View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46375
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 17/10/2022 11:00 am Post subject:
สกพอ.เสนอแก้สัญญาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน
Source - ดอกเบี้ยธุรกิจ
Monday, October 17, 2022 06:01
สกพอ.เตรียมเสนอแก้สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินเข้า กบอ.ในเดือน ต.ค.นี้ ลุ้น "พัฒนพงษ์" ไฟเขียว ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติลงนาม เร่งส่งมอบพื้นที่เอกชน ม.ค. 66 โครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศเพื่อมุ่งหน้าสู่การยกระดับเศรษฐกิจประเทศให้สามารถตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต แต่โครงการกำลังถูกท้าทายด้วยเงื่อนไขพื้นที่ทับซ้อนและด้านข้อกฎหมาย
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้สัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ซึ่งล่าสุดเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้ประชุมคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สกพอ. และบริษัท เอเชีย เอรา วัน (เอกชนคู่สัญญา) เพื่อเจรจาหาข้อยุติในร่างสัญญาร่วมกัน
ขณะนี้ สัญญาดังกล่าวยังไม่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุม กบอ.เนื่องจากที่ประชุมได้มอบหมายให้สอบถามความเห็นไปยังกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับประเด็นทางการเงินทั้งการทยอยชำระค่าบริหารสิทธิแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และการชำระค่าก่อสร้างงานโยธาพื้นที่ทับซ้อนโครงการรถไฟไทย-จีน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กบอ.อีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ จึงคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม) เพื่อแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนได้ในช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนในช่วงเดือน ม.ค. 66 สำหรับการแก้ไขสัญญาสัมปทานร่วมลงทุน เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการทับซ้อนงานโยธาโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน กับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (โครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน) สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง รวมไปถึงกรณีการชำระเงินค่าสิทธิเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ความคืบหน้าการแก้ปัญหาส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการรถไฟเดียวกันนี้นั้น ครม.ได้เห็นชอบตามที่ สกพอ.เสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการส่งมอบพื้นที่บริเวณพื้นที่โรงงานมักกะสัน ตามที่ก่อนหน้านี้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถส่งมอบได้เนื่องจากติดปัญหาสำรางสาธารณะ โดยการขอความเห็นชอบจาก ครม.ครั้งนี้ เป็นไปตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 65 สกพอ. และกรมที่ดินได้ประชุมหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่เห็นชอบให้ สกพอ. กรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทยเร่งสรุปปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากการดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ทั้งนี้ ที่ประชุมระหว่าง สกพอ.และ กรมที่ดิน เห็นควรเสนอให้มีการแก้ไขหรือทบทวนระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการขออนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 กรณีที่ใช้บังคับในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันระเบียบดังกล่าว ก่อให้เกิดความไม่สะดวก ล่าช้าซ้ำช้อนหรือเป็นการเพิ่มภาระการดำเนินการโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการรถไฟฯ 3 สนามบิน ได้เต็มศักยภาพ โดยเสนอให้แก้ไขหรือทบทวนระเบียบกระทรวงมหาดไทย อาทิ ข้อ 25 วรรคสอง ของระเบียบดังกล่าวกำหนดให้การอนุญาต ให้อนุญาตตามกำหนดเวลา ซึ่งสมควรกับกิจการที่กระทำภายในกำหนดไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันออกใบอนุญาต และข้อ 27 ของระเบียบดังกล่าว กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตต้องไม่กระทำให้พื้นดินที่ได้รับอนุญาตหรือพื้นที่ซึ่งติดต่อเสียสภาพตามสมควร เช่น ขุดพื้นดินลึกจากพื้นดินทั่วไปเกินกว่า 5 เมตร
หากกรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทยดำเนินการแก้ไขหรือทบทวนระเบียบมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ การขออนุญาตตามมาตรา 9 พ.ศ. 2543 แล้ว โครงการรถไฟฯ 3 สนามบิน จะสามารถพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้ตามวัตถุประสงค์โดยไม่ติดขัดปัญหาและอุปสรรค ปัจจุบัน สกพอ. จึงได้ดำเนินการยื่นขอเพิกถอนลำรางสาธารณะดังกล่าวตามมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอให้สภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นชอบ ก่อนดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป สกพอ. ในฐานะหน่วยงานเลขานุการ กพอ. จึงขอเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบ การเสนอขอให้ ครม.อนุมัติดำเนินการแก้ไขหรือทบทวนระเบียบมหาดไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนและโครงการนี้ว่าสามารถแก้ไขปัญหาส่งมอบพื้นที่ได้อย่างแน่นอน โดยปัญหาลำรางสาธารณะบริเวณโรงงานมักกะสัน ขณะนี้จึงไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของการส่งมอบพื้นที่พัฒนาโครงการแล้ว และทางเอกชนคู่สัญญาปัจจุบันได้รับทราบในเรื่องนี้ และพร้อมที่จะเริ่มงานก่อสร้างในส่วนอื่นก่อนการเพิกถอนลำรางสาธารณะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาดำเนินการในขั้นตอนกฎหมาย แต่เมื่อเรื่องได้ผ่านการอนุมัติจาก ครม.ก็เป็นการยืนยันได้ว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน หนึ่งในปัญหาที่เอกชนกังวลเรื่องการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีมักกะสันก็ได้รับการแก้ไขแน่นอน ดังนั้นหากมีการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ เอกชนก็ตอบรับว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ทันที
ที่มา: นสพ.ดอกเบี้ยธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 - 23 ต.ค. 2565
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46375
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 17/10/2022 12:55 pm Post subject:
โครงการเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูง ช่วยส่งเสริมการขนส่งการเดินทางท่องเที่ยว ระหว่างไทย-ลาว และจีน
Oct 17, 2022
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
รายงานพิเศษ : โครงการเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูง ช่วยส่งเสริมการขนส่งและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ระหว่างไทย-ลาว และจีน
https://www.youtube.com/watch?v=rs-X2IuIdrs
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46375
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43425
Location: NECTEC
Posted: 18/10/2022 6:32 pm Post subject:
รถไฟไทยในฝันเชื่อม4ประเทศ ลาว-จีน(คุนหมิง)-มาเลย์-สิงคโปร์
ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง
มุมคนเมือง, เศรษฐกิจ-ยานยนต์
เดลินิวส์
11 ตุลาคม 2565 เวลา 8:00 น.
รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม นำทีมไทยแลนด์ประชุมกระชับแผนรถไฟความเร็วสูงเชื่อมลาว-จีน และขยายโครงข่ายรถไฟไทยในฝันเชื่อม 4 ประเทศ เพื่อผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทางและเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ แต่อีกกี่ปีถึงจะใกล้ความจริง...ก็ต้องมาลุ้นกัน!!!
อีก 2 เดือนจะครบ 5 ปีเต็มๆ สำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) สายแรกของประเทศไทย สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท
ADVERTISEMENT
เพื่อผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทาง การขนส่งของประเทศและระหว่างประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเริ่มงานก่อสร้างโครงการเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ปี 60 แต่เดิมวางเป้าหมายเปิดบริการในปี 66 จนถึงขณะนี้ได้ผลงานก่อสร้าง 15.49%
ADVERTISEMENT
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พร้อม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นำคณะผู้แทนไทยเยือนกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ร่วมหารือกับ นายเวียงสะหวัด สีพันดอน รมว.โยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว เพื่อขับเคลื่อนโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน (ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์) รวมทั้งร่วมทดลองนั่งรถไฟลาว-จีน เส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น ระยะทาง 414 กม. ทางรถไฟสายนี้เชื่อมต่อจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน
ADVERTISEMENT
นายศักดิ์สยาม สรุปผลการหารือและแผนดำเนินงานเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมร่วมกันระหว่างสองประเทศและจีน ดังนี้
1.การก่อสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกอบด้วย โครงการรถไฟไฮสปีด เฟสแรก ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จะเร่งรัดให้เปิดบริการปี 69, โครงการรถไฟไฮสปีด เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย 356 กม. วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติภายในปี 65 คาดว่า เปิดบริการปี 72 และโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท จะเสนอ ครม.พิจารณาได้ภายในปี 65 เริ่มก่อสร้างปี 66 แล้วเสร็จประมาณปี 68
2.การบริหารจัดการใช้ทางรถไฟ และการใช้สะพาน สปป.ลาว เห็นชอบแนวทางการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ตามที่กรมทางหลวง (ทล.) เสนอ ประกอบด้วย สะพานเฉพาะรถไฟ 1 แห่ง และสะพานรถยนต์ 1 แห่ง โดยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย ที่ใช้เดินรถไฟและรถยนต์ร่วมกันในปัจจุบันจะอยู่ระหว่างกลาง 2 สะพานใหม่ สะพานรถไฟใหม่ห่างสะพานตัวเก่า 30 เมตร มี 4 ราง แบ่งเป็น Meter Gauge ขนาดราง 1 เมตร 2 ราง สำหรับรถไฟทางคู่ และ Standard Gauge ขนาดราง 1.435 เมตร 2 ราง สำหรับรถไฟไฮสปีด ขณะที่สะพานรถยนต์อยู่ติดสะพานเดิมมีขนาด 2 ช่องจราจร
ฝ่ายลาวเสนอให้พัฒนาระบบรางก่อน ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าจะออกแบบตามแนวทางที่ ทล.เสนอ แต่ระยะแรกจะสร้างสะพานรถไฟก่อน ในอนาคตหากถนนบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เกินขีดความสามารถรองรับ จะสร้างสะพานรถยนต์ในระยะต่อไป สำหรับการสร้างสะพานแห่งใหม่ ฝ่ายไทย และฝ่ายลาวจะลงทุนค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย ส่วนการศึกษาออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง ทล.เป็นผู้ศึกษา 1-2 ปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างสะพานรถไฟได้ลางปี 67 แล้วเสร็จประมาณกลางปี 68-69
เมื่อก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่เสร็จ รถไฟไฮสปีดของไทยสามารถใช้สะพานข้ามไปยังฝั่งลาว เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟลาว-จีน ได้ทันที ช่วง 2-3 ปีนี้ต้องเจรจากับฝ่าย สปป.ลาว ทำทวิภาคีร่วมกันให้รถไฟไฮสปีดไทยเดินรถข้ามสะพานรถไฟแห่งใหม่ และใช้รางของลาวเดินรถตามเส้นทางรถไฟลาว-จีน ไปยังคุนหมิงได้เลย ผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ แต่เมื่อใช้รางของลาวต้องลดความเร็วเดินรถให้เท่ากับความเร็วของรถไฟลาว-จีน เพราะระบบอาณัติสัญญาณไม่ได้รองรับความเร็วสูง รถไฟลาว-จีน ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กม.ต่อ ชม. รถไฟไฮสปีดอยู่ที่ 250 กม.ต่อ ชม.
ADVERTISEMENT
3.การพัฒนาย่านขนถ่ายสินค้าของฝั่งไทย-ลาวระยะเร่งด่วน พัฒนาสถานีหนองคาย รองรับการขนส่งสะพานเดิมโดยเพิ่มรถจาก 4 ขบวนต่อวัน เป็น 14 ขบวนต่อวัน และเพิ่มจาก 12 แคร่ เป็น 25 แคร่ รวมถึงพัฒนาบริเวณสถานี 80 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อยสินค้าระหว่างประเทศ และเปลี่ยนถ่ายจากถนนสู่ราง และระยะยาวพัฒนาพื้นที่สถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย รองรับการขนส่งจากลาว-จีน และส่งออกไปยัง สปป.ลาว
การเดินรถไฟจากไทย-ลาว ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ยังสิ้นสุดอยู่ที่สถานีท่านาแล้ง สปป.ลาว ขณะนี้ฝ่ายลาวได้ก่อสร้างเส้นทางจากท่านาแล้งไปสถานีบ้านคำสะหวาด (เวียงจันทน์) เสร็จเรียบร้อยแล้ว รฟท.มีแผนเปิดเดินขบวนรถโดยสารเพิ่มเติม 3 ระยะ ระยะเร่งด่วน (ปลายปี 65 หรือต้นปี 66) จะขยายต้นทาง/ปลายทางในฝั่งลาว (หนองคาย-ท่านาแล้ง) จากสถานีท่านาแล้ง เป็นสถานีบ้านคำสะหวาด วันละ 4 ขบวนไป-กลับ หากต้องการใช้บริการรถไฟลาว-จีน ต่อรถโดยสารสาธารณะ 16 กม. ไปขึ้นที่สถานีนครหลวงเวียงจันทน์ได้
ระยะกลาง (ปี 67) ขยายต้นทาง/ปลายทางในฝั่งไทย จากสถานีหนองคาย เป็นสถานีอุดรธานี วันละ 4 ขบวนไป-กลับ และเปิดเดินขบวนรถระหว่าง สถานีนครราชสีมา-สถานีบ้านคำสะหวาด วันละ 2 ขบวนไป-กลับ และแผนระยะยาว (ปี 68) จัดเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ระหว่างสถานีบางซื่อ/พัทยา-สถานีบ้านคำสะหวาด วันละ 2 ขบวนไป-กลับ
รมว.คมนาคม บอกด้วยว่า ฝ่ายลาวมีเป้าหมายผลักดันประเทศเป็น Land-Linked เชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ระหว่างไทย จีน และเวียดนาม ไทยเล็งเห็นศักยภาพ จึงเสนอเพิ่มโอกาสเชื่อมต่ออาเซียนไปยังมาเลเซีย และสิงคโปร์ จากการใช้เส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีนด้วย โดยเชื่อมต่อมาเลเซียด้วยระบบรถไฟทางคู่ รวมถึงเชื่อมต่อสิงคโปร์ด้วยท่าเรือในโครงการพัฒนาแลนด์บริดจ์ ฝ่ายไทยจึงเสนอตั้งคณะทำงาน 5 ประเทศ จีน ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อบูรณาการระบบรางให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รองรับระบบรถไฟระหว่างประเทศ
รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นำทีมไทยแลนด์ประชุมกระชับแผนรถไฟไทยเชื่อมลาวจีน และขยายโครงข่ายรถไฟไทยในฝันเชื่อม 4 ประเทศ แต่!!
.อีกกี่ปี??
.ถึงจะใกล้ความจริง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43425
Location: NECTEC
Posted: 19/10/2022 11:40 am Post subject:
เหล็ก SYS คว้างานก่อสร้างอุโมงค์ โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย
หน้าเศรษฐกิจ-ธุรกิจ เศรษฐกิจ
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันอังคาร ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 13:34 น.
SYS คว้างานเมกะโปรเจ็กต์ ได้รับคัดเลือกเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศ กรุงเทพฯ หนองคาย ใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ทั้งโครงการกว่า 8,000 ตัน ทำอุโมงค์ยาว 8 กิโลเมตร ช่วงมวกเหล็กและลำตะคอง
นายพงษ์ศักดิ์ แห่ล้อม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ เปิดเผยว่า SYS ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน)(บมจ.) ผู้ดำเนินการงานโยธาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับประเทศในครั้งนี้ โดยเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ภายใต้แบรนด์ SYS ที่ถูกเลือกใช้ในส่วนโครงสร้างอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงช่วงมวกเหล็กและลำตะคองในครั้งนี้ เป็นเหล็กคุณภาพสูง มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการใช้งาน สามารถตรวจสอบได้ทุกท่อน โดยมีทีมวิศวกรให้คำแนะนำทางด้านเทคนิคอย่างใกล้ชิด และมีทีมประสานงานเพื่อวางแผนการส่งมอบเหล็กให้กับโครงการเพื่อดำเนินงานก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายธนนท์ ดอกลัดดา ผู้จัดการโครงการ บมจ. เนาวรัตน์พัฒนาการ กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อดำเนินงานโยธาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค สายกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) ที่เป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศ
ทั้งนี้บริษัทในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างชั้นนำของประเทศ ด้วยประสบการณ์กว่า 45 ปี ต้องรักษามาตรฐานการดำเนินงานด้วยการให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการก่อสร้าง โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุโครงการที่มีความแข็งแรง คงทน คุ้มค่า ประหยัดแรงงานคน และเวลาในการดำเนินงาน เพื่อให้การก่อสร้างสมบูรณ์และแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบโครงการได้ทันตามกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง ซึ่งเหล็กของ SYS สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
โดยบริษัทได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ - หนองคาย สัญญาที่ 3-2 อุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคองงานโยธาสำหรับอุโมงค์และโครงสร้างทางต่อเนื่องของรถไฟความเร็วสูงเฟสแรก (ช่วงมวกเหล็กและลำตะคอง) ระยะทางรวม 12.23 กิโลเมตร โดยได้เลือกใช้เหล็กคุณภาพสูงของ SYS จำนวนมากกว่า 8,000 ตัน ในส่วนโครงสร้างอุโมงค์ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเหล็กที่ตอบโจทย์งานโครงสร้างที่แข็งแกร่งตามมาตรฐานสากล และมั่นใจในความปลอดภัย อีกทั้งโรงงานของ SYS อยู่ในประเทศไทย จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบได้ตามกำหนดเวลา ทันส่งมอบโครงการฯที่มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2569
อนึ่ง โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์ของประเทศไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง โดยโครงการได้เริ่มลงมือก่อสร้างจริงในปี 2560 โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ หนองคาย ถือเป็นเส้นทางนำร่องจากทั้งสิ้น 4 เส้นทาง แบ่งการก่อสร้างออกเป็นสองเฟส เฟสแรกกรุงเทพฯ นครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีทั้งหมด 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง และนครราชสีมา เป็นการก่อสร้างในลักษณะทางยกระดับ 188.68 กิโลเมตร คันทางระดับดิน 54.99 กิโลเมตร และอุโมงค์บริเวณมวกเหล็กและลำตะคอง 8 กิโลเมตร คาดจะแล้วเสร็จประมาณปี 2569
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43425
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46375
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46375
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/10/2022 9:44 am Post subject:
'ศักดิ์สยาม'ถกเอกอัครราชทูตEU พัฒนาขนส่งหนุนบริการแพทย์ฉุกเฉิน
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Thursday, October 27, 2022 05:37
ผู้จัดการรายวัน360 - "ศักดิ์สยาม" หารือเอกอัครราชทูต EU พัฒนาด้านคมนาคมขนส่งไทย-สหภาพยุโรป ร่วมมือ EASA บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ พร้อมหนุนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดันไทยเป็นศูนย์กลางในอาเซียน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง ให้ H.E. Mr. David Daly เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เข้าพบในโอกาสเข้ารับตำแหน่งว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-สหภาพยุโรป (EU) ด้านคมนาคมขนส่งในประเด็นการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ในประเด็นต่างๆ ได้แก่
1. โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่สำคัญใน 4 มิติของกระทรวงคมนาคมและการพิจารณาแนวทางในการร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์เกตเวย์ระดับโลกของยุโรป (the European Global gateway strategy) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน การขนส่งอัจฉริยะ การขนส่งที่ยั่งยืน และเสริมสร้างความปลอดภัยในทุกรูปแบบการขนส่ง รวมทั้งการเชื่อมโยงสินค้า ผู้คนและบริการทั่วโลก
2. ความร่วมมือ EU-อาเซียน ด้านการใช้ระบบการควบคุมการเดินรถไฟด้วยระบบอาณัติสัญญาณกลาง (European RailTraffic Management System : ERTMS) ในภูมิภาค ซึ่งระบบ ERTMS เป็นระบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับสำหรับกลุ่มสหภาพยุโรปและหลายประเทศทั่วโลก โดยเป็นระบบที่มุ่งหมายในการเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถไฟในแง่ของการเพิ่มความจุของทางรถไฟ ทั้งนี้ แต่ละประเทศสามารถนำมาศึกษาและพิจารณานำระบบดังกล่าวมาใช้ เพื่อให้สามารถเดินรถไฟระหว่างกันได้
3. ความร่วมมือกับองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (the European Aviation Safety Agency : EASA) ในประเด็นการดำเนินการระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ (Helicopter Emergency Medical Services : HEMS) ซึ่งสืบเนื่องจาก EASA ได้หารือกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เกี่ยวกับการให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการปฏิบัติการบินและการกำกับดูแลการปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ซึ่งปัจจุบัน กพท. ได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการให้การรับรอง HEMS แก่ผู้ประกอบการเฮลิคอปเตอร์ที่ประสงค์จะให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อประโยชน์ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ลดอัตราการสูญเสีย
ทั้งนี้ ประเด็นการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-สหภาพยุโรป (EU) ด้านคมนาคมขนส่ง ในครั้งนี้ ทางฝ่ายสหภาพยุโรปให้ความสนใจในวิสัยทัศน์ของกระทรวงคมนาคมทั้ง 4 มิติ ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง การพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางราง โครงการLand Bridge ชุมพร-ระนอง โครงการ MR-MAP รวมไปถึงแนวทางที่กระทรวงคมนาคมจะผลักดันการขนส่งด้วยพลังงานสะอาดทั้งรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสารธารณะ และรถไฟระหว่างเมือง โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นร่วมกันที่จะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อหารือและผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป.
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 27 ต.ค. 2565
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 43425
Location: NECTEC
Posted: 27/10/2022 6:15 pm Post subject:
#เริ่มแล้ว งานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง
ช่วง กรุงเทพฯ - นครราชสีมา สัญญาที่ 4 - 6 ช่วง พระแก้ว - สระบุรี
ล่าสุด บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ได้เริ่มเข้าพื้นที่และทำออฟฟิศ สำนักงานสนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดของงาน งานก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟ ระยะทางรวม 31.60 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็น คันทางรถไฟระดับดิน ระยะทางประมาณ 7.02 กิโลเมตร และโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 24.58 กิโลเมตร
(ภาพจาก) ติดTRAIN Channel
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1450453882124032&id=100014783023170
28ต.ค.65 ช่วงสาย ลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา ของสัญญา 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ณ สำนักงานโครงการอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
งานระดับดินสามส่วนยาวรวม 1.15 กม.
กม. 160 + 700.00 - กม. 160 + 755.16
กม. 185 + 531.18 - กม. 185 + 952.80
กม. 186 + 121.41 - กมง 186 + 600.00
งานลอยฟ้าสองส่วนยาวรวม 24.95 กม.
กม. 160 + 755.16 - กม. 185 + 531.18 ทางยกระดับปากช่อง
กม. 185 + 952.80 - กม. 186 + 121.41 ทางยกระดับบริวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/5658413747538857 Last edited by Wisarut on 28/10/2022 8:54 pm; edited 1 time in total
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 46375
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 28/10/2022 2:29 pm Post subject:
"ประยุทธ์" หารือนายกฯ ลาวในโอกาสเป็นประธานร่วมวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5
เผยแพร่: 28 ต.ค. 2565 11:28
ปรับปรุง: 28 ต.ค. 2565 11:28
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
นายกฯ หารือนายกฯ สปป. ลาว ในโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมั่นสะพานแห่งนี้จะเป็นอีกช่องทางให้ประชาชนไปมาหาสู่กัน
วันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ณ บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือทวิภาคีกับ นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ซึ่งภายหลังการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ซึ่งเป็นไปตามที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ที่ไทย เชื่อมั่นว่าสะพานแห่งนี้จะเป็นอีกช่องทางให้ประชาชนตามแนวชายแดนไปมาหาสู่กันได้สะดวกมากขึ้น และเชื่อว่าจะมีสะพานแห่งอื่นๆ เพิ่มอีก และขอให้ดูแลคนไทยในประเทศลาว ซึ่งคนไทยก็จะดูแลคนลาวในไทยเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งในวันนี้ ไทย-ลาว มีสะพานเชื่อมโยง แต่ถึงจะไม่มีสะพานคนไทย-คนลาวก็มีใจเชื่อมใจ ขอให้จดจำถ้อยคำ ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่พึ่งพาถ้อยอาศัยระหว่างสองประเทศ กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ
นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่าสะพานแห่งนี้ จะเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่แสดงถึงความเป็นมิตรที่ใกล้ชิด และยิ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของประเทศและประชาชนทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น และจะเป็นสะพานที่เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ทั้งสองประเทศ เนื่องจากจะเป็นทางเลือกการขนส่งระหว่างไทยกับ สปป. ลาว รวมทั้งส่งเสริมการขนส่งเส้นทางหมายเลข 8 (R8) ระหว่างไทยลาวเวียดนามให้สะดวกยิ่งขึ้น
ในส่วนของประเด็นเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบรางของไทยกับรถไฟลาว จีน นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายพร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อลดอุปสรรคในการขนส่งและใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีให้เต็มที่ ซึ่งต้องการเห็นความคืบหน้า อำนวยความสะดวก ขจัดอุปสรรคต่างๆ
ในโอกาสนี้ ภายหลังการหารือนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ได้กล่าวแสดงความยินดี และความร่วมมือโครงการฯ ยินดีและเป็นเกียรติ ที่ได้มาร่วมงานที่มีความหมายเป็นสิริมงคลในวันนี้การก่อสร้างนี้เป็นความพยายามมุ่งมั่นของรัฐบาลทั้งสองประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนทั้งสองฝั่ง การขนส่ง ส่งเสริมการค้า การลงทุน ท่องเที่ยว สนับสนุนการพัฒนาในทั้งสองประเทศเพื่อประโยชน์สูงสุด ของประเทศและประชาชน และในตอนท้ายได้อวยพรให้สองประเทศเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
Back to top