Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 01/08/2022 9:26 am Post subject:
โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง งานโยธา ช่วงนวนคร-บ้านโพ
1 ส.ค. 65 09:00 น.
ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 4-3 งานโยธาสำหรับช่วงนวนคร-บ้านโพ เดือนกรกฎาคม 2565
https://fb.watch/eCYR_J1BXE/
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42896
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2022 8:16 am Post subject:
ซีวิล โหมประมูล เมกะโปรเจ็กต์ครึ่งปีหลัง แตะ 1.7 หมื่นล้าน
หน้าแรก เศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 03 ส.ค. 2565 เวลา 6:00 น.
ซีวิล เล็งประมูลเมกะโปรเจ็กต์ครึ่งปีหลัง 65 กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ดันมูลค่างานในมือแตะ 2 หมื่นล้านบาท ซุ่มหารือพันธมิตรร่วมงานพีพีพี ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน-เมืองการบินอู่ตะเภา มั่นใจโกยรายได้กว่า 6.5 พันล้านบาท
บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้รับเหมาก่อสร้างในไทย เร่งเครื่องประมูลเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลังปี 2565 ทำให้ บริษัทสามารถวางแผนลงทุนเครื่องจักรที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพงานก่อสร้างที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องและต่อยอดการเติบโตธุรกิจในอนาคต
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า สำหรับ ธุรกิจครึ่งปีหลัง 2565 บริษัทมี แผนที่จะเข้าร่วมการประมูลโครง สร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่กำลังจะเปิดประมูลในช่วงครึ่งปีหลังภายในเดือนตุลาคม 2565 รวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท เช่น งานก่อสร้างของกรมทางหลวงและทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) วงเงิน 2,600-2,800 ล้านบาท, งานเขื่อนและระบบนํ้าของกรมชลประทาน วง เงิน 1,000-3,000 ล้านบาท, งานก่อสร้างสนามบินของกรมท่าอากาศยาน วงเงิน 1,200 ล้านบาท, งานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว วงเงิน 8,000-10,000 ล้านบาท โดยบริษัทได้เข้าร่วมประมูลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันติดปัญหาสถานีอยุธยา ซึ่งเป็นแนวเส้นทางต่อเนื่องกับสัญญา 4-7 ช่วงแก่งคอย-สระบุรี ห่างจากโรงงานเซ็กเมนต์ของบริษัทราว 3-4 กิโล เมตร (กม.) รวมทั้งบริษัทมีแผนเตรียมเข้าประมูลงานภาคเอกชนเพื่อเพิ่มโอกาสรับงานที่หลากหลายคาดว่าจะส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 15,000-20,000 ล้านบาทบริษัทได้เพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง โดยมีการหารือร่วมกับพันธมิตร ทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะเข้าร่วมงานลงทุนในโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนมากขึ้น (PPP) เช่น เอกชนบางรายที่ได้ประมูลงานก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา),เมืองการบินอู่ตะเภา เชื่อว่าหากเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว บริษัทอาจจะได้เป็น 1 ในคอนเทนเดอร์ที่จะเข้าไปช่วยงานในโครงการฯด้วย นายปิยะดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนงานก่อสร้างแบ่งเป็น งานก่อสร้างทางรถไฟและรถไฟความเร็วสูง 46% งานทาง 41% งานก่อสร้างสนามบิน 2% งานเขื่อนและระบบนํ้า 1% และงานประเภทอื่นๆ 10% โดยบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายโครง การ เช่น ท่าอากาศยานลำปาง, ท่าอากาศยานหัวหิน, ท่าอากาศยานตรัง, งานทางหลวงพิเศษบริเวณถนนพระราม2, งานทางหลวง 304 สายแจ้งวัฒนะ, รถไฟทางคู่ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร, ไฮสปีดไทย-จีน สัญญา 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก, ไฮสปีดไทย-จีน สัญญา 4-7 ช่วงแก่งคอย-สระบุรี, ทางพิเศษพระราม 3, พัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด ฯลฯ
ส่วนธุรกิจเหมืองหิน จังหวัดสระบุรี ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสแอนด์ โปรดักส์ จำกัด (บริษัทย่อย) ได้เริ่มดำเนินการผลิตมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 และจะสามารถดำเนินการผลิตได้เต็มกำลังตลอดครึ่งปีหลังปี 2565 ซึ่งจะลดความผันผวนด้านราคาวัสดุก่อสร้างจากการนำหินมาใช้ในโครงการก่อสร้างของบริษัท อีกทั้งแหล่งวัตถุดิบตั้งอยู่ใกล้โครงการก่อสร้างทางไฮสปีดไทย-จีน ทำให้ประหยัดต้นทุนการขนส่งและลดความผันผวนของซับพลายหิน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการจำหน่ายหินให้กับบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรม คาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจเหมืองหิน ราว 10 ล้านบาทต่อเดือนจากแผนดำเนินงานทั้งหมดของบริษัท คาดว่าสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2565 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 20-30% อยู่ที่ 6,000-6,500 ล้านบาท จากเดิมในปี 2564 มีรายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ซีวิล โหมประมูล เมกะโปรเจ็กต์ครึ่งปีหลัง แตะ 1.7 หมื่นล้าน
นายปิยะดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากสถาน การณ์วิกฤติซ้อนวิกฤติ ทั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานก่อสร้างที่ออกนอกประเทศราว 300,000 คนส่งผลให้การก่อสร้างมีความล่าช้า รวมทั้งในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เกิดปัญหาต้นทุนวัสดุก่อ สร้างเพิ่มขึ้น เช่น เหล็ก, นํ้ามัน สงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาเงินเฟ้อซึ่งเป็นความท้าทายให้บริษัทต้องปรับตัวโดยปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพในโครงการก่อ สร้างและการจัดการต้นทุนก่อสร้างให้สอดรับกับสถานการณ์ รวมทั้งการเร่งรัดการก่อสร้างโดยขอความร่วมมือจากภาครัฐและผู้ว่าจ้าง เช่น การขอขยายสัญญาจากสถานการณ์โควิด-19 โดยไม่เสียค่าปรับ ซึ่งได้มีโอกาสคุยกับภาครัฐ จนสามารถดำเนินการก่อ สร้างได้ตามแผน ปัจจุบันทาง สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์อยู่ระหว่างเสนอภาครัฐพิจารณายกเลิกเพดานค่าเค (Escalation Factor) ที่กำหนด+-4% ชั่วคราว เนื่องจากการส่งมอบงานในแต่ละงวดจะมีการ ใช้สูตรคำนวณดังกล่าวก่อน สวนทางกับต้นทุนวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าผลดำเนินงานบริษัทอาจมีแนวโน้มชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนและปัจจัยเสี่ยงที่กระทบภาคอุตสาหกรรม แต่โครงการภาครัฐยังคงเดินหน้าและมีแผนการเปิดประมูลที่ชัดเจน ทำให้บริษัทมี โอกาสที่จะขยายศักยภาพที่เกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้บริษัทสามารถ ดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบงานได้ตามแผน อีกทั้งยังสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2022 8:38 am Post subject:
อัพเดท ทางยกระดับรถไฟความเร็วสูง สัญญา2-1 ช่วงสีคิ้ว-สูงเนิน ปลายเดือนกรกฏาคม งานโยธาเสร็จเกือบ100%
Aug 2, 2022
Bordin Train Channel
https://www.youtube.com/watch?v=Uj907Ekzgis
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 04/08/2022 7:23 am Post subject:
รออัยการชี้ขาดสร้างสถานีอยุธยา
Source - เดลินิวส์
Thursday, August 04, 2022 04:12
ทำHIAควบเซ็นสัญญา4-5 ไฮสปีดสายแรกโตช้า13%
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกที่ปรึกษาดำเนินโครงการงานบริการที่ปรึกษา เพื่อจัดทำรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพฯหนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา คาดว่าจะได้ที่ปรึกษาภายในเดือน ส.ค.-ก.ย. 65 จากนั้นจะใช้เวลาจัดทำรายงาน HIA ประมาณ 6 เดือน แล้วเสร็จประมาณเดือน มี.ค. 66 และต้องนำส่งองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิจารณาให้ความเห็น
สาเหตุที่ต้องจัดทำ HIA เนื่องจากกรมศิลปากร ระบุว่าศูนย์มรดกโลกมีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส มายังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ แจ้งให้ประเทศไทยรายงานการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดกับแหล่งมรดกโลกจากโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา ในงานสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ชนะประมูล แต่ บริษัทฯ ไม่ยืนราคา รฟท. จึงเชิญผู้เสนอราคาต่ำสุดลำดับที่ 2 มา เจรจาราคา แต่ไม่มา จึงต้องเชิญผู้เสนอราคาต่ำสุดรายที่ 3 ได้แก่ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด มาเจรจาราคา เป็นผู้ดำเนินการในสัญญาที่ 4-5 ต่อไป
การทำ HIA กับการก่อสร้างสัญญาที่ 4-5 สามารถดำเนินการคู่ขนานกันได้เลย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเริ่มงานก่อสร้างสัญญาที่ 4-5 ได้ เพราะต้องรอสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับ รฟท. ก่อนว่าสามารถลงนามกับผู้รับจ้างสัญญาที่ 4-5 แบบมีเงื่อนไขได้หรือไม่ โดยจะก่อสร้างส่วนอื่นไปก่อน ยกเว้นช่วงสถานีอยุธยา หากสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับมาภายใน 1-2 เดือนนี้ งานก่อสร้างในสัญญานี้จะไม่กระทบมากนัก ดำเนินการได้ตามแผนงานที่วางไว้ แต่หากสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับมาว่าไม่ได้ต้องเปิดประมูลใหม่ใช้เวลาประมาณ 7 เดือน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โครงการเฟส 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท ภาพรวมการก่อสร้างได้ผลงาน 13.09% ล่าช้ากว่าแผน 16.83% แล้วเสร็จ 1 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก 3.5 กม. กำลังก่อสร้าง 10 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว-กุดจิก 11 กม. คืบหน้า 91.28% ล่าช้า 8.72%, สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็ก และลำตะคอง 12.2 กม. คืบหน้า 1.50% ล่าช้า 24.62%, สัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง 21.6 กม. คืบหน้า 9.26% ล่าช้า 36.32%, สัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด 37.4 กม. คืบหน้า 31.57% ล่าช้า 8.58%, สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา 12.3 กม. คืบหน้า 2.27% ล่าช้า 39.30%, สัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร 21.8 กม. คืบหน้า 0.06% ล่าช้า 0.49%, สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ 23 กม. คืบหน้า 2.76% ล่าช้า 29.48%, สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง, สัญญาที่ 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี 31.6 กม. คืบหน้า 0.09% ล่าช้า 0.29% ขณะที่สัญญาที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย 12.9 กม. คืบหน้า 24.25% ล่าช้า 4.70%
ส่วนที่เหลือ 3 สัญญา ยังรอลงนามสัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า 30.2 กม., สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง 15.2 กม. และสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว 13.3 กม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเริ่มงานก่อสร้างโครงการเฟส 1สัญญาที่ 1-1 สถานี กลางดง-ปางอโศก โดยให้กรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างคันทาง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ปี 60 เดิมวางเป้าหมายจะเปิดบริการเส้นทางประวัติศาสตร์รถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศไทยในปี 66 แต่จากปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ได้ปรับแผนก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งทดสอบเดินรถเสมือนจริงในปี 69 ก่อนเปิดบริการประชาชนต้นปี 70.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ส.ค. 2565
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42896
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 04/08/2022 5:34 pm Post subject:
รถไฟไฮสปีด ไทย-จีน ค่อยๆ โต คืบแล้ว 13% ลุยทำ HIA สถานีอยุธยา
เดลินิวส์ 4 สิงหาคม 2565 17:19 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
รถไฟไฮสปีดไทย-จีนค่อยๆ โต คืบแล้ว 13.09% รฟท. เร่งเดินเครื่องทำ HIA สถานีอยุธยา คู่ขนานก่อสร้างสัญญา 4-5 แต่ยังเริ่มสร้าง ไม่ได้ต้องรออัยการฯ ตอบกลับก่อน หากตอบว่าไม่ได้ ต้องประมูลใหม่ใช้เวลา 7 เดือน
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ขณะนี้ รฟท. ได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกที่ปรึกษาดำเนินโครงการงานบริการที่ปรึกษา เพื่อจัดทำรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา คาดว่าจะได้ที่ปรึกษาภายในเดือน ส.ค.-ก.ย.65 จากนั้นจะใช้เวลาในการจัดทำรายงาน HIA ประมาณ 6 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน มี.ค.66 และต้องส่งทางให้องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิจารณาให้ความเห็นต่อไป
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า สาเหตุที่ต้องจัดทำ HIA เนื่องจากก่อนหน้านี้ กรมศิลปากร ระบุว่าศูนย์มรดกโลกมีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส มายังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ แจ้งให้ประเทศไทยรายงานการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดกับแหล่งมรดกโลกจากการดำเนินโครงการการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา ทั้งนี้สถานีอยุธยา อยู่ในงานสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะประมูล แต่บริษัทฯ ไม่ยืนราคา รฟท. จึงเชิญผู้เสนอราคาต่ำสุดลำดับที่ 2 มาเจรจาราคา แต่ก็ไม่มา จึงต้องเชิญผู้เสนอราคาต่ำสุดรายที่ 3 ได้แก่ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด มาเจรจาราคา เพื่อเป็นผู้ดำเนินการในสัญญาที่ 4-5 ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การทำ HIA กับการก่อสร้างสัญญาที่ 4-5 สามารถดำเนินการคู่ขนานกันได้เลย เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถเริ่มงานก่อสร้างสัญญาที่ 4-5 ได้ เพราะต้องรอให้สำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับ รฟท. มาก่อนว่า รฟท. สามารถลงนามกับผู้รับจ้างสัญญาที่ 4-5 แบบมีเงื่อนไขได้หรือไม่ โดยจะก่อสร้างส่วนอื่นไปก่อน ยกเว้นช่วงสถานีอยุธยา อย่างไรก็ตามหากสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับมายัง รฟท. ได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ งานก่อสร้างในสัญญาดังกล่าวจะไม่กระทบมากนัก ยังสามารถดำเนินการได้ตามแผนงานที่วางไว้ แต่หากสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับมาว่าไม่ได้ ก็ต้องเปิดประมูลใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 7 เดือน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ปัจจุบันโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กิโลเมตร (กม.) 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท ภาพรวมการก่อสร้างมีความคืบหน้า 13.09% ล่าช้ากว่าแผน 16.83% แล้วเสร็จ 1 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. กำลังก่อสร้าง 10 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. คืบหน้า 91.28% ล่าช้า 8.72%, สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็ก และลำตะคอง ระยะทาง 12.2 กม. คืบหน้า 1.50% ล่าช้า 24.62%, สัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 21.6 กม. คืบหน้า 9.26% ล่าช้า 36.32%
สัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.4 กม. คืบหน้า 31.57% ล่าช้า 8.58%, สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม. คืบหน้า 2.27% ล่าช้า 39.30%, สัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.8 กม. คืบหน้า 0.06% ล่าช้า 0.49%, สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. คืบหน้า 2.76% ล่าช้า 29.48%, สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง, สัญญาที่ 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.6 กม. คืบหน้า 0.09% ล่าช้า 0.29% ขณะที่สัญญาที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ระยะทาง 12.9 กม. คืบหน้า 24.25% ล่าช้า 4.70%
ส่วนที่เหลืออีก 3 สัญญา ยังรอการลงนามสัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.2 กม., สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. และสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา รฟท. ตั้งเป้าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งทดสอบเดินรถเสมือนจริงในปี 69 ก่อนจะเปิดให้บริการประชาชนต้นปี 70
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 05/08/2022 6:13 am Post subject:
คอลัมน์ จับประเด็น: 'คมนาคม' เร่งเครื่องเชื่อมโยงรถไฟไทย-ลาว-จีน
Source - ไทยโพสต์
Friday, August 05, 2022 05:05
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภาย หลังประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการโดย กรมทางหลวง (ทล.) เร่งรัดการของบประมาณเพื่อศึกษาแนวทางการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ทั้งในรูปแบบสะพานรถไฟและรถยนต์ และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หนองคายให้แล้วเสร็จตามแผนของกระทรวงคมนาคม รวมถึงเสนอโครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา นอกจากนี้ยังมอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบลงพื้นที่และหารือเกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟช่วงหนองคายเวียงจันทน์ ณ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย.2565 .
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 5 ส.ค. 2565
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42896
Location: NECTEC
Posted: 05/08/2022 11:37 am Post subject:
Mongwin wrote: คอลัมน์ จับประเด็น: 'คมนาคม' เร่งเครื่องเชื่อมโยงรถไฟไทย-ลาว-จีน
Source - ไทยโพสต์
Friday, August 05, 2022 05:05
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 5 ส.ค. 2565
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันศุกร์ ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07:28 น.
คมนาคม เร่งสปีด สร้างรถไฟไทย-จีน เชื่อมระบบขนส่งราง 3 ประเทศ
หน้าเศรษฐกิจ
Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 18:41 น.
คมนาคม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างรถไฟไทย-จีน เปิดเส้นทางสะพานข้ามแม่น้ำโขง หนุนระบบขนส่งทางรางไทย-ลาว-จีน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีนครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุม 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา เกียกกาย
ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างสามประเทศเพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าโลก และเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาคที่ยั่งยืน จึงได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการ ร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะรองประธานกรรมการพิจารณาการบูรณาการการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพระบบโลจิสติกส์ไทยด้วยการขนส่งผ่านระบบรางที่จะช่วยลดต้นทุนทางด้านเวลาและด้านโลจิสติกส์
โดยนายอนุทินฯ ได้มอบหมายนายศักดิ์สยามฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งนายศักดิ์สยามฯ ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นที่มีประโยชน์ และผลักดันให้เกิดการบูรณาการการเชื่อมโยงระหว่างไทย ลาว และจีน อย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพียงพอที่จะรองรับการขนส่งข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างไทย ลาว จีน ด้วยรถไฟขนาดทาง 1 เมตร อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกที่จะช่วยขยายความครอบคลุมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกไปให้ได้ประโยชน์ในทุกมิติ จึงจำเป็นต้องมีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการร่วมกันบูรณาการดังกล่าวของแต่ละหน่วยงานในฐานะทีม Thailand ต่อไป
ซึ่งในการประชุมในวันนี้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมด้วยกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมหารือเพื่อพิจารณาติดตามความก้าวหน้า สถานะการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการการกำกับติดตามเพื่อขับเคลื่อนดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้มอบหมายให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ดังนี้
1.1 ให้กรมทางหลวงเร่งรัดการของบประมาณเพื่อศึกษาแนวทางการก่อสร้างสะพานแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ทั้งในรูปแบบสะพานรถไฟและรถยนต์
1.2 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ หนองคายให้แล้วเสร็จตามแผนของกระทรวงคมนาคม รวมถึงการเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น หนองคาย ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และเร่งรัดการพัฒนาสถานีหนองคายเป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายสินค้าในระยะเร่งด่วน และการศึกษาและวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) สถานีนาทา เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าในอนาคต พร้อมจัดทำ Action Plan เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างปริมาณความต้องการ และปริมาณความจุที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตามแผนงานระยะเร่งด่วน และระยะยาว รวมถึงพิจารณาอัตราค่าขนส่ง และต้นทุนด้านเวลา เพื่อหารือแนวทางการปฏิบัติที่จะส่งเสริมให้ระบบรางเป็นทางเลือกหลักในการขนส่งระหว่างไทย ลาว และจีน
2. ให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากรเร่งรัดการจัดหา Mobile X-ray System เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการตรวจสอบสินค้า ณ ด่านพรมแดนหนองคายในอนาคต และการดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟหนองคายสามารถปฏิบัติพิธีการนำเข้า ส่งออก และผ่านแดนได้ทุกมิติของการขนส่งสินค้า
3. ให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาในฝั่งลาว เพื่อแลกเปลี่ยนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ใช้ประกอบการวางยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการส่งออกของไทย และอำนวยความสะดวกให้ฝ่ายไทย สามารถใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงในภูมิภาคได้เต็มประสิทธิภาพ และหยิบยกการหารือระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาวและจีน เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลักดันการเชื่อมต่อรถไฟลาว จีน กับระบบรางของไทย
4. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการเจรจาร่วมกับฝ่ายจีน เพื่อเปิดด่านทางบกภายใต้พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนฉบับใหม่ ให้ครบทั้ง 6 ด่านใหม่
5. ให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์การค้าไทย จีน ด้านจังหวัดหนองคาย และการใช้ประโยชน์จากรถไฟลาว จีน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย รวมถึงการเจรจาร่วมกับฝ่ายลาว ในการอำนวยความสะดวกสินค้าไทยที่ใช้บริการรถไฟลาว-จีน
6. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการก่อสร้างและพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟจากลาวและจีน
7. ให้กระทรวงสาธารณสุขอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระที่ติดตัวผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟ และตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพนำเข้าให้เป็นไปตามระบียบกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดให้ Team Thailand ลงพื้นที่ และหารือเกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ช่วงหนองคาย เวียงจันทน์ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม 1 กันยายน 2565 เพื่อศึกษาสภาพและศักยภาพของพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางของโครงการเพื่อนำมาประเมินอุปทานด้านการคมนาคม และจัดทำแผนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยต่อไป
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group