ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Mongwin · Posted: 18/12/2019 6:05 pm Post subject:

ไขข้อข้องใจ "สมคิด พุ่มพวง" ซื้อตั๋วรถไฟ แต่ทำไมไม่ถูกตรวจบัตรประชาชน (คลิป)
ข่าวสังคม
ไทยรัฐออนไลน์
18 ธ.ค. 2562 15:00 น.

https://www.youtube.com/watch?v=YMjq19SUfcQ

หัวหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เผยสาเหตุทำไม "สมคิด พุ่มพวง" ถึงซื้อตั๋วไปลงอยุธยาได้ และไม่ถูกตรวจบัตรประชาชน เป็นเพราะซื้อตั๋วรถไฟชั้นธรรมดา

จากกรณี นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องวัย 55 ปี ที่เพิ่งพ้นโทษออกมา และได้ก่อคดีฆ่าหญิงสาวในพื้นที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดย นายสมคิด ได้ขึ้นรถไฟที่บุรีรัมย์ ปลายทางคืออยุธยา ซึ่งมีกำหนดจะถึงสถานีปลายทาง 13.38 น. แต่ถูกจับได้ที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด นายบรรจง จันทร หัวหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า รถไฟชั้นธรรมดาไม่จำเป็นต้องแสดงบัตรประชาชนในการซื้อตั๋วรถไฟ ยกเว้นรถไฟขบวนเร็วที่ต้องสำรองที่นั่ง เจ้าหน้าที่การรถไฟจึงจะขอตรวจบัตรประชาชน

ในกรณีของนายสมคิด ที่ซื้อตั๋วรถไฟชั้นธรรมดา จึงเป็นที่มาในการตรวจสอบบัตรประชาชน อุปสรรคอย่างหนึ่งคือ นายสมคิดใส่หน้ากากอนามัย และมีการปิดหน้าปิดตา พรางตัว ทำให้เจ้าหน้าท่ีการรถไฟไม่เห็นหน้าที่ชัดเจน และไม่รู้ว่าเป็นใคร

ทั้งนี้ จากกล้องวงจรปิดภายในสถานีรถไฟ จะพบว่า นายสมคิดมารอซื้อตั๋วรถไฟตั้งแต่เวลา 05.21 น. ทันทีที่พนักงานขายตั๋วเปิดขาย นายสมคิด เดินมาที่ช่องจำหน่ายตั๋ว ลักษณะท่าทางคือ พยายามหลบหน้าพนักงานขายตั๋วตลอดเวลา โดยตั๋วรถไฟจากบุรีรัมย์ขึ้นรถเวลา 06.07 น. ถึงอยุธยา เวลา 12.38 น.

Wisarut · Posted: 18/12/2019 8:25 pm Post subject:

เอกชนชงแผนล็อกสเป๊กรัฐจัดซื้อจัดจ้างวัสดุก่อสร้างคนไทย

วันที่ 17 ธันวาคม 2562

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. จัดทำข้อเสนอการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ใช้วัสดุภายในประเทศในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง ที่มีมูลค่าสูงมากในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพการผลิตสินค้าสูงได้มาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุนให้มีการใช้วัสดุภายในประเทศมากขึ้น

โดยให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิชกำหนดเงื่อนไขจัดซื้อจัดจ้างวัสดุในประเทศไม่น้อยกว่า 40-60% โดยเฉพาะงานโครงการภาครัฐในอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เสนอให้รัฐจัดซื้อจัดจ้างขั้นต่ำ 90% จากที่ผู้ประกอบการไทยที่สามารถผลิตได้ ส่วนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเรือ เสนอให้รัฐจัดซื้อจัดจ้างขั้นต่ำ 40-50% ที่สำคัญต้องเป็นสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรางเสนอให้รัฐจัดซื้อจัดจ้างขั้นต่ำ 30-40% เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถผลิตได้ภายในประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตตัวรถ เช่น โครงสร้างตู้โดยสาร และการตกแต่งภายในตัวรถ แต่ในส่วนของระบบช่วงล่างของโครงสร้างตัวรถ เช่น โบกี้ ระบบห้ามล้อ และอุปกรณ์เชื่อมต่อตู้โดยสาร ระบบขับและควบคุม และระบบควบคุมและอาณัติสัญญาณ ผู้ประกอบการไทยยังไม่สามารถผลิตได้

ทั้งนี้ หากภาครัฐสนับสนุนการใช้วัสดุในประเทศมากขึ้น จะทำให้โรงงานใช้กำลังการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยสร้างความเข็มแข็งให้กับอุตสาหกรรม จากปัจจุบันอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างที่มีกำลังการผลิตเหลือเพียงพอรองรับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี เช่น ปูนซีเมนต์ มีอัตราการใช้กำลังการผลิต 74% คอนกรีตผสมเสร็จ 67% ผลิตภัณฑ์คอนกรีต 60% กระเบื้อง 65% สุขภัณฑ์ 62% เหล็กก่อสร้าง 55% และแก้ว กระจก 74%

อย่างไรก็ตาม จะเสนอให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกรมบัญชีกลาง และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพื่อเสนอแนวทางคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์จัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่ผลิตภายในประเทศให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมต่อไป

Wisarut · Posted: 19/12/2019 1:40 am Post subject:

Wisarut · Posted: 23/12/2019 5:48 pm Post subject:

รถไฟทุ่ม 920 ล้านจ้างพัฒนาระบบ “D-Ticket” ขายตั๋ว-จองที่นั่งออนไลน์เริ่มปี’64
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 23 ธันวาคม 2562 - 11:58 น.
AIT เซ็นสัญญาพัฒนาระบบขาย-จองตั๋วรถไฟของ รฟท.หลังประมูลชนะด้วยมูลค่า 920 ลบ.
รฟท.ทุ่ม920ล้านปิดตำนาน19ปีตั๋วเชยๆสู่ดิจิทัล *เปิดใช้เม.ย.64ใบเดียวจบสะดวกทุกฟังก์ชั่น

ข่าวหุ้น-การเงิน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
23 ธันวาคม พ.ศ. 2562 12:23 น. —

วันนี้ (23 ธันวาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 3 ตึกบัญชาการรถไฟ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามสัญญาโครงการจ้างพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D-Ticket) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดย นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กับ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดยนายอภิชัย นิมจิรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและการตลาด ร่วมลงนามในสัญญา พร้อมผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน

นายวรวุฒิกล่าวว่า สืบเนื่องจากการรถไฟฯ เป็นผู้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางรถไฟ มีสถานีให้บริการทั้งหมด 444 สถานี ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้ติดตั้งระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งของการรถไฟฯ เพื่อให้บริการออกตั๋วโดยสารด้วยระบบคอมพิวเตอร์แก่ผู้โดยสาร ในระบบ STARS-2 (Seat Ticketing and Reservation System Stage 2) เป็นระบบจองและจำหน่ายตั๋วที่นั่งรถโดยสารออนไลน์

โดยการรถไฟฯ ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการ 20 ปี (พ.ศ. 2543 – 2563) ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาจ้างในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 ในขณะเดียวกันระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารปัจจุบันได้มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไม่สามารถรองรับระบบจำหน่ายตั๋วด้านดิจิทัลได้ ดังนั้น เพื่อให้การบริการประชาชนในการสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วโดยสารเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว

การรถไฟฯ จึงได้จัดหาบริษัทเอกชนดำเนินการโครงการจ้างพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D-Ticket) ของการรถไฟฯ หรือการจำหน่ายตั๋วด้วยระบบดิจิทัล ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

ปรากฎว่ามีผู้ประกอบการซื้อเอกสารจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย

1. บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด
2. บริษัท เอ พี โฟร์ เทคโนโลยี จำกัด
3. บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด
4. บริษัท บางกอก เพย์เมนต์ โซลูชันส์ จำกัด
5. บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
6. บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
7. บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)

หลังจากสิ้นสุดเมื่อสิ้นสุดการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ได้มีผู้ประกอบการยื่นเสนอราคาพร้อมเอกสารหลักฐานการเสนอราคา จำนวน 2 ราย คือ 1. บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด และ 2. บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ปรากฏว่า บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้เสนอราคาต่ำสุด จึงได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการดังกล่าว โดยได้เสนอราคาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 920 ล้านบาท

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D-Ticket) ของการรถไฟฯ จะเป็นระบบซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ซึ่งหลังจากการติดตั้งระบบแล้วจะสามารถให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งได้ทุกช่องทาง ทั้งจำหน่ายภายในสถานี ซื้อผ่านออนไลน์ ซื้อผ่านโมบายแอปพลิเคชัน รองรับการทำงานร่วมกับ QR Code รวมทั้งผู้โดยสารขึ้นระหว่างสถานีได้ด้วย

ส่วนระบบการชำระเงินผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นชื่อ D-ticket สมัครสมาชิกและยืนยันข้อมูล จากนั้นจะสามารถดำเนินการจองตั๋วและชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะได้รับรหัสยืนยันและคิวอาร์โค้ด เพื่อแสดงข้อมูลการเดินทาง

รวมทั้งระบบดังกล่าวยังรองรับระบบการจองตั๋วรูปแบบอื่น ทั้งการซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านสถานีทั่วประเทศ การซื้อผ่าน Call center 1690 โดยการแจ้งรายละเอียดการเดินทางแก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นโดยผู้โดยสารจะได้รับรหัสยืนยัน เพื่อนำรหัสไปออกตั๋วที่สถานีพร้อมชำระเงินภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถชำระเป็นเงินสด หรือชำระผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ได้ทันที ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสารระบบดังกล่าวได้ภายในปี 2564
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/3150555284959321?__tn__=K-R

รถไฟทุ่ม 920 ล้านจ้างพัฒนาระบบ “D-Ticket” ขายตั๋ว-จองที่นั่งออนไลน์เริ่มปี’64
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 23 ธันวาคม 2562 - 11:58 น.

วันนี้ (23 ธันวาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 3 ตึกบัญชาการรถไฟ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามสัญญาโครงการจ้างพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D-Ticket) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดย นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กับ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดยนายอภิชัย นิมจิรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและการตลาด ร่วมลงนามในสัญญา พร้อมผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน

นายวรวุฒิกล่าวว่า สืบเนื่องจากการรถไฟฯ เป็นผู้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางรถไฟ มีสถานีให้บริการทั้งหมด 444 สถานี ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้ติดตั้งระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งของการรถไฟฯ เพื่อให้บริการออกตั๋วโดยสารด้วยระบบคอมพิวเตอร์แก่ผู้โดยสาร ในระบบ STARS-2 (Seat Ticketing and Reservation System Stage 2) เป็นระบบจองและจำหน่ายตั๋วที่นั่งรถโดยสารออนไลน์

โดยการรถไฟฯ ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการ 20 ปี (พ.ศ. 2543 – 2563) ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาจ้างในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 ในขณะเดียวกันระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารปัจจุบันได้มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไม่สามารถรองรับระบบจำหน่ายตั๋วด้านดิจิทัลได้ ดังนั้น เพื่อให้การบริการประชาชนในการสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วโดยสารเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว

การรถไฟฯ จึงได้จัดหาบริษัทเอกชนดำเนินการโครงการจ้างพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D-Ticket) ของการรถไฟฯ หรือการจำหน่ายตั๋วด้วยระบบดิจิทัล ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

ปรากฎว่ามีผู้ประกอบการซื้อเอกสารจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย

1. บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด
2. บริษัท เอ พี โฟร์ เทคโนโลยี จำกัด
3. บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด
4. บริษัท บางกอก เพย์เมนต์ โซลูชันส์ จำกัด
5. บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
6. บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
7. บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)

หลังจากสิ้นสุดเมื่อสิ้นสุดการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ได้มีผู้ประกอบการยื่นเสนอราคาพร้อมเอกสารหลักฐานการเสนอราคา จำนวน 2 ราย คือ 1. บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด และ 2. บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ปรากฏว่า บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้เสนอราคาต่ำสุด จึงได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการดังกล่าว โดยได้เสนอราคาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 920 ล้านบาท

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D-Ticket) ของการรถไฟฯ จะเป็นระบบซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ซึ่งหลังจากการติดตั้งระบบแล้วจะสามารถให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งได้ทุกช่องทาง ทั้งจำหน่ายภายในสถานี ซื้อผ่านออนไลน์ ซื้อผ่านโมบายแอปพลิเคชัน รองรับการทำงานร่วมกับ QR Code รวมทั้งผู้โดยสารขึ้นระหว่างสถานีได้ด้วย

ส่วนระบบการชำระเงินผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นชื่อ D-ticket สมัครสมาชิกและยืนยันข้อมูล จากนั้นจะสามารถดำเนินการจองตั๋วและชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะได้รับรหัสยืนยันและคิวอาร์โค้ด เพื่อแสดงข้อมูลการเดินทาง

รวมทั้งระบบดังกล่าวยังรองรับระบบการจองตั๋วรูปแบบอื่น ทั้งการซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านสถานีทั่วประเทศ การซื้อผ่าน Call center 1690 โดยการแจ้งรายละเอียดการเดินทางแก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นโดยผู้โดยสารจะได้รับรหัสยืนยัน เพื่อนำรหัสไปออกตั๋วที่สถานีพร้อมชำระเงินภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถชำระเป็นเงินสด หรือชำระผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ได้ทันที ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสารระบบดังกล่าวได้ภายในปี 2564

รฟท.เตรียมเปิดจองตั๋วผ่านระบบออนไลน์แอปพลิเคชัน
โดย PPTV Online
เผยแพร่ 23 ธ.ค. 2562,12:11น.
ปรับปรุงล่าสุด 23 ธ.ค. 2562,12:13น.
การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงนามพัฒนาระบบจำหน่ายตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ให้ซื้อขายผ่านออนไลน์และแอปพลิเคชันได้หลังรอมาเกือบ 20 ปี คาดเปิดใช้งานได้ในอีก 15 เดือนข้างหน้า

วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีการลงนามสัญญาโครงการจ้างพัฒนาระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่ง หรือ D-Ticket โดยนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย บอกว่า วันนี้ รฟท.ได้ลงนามกับ บริษัท แอดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาระบบโดยสาร ให้สามารถขายตั๋วโดยสาร จองตั๋วที่นั่ง พร้อมทั้งชำระค่าบริการผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันได้ทันที ซึ่งเป็นการทดแทนระบบเดิมที่มีข้อจำกัดทางเทคโนโลยี

สำหรับการจัดทำติดตั้งระบบ D-ticket คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานได้ภายในช่วงปี 2564 หรือราว 15 เดือนข้างหน้า โดยลิขสิทธิ์ทั้งหมดจะเป็นของการรถไฟเอง ทั้งนี้ระบบตั๋วจะถูกวางไว้ให้สามารถพัฒนาต่อยอด เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมถึงแมงมุมในอนาคตอีกด้วย

Mongwin · Posted: 26/12/2019 6:56 pm Post subject:

การรถไฟฯ แจก “ข้าวหอมมะลิ 105” ส่งคนกลับบ้านปีใหม่
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 26 ธันวาคม 2562 - 14:37 น.

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ การรถไฟฯ ได้เตรียมของที่ระลึกเป็นข้าวหอมดอกมะลิ 105 เพื่อมอบให้แก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการ

เพราะเรารู้ว่า…ทุกๆ เทศกาล…เป็นวันพิเศษของคุณ

เดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข

Click on the image for full size

Wisarut · Posted: 27/12/2019 12:53 pm Post subject:

หัวลำโพงคึกคักประชาชนแห่เดินทางออกต่างจังหวัดตั้งแต่เช้า

ภาพบรรยากาศสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ที่เต็มไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เลือกเดินทางด้วยรถไฟ ในการกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ณ จังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย

หลายคนกลับบ้านพร้อมรอยยิ้ม แต่อีกหลายคนกลับบ้านด้วยร่างกายที่แบตเตอรี่ใกล้หมด พร้อมกลับไปชาร์จพลังงานชีวิตให้เต็มเปี่ยมอีกครั้งในช่วงปีใหม่ 2563 ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) / 27 ธันวาคม 2562
https://www.facebook.com/thairath/posts/10158835968837439?__tn__=H-R

Mongwin · Posted: 28/12/2019 8:51 am Post subject:

การรถไฟฯ จัดขบวนรถเสริมส่งผู้โดยสารกว่า 100,000 คน/วัน
NationTV 27 ธ.ค. 2562

Click on the image for full size

การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลําเนาในเทศกาลปีใหม่ 2563 เน้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยจัดขบวนรถปกติ 244 ขบวนรถเสริมอีก 8 ขบวน สามารถจัดส่งผู้โดยสารกว่า 100,000 คนต่อวัน ให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตําแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่ง ประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลําเนาในวันนี้ (27 ธันวาคม 2562) ซึ่งเป็นการทํางานวันสุดท้ายของประชาชนส่วนใหญ่ และต้องการเดินทางกลับภูมิลําเนาในเย็นวันนี้ โดยได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านขบวนรถ ความปลอดภัย และพนักงาน เพื่ออํานวยความสะดวก ติดตาม ประสานงาน สั่งการด้านการโดยสาร ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2563 ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วภูมิภาค

สำหรับวันนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพมากที่สุด โดยเฉพาะที่สถานี กรุงเทพ (หัวลําโพง) เริ่มจากขบวนรถทางไกลในช่วงเช้า จนถึงช่วงเย็นซึ่งจะเป็นช่วงที่การเดินทางหนาแน่น เพราะ จะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาถึงสถานีกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเดินทางกับขบวนรถที่ออกจากสถานี กรุงเทพในช่วงเย็นจนถึงขบวนรถเที่ยวสุดท้าย จำนวน 55 ขบวน และขบวนรถเสริมพิเศษ 3 ขบวน ในเส้นทาง สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายเหนือ โดยในภาพรวมจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 100,000 คน ให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สถิติผู้โดยสารที่เดินทางก่อนล่วงหน้าเมื่อวานนี้มียอดสูงถึง 97,327 คน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในวันนี้ตั๋วโดยสารจะเต็มทุกชั้นทุกที่นั่ง แต่ การรถไฟฯ ก็จะพยายามนําตู้รถโดยสารเข้ามาเสริมเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสารในแต่ละวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ยังคงให้ความสําคัญในด้านความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง โดยจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในส่วน ภูมิภาคทั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง มีแผนปฏิบัติการของทุกหน่วย เพื่อประสานงานด้าน ความปลอดภัยและอํานวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ทั้งพนักงานในการบริการ ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยบน ขบวนรถและในสถานี เพิ่มกําลังเจ้าหน้าที่ พนักงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตํารวจรถไฟ ประจําตามสถานี ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจํานวนมาก เพื่ออํานวยความสะดวก ปลอดภัยให้ผู้โดยสารบนขบวนรถ ติดตามการ แก้ไขปัญหา/อุปสรรคด้านการเดินรถและการโดยสาร ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. อปพร. เพิ่มเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครประจําตามจุดตัดถนนเสมอระดับทางรถไฟ โดยเฉพาะทางผ่านที่เห็นว่ามีความเสี่ยง หรือมีสถิติ อุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตรวจสภาพทางให้มีความปกติมั่นคงปลอดภัยต่อการเดินรถ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการ เดินทางของผู้โดยสาร ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังได้แจกข้าวหอมดอกมะลิ 105 ในกิจกรรมรถไฟ ส่งความสุขเดินทางกลับบ้านปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร เพื่อมอบให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ"การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลําเนาในเทศกาลปีใหม่ 2563 เน้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เพื่อดูแลการเดินทางของประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และมีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดวันที่ 27 ธันวาคม 2562 6 มกราคม 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุ ได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย"

Mongwin · Posted: 28/12/2019 8:55 am Post subject:

การรถไฟฯ จัดขบวนรถเสริมส่งผู้โดยสารกว่า 100,000 คน/วัน
NationTV 27 ธ.ค. 2562

Click on the image for full size

การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลําเนาในเทศกาลปีใหม่ 2563 เน้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยจัดขบวนรถปกติ 244 ขบวนรถเสริมอีก 8 ขบวน สามารถจัดส่งผู้โดยสารกว่า 100,000 คนต่อวัน ให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตําแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่ง ประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลําเนาในวันนี้ (27 ธันวาคม 2562) ซึ่งเป็นการทํางานวันสุดท้ายของประชาชนส่วนใหญ่ และต้องการเดินทางกลับภูมิลําเนาในเย็นวันนี้ โดยได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านขบวนรถ ความปลอดภัย และพนักงาน เพื่ออํานวยความสะดวก ติดตาม ประสานงาน สั่งการด้านการโดยสาร ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2563 ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วภูมิภาค

สำหรับวันนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพมากที่สุด โดยเฉพาะที่สถานี กรุงเทพ (หัวลําโพง) เริ่มจากขบวนรถทางไกลในช่วงเช้า จนถึงช่วงเย็นซึ่งจะเป็นช่วงที่การเดินทางหนาแน่น เพราะ จะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาถึงสถานีกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเดินทางกับขบวนรถที่ออกจากสถานี กรุงเทพในช่วงเย็นจนถึงขบวนรถเที่ยวสุดท้าย จำนวน 55 ขบวน และขบวนรถเสริมพิเศษ 3 ขบวน ในเส้นทาง สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายเหนือ โดยในภาพรวมจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 100,000 คน ให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สถิติผู้โดยสารที่เดินทางก่อนล่วงหน้าเมื่อวานนี้มียอดสูงถึง 97,327 คน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในวันนี้ตั๋วโดยสารจะเต็มทุกชั้นทุกที่นั่ง แต่ การรถไฟฯ ก็จะพยายามนําตู้รถโดยสารเข้ามาเสริมเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสารในแต่ละวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ยังคงให้ความสําคัญในด้านความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง โดยจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในส่วน ภูมิภาคทั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง มีแผนปฏิบัติการของทุกหน่วย เพื่อประสานงานด้าน ความปลอดภัยและอํานวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ทั้งพนักงานในการบริการ ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยบน ขบวนรถและในสถานี เพิ่มกําลังเจ้าหน้าที่ พนักงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตํารวจรถไฟ ประจําตามสถานี ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจํานวนมาก เพื่ออํานวยความสะดวก ปลอดภัยให้ผู้โดยสารบนขบวนรถ ติดตามการ แก้ไขปัญหา/อุปสรรคด้านการเดินรถและการโดยสาร ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. อปพร. เพิ่มเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครประจําตามจุดตัดถนนเสมอระดับทางรถไฟ โดยเฉพาะทางผ่านที่เห็นว่ามีความเสี่ยง หรือมีสถิติ อุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตรวจสภาพทางให้มีความปกติมั่นคงปลอดภัยต่อการเดินรถ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการ เดินทางของผู้โดยสาร ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังได้แจกข้าวหอมดอกมะลิ 105 ในกิจกรรมรถไฟ ส่งความสุขเดินทางกลับบ้านปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร เพื่อมอบให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ"การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลําเนาในเทศกาลปีใหม่ 2563 เน้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เพื่อดูแลการเดินทางของประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และมีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดวันที่ 27 ธันวาคม 2562 6 มกราคม 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุ ได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย"

Mongwin · Posted: 28/12/2019 9:02 am Post subject:

การรถไฟฯ จัดขบวนรถเสริมส่งผู้โดยสารกว่า 100,000 คน/วัน
NationTV 27 ธ.ค. 2562

Click on the image for full size

การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลําเนาในเทศกาลปีใหม่ 2563 เน้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยจัดขบวนรถปกติ 244 ขบวนรถเสริมอีก 8 ขบวน สามารถจัดส่งผู้โดยสารกว่า 100,000 คนต่อวัน ให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตําแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่ง ประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลําเนาในวันนี้ (27 ธันวาคม 2562) ซึ่งเป็นการทํางานวันสุดท้ายของประชาชนส่วนใหญ่ และต้องการเดินทางกลับภูมิลําเนาในเย็นวันนี้ โดยได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านขบวนรถ ความปลอดภัย และพนักงาน เพื่ออํานวยความสะดวก ติดตาม ประสานงาน สั่งการด้านการโดยสาร ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2563 ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วภูมิภาค

สำหรับวันนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพมากที่สุด โดยเฉพาะที่สถานี กรุงเทพ (หัวลําโพง) เริ่มจากขบวนรถทางไกลในช่วงเช้า จนถึงช่วงเย็นซึ่งจะเป็นช่วงที่การเดินทางหนาแน่น เพราะ จะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาถึงสถานีกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเดินทางกับขบวนรถที่ออกจากสถานี กรุงเทพในช่วงเย็นจนถึงขบวนรถเที่ยวสุดท้าย จำนวน 55 ขบวน และขบวนรถเสริมพิเศษ 3 ขบวน ในเส้นทาง สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายเหนือ โดยในภาพรวมจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 100,000 คน ให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สถิติผู้โดยสารที่เดินทางก่อนล่วงหน้าเมื่อวานนี้มียอดสูงถึง 97,327 คน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในวันนี้ตั๋วโดยสารจะเต็มทุกชั้นทุกที่นั่ง แต่ การรถไฟฯ ก็จะพยายามนําตู้รถโดยสารเข้ามาเสริมเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสารในแต่ละวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ยังคงให้ความสําคัญในด้านความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง โดยจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในส่วน ภูมิภาคทั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง มีแผนปฏิบัติการของทุกหน่วย เพื่อประสานงานด้าน ความปลอดภัยและอํานวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ทั้งพนักงานในการบริการ ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยบน ขบวนรถและในสถานี เพิ่มกําลังเจ้าหน้าที่ พนักงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตํารวจรถไฟ ประจําตามสถานี ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจํานวนมาก เพื่ออํานวยความสะดวก ปลอดภัยให้ผู้โดยสารบนขบวนรถ ติดตามการ แก้ไขปัญหา/อุปสรรคด้านการเดินรถและการโดยสาร ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. อปพร. เพิ่มเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครประจําตามจุดตัดถนนเสมอระดับทางรถไฟ โดยเฉพาะทางผ่านที่เห็นว่ามีความเสี่ยง หรือมีสถิติ อุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตรวจสภาพทางให้มีความปกติมั่นคงปลอดภัยต่อการเดินรถ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการ เดินทางของผู้โดยสาร ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังได้แจกข้าวหอมดอกมะลิ 105 ในกิจกรรมรถไฟ ส่งความสุขเดินทางกลับบ้านปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร เพื่อมอบให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ"การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลําเนาในเทศกาลปีใหม่ 2563 เน้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เพื่อดูแลการเดินทางของประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และมีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดวันที่ 27 ธันวาคม 2562 6 มกราคม 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุ ได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย"