ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 10/01/2020 11:38 am Post subject:

อยากเที่ยวสงกรานต์อย่ารอช้า รถไฟฯเปิดจองล่วงหน้า 90 วัน
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
10 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 09:55 น.

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เพื่อเปิดให้บริการผู้โดยสารที่ยังต้องการใช้บริการเดินทางโดยรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2563 ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ล่าสุด การรถไฟฯได้จัดแผนอำนวยความสะดวก โดยเปิดให้จองตั๋วโดยสารรถไฟล่วงหน้าสูงสุดได้ถึง 90 วันก่อนเดินทาง สำหรับขบวนรถเดินประจำในทุกเส้นทาง 244 ขบวน ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับการเดินทาง ของผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน โดยจะเริ่มเปิดจองตั๋ว พร้อมกันทุกที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2563 เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดการจองล่วงหน้า 90 วัน ผู้โดยสารจะต้องซื้อตั๋วเดินทางไม่น้อยกว่า 60% ของระยะทางของขบวนรถ ถ้าหาก ระยะทางน้อยกว่านั้น จะซื้อตั๋วได้ไม่ถึง 90 วัน นอกจากนั้น ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ รฟท.ขอแจ้งงดเดินขบวนรถนำเที่ยว ขบวนที่ 909/910 กรุงเทพฯ-น้ำตก-กรุงเทพฯ และขบวนที่ 911/912 กรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์-กรุงเทพฯ ในวันที่ 11-15 เม.ย.2563 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่างๆของขบวนรถที่มีให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์ รฟท.

จองล่วงหน้า!ตั๋วรถไฟฯ เดินทางสงกรานต์ สะดวกรวดเร็ว ตั้งแต่ 10 ม.ค.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 9 มกราคม 2563 เวลา 17:37

รฟท.เปิดจองตั๋วล่วงหน้า เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 63 เริ่มตั้งแต่10 ม.ค.นี้เป็นต้นไป พร้อมเตรียมขบวนรถโดยสารพ่วงตู้โดยสารนั่งและนอนปรับอากาศชั้น 2 และชั้น 3 รองรับ สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รฟท.ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2563 แล้ว โดยมีประชาชนต้องการใช้บริการเดินทางโดยรถไฟเพื่อกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

โดยรฟท.จะมีการเปิดให้จองตั๋วโดยสารรถไฟล่วงหน้าสูงสุดได้ถึง 90 วันก่อนเดินทาง สำหรับขบวนรถที่มีเดินประจำในทุกเส้นทาง 244 ขบวนในเส้นทางสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ทั้งเที่ยวไปและกลับ พร้อมทั้งพ่วงตู้โดยสารนั่งและนอนปรับอากาศชั้น 2 , รถนั่ง/นอนพัดลม ชั้น 2 และรถชั้น 3 เพิ่มไปกับขบวนรถที่มีเดินประจำจนเต็มหน่วยลากจูง สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน

โดยจะเริ่มเปิดให้ประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลดังกล่าว สามารถจองตั๋วพร้อมกันทุกที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดการจองล่วงหน้า 90 วัน ผู้โดยสารจะต้องซื้อตั๋วเดินทางไม่น้อยกว่า 60% ของระยะทางของขบวนรถ ถ้าหากระยะทางน้อยกว่านั้น จะซื้อตั๋วได้ไม่ถึง 90 วัน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

1. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
2. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางระหว่างร้อยละ 25 - 59 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วันทั้งนี้ การกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย
นายวรวุฒิกล่าวว่า ขณะเดียวกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การรถไฟฯ ขอแจ้งงดเดินขบวนรถนำเที่ยว ขบวนที่ 909/910 กรุงเทพ – น้ำตก – กรุงเทพ และขบวนที่ 911/912 กรุงเทพ – สวนสนประดิพัทธ์ – กรุงเทพ ในวันที่ 11 – 15 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

เริ่มพรุ่งนี้รถไฟ เปิดจองตั๋วล่วงหน้าสงกรานต์
เผยแพร่: 9 มกราคม 2563

รถไฟเปิดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงสงกรานต์ สูงสุด 90 วันก่อนการเดินทาง ทุกชั้นที่นั่ง เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศดีเดย์10 ม.ค. มั่นใจที่นั่งเพียงพอไม่มีตกค้าง นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารที่ยังต้องการใช้บริการเดินทางโดยรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2563 อยู่จำนวนมาก ล่าสุดการรถไฟฯ ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางโดยรถไฟกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยการเปิดให้จองตั๋วโดยสารรถไฟล่วงหน้าสูงสุดได้ถึง 90 วันก่อนเดินทาง สำหรับขบวนรถที่มีเดินประจำในทุกเส้นทาง 244 ขบวน พร้อมทั้งพ่วงตู้โดยสารนั่งและนอนปรับอากาศชั้น 2,รถนั่ง/นอนพัดลม ชั้น 2 และรถชั้น 3 เพิ่มไปกับขบวนรถที่มีเดินประจำจนเต็มหน่วยลากจูง สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน โดยจะเริ่มเปิดให้ประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลดังกล่าว สามารถจองตั๋วพร้อมกันทุกที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดการจองล่วงหน้า 90 วัน ผู้โดยสารจะต้องซื้อตั๋วเดินทางไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของระยะทางของขบวนรถ ถ้าหากระยะทางน้อยกว่านั้น จะซื้อตั๋วได้ไม่ถึง 90 วัน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
2. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางระหว่างร้อยละ 25 - 59 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วันทั้งนี้ การกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย นายวรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การรถไฟแห่งประเทศไทยขอแจ้งงดเดินขบวนรถนำเที่ยว ขบวนที่ 909/910 กรุงเทพ – น้ำตก – กรุงเทพ และขบวนที่ 911/912 กรุงเทพ – สวนสนประดิพัทธ์ – กรุงเทพ ในวันที่ 11– 15 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ของขบวนรถที่มีให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/129946050353608/posts/3190745110940338/

Wisarut · Posted: 10/01/2020 11:40 am Post subject:

Wisarut · Posted: 10/01/2020 11:45 am Post subject:

Wisarut · Posted: 10/01/2020 4:32 pm Post subject:

บอร์ด ร.ฟ.ท.รื้อระเบียบสรรหารองผู้ว่าฯ-แก้ปมร้องเรียนเอื้อประโยชน์พวกพ้อง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 10 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 07:44
ปรับปรุง: 10 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 11:53

บอร์ด รฟท.รื้อระเบียบสรรหารองผู้ว่าฯ แก้ปัญหาร้องเรียน แต่งตั้งแต่พวกพ้อง เชื่อปรับปรุงใหม่ เหมาะสม เผยปัจจุบันรองผู้ว่าฯ ว่าง 2 ตำแหน่ง ปมขัดแย้งทำคัดสรรยืดเยื้อข้ามปี

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน วานนี้ (9 ม.ค.) ได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกพนักงานการรถไฟฯ เพื่อแต่งตั้งเลื่อนระดับเป็นรองผู้ว่าการ (นักบริหาร 14) โดยเป็นการปรับปรุงระเบียบ เป็นคำสั่งคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.ซึ่งจะมีผู้แทนจากกรรมการบอร์ด ร.ฟ.ท.เป็นคณะอนุกรรมการคัดเลือกฯ เพื่อให้เกิดความเหมาะสม

ทั้งนี้ เนื่องจากการคัดสรรแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ (ระดับ 14) จะมีคณะกรรมการคัดเลือก โดยมีรองผู้ว่าฯ ที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันเป็นกรรมการ ซึ่งมองว่าเป็นการให้รองผู้ว่าฯ มาคัดเลือกรองผู้ว่าฯ นั้นมีความไม่เหมาะสม

ปัจจุบันรองผู้ว่าฯ ร..ฟ.ท.ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ (นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ เกษียณอายุเมื่อ ก.ย. 2561) และรองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์ (นางสิริมา หิรัญเจริญเวช เกษียณอายุเมื่อ ก.ย. 2562) โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดคัดสรรตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กลุ่มธุรกิจการเดินรถ แล้ว จะต้องยกเลิกการคัดเลือกไปก่อนเนื่องจากใช้รูปแบบระเบียบเดิม และทำการเปิดคัดเลือกใหม่พร้อมกันทั้ง 2 ตำแหน่งเมื่อบอร์ดตั้งคณะอนุกรรมการฯ

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ในระดับ 13 ที่มีคุณสมบัติสามารถเข้ารับการคัดเลือกเป็นรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.(ระดับ 14) และได้ยื่นสมัครเป็นรองผู้ว่ากลุ่มธุรกิจการเดินรถไปก่อนหน้านี้นั้นมีจำนวน 5-6 คน ได้แก่

1. นายอวิรุทธ์ ทองเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ มีอายุงานในระดับ 13 จำนวน 10 ปี ถือว่าเป็นผู้มีระดับอาวุโสสูงสุด
2. นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ อายุงานในระดับ 3 ปี 7 เดือน
3. นายสิทธิชัน บุญเสริมสุข วิศวกรใหญ่ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม อายุงานในระดับ 2 ปี 9 เดือน
4. นายวัชรชาญ สิริสุวรรณทัศน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกล อายุงานในระดับ 2 ปี 9 เดือน
5. นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง อายุงานในระดับ 2 ปี 9 เดือน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้การสรรหารองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.มีการร้องเรียนมาหลายครั้งถึงความไม่โปร่งใสและเป็นธรรม มีการเลือกบุคคลที่เป็นพวกพ้องขึ้นมารับตำแหน่ง โดยผ่านคณะกรรมการคัดสรรที่มีรองผู้ว่าฯ ทุกคนเป็นกรรมการ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยให้บอร์ด ร.ฟ.ท.เข้ามาพิจารณาจะเป็นแนวทางที่มีความเป็นธรรมมากขึ้น

Wisarut · Posted: 10/01/2020 5:26 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 11/01/2020 8:44 pm Post subject:

รฟท.ระบุหากน้ำมันขึ้น 1 บาท จะกระทบต้นทุน 100 ล้านบาท/ปี

9 มกราคม พ.ศ. 2563

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2563 ว่านายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยอมรับว่าสถานการณ์ตึงเครียดปัญหาความขัดแย้งตะวันออกกลางระหว่งสหรัฐและอิหร่าน นักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจเกิดสงครามทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น โดย รฟท.ใช้ดีเซลเดินรถส่วนหนึ่ง มีการใช้น้ำมันเฉลี่ยปีละ 100 ล้านลิตร หากราคาน้ำมันขยับขึ้นทุก 1 บาท จะมีต้นทุนสูงขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี จึงสั่งให้ฝ่ายบริหารการเดินรถและฝ่ายจัดการสำนักงานออกมาตรการรองรับโดยเฉพาะมาตรการลดใช้พลังงาน เช่น หากรถจอดรอการเดินหรือรถเสียเวลาขอให้สตาร์ทเครื่องหัวรถจักรเวลาที่ไม่มากเกินไป รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายด้านเอกสาร

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงก็เป็นเรื่องยากที่จะปรับค่าโดยสารเพิ่ม เนื่องจากเป็นบริการสาธารณะจำเป็นต่อการเดินทางของประชาชน ซึ่งปัจจุบันประชาชนแบกรับภาระค่าครองชีพสูงอยู่แล้ว

//-------------------------------------------------------

รฟท.ยอมรับน้ำมันขึ้น 1 บาท กระทบต้นทุน 100 ล้าน
เศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย
6 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 15:46:40

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. - ผู้ว่าฯ รฟท.ยอมรับสถานการณ์ตึงเครียดตะวันออกกลาง ส่งผลต่อราคาพลังงาน หากราคาน้ำมันขยับขึ้น 1 บาท กระทบต้นทุน 100 ล้านบาทต่อปี พร้อมสั่งลดใช้พลังงานรองรับ

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยอมรับว่าสถานการณ์ตึงเครียดปัญหาความขัดแย้งตะวันออกกลางระหว่งสหรัฐและอิหร่าน นักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจเกิดสงครามทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น โดย รฟท.ใช้ดีเซลเดินรถส่วนหนึ่ง มีการใช้น้ำมันเฉลี่ยปีละ 100 ล้านลิตร หากราคาน้ำมันขยับขึ้นทุก 1 บาท จะมีต้นทุนสูงขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี จึงสั่งให้ฝ่ายบริหารการเดินรถและฝ่ายจัดการสำนักงานออกมาตรการรองรับโดยเฉพาะมาตรการลดใช้พลังงาน เช่น หากรถจอดรอการเดินหรือรถเสียเวลาขอให้สตาร์ทเครื่องหัวรถจักรเวลาที่ไม่มากเกินไป รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายด้านเอกสาร

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงก็เป็นเรื่องยากที่จะปรับค่าโดยสารเพิ่ม เนื่องจากเป็นบริการสาธารณะจำเป็นต่อการเดินทางของประชาชน ซึ่งปัจจุบันประชาชนแบกรับภาระค่าครองชีพสูงอยู่แล้ว.-

Wisarut · Posted: 15/01/2020 3:49 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 15/01/2020 3:51 pm Post subject:

มื่อ 14 ม.ค. 63 ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 กรุงเทพ - หาดใหญ่ ดีเซล 4507ทำขบวนพ่วงยาว 12 คัน ถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์เวลา 20.23 น. ช้า 21 นาที นายสถานีประจวบคีรีขันธ์แจ้งว่า ขอตรวจสอบดีเซล ปรากฏว่า ไฟไหม้ เพลาล้อที่ 6 ห้ามล้อจับตาย จอดค่อมประแจด้านใต้ ไม่สามารถขยับได้ จึงใช้ดีเซล 4115 ของขบวน 251ช่วยลากตู้โดยสารเข้าสถานีประจวบคีรีขันธ์ ขบวน31 ออกจากสถานีประจวบคีรีขันธ์เวลา23.27 น. ล่าช้า205 นาที

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2782701171776810&set=a.1782760508437553&type=3&theater

Wisarut · Posted: 16/01/2020 10:12 am Post subject:

แห่แชร์เรื่องราวสุดประทับใจ พนักงานช่วยอุ้มคุณยายวัย 82 ลงจากรถไฟ
ข่าวสังคม
ไทยรัฐออนไลน์
16 ม.ค. 2563 12:53 น.

ชาวโซเชียลแห่แชร์เรื่องราวสุดประทับใจ หลังพนักงานรถไฟช่วยอุ้มคุณยายวัย 82 ลงจากรถไฟเดินมาถึงชานชาลา

จากกรณีชาวโซเชียลได้แชร์รูปภาพความประทับใจพนักงานรถไฟช่วยอุ้มแม่อายุ 82 ปี ลงจากขบวนรถไฟ ล่าสุด นางสาวพิมชนก ไพรสุวรรณ อายุ 41 ปี ลูกสาวคุณยายเล่งเฮียง หอมทวนลม อายุ 82 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนกับแม่ได้ขึ้นรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ 31 ทักษิณารัถย์ หาดใหญ่-กรุงเทพฯ จากสถานีรถไฟหาดใหญ่ไปงานศพที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

เปิดคลิปไทม์ไลน์ "สมคิด พุ่มพวง" ตีตั๋วขึ้นรถไฟ ก่อนถูกรวบจนมุมที่ปากช่อง
เผย รถไฟมาช้า 32 นาที "สมคิด" จนมุมที่ปากช่อง ยอมให้จับโดยละม่อม
ไขข้อข้องใจ "สมคิด พุ่มพวง" ซื้อตั๋วรถไฟ แต่ทำไมไม่ถูกตรวจบัตรประชาชน (คลิป)
เมื่อถึงสถานีบ้านโป่ง ชานชาลาของสถานีรถไฟสูงแม่ลงไม่ได้ และอยู่ที่ชานชาลาที่ 2 และบริเวณนั้นมีการก่อสร้างด้วย ซึ่งขณะนั้นตนได้ลงมาก่อน และขอให้พนักงานรถไฟช่วยพยุงแม่ลงมา แต่หันกลับไปมองอีกทีก็เห็นพนักงานคนนี้อุ้มแม่ลงมาแล้ว

จากนั้นก็พาเดินข้ามมายังชานชาลาที่ 2 ด้วย ซึ่งประทับใจมากและได้ถ่ายรูปเอาไว้ และขอชื่นชมพนักงานรถไฟที่ให้บริการเกินร้อย และเป็นต้นแบบที่ดีให้กับสังคมและการให้บริการรถไฟ และหลังจากเหตุการณ์นี้ก็ยังไม่ได้พบกับพนักงานรถไฟคนนี้

คุณยายเล่งเฮียง เล่าว่า พอรถไฟจอดแต่ลงไม่ได้เพราะรถไฟสูง พนักงานรถไฟคนนี้จึงมาช่วยอุ้มยายลงจากรถไฟ แม้ตนจะบอกว่าไม่ต้องอุ้ม เพราะกลัวล้ม แต่พนักงานคนนี้บอกว่าไม่ต้องกลัวล้ม และอุ้มไปส่งถึงชานชาลาซึ่งดีใจมาก และฝากขอบคุณทางรถไฟที่ให้บริการดีมาก

ขณะที่นายยาการียา มามุ หรือ มามุ อายุ 34 ปี ตำแหน่งลูกจ้างแทนพนักงานรถนอน ซึ่งเป็นคนที่อุ้มคุณยายลงจากรถไฟ เปิดเผยว่า วันนั้นตนและนายสุกรีย์ สะนิ คนช่วยถือสัมภาระ ได้ช่วยอุ้มคุณยายลงมาจากรถไฟ

โดยในวันที่ 13 ม.ค.63 ตนรับหน้าที่ดูแลผู้โดยสารประจำตู้ที่ 11 เมื่อขบวนรถไฟมาถึงสถานีบ้านโป่ง พบคุณยายกำลังลงรถไฟด้วยความยากลำบาก จึงตัดสินใจอุ้มคุณยายเพราะกลัวว่าจะหกล้มไปส่งบนชานชาลา จนภาพปรากฏออกไปในสื่อโซเชียล รู้สึกภูมิใจมาก ตนทำไปด้วยหน้าที่ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น เสมือนว่าได้ดูแลพ่อแม่และญาติพี่น้องของตนเอง

"ผมรู้สึกดีใจ มีความสุขที่ได้ช่วยคุณยาย ขอให้คุณยายมีสุขภาพแข็งแรง และในช่วงวันแม่ หากมีโอกาสจะติดต่อขอเข้าไปเยี่ยมและกราบขอพรครับ"

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายยาการียา แต่เดิมเป็นชาว อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนมุมานะและสู้ชีวิต จากประวัติเป็นเด็กกำพร้า เริ่มต้นทำงานเป็น รปภ.สถานีหัวลำโพง ตั้งแต่ปี 2551 และปี 2555 ก็สามารถสอบเป็นพนักงานรถไฟได้ ปัจจุบันเป็นพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ตำแหน่งพนักงานตู้นอน ทำงานทั้งรถไฟสายใต้และสายเหนือ.

รอบนี้แถมให้ชม.กว่าๆ แต่บริการดีถึงใจ อุ้มคุณยายลงรถไฟให้อีก น่าร้ากกกก
https://www.facebook.com/pimchanok.kanomthai/posts/2556109511153218?hc_location=ufi
https://www.facebook.com/pimchanok.kanomthai/posts/2558132084284294?hc_location=ufi

ทำดีต้องชื่นชมค่ะ
นั่งรถไฟจากหาดใหญ่ พาคุณแม่ไปลงที่สถานีบ้านโป่ง จ.ราชบุรี แต่พอตอนลงจากรถไฟเป็นที่ต่างระดับสูงมาก พนักงาน2ท่านนี้ได้ช่วยเหลือพยุงท่านลง สุดท้ายน้องเค้าตัดสินใจอุ้มคุณแม่ลงจากรถไฟแถมยังข้ามมาส่งถึงทางเดินอีกด้วย
🙏น่ารักมากค่ะ ขอชื่นชมจากใจจริงค่ะ
https://www.facebook.com/khaosongkhla/posts/623038545132007?hc_location=ufi
https://www.thairath.co.th/clip/389850

"ผมเป็นเด็กกำพร้า แม่เสียชีวิตตอนผมอายุแค่ 2 เดือน ต่อมาเมื่อผม 2 ขวบ ก็เสียพ่อไปอีกคน"

...................
ปิยภัทร โพธิภักดี
ผู้ดำเนินรายการ "แลบ้านแลเมือง"
สถานีวิทยุ ม.อ.หาดใหญ่ FM 88 : รายงาน
13.15 น. @ ชุมทางหาดใหญ่

.............
ยาการียา มามุ หรือ "มามุ" หนุ่มวัย 34 ปี พื้นเพดั่งเดิมจาก "เจาะไอร้อง" นราธิวาส บอกถึงชีวิตของตนเองที่ไร้พ่อขาดแม่มาตั้งแต่เยาว์วัย
"ผมอาศัยอยู่ที่ศูนย์เด็กกำพร้าฯ ที่ยะลา ตั้งแต่เรียนชั้น ป.2 กระทั่งจบ ป.6 ต่อมาจึงไปอาศัยกับผู้ใหญ่ดีใจมีเมตตาคนหนึ่ง และเข้าเรียนที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา จนจบชั้น ม.6"
แม้ชีวิตในวัยเด็กของ "มามุ" จะไม่สมบูรณ์แบบ สิ่งต่างๆ ที่เพื่อนในวัยเดียวกันมี แต่สำหรับเขาจะขาด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาย้อท้อและรู้สึกเป็นปมด้อย สิ่งนั้นเสียอีกที่ทำให้ "มามุ" มุมานะพยายาม!
...............
"หลังจากจบ ม.6 ผมก็ขึ้นกรุงเทพ ตั้งใจไปหางานทำ และงานที่ผมได้ทำครั้งแรกในชีวิตคือ เป็น รปภ.สถานีหัวลำโพง ตั้งแต่ปี 2551 "
"มามุ" ใช้เวลาที่เข้าทำหน้าที่ รปภ. มั่นศึกษาหาความรู้ กระทั่งปี 2555 การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดรับสมัครสอบเข้าเป็นพนักงานการรถไฟฯ และแน่นอนเขาไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้ผ่านไป
"ตอนนั้นพอการรถไฟฯ เปิดรับพนักงาน ผมสมัครทันที และผมสอบเข้าได้ ดีใจมากที่ตนเองทำได้"
.............
ปัจจุบัน "มามุ" เป็นพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ในตำแหน่งหน้าที่ "พนักงานตู้นอน" ประจำหลายขบวนรถ อาทิ ขบวนหาดใหญ่-กรุงเทพฯ , กรุงเทพฯ - ยะลา และบางครั้งก็สลับไปประจำอยู่บนขบวนสายเหนือ
"ผมรักในอาชีพนี้ พวกเรามีความตั้งใจว่าจะต้องบริการผู้โดยสารให้ดีที่สุด ทำงานให้เต็มความสามารถ ได้เห็นผู้โดยสารมีความสุขที่ได้เดินทางด้วยรถไฟ แค่นี้ผมก็มีความสุข"
.............
หลายวันมานี้ หนุ่ม รฟท.คนนี้ ได้รับการกล่าวถึงและเป็นที่ถูกใจ ชื่นชมกันอย่างกว้างขวางในโซเชียล เมื่อปรากฏภาพ "อุ้มหญิงชรา" ลงจากขบวนรถไฟสายหาดใหญ่ - กรุงเทพฯ และคุณพิมชนกฯ ( Pimchanok Praisuwan) บุตรสาวของหญิงวัยชราได้บันทึกภาพและโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค
..............
"วันนั้นยายพร้อมกับลูก ขึ้นมาในขบวนที่ผมประจำหน้าที่อยู่ ออกจากหาดใหญ่ กระทั่งรถไปถึงสถานีบ้านโป่ง ราชบุรี ทั้งสองคนจึงลง ตอนนั้นผมเดินอยู่ด้านหลังยายกับลูกสาว ในใจนึกอยู่แล้วว่าเดี๋ยวจะต้องอุ้มคุณยายลงจากรถ เพราะรถอยู่สูงกว่าพื้นด้านล่างเยอะ ยายคงลำบาก"
จากบันไดรถไฟสู่ชานชลา เขาอุ้มหญิงชรามาส่งโดยสวัสดิภาพ ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของสองแม่ลูก ที่ได้รับการช่วยเหลือ และแม้กระทั่งหนุ่ม รฟท.ผู้มีน้ำใจคนนี้ เขาเองก็ปลื้มใจ ดีใจไม่แพ้กัน!
"ทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผมนึกเสมอว่าผมได้ช่วยพ่อแม่ผม การได้อุ้มตา ยาย ลงจากขบวนรถ เหมือนผมได้อุ้มพ่อ แม่ของผมเอง ผมมีความสุขมากครับ"
.............
ภาพที่ปรากฏต่อสังคม นั่นแค่ที่เราเห็น! "มามุ" บอกว่า ตนอุ้มคนชรา คนป่วย ลงจากรถไฟมาแล้วหลายคน น่าจะมากกว่าสิบ มันเป็นความตั้งใจของเขาทุกครั้งที่มีผู้สูงอายุ อีกทั้งสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงขึ้นมาบนขบวนรถ หนุ่มคนนี้จะต้องอุ้มท่านส่งท่านลงสถานีปลายทางอย่างปลอดภัย!
"แลบ้านแลเมือง" ขอเชิดชูคนดี ให้คนทำดีได้ภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำครับ!

..............................................
ขอบคุณ : Pimchanok Praisuwan คนต้นเรื่อง
ปล : เรียน "การรถไฟแห่งประเทศไทย" ด้วยครับ!

Wisarut · Posted: 16/01/2020 12:41 pm Post subject:

สาส์นจากผู้กำกับ...
15 มกราคม พ.ศ. 2563
แรกที่ประเทศไทยรู้จักรถไฟ มันคือสัญลักษณ์ของความเป็นสมัยใหม่ กระนั้นนับจากยุคอาณานิคมเป็นต้นมา รถไฟไทยได้พัฒนาไปอย่างเชื่องช้าในมุมมองของหลายๆคน ราวกับเสมือนเป็นยานพาหนะที่ถูกแช่แข็งไว้กับกาลเวลา
.
สำหรับผม รถไฟเป็นหนึ่งในรูปแบบการเดินทางที่ผมชอบมันเป็นภาพจำลองของชีวิต เป็นที่ที่คนแปลกหน้ามาพบเจอกัน เส้นทางของเรามาซ้อนทับกันเมื่อเรามุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันแต่ต่างจุดหมาย
.
นอกจากนั้น รถไฟยังมีความเกี่ยวพันแนบแน่นกับประวัติศาสตร์ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาของประเทศ และ “หมอนรถไฟ” คือหนังที่เชื้อเชิญผู้ชมให้มาร่วมเดินทางบนเส้นทางแห่งทั้งความเป็นสมัยใหม่และการหวนรำลึกอดีตนี้ไปด้วยกัน
.
🎥 ฉายวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2563 เวลา 13.00-16.00 น.
ห้องมัลติมีเดีย ชั้น 2 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
.
📝 สามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ https://activity.sac.or.th/anthrofilm/
.
👥 จำนวนจำกัด 80 ท่าน เท่านั้นนะคะ
.
☎️ สอบถามเพิ่มเติม 0-2880-9429

Railway Sleepers (หมอนรถไฟ)
SAC - Bank of Anthropological Data
10 มกราคม พ.ศ. 2563 at 2:09 PM ·

Railway Sleepers (หมอนรถไฟ) สารคดีไทยที่ใช้เวลาในการถ่ายทำยาวนานถึง 8 ปีบนรถไฟไทยตลอดทั้งเรื่อง บันทึกภาพชีวิตประจำวันของผู้โดยสาร พนักงาน และวิวทิวทัศน์ตามเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ โดยพาผู้ชมเดินทางคล้อยผ่านเวลา 2 วัน 2 คืน พร้อมกับทบทวนประวัติศาสตร์รถไฟไทย นำเสนอภาพซ้อนทับเชื่อมโยงกับสังคมในปัจจุบันได้อย่างน่าประหลาด ผ่านการจับจ้องถึงสังคมภายในรถไฟ สถานที่ที่มีมนต์ขลังบางอย่าง...
.
🎥 ฉายวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2563 เวลา 13.00-16.00 น.
ห้องมัลติมีเดีย ชั้น 2 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
.
📝 สามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ https://activity.sac.or.th/anthrofilm/
.
👥 จำนวนจำกัด 80 ท่าน เท่านั้นนะคะ
.
☎️ สอบถามเพิ่มเติม 0-2880-9429