View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
Posted: 11/08/2021 7:27 pm Post subject: |
|
|
ข้อน่ารู้ที่ได้จาก EIA ทางคู่ที่ผ่านการอนุมัติแล้ว
ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มที่กม. 217 + 005.328 ห่างจาก สถานีหัวหินที่ กม. 213+110.400 ไปประมาณ 4 กิโลเมตร สิ้นสุดโครงการที่ กม.301+100 ห่างจากสถานี ประจจวบคีรีขันธ์ที่กม. 302+339.000 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร
1. สถานีหนองแก กม. 216 + 987 สถานีขนาดเล็กที่ใช้การปรับปรุงต่อเติม (S) -
2. สถานีสวนสนประดิพัทธ์ กม. 220 + 937 สถานีขนาดกลางต้องสร้างใหม่เพราะยกจากที่หยุดรถ (M)
3. สถานีเขาเต่า กม. 225 + 337 สถานีขนาดเล็กที่ใช้การปรับปรุงต่อเติม (S)
4. สถานีวังก์พง กม. 233 + 016 สถานีขนาดกลาง สร้างใหม่ (M) โดยสร้างศูนย์ควบคุมการเดินรถ แบบ Local Area Control Centre
5. สถานีปราณบุรี กม. 235 + 862 สถานีขนาดกลาง สร้างใหม่ (M) โดยมีห้องสื่อสารใหม่
6. ป้ายหยุดรถบ้านห้วยขวาง กม. 242 + 044 ที่เพิ่มช่านชลาสองด้าน และ ที่ร่ม (T)
7. สถานีหนองคาง กม. 246 + 939 สถานีขนาดเล็กที่ใช้การปรับปรุงต่อเติม (S) โดยมีห้องสื่อสารใหม่
8. สถานีสามร้อยยอด กม. 254 + 984 สถานีขนาดเล็กที่เพิ่มชานพักสินค้า (S) โดยมีห้องสื่อสารใหม่ และ มี Container yard ด้วย
9. สถานีสามกระทาย กม. 260 + 961 สถานีขนาดเล็กที่ใช้การปรับปรุงต่อเติม (S) -
10. สถานีกุยบุรี กม. 271 + 323 สถานีขนาดกลาง สร้างใหม่ เพราะต้องย้ายตำแหน่ง (M) โดยอยู่ในแนวรางประธานใหม่ เนื่องจากมีการแก้ไขส่วนโค้ง
11. สถานีบ่อนอก กม. 278 + 838 สถานีขนาดเล็กที่ใช้การปรับปรุงต่อเติม (S) โดยอยู่ในแนวรางประธานใหม่
12. สถานีทุ่งมะเม่า กม. 288 + 944 สถานีขนาดเล็ก สร้างใหม่ เพราะต้องย้ายตำแหน่ง (S) เพราะ ติดสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ และมี Container yard ด้วย
13. สถานีคั่นกระได กม. 294 + 647 สถานีขนาดเล็กที่ใช้การปรับปรุงต่อเติม (S) โดยอยู่ในแนวรางประธานใหม่
จุดไหนส่วนโค้งรัศมี 1600 เมตร ถือว่าทำความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จุดไหนส่วนโค้งรัศมี 1000 เมตร ถือว่าทำความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
https://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=12396
ทางคู่ หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์
1. ชุมทางหาดใหญ่ กม. 928 + 580.00 สถานีขนาดใหญ่ - จุดเริ่มต้นโครงการที่ กม. 928 + 860
2. ป้ายหยุดรถบ้านพรุ กม. 936 + 925.00
3. สถานีศาลาทุ่งลุง กม. 944 + 887.50
4. สถานีคลองแงะ กม. 952 + 625 สถานีลอยฟ้า
5. ป้ายหยุดรถคลองรำ กม. 961 + 100.00
6. ป้ายหยุดรถบ้านท่าข่อย กม. 968 + 450.00
5. สถานีปาดังเบซาร์ 2 กม. 972 + 900.00
สิ้นสุดที่หลักเขตแดน กม. 973 + 306.550
มีการแก้โค้ง 6 จุด แถว ป้ายหยุดรถบ้านพรุ สถานีศาลาทุ่งลุง ก่อนเข้าสถานีคลองแงะ บ้านท่าโพธิ์ ก่อนถึงป้ายหยุดรถบ้านท่าข่อย ให้ได้พิกัด ส่วนโค้งรัศมี 1600 เมตร ถือว่าทำความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หวังว่าจะฟื้นฟูการเดินรถหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ยืดรถท้องถิ่นที่สุดทางหาดใหญ่ให้ไปปาดังเบซาร์ หรือ จะมีการตัดสองขบวนให้เกิดรถ สุราษฏร์ธานีไปปาดังเบซาร์ เหมือนรถ ดพ. 37/38 นะครับ
https://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=13287
ทางคู่ ขอนแก่น - หนองคาย เริ่มที่ กม. 453+955 (4.2 กิโลเมตร เหนือสถานีขอนแก่นที่ลอยฟ้า ณ กม. 449 + 750) หมดระยะที่หนองคาย กม. 621 + 345
มีการแก้โค้งที่ ให้ได้พิกัด ส่วนโค้งรัศมี 1600 เมตร ถือว่าทำความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ระยะทางหดจาก 169 กิโลเมตรเหลือ 166 กิโลเมตร
1) โนนพยอม - น้ำพอง (กม. 471+500 กม. 476+900)
2) เขาสวนกวาง - โนนสะอาด (กม. 504+400 กม. 507+900)
ทางลอยฟ้า 9.44 กิโลเมตร กม. 565 + 221.640 - กม. 574+661.640 เพื่อ เตรียมการสร้างสถานีอุดรธานีแบบลอยฟ้า ที่ กม. 568+500
และ ทางลอยฟ้าช่วงน้ำพอง กม. 481 + 013 - กม. 484 + 573 เพื่อเตรียมการสร้างสถานีน้ำพอง แบบลอยฟ้า
สถานีและที่หยุดรถ
1. สถานีสำราญ กม. 460 + 704.388 สถานีชั้น 3 ปรับปรุงอาคารไม้ 1 ชั้น ให้มีพื้นที่ 246 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
2. ที่หยุดรถห้วยไห กม. 466 + 942.444 เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
3. สถานีโนนพยอม กม. 474+930 สถานีชั้น 3 ปรับปรุงอาคารไม้ 1 ชั้น ให้มีพื้นที่ 262 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา ให้เฉพาะ รถ ธรรมดา (รถท้องถิ่น) เท่านั้นที่ผ่านสถานีโนนพยอม ส่วน รถเร็ว รถด่วน รถสินค้าให้ไปทางใหม่ ที่ผ่านการแก้โค้งแล้ว
4. ที่หยุดรถบ้านวังชัย (เดิม กม. 480+450 ใหม่ กม. 479+125.85) เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
5. สถานี น้ำพอง (เดิม กม. 484+210 ใหม่ กม. 482+828.636) สถานีชั้น 2 ต้องสร้างใหม่จากอาคารไม้ 1 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กลอยฟ้า 1 ชั้น ขนาด 284 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตรจากอาคารไม้ 1 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 276 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร โดยขยับย้าย จากสถานีเดิมลงทางใต้ 57 เมตรทำให้ห่างจากชุมชนใกล้ที่สุด จากเดิม 65 เมตร เป็น 98 เมตร เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
6. ที่หยุดรถห้วยเสียว (เดิม กม. 489+950 ใหม่ กม. 488+620.459) สถานีที่โดนลดชั้นเป็นที่หยุดรถ เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
7. สถานีเขาสวนกวาง (เดิม กม. 500+510 ใหม่ กม. 499+213.753) สถานีชั้น 2 จากอาคารไม้ 1 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 276 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร ต้องสร้างใหม่โดยขยับย้าย จากสถานีเดิมลงไปทางเหนือ 44 เมตรทำให้ห่างจากชุมชนใกล้ที่สุด จากเดิม 90 เมตร เป็น 105 เมตร เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
8. สถานีโนนสะอาด (เดิม กม. 514+450 ใหม่ กม. 512+947.781) สถานีชั้น 2 ต้องสร้างใหม่ จากอาคารไม้ 1 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 276 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร โดยขยับย้าย จากสถานีเดิมลงทางใต้ 27 เมตรทำให้ห่างจากชุมชนใกล้ที่สุด จากเดิม 85 เมตร เป็น 90 เมตร และ เพิ่ม container yard ด้วย เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
9. สถานีห้วยเกิ้ง (เดิม กม. 523+400 ใหม่ กม. 521+919.637) สถานีชั้น 3 ไม่มีหลีก ปรับปรุงอาคารไม้ 1 ชั้น ให้มีพื้นที่ 246 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร เพิ่มทางเดินเชื่อม 2 ทาง ห่างจากจุดกึ่งกลางสถานีข้างละ 50 เมตร มีทั้งบันไดกับลิพท์คนพิการ เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
10. สถานีกุมภวาปี (เดิม กม. 532+500 ใหม่ กม. 530+955.756) สถานีชั้น 2 ต้องสร้างใหม่จากอาคารไม้ 1 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 276 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร และถมดินสูง 3 เมตร โดยขยับย้าย จากสถานีเดิมลงทางใต้ 57 เมตรทำให้ห่างจากชุมชนใกล้ที่สุด จากเดิม 183 เมตร เป็น 215 เมตร
11. สถานีห้วยสามพาด (เดิม กม. 542+750 ใหม่ กม. 541+275.538) สถานีชั้น 3 ไม่มีหลีก ปรับปรุงอาคารไม้ 1 ชั้น ให้มีพื้นที่ 246 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร เพิ่มทางเดินเชื่อม 2 ทาง ห่างจากจุดกึ่งกลางสถานีข้างละ 50 เมตร มีทั้งบันไดกับลิพท์คนพิการ เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
12. สถานีหนองตะไก้ (เดิม กม. 550+650 ใหม่ กม. 549 + 000) สถานีชั้น 2 ต้องสร้างใหม่ จากอาคารไม้ 1 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 276 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร โดยขยับย้าย จากสถานีเดิมลงทางใต้ 172 เมตรทำให้ห่างจากชุมชนใกล้ที่สุด จากเดิม 84 เมตร เป็น 93 เมตร มี container yard
13. ที่หยุดรถคำกลิ้ง (เดิม กม. 562+050 ใหม่ กม. 560+587.819) เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
14. สถานีหนองขอนกว้าง (เดิม กม. 562+050 ใหม่ กม. 563+944.325) สถานีชั้น 3 ไม่มีหลีก ปรับปรุงอาคารไม้ 2 ชั้น ให้มีพื้นที่ 265 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร เพิ่มทางเดินเชื่อม 2 ทาง ห่างจากจุดกึ่งกลางสถานีข้างละ 50 เมตร มีทั้งบันไดกับลิพท์คนพิการ
15. สถานีอุดรธานี (เดิม กม. 568+840 ใหม่ กม. 5ุ67+385.42) สถานีชั้น 1 ปรับปรุงเป็นสถานีลอยฟ้าอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้นให้มีพื้นที่ 1251 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 190 ตารางเมตร เพิ่มทางเชื่อมใต้สถานีลอยฟ้า ชานชลาลอยฟ้า มีบันได บันไลเลื่อน และ ลิฟท์ พร้อมปรับปรุงชานชลาเดิมด้วย
16. สถานีนาพู่ (เดิม กม. 593+090 ใหม่ กม. 591+642.907) สถานีชั้น 3 อาคารคอนกรีต 2 ชั้น ให้มีพื้นที่ 2ุภ ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร เพิ่มทางเดินเชื่อม 2 ทาง ห่างจากจุดกึ่งกลางสถานีข้างละ 50 เมตร มีทั้งบันไดกับลิพท์คนพิการ เพิ่มหลังคากะพื้นชานชลา
17. สถานีนาทา (เดิม กม. 617+840 ใหม่ กม. 616+435.124) สถานีชั้น 3 ต้องสร้างใหม่ จากอาคารไม้ 2 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 276 ตารางเมตร ห้องน้ำ 45 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 160 ตารางเมตร โดยขยับย้าย จากสถานีเดิมลงทางใต้ 51 เมตรทำให้ห่างจากชุมชนใกล้ที่สุด จากเดิม 114 เมตร เป็น 160 เมตร มี container yard และโรงซ่อมบำรุงเบา
18. สถานีหนองคาย (เดิม กม. 621+100 ใหม่ กม. 619+703.909) สถานีชั้น 1 ปรับปรุงอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้นให้มีพื้นที่ 1183 ตารางเมตร ห้องเครื่อง 190 ตารางเมตร เพิ่มทางเดินเชื่อม 2 ทาง ห่างจากจุดกึ่งกลางสถานีข้างละ 100 เมตร มีบันได บันไลเลื่อน และ ลิฟท์ พร้อมปรับปรุงชานชลาเดิมพร้อมสร้างเพิ่มจาก 2 ชานชลาเป็น 3 ชานชลาด้วย
https://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=15141 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
Posted: 20/08/2021 1:02 pm Post subject: |
|
|
รถไฟทางคู่คาดใช้งานปี ๖๙ เลื่อนทุบสะพานสีมาธานี ยืนยันไม่รื้อสะพานหัวทะเล
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ ๑๓ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
ตีพิมพ์ใน นสพ.โคราชคนอีสาน
ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๑
วันพุธที่ ๑๑ - วันอังคารที่ ๑๗ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
รฟท.เผยความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สัญญาที่ ๒ ขณะนี้กำลังปรับแบบช่วงตำบลบ้านใหม่ พร้อมรอของบประมาณก่อสร้างปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ ด้านกรมทางหลวงรับหน้าที่ทุบสะพานสีมาธานีและสร้างทางลอด คาดเริ่มปี ๒๕๖๖ สรุปรถไฟทางคู่ เปิดใช้งานมกราคม ๒๕๖๙ ยืนยันไม่ทุบสะพานหัวทะเล ชี้ไม่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง
สืบเนื่องจาก ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้อยู่อาศัย บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ยื่นหนังสือขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สนับสนุนให้รื้อสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล เพื่อยกระดับรางรถไฟทางคู่ตลอดช่วงผ่านเมือง ระยะทางประมาณ ๗ กิโลเมตร
จากนั้น เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ยื่นหนังสือ ขอทราบความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ยกระดับ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ให้แก่นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณาจัดประชุมนำเสนอรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงผ่านเมืองนครราชสีมา โดยให้มีเจ้าหน้าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำเสนอ
ต่อมา เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ ๑๐ (นครราชสีมา) พร้อมด้วยนายชิตพล เหล่าอัน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ ๒ และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ยกระดับ ช่วงผ่านเมืองนครราชสีมา เพื่อชี้แจงรายละเอียดการออกแบบ แผนงานความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ ๒ ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ และแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีรื้อถอนสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล โดยมีนายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ กรรมการที่ปรึกษาฯ นายอรชัย ปุณณะนิธิ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference
เลื่อนทุบสะพานสีมาธานี
ล่าสุด เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔ นายชิตพล เหล่าอัน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ ๒ ให้สัมภาษณ์ โคราชคนอีสาน ถึงการประชุมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ยกระดับ ช่วงผ่านเมืองนครราชสีมา โดยเปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรายงานความคืบหน้าของโคราชการรถไฟทางคู่ ในกรณีที่จะมีการทุบสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเล โดยในการประชุมเจ้าหน้าที่จาก รฟท. รายงานเรื่องทุบสะพานสีมาธานีว่า ขณะนี้ยังดำเนินการทุบไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันผลการศึกษา EIA ยังติดปัญหาการปรับปรุงรูปแบบบริเวณตำบลบ้านใหม่และในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ทำให้ยังนำเรื่องของบประมาณในการทุบสะพานสีมาธานี เข้าในที่ประชุม ครม.ไม่ได้ ในส่วนของกรมทางหลวง จึงไม่สามารถดำเนินการต่อได้เช่นกัน เพราะต้องรอให้โครงการผ่านความเห็นชอบ EIA ก่อน หากประเด็นนี้ผ่าน กรมทางหลวงก็จะดำเนินการของบประมาณทุบรื้อและก่อสร้างทางลอด ซึ่งในที่ประชุมรายงานว่า ถ้าไม่มีปัญหาอื่นเพิ่มเติม คาดว่า การปรับแบบและการศึกษา EIA ของ รฟท.จะแล้วเสร็จประมาณปลายปี ๒๕๖๕ หลังจากนั้นกรมทางหลวงจึงจะดำเนินการต่อได้ เพราะรูปแบบการก่อสร้างทางลอด รฟท.จะเป็นผู้ออกแบบทั้งหมด แต่จะใช้งบประมาณของกรมทางหลวง โดยใช้ผลการศึกษา EIA มาดำเนินการ ในส่วนของสะพานหัวทะเล สรุป รฟท.จะคงรูปแบบเดิมไว้ คือ ก่อสร้างรางรถไฟระดับพื้นดิน ไม่มีการยกระดับ
ปรับแบบรถไฟทางคู่
นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ กรรมการที่ปรึกษา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับ โคราชคนอีสาน ว่า เริ่มต้นเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ประกอบการบริเวณแยกอัมพวัน มายื่นหนังสือให้หอการค้าจังหวัดฯ เพื่อขอทราบรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่ รวมถึงการจราจรขณะทุบสะพานสีมาธานีและก่อสร้างทางลอด ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบริเวณรอบสะพานหัวทะเล มายื่นหนังสือให้หอการค้าจังหวัดฯ เพื่อขอทราบรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่และขอให้รื้อสะพานหัวทะเล หอการค้าจังหวัดฯ จึงรับเรื่องทั้ง ๒ กลุ่มไว้ โดยเสนอถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงเป็นที่มาของการจัดประชุมร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมทางหลวง โดยมีภาครัฐและเอกชนในโคราชเข้าร่วมด้วย ซึ่งการออกแบบโครงการรถไฟทางคู่ช่วงผ่านเมืองโคราช ทุกคนคงทราบรายละเอียดแล้ว เพราะมีการประชุมเรื่องทุบสะพานสีมาธานีหลายครั้ง เมื่อปัญหาการทุบสะพานสีมาธานีจบ ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องถนน เนื่องจากสภาพัฒน์ชี้ว่า ถนนข้างล่างควรเป็นของกรมทางหลวงไม่ใช่ของ รฟท. โดยสรุปแล้วการก่อสร้างรถไฟจะเป็นหน้าที่ของ รฟท. ส่วนถนนข้างล่างจะให้กรมทางหลวงรับผิดชอบ ดังนั้น กรมทางหลวงจึงเน้นถนนมิตรภาพใต้สะพานสีมาธานีเป็นพิเศษ ซึ่งการทุบสะพานและการสร้างอุโมงค์จึงให้กรมทางหลวงรับผิดชอบ
ความคืบหน้าล่าสุด
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าปัจจุบันของรถไฟทางคู่ มีประเด็นเกิดขึ้น ๓ จุด คือ ๑.ก่อนถึงสะพานสีมาธานี ๒.บริเวณสะพานสีมาธานี และ ๓.บริเวณสะพานหัวทะเล ซึ่งขณะนี้บริเวณตำบลบ้านใหม่ มีประชาชนส่วนหนึ่งร้องเรียนเรื่องการออกแบบว่า รางรถไฟอยู่บนคันดิน ทำให้เป็นการแบ่งแยกพื้นที่ ๒ ฝั่ง ซึ่ง รฟท.ก็รับเรื่องและขณะนี้กำลังปรับแบบ จากเดิมที่มีบล็อกคอนเวิร์สก็จะเปลี่ยนมาใช้สะพานบก คือ ทำเป็นสะพานพาดผ่านรางรถไฟ โดยยังคงความกว้างของถนนไว้ แต่จะขยายคันดินของสองข้างทางให้กว้างขึ้น สำหรับกรณีที่ประชาชนขอเป็นตอม่อตลอดช่วงผ่านตำบลบ้านใหม่ คงจะยาก เพราะติดเรื่องงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้น แต่ รฟท.ก็รับปากว่า จะดูแลถนนต่างๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อให้ดูแล้วโล่ง ไม่เป็นการแบ่งแยกพื้นที่ แต่เรื่องความสูงของคันดิน อาจจะปรับแก้ไม่ได้ เนื่องจากบริเวณตำบลบ้านใหม่ จะต้องคงความสูงไว้ หากทำยกระดับรถไฟก็จะชนกับสะพานสามแยกปักธงชัย ถ้าจะทุบทิ้งคงวุ่นวายกว่าทุกสะพาน เมื่อมาถึงจุดสะพานสีมาธานี ขณะนี้ รฟท.กำลังปรับแบบเนื่องจากมีการร้องเรียนจากการทำประชาพิจารณ์ว่า รูปแบบบางส่วนไม่เหมาะสม แต่การปรับแก้แบบก็ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด เพราะติดเงื่อนไขบางเรื่อง แต่ รฟท.ก็พยายามปรับให้ได้มากที่สุด ซึ่ง รฟท.เปิดเผยว่า หากการปรับแบบช่วงตำบลบ้านใหม่และสะพานสีมาธานีเสร็จสิ้น จากนั้นนำเรื่องเข้า ครม. เพื่อของบประมาณก่อสร้าง คาดว่า จะเป็นช่วงปลายปี ๒๕๖๕ และคาดว่า การก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมกราคม ๒๕๖๙ สรุปว่า ในปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕ สะพานสีมาธานียังไม่ได้ทุบแน่ๆ
คาดเสร็จปี ๒๕๖๙
รฟท.จะเริ่มในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ถึง ๒๕๖๖ แต่เมื่อ ครม.อนุมัติงบประมาณก็จะไม่ได้ทำตรงสะพานสีธานีทันที แต่จะทำในจุดอื่นก่อน เมื่อ รฟท.ได้รับงบประมาณมาและลงมือ กรมทางหลวงก็จะเสนอของบประมาณ เพื่อก่อสร้างทางลอดและทุบสะพานสีมาธานี ซึ่ง รฟท.คุยกับกรมทางหลวงว่า แผนงานของกรมทางหลวงจะล่าช้ากว่า รฟท. เป็นเวลา ๑ ปี สำหรับระยะเวลาในการก่อสร้างทางลอดและทุบสะพานสีมาธานี เริ่มต้นกรมทางหลวงจะทำถนนข้างสะพาน ๓ เลน จากนั้นจะเริ่มทุบสะพานเป็นเวลา ๖ เดือน และก่อสร้างทางลอดใช้เวลา ๑ ปี ๖ เดือน ถึง ๒ ปี ดังนั้น กรมทางหลวงจะก่อสร้างในพื้นที่สะพานสีมาธานีประมาณ ๒ ปีครึ่ง ถึง ๓ ปี ซึ่งระยะเวลานี้จะไปสอดรับกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ที่บอกว่า จะเสร็จในปี ๒๕๖๙
ไม่ทุบสะพานหัวทะเล
เมื่อรถไฟทางคู่ผ่านช่วงสะพานสีมาธานี เข้าสู่สถานีรถไฟนครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานียกระดับ จากนั้นจะเริ่มไต่ระดับลงไปยังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ และจะลดระดับถึงระดับพื้นก่อนถึงสะพานหัวทะเล จากนั้นก็ลอดใต้สะพานหัวทะเลต่อไป ส่วนรถไฟความเร็วสูงจะวิ่งสูงกว่าสะพานหัวทะเลอยู่แล้ว ซึ่ง รฟท.ชี้แจงในที่ประชุมว่า สะพานหัวทะเลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างทางรถไฟ หากจะแก้แบบเพื่อยกระดับรถไฟทางคู่ ก็ไม่มีเหตุและผลที่จะต้องลงทุนในการยกระดับ ซึ่งต่างกับสะพานสีมาธานีที่ต้องยกระดับเพราะสถานีรถไฟนครราชสีมาเป็นสถานีรถไฟยกระดับ เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง หากจะยกระดับ และทุบสะพานหัวทะเล รฟท.เขาใช้คำว่า สะพานไม่เป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง สรุปคือ จะไม่มีการทุบสะพานหัวทะเล หากดูตามแบบของ รฟท. สะพานไม่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงผ่านเมืองโคราช อยู่ในสัญญาที่ ๒ มีจุดสิ้นสุดโครงการก่อนถึงสะพานหัวทะเล แต่ช่วงหลังจากสถานีชุมทางถนนจิระและลอดใต้สะพานไป เป็นพื้นที่ของสัญญารถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ทำเสร็จแล้ว เหลือแค่เชื่อมกับสัญญาที่ ๒ ทั้งนี้ หลังการประชุมครั้งนี้ หอการค้าจังหวัดฯ จะรวบรวมข้อมูลและชี้แจงต่อผู้ร้องเรียนต่อไป
ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง ๑๓๕ กิโลเมตร แบ่งออกเป็น ๓ สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ ๑ ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง ๕๘ กิโลเมตร, สัญญาที่ ๒ ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ (โคราช) ระยะทาง ๖๙ กิโลเมตร อยู่ระหว่างปรับรูปแบบการก่อสร้าง (ตำบลบ้านใหม่) ในช่วงผ่านเมืองโคราช จะยกระดับระยะทางรวม ๕.๔๐ กิโลเมตร ใช้งบประมาณ ๑๑,๕๑๘ ล้านบาท และสัญญาที่ ๓ งานอุโมงค์ ระยะทาง ๘ กิโลเมตร วงเงิน ๙,๓๙๙ ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
Posted: 23/08/2021 12:18 am Post subject: |
|
|
Wisher Zand
22 สิงหาคม 2564 เวลา 14:36 น.
เมื่อต้นเดือนเมื่อที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดทดลองใช้รถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอีกขึ้นหนึ่งของ รถไฟไทย ทั้งระบบรถไฟฟ้า ชานชาลาระดับเดียวกับรถ(ชานสูง) หลังคาที่คลุมแดดคลุมฝน และระบบอาณัตสัญญาณ ETCS ที่ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่มาตราฐานใหม่ของการรถไฟแห่งประเภทไทยในอนาคต
.
ท่ามกลางความหวัง ก็มาพร้อมกับความผิดหวัง เมื่อโครงการรถไฟทางคู่ที่ได้รับการอนุมัติทีหลัง ไม่ได้หยิบ ความทันสมัย ความสวยงาม และการออกแบบชานชาลาและหลังคาที่กันแดด ฝน ได้ จากรถไฟชานเมืองของกรุงเทพฯไปใช้เลย แช่แข็งรูปแบบความทันสมัยเอาไว้ในมหานคร โดยอ้างความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น (ที่หยิบมาใช้แต่ผิวเผิน แต่ใช้งานไม่ได้จริง) เช่นหลังคาหน้าจั่วของสถานียกระบบขอนแก่น ที่มีไว้ประดับบนหลังคาอีกที แต่ไม่สามารถให้ร่มเงากับผู้ใช้งานได้
.
เลยอดไม่ได้ที่จะลองรีทัช เอาหลังคาของรถไฟชานเมืองสายสีแดง มาลองแปะทับบนชานชาลาของสถานีของแก่นดูว่า ถ้าความทันสมัยสามารถไปตามรถไฟที่อยู่นอกกรุงได้ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
.
ปล.รถไฟสายสีแดงเองก็มีรถรางดีเซลวิ่งผ่าน จึงไม่น่าจะถือเป็นปัญหาทั้งหมดในการทำหลังคาให้คลุมไม่ได้ เชื่อว่าออกแบบให้เว้นช่องตรงกลางไว้ ก็น่าจะช่วยระบายอากาศได้ดีขึ้น ใช้โทนสีที่เข้ม เพื่อที่เวลาเกิดคราบเขม่าควันจะได้ไม่ดูสกปกและสดุดตาจนเกินไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
Posted: 24/08/2021 9:18 pm Post subject: |
|
|
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ผลงานถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2564 รายงานเมื่อ 23 สิงหาคม 2564
👉สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
แผนงานสะสม = 88.909 %
ผลงานสะสม = 90.043 %
เร็วกว่าแผน = 1.134 %
👉สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 87.277 %
ผลงานสะสม = 87.342 %
เร็วกว่าแผน = 0.065 %
👉สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 94.82 %
ผลงานสะสม = 93.01 %
ช้ากว่าแผน = -1.81 %
👉สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
แผนงานสะสม = 80.861 %
ผลงานสะสม = 79.646 %
ช้ากว่าแผน = -1.215 %
👉สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
แผนงานสะสม = 83.044 %
ผลงานสะสม = 77.265 %
ช้ากว่าแผน = -5.779 %
https://www.facebook.com/southernlinetrackdoublingproject/posts/2996650970589639 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
Posted: 26/08/2021 6:39 am Post subject: |
|
|
#รู้หรือไม่ เพชรบุรีกำลังจะมีรถไฟรางคู่!😲😲
เมืองเพชรบุรี
วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เวลา 14:48 น.
รถไฟทางคู่สายใต้เส้นนครปฐม ชุมพร เป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่จะวิ่งผ่านตัวเมืองเพชรบุรีของเรา 🚂🚂
ปัจจุบันมีรถไฟโดยสารผ่านสถานีเพชรบุรีประมาณ 30 ขบวนต่อวัน และจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า !!! หลังจากโครงการรถไฟทางคู่แล้วเสร็จ รถไฟสามารถวิ่งด้วยความเร็วถึง 90 กม./ชม. แวะจอดที่สถานีเพชรบุรี สถานีรถไฟแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง และกำลังขยายปรับปรุงเพื่อรองรับประชากรที่มีอยู่กว่าแสนคนในอำเภอเมืองของเรา
โดยรถไฟจะวิ่งผ่านใจกลางเมืองเพชรบุรี ทำให้มีจุดตัดถนนกับรถไฟในเมืองมากถึง 10 จุด ตลอดระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร⚠️⚠️⚠️
แต่
ปัญหาก็คือปัจจุบันจุดตัดดังกล่าวเป็นเพียงไม้กั้น บางจุดยังคงใช้ทางลัดข้ามในการข้ามทางรถไฟ ทำให้ต้องหยุดรอให้รถไฟไปก่อน ซึ่งปัจจุบันไม้กั้นจะใช้เวลารอประมาณ 2 นาทีต่อรอบ
หากทางคู่สร้างแล้วเสร็จ จะมีรถไฟวิ่งผ่านเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า และส่วนใหญ่เป็นรถส่งสินค้าที่มีความยาวขบวนมากกว่ารถไฟโดยสาร ทำให้ต้องใช้เวลารอรถไฟผ่านจุดตัดนานขึ้น จาก 1 ชม.ต่อวัน อาจจะเพิ่มขึ้นถึง 3 ชม.ต่อวัน และด้วยจุดตัดถึง 10 จุดในเมืองส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนั้นยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น เราจึงเชิญชวนทุกคนมาเรียกร้องให้พิจารณากลับมาสร้างสะพานข้ามทางรถไฟที่เคยวางแผนเอาไว้ตามเดิม
ออกจะน่าเสียดายที่คนเมืองเพชรบุรี และ คนเมืองราชบุรี ไม่เห็นคุณค่าอาคารสถานีเดิมที่เก่ามาแต่ปี 2458 เลยยินดีให้ทุบทิ้งสร้างใหม่ ที่ ไม่ค่อยจะเหมือนอาคารเดิมนัก |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43640
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|