Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312027
ทั่วไป:13626498
ทั้งหมด:13938525
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 21, 22, 23  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 15/09/2020 6:05 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.ทุ่มงบ 68 ล้าน จ้างที่ปรึกษาเดินหน้า "แลนด์บริดจ์"
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 16:04 น.

Click on the image for full size
ครม.อนุมัติงบผูกพัน 68 ล้าน เดินหน้าจ้างที่ปรึกษา "โครงการแลนด์บริดจ์" ลุยยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ภาคใต้ ศึกษาโมเดลการพัฒนาการลงทุน ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้

วันที่ 15 ก.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.มีมติอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) "โครงการ แลนด์บริดจ์"




หรือ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 ในวงเงิน 68,044,000 บาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการศึกษาทบทวนยุทธศาสตร์การค้าและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของการขนส่งสินค้าที่เชื่อมโยงสองฝั่งทะเล (อ่าวไทย – อันดามัน) การจัดทำยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน


การศึกษาปริมาณการค้าโลกและสำรวจความต้องการขนส่งสินค้าในระดับมหภาคที่พาดผ่านพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย การศึกษาความเหมาะสมเพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน การวิเคราะห์จัดทำรูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) การออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และการจัดทำรายงานการให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnership : PPP)



รวมทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ตลอดจนการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ทั้งนี้ คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ระยะเวลาดำเนินการ 30 เดือน กำหนดแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2566 โดยมีแผนการใช้จ่ายเงิน วงเงินรวม 68.044 ล้านบาท



ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ได้ คือ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้จะได้รับการพัฒนาเพิ่มศักยภาพเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน โดยมีรูปแบบโมเดลการพัฒนาและการลงทุนที่เหมาะสมกับการพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน


Last edited by Wisarut on 05/10/2020 1:16 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47111
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/09/2020 8:28 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ครม.ทุ่มงบ 68 ล้าน จ้างที่ปรึกษาเดินหน้า "แลนด์บริดจ์"
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 16:04 น.

เปิด PPP ชิง ท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง เชื่อมแลนด์บริดจ์-แหลมฉบัง
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563

"คมนาคม" ลุยศึกษาท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง เชื่อมแลนด์บริดจ์ สั่งสนข. เคลียร์ทางดึงเอกชนร่วมทุน ปี 2564 หวังเพิ่มช่องทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หลังรัฐเคาะงบศึกษา 165 ล้าน

รัฐบาลมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า ผ่านประเทศเพื่อนบ้าน ไปยังอ่าวเบงกอล ประเทศอินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ ประเทศในอนาคตที่สร้างรายได้มหาศาล จากการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุน ระบบราง เชื่อมโยงท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง เพิ่มศักยภาพขนสินค้า ฝั่งทะเลอันดามัน ไปยังทะเลอ่าวไทย ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หรือพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาเสียงบประมาณขุดเจาะคลอง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคม เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกจังหวัดชุมพรและท่าเรือน้ำลึกจังหวัดระนอง บริเวณ 2 ฝั่งทะเลภาคใต้ เชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 แห่งด้วยแนวเส้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์ เวย์) ตลอดจนแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ (แลนด์บริดจ์) ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา

"เรามองว่าโครงการฯนี้จะช่วยเปิดช่องทางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม สปป.ลาว และกัมพูชา ระหว่างกันสามารถขนส่งสินค้าได้สะดวกมากขึ้น นอกจากการเชื่อมต่อระบบขนส่งทางทะเลแล้ว ขณะเดียวกันเป็นการเปิดช่องทางเชื่อมต่อรถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย ซึ่งเป็นแนวเส้นทางที่เชื่อมต่อลงสู่ภาคใต้ และประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ หากมีการบูรณาการศึกษาโครงการฯ ชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่าสามารถใช้ระบบขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้น ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะมาแทนการขุดคลองเชื่อมระหว่างอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอย่างมหาศาล"

ที่ผ่านมาภาครัฐได้อนุมัติงบประมาณเพื่อสำรวจการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 แห่ง วงเงิน 75 ล้านบาท รวมทั้งงบประมาณเพื่อสำรวจเส้นทางทางถนนและรถไฟเชื่อมท่าเรือทั้ง 2 แห่ง วงเงิน 90 ล้านบาท สำหรับการศึกษาพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 แห่ง ระดับความลึกที่ 15 เมตร เชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย (จ.ชุมพร-จ.ระนอง) ซึ่งได้มีการวางแผนทั้ง 2 รูปแบบ โดยพัฒนาท่าเรือเดิมที่มีหรือสร้างท่าเรือใหม่ ซึ่งจะมีการถมทะเลเหมือนทั่วโลกที่ดำเนินการ ทั้งนี้จะประเมินความคุ้มค่าในการลงทุน และแก้ปัญหาผลกระทบต่อประชาชน

ขณะเดียวกันในปี 2564 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เตรียมศึกษารูปแบบการลงทุนร่วมกับเอกชนแบบ PPP ของท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 แห่ง ซึ่งจะใช้เงินจากงบกลาง วงเงิน 75 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนในการลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้โครงการแลนด์บริดจ์นั้น ในส่วนของมอเตอร์เวย์ โดยกรมทางหลวง (ทล.) ใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ศึกษา รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะศึกษารถไฟทางคู่สายใหม่ เส้นทางชุมพร-ระนอง ระยะทาง 109 กม. เพื่อเชื่อมท่าเรือจากฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามันไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (อีอีซี) คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2565 หลังจากนั้นจะเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป

โครงการฯนี้จะช่วยเปิดช่องทางการขนส่งสินค้าทางเขต อีอีซีได้สะดวกมากขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 16/09/2020 10:43 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
ครม.ทุ่มงบ 68 ล้าน จ้างที่ปรึกษาเดินหน้า "แลนด์บริดจ์"
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 16:04 น.

เปิด PPP ชิง ท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง เชื่อมแลนด์บริดจ์-แหลมฉบัง
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563


ครม.เคาะศึกษาโมเดลพัฒนาระเบียง ศก.ใต้ เดินหน้ายุทธศาสตร์เชื่อม “อ่าวไทย-อันดามัน”
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 18:02

ครม.เห็นชอบตั้งงบ 68 ล้านศึกษายุทธศาสตร์โลจิสติกส์พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงสองฝั่งทะเล (อ่าวไทย-อันดามัน) พร้อมโมเดลร่วมลงทุน พร้อมอนุมัติสัญญามอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจน์” 1.47 พันล้าน หลัง ทล.ตั้ง กก.สอบวินัยกรณีประมูลมีปัญหา

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ก.ย.อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยกับอันดามัน ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-พ.ศ. 2566 ในวงเงินรวม 68.044 ล้านบาท

คาดว่าจะลงนามในสัญญาที่ปรึกษาได้ในเดือน พ.ย. 2563 ระยะเวลาดำเนินการ 30 เดือน กำหนดแล้วเสร็จเดือน พ.ค. 2566 โดยทำการศึกษาทบทวนยุทธศาสตร์การค้าและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของการขนส่งสินค้าที่เชื่อมโยงสองฝั่งทะเล (อ่าวไทย-อันดามัน) การจัดทำยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยกับอันดามัน ศึกษาปริมาณการค้าโลกและสำรวจความต้องการขนส่งสินค้าในระดับมหภาคที่พาดผ่านพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ศึกษาความเหมาะสม การวิเคราะห์จัดทำรูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) การออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และการจัดทำรายงานการให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnership : PPP) รวมทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) และสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

@อนุมัติสัญญาสุดท้าย มอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจน์” 1,479.75 ล้านบาท หลัง ทล.ตั้ง กก.สอบวินัย กรณีประมูลมีปัญหา

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.รับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงที่ 3 ระหว่าง กม.ที่ 4 ถึง กม.ที่ 9 ระยะทาง 4.9 กม. วงเงินค่าก่อสร้าง 1,479.75 ล้านบาท ระยะเวลา 930 วัน โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559-2566

ครม.เคยมีมติรับทราบการประมูลไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 แต่กรมทางหลวงได้ยกเลิกการประกวดราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเกิดความคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) จึงต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ด้วยวิธี e-Bidding

กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีการยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว ซึ่งกระบวนการสอบสวนทางวินัยใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก จึงส่งผลให้การดำเนินการก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงที่ 3 ต้องล่าช้าออกไป จากเดิมระยะเวลาโครงการช่วงปีงบประมาณ 2559-2565 ต้องขยายไปเป็นปีงบประมาณ 2559-2566
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 22/09/2020 4:50 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดฉาก"ขุดคลองไทย" ดัน‘แลนด์บริดจ์’ บูม ศก.ใต้
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
ออนไลน์เมื่อ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 09:40 น.
ตีพิมพ์ใน นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 หน้า 8 ฉบับที่ 3,611
วันที่ 20 - 23 กันยายน พ.ศ. 2563

ครม.บิ๊กตู่ ปิดฉาก ขุดคลองไทย ผ่าแผ่นดิน ไฟเขียวคมนาคม ปัดฝุ่นแลนด์บริดจ์ รถไฟทางคู่ เชื่อม อันดามัน-อ่าวไทยท่าเรือน้ำลึกระนอง-ชุมพร พัฒนาระเบียงศก.ใต้ 109 กิโลเมตร โยง ท่าเรือแฆลมฉบัง อีอีซี

มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติ งบ 68ล้านบาท ศึกษาทบทวนความเหมาะสมออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปี งบประมาณ 2563-2566




สะท้อนว่ารัฐบาลล้มแผน"ขุดคลองไทย" ฟื้นโครงการแลนด์บริดจ์ รถไฟทางคู่ เชื่อมโยงท่าเรือนํ้าลึก ระนอง-ชุมพร ระยะทาง 109 กิโลเมตร มูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท

โดยชูท่าเรือนํ้าลึกระนองเกตเวย์ เชื่อมต่อมายัง ท่าเรือแหลมฉบัง เขตพัฒนาเศรษฐกิจ ภาคตะวันออกหรืออีอีซี และเปิดประตูขนส่งสินค้าออก อ่าว เบงกอล มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีฐานความต้องการ สินค้าไทย สำหรับ อินเดีย บังคลาเทศ ศรีลังกา



ขณะที่อีอีซี ฐานกระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าประเทศจีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ที่สำคัญ ยังมีการลงทุนโครงสร้างทางรางและ ถนนขนาด 4 ช่องจราจร จาก บริเวณท่าเรือระนอง รอไว้แล้วเพียงลงทุนเพิ่ม และพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์ ) คู่ขนาน รถไฟทางคู่ ตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคม มีความคุ้มค่าลดต้นทุน พลังงาน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันขนส่งสินค้า ได้ โดยรถ ราง เรือ อากาศ



กระทรวงคมนาคมยังสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาพัฒนาท่าเรือนํ้าลึก ระนอง และชุมพร เชื่อม แลนด์บริดจ์ หรือรถไฟทางคู่ กระชับสองฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันรวมถึงมอเตอร์เวย์ มูลค่ารวม 165 ล้านบาท ในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนหรือ พีพีพี ในปี 2564 เพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าในปริมาณมาก ตามข้อเสนอภาคเอกชนในพื้นที่ และการลงพื้นที่ของครม.สัญจร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วงที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ



ผลศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า การขนส่ง สินค้า จากท่าเรือ นํ้าลึกระนอง ไปยังท่าเรือชุมพร เชื่อมถึง ท่าเรือแหมฉบัง จังหวัดชลบุรี จะมีสินค้านำเข้าส่งออก ปีแรก 33,116 ตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มเป็น 85,502 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปีหากพัฒนาแล้วเสร็จ ขณะปริมาณการขนส่งสินค้าและ คนจำนวน 5,724 คนต่อปี และเพิ่มขึ้นเป็น 11,710 คนต่อปี ภายใน 30 ปี เติบโต 100% หรือ คิดเป็น 28% ต่อระยะเวลา 10 ปี



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุตอนหนึ่งว่า ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อสำรวจการก่อสร้างท่าเรือนํ้าลึกทั้ง 2 แห่ง วงเงิน 75 ล้านบาท รวมทั้งงบประมาณเพื่อสำรวจเส้นทางทางถนนและรถไฟเชื่อมท่าเรือทั้ง 2 แห่ง วงเงิน 90 ล้านบาท สำหรับการศึกษาพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 แห่ง ระดับความลึกที่ 15 เมตร เชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย (จ.ชุมพร-จ.ระนอง) ซึ่งได้มีการวางแผนทั้ง 2 รูปแบบ โดยพัฒนาท่าเรือเดิมที่มีหรือสร้างท่าเรือใหม่ ซึ่งจะมีการถมทะเลเหมือนทั่วโลกที่ดำเนินการ ทั้งนี้จะประเมินความคุ้มค่าในการลงทุน และแก้ปัญหาผลกระทบต่อประชาชน



ขณะคลองไทยพร้อมพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ผลการศึกษาออกมาเรียบร้อย จาก คณะกรรมาธิการ วิสามัญ ซึ่ง เสนอ โดยวุฒิสภา เมื่อปี 2549 ภายในเดือนกันยายน 2563 หากไม่มี ปัญหาอื่นใดมากระทบ จะ เสนอต่อครม.แต่ ยังไม่ทันได้เสนอ ปรากฎว่าโครงการแลนด์บริดจ์ ของสนข. กลับได้รับคัดเลือกเสียก่อน ขณะผลกระทบ พบว่า นอกจากงบลงทุนที่สูงมากถึง 2 ล้านล้านบาท แล้วยังเป็นเส้นทางระยะยาว ต้องใช้เวลา ขุดคลองยาวนาน อาจมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ขณะนักธุรกิจ มองว่า แม้เป็นหนึ่งใน โครงการ สร้างความเจริญให้กับพื้นที่ภาคใต้ ตรัง-สงขลา ซึ่งต้องมองผลกระทบให้รอบด้าน ทั้งความล้าสมัย ด้านเทคโนโลยีที่ประเทศคู่แข่ง อาจนำมาใช้ขนส่งสินค้าที่ดีมากกว่าการเดินเรือ จากการขุดคลอง กระแสนํ้าอาจเปลี่ยนทิศทาง อันตรายจากโจรสลัด แม้มีบริษัทชั้นนำของโลก ให้ความสนใจ



แต่รัฐบาลไทยต้องรอบคอบ โดยสรุป ระหว่างการโครงการการขุดคลองไทยของ กมธ. กับ การปัดฝุ่นแลนด์บอรดจ์ ส่งเสริมศักยภาพขนส่งทางราง-บก-นํ้า-อากาศ ของสนข.ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานรออยู่ รัฐบาลเลือกล้มกระดานคลองไทย เป็นทีเรียบร้อยแล้ว !!!...
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 23/09/2020 10:00 am    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” เร่งโปรเจกต์แลนด์บริดจ์ ชง ครม.เคาะงบออกแบบรถไฟทางคู่ “ชุมพร-ระนอง”
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 18:34



“ศักดิ์สยาม” เร่งชงรถไฟทางคู่สายใหม่ ชุมพร-ระนอง เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน คาดเสนอ ครม.สัปดาห์หน้าขออนุมัติงบกลางประมาณ 90 ล้านศึกษาออกแบบ กำชับ ทล.ศึกษามอเตอร์เวย์คู่ขนาน ดันโปรเจกต์แลนด์บริดจ์ ปลุกเศรษฐกิจใต้ต่อยอดอีอีซี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกระทรวงคมนาคม วันที่ 22 ก.ย.ว่า ขณะนี้สำนังบประมาณได้อนุมัติงบกลางในการศึกษาโครงการพัฒนาแนวรถไฟสายใหม่ รถไฟทางคู่ เส้นทางชุมพร-ระนอง แล้ว ดังนั้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งทำรายละเอียดโครงการประสานกับกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทันการประชุมสัปดาห์หน้า

ส่วนกรมทางหลวง (ทล.) ซึ่งจะต้องมีการศึกษาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ในเส้นทางที่เกี่ยวเนื่องกับรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมพร-ระนอง โดย ทล.จะใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ในการศึกษานั้น ให้ ทล.ประสานแผนงานร่วมกับ รฟท. และให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ทำแผนงานในภาพรวมเกี่ยวกับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์ เพื่อให้มีความชัดเจนและเหมาะสม และสามารถอธิบายถึงการพัฒนาและการสร้างรายได้ และผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนโครงการ

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ซึ่งได้ผ่านวุฒิสภาแล้ว โดยมีขั้นตอนที่จะต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.และนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งคาดว่างบประมาณปี 2564 อาจจะเริ่มใช้ล่าช้าประมาณ 1 เดือน ขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ล่าช้า 7 เดือน ดังนั้นถือว่าในปี 2564 จะมีเวลาในการทำงานและเบิกจ่ายงบประมาณมากกว่าปี 2563

ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานตรวจแผนงานโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการและการเปิดประมูล เช่น จัดทำ TOR จัดทำแผนปฏิบัติการให้พร้อมเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนโครงการได้ทันทีเมื่อ พ.ร.บ.ฯ มีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ให้ตรวจสอบการดำเนินงานในงบประมาณปี 2563 เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และการก่อหนี้ผูกพันให้เรียบร้อยภายในเดือน ก.ย. 2563

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการพัฒนาแนวรถไฟสายใหม่ รถไฟทางคู่ ชุมพร-ระนอง ระยะทาง 109 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามันไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (อีอีซี) ขอใช้งบกลางปี 2563 จำนวนประมาณ 90 ล้านบาทเพื่อทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดและทำรายงาน EIA โดยคาดศึกษาประมาณ 1 ปี ซึ่งจะมีการพัฒนาทางหลวงและมอเตอร์เวย์เชื่อมชุมพร-ระนอง และพัฒนาท่าเรือน้ำลึกระนองและท่าเรือน้ำลึกชุมพรร่วมด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 29/09/2020 8:11 pm    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” สั่งทำแผนแลนด์บริดจ์-ท่าเรือบก รับ “ประยุทธ์” ลงพื้นที่อีอีซี 1 ต.ค.
อสังหาริมทรัพย์

วันที่ 29 กันยายน 2563 - 21:32 น.

“ศักดิ์สยาม” รับลูกครม.กำชับ “รถไฟ” ทำรายงานทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องตั้งบริษัทลูก ประสาน “EIA-กรมศิลป์” เร่งไฮสปีดไทยจีน สั่งสนข.ลูกรักเตรียมแผนแลนด์บริดจ์-ท่าเรือบกรายงาน “บิ๊กตู่” ‪1 ต.ค.‬นี้ จี้ “ทย.-ทอท.-กพท.” เคาะเปิดบินในประเทศ สั่งทุกหน่วยทำกรอบงบปี’65 ต.ค.นี้ ล้อยุทธศาสตร์ชาติ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ได้สรุปมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงและข้อสั่งการอื่นๆ

จี้รถไฟตรวจสอบทรัพย์สิน-EIA ไฮสปีดไทยจีน
โดยครม.เห็นชอบจัดตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในนาม “บริษัท รถไฟพัฒนาทรัพย์สิน จำกัด” ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำ Action Plan ออกมาให้เร็วที่สุดว่า จะมีแผนงานอะไร

และส่วนตัวไม่แน่ใจว่าบริษัทที่ตั้งขึ้นดูแลเฉพาะที่ดินอย่างเดียวหรือไม่ มีสินทรัพย์ประเภทอื่นหรือไม่ ให้ทำรายการทรัพย์สินออกมาให้เคลียร์และชัดเจน และต้องตรวจสอบสถานภาพของที่ดินแต่ละแห่งว่า มีการดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้อง

ยังเห็นชอบปรับกรอบวงเงินและมีความเห็นชอบข้อตกลงการจ้างสัญญา 2.3 โครงการรถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ไปดำเนินการเรื่องรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่ยังติดฃัดอยู่

ซึ่งได้เรียนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เรื่องนัดหมายประชุมพิจารณารายงาน EIA แล้วคาดว่าจะมีการประชุมภายในเดือน ต.ค.นี้



ส่วนการปรับรูปแบบสถานีอยุธยา ได้ประสานกับนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อนัดหมายกับนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ในการหารือถึงการปรับแบบ โดยให้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) รีบดำเนินการ เพราะเหลือปัญหาแต่เรื่องขนาดของแบบก่อสร้างเท่านั้น

“นอกจากนี้ ให้เร่งรัดการดำเนินการสัญญางานโยธาทั้ง 14 สัญญาด้วย เพราะนายกรัฐมนตรี ได้ทวงถามความคืบหน้ามาด้วย”

1ต.ค.รายงาน “บิ๊กตู่” แผนแลนด์บริดจ์-ท่าเรือบก
นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า ในส่วนของโครงการศึกษารถไฟทางคู่ช่วงระนอง – ชุมพร วงเงินศึกษา 90 ล้านบาท หลังจากที่ครม.อนุมัติแล้ว ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ปรับไทม์ไลน์โครงการใหม่

โดยเฉพาะช่วงร่างทีโออาร์ ซึ่งใช้เวลา 5 เดือน สามารถปรับใหม่ใช้เวลาน้อยกว่านี้ได้หรือไม่ และขอให้จัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการนำเสนอ เพราะ‪ในวันที่ 1 ต.ค.‬นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่นั่นด้วย

นอกจากนี้ ให้สนข.เตรียมข้อมูลโครงการท่าเรือบก (Dry Port) ไว้ด้วย โดยให้มีแผนงานและภาพรวมที่ขัดเจน และขอให้แต่ละหน่วยกลับไปทบทวนข้อสั่งการจากการประชุมครม.สัญจรที่จ.ระยองเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2563 เพื่อรายงานความคืบหน้าถึงข้อสั่งการต่างๆต่อไป โดยมอบสนข.เป็นผู้รวบรวมและทำสื่อนำเสนอ

สั่ง “ทย.-ทอท.-กพท.” เคาะเปิดบินในประเทศ
สำหรับการเปิดการบินภายในประเทศ มอบให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.), บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เร่งจัดประชุมหารือร่วมกันเพื่อสรุปข้อร้องเรียนของแต่ละจังหวัด ตอนนี้มีบางจังหวัดเรียกร้องแล้ว เช่น แม่ฮ่องสอน และยะลา เป็นต้น โดยมอบหมายนายชยธรรม์ พรหมศร ว่าที่ปลัดกระทรวงคมนาคมรับผิดชอบทำแผน

เข้มงบปี’65 ต้องตามยุทธศาสตร์ชาติ
ขณะที่การเสนอของบประมาณประจำปี 2565 ขอให้ทุกหน่วยส่งแผนมาที่กระทรวงก่อน โดยให้ปลัดกระทรวงคมนาคมตรวจสอบว่า การทำงบประมาณรายจ่ายของแต่ละหน่วยเป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่

โดยภายในเดือน ต.ค.นี้จะต้องนำมาให้ดูทุกหน่วย และถ้าไม่ให้ดูอย่ามาเสนอแบบบีบให้ผมเซ็นภายหลัง เพราะถ้างบตกไปก็ตกด้วยกันทั้งหมด และผมจะเล่นงานท่านด้วย

โอ๋ๆๆ ชาวใต้ไม่ต้องน้อยใจ ”เปิดโปรเจกท์ใหม่SEC 2 แสนล้าน”
*PPPแพครวม”พัฒนาท่าเรือ-สร้างทางคู่-มอเตอร์เวย์”
*บูมระเบียงเศรษฐกิจชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์-นครศรี
*เชื่อมการค้าชายแดนไปจีนเวียดนาม|กลุ่มBIMSTEC
*สนข.จ้างศึกษา 68 ล้านแต่รอตกผลึกนานปี 66 โน่น

2.การศึกษาแนวเส้นทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมโยงขนส่งสินค้าระบบรางและทางน้ำ โดยการศึกษาครั้งนี้อาจจะใช้แนวเส้นทางใหม่ หรือใช้แนวเส้นทางตามโครงการการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม เส้นทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ที่ สนข. เคยศึกษาไว้แล้วก็ได้
เนื่องจากแนวเส้นทางมีลักษณะทางกายภาพที่เป็นภูเขาและคดเคี้ยว อาจเจาะอุโมงค์ตามแนวเส้นทางบางพื้นที่ เพื่อลดความลาดชัน ให้ได้แนวเส้นทางตรง เดินทางสะดวก ใช้ความเร็วได้และถึงจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย นอกจากนี้จะเป็นรูปแบบรถไฟทางคู่รวมทั้งศึกษาจำนวนสถานี และรูปแบบสถานีด้วย การศึกษาจะไม่ซ้ำซ้อนกับที่ สนข. ศึกษาไว้ เพราะเป้าหมายโครงการเน้นขนส่งสินค้าเชื่อมต่างประเทศ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2722636817957819


Last edited by Wisarut on 30/09/2020 10:38 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47111
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/09/2020 6:33 am    Post subject: Reply with quote

ลุย 9 มอเตอร์เวย์ เชื่อมทางคู่ 5,000 กม. ประเดิม 'แลนด์บริดจ์'
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

สนข. เปิดแผนศึกษา 9 มอเตอร์เวย์ เชื่อมทางคู่ (MRMAP) 5,000 กิโล แสนล้าน ประเดิมแลนด์บริดจ์แทนขุดคลองไทย เส้นทาง "ชุมพร-ระนอง" ระยะทาง120 กม.

ที่ผ่านมาจะเห็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) หรือแลนด์บริดจ์นั้น ถูกคัดค้านหลายโครงการ เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ทำให้เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ในอดีตเคยมีการศึกษาในโครงการดังกล่าวไว้แล้ว พบว่ามีความทับซ้อนกับการศึกษาการขุดคลองไทย ซึ่งมีพื้นที่เป็นเส้นทางเดียวกัน อีกทั้งมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก ทั้ง 2 ฝั่งทะเล เพื่อเป็นจุดเชื่อมการขนส่งสินค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันที่ผ่านมา สมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยได้ร้องเรียนถึงกระทรวงคมนาคมให้ยกเลิกโครงการท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสตูล (ปากบารา) เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำประมงพื้นบ้าน ทำให้โครงการฯถูกยกเลิกไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มติเห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 2563-2566 ในวงเงิน 68 ล้านบาท ถือเป็นการื้อโครงการฯ ปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่ เพื่อหวังว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ จะได้รับการพัฒนาเพิ่มศักยภาพเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน

เบื้องต้นแหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จะยึดแนวเส้นทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เชื่อมต่อรถไฟทางคู่ (MR-MAP) ที่เคยเสนอไว้ 9 เส้นทาง มูลค่าเกินแสนล้านบาท แต่มี 1 เส้นทางที่มีความจำเป็นต่อโครงการนี้โดยเฉพาะแนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ชุมพร-ระนอง ระยะทาง 120 กม. สำหรับเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (EastWest Economic Corridor)6 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,380 กม.เป็นต้น (อ่านอินโฟประกอบ)

ขณะเดียวกันการศึกษาครั้งนี้จะต้องคำนึงถึงปริมาณของสินค้าที่เดินทางผ่านไทย เพื่อให้ไทยได้รับประโยชน์จากการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าเส้นทางการขนส่งสินค้าทางเรือมีโอกาสผ่านไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณช่องแคบมะละกา แถบบริเวณภาคใต้ของไทยที่ทำให้สิงคโปร์ได้รับประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ไทยไม่ได้รับประโยชน์ในการขนส่งสินค้าผ่านแนวเส้นทางดังกล่าว รวมทั้งพบว่าการขนส่งสินค้าบริเวณดังกล่าวติดขัด เนื่องจากปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าข้ามประเทศเป็นจำนวนมากเพราะเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้า ทำให้การขนส่งสินค้าล่าช้าและการสัญจรทางน้ำติดขัด อีกทั้งการเดินทางขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่อ้อม ถ้าสามารถดำเนินการโครงการแลนด์บริดจ์ให้เกิดขึ้นในไทยได้ จะทำให้ไทยได้ประโยชน์ในการขนส่งสินค้ามากขึ้น

ทั้งนี้ด้านการเวนคืนที่ดินโครงการฯ จะเริ่มดำเนินการหลังจากมีการศึกษาและเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อหาเอกชนร่วมทุนแบบพีพีพี โดยเส้นทางที่จะดำเนินการเวนคืนฯนั้น เบื้องต้นให้กรมทางหลวง (ทล.)และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หารือศึกษาแนวเส้นทางร่วมกันภายใต้แผนบูรณาการมอเตอร์เวย์เชื่อมต่อแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ (MR-MAP)

สำหรับ ความคืบหน้า โครงการฯ พัฒนาแลนด์บริดจ์ สนข. ระบุว่า ได้รับงบประมาณศึกษาโครงการฯ เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดอยู่ระหว่างเตรียมจ้างที่ปรึกษา คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 และดำเนินการศึกษาระยะเวลา 1 ปี ทั้งนี้มีแนวโน้มศึกษาการร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี เน็ตคอส เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จำเป็นให้เอกชนร่วมลงทุนในครั้งนี้

"สำหรับแนวทางการศึกษาโครงการฯ มีแนวโน้มดำเนินการศึกษาสร้างท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง (อ่าวไทย-อันดามัน) โดยมีการเชื่อมแลนด์บริดจ์ระหว่างมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่อยู่บริเวณระหว่างท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงปัญหาโลจิสติกส์ในไทยว่าสามารถทำได้หรือไม่ และระดับน้ำทะเลทั้งอ่าวไทยและทะเลอันดามันเท่ากันหรือไม่ หากสามารถใช้วิธีการนี้ได้จะช่วยประหยัดงบประมาณมากขึ้น แต่ถ้าขุดลอกคลองจำเป็นต้องขุดคลองในบริเวณกว้าง ซึ่งต้องศึกษาว่าจะสามารถขนส่งสินค้ากรุงเทพฯสู่ภาคใต้ได้อย่างไร ซึ่งเราจะศึกษาวิธีการเหล่านี้เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความชัดเจนกันมากขึ้น ซึ่งจะต้องดูว่าแนวทางการศึกษาแบบใดที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับไทยมากที่สุด"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 05/10/2020 1:14 am    Post subject: Reply with quote

ปูทางแลนด์บริดจ์! อนุมัติ 74 ล้าน ศึกษาสร้างทางรถไฟ ‘ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง’
เขียนโดยisranews
เขียนวันศุกร์ ที่ 02 ตุลาคม 2563 เวลา 13:26 น.

Click on the image for full size

ครม.อนุมัติงบ 74 ล้านบาท ‘สำรวจ-ออกแบบ-ทำอีไอเอ-ประมาณการลงทุน’ โครงการสร้างทางรถไฟ 'ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง' ปูทาง ‘แลนด์บริดจ์’ เชื่อมโยงการขนส่งจาก 2 ฝั่งทะเล ‘อ่าวไทย-อันดามัน’ ด้าน 'คมนาคม' คาดลงนามจ้างบริษัทที่ปรึกษาก.พ.64 ใช้เวลาศึกษานาน 12 เดือน

................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ครม.มีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ปีงบ 2564-65 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายงานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ระยะทาง 125 กิโลเมตร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วงเงิน 74.71 ล้านบาท แบ่งเป็นปีงบ 2564 วงเงิน 29.88 ล้านบาท และปีงบ 2565 วงเงิน 44.82 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมคาดว่าจะลงนามสัญญาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาฯได้ในเดือนก.พ.2564 และใช้เวลาสำรวจ ออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง รวมถึงการประมาณค่าใช้จ่ายในการลงทุน (งานโยธาและระบบอาณัติสัญญาณ) การชดเชยค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การจัดทำเอกสารประกวดราคา และการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นเวลา 12 เดือน หรือกำหนดแล้วเสร็จในเดือนก.พ.2565

สำหรับโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของการพัฒนาตามยุทธศาสตร์กรพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน พ.ศ.2562-2565 และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยยกระดับการเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์ระหว่างชายฝั่งทะเลอันดามันกับอ่าวไทยในลักษณะของ Land-Bridge (สะพานเศรษฐกิจ) รวมทั้งจะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Mode Shift) จากการขนส่งทางบก เป็นการขนส่งทางรางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่า รัฐบาลมีแผนเดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะการมีโครงการใหม่ๆที่จะเพิ่มการลงทุนในไทยในระยะยาว เช่น การลงทุนเส้นทางขนส่งเชื่อม 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) รวมทั้งจะการก่อสร้างท่าเรือใหม่ด้วย ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ หลังจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ไปแล้ว

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในปี 2560 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมเส้นทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 45,844 ล้านบาท

1(ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. โครงการศึกษาเบื้องต้นเผยแพร่เดือน ก.ค.2560)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 05/10/2020 3:05 am    Post subject: Reply with quote

รายละเอียด ทางรถไฟสายชุมพร-ท่าเรือระนอง
เขียนวันอาทิตย์ ที่ 04 ตุลาคม 2563 เวลา 19:32 น.

วันนี้ขอ Repost รายละเอียดของทางรถไฟสายชุมพร-ท่าเรือระนอง ที่เป็นหนึ่งในโครงการ สำคัญใน SEC (Southern Economic Corridor) โดยเป็นการขนส่งแบบ Land bridge ซึ่งจะมาทดแทนโครงการคลองไทย ในการเชื่อมระหว่าง 2 มหาสมุทร (มหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก)
ซึ่งล่าสุดทางการรถไฟได้มีการศึกษาทบทวนในรายละเอียดแบบ เพื่อร่าง TOR เตรียมการประมูลในอนาคต
ตาม Timeline ที่ปรึกษาจะเริ่มศึกษาในรายละเอียด ประมาณเดือน มีนาคม 64 และจะแล้วเสร็จในเดือน กุมภาพันธ์ 65ใช้เวลาศึกษารวม 1 ปี
—————————
ซึ่งความสำคัญของโครงการนี้ จะไม่ใช่แค่การสร้างทางรถไฟ แต่จะเป็นทางรถไฟที่จะเชื่อมโยงกับท่าเรือ 2 ฝั่งมหาสมุทร ที่ในปัจจุบันทางระนองมีท่าเรือเดิมอยู่แล้ว และเตรียมการขยายท่าเรือ และขยายร่องน้ำเพื่อจะรองรับเรือที่ใหญ่ขึ้นได้ส่วนฝั่งชุมพรมีโครงการจะทำท่าเรือใหม่เพื่อเชื่อมโยงด้วยเช่นกันครับ

ทางรถไฟมีหลายทางเลือกเส้นทาง แต่เส้นทางที่โครงการเลือกในการศึกษา คือเส้นทางที่ 1 ซึ่งเริ่มต้นจาก สถานีแสงแดด ซึ่ง จะอยู่เลยสถานีชุมพร มา 1 สถานี แล้วแนวเส้นทางจะตัดไปทางทิศตะวันตก ตามแนวทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านสถานีดังนี้
1.สถานีขุนกะทิง
2.สถานีบ้านนา
3.สถานีวังใหม่
4.สถานีปากจั่น
5.สถานีกระบุรี
6.สถานีบางใหญ่
7.สถานีละอุ่น
8.สถานีท่าเรือระนอง
9.สถานีระนอง (อยู่บนทางแยก)
ทางรถไฟสายนี้จะเป็นทางรถไฟ ทางเดี่ยว และเผื่ออนาคต เพื่อการพัฒนาเป็นทางคู่
เส้นทางมีระยะทางรวม 109 กิโลเมตร
เป็นทางระดับดิน 67 กิโลเมตร
เป็นทางยกระดับ 33 กิโลเมตร
เป็นอุโมงค์ 8 กิโลเมตร

รูปแบบสถานีในโครงการ มี 2 แบบ คือ
สถานีขนาดกลาง ซึ่งจะเป็นสถานีใหญ่ที่สุดในโครงการ คือ สถานีระนอง
สถานีขนาดเล็ก ซึ่งจะเป็นลักษณะ สถานีอื่นๆในโครงการทั้งหมด
ในโครงการจะใช้มาตรฐาน เดียวกับทางรถไฟสายอื่นๆ และทางคู่ ซึ่งจะไม่มีจุดตัดทางรถไฟ อยู่เลย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ลักษณะการเดินรถ
ในปีแรกที่ให้บริการ เส้นทางจะมีรถไฟให้บริการ หลายรูปแบบ ได้แก่
1.รถไฟธรรมดา (ชุมพร-ระนอง) 4 ขบวน/วัน
2.รถไฟทางไกล (กรุงเทพ-ระนอง) 1 ขบวน/วัน
3.รถไฟสินค้า (ICDลาดกระบัง-ระนอง) 2 ขบวน/วัน
ซึ่งการคาดการณ์นี้ยังไม่รวมขบวนรถไฟสินค้าหนองคาย-ระนอง ที่พูดถึงด้วยนะครับ
มูลค่าการลงทุนทั้งหมด ของโครงการ แบ่ง เป็น 2 ก้อนคือ
ค่าการลงทุนเบื้องต้น 29,222 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายในช่วงให้บริการ 16,321 ล้านบาท
การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
EIRR 8.55%
NPV - 4,500 ล้านบาท
B/C 0.68
ประเมินความคุ้มค่าทางการเงิน
NPV - 20,000 ล้านบาท
FIRR 2%
B/C 0.39
ซึ่งตามนี้ยังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่การประเมินในคราวนั้น ยังไม่รวมผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการขนส่ง และเชื่อมโยง ไทย-ลาว-จีน ร่วมไปอยู่ในแผน (belt and road initiative) ซึ่งจะสร้างธุรกิจ และสร้างงานให้อีกมหาศาล เลยครับ
ซึ่งถ้ารวมประเด็นนี้เข้าไป ผมคาดว่า น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุน และอาจจะชวนจีนมาร่วมลงทุน หรืออย่างน้อย ก็มาร่วมเดินรถไฟได้ครับ
ลักษณะการลงทุนมี 3 ลักษณะ คือ
1.รฟท. ลงทุนเองทั้งหมด ขาดทุนอย่างเดียว
2.รัฐลงทุนราง รฟท เดินรถ ลักษณะเดียวกับ ทางรถไฟทางคู่ที่พึ่งสร้าง และสายใหม่ที่จะเกิด ซึ่งค่าใช้จ่ายรัฐจะเป็นคนออก รฟท มีหน้าที่เดินรถ
รูปแบบนี้ FIRR สูงถึง 9.87% ซึ่งเหมาะสมในการเดินรถได้
3. รัฐลงทุนราง รฟท ซ่อมบำรุงทาง เอกชน เดินรถ
รูปแบบนี้ FIRR ต่ำกว่าแบบที่ 2
สรุป การก่อสร้างทางรถไฟสาย ชุมพร-ระนอง เป็นสายยุทธศาสตร์ ที่สำคัญในการเชื่อมโลก ด้านทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเรามีเพียง ท่าเรือระนอง เป็นท่าเรือเดินสมุทรเดียว ซึ่งสามารถเชื่อมโยงได้ ดังนั้น การก่อสร้างทางรถไฟสายนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็น ถ้าเร่งได้จะเป็นการดี ให้พร้อมๆ กับการเชื่อมต่อกับรถไฟ จีน-ลาว เพื่อขนสินค้าผ่านประเทศเราได้อีกมาก รวมถึงเป็นอนาคตของการพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) 4 จังหวัด คือ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช ดีด้วย
จำนวนผู้โดยสารที่คาดการณ์ ตามปี
2568 5,700 คน/วัน
2587 9,330 คน/วัน
จำนวนสินค้าที่คาดการณ์ (ยังไม่รวมสินค้าจากจีน)
2568 33,000 ตัน/ปี
2587 60,000 ตัน/ปี
รายละเอียดโครงการ SEC 2 ตอน
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/606311813140635?s=1160002750&sfns=mo
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/609285446176605?s=1160002750&sfns=mo
ลิ้งค์รายละเอียดการศึกษาโครงการตัวเต็ม
http://www.otp.go.th/index.php/edureport/view?id=142
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 05/10/2020 3:58 pm    Post subject: Reply with quote

[url=https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2727627234125444 ]รฟท.เร่งคลอดทีโออาร์ออกแบบรายละเอียดรถไฟสายใหม่[/url]

Dailynews
วันอาทิตย์ ที่ 04 ตุลาคม 2563 เวลา 13:48 น.

*”ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง” 109 กม.
*เชื่อมทะเลอันดามัน-อ่าวไทยครั้งแรก
*คาดได้ที่ปรึกษา ม.ค.64 สรุปผลปี 65

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ระยะทาง 109 กิโลเมตร(กม.)ว่า ขณะนี้ รฟท.กำลังเร่งจัดทำข้อกำหนดและขอบเขตงานจ้างที่ปรึกษา(ทีโออาร์)โครงการฯ เพื่อดำเนินงานศึกษา สำรวจ ออกแบบรายละเอียดต่อยอดจากผลการศึกษาความเหมาะสมของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ที่จัดทำแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 61

รวมถึงจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) โครงการฯ วงเงินประมาณ 75 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะได้ที่ปรึกษาโครงการฯ ประมาณเดือน ม.ค.64 ทั้งนี้จะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี แล้วเสร็จประมาณต้นปี 65 จากนั้นจึงเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง เป็นทางรถไฟสายใหม่ที่เชื่อมต่อฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยเป็นครั้งแรกระหว่าง จ.ชุมพร และ จ.ระนอง นอกจากจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังเชื่อมการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือระนอง ซึ่งเป็นประตูการค้าฝั่งอันดามันเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่ม BIMSTEC ได้แก่ บังคลาเทศ, ภูฎาน, อินเดีย, เมียนมา, เนปาล, ศรีลังกา และไทย

นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามริมทะเล โดยจะขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านพื้นที่เขต ต.ขุนกระทิง ต.บ้านนา ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร และผ่าน ต. จ.ป.ร. ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนองด้วย

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า เบื้องต้นวงเงินก่อสร้างประมาณ 3 หมื่นล้านบาท การก่อสร้างเป็นทางรถไฟทางคู่ ระยะทางรวมประมาณ 109 กม. แบ่งเป็น ชุมพร-ท่าเรือระนอง 103 กม. และเส้นทางแยกเข้าสู่เมืองระนอง 6 กม. มีอุโมงค์รถไฟ 7 แห่ง มี 9 สถานี เป็นสถานีโดยสาร 8 สถานี และสถานีสาหรับขนส่งสินค้า 1 สถานี คือ สถานีท่าเรือระนอง ทั้งนี้ปีแรกที่เปิดให้บริการคาดว่าปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 5,724 คนต่อวัน และปริมาณขนส่งสินค้า 33,116 ตันต่อวัน

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งด้วยว่า สำหรับโครงการดังกล่าว รฟท. ได้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณงบกลางประจำปี 63 เพื่อว่าจ้างที่ปรึกษาฯ จำนวน 90 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติประมาณ 75 ล้านบาท และอาจจะโดนตัดอีกในขั้นตอนสุดท้าย ยอมรับว่างบประมาณจำนวนนี้ทำได้ยาก ค่อนข้างอึดอัดพอสมควร เพราะเป็นโครงการที่ยาก และซับซ้อน นอกจากจะมีระยะทางยาว 109 กม.แล้ว พื้นที่ทางกายภาพอยู่ในหลืบเขา และยังมีการออกแบบก่อสร้างอุโมงค์

จึงกังวลว่าจะได้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และจะส่งผลให้ค่าก่อสร้างสูงขึ้นไปอีก เช่น ค่าเจาะธรณีสำรวจดินบริเวณอุโมงค์ค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญถ้าได้ข้อมูลไม่ครบ การออกแบบจะเผื่อให้โครงสร้างใหญ่ไว้ก่อน ทำให้ค่าก่อสร้างจะสูงตามมา
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, ... 21, 22, 23  Next
Page 2 of 23

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©