View previous topic  :: View next topic    
	 
	
	
		Author 
		Message 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 06/10/2020 10:41 am     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				 
 
ความก้าวหน้าทางคู่มาบกระเบา - ถนนจิระสัญญาที่ 1 สิงหาคม 2563
 
 
ผลงานสะสม 77.45 %
 
แผนงานสะสม 76.15 %
 
ผลงานสะสมเร็วกว่าแผนงานสะสม 1.30 %
 
https://www.youtube.com/watch?v=AClVqU3Dp5M  
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 08/10/2020 1:13 am     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				ชาวเพชรบุรีหวั่นโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ส่งผลกระทบความเป็นอยู่ หลังกรมชลประทานจะทำการปล่อยน้ำจากเขื่อน 
 
 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
 
เผยแพร่: 7 ตุลาคม 2563 เวลา 17:21  
 
 
 
 
เพชรบุรี - รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี ลงพื้นที่สะพานดำ เร่งประสานบริษัทผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ หวั่นส่งผลกระทบหลังจากรับแจ้งจากกรมชลประทานจะทำการปล่อยน้ำจากเขื่อนเพชรในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ในอัตรา 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
 
 
นายพลยุทธ อังกินันทน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี ลงพื้นที่บริเวณสะพานดำ เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี เพื่อสำรวจเส้นทางน้ำที่จะไหลผ่าน หลังจากรับแจ้งจากกรมชลประทานว่า จะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนเพชร ประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะปล่อยน้ำในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ น้ำจะมาถึงเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีประมาณวันที่ 11 ตุลาคม จึงได้ลงมาตรวจดูว่าตอนนี้โครงสร้างที่กำลังมีการก่อสร้างรถไฟรางคู่
 
 
ขณะนี้มีการถมดินเพื่อทำตอม่อของสะพาน พร้อมกับประสานทางช่างผู้รับเหมาตรวจสอบว่าจะพร้อมรับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เมตรได้หรือไม่ โดยจากการประสานงานกับช่างผู้รับเหมาจะเร่งดำเนินการขุดดินออกเพื่อเตรียมรับน้ำ ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร โดยทางบริษัทผู้รับเหมาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
 
 
ด้าน นายธีรยุทธ เสียมพลัด วิศวกรโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินการเริ่มได้ประมาณ 30% แล้ว โดยวันนี้หลังจากทราบข้อมูลว่าจะมีการปล่อยน้ำลงมาในแม่น้ำเพชร โดยบริเวณสะพานดำที่กำลังก่อสร้างอยู่ และมีการทำ Sheetpile ปักเพื่อกันดินพังและกันน้ำ ที่คาดว่าน่าจะเกิดปัญหา ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวขวางลำน้ำ
 
 
โดยจะต้องปรึกษากับทางกรมชลประทานว่าจะกระทบกับการไหลของน้ำมากแค่ไหน ถ้าไม่ส่งผลกระทบอะไรก็จะต้องปรับสร้างตามแผนที่วางไว้ แต่จะดำเนินการนำเครื่องจักรมานำคันดินออก รวมถึงเก็บวัชพืชที่คาดว่าจะกีดขวางทางน้ำออกให้หมด พร้อมจะเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนก่อนที่น้ำจะมาถึง 
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 14/10/2020 5:59 pm     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				14 ต.ค. 63 เวลา 11.30 น. นายสถานีปราณบุรี ได้รับแจ้งจากผู้รับเหมาก่อสร้างทางคู่พบหิยไหลจากหัวหมอนลงข้างทาง ที่ สทล.240/13-241/11 ระหว่าง สถานีปราณบุรี-สถานีหนองคาง ให้ขบวนรถทุกขบวน ลดความเร็วผ่านไม่เกิน 20 กม./ชม.(ปักป้ายเบาทางแล้ว)
 
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3478118235568430   
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 14/10/2020 6:29 pm     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				ITD โชว์โครงสร้างรถไฟทางคู่ช่วง มาบกะเบา-ขนานจิตร สูง 48 เมตร 
 
อสังหาริมทรัพย์
 
วันที่ 14 ตุลาคม 2563 - 17:37 น.
 
 
 
แตะขอบฟ้า ITD โชว์โครงสร้างรถไฟทางคู่ช่วง มาบกะเบา-ขนานจิตร สูง 48 เมตร
 
 
วันที่ 14 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ได้เผยแพร่ภาพงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา  ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา  คลองขนานจิตร
 
 
 
โดยได้ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ (Elevated Railway Structure) แล้วเสร็จในส่วนของโครงสร้างสุดท้าย (The last middle closure)
 
 
สำหรับงานก่อสร้างดังกล่าว เป็นหนึ่งในโครงสร้างหลักของโครงการ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ยกระดับ ระยะทางประมาณ 4.8 กม. ผ่านพื้นที่ช่วงอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยความสูงของโครงสร้างสูงสุด จากระดับพื้นดินถึงระดับสันรางประมาณ 48 เมตร
 
 
บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร ได้ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ (Elevated Railway Structure) แล้วเสร็จในส่วนของโครงสร้างสุดท้าย (The last middle closure) งานก่อสร้างดังกล่าว เป็นหนึ่งในโครงสร้างหลักของโครงการฯ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ยกระดับ ระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ช่วงอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยความสูงของโครงสร้างสูงสุด จากระดับพื้นดินถึงระดับสันรางประมาณ 48 เมตร
 
(9 ตุลาคม 2563)
 
#ITDRailwayBU
 
#ITDRoadBridge2BU
 
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3477844268929160 
 
https://www.facebook.com/185621321543403/posts/3075485269223646/  
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 15/10/2020 1:02 pm     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				
 
 
Mission completed!! เฉิดฉายสกายเทรนพร้อมวางราง
 
*ทางคู่ที่สูงที่สุดในไทย50เมตรยาว5กม.สร้างเสร็จ
 
*อดใจรอปี 65นั่งรถไฟชมวิวมาบกะเบา-กลางดง
 
*รฟท.ยันออกแบบปลอดภัยได้เซลฟี่ว้าวๆถึง5 นาที
 
 
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ภาพรวมคืบหน้า 63.44% โดยสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา  คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. คืบหน้า 78.59% 
 
             ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร ชุมทางถนนจิระ 68 กม. อยู่ระหว่างขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รวมถึงขออนุมัติงบประมาณค่าก่อสร้างเพิ่มเติมจากการเปลี่ยนแปลงงานที่ อ.สีคิ้ว และตัวเมืองนครราชสีมา และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ 6 กม. คืบหน้า 51.11% ทั้งนี้เบื้องต้นจะสามารถเปิดให้บริการ ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ได้ต้นปี 65 ขณะที่คลองขนานจิตร ชุมทางถนนจิระ จะเปิดให้บริการต้นปี 68.
 
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2737536833134484   
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Mongwin  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 49276 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา  
		
			
				Posted: 19/10/2020 1:38 pm     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				เลื่อนอีกรถไฟทางคู่สายใต้ได้ใช้ปี66
 
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563
 
        
 
  'ประจวบฯ-ชุมพร' ต่อเวลา15เดือน แฉสนข.ศึกษาซ้ำซ้อน-เจออุทกภัย
 
         
 
 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ในฐานะประธานบอร์ด รฟท. เป็นประธาน ว่า  ที่ประชุมได้อนุมัติขยายระยะเวลาสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 1 จากประจวบ คีรีขันธ์-บางสะพานน้อย และสัญญาที่ 2 จากบางสะพานน้อย-ชุมพร ออกไปอีก 15 เดือน จากเดิมสัญญาที่ 1 จะสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค. 63 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 65 และสัญญาที่ 2 เดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 64 เป็นวันที่ 30 เม.ย. 65
 
          
 
ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องขยายระยะเวลา เนื่อง จากต้องปรับแบบใหม่ เพราะแบบเดิมที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาออกแบบไว้นั้น เมื่อลงพื้นที่ดำเนินการจริงปรากฏว่า มีบางส่วนทับซ้อนกับระบบอาณัติสัญญาณ นอกจากนี้ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคใต้เกิดอุทกภัย และภัยธรรมชาติต่อเนื่อง จึงต้องหยุดก่อสร้างไปบ้าง
 
         
 
นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นสาเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ถือเป็นความจำเป็น และไม่ใช่ความผิดของเอกชน ที่ประชุมจึงให้ขยายเวลาการดำเนินการ แต่ยอมรับว่าการขยายเวลาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งเดิมมีแผนจะเปิดบริการปี 65 อาจต้องเลื่อนเปิดบริการเป็นปี 66 อย่างไรก็ตามทุกวันนี้การเดินรถไฟในเส้นทางภาคใต้ยังสามารถเดินรถได้ตามปกติ แต่ยังเป็นทางเดี่ยวอยู่
 
         
 
นายนิรุฒ  กล่าวด้วยว่า   ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ รฟท. นำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับกรอบวงเงินลงทุนโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งเกิดจากภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรนำเข้า รวมทั้งผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน วงเงินรวมประมาณ 3,143 ล้านบาท แบ่งเป็น ช่วงบางซื่อ-รังสิต ประมาณ 2,255 ล้านบาท และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ประมาณ 887 ล้านบาท ส่งผลให้กรอบวงเงินโครงการฯ ที่ ครม.อนุมัติไว้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 59 จำนวน 93,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 97,093 ล้านบาท
 
          
 
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า กรอบวงเงินดังกล่าวยังไม่รวมกับการขอขยายวงเงินดำเนินงานโครงการรถไฟชานเมืองสาย สีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต เพิ่ม เติมประมาณ 10,345 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ รฟท. อยู่ระหว่างรอหนังสือตอบกลับจากสำนักงานอัยการสูงสุดที่ได้ขอให้พิจารณาคำสั่งงานก่อสร้างเพิ่มเติม หรือ Variation Order (VO) ในสัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามสัญญา และอำนาจหน้าที่ของผู้ที่กำหนดงานหรือไม่ ส่วนความคืบหน้าการทดสอบเดินรถเสมือนจริงนั้น ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้จะเริ่มทดสอบในเดือน มี.ค. 64.  
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Mongwin  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 49276 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา  
		
			
				Posted: 26/10/2020 9:03 am     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				อีไอเอทางคู่เฟส2'ขอนแก่น-หนองคาย'เวลาใกล้หมด 
 
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563
 
 
          * เหลือ2ปีหวั่นโครงการสะดุดถ้าไม่เข้าครม.
 
          * ศึกษาใหม่!!เสียเวลา'สายอีสาน'จะขาดตอน
 
         
 
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) แจ้งความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 รวม 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,483 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้างรวมกว่า 2.67 แสนล้านบาทว่า ขณะนี้ รฟท. ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมการดำเนินโครงการไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แล้ว โดยได้ยืนยันถึงความคุ้มค่าของโครงการ ตลอดจนแผนการก่อสร้าง และงบประมาณ ซึ่งจะไม่เพิ่มไปจากเดิม นอกจากนี้ยังได้ส่งผลการจัดอันดับความสำคัญของ 7 เส้นทางไปให้ด้วยว่าควรจะเริ่มก่อสร้างในเส้นทางใดก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบงบประมาณลงทุนของรัฐบาล และการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เฟสที่ 1
 
          
 
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า สำหรับผลการจัดอันดับ 7 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.58 หมื่นล้านบาท, 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงินก่อสร้าง 3.66 หมื่นล้านบาท, 3.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.3 หมื่นล้านบาท, 4.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงินก่อสร้าง 5.61 หมื่นล้านบาท, 5.ช่วงปาก น้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงินก่อสร้าง 5.93 หมื่นล้านบาท, 6.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินก่อสร้าง 7.86 พันล้านบาท และ 7.ช่วงเด่นชัยเชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินก่อสร้าง 5.79 หมื่น ล้านบาท
 
         
 
 รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า สาเหตุที่จัดให้ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มโครงข่ายรถไฟทางคู่เฟสที่ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้มีความสมบูรณ์เป็นรถไฟทางคู่ทั้งหมด และเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงที่มาจากประเทศจีน และ สปป.ลาว ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในปี 64 นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่มีความพร้อมมากที่สุด มีการออกแบบ และรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้ว แต่จุดอ่อนของโครงการนี้คือ อีไอเอ กำลังจะหมดเวลาแล้ว และจะไม่สามารถใช้ได้ตลอดโครงการก่อสร้าง 36 เดือน
 
         
 
 รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งด้วยว่า รฟท. ได้รับการอนุมัติอีไอเอช่วงขอนแก่น-หนองคายตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งอีไอเอฉบับนี้หลังจาก กก.วล.อนุมัติแล้ว จะต้องนำไปใช้เพื่อเสนอ ขอความเห็นชอบการดำเนินโครงการจาก คณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายใน 5 ปี เพราะมิฉะนั้นข้อมูลจะเก่า และสถานการณ์ก็แตกต่างไป จากตอนพิจารณา โดยเวลานี้เหลืออีก 2 ปีเท่านั้น หากดำเนินการไม่ทันตามที่กำหนด จะยิ่งทำให้เสียเวลา และการก่อสร้างต้องล่าช้าออกไป เพราะ รฟท. ต้องทบทวนมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมในอีไอเอ หรือศึกษาอีไอเอ และเสนอให้ กก.วล.พิจารณาใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการก่อสร้าง อาจจะทำให้โครงการสะดุดหลังการประกวดราคา.  
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 26/10/2020 11:16 am     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ประจำเดือนกันยายน 2563 รายงานเมื่อ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 10:51 น.
 
สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม  หนองปลาไหล
 
บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
 
สามารถติดตามข้อมูลอัพเดทได้ทาง เพจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร😀🙏
 
https://www.facebook.com/southtwintrain/posts/2756667171254688 
 
 
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ผลงานถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2563
 
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
 
19 ตุลาคม 2563 เวลา 10:11 น.
 
 
👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม  หนองปลาไหล
 
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด 
 
แผนงานสะสม = 73.143 %
 
ผลงานสะสม = 72.194 %
 
ช้ากว่าแผน = -0.949 %
 
👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
 
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 
 
แผนงานสะสม = 73.358 %
 
ผลงานสะสม = 75.076 %
 
เร็วกว่าแผน = 1.718 %
 
👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
 
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 
 
แผนงานสะสม = 77.89 %
 
ผลงานสะสม = 76.70 %
 
ช้ากว่าแผน = 1.20 %
 
👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
 
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
 
แผนงานสะสม = 64.500 %
 
ผลงานสะสม = 68.158 % 
 
เร็วกว่าแผน = 3.658 %
 
👉สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
 
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี 
 
แผนงานสะสม = 81.600 %  
 
ผลงานสะสม = 58.687 %
 
ช้ากว่าแผน = -22.913 %
 
https://www.facebook.com/southtwintrain/posts/2759624084292330 
 
 
Huai Yang Railway Station
 
22 ตุลาคม 2563 เวลา 13:04 น.
 
ประชาสัมพันธ์ครับ เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ได้มีการวางแนวรางใหม่บริเวณด้านหน้าสถานีห้วยยาง ทำให้การข้ามมาใช้บริการไม่ได้รับความสะดวก ต้องขออภัยผู้มาใช้บริการ ด้วยครับ 
 
          "เพื่อความสะดวกโปรดใช้เส้นทางด้านหลังสถานีแทนได้ครับ"
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=643736096533486&id=100026913034583   
			 
		
 
	 
	
		Back to top  
		 
	 
	
		 
	 
	
		Wisarut  
	  1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 45508 
      Location: NECTEC  
		
			
				Posted: 26/10/2020 12:01 pm     Post subject:   
				     
			 
			
				 
			 
			
				'รองผู้ว่าการรถไฟ'หนุนสร้างทางลอดทางรถไฟเพชรบุรี 
 
หน้าข่าวทั่วไทย
 
เดลินิวส์
 
พฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2563 เวลา 13.04 น.
 
 
สว.ประดิษฐ์ประสานรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยลงพื้นที่สนับสนุนสร้างทางลอดทางรถไฟให้ชุมชนหนองจอกเพชรบุรี เน้นความปลอดภัย และส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชน
 
 
 
 
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ชุมชนหนองจอก ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยนายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และ ร.ท.สำเนา  ขันธ์เครือ ที่ปรึกษาโครงการฯ นายประเสริฐ  แสนกล้า วิศกร โครงการฯ เพื่อไปยังจุดก่อสร้างรถไฟทางคู่บริเวณสถานีหนองจอก หมู่ 6 บ้านตลาด ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มีนายอจลวิชญ์ ศรีทอง ผู้ใหญ่บ้าน นายเลื่อน แสงขำ กำนัน ต.หนองจอก นายจรัญ  ไม้จันทร์  นากยกเทศมนตรี ต.หนองจอก ตลอดจนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกหลายรายรอต้อนรับและชี้แจงปัญหาความเดือดที่ได้รับผลกระทบการจากการสร้างรถไฟทางคู่และการใช้เส้นทางในการข้ามฟากไป-มาบริเวณดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาหารือประมาณ 40นาที จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปยังซอย 7 บ้านตลาด ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านในชุมชนอยากให้มีการทำอุโมงลอดทางรถไฟ เพื่อตรวจสอบและหารือความเหมาะสม  เบื้องต้นทางการรถไฟแห่งประเทศไทยยินดีดำเนินการตามข้อเสนอของชาวบ้าน โดยให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำหนังสือแจ้งไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
 
   
 
นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ได้รับการร้องทุกข์ชาวบ้านในชุมชนหนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี  ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ปิดทางสัญจรข้ามไปมาระหว่างหมู่บ้านแม้ว่าทางการรถไฟจะสร้างทางยกระดับเอาไว้ แต่ก็เป็นอุปสรรค์กับเด็กและผู้สูงอายุ โดยชาวบ้านอยากให้มีการจัดทำอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ จะได้ประโยชน์กับชุมชนมากกว่า จึงได้ประสาน การรถไฟแห่งประเทศไทย และทางผู้รับเหมาการก่อสร้างโครงการฯ บริเวณดังกล่าว มาหาทางออกร่วมกัน
 
 
 
 
 
 
นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก สว.ประดิษฐ์ เหลืองอร่าม ว่าที่ชุมชนหนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ มีความลำบากในการที่จะข้ามทางรถไฟ ดังนั้นทาง สว.ประดิษฐ์ อยากให้ การรถไฟพิจารณาว่าจะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนตรงจุดนี้ได้อย่างไร  ซึ่งจากที่มาดูในวันนี้ พบว่าสภาพพื้นที่สามารถที่จะสร้างทางลอดทางรถไฟได้ เพราะจะไม่เปลืองค่าใช้จ่ายสูงและมีความปลอดภัย หากเป็นทางข้ามเสมอระดับอาจจะมีปัญหาทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
 
 
 
รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการดำเนินการก่อสร้างนั้นจะต้องมีการได้รับหนังสือร้องขอจากทางหน่วยงานท้องถิ่น เราก็จะพิจารณาจัดทำรูปแบบ จากนั้นก็จะทางผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างให้ต่อไป
 
   
 
ด้านนายอจลวิชญ์ ศรีทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6บ้านตลาด (ชุมชนหนองจอก) กล่าวว่า อยากให้ทางการรถไฟทำอุโมงค์ลอดเพื่อผ่านเส้นทางรถไฟทางคู่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเด็กนักเรียนที่ต้องข้ามฝากมาเรียนหนังสือทุกวัน รวมถึงผู้สูงอายุที่ไม่สามารถขับขี่รถขึ้นสะพานยกระดับไหว และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนเหมือนในสมัยก่อน เพราะเมื่อมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทางที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเคยใช้สัญจรข้ามไปมาก็ถูกปิดตัวลง แม้ว่าทางการรถไฟจะทำทางยกระดับไว้ให้แต่ก็ทำให้พฤติกรรมและวิถีชีวิตประจำวันของชาวบ้านเปลี่ยนไป เนื่องจากมีความสูงและห่างไกล ทำให้ชาวบ้านไม่ข้ามฝั่งมาจับจ่ายใช้สอยกันเท่าที่ควร. 
			 
		
 
	 
	
		Back to top