Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 25/10/2021 7:46 am Post subject:
รฟท.ยืดสัญญา'มาบกะเบา-คลองขนานจิตร'ก่อสร้างดีเลย์7.43%เลื่อนปิดจ็อบธ.ค.65
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Monday, October 25, 2021 05:19
ผู้จัดการรายวัน360 - บอร์ด รฟท.เห็นชอบขยายเวลาก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วง มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงคลองขนานจิตร อีก 309 วัน หรือสิ้นสุด 5 ธ.ค. 65 เหตุส่งมอบพื้นที่ ชี้เหตุสุดวิสัยเกี่ยวข้องหน่วยราชการภายนอก ล่าสุดยังสร้างช้ากว่าแผน 7.43%
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2564 ได้มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ออกไปอีก 309 วันจากเดิมสัญญาสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 2565 ออกไปสิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 2565
เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างที่อยู่ในเขตป่าไม้ และการประสานกับหน่วยงานอื่น ทำให้ ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ตามกำหนด ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยและไม่ได้เป็นความผิดของ ผู้รับจ้างแต่อย่างใด
โดยรถไฟทางคู่ (มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ) สัญญาที่1 สัญญา 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร (กม.134+250-กม.198+200) ระยะทาง 58 กม. เป็นทางระดับพื้น 53 กม. และยกระดับประมาณ 5 กม. สะพานรถไฟ 20 แห่ง สะพานข้ามทางรถไฟ 1 แห่ง สะพานกลับรถรูปตัวยู 6 แห่ง ท่อลอดเหลี่ยมใต้รถไฟ 2 แห่ง สถานีรถไฟ 7 แห่ง ปรับปรุงสถานีเดิม 3 แห่ง สร้างสถานีใหม่ระดับพื้น 3 แห่ง สถานีใหม่ยกระดับ 1 แห่ง โดยจุดเด่นของการก่อสร้าง มีช่วงที่เป็นทางยกระดับที่สูงที่สุด คือ 50 เมตร บริเวณมวกเหล็ก
โดยมี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 7,560 ล้านบาท สัญญาเดิมเริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 สิ้นสุด วันที่ 31 ม.ค. 2565 ขยายไปสิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 2565 ความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ เดือน ก.ค. 2564 มีผลงานที่ 89.81% ล่าช้ากว่าแผน 7.43% (แผนงาน 97.14%)
ส่วนรถไฟทางคู่ (มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ) สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอุโมงค์ ก่อนหน้านี้ บอร์ด รฟท.ได้อนุมัติ ขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก 271 วัน จากเดิมสัญญาสิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ออกไปสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. 2565 เนื่องจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าเช่นกัน โดยความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ เดือน ก.ค. 2564 มีผลงานที่ 84.83% ล่าช้ากว่าแผน 8.872% (แผนงาน 93.702%).
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 25 ต.ค. 2564
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 26/10/2021 11:26 am Post subject:
รีวิวทางคู่สายอีสาน มาบกะเบา-จิระ สร้างไกล79%ใกล้ได้ใช้บริการปีหน้า
เดลินิวส์ 26 ตุลาคม 2564 8:00 น.
มุมคนเมือง
วันก่อนพาไปเช็กสถานะภาพรวมโครงการรถไฟทางคู่ 14 เส้นทาง ทั้งระยะ (เฟส) แรกและเฟส 2 ความยาวรวม 2,476 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนเกือบ 4 แสนล้านบาทของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ก่อกำเนิดในรัฐบาลยุค คสช.
วันนี้จะพาไปรีวิวโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็น 1 ใน 7 เส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่ เฟสแรก ระยะทางรวม 993 กม. วงเงินรวม 113,660 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ดำเนินงานโดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้ผลงานการก่อสร้างในภาพรวมแล้วกว่า 79%
สัญญาที่ 1 งานโยธาและระบบราง ช่วงมาบกะเบาคลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. คืบหน้า 91.63% ช้ากว่าแผน 7.11% เนื่องจากมีพื้นที่โครงการบางส่วนที่ รฟท. ยังไม่ได้ส่งมอบอีกประมาณ 7% โดยอยู่ระหว่างเร่งรัดการดำเนินงาน และส่งมอบให้ผู้รับจ้างโดยเร็ว
ความล่าช้าในการก่อสร้างที่เกิดขึ้นของสัญญาที่ 1 นอกจากผู้รับจ้างเข้าพื้นที่เวนคืนไม่ได้ตามแผนงานแล้ว การเปลี่ยนแปลงรูปแบบและความสูงของชานชาลาของ รฟท. ก็ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ ทางผู้รับจ้างจึงทำหนังสือขอก่อสร้างชานชาลาความสูง 110 เซนติเมตร (ซม.) เท่ากับพื้นตู้โดยสารรถไฟ ทุกสถานี รวม 7 สถานีตามแบบในสัญญาแล้ว
เนื่องจากต้องการก่อสร้างชานชาลาให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพราะหากยังรอข้อสรุปเรื่องชานชาลาจาก รฟท. จะทำให้กระทบกับแผนงานได้ โดยขณะนี้การก่อสร้างชานชาลาใกล้จะแล้วเสร็จทุกสถานี ขณะเดียวกันยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ขาดแคลนแรงงาน และการนำเข้าวัสดุก่อสร้างจากต่างประเทศ รวมถึงการขนส่งวัสดุแรงงานข้ามพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้รฟท.ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ขอความเห็นชอบการขยายระยะเวลาการก่อสร้างสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ออกไปจากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาประมาณเดือน ม.ค.65
สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร ชุมทางถนนจิระ 68 กม. อยู่ระหว่างขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)คาดว่าจะเริ่มงานสัญญาที่ 2 ได้ประมาณเดือน ส.ค.65 แล้วเสร็จประมาณปลายปี 68โดยสัญญานี้ล่าช้าจากแผนมาแล้วกว่า 3 ปี
ขณะที่ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ระยะทางประมาณ 6 กม. คืบหน้า 88.43% ล่าช้ากว่าแผน 8.96% ติดปัญหาเรื่องพื้นที่เวนคืนบางส่วน แต่งาน 3 อุโมงค์เจาะทะลุถึงกันแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเทคอนกรีตผนังอุโมงค์ และวางรางรถไฟของอุโมงค์ที่ 1 ช่วงมอหินลับ-ผาเสด็จ ระยะทางประมาณ 5 กม. ส่วนอุโมงค์ที่ 2 ช่วงมอหินลับ ระยะทางประมาณ 250 เมตร และอุโมงค์ที่ 3 ช่วงคลองขนานจิตร ระยะทางประมาณ 1 กม. วางรางรถไฟเรียบร้อย
สำหรับสัญญาที่ 4 งานจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม คืบหน้า 9.26% ช้ากว่าแผน 17.12%
แม้จะมีการขยายสัญญาเพิ่มเติม แต่ รฟท. และกระทรวงคมนาคมระบุว่าจจะพยายามเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ได้ประมาณกลางปี 65 ส่วนช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ คาดว่าจะเปิดบริการประมาณปลายปี 68
หากเป็นไปตามไทม์ไลน์นี้ ความหวังในการใช้บริการรถไฟทางคู่สายอีสานช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ขยับเข้าไปใกล้แล้วกลางปีหน้า แต่ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ยังต้องรอคอยไปอีกอย่างน้อย 4 ปี ถึงจะได้ใช้บริการครบตลอดเส้นทาง
คอลัมน์ มุมคนเมือง
โดย ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Posted: 26/10/2021 7:36 pm Post subject:
26 ต.ค.64 ช่วงบ่ายประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหารูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ บริเวณเทศบาลตำบลบ้านใหม่และบริเวณไฟว์สตาร์หัวทะเล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสัญญา 2 ช่วงคลองขนานจิตร-นครราชสีมา
ป.ล. รูปแบบโครงสร้างไม่จบเสียทีตอนที่ออกแบบไม่ร้อง....ประชาชน/หน่วยงานท้องถิ่นร้องขอให้ไปรับแก้ จากเดิมที่เป็นสะพานบกคันทางดินสูง มาเป็นเสาตอม่อ ขอปรับขนาดความสูงช่องลอดจาก 3.5เมตร เป็น 4.5-5 เมตรอีก รอ ผวก.รฟท.ลงพื้นที่หารือกับหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 28 ต.ค.64 นี้น่าจะมีแนวทางข้อสรุปร่วมกัน ก่อนดำเนินการเสนอขออนุมัติโครงการฯตามขั้นตอนต่อไป
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4550902514956658
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/10/2021 2:27 pm Post subject:
ศักดิ์สยาม ลุย 1.4 ล้านล้าน 59 โปรเจ็กต์ มอเตอร์เวย์-รถไฟฟ้า
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 27 ตุลาคม 2564 - 12:00 น.
คิกออฟเป็นที่เรียบร้อย แผนดำเนินการปี 2565 ของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม กับโปรเจ็กต์เก่า-ใหม่ 59 โครงการ วงเงิน 1.491 ล้านล้านบาท
3 กรมถนนคว้าไป 2.81 แสนล้าน
งานสร้างทาง 12 โครงการ 281,205 ล้านบาท งานเร่งกรมทางหลวง ได้แก่ 1.มอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน-บางบัวทอง 36 กม. 56,035 ล้านบาท 2.ขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ รังสิต-บางปะอิน 22 กม. 27,000 ล้านบาท 3.เชื่อมมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา กับมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว 4.28 กม. 4,700 ล้านบาท 4.มอเตอร์เวย์ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ 18 กม. 29,550 ล้านบาท 5.มอเตอร์เวย์นครปฐม-ปากท่อ 63 กม. 51,760 ล้านบาท รัฐลงทุนงานโยธา เอกชนลงทุนงานระบบแบบ PPP Gross Cost ก่อสร้างปี 2567-2570
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1.ทางด่วนขั้น 3 เชื่อมเกษตร-นวมินทร์-วงแหวน ตอ. 18.4 กม. 37,870 ล้านบาท 2.ทางด่วนฉลองรัช จตุโชติ-วงแหวน 17 กม. 21,919 ล้านบาท 3.ทางด่วนกะทู้-ป่าตองภูเก็ต 3.98 กม. 14,470 ล้านบาท 4.ทางด่วนเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ภูเก็ต 30 กม. 30,456 ล้านบาท
กรมทางหลวงชนบท 1.ถนนเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จ.นครพนม 23.102 กม. วงเงิน 1,600 ล้านบาท 2.สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) จ.อุบลราชธานี 26 กม. วงเงิน 4,765 ล้านบาท และ 3.โครงการแต่งแต้มสีสันทางหลวง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงิน 280 ล้านบาท เป็นความร่วมมือของ 3 หน่วยงานข้างต้น
งานกรมการขนส่งทางบก ได้แก่ ศูนย์ขนส่งสินค้าชายแดน จ.นครพนม 121 ไร่ วงเงิน 1,361.36 ล้านบาท กำลังคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน เริ่มสร้างปี 2565 แล้วเสร็จปี 2567
งานราง มี 5 โครงการ วงเงิน 624,879 ล้านบาท โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยมี 3 โครงการ คือ 1.รถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 323.10 กม. 85,345 ล้านบาท 2.รถไฟทางคู่สายใหม่ บ้านไผ่-นครพนม 355 กม. 67,965 ล้านบาท 3.รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 2 โครงการ คือ 1.สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ 122,067 ล้านบาท 2.สายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 23.6 กม. 124,958 ล้านบาท
ทางน้ำ 2 โครงการ 7,561 ล้านบาท คือ 1.สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง อ.พระนครศรีอยุธยา 4 กม. วงเงิน 1,010 ล้านบาท เขื่อนป้องกันตลิ่ง อ.พระนครศรีอยุธยา-อ.นครหลวง 13 กม. 5,105 ล้านบาท และ 2.ฟื้นฟูชายหาดจอมเทียน เฟสแรก 586 ล้านบาทเฟส 2 วงเงิน 420 ล้านบาท ชายหาดบางแสน 440 ล้านบาท
ทางอากาศ 4 โครงการ 59,448.01 ล้านบาท บมจ.ท่าอากาศยาน ลงทุน 1.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เฟสแรก 15,818.51 ล้านบาท 2.ท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 วงเงิน 36,829.50 ล้านบาท กรมท่าอากาศยาน ลงทุนท่าอากาศยานชุมพร 3,250 ล้านบาท และท่าอากาศยานระนอง 3,550 ล้านบาท
13 โปรเจ็กต์เก่าไม่ตกขบวน
ยังมีโครงการสานต่อข้ามปี 2564-2565 อีก 13 โครงการ วงเงิน 516,956.01 ล้านบาท ดังนี้
1.มอเตอร์เวย์บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย 16.4 กม. 32,220 ล้านบาท 2.ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย วงเงิน 2,864.73 ล้านบาท
งานราง 7 โครงการ 476,154.98 ล้านบาท เป็นรถไฟทางคู่ 3 โครงการ 88,511.98 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กม. 20,679.98 ล้านบาท 2.ทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางจิระ 132 กม. 27,454 ล้านบาท และ 3.ทางคู่นครปฐม-ชุมพร 421 กม. 40,378 ล้านบาท, รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กม. 179,413 ล้านบาท
รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 3 โครงการ 208,230 ล้านบาท ได้แก่ 1.สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 35.9 กม. 109,135 ล้านบาท 2.สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี 34.5 กม. 50,970 ล้านบาท สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง 30.4 กม. 48,125 ล้านบาท
งานพัฒนา 4 สนามบิน ลงทุน 5,716.30 ล้านบาท ได้แก่ 1.สนามบินขอนแก่น 2,004.90 ล้านบาท 2.สนามบินสุราษฎร์ธานี 169 ล้านบาท 3.สนามบินกระบี่ 2,923.40 ล้านบาท และ 4.สนามบินบุรีรัมย์ 619 ล้านบาท
ทางหลวง ผ่าทางตัน นครปฐม-ชะอำ
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้ส่งเรื่องให้กรมทบทวน โดยแบ่งงาน นครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 60 กม.
ปากท่อ-ชะอำ รอเจรจาหลังเคลียร์ปัญหากับประชาชนในพื้นที่ จ.เพชรบุรี คาดว่าจะเสนอข้อสรุปในเดือนธันวาคมนี้
สะพานมิตรภาพแห่งที่ 6 กำลังหารือแหล่งเงินทุน คาดลงนาม MOU ระหว่างไทย-สปป.ลาว ปี 2565 เริ่มสร้างปี 2567
การทางฯดัน 2 โปรเจ็กต์
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษฯ กล่าวว่า ปีหน้าจะเร่งเปิดประมูลโครงการทางด่วนกะทู้-ป่าตอง และทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ เกษตร-นวมินทร์-วงแหวนตะวันออก 11.3 กม. ลงทุน 16,960 ล้านบาท หลังผ่านขั้นตอนแต่มีประเด็นคือ ค่างานโยธาเดิม 14,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านบาท การทางพิเศษฯต้องหางบประมาณเพิ่มด้วยการออกพันธบัตรจำหน่าย
สำหรับทางด่วนสายฉลองรัช จตุโชติ-วงแหวนรอบที่ 3 กำลังสรุปผลจะแล้วเสร็จมีนาคม 2565 จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีรูปแบบที่วางไว้คือ ออกพันธบัตรจำหน่ายเพื่อระดมเงินลงทุน
ปีหน้าประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ปี 2565 ระบบรางจะประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม สีม่วงใต้ และสีแดงส่วนต่อขยาย ในส่วนสีม่วงใต้ จะแยกงานระบบออกมาประมูลในรูปแบบ PPP และเดินหน้าพร้อมกับสายสีแดงส่วนต่อขยายอีก 4 เส้นทาง วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาทได้แก่ 1.สีแดงเข้ม รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 8.84 กม. วงเงิน 6,570.40 ล้านบาท 2.สีแดงอ่อน ตลิ่งชัน-ศาลายา 14.8 กม. วงเงิน 10,202.18 ล้านบาท 3.สีแดงอ่อน ตลิ่งชัน-ศิริราช 4.3 กม. วงเงิน 6,645.03 ล้านบาท และ 4.สีแดงอ่อน (Missing Link) บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง 25.9 กม. วงเงิน 44,157.76 ล้านบาท จะประมูลได้ในปี 2565
ชัดเจนเอา ART โละแทรม
รถไฟฟ้าในต่างจังหวัดสรุปว่า มีนำร่อง 3 แห่ง คือ ภูเก็ต นครราชสีมา และเชียงใหม่ รูปแบบจะเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าล้อยาง (แทรม) เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (ART) ที่คืบหน้ามากสุด คือ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นโมเดลต้นแบบ เส้นทางก่อสร้างจากสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง 42 กม. 21 สถานี วงเงิน 19,912 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน จะแล้วเสร็จในปี 2564 โดยจัดทำรายงาน PPP เสร็จแล้ว
จ.เชียงใหม่ และ จ.นครราชสีมา ยังเป็นแนวเส้นทางเดิมคือ จ.เชียงใหม่ สายสีแดง โรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี 15.8 กม. 16 สถานี 25,736 ล้านบาท และ จ.นครราชสีมา สายสีเขียว ตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ 11.15 กม. 21 สถานี 7,201 ล้านบาท
ทั้ง 2 จังหวัดอยู่ระหว่างนำผลศึกษาที่ใช้ใน จ.ภูเก็ต มาปรับเพิ่ม คาดใช้เวลาศึกษาตลอดปี 2565 ก่อนเสนอ 2 โครงการพ่วงไปกับโครงการของ จ.ภูเก็ต ตามแผนจะขออนุมัติในปี 2566
เสนอทางคู่เฟส 2 อีกครั้งปีหน้า
นายพิเชฐกล่าวอีกว่า ปี 2565 มีแผนเสนอรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีกครั้ง รวม 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,483 กม. หลังสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังไม่พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากเหตุผลภาระงบประมาณของรัฐในช่วงโควิด-19 ได้แก่
1.ปากน้ำโพ-เด่นชัย 285 กม. 62,859.74 ล้านบาท
2.เด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. 56,837.78 ล้านบาท
3.จิระ-อุบลราชธานี 308 กม. 37,527.10 ล้านบาท
4.ขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. 26,663 ล้านบาท
5.ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. 24,294.39 ล้านบาท,
6.สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. 57,375.43 ล้านบาท และ
7.หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. 6,661.37 ล้านบาท
ชงไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2
ส่วนรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย เฟส 2 ช่วงโคราช-หนองคาย 350 กม. ลงทุนเบื้องต้น 350,000 ล้านบาท ขณะนี้ผลศึกษาโครงการเสร็จแล้ว จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในปี 2565 เช่นกัน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/10/2021 10:02 pm Post subject:
ความคืบหน้าล่าสุดและความสวยงามทางรถไฟลอยฟ้า
Oct 29, 2021
OHO DOM
ความงดงามของทางรถไฟทางคู่ที่สร้างลอยฟ้าข้ามหุบเขาช่วงสถานีกลางดง มวกเหล็ก ที่มีความคืบหน้าใกล้สมบูรณ์ในอีกไม่นาน
https://www.youtube.com/watch?v=ugu8EzdDR38
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Posted: 29/10/2021 11:30 pm Post subject:
จี้ รฟท.ปรับแบบรถไฟทางคู่ ผ่านตำบลบ้านใหม่ต้องยกระดับ
วันที่ 29 ตุลาคม 2564
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น. นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหารเดินทางด้วยขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 963 จอดเทียบชานชาลาที่ 1 สถานทีรถไฟนครราชสีมา ภารกิจพินิจเส้นทางรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตรวจเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานและติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่และอุโมงค์หินลับ เส้นทาง มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ประธานสภา อบจ.นครราชสีมา นายสหพล กาญจนเวนิช รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายก ทน.นครราชสีมา นายอำพล รัตนิยะ นายสถานีรถไฟนครราชสีมาและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
ในระหว่างที่ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินเท้าไปห้องประชุม เพื่อประชุมร่วมกับผู้บริหาร อบจ.นครราชสีมา ได้มีตัวแทนภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และความเร็วสูง ช่วงเส้นทางผ่านเมืองนครราชสีมา มารอยื่นหนังสือให้นายนิรุฒ มณีพันธ์ ขอให้พิจารณาแก้ไขรูปแบบการก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ และยืนถือป้ายระบุข้อความ รมต.คมนาคมช่วยด้วย คนบ้านใหม่ต้องการรถไฟยกระดับ ความเจริญอยากได้แต่เราไม่ต้องการคันดิน รับฟังประชาชนตำบลบ้านใหม่บ้าง ผู้ว่าการรถไฟช่วยเราด้วยเราคนบ้านใหม่ต้องการรถไฟยกระดับ คันดินน้ำท่วมบ้านใหม่ใครรับผิดชอบ ช่วยคนบ้านใหม่ด้วย ทุบสะพานหัวทะเล ฟื้นคืนเศรษฐกิจ พวกเราเป็นผู้บุกเบิก ไม่ใช่ผู้บุรก
โดยกลุ่มพัฒนาชุมชนบ้านใหม่ 2020 ซึ่งเป็นชาว ต.บ้านใหม่ อ.เมือง ถือเป็นชุมชนชานเมืองขนาดใหญ่มี 12 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 3 หมื่นคน โครงการบ้านจัดสรรจำนวน 15 แห่ง สถานศึกษา 9 แห่ง และที่ตั้งหน่วยงานราชการ รูปแบบเดิมของรถไฟทางคู่ไม่ตอบโจทย์ความสะดวก ความปลอดภัย กรณีปิดจุดตัดข้ามทางรถไฟโดยสร้างสะพานเกือกม้าและอุโมงค์ทางลอดเสมือนแบ่งแยกชาวบ้านออกจากกัน ส่งผลให้การสัญจรยากลำบากรวมทั้งหากเกิดเหตุเพลิงไหม้รถดับเพลิงต้องเสียเวลาระงับเหตุร้าย กลุ่มผู้ประกอบการค้าละแวกสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล ต้องการให้ รฟท.ปรับรูปแบบทางรถไฟยกระดับช่วงผ่านจุดตัดถนนไชยณรงค์หรือห้าแยกโรงแรมปัญจดารา เพิ่มความสูงจากเดิมเป็น 4.50 เมตร เพื่อให้รถยนต์ขนาดใหญ่สามารถลอดข้ามได้สะดวกและรื้อถอนสะพานหัวทะเล เนื่องจากผลกระทบหลังก่อสร้างสะพานเมื่อปี พ.ศ.2539 ทำให้กิจการโรงแรมที่พัก อาคารพาณิชย์ สถานีบริการเชื้อเพลิง ร้านอาหาร ฯลฯ ตั้งอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตร ประสบปัญหาการค้าซบเซา เนื่องจากไม่มียานพาหนะแล่นผ่าน หลายรายต้องเซ้งกิจการและหาทำเลการค้าใหม่และอสังหาริมทรัพย์ราคาตก ส่วนชุมชนริมรางเมืองย่าโม จำนวน 13 ชุมชน ชาวบ้านกว่า 1,591 พันครัวเรือน ซึ่งกำลังถูก รฟท. ขอคืนพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการ ขอให้ รฟท.จัดสรรที่อยู่อาศัยให้ใหม่และไม่ต้องการอยู่แฟลต เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีความหลากหลายทั้งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่และรายได้แตกต่างกัน การทำมาหากินไม่เหมือนเดิม การนำคนที่มีความหลากหลายทางวิถีชีวิตไปอยู่ร่วมกันไม่สามารถแก้ปัญหาได้
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4561394177240825
29 ต.ค.64 บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1, สัญญาที่ 3 และ สัญญาที่ 4 ให้การต้อนรับ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เพื่อติดตามความคืบหน้างานก่อสร้าง ตรวจเยี่ยมผู้ปฏิบัติงาน รถไฟทางคู่และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ระหว่างสถานีหินลับ-ผาเสด็จ
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4561463490567227
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Posted: 01/11/2021 6:51 pm Post subject:
ผู้ว่าการรถไฟฯ นำคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนแก่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันจันทร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:55 น.
เมื่อวันที่ 28-29 ตุลาคม 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นำคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนมอบถุงยังชีพให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตลอดจนร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนของจังหวัดนครราชสีมา บูรณาการพัฒนาการขนส่งทางรางร่วมกัน
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ตามนโยบายของรัฐบาล และมีการติดตามความก้าวหน้าโครงการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเส้นทางฉะเชิงเทรา คลองสิบเก้า - แก่งคอย ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้าแก่พี่น้องประชาชนระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน
ขณะเดียวกัน ยังได้เยี่ยมเยียนพบปะเจ้าหน้าที่ พนักงาน ลูกจ้างการรถไฟฯ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนมอบถุงยังชีพ ชุดห่วงใยคนรถไฟ แก่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และครอบครัวที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างกำลังใจในการทำงาน บริเวณสถานีชุมทางแก่งคอยและนครราชสีมา
นายนิรุฒ กล่าวว่า การรถไฟฯ ร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการนำพื้นที่ของการรถไฟฯ มาใช้ประโยชน์ เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยง และพัฒนาการขนส่งทางรางกับระบบโลจิสติกส์ภายในจังหวัด ตลอดจนหาแนวทางส่งเสริมให้ประชาชน ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการในระบบขนส่งทางรางเพิ่มขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ได้ตรวจเยี่ยมติดตามการปรับปรุงรถโดยสาร และเดินทางไปตรวจความก้าวหน้าในการก่อสร้างทางคู่และอุโมงค์ ระหว่างสถานีหินลับ-ผาเสด็จ ซึ่งอยู่บริเวณทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ รวมถึงเยี่ยมชมจุดก่อสร้างโรงซ่อมในโครงการรถไฟไทย-จีน และจุดเปลี่ยนผู้โดยสารและสินค้าในอนาคตที่สถานีเชียงรากน้อยอีกด้วย.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 04/11/2021 7:28 am Post subject:
ปตท.สนใจโครงการรถไฟทางคู่ ขยายธุรกิจใหม่-พลังงานอนาคต
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Thursday, November 04, 2021 05:18
ผู้จัดการรายวัน360 - ปตท.พุ่งเป้าสู่พลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน แย้มสนใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะรถไฟทางคู่ และเร่งเพิ่มกำลังผลิตพลังงานทดแทนจากปัจจุบันมีอยู่ 2 พันเมกะวัตต์ให้ครบตามเป้า 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 73 "อรรถพล" ลั่นต่อโครงการ "Restart Thailand" อีก 1 ปี เพื่อว่าจ้างแรงงานและนักศึกษาจบใหม่รวม 2.5 หมื่นอัตรา หวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีหน้า
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) กล่าวในงานสัมมนา "Boost Up Thailand 2022" ว่า แนวโน้มการใช้พลังงานในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ "Go Green" และ "Go Electric" จากเดิมที่ใช้พลังงานฟอสซิลทั้งถ่านหินและน้ำมันไปสู่การใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น โดยมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสูงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่พลังงานทดแทนอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่การใช้ไฟฟ้า (Go Electric) เพิ่มขึ้นเพราะที่มีความสะดวกและสะอาด โดยตัวผลักดันการใช้ไฟฟ้า คือยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และเทคโนโลยีแบตเตอรี่
ดังนั้นปตท.ต้องปรับวิสัยทัศน์ขององค์กรใหม่เป็น "powering life with future energy and beyond" หรือ "ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคตและเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน" ปตท.วางแผนกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและสอดรับกับนโยบายประเทศไทยที่ประกาศจุดยืนเป็น Net Zero ในปี ค.ศ. 2065
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.ได้ตั้งบลงทุน 5 ปีนี้ (2564-68) อยู่ที่ 8.65 แสนล้านบาท เป็นการลงทุน ปตท.เอง 1.17 แสนล้านบาท โดยในปี 2564 กลุ่ม ปตท.จะใช้เงินลงทุน 4.3 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเฉพาะ ปตท. 6.75 หมื่นล้านบาทเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย
นายอรรถพล กล่าวว่า กลุ่มปตท.ได้วางเป้าหมายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนอยู่ที่ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2573 โดยมีบริษัทลูก คือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เป็นหัวหอกในการลงทุน ปัจจุบันมีการลงทุนพลังงานทดแทนรวมทั้งสิ้น 2 พันเมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน ก็ศึกษาโอกาสการลงทุนพลังงานทดแทนในไทยเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการลงทุนระบบกักเก็บพลังงาน คือแบตเตอรี่ ซึ่งได้ตั้งโรงงานนำร่องผลิตแบตเตอรี่แบบ SemiSolid ใช้เทคโนโลยี 24M แห่งแรกในอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh รวมทั้งมีการเร่งติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถอีวีทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รวมทั้งศึกษาพลังงานอนาคตอย่างไฮโดรเจนด้วย
นอกจากนี้ ปตท.ได้ร่วมทุน ฟ็อกซ์คอนน์จัดตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตรถอีวีในไทย เพื่อตั้งโรงงานรับจ้างผลิตรถอีวีแบบครบวงจร ทั้งการออกแบบ ผลิต EV ตลอดจนผลิตชิ้นส่วนสำคัญ เช่น Battery Platform Drivetrain คาดใช้เงินลงทุน 1-2 พันล้านเหรียญสหรัฐ สอดรับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่
ส่วนธุรกิจใหม่ (Beyond) ปตท.มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจ Life Science ที่ประกอบด้วยธุรกิจยา อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และอาหารเสริม, ธุรกิจสินค้าที่มีมูลค่าสูง เป็นการต่อยอดจากปิโตรเคมี โดยจะมุ่งเน้นพลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่มนำไปผลิตเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนรถยนต์, ธุรกิจ Mobility &Lifestyle มี บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ดำเนินการขยายการลงทุนอยู่
ธุรกิจ Logistic &Infrastructure ทาง ปตท.ได้มีการลงทุนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยร่วมทุนกับพันธมิตรในการลงทุนท่าเทียบเรือมาบตาพุด เฟส 3 และท่าเทียบเรือแหลมฉบัง เฟส 3 พร้อมทั้งศึกษาโอกาสเข้าไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างโครงการรถไฟทางคู่ด้วย ส่วนธุรกิจ AI Robotics Digitalization ทาง ปตท.สผ.ได้ตั้งบริษัทย่อย คือ ARV เพื่อพัฒนาด้าน AI และหุ่นยนต์
นายอรรถพล กล่าวว่า กลุ่มปตท.จะต่อโครงการ "Restart Thailand" จากเดิมสิ้นสุดในปลายปีนี้ โดยจะมีสัญญาจ้างต่อนักศึกษาจบใหม่อีก 1 ปี รวมถึงการจ้างงานแรงงานสำหรับโครงการต่างๆ รวมแล้ว 2.5 หมื่นอัตรา และส่งเสริมการ ท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อมีส่วนร่วมในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ไทยที่คาดว่าปี 2565 การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยจะสูงกว่าปีนี้ที่ GDP อยู่ระดับ 0.7-1%.
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 4 พ.ย. 2564 Last edited by Mongwin on 04/11/2021 7:33 am; edited 1 time in total
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group