RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311913
ทั่วไป:13578341
ทั้งหมด:13890254
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 359, 360, 361 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 24/02/2020 12:26 pm    Post subject: Reply with quote

เงินหมุนศก.มาแน่เมษาฯ 3.5แสนล้าน
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563

คลังเตรียมพร้อมจ่ายเงินลงระบบทันที 3.5 แสนล้านเมษายนนี้ หลังพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 มีผลบังคับใช้ พร้อมกำชับเร่งเบิกจ่ายงบให้ได้ 80% ของงบรายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาท แม้มีเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น

ปัญหาความล่าช้าของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในปี 2563 ทำให้มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมโดยให้ส่วนราชการที่ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณแล้ว ดำเนินการในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างไว้พร้อมเพื่อให้สามารถ ยื่นขอเบิกเงินงบประมาณได้ทันทีที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีผลบังคับใช้ซึ่งล่าสุดคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนเมษายนนี้


เร่งทางคู่-สายสีแดงขณะระบบรางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางหลังผ่านความเห็นชอบจาก
คณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ ทางคู่สายใหม่ เวนคืนทั้งเส้นทาง ได้แก่ ทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. มีสิ่งปลูกสร้างได้รับผลกระทบ 1,200 หลังคาเรือน ที่ดิน 9,600 ไร่, ทางคู่บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม 355 กม. เวนคืนสิ่งปลูกสร้าง 930 หลังคาเรือน ที่ดิน 7,100 แปลง เช่นเดียวกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงสายใหม่ ที่ต้องเปิดประมูลหาผู้รับจ้าง 4 เส้นทางนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ระบุว่า โครงการที่รับผิดชอบเร่งนำออกประมูลภายในกลางปีนี้คือ รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก(ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์) แต่การเวนคืนตลอดเส้นทาง รัฐเป็นฝ่ายดำเนินการสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ก็เช่นเดียวกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 24/02/2020 3:05 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Wisarut wrote:
Wisarut wrote:
CP-BTS ชิงสัมปทานรอบใหม่ ประมูลเดินรถสินค้า แหลมฉบัง-หนองคาย
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 - 09:05 น.

ต้นปี’64 รถไฟฯ เล็งเปิดประมูลเอกชนร่วมทุนเดินรถไฟขนสินค้า เส้น ‘หนองคาย-แหลมฉบัง’ 3 หมื่นล้าน
เศรษฐกิจ
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 - 21:34 น.
ประมูลปีหน้ารถไฟหนองคาย-แหลมฉบัง
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - EEC
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563



ร.ฟ.ท.จ่อนำร่องเปิดเอกชนร่วมขนส่งสินค้า “หนองคาย-แหลมฉบัง” มูลค่า 3 หมื่นล้าน


/
รฟท.ดึงเอกชนเดินรถ ‘แหลมฉบัง-หนองคาย’ประมูลปี’64
โลกธุรกิจ
วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 06.00 น.

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการเดินรถสินค้า เส้นทางแหลมฉบัง-หนองคาย ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครับและเอกชน พ.ศ.2562 ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมการขนส่งทางราง(ขร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแนวทางที่เหมาะสม



โดยโครงการดังกล่าวมีหลักการคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เป็นผู้จัดสรรตารางเดินรถเส้นทางแหลมฉบัง-หนองคาย ที่ไม่ได้ใช้งานและไม่มีการซ่อมบำรุง ให้เอกชนเข้ามารับจ้างเดินรถขนส่งสินค้า เพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าในระบบรางและเพิ่มการใช้รางให้เต็มประสิทธิภาพ ในเบื้องต้นเอกชนต้องลงทุนประมาณ 26,000-30,000 ล้านบาท คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ มั่นใจว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 2564


นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ทาง ร.ฟ.ท. ไปดำเนินการศึกษาการทำเนินชะลอความเร็วบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ที่มีปริมาณจราจร 500 คันต่อวัน ตามคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมจัดทำมาตรการความปลอดภัยทางถนน โดยได้สั่งการ การรถไฟฯให้ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมทางหลวง(ทล.) กรมทางหลวงชนบท(ทช.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เพื่อร่วมกันพิจารณาจุดบริเวณที่จะดำเนินการก่อสร้างพร้อมกับงบประมาณในการดำเนินการ และเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้งเพื่อจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสม ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการภายในปีนี้

นอกจากนี้ได้ให้ทางการรถไฟฯ เร่งสำรวจอุปกรณ์ป้องกันและสัญญาณเตือน เครื่องกั้น ให้อยู่ในสภาพ พร้อมใช้งาน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่ต้องสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวด้วย

มีรายงานจาก กรมทางหลวง แจ้งว่า ในส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร ขณะนี้งานโยธาก่อสร้างในภาพรวมคืบหน้าประมาณ 95% เปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2563
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 25/02/2020 10:20 am    Post subject: Reply with quote

อียูแนะไทยรับมือโครงข่ายรถไฟ CLMV
วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563,

อียู แนะไทยเตรียมพร้อมรับมือปัญหาโครงข่ายรถไฟใน CLMV หลังยุโรปพบปัญหาเชื่อมโยงคลื่นความถี่ระหว่างกัน เร่งจัดสัมมนา มิ.ย.นี้ หวังศึกษารายละเอียดเพิ่ม

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟในภูมิภาค CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และประเทศจีน ร่วมกับนายคาเรน วิงก์ ผู้ประสานงานโครงข่ายคมนาคมยุโรป สหภาพยุโรป (EU) ว่า ได้แนะนำการเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะ CLMV อีก 20 ปี ข้างหน้า เนื่องจากในภูมิภาคอาเซียนการใช้คลื่นความถี่ในการควบคุมระบบรถที่แตกต่างกัน ซึ่งเกรงว่าอาจจะซ้ำรอยกับทางยุโรปที่เกิดปัญหาการใช้ความถี่ในการควบคุมเดินรถ

“สำหรับการเดินรถไฟในไทย จะใช้ระบบอาณัติสัญญาณสายเคเบิล ยังไม่ได้ใช้คลื่นความถี่ แต่ในอนาคตเมื่อมีการเดินรถที่ใช้ความถี่มากขึ้น ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้คลื่นความถี่แทน ดังนั้นจึงต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน คาดว่าช่วงเดือน มิ.ย.63 ทางอียู จะจัดสัมมนาเรื่องการใช้คลื่นความถี่ควบคุมการเดินรถไฟให้กับประเทศในกลุ่มอาเซียน เบื้องต้นจะจัดที่ไทย ซึ่งในการประชุมนอกจากจะแนะนำและแลกเปลี่ยนความรู้แล้ว จะมีการตรวจสอบกันด้วยว่าแต่ละประเทศใช้คลื่นความถี่ตัวใดบ้าง เท่าที่ทราบปัจจุบันแต่ละประเทศไม่ได้ใช้คลื่นความถี่เดียวกันเลย” นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า การเตรียมพร้อมของไทยนั้นเพื่อรองรับการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) และรถไฟทางคู่ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าในการเปิดให้บริการรถไฟต้องเดินรถถี่มากขึ้น นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนเปิดเดินรถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายเส้นทาง ดังนั้นการเตรียมพร้อมไว้ก่อน และตกลงกันในกลุ่มอาเซียนว่าในอนาคตจะใช้คลื่นความถี่ใด ก็จะทำให้รถไฟสามารถเดินรถเชื่อมโยงเข้าแต่ละประเทศได้แบบไม่มีปัญหา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 26/02/2020 3:50 pm    Post subject: Reply with quote


การบูรณะรถดีเซลราง RHN ที่ใช้มาแต่ปี 2514
https://www.youtube.com/watch?v=IkJs2ph0BCQ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 26/02/2020 7:08 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟป่วนหนักหลังเปิดรับสมัครพนง.ไม่เป็นธรรม
วันพุธ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 14.32 น.






รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่าขณะนี้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของการรถไฟฯ ได้ออกประกาศเร่งด่วน โดยได้มีการเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟฯ ที่รับการจ้างงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี เพื่อเข้าทำงานในการรถไฟฯ จำนวน 973 อัตรา ซึ่งส่งผลให้เกิดความวุ่นวายภายในองค์กรการรถไฟฯ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างความไม่เป็นธรรมแก่พนักงานการรถไฟฯ จำนวนหลายพันคน อีกทั้งยังส่งกระทบต่อการปฏิบัติงาน สำหรับประเด็นที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมในการประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกลูกจ้างครั้งนี้มีหลายด้าน ประกอบด้วย 1. มีการเปิดรับตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับสภาพงานที่ขาดแคลน 2. มีการกำหนดคุณสมบัติเปิดให้สุภาพสตรีเข้ามาสมัครสอบโดยระบุคุณสมบัติไม่จำกัดเพศเพียง 4 อัตราเท่านั้น 3.การกำหนดเปิดรับลูกจ้างให้เป็นนายสถานี ซึ่งมีความไม่เหมาะสมเนื่องจากต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำงานเพราะเกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ และ4.การรับสมัครได้ส่งผลกระทบต่อสายบังคับบัญชางานในปัจจุบัน เนื่องจากประกาศดังกล่าวได้เปิดช่องให้ลูกจ้างเข้ามาสมัครเป็นพนักงานระดับสูงถึงระดับ 5 ระดับ 6 ได้ ซึ่งสร้างความไม่เป็นธรรมแก่พนักงานรถไฟฯ ในปัจจุบันที่อยู่ระดับต่ำกว่าเช่น ระดับ 2 ระดับ 3 ระดับ 4 และระดับ 5 ที่ไม่มีโอกาสสอบเลื่อนลำดับขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ในระดับสูงได้ ทั้งที่พนักงานหลายคนได้ไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวสอบเลื่อนระดับ ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคต หากลูกจ้างการรถไฟฯ สมัครสอบเพื่อก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นหัวหน้าพนักงานการรถไฟฯ ได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นหัวหน้าของพนักงานปัจจุบันได้ทันที ทั้งที่ตามหลักสากลควรให้มีการเริ่มต้นไต่เต้าจากตำแหน่งระดับล่างสู่ระดับบน

“ที่ผ่านมาพนักงานการรถไฟฯ ระดับ 2 ระดับ 3 ระดับ 4 และระดับ 5 พยายามสอบถามไปยังฝ่ายทรัพยากรบุคคลถึงการสอบเลื่อนลำดับจำนวนมาก แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมาโดยอ้างว่าประกาศครั้งนี้ให้เฉพาะลูกจ้างสอบเท่านั้น ทั้งที่จริงตามหลักที่ถูกต้องและเป็นธรรม การรถไฟฯ ควรมีการเปิดสอบเลื่อนลำดับพนักงานภายในองค์กรเพื่อให้โอกาสความก้าวหน้าทางหน้าที่ทางการงานแก่พนักงานภายในองค์กรก่อน จากนั้นจึงจะเปิดสอบรับลูกจ้าง และบุคคลภายนอกเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ขาดแคลนตามลำดับ โดยพนักงานบางส่วนจะเข้าไปยื่นเรื่องแก่ศาลปกครองเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงความจริงใจในการออกประกาศรับสมัครคัดเลือกลูกจ้างในครั้งนี้ เนื่องจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้อ้างมติที่ประชุมของฝ่ายบริหารการรถไฟฯ ว่า การเปิดรับตำแหน่งในระดับสูงก็เพื่อที่จะได้กำหนดข้อสอบ และคะแนนในระดับสูง ซึ่งหากลูกจ้างชั่วคราวที่มาสอบในครั้งนี้มีคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ในระดับสูงที่กำหนดไว้ ก็จะต้องไปสอบกับบุคคลภายนอกแทน ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารในปัจจุบันไม่ได้ตั้งใจที่จะรับลูกจ้างให้เป็นพนักงานประจำอยู่แล้ว การออกประกาศรับสมัครลูกจ้างครั้งนี้ แม้จะทำตามมติ ครม.และคณะกรรมการการรถไฟฯ ที่อนุมัติให้การรถไฟฯ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ได้ 1,330 อัตรา แต่ยังมีข้อที่หน้าสังเกตเพิ่มเติมว่า เนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ สามารถสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งได้แล้ว และอยู่ระหว่างการแต่งตั้งให้มารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารระดับสูงของการรถไฟฯ ในปัจจุบัน ได้อ้างนโยบายจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จึงสั่งการให้มีการออกประกาศรับสมัครออกมาอย่างเร่งด่วน ทั้งที่ควรรอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่ในการพิจารณามากกว่า อย่างไรก็ตาม พนักงานการรถไฟฯ เห็นว่า ผู้บริหารการรถไฟฯ ชุดปัจจุบันควรทบทวน และชะลอการออกประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกครั้งนี้ ซึ่งจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่4 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2563 ออกไปก่อน เพื่อรอจนกว่าผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง และพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสมอีกครั้ง”
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2870989576281302
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 27/02/2020 10:30 am    Post subject: Reply with quote

เผือกร้อน รฟท.รอผู้ว่าคนใหม่
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
พฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา . 09:47 น.

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังประชุมคณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์การออกใบ อนุญาตขับรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ว่า ที่ประชุมได้ กำหนดหลักเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับเพื่อรองรับการเติบโตของระบบขนส่งมวลชนทางราง เพราะขณะนี้การพัฒนาประเทศได้มีการลงทุนขยายโครงการก่อสร้างรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง เพิ่มขึ้น จึงต้องมีบุคลากรด้านการบังคับรถไฟในทุกประเภทเพิ่มขึ้น ล่าสุดได้จัดทำระเบียบ หลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับขี่รถไฟ ฯลฯ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. ...ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2564 โดยหลักเกณฑ์ใบอนุญาตขับขี่รถไฟจะมี 5+1 ประเภท อาทิ ใบอนุญาตขับรถจักรไอน้ำ, ใบอนุญาตขับรถไฟไฟฟ้า


ผู้สื่อข่าวรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ขณะนี้ได้เกิดความวุ่นวายภายใน รฟท. หลังจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้ออกประกาศเร่งด่วน เรื่องรับสมัครสอบคัดเลือกลูกจ้างเฉพาะงานของ รฟท.ที่รับการจ้างงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี เพื่อเข้าทำงาน จำนวน 973 อัตรา ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าสร้างความไม่เป็นธรรมแก่พนักงาน รฟท.หลายพันคน และส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน บั่นทอนกำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานในปัจจุบัน

สำหรับประเด็นที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรม ในการประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกลูกจ้าง มีอาทิ มีการเปิดรับตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับสภาพงานที่ขาดแคลน, การเปิดรับลูกจ้างให้เป็นนายสถานีที่มีความไม่เหมาะสมเนื่องจากต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำงานเพราะเกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ

ที่สำคัญได้ส่งผลกระทบต่อสายบังคับบัญชางานในปัจจุบัน เนื่องจากประกาศดังกล่าวเปิดช่องให้ลูกจ้างเข้ามาสมัครเป็นพนักงานระดับสูงถึงระดับ 5 ระดับ 6 ได้ สร้างความไม่เป็นธรรมแก่พนักงานในปัจจุบันที่อยู่ระดับต่ำกว่าเช่น ระดับ 2 ระดับ 3 ระดับ 4 และระดับ 5 ที่ไม่มีโอกาสสอบเลื่อนลำดับขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ในระดับสูงได้ และยังมีข้อที่น่าสังเกต

เพิ่มเติมว่า เนื่องจากปัจจุบัน รฟท.สามารถสรรหาผู้ว่าการ รฟท. คนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งได้แล้ว อยู่ระหว่างการแต่งตั้งให้มารับตำแหน่ง แต่ผู้บริหารระดับสูงของ รฟท.ได้อ้างว่าเป็นนโยบายจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จึงมีการออกประกาศรับสมัครอย่างเร่งด่วน ทั้งที่ควรรอให้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 27/02/2020 2:48 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รถไฟป่วนหนักหลังเปิดรับสมัครพนง.ไม่เป็นธรรม
วันพุธ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 14.32 น.
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2870989576281302


รถไฟฯวุ่นหนักสรรหาพนักงานใหม่ไม่เป็นธรรม แนะรอผู้ว่าฯคนใหม่ฟันธง

สยามรัฐออนไลน์
วันพุธ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 15:59 น.

แหล่งข่าวระดับสูงการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเกิดปัญหาความวุ่นวายในการรถไฟฯ หลังจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลของการรถไฟฯ ได้ออกประกาศเร่งด่วน เรื่องรับสมัครสอบคัดเลือกลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ รับการจ้างงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี เพื่อเข้าทำงานในการรถไฟฯ จำนวน 973 อัตรา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างความไม่เป็นธรรมแก่พนักงานการรถไฟฯ จำนวนหลายพันคน อีกทั้งยังส่งกระทบต่อการปฏิบัติงาน และทำให้เสียขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานการรถไฟฯ ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก



ทั้งนี้ประเด็นที่ไม่เป็นธรรมในการประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกลูกจ้างครั้งมีหลายด้าน อาทิ การเปิดรับตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับสภาพงานที่ขาดแคลน ,การกำหนดคุณสมบัติเปิดให้สุภาพสตรีเข้ามาสมัครสอบโดยระบุคุณสมบัติไม่จำกัดเพศเพียง 4 อัตราเท่านั้น ,การกำหนดเปิดรับลูกจ้างให้เป็นนายสถานี ซึ่งมีความไม่เหมาะสมเนื่องจากต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำงานเพราะเกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ และที่สำคัญการรับสมัครได้ส่งผลกระทบต่อสายบังคับบัญชางานในปัจจุบัน เนื่องจากประกาศดังกล่าวได้เปิดช่องให้ลูกจ้างเข้ามาสมัครเป็นพนักงานระดับสูงถึงระดับ 5 ระดับ 6 ได้ สร้างความไม่เป็นธรรมแก่พนักงานรถไฟฯ ในปัจจุบันที่อยู่ระดับต่ำกว่าเช่น ระดับ 2 ระดับ 3 ระดับ 4 และระดับ 5 ที่ไม่มีโอกาสสอบเลื่อนลำดับขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ในระดับสูงได้ ทั้งที่พนักงานหลายคนได้ไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวสอบเลื่อนระดับ ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคต หากลูกจ้างการรถไฟฯ สมัครสอบเพื่อก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นหัวหน้าพนักงานการรถไฟฯ ได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นหัวหน้าของพนักงานปัจจุบันได้ทันที ทั้งที่ตามหลักการแล้วควรให้มีการเริ่มต้นจากตำแหน่งระดับล่างสู่ระดับบน โดยพนักงานบางส่วนจะเข้าไปยื่นเรื่องแก่ศาลปกครองเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว



"การออกประกาศรับสมัครลูกจ้างครั้งนี้ แม้จะทำตามมติ ครม.และคณะกรรมการการรถไฟฯ ที่อนุมัติให้การรถไฟฯ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ได้ 1,330 อัตรา แต่ยังมีข้อที่หน้าสังเกตเพิ่มเติมว่า เนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ สามารถสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งได้แล้ว และอยู่ระหว่างการแต่งตั้งให้มารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ผู้บริหารระดับสูงของการรถไฟฯ ในปัจจุบัน ได้อ้างนโยบายจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จึงสั่งการให้มีการออกประกาศรับสมัครออกมาอย่างเร่งด่วน ทั้งที่ควรรอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่ในการพิจารณามากกว่า"
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 27/02/2020 6:04 pm    Post subject: Reply with quote

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่า มีผู้ได้รับการวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) แล้วเป็นจำนวนมากและโรคดังกล่าวยังได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลก

การรถไฟฯ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญต่อสุขภาพความปลอดภัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานทุกคน โดยเฉพาะพนักงานบนขบวนรถ สถานี ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การรถไฟฯ จึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานการรถไฟฯ ดังนี้

1.ไม่อนุมัติ หรืออนุญาตให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ลาเพื่อเดินทางไปยัง/หรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 11 แห่ง ดังนี้

ประเทศเกาหลีใต้
ประเทศจีน
เขตบริหารพิเศษมาเก๊า
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
ประเทศญี่ปุ่น
ไต้หวัน
ประเทศมาเลเซีย
ประเทศเวียดนาม
ประเทศสิงคโปร์
ประเทศอิตาลี
ประเทศอิหร่าน
ทั้งนี้ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

2.พนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากการรถไฟฯ แล้ว ขอให้ทบทวนความจำเป็นของการเดินทาง และแนะนำให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

3.กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางได้ ให้ขออนุมัติผู้ว่าการรถไฟฯ เป็นกรณี ๆ ไป

4.กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ เดินทางไปยังประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามข้อ 1 และ/หรือ ตามประกาศเพิ่มเติมของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

4.1 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ รายงานตัวทางโทรศัพท์ต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป 1 ระดับ เพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานต่อการรถไฟฯ

4.2 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ หยุดงานเป็นเวลา 14 วัน โดยใช้วันลาของตนเอง เพื่อเฝ้าระวังอาการป่วย และให้รายงานอาการต่อผู้บังคับบัญชาทุกวันในช่วงเวลาดังกล่าว

4.3 กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามข้อ 1 โดยคำสั่งของการรถไฟฯ ให้ไปปฏิบัติราชการ ให้สามารถทำงานที่บ้าน (Work at home) จนครบ 14 วัน

4.4 กรณีพนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับ มีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หายใจเร็ว หายใจลำบาก ต้องเข้ารับการตรวจตามแนวทางการดูแลผู้ป่วย หรือผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19

5.การรถไฟฯ ขอให้พนักงานและลูกจ้างของการรถไฟฯ ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด และให้ถือว่าเป็นนโยบาย ข้อสั่งการ เร่งด่วนสำคัญ

“การรถไฟฯ ได้เน้นย้ำกำชับให้บุคลากรของการรถไฟฯ ทุกระดับ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ รวมถึงได้แนะนำให้พนักงานดูแลสุขอนามัยด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลหน้ามืออย่างถูกต้อง เพื่อตระหนักถึงความปลอดภัยต่อตนเองและส่วนรวม” นายวรวุฒิกล่าว
https://www.thebangkokinsight.com/298966/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 28/02/2020 10:53 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่า มีผู้ได้รับการวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) แล้วเป็นจำนวนมากและโรคดังกล่าวยังได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลก

https://www.thebangkokinsight.com/298966/


ร.ฟ.ท.ออกประกาศ ห้ามพนักงานไปประเทศเสี่ยงไวรัส COVID-19
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 - 00:02
ปรับปรุง: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 - 09:34




นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่ามีผู้ได้รับการวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้วเป็นจำนวนมาก และโรคดังกล่าวยังได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลก การรถไฟฯ ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญต่อสุขภาพความปลอดภัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานทุกคน โดยเฉพาะพนักงานบนขบวนรถ สถานี ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 การรถไฟฯ จึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานการรถไฟฯ ดังนี้

1. ไม่อนุมัติ หรืออนุญาตให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ลาเพื่อเดินทางไปยัง หรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้

(1) สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
(2) สาธารณรัฐประชาชนจีน
(3) เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(4) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(5) ประเทศญี่ปุ่น
(6) ประเทศไต้หวัน
(7) ประเทศมาเลเซีย
(8) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
(9) สาธารณรัฐสิงคโปร์
(10) สาธารณรัฐอิตาลี
(11) สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

ทั้งนี้ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

2. พนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากการรถไฟฯ แล้ว ขอให้ทบทวนความจำเป็นของการเดินทาง และแนะนำให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

3. กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางได้ ให้ขออนุมัติผู้ว่าการรถไฟฯ เป็นกรณีๆ ไป

4. กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ เดินทางไปยังประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามข้อ 1 และ/หรือ ตามประกาศเพิ่มเติมของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

4.1 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ รายงานตัวทางโทรศัพท์ต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป
1 ระดับ เพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานต่อการรถไฟฯ
4.2 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ หยุดงานเป็นเวลา 14 วัน โดยใช้วันลาของตนเอง เพื่อเฝ้าระวังอาการป่วย และให้รายงานอาการต่อผู้บังคับบัญชาทุกวันในช่วงเวลาดังกล่าว
4.3 กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามข้อ 1 โดยคำสั่งของการรถไฟฯ ให้ไปปฏิบัติราชการ ให้สามารถทำงานที่บ้าน (Work at home) จนครบ 14 วัน
4.4 กรณีพนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หายใจเร็ว หายใจลำบาก) ต้องเข้ารับการตรวจ ตามแนวทางการดูแลผู้ป่วย หรือผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
5. การรถไฟฯ ขอให้พนักงานและลูกจ้างของการรถไฟฯ ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด และให้ถือว่าเป็นนโยบาย ข้อสั่งการเร่งด่วนสำคัญ

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ได้เน้นย้ำกำชับให้บุคลากรของการรถไฟฯ ทุกระดับ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ รวมถึงได้แนะนำให้พนักงานดูแลสุขอนามัยด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมืออย่างถูกต้อง เพื่อตระหนักถึงความปลอดภัยต่อตนเองและส่วนรวม


การรถไฟฯ ประกาศห้ามพนักงานไปประเทศเสี่ยงไวรัสโควิด -19
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 - 16:36 น.

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่า มีผู้ได้รับการวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แล้ว เป็นจำนวนมาก และโรคดังกล่าวยังได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญต่อสุขภาพความปลอดภัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานทุกคน โดยเฉพาะพนักงานบนขบวนรถ สถานี ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 การรถไฟฯ จึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานการรถไฟฯ ดังนี้

1.ไม่อนุมัติ หรืออนุญาตให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ลาเพื่อเดินทางไปยัง หรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้


(1) สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
(2) สาธารณรัฐประชาชนจีน
(3) เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(4) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(5) ประเทศญี่ปุ่น(11) สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
(6) ประเทศไต้หวัน
(7) ประเทศมาเลเซีย
(8) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
(9) สาธารณรัฐสิงคโปร์
(10) สาธารณรัฐอิตาลี

ทั้งนี้ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

2. พนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ ทีได้รับการอนุมัติจากการรถไฟฯ แล้ว ขอให้ทบทวนความจำเป็นของการเดินทาง และแนะนำให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

3. กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางได้ ให้ขออนุมัติผู้ว่าการรถไฟฯ เป็นกรณี ๆ ไป

4. กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ เดินทางไปยังประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามข้อ 1 และ/หรือ ตามประกาศเพิ่มเติมของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

4.1 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ รายงานตัวทางโทรศัพท์ต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป 1 ระดับ เพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานต่อการรถไฟฯ

4.2 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ หยุดงานเป็นเวลา 14 วัน โดยใช้วันลาของตนเอง เพื่อเฝ้าระวังอาการป่วย และให้รายงานอาการต่อผู้บังคับบัญชาทุกวันในช่วงเวลาดังกล่าว

4.3 กรณีพนักงานหรือลูกจ้างของการรถไฟฯ ที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามข้อ 1 โดยคำสั่งของการรถไฟฯ ให้ไปปฏิบัติราชการ ให้สามารถทำงานที่บ้าน (Work at home) จนครบ 14 วัน

4.4 กรณีพนักงานหรือลูกจ้างการรถไฟฯ มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หายใจเร็ว หายใจลำบาก) ต้องเข้ารับการตรวจตามแนวทางการดูแลผู้ป่วย หรือผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

5. การรถไฟฯ ขอให้พนักงานและลูกจ้างของการรถไฟฯ ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด และให้ถือว่าเป็นนโยบาย ข้อสั่งการ เร่งด่วนสำคัญ

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ได้เน้นย้ำกำชับให้บุคลากรของการรถไฟฯ ทุกระดับ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ รวมถึงได้แนะนำให้พนักงานดูแลสุขอนามัยด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลหน้ามืออย่างถูกต้อง เพื่อตระหนักถึงความปลอดภัยต่อตนเองและส่วนรวม
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43723
Location: NECTEC

PostPosted: 02/03/2020 10:12 am    Post subject: Reply with quote

คนการรถไฟแห่งประเทศไทยฉาวกาม จะปล้ำเมียตำรวจ หลับอยู่-ตู้นอน
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
จันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563 เวลา 05:22 น.



ฉาวอีกพนักงานห้ามล้อ รฟท.ปลุกปล้ำ เมียตำรวจบนตู้นอน หลังเดินทางมากับลูกสาววัย 12ปี นอนอยู่เตียงเดียวกัน อ้างนอนด้วยกันไม่ได้ทำใจดีอาสาพาไปนอนอีกตู้ ฉวยจังหวะเหยื่อสาวกำลังเคลิ้มหลับใช้ผ้าห่มคลุมกอดปล้ำหมายขืนใจ เหยื่อดิ้นหลุดวิ่งหนีกลับไปหาลูกสาว ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือจนตำรวจรถไฟเข้ามาดูแลล็อกตัวหนุ่มหื่นไว้ ประสานตำรวจท้องที่รับตัวไปดำเนินคดีฐานกระทำอนาจาร แต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างแค่นำผ้าห่มไปให้ ขณะที่เหยื่อสาวยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด หากพนักงานทำอย่างนี้เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารหญิง หากถูกข่มขืนจะชดใช้ได้หรือไม่


พนักงานห้าม รฟท.หื่นปลุกปล้ำเมียตำรวจบนรถไฟรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่สถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีพนักงานรถไฟปลุกปล้ำผู้โดยสารกำลังถูกควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี พบ น.ส.เก้ากภา เกื้อสังข์ อายุ 50 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมพ่อแม่กำลังรอผู้เสียหายที่เป็นน้องสาว ทราบชื่อนางภมรวรรณ เกื้อสังข์ อายุ 28 ปี อยู่กับสามีเป็นตำรวจ สน.ธรรมศาลา กรุงเทพฯ แจ้งว่าน้องสาวเดินทางมากับลูกสาวอายุ 12 ขวบ ด้วยรถด่วนขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช หมายเลข 85 เพื่อมาเยี่ยมพ่อแม่ ระหว่างทางถูกพนักงานบนขบวนรถปลุกปล้ำ จึงมารอรับเพื่อพาไปแจ้งความดำเนินคดี

"กองทัพบก” เยียวยาเหตุกราดยิง ยินดีรับผู้เสียหายเข้าทหารโดยไม่มีข้อแม้
ศาลแพ่งสั่ง "เซปิงและพวก" ชดใช้ผู้เสียหายศัลยกรรมแล้วมีแผลเป็นใต้คาง
การรถไฟเร่งกู้ซากขบวนรถชนกันที่สถานีปากท่อ คาดพรุ่งนี้เดินรถได้ 100%
กระทั่งรถขบวนดังกล่าวเข้าเทียบชานชาลา ญาติๆเข้าไปรับนางภมรวรรณกับลูกสาว สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย ขณะที่คนร้ายทราบชื่อนายณัฐนันท์ วีระสมเกียรติ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/671 หมู่ 13 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นพนักงานห้ามล้อและตรวจตั๋ว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถูก ร.ต.อ.กรัณย์พล สีหะสิงห์ ตำรวจรถไฟประจำขบวนรถกับพวก คุมตัวลงทางด้านหน้าขบวนรถนำไปควบคุมตัวที่สถานีตำรวจรถไฟทุ่งสง

นางภมรวรรณ ผู้เสียหายสาว เปิดเผยว่า ตนกับลูกสาวไปขึ้นรถไฟสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ อ.ทุ่งสง โดยซื้อตั๋วรวมอยู่ตู้นอนที่ 10 ที่นั่งเบอร์ 17 และได้นอนอยู่เตียงเดียวกับลูกสาว ระหว่างนั้นนายณัฐนันท์มาตรวจตั๋วแจ้งว่านอนได้เตียงละ 1 คนเท่านั้น พร้อมอาสาจะช่วยหาที่นอนให้ หลังจากครู่หนึ่งก็ย้อนกลับมาแจ้งว่าได้ที่นอนแล้วพาไปอีกตู้หนึ่งอยู่ถัดไป 3 ตู้ และจัดเครื่องนอนให้เรียบร้อย ตนไม่คิดระแวงเพราะไม่มีอะไรผิดปกติ

สาวผู้เสียหายกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นพักใหญ่ ตนเริ่มเคลิ้มหลับ นายณัฐนันท์ย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ใช้ผ้าห่มคลุมร่างนอนทับตนแล้วปลุกปล้ำหมายขืนใจ ตนดิ้นรนจนหลุดวิ่งหนีไปหาลูกสาว นายณัฐนันท์ห้ามไม่ให้วิ่งหนีหลอกว่าประตูตู้นอนปิดล็อกแล้วแต่ตนไม่เชื่อวิ่งกลับไปจนถึงตู้นอนที่ลูกสาวอยู่ ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือ จนผู้โดยสารอื่นๆแจ้งตำรวจเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ ล็อกตัวนายณัฐนันท์ไว้ได้

ต่อมานางภมรวรรณ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อิฎฐา บัวแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง ส่วนนายณัฐนันท์ตำรวจรถไฟประสานสายตรวจ สภ.ทุ่งสง รับตัวมาที่โรงพัก นางภมรวรรณให้การว่าถูกนายณัฐนันท์ปลุกปล้ำบนขบวนรถ ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย แจ้งข้อหากระทำอนาจาร นายณัฐนันท์ให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำตามที่ผู้เสียหายระบุ อ้างว่านำผ้าห่มไปให้เท่านั้น หลังสอบสวนได้นำไปถ่ายรูปทำประวัติก่อนปล่อยตัวกลับไปโดยไม่ต้องประกันตัว เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่หลบหนี

จากนั้นนางภมรวรรณ ผู้เสียหายสาว เปิดเผยอย่างมีอารมณ์ว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเนื่องจากรถไฟเป็นรถสาธารณะ มีผู้คนใช้บริการมาก หากพนักงานทำอย่างนี้เป็นอันตรายกับผู้โดยสารที่เป็นหญิงเดินทางตามลำพัง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากถูกข่มขืนความเสียหายอย่างนี้จะชดใช้อย่างไร ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปร้องเรียนกับทาง รฟท.แล้ว


เหตุผู้โดยสารสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศบนรถไฟกลายเป็นข่าวใหญ่นำมาซึ่งความสลดใจของประชาชนทั้งประเทศมาแล้ว กรณีนายวันชัย หรือเกม แสงขาว อายุ 21 ปี ลูกจ้างบริษัทเอกชนรับจ้างทำความสะอาดบนขบวนรถ ข่มขืนฆ่า “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปี บนตู้นอนรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ก่อนโยนร่างเหยื่อทิ้งทางหน้าต่างรถไฟในพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ก.ค.57 ศาลพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตนายวันชัย ส่วนเพื่อนที่รู้เห็นให้การช่วยเหลือสนับสนุน ศาลพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี
https://www.youtube.com/watch?v=DLQ2Wks6qns
https://www.facebook.com/groups/ThungsongWalkToGether/permalink/648971422559849/


Last edited by Wisarut on 04/03/2020 1:07 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 359, 360, 361 ... 486, 487, 488  Next
Page 360 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©