RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311914
ทั่วไป:13579188
ทั้งหมด:13891102
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 367, 368, 369 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 27/04/2020 12:19 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“คมนาคม” ดึงเอกชน ร่วมเดินรถไฟเต็มกำลัง
ฐานเศรษฐกิจ 24 Apr 2020 17:11 น.


“ศักดิ์สยาม” จี้รถไฟเพิ่มขนส่งทางราง
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันที่ 25 เมษายน 2563 - 05:20 น.


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมการพัฒนาระบบรางเป็นรถไฟทางคู่ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง 30% และสนับสนุนเอกชนร่วมบริการระบบรางว่า จากระบบโครงสร้างพื้นฐานทางรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการพัฒนาในอนาคตของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น ได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้ รฟท.พัฒนาการขนส่งทางรางผ่านระบบทางคู่ ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 30%


พร้อมทั้งการใช้ศักยภาพทางรางที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รฟท. และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ไปจัดทำแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จใน 1 เดือน ขณะที่การให้เอกชนเข้ามาร่วมกับ รฟท.นั้น ในส่วนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่าง รัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ยังไม่ได้ออกกฎให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการได้ โดยตนจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณา ทั้งนี้ เป้าหมายต้องการเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น 30% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 13.26 ล้านตัน ภายในปี 64 นอกจากนี้ ต้องสนับสนุนเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อเพิ่มความถี่

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นในส่วนของการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต) และสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดให้บริการในต้นปี 64 แต่การก่อสร้างมีความล่าช้าออกไป จากปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคและท่อน้ำมัน ล่าสุดบอร์ด รฟท.ได้อนุมัติขยายงานก่อสร้างออกไปกว่า 500 วัน ส่งผลให้โครงการไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามกำหนดเดิม และต้องล่าช้าออกไปอีกกว่า 1 ปีครึ่ง

ดังนั้น กระทรวงคมนาคมเห็นว่า หากโครงการล่าช้าไปก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินรถ จากที่ รฟท.จะเป็นผู้เดินรถเอง มาเป็นรูปแบบการดึงเอกชนเข้ามาร่วมทุนแบบ PPP ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย 4 เส้นทาง โดยที่รัฐไม่ต้องเป็นผู้ลงทุนเอง ช่วยประหยัดงบประมาณได้ 60,000-70,000 ล้านบาท แต่สัดส่วนการแบ่งรายได้จะยังเป็นแบบ 60:40 คือ รฟท.ได้ส่วนแบ่งรายได้ 60% และเอกชนได้ 40% ในลักษณะเดียวกันกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งแนวทางดังกล่าว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เห็นชอบแล้ว และเตรียมจะเสนอต่อที่ประชุม คนร. ในเดือน พ.ค.นี้.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46889
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/05/2020 4:42 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟให้พนักงาน-นายสถานีคุมขายตั๋ว-เหล้า-เบียร์-อาหาร
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 - 16:37 น.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ข้อ 5 กำหนดให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

และฉบับที่ 6 ข้อ 1 (1) ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานีรถไฟ และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 2/2563 ที่ได้ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2563

เพื่อให้สอดคล้องตามข้อกำหนดและคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 2/2563 การรถไฟฯ จึงได้กำหนดวิธีปฏิบัติประกอบการขอซื้อตั๋วโดยสาร และการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มภายในสถานีรถไฟ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


1. การจำหน่ายตั๋วโดยสาร กำหนดให้พนักงานจำหน่ายตั๋วขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานแสดงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดที่รับรองหรือออกให้โดยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายก่อนจำหน่ายตั๋วทุกครั้ง

2. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานีรถไฟ กำหนดให้นายสถานีถือปฏิบัติ และควบคุมผู้ประกอบการ พนักงานบริการ และผู้ใช้บริการ

2.1 ให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน

2.2 ให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการ พนักงานบริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และให้มีการคัดกรองอาการป่วย ไข้ จาม หรือเป็นหวัดสำหรับพนักงานบริการและผู้ใช้บริการตามขีดความสามารถ

2.3 ให้สถานีและผู้ประกอบการจัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

2.4 ให้นายสถานีและผู้ประกอบการลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน

2.5 ให้นายสถานีและผู้ประกอบการจัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ ที่นั่ง ระยะห่างระหว่างการเดิน รวมถึงจัดให้มีพื้นที่รอคิว ที่มีที่นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

2.6 ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัด

สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 04/05/2020 6:59 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟให้พนักงาน-นายสถานีคุมขายตั๋ว-เหล้า-เบียร์-อาหาร
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 - 16:37 น.



เข้ม”ขายตั๋ว-อาหาร –เครื่องดื่ม” ในสถานีรถไฟ
หน้าข่าวทั่วไป
วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เวลา 17:49 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย แนะนำวิธี ปฏิบัติขายตั๋วโดยสาร- ขายอาหาร-เครื่องดื่มภายในสถานีรถไฟ ให้สอดคล้อง ข้อกำหนด มาตรา 9 พรก.ฉุกเฉินฉบับที่ 5 /ฉบับที่ 6 ดีเดย์เริ่มมีผลใช้ ตั้งแต่วันที 3 พ.ค. เป็นต้นไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 11/05/2020 6:58 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” รับมือผู้โดยสารเพิ่มหลังธุรกิจรีสตาร์ต-เพิ่มรถทุกช่องทาง
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 - 10:19 น.

แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะแตะหลักหน่วยมานานหลายวัน แต่รัฐบาลยังถือคติ “การ์ดอย่าตก” ต่อเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วประเทศถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563 คงมาตรการยาแรงสกัดการแพร่ระบาด อาทิ มาตรการเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด

ขณะเดียวกันเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า ประชาชนหาเช้ากินค่ำมีรายได้ รัฐบาลคลายล็อกดาวน์ 6 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม ได้แก่ ตลาด ร้านอาหาร กิจการค้าปลีก-ส่ง กีฬาสันทนาการ ร้านตัดผม-เสริมสวย และร้านตัดแต่งขนสัตว์ ตั้งแต่ 3 พ.ค.และเตรียมประกาศลอต 2 ให้กิจการขนาดใหญ่วันที่ 17 พ.ค.นี้ คาดว่าจะทำให้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตที่ปกติมากขึ้น จากปัจจุบันถนนในกรุงเทพฯเริ่มเนืองแน่น หลังคนเริ่มออกจากบ้านไปทำงาน ทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัว และใช้บริการขนส่งสาธารณะ

“ขนส่ง” ยังเข้มห้ามเดินรถ
“จิรุตม์ วิศาลจิตร” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมยังไม่มีแนวคิดจะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ แต่อย่างใด โดยเฉพาะการเดินทางกับรถหมวด 2 และหมวด 3 เพราะรัฐบาลยังคงมาตรการเคอร์ฟิวเวลา 22.00-04.00 น.อยู่ จึงไม่สามารถผ่อนปรนให้กลับมาเดินรถโดยสารได้ตามปกติ การผ่อนปรนจะทำได้ต่อเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดมีคำสั่งผ่อนปรนก่อน ส่วนการเรียกร้องขอให้เปิดเดินรถตามปกติของผู้ประกอบการรถทัวร์ ขณะนี้ยังไม่มีเข้ามา อย่างไรก็ตาม รถโดยสารที่วิ่งระยะสั้นไม่เกิน 300 กม. ยังให้วิ่งได้ตามปกติ

“กิจกรรมของกรม เช่น ต่อใบขับขี่ได้เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด เพื่อไม่ให้คนเดินทางไปสำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานใหญ่ เพราะยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่ยังเปิดชำระภาษีรถยนต์ประจำปีแบบเลื่อนล้อต่อภาษีที่กรมและสำนักงานขนส่งจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ตามปกติ”

เพิ่มรถเมล์ 2,500 คันให้บริการ
ด้าน “สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล” ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ปกติ ขสมก.มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ล้านคน/วัน แต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้ลดลงเหลือ 300,000 คน/วัน แต่หลังรัฐบาลผ่อนคลายกิจการ 6 ประเภท ทำให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 คน/วัน จำเป็นต้องเพิ่มรถเมล์เข้าไปในระบบมากขึ้น เพราะรถเมล์แต่ละคันยังจำเป็นต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร ทำให้บรรทุกผู้โดยสารได้เพียง 25 คน/คัน และตกค้างเป็นจำนวนมาก


“ช่วงที่มีผู้โดยสาร 300,000 คน/วัน มีรถโดยสารให้บริการ 2,000-2,100 คัน/วัน หรือ 70% ของจำนวนรถทั้งหมด ตอนนี้เมื่อผู้โดยสารเพิ่มเป็น 500,000 คน/วัน จึงได้จัดรถเพิ่มขึ้น 2,500-2,600 คัน/วัน หรือคิดเป็น 80% ของจำนวนรถทั้งหมด ในช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็น จะปล่อยรถถี่ขึ้นเป็น 5 นาที/คัน ช่วงนอกเวลาให้รถเมล์แต่ละสายเป็นผู้พิจารณาเองจะปล่อยรถถี่มากแค่ไหน ดูความต้องการของประชาชนเป็นหลัก และการให้บริการยังเป็นเวลา 05.00-21.00 น.”



ขึ้นรถไฟพุ่ง 4 แสน
“สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์” อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยสถิติการเดินทางรถไฟและรถไฟฟ้า ณ วันที่ 4 พ.ค. 2563 มีปริมาณผู้โดยสารในระบบราง 395,062 คน แบ่งเป็นรถไฟปกติ 2,151 เที่ยวคน/วัน แอร์พอร์ตลิงก์ 19,081 เที่ยวคน/วัน รถไฟฟ้า MRT 140,530 เที่ยวคน/วัน และรถไฟฟ้า BTS 233,300 เที่ยวคน/วัน เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวหรือ 100% จากสภาวการณ์ช่วงวันที่ 1 พ.ค. 2563 มีผู้โดยสารเฉลี่ย 189,000 เที่ยวคน/วัน

หลังเกิดเหตุการณ์รถบีทีเอสประแจสับรางเสีย รถให้บริการช้า มีผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมากเมื่อเช้าวันที่ 5 พ.ค. กรมได้ออกประกาศขอให้ผู้ให้บริการรถไฟระบบต่าง ๆ เพิ่มความเข้มงวดดูแลรักษาสภาพรถโดยสาร ระบบการเดินรถ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีความพร้อมสมบูรณ์ในการให้บริการ

หากมีความหนาแน่นในแต่ละสถานี ให้หน่วยงานผู้ให้บริการ บริหารการเข้าสู่ระบบ ตั้งแต่ก่อนการขึ้น-ลง เข้าสู่ชั้นจำหน่ายตั๋ว ก่อนผ่านหน้าประตูกั้นจัดเก็บค่าโดยสาร และก่อนเข้าสู่ขบวนรถ รวมถึงเว้นระยะห่างทางสังคม 1-2 เมตร สวมหน้ากากตลอดเวลา ขอให้ประชาชนวางแผนเผื่อเวลาในการเดินทาง

รฟม.-บีทีเอสเสริมรถเต็มที่
“วิทยา พันธุ์มงคล” รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าทั้ง 2 ระบบเพิ่มขึ้น ในส่วนสายสีน้ำเงิน ก่อนผ่อนคลายมาตรการมีผู้โดยสารเฉลี่ย 50,000 เที่ยวคน/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 เที่ยวคน/วัน

สายสีม่วงก่อนผ่อนคลายมาตรการมีผู้โดยสารเฉลี่ย 8,000-9,000 เที่ยวคน/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 เที่ยวคน/วัน

“ได้สั่งจัดขบวนรถให้บริการอย่างเต็มที่ สายสีน้ำเงินได้นำรถใหม่ทั้ง 36 ขบวนออกวิ่งให้บริการทุกขบวน และให้เพิ่มความถี่ปล่อยขบวนรถช่วงเร่งด่วนเป็น 3.5-4.5 นาที/ขบวน สายสีม่วง แม้จะมีผู้โดยสารน้อยกว่า ให้จัดขบวนรถออกวิ่งเต็มที่ประมาณ 12-16 ขบวน และเพิ่มความถี่ในการปล่อยขบวนรถในช่วงเร่งด่วนเป็น 4-5 นาที/ขบวน”

ขณะที่ “สุรพงษ์ เลาหะอัญญา” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) กล่าวว่า บีทีเอสนำรถไฟฟ้ามีอยู่ 98 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวม 392 ตู้ ออกให้บริการทั้งหมด รองรับผู้โดยสารอย่างเต็มที่ แต่ยอมรับว่าช่วงเร่งด่วนมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถรักษาระยะห่างระหว่างกันตามมาตรการได้ ส่วนในช่วงนอกเวลาไม่มีปัญหาอะไร

“กทม.ได้จัดเทศกิจมาช่วยจัดระเบียบ อำนวยความสะดวก ให้ผู้ใช้บริการในสถานีหลัก 17 สถานี ที่มีผู้ใช้บริการมากช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็น ให้เว้นระยะห่าง ไม่กระจุกตัว นอกจากนี้ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้เผื่อเวลาเดินทาง แม้จะนำขบวนรถที่มีอยู่ออกวิ่งให้บริการทั้งหมด แต่การจัดที่นั่งให้มีระยะห่างภายในขบวน ทำให้ความจุผู้โดยสารแต่ละขบวนลดลงเหลือเพียง 1 ใน 4 ของจำนวนผู้โดยสารที่รองรับได้ในภาวะปกติ”

และสนับสนุนแนวคิดขยับหรือเหลื่อมเวลาทำงานของราชการและเอกชน ให้เข้าทำงานหรือเลิกงานได้เร็วขึ้นหรือช้าลงกว่าปกติ และแนะนำให้ขยับวันหยุดงานเป็นวันศุกร์ หรือวันอื่น ๆ เพื่อกระจายการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ ลดความเสี่ยงและความแออัดการเดินทางของประชาชนในช่วงโควิด-19 นี้

เพิ่มความถี่เรือ
ด้าน “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังรัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้ผู้โดยสารใช้บริการเรือคลองแสนแสบเพิ่มขึ้นจากช่วงล็อกดาวน์วันละ 5,000-6,000 คน/วัน เป็น 10,000 คน/วัน กำชับกรมเจ้าท่าและบริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ให้เพิ่มเรือช่วงเร่งด่วนเช้า 06.30-09.00 น. และเย็น 16.00-19.00 น. จาก 40 ลำ เป็น 60 ลำ และให้เพิ่มความถี่ปล่อยเรือทุก 3-5 นาที รวมถึงคงมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสาร, ติดตั้งจุดกดเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ใช้บริการ

“วิทยา ยาม่วง” อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) กล่าวว่า สถานการณ์เรือด่วนเจ้าพระยาอยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขผู้โดยสารช่วงผ่อนคลายล็อกดาวน์ จากเวลาปกติจะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 50,000 คน/วัน แต่เมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลดเหลือ 4,000 คน/วัน ทั้งนี้ประสานบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ประกอบการให้ปล่อยเรือโดยสารถี่ขึ้น จากเดิมจากต้นทางท่าเรือนนทบุรีมีความถี่อยู่ที่ 10 นาที/ลำ เป็นออกทันทีเมื่อผู้โดยสารเต็มลำ เพราะปัจจุบันมีมาตรการเว้นระยะห่าง ทำให้จำกัดจำนวนผู้โดยสาร

บินในประเทศ 07.00-19.00 น.
ด้านทางอากาศ หลังสายการบินเริ่มเปิดบินเส้นทางในประเทศวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา “กพท.-สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย” ได้ออก “ประกาศเงื่อนไข-เงื่อนเวลาในการใช้ท่าอากาศยานเพื่อการขึ้นลงของอากาศยาน” โดยประกาศให้สนามบิน 18 แห่ง ได้แก่ น่านนคร พิษณุโลก แพร่ แม่สอด แม่ฮ่องสอน ลำปาง ขอนแก่น นครพนม บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช และระนอง ให้บริการเฉพาะการบินในประเทศ โดยเปิดให้เครื่องบินขึ้นลงได้ระหว่างเวลา 07.00-19.00 น.

และให้สนามบินอีก 10 แห่ง ได้แก่ กระบี่ เชียงใหม่ เชียงราย สมุย สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ หัวหิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา เปิดให้เครื่องบินขึ้นลงได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตจัดตั้งสนามบินหรือท้ายใบรับรองการดำเนินงาน สนามบินสาธารณะ หากสนามบินใดไม่มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาทำการ ให้เปิดให้เครื่องบินขึ้นลงได้เฉพาะระหว่างเวลา 07.00-19.00 น.

สำหรับผู้โดยสารและบุคคลผู้เดินทางโดยเครื่องบินจะต้องรับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ในสนามบินปลายทางและจังหวัดปลายทางที่จะเดินทางไปโดยเคร่งครัด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 11/05/2020 10:12 pm    Post subject: Reply with quote

11 พ.ค.63 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในโครงการปลูกต้นรวงผึ้งและต้นพะยูง (จำนวน 199 ต้น) เนื่องในโอกาสวันพืชมงคล ณ บริเวณศาลาเอนกประสงค์ นิคมรถไฟบ้านพักรถไฟ กม.11 โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน รฟท. เข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ด้วย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3037277596319165&set=a.3033691060011152&type=3
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 13/05/2020 8:32 pm    Post subject: Reply with quote

ป้ายสถานีรถไฟ ตำนานการเช็คอิน ก่อนยุคโซเซียลมีเดีย
พ่อจ๋าแม่จ๋าพาเที่ยว EP36
12 พฤษภาคม 2563


ป้ายคอนกรีตสีขาวขนาดใหญ่ ตัวอักษรสีดำ บ่งบอกชื่อสถานีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ด้วยฟอนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสิ่งที่คุ้นตากับคนไทยมาช้านาน นับตั้งแต่สมัยที่กล้องดิจิตอลยังไม่เกิด เฟสบุ๊กยังไม่มี แต่ประเพณีการถ่ายภาพคู่กับป้ายคอนกรีตสีขาวขนาดใหญ่ มีมาช้านานแล้ว

ป้ายที่ว่าก็คือป้ายบอกชื่อสถานีรถไฟนั่นเอง พ่อจ๋าแม่จ๋าเชื่อว่าหากเพื่อนๆ ไปค้นรูปภาพเก่าๆ ในอัลบั้ม ต้องมีรูปที่ถ่ายกับป้ายบอกชื่อสถานีรถไฟบ้าง ไม่มากก็น้อย

ไม่ว่าจะในอดีต หรือปัจจุบัน การเดินทางโดยรถไฟยังเป็นที่นิยม ด้วยค่าใช้จ่ายที่ประหยัด และยังคงความมีเสน่ห์ กับเสียงล้อรถไฟที่บดกับราง แรกๆ ก็อาจจะรู้สึกรำคาญด้วยยังไม่คุ้นหู แต่ผ่านไปสักพัก เสียงเหล่านี้กลับกลายเป็นเสียงดนตรีกล่อมให้หลับไปโดยไม่รู้ตัว จะรู้สึกตัวอีกทียามเมื่อรถไฟจอด. เสียงนายสถานีประกาศ และพ่อค้าแม่ค้านำของขึ้นมาขายให้กับผู้โดยสาร แม้จะงัวเงีย แต่ก็ต้องมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองหาป้ายบอกชื่อสถานี จะได้รู้ว่าเราถึงไหนแล้ว และอีกไกลแค่ไหนจะถึงจุดหมายปลายทาง

ในยุคที่มีเฟสบุ๊ก การเช็คอินนับเป็นสิ่งสำคัญของนักเดินทาง ซึ่งเปรียบเสมือนบันทึกการเดินทาง ก่อนเดินทางก็ต้องเช็คอิน ระหว่างทางก็เช็คอินไปเรื่อย จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางนั่นแหล่ะ ใน EP นี้ พ่อจ๋าแม่จ๋าได้นำภาพบันทึกการเดินทางบางส่วนมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ใครมีภาพถ่ายคู่กับป้ายชื่อสถานีรถไฟที่ไหน ก็อย่าลืมเอามาแชร์กันน้า #พ่อจ๋าแม่จ๋าพาเที่ยว #อยู่บ้าน #หยุดเชื้อ #เพื่อชาติ #สู้ภัยโควิด2019เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 14/05/2020 3:24 pm    Post subject: Reply with quote

ผวก.รฟท. ลุยรับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไขสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานโรงรถจักรบางซื่อ

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่โรงรถจักรบางซื่อ เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานภายในโรงรถจักรบางซื่อ วันนี้ หลังจากทำหน้าที่ประธานจัดกิจกรรมตามโครงการปลูกต้นไม้เนื่องในโอกาสวันพืชมงคล บริเวณนิคมรถไฟ กม.11 เสร็จแล้ว ผู้ว่าการรถไฟฯ ก็เดินทางต่อเพื่อเข้ารับฟังปัญหาพร้อมหาแนวทางแก้ไขสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานภายในโรงรถจักรบางซื่อ เพราะขณะนี้ใกล้เข้าช่วงหน้าฝนแล้ว ซึ่งทราบมาว่าปัญหาของโรงรถจักรบางซื่อ คือ ปัญหาน้ำท่วมขังภายในเขตโรงรถจักร จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า นอกจากการจัดทำคูระบายน้ำแล้ว ยังมีปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาของคราบน้ำมันที่มีอยู่เต็มพื้นที่ หากเกิดฝนตกลงมาจะทำให้เกิดคราบน้ำมันไหลไปตามคูระบายน้ำ และออกสู่พื้นที่สาธารณะ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ จึงได้เร่งสั่งการฝ่ายเกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขโดยด่วน รวมทั้งพื้นที่ถนนทางเข้าโรงรถจักรได้มอบหมายให้ฝ่ายการช่างโยธาเร่งแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อพนักงานที่ใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางเข้า – ออกจะได้สะดวกเพิ่มมากขึ้น

Credit : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3037477122965879&set=a.3033691060011152&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2020 11:41 am    Post subject: Reply with quote

การปรับปรุงวงเวียนกลับรถจักรอุตรดิตถ์ ทดแทนของเดิมขนาด 18 เมตรให้มีขนาด 22 เมตร
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3034025183322656&id=222323771159492&__tn__=H-RH-R
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2020 6:49 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าการรถไฟฯ นั่งรถไฟตรวจงานสายตะวันออก
18 พฤษภาคม 2563
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563 เวลา 7.30 น. ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยนั่งรถไฟตรวจงานสายตะวันออก เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไข โดยมีผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกล พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมเดินทาง ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า ปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขด่วน คือ ตลาดบริเวณสถานีคลองตัน เนื่องจากมีพ่อค้า แม่ค้า และผู้ที่มาซื้อของในตลาด มีการรุกล้ำพื้นที่เขตทางรถไฟ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ขบวนรถไฟต้องวิ่งผ่าน อาจเกิดอันตรายจากการเฉี่ยวชนจนถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ว่าการรถไฟฯ มิได้นิ่งนอนใจสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งแก้ไขโดยด่วน เพราะห่วงใยชีวิตของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาที่ขาดความระมัดระวัง รวมทั้งเป็นความเสี่ยงของพนักงานขับรถไฟด้วย ซึ่งความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเดินรถไฟ

หลังจากนั้น ได้เดินทางไปตรวจดูสภาพเส้นทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ตามโครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) และวิธีการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์จากรถบรรทุกใส่ลงแค่บรรทุกของขบวนรถไฟ โดยรับฟังปัญหาและหารือเรื่องของการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าให้เพิ่มสูงขึ้น และเดินทางต่อไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบหน้ากากอนามัยให้พนักงานโรงรถจักรศรีราชาของฝ่ายการช่างกล และยังลงเยี่ยมพนักงานที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทราอีกด้วย


https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3054248801288711&set=a.3033691060011152&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43729
Location: NECTEC

PostPosted: 24/05/2020 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

จบศึกกู้ชีพการบินไทย คิวต่อไป “รถไฟ-รถเมล์”
คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ
โดย ประเสริฐ จารึก
วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 - 08:44 น.

กลายเป็นข่าวใหญ่ อยู่ในความสนใจของคนไทยทั้งประเทศ กับภาระหนี้กว่า 2.44 แสนล้าน ของ “บมจ.การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ อยู่คู่คนไทยมา 60 ปี ที่ปัจจุบันตกอยู่ในสภาพ ไม่ต่างกับคนป่วยนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู

รอเงินกู้ 5.4 หมื่นล้านมาต่อลมหายใจ ให้อยู่รอดตลอดปี 2563 ขณะเดียวกันรอการ “ผ่าตัดใหญ่” นำไปสู่การฟื้นตัวในระยะยาว

แต่ด้วยมูลหนี้มหาศาล ทำให้ไม่มีใครกล้าประทับตรา-การันตี “แผนฟื้นฟู” ที่การบินไทยทำสไตล์ “เมดเล่ย์” รวมมิตรทุกอย่าง กู้ เพิ่มทุน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ลดคน โละฝูงบิน เพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่

จะพาองค์กรที่มีปัญหาสะสมมายาวนานพ้นปากเหวได้มากน้อยแค่ไหน ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจ-อุตสาหกรรมการบินโลกที่ไม่เหมือนเดิม


เพราะไม่รู้จบโควิดแล้ว “การบินไทย” จะกลับมาแข็งแกร่งหรือไม่

ส่วนจะตัดขายทรัพย์สิน ดีดลูกคิดแล้วได้เงินไม่มากพอที่จะโปะหนี้

หนทางเดียวจะดึง “การบินไทย” ให้พ้นบ่วงหนี้ที่พันธนาการ คือ การยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลตามกฎหมายล้มละลาย แฮร์คัตหนี้ก้อนโตกับเจ้าหนี้ เพื่อนับหนึ่งรีสตาร์ตกันใหม่

ไม่ใช่แค่ “การบินไทย” ที่กระทรวงคมนาคม ต้องเร่งฟื้นฟูกิจการตามมติของ “คนร.-คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ”

ยังมี “การรถไฟแห่งประเทศไทย-ขสมก.” รอรัฐสางหนี้ที่แบกกันหลังอาน

โดย “การรถไฟฯ” รัฐวิสาหกิจเก่าแก่อายุ 123 ปี มีภาระหนี้สินจำนวนมาก ต้องกู้เงินนำมาใช้ในการดำเนินงานประมาณปีละ 1 หมื่นล้าน

ปัจจุบันมีหนี้ 176,000 ล้านบาท มีผลประกอบการในปี 2562 ขาดทุน 21,000 ล้านบาท

หากการรถไฟฯอยู่เฉย ๆ ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเลย ในปี 2566 หนี้สินจะเพิ่มเป็น 199,279 ล้านบาท และขาดทุน 25,646 ล้านบาท

แผนที่เสนอ คนร.เป็นแผนระยะยาว 10 ปี 2561-2570 เพิ่มขีดความสามารถการเดินรถจากรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสายสีแดง ไฮสปีด ซื้อรถจักรและรถโดยสารใหม่

ปลดล็อกรับคนเพิ่ม 19,241 คน พัฒนาองค์กรไปสู่ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์จากที่ดินในมือ 3.9 หมื่นไร่ ทั้งมักกะสัน แม่น้ำ กม.11 บางซื่อ

ล่าสุด คนร.ไฟเขียวตั้งบริษัทลูก “บริษัท บริหารทรัพย์สิน จำกัด” ดึงมืออาชีพมาบริหารพอร์ตที่ดินสร้างรายได้ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติเร็ว ๆ นี้

ส่วนที่เหลือยังไม่สะเด็ดน้ำ โดยเฉพาะตั้งบริษัทลูกมาเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” มีไอเดียให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ลดภาระงบประมาณของรัฐ ยังคงลุ้นจะฝ่าด่านคนรถไฟและสหภาพแรงงานรถไฟไปได้หรือไม่

ในส่วนของ “ขสมก.” มีภาระหนี้สะสม 129,507.311 ล้านบาท แผนฟื้นฟูรอเสนอ คนร.เคาะเดือน ก.ค.นี้

มีเช่ารถใหม่จากเอกชน 2,511 คัน รื้อเส้นทางเดินรถ ลดพนักงานเก็บค่าโดยสาร 5,781 คน ออกตั๋วรายวัน 30 บาทขึ้นได้ทั้งวัน นำที่ดินอู่จอดรถเปิดให้เอกชนพัฒนาสร้างรายได้ในระยะยาว

หากเดินตามแผน “ขสมก.” จะมีผลประกอบการพลิกเป็นบวกใน 7 ปี มีกำไรในปี 2572 แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขรัฐรับภาระหนี้ 110,199 ล้านบาท และอุดหนุนเงิน 9,674 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 7 ปี เพื่อให้เลี้ยงตัวเองได้ ก่อนจะยืนหยัดด้วยขาของตัวเอง

จะว่าไปแล้ว แผนพลิกฟื้นหนี้ “การบินไทย-รถไฟ-ขสมก.” พูดกันมานาน ผ่านมือมาหลายรัฐบาล

จนมาถึงจุดวัดใจ “รัฐบาลประยุทธ์” อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 367, 368, 369 ... 486, 487, 488  Next
Page 368 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©