร ร.ฟ.ท.เพื่อรับฟังข้อมูลการดำเนินงานต่างๆ ของ ร.ฟ.ท.ว่าได้มีการดำเนินงานอย่างไร โครงการสำคัญมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร โดยหลังจากนี้บอร์ด ร.ฟ.ท.จะประชุมเวิร์กชอปร่วมกับฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.เพื่อวางยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาและขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมายต่อไปอย่างไร

ทั้งนี้ จากที่ได้รับฟังข้อมูลแผนยุทธศาสตร์และแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท. ซึ่งมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ดังนั้น ต้องมีการทบทวนปรับปรุงให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และทิศทางของ ร.ฟ.ท.ในอนาคต และให้เกิดศักยภาพสูงสุด เช่น การเพิ่มรายได้ จากการเดินรถ การบริหารทรัพยสิน จะมีแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาอย่างไรที่ไม่ขัดต่อระเบียบและกฎหมาย

“ตอนนี้คือต้องหาทางลดการขาดทุนจาก Ebitda หรือรายได้ลดรายจ่านก่อน ซึ่งอาจต้องดูเป็นรายเส้นทาง ขาดทุนเพราะอะไร เอาการตลาดเข้าไปช่วยได้หรือไม่ ขณะที่ ร.ฟ.ท.จะต้องมุ่งทำการตลาดมากขึ้นเพื่อเป็นหนทางในการเพิ่มรายได้ และอนาคตจะเดินรถด้วยไฟฟ้า ต้องวางยุทธศาสตร์ด้านคน ด้านระบบการทำงาน รองรับอย่างไร เป็นต้น”

อย่างไรก็ตาม บอร์ด ร.ฟ.ท.มีผู้ทรงคุณวุฒิหลายด้าน ทั้งไฟแนนซ์ นักกฎหมาย และผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่จะร่วมกันช่วยปรับปรุงแผนและยุทธศาสตร์ให้ ร.ฟ.ท.

รายงานข่าวแจ้งว่า ร.ฟ.ท.ได้รายงานข้อมูลต่อบอร์ดในเรื่องโครงสร้างองค์กร และความก้าวหน้าการดำเนินงานต่างๆ เช่น แผนฟื้นฟูการรถไฟฯ โครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและแผนงานในอนาคต, การบริหารทรัพย์สิน, การจัดการเดินรถไฟด้วยระบบไฟฟ้า (Signling Electrification Ridership) เป็นต้น

ปัจจุบันถึงเดือน ต.ค. 2562 ร.ฟ.ท.มีหนี้สินสะสมประมาณ 1.67 แสนล้านบาท โดยคาดว่าผลประกอบการในปี 2562 จะมีรายได้ประมาณ 1.05 หมื่นล้านบาท มีรายจ่าย 1.52 หมื่นล้านบาท มีผลขาดทุน (Ebitda) กว่า 4.7 พันล้านบาท และขาดทุนจากการดำเนินงานประมาณ 1.83 หมื่นล้านบาท


Last edited by Wisarut on 22/11/2019 7:29 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 14/11/2019 8:50 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ จะเสนอโครงการจัดซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) จำนวน 965 คัน วงเงิน 2,323 ล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ถ้าบอร์ดเห็นชอบหลักการตามที่เสนอ ก็จะเปิดประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยแบ่งเป็นเฟสๆ ต่อไป

https://www.thebangkokinsight.com/238404/



บอร์ดรถไฟฯ ไม่อนุมัติแผนจัดหาโบกี้
เศรษฐกิจ
14 พฤศจิกายน 2562 เวลา 17:35:51

กรุงเทพฯ 14 พ.ย. - บอร์ดการรถไฟฯ ยังไม่อนุมัติแผนจัดหาโบกี้ บรรทุกสินค้ากว่า900 คัน โดยให้ฝ่ายบริหาร ไปจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ ขณะที่ปัญหาขบวนรถโดยสารขาด ยอมรับแก้ยาก จากปัญหาขบวนรถเก่า-คนก็ไม่พอ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการในวันนี้ว่า ในการประชุมวันนี้ ซึ่งฝ่ายบริหารได้มีการเสนอวาระขออนุมัติจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 965 คัน โดยคณะกรรมการฯ ยังไม่ได้มีการพิจารณาอนุมัติ พร้อมกับกำชับให้ฝ่ายบริหาร ไปจัดทำแผนยุทธศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาของการรถไฟฯให้สอดคล้องกับแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟฯด้วย โดยคณะกรรมการฯไม่อยากให้ฯ การดำเนินการจัดซื้อและลงทุนต่างๆมีลักษณะเป็นส่วนๆ ไม่สอดคล้องกันเป็นยุทธศาสตร์

ส่วนวาระสำคัญ ที่คณะกรรมการอนุมัติในวันนี้คือโครงการสั่งจ้างก่อสร้างงานสัญญาที่ 4-6 งานโยธาช่วงพระแก้ว- สระบุรีในโครงการความร่วมมือ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน


นายวรวุฒิ มาลา รักษาการ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า สำหรับการจัดทำแผนยุทธศาสตร์นั้น ฝ่ายบริหารได้รับมาดำเนินการตามความเห็นของบอร์ด โดยการจัดทำแผนยุทธศาสตร์นั้น ยอมรับว่าต้องมีการจัดจ้าง หน่วยงานด้านวิชาการ ดำเนินการจัดทำแผนฯ

ส่วนประเด็น เรื่องปัญหา การเดินรถโดยสาร ซึ่งประสบปัญหาขบวนล่าช้า โดยเมื่อวานที่ผ่านมา มีผู้โดยสารร้องเรียน และโพสต์ใน Social Media จำนวนมาก โดยบางขบวน ล่าช้า กว่า 1 ชั่วโมง 40 นาทีนั้น นายวรวุฒิ กล่าวยอมรับว่า ปัญหาขบวนรถล่าช้า เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก เนื่องจากสภาพปัจจุบันการรถไฟ หลังจากการจัดหาขบวนรถ 20 ขบวนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แต่สภาพหัวรถจักรและตู้โดยสาร ที่การรถไฟมีขณะนี้ มีสภาพเก่า ทำให้ยาก ต่อการซ่อมแซมมาใช้หมุนเวียน นอกจากนี้ยังมีปัญหาขาดแคลนบุคลากร ซึ่งขณะนี้การ รับพนักงานใหม่ตามที่คณะรัฐมนตรีปลดล็อคจำนวน 1, 900อัตรา อยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องจำนวน กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯ ในเรื่องจำนวน กับสิทธิประโยชน์ ของพนักงานใหม่ ซึ่งก็ยังไม่ได้ข้อยุติ

ส่วนวาระการประชุม เรื่องการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ สำหรับการหาแหล่งเงินในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดกรณีบริษัทโฮปเวลล์ฯนั้น นายวรวุฒิกล่าวว่าในวันนี้คณะกรรมการไม่ได้พิจารณาอนุมัติ เนื่องจาก คณะกรรมการเห็นว่า เป็นการข้ามขั้นตอน เนื่องจากปัจจุบันนี้คดียังอยู่ระหว่างการเจรจากับโฮปเวลล์ ภายหลังจากกระทรวงคมนาคม ได้มีการยื่นขอชะลอการบังคับคดี ดังกล่าว กับศาลปกครองไป.- สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/11/2019 8:22 am    Post subject: Reply with quote

'รฟท.'ทุ่มงบเฉียด3พันล้าน ลงทุนโรงซ่อมรถไฟแห่งใหม่
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

กรุงเทพธุรกิจ "ร.ฟ.ท." ทุ่มงบ 2.85 พันล้าน ผุดโรงซ่อมคลอง 19 หวังเปิดใช้ปี 2565 หนุนเป้าหมายเพิ่มขนส่งสินค้า 44.56 ล้านตัน แหล่งข่าวจากจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ร.ฟ.ท.ได้รับจัดสรรงบประมาณ 2,850 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานซ่อมรถไฟขนส่งสินค้า บริเวณคลอง 19 จ.นครนายกคาดว่ากลางปี 2563 จะเปิดประกวดราคาได้ ใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปีแล้วเสร็จปลายปี 2565

โดยโรงงานดังกล่าวมีพื้นที่ 8 หมื่นตารางเมตร ใช้รองรับงานซ่อมบำรุง รถสินค้าตู้บรรทุกคอนเทนเนอร์ จำนวน 965 คัน รวมทั้ง ร.ฟ.ท.ยังต้องเร่งย้ายรถสินค้าจากย่านพหลโยธินออกจากกรุงเทพฯ ทั้งหมด ไม่เกินปี 2565 โดยโรงงานดังกล่าว สามารถรองรับการซ่อมได้ 9,000 คันต่อปี ขณะที่ ผลตอบแทนทางการลงทุน หรือ EIRR อยู่ที่ 8.6% และมีระยะเวลาคืนทุนภายใน 10 ปี

ทั้งนี้การลงทุนโรงงานซ่อมรถไฟ ขนส่งสินค้าดังกล่าว จะเป็นอีกส่วนที่ผลักดัน แผนเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่ม รายได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท. ระหว่าง ปี 2562-2572 โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าจากปีงบประมาณ 2562 ราว 10.63 ล้านตัน เป็น 44.56 ล้านตัน ในปีงบประมาณ 2572

ขณะที่ความคืบหน้าในการประมูลก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงหัวรถจักรแห่งใหม่ บริเวณชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี ราคากลาง 1,710 ล้านบาท ปัจจุบันกรมบัญชีกลาง และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตอบ ข้อชี้แจงมาแล้วว่า ข้อร้องเรียนที่ว่าเอกสารประกวดราคาผ่านเว็บไซต์ไม่ตรงกับเอกสาร ประกวดราคาที่เอกชนซื้อไปไม่ใช่สาระสำคัญ ของทีโออาร์

รฟท.จะนำเสนอผลการประมูล ซึ่งมี บริษัทกิจการร่วมค้า NPSE ประกอบด้วย บริษัท นภาการก่อสร้าง และบริษัท สิงห์ศิลา เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ที่วงเงิน 1,560 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลาง ถึง 150 ล้านบาท เสนอให้บอร์ด ร.ฟ.ท. พิจารณาเห็นชอบในเดือน ธ.ค.นี้ หลังจากนั้น จะเชิญผู้ชนะการประมูลลงนามในเดือน ม.ค. 2563 และเริ่มงานก่อสร้าง มี.ค.2563 แล้วเสร็จ มี.ค.2565 โดยจะใช้ซ่อมบำรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาด 20 ตันต่อเพลา จำนวน 20 คัน และรถจักรที่กำลังจะซื้ออีก 50 คัน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/11/2019 6:00 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ต้องหาหนีจับกุมบนรถไฟสุไหงโก-ลกตร.รวบทันควัน
INN News 21 พฤศจิกายน 2019 - 15:01

ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติดหนีการจับกุมบนขบวนรถไฟสุไหงโก-ลก-สุราษฎร์ธานี ตำรวจไล่ติดตามจับกุมเอาไว้ได้ทัน

Click on the image for full size

ร.ต.อ.ต่อศักดิ์ กันแต่ง รองสารวัตร สถานีตำรวจรถไฟหาดใหญ่ร่วมกับพ.ต.ต.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ สวป.สภ.หาดใหญ่ พร้อมกับตำรวจรถไฟ และตำรวจ191 สภ.หาดใหญ่ ไล่จับกุม นายสุนทร อายุ 28 ปี ชาว ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับของสภ.สะเดา จ.สงขลา ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมียาเสพติดให้โทษประเภท5(ใบกระท่อมไว้ในครอบครอง) ซึ่งมีอายุความ 15 ปี โดยต้องใช้กำลังตำรวจทั้งสองหน่วยเกือบ 10 นาย ในการจับกุมเนื่องจากผู้ต้องหามีรูปร่างสูงใหญ่และพยายามดิ้นหนี หลังจากที่ผู้ต้องหารายนี้เดินทางมากับรถไฟขบวนที่ 448 สุไหงโก-ลก-สุราษฎร์ธานี และถูกตำรวจรถไฟหาดใหญ่ที่ประจำอยู่บนรถไฟขบวนนี้ขอตรวจบัตรประชาชนเพราะลักษณะต้องสงสัยปรากฏว่ามีหมายจับติดตัว

Click on the image for full size

แต่ขณะที่กำลังควบคุมตัวลงจากขบวนรถไฟที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เพื่อพาไปยังสถานีตำรวจรถไฟหาดใหญ่ นายสุนทร ฉวยโอกาสขณะก้าวลงจากประตูรถไฟสะบัดมือเจ้าหน้าที่ และวิ่งหนีสุดชีวิตไปตามรางรถไฟปีนรั้วเหล็กข้ามไปยังฝั่งสภ.หาดใหญ่ ระยะทางเกือบ 400 เมตร แต่ถูกตำรวจรถไฟไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิดและขอกำลังตำรวจสภ.หาดใหญ่มาเสริม จึงรวบตัวได้ ซึ่งเส้นทางที่ นายสุนทร พยายามวิ่งหลบหนีสุดชีวิตนั้นน่าจะยังไม่ทราบว่าพุ่งตรงไปหาสภ.หาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่เยื่องๆกับสถานีรถไฟหาดใหญ่ และจุดที่วิ่งตรงดิ่งไปนั้นก็อยู่ใกล้กับที่ตั้งของตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามสภ.หาดใหญ่ ซึ่งมีกำลังตำรวจอยู่พร้อมและออกมาช่วยสกัดและจับกุมได้ทันเวลาพอดี หลังถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจรถไฟหาดใหญ่เพื่อลงบันทึกและประสานสภ.สะเดา ให้มารับกลับไปดำเนินคดี

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2019 10:32 pm    Post subject: Reply with quote

ปีนี้น้ำน้อย ขึ้นรถไฟวิ่งบนเขื่อนป่าสักฯ ได้เห็นพื้นเขื่อนเป็นครั้งแรก

17 พฤศจิกายน 2019

วันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมนั่งรถไฟลอยน้ำบนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทริปแรกเริ่มแล้วเสาร์ที่ 16 พ.ย.-อาทิตย์ที่ 17 พ.ย. แต่ปีนี้น้ำน้อยจึงได้ชมบรรยากาศที่แตกต่างไป

สำหรับเส้นทางกรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นขบวนรถพิเศษที่จะพานักท่องเที่ยวนั่งชมวิวตั้งแต่กรุงเทพฯ ผ่านอยุธยา สระบุรี ลพบุรี ไปจนถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นทางรถไฟที่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำ ปกติแล้วรถไฟจะวิ่งมาจนถึงกลางเขื่อน และหยุดให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูปกับรถไฟกลางอ่างเก็บน้ำ ราวกับว่าเส้นทางรถไฟสายนี้ลอยน้ำได้

ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจซ่อมบำรุง ในฐานะประธานคณะทำงานรถท่องเที่ยวทางรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวขบวนรถไฟลอยน้ำชมเขื่อนของพ่อ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี บรรยากาศที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่นั่งมากับขบวนรถไฟลอยน้ำจะพบเห็นว่ารถไฟวิ่งบนน้ำเพราะระดับน้ำจะสูงใกล้กับขอบรางรถไฟ แต่ในปีนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำน้อยเนื่องจากฝนตกน้อย ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปัจจุบันเพียงแค่ 300 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร บรรยากาศจุดจอดรถกลางเขื่อนจึงมีสภาพน้ำแห้ง มองเห็นโครงสร้างของเขื่อนอีกทั้งยังเป็นทุ่งหญ้าและมีสัตว์เลี้ยง เช่น วัว และนกนานาชนิด



“ทำให้วิกฤติเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมกับบรรยากาศใต้เขื่อนที่ถูกน้ำท่วมมา 20 ปี โดยเขื่อนเริ่มเก็บกักน้ำตั้งแต่ปี 2542 มาจนถึงปัจจุบัน ระดับและปริมาณน้ำที่แห้งจะเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง แต่สำหรับขบวนรถไฟลอยน้ำที่น้ำแห้งก็เป็นครั้งแรก ทำให้นักท่องเที่ยวที่นั่งมากับขบวนรถได้ชมบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและเห็นโครงสร้างตลอดจนทุ่งหญ้าวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้าน”

ทั้งนี้ การจัดขบวนรถไฟลอยน้ำแต่ละปีจะสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นอีกด้วย



สำหรับปีนี้ เปิดขบวนรถพิเศษรถไฟลอยน้ำให้เที่ยวชมได้ในช่วงเดือน พ.ย. 2562 – ม.ค. 2563 รวมระยะเวลาทั้งหมด 18 วัน ดังนี้ เดือน พ.ย.2562 เริ่มขบวนแรกวันที่ 16, 17, 23, 24 และ 30 เดือน ธ.ค. 2562 วันที่ 1, 7, 8, 14, 15, 21 และ 22 เดือน ม.ค. 2563 วันที่ 11, 12, 18, 19, 25 และ 26

ในขบวนแรกมีทั้งหมด 15 ตู้ขบวน มีผู้โดยสารประมาณ 1.100 คน นอกจากนี้ยังมีนั่งท่องเที่ยวที่มีความประสงค์ขับรถมาเองและมานั่งรถไฟลอยน้ำที่สถานีต้นทางจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์- ไปสถานีบ้านโคกสลุง และมาแวะพักค้างคืนเที่ยวชมเขื่อนของพ่ออีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2019 10:37 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.ทุ่มงบเกือบ 3 พันล้าน ลงทุนโรงซ่อมรถไฟแห่งใหม่

18 พฤศจิกายน 2562

ร.ฟ.ท.ทุ่มงบ 2.85 พันล้าน ผุดโรงซ่อมคลอง 19 หวังเปิดใช้ปี 2565 หนุนเป้าหมายเพิ่มขนส่งสินค้า 44.56 ล้านตัน ขณะที่โรงซ่อมสระบุรี จ่อลงนามสัญญากิจการร่วมค้า NPSE

แหล่งข่าวจากจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ร.ฟ.ท.ได้รับจัดสรรงบประมาณ 2,850 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานซ่อมรถไฟขนส่งสินค้า บริเวณคลอง 19 จังหวัดนครนายกคาดว่ากลางปี 2563 จะสามารถเปิดประกวดราคาได้ ใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปีแล้วเสร็จปลายปี 2565

โดยโรงงานดังกล่าวมีพื้นที่ 8 หมื่นตารางเมตร ใช้รองรับงานซ่อมบำรุงรถสินค้าตู้บรรทุกคอนเทนเนอร์ จำนวน 965 คัน ที่ ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างการจัดหาเข้ามาใหม่เพื่อรองรับทางคู่ที่กำลังก่อสร้าง รวมทั้ง ร.ฟ.ท.ยังต้องเร่งย้ายรถสินค้าจากย่านพหลโยธินออกจากกรุงเทพฯ ทั้งหมดไม่เกินปี 2565 โดยโรงงานดังกล่าว สามารถรองรับการซ่อมได้ 9,000 คันต่อปี ขณะที่ผลตอบแทนทางการลงทุน หรือ EIRR อยู่ที่ 8.6% และมีระยะเวลาคืนทุนภายใน 10 ปี

โดยการลงทุนโรงงานซ่อมรถไฟขนส่งสินค้าดังกล่าว จะเป็นอีกส่วนที่ผลักดันแผนเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท. ระหว่างปี 2562-2572 โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าจากปีงบประมาณ 2562 ราว 10.63 ล้านตัน เป็น 44.56 ล้านตัน ในปีงบประมาณ 2572

ขณะที่ความคืบหน้าในการประมูลก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงหัวรถจักรแห่งใหม่ บริเวณชุมทางแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ราคากลาง 1,710 ล้านบาท ปัจจุบันกรมบัญชีกลาง และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตอบข้อชี้แจงมาแล้วว่า ข้อร้องเรียนที่ว่าเอกสารประกวดราคาผ่านเว็บไซต์ไม่ตรงกับเอกสารประกวดราคาที่เอกชนซื้อไปไม่ใช่สาระสำคัญของทีโออาร์

รฟท.จะนำเสนอผลการประมูล ซึ่งมีบริษัทกิจการร่วมค้า NPSE ประกอบด้วย บริษัท นภาการก่อสร้าง และบริษัท สิงห์ศิลา เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ที่วงเงิน 1,560 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางถึง 150 ล้านบาท เสนอให้บอร์ด ร.ฟ.ท.พิจารณาเห็นชอบในเดือน ธ.ค.นี้

หลังจากนั้นจะเชิญผู้ชนะการประมูลลงนามในเดือน ม.ค.2563 และเริ่มงานก่อสร้าง มี.ค.2563 แล้วเสร็จ มี.ค.2565 โดยจะใช้ซ่อมบำรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาด 20 ตันต่อเพลา จำนวน 20 คัน และรถจักรที่กำลังจะซื้ออีก 50 คัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2019 11:32 am    Post subject: Reply with quote

งานปรับปรุงรถนั่งและนอนปรับอากาศชั้น2 (บนท.ป.) หมายเลข 2 และ 14 เป็นรถแคมป์คาร์ จำนวน 2 คันเรียบร้อย สวยงาม งานเครื่องกลบำรุงทางหนักจังหวัดนคราชสีมา รฟท. เตรียมนำไปใช้งานต่อไป

ป.ล. ปรับปรุงโดยคนไทย และบริษัทในประเทศไทย มีโซลาเซลล์ด้วย เพราะ แอร์ พัดลม ไฟ ปั้มน้ำ ใช้ไฟจากโซล่าเซลครับ
...ระบบมี3ส่วน
1.แผงโซลาร์เซลล์จะส่งไฟเข้าตรงกับระบบไฟในรถเลย ถ้าเหลือ จะเอาไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ครับ
2.ถ้าแสงแดดไม่พอ จะเอาไฟจากแบตเตอรี่มาใช้
3.ตอนกลางคืน ถ้าแบตเตอรี่หมด จะตัดเป็นระบบไฟบ้าน AC เสียบเข้าสถานีครับ

Cr ภาพ : น้องบูม
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2661319410581654&set=a.1950409178339351&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43718
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2019 4:54 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเร่งเปิดสรรหาผู้ว่ารฟท.คนใหม่
พุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลา 18.00 น.

“บิ๊กตู่”กดปุ่มคมนาคมเดินหน้าเปิดสรรหาผู้ว่ารฟท.คนใหม่  หลัง“ศักดิ์สยาม” ร่อนหนังสือทวงถาม  ด้าน “จิรุตม์” ตั้ง “อำนวย”นั่งประธานสรรหา

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)คนใหม่ว่า  กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือไปสอบถามไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความชัดเจนในการขั้นตอนกระบวนการสรรหาผู้บริหารระดับสูง รฟท.ว่า อำนาจ ขอบเขตในการสรรหาทำได้หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งตามมาตรา 44  แต่งตั้ง นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ รฟท. มาดำรงตำแหน่ง รักษาการ ผู้ว่า รฟท. ซึ่งล่าสุดทางนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ตอบกลับมาถึงข้อซักถามดังกล่าว ดังนั้นขั้นตอนการดำเนินการดังกล่าวจึงยังไม่สามารถทำได้
 
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมได้แจ้งว่าได้รับหนังสือตอบกลับจากนายกรัฐมนตรีแล้วว่าสามารถเปิดสรรหาผู้ว่ารฟท.คนใหม่ได้เลย  โดยจะเร่งเปิดสรรหาในวันพรุ่งนี้  โดยเบื้องต้นบอร์ดรฟท. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟท.  โดยมีนายอำนวย ปรีมนวงศ์ เป็นประธาน ซึ่งตามขั้นตอนทางคณะกรรมการสรรหา จะสามารถเรียกประชุมเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ ต่างๆ ของผู้ที่จะเข้ามารับการคัดเลือกได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้รมว.คมนาคม มีนโยบายให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เร่งดำเนินการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงให้ได้ ซึ่งต้องเข้าใจว่าขณะนี้ รฟท. มีรักษาการผู้ว่า รฟท. ก็จริง แต่ไม่สามาถแต่งตั้งเป็นผู้ว่า รฟท.ได้เพราะตามระเบียบ ขั้นตอน ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท. จะต้องมีอายุราชการก่อนเกษียณราชการใน 2ปี ซึ่งนายวรวุฒิ จะเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค.ปี63
 
ผู้สื่อข่าวรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท.ได้ทำหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อขอความเห็นเรื่องการดำเนินการสรรหาผู้ว่า รฟท. โดยอ้างถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 5/2561ลงวันที่ 16 พ.ค.61 แต่งตั้งให้ นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ รฟท. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น 
 
ขณะเดียวกันในหนังสือดังกล่าว ยังอ้างตามข้อสั่งการของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเมื่อ 7 ก.พ. 62ข้อ 2.1ให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. เร่งสรรหาผู้ว่า รฟท.โดยเร็วและเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 5/2561 ลงวันที่ 16 พ.ค.61จึงเห็นควรขอรับความเห็นว่า รฟท.สามารถดำเนินการตามกระบวนการสรรหาผู้ว่าการฯตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ได้หรือไม่.


นายกฯไฟเขียว​สรรหาผู้ว่า​ รฟท.ตัวจริงแล้วหลังว่างมา2ปี

27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 11:11 น.



27 พ.ย.62-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ปัญหาการสรรหาผู้ว่า​การรถไฟแห่ง ประเทศ​ไทย​ (รฟท.​)ที่ยืดเยื้อมานาน​ หลังจากที่​พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามม 44 สั่งให้นายวุฒิชาติ​ กัลยาณมิตร​ ผู้ว่าการ​ รฟท.ขณะนั้น​พ้นจากหน้าที่​ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์​ 2560 หลังจากนั้น​ได้มีการตั้งรักษาการ​ผู้ว่าฯมาแล้ว​2คน​ โดยการรถไฟฯ​ว่างเว้นการไม่มีผู้ว่าฯตัวจริงมาแล้วกว่า​ 2​ ปี

อย่างไรก็ตามขณะที่กระบวนการสรรหา์​ในช่วงที่ผ่านมาเกิดความวุ่นวาย​ เริ่มจากรณีที่นายวรวุฒิ​ มาลา​รักษาการ​ ผู้ว่า​รฟท.คนปัจจุบัน​ ได้ทำหนังสือสอบถาม​ ไปถึง ผู้อำนวย​การ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ​(สคร.)​ เมื่อวันที่​ 2​ สิงหาคม​ 2562​ เรื่องขอความเห็น​การดำนินการสรรหาผู้ว่า​ การรถไฟแห่งประเทศไทย เนื่องจากการ ดำรงตำแหน่งของตน เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง หรือพ้นตำแหน่งตามแนวทางการสรรหาปกติ​ ดังนั้นจะดำเนินการเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ ได้หรือไม่อย่างไร

นายศักดิ์สยาม​ ชิดชอบ​ รมว.คมนาคม​ กล่าวยอมรับว่า​ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นดังกล่าว​ และเป็นแนวทางปฏิบัติ​จากฝ่ายนโยบายที่ชัดเจน​ กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือ​ขอข้อหารือ​ไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว​ ว่าจะเริ่มกระบวนการสรรหา​ผู้ว่า​รฟท.ได้หรือไม่อย่างไร​ต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าล่าสุดพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือตอบกลับมายังกระทรวงคมนาคม แล้วว่าให้เดินหน้าเร่งรัด​ กระบวนการสรรหาผู้ว่า​ รฟท.ใหม่ได้ทันที​ ในขณะที่กระทรวงคมนาคมก็เร่งรัด บอร์ดการรถไฟฯชุดใหม่​, ให้เร่งการสรรหาให้ยุติโดยเร็ว​ ​โดยนายศักดิ์สยาม​ ชิดชอบ​ รัฐมนตรีว่าการ​กระทรวงคมนาคม​ เคยประกาศว่าจะไปให้นโยบาย​ รฟท.​ภายหลัง​ รฟท.มีผู้ว่าการฯ​ตัวจริงแล้ว​ ​และเมื่อวันที่26 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสรรหาที่มีนายอำนวย ปรีมนวงศ์​ เป็นประธาน​ ได้มีการประชุมนัดแรก หลังได้รับการแต่งตั้งจากบอร์ดชุดใหม่ที่มีนายจิรุตม์​ วิศาลจิต​ร​เป็นประธานฯ​ เมื่อวันที่​29​ ตุลาคม​ที่ผ่านมา
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 350, 351, 352 ... 486, 487, 488  Next
Page 351 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©