View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 19/10/2023 1:14 pm Post subject:
เศรษฐาดึงจีนสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงหนองคาย-ลาว
ฐานเศรษฐกิจ 19 ตุลาคม 2566
เศรษฐา หารือ หลี่ เฉียง ดึงจีน สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงหนองคาย-ลาว ชูแลนด์บริดจ์ไทย ศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก ลดแออัด-ร่นระยะทาง
19 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงการหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ได้ให้ความมั่นใจว่าไทยจะพัฒนาโครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" หรือ บีอาร์ไออย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันได้มีการหารือลงรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เรื่องการขนถ่ายสินค้าจากไทยไปจีนผ่านลาวที่พบว่ายังมีอุปสรรค คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงจากหนองคายไปลาว โดยตนเองได้บอกนายกฯ จีนว่า ควรจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้การขนถ่ายสินค้าเป็นไปด้วยดี ซึ่งหากมีการสร้างสะพานดังกล่าวในช่วงจังหวัดหนองคาย ก็จะมีการสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าด้วย
นายเศรษฐา ยืนยันว่าในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติรถไฟรางคู่จากขอนแก่นไปหนองคาย เพื่อบรรเทาความแออัด ในการขนถ่ายสินค้า ระหว่างการสร้างรถไฟความเร็วสูง
นอกจากนี้ยังได้แจ้งให้นายกฯจีนทราบว่ารัฐบาลได้มีการอนุมัติการทำการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ทำให้ประเทศไทยในอนาคตจะไม่ใช่แค่เส้นทางผ่านการขนถ่ายสินค้าอย่างเดียว แต่จะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของโลก เพราะหากโครงการนี้เกิดขึ้นจะเป็นโครงการเมกกะโปรเจคที่ตอบโจทย์ปัญหาความแออัดของการขนถ่ายสินค้าทั่วโลกได้ โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งจะลดระยะทางและลดความแออัดลงได้
ดังนั้น การมีแลนด์บริดจ์เชื่อมต่อระหว่างอันดามัน-อ่าวไทย จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมาก จะไม่ใช่การขนถ่ายสินค้าระหว่างจีนผ่านไปอินเดีย ไปตะวันออกกลางและแอฟริกาอย่างเดียว แต่จะสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนจีนว่า การสร้างโรงงานที่ประเทศไทย จะทำให้การขนถ่ายสินค้า ขนส่งกระจายไปทั่วโลกอย่างสบาย ซึ่งนายกฯ จีนได้ให้ความสนใจอย่างมาก เพราะแลนด์บริดจ์จะเป็นโครงการที่มาเสริมให้บีอาร์ไอมีศักยภาพและเชื่อมโยงกับทั่วโลกได้ สอดคล้องกับเจตนาของประเทศจีน
นายเศรษฐา กล่าวเชื่อว่าการมาจีนครั้งนี้ รัฐบาลประสบความสำเร็จ และมั่นใจว่าหากเกิดแลนด์บริดจ์ รวมทั้งการลงทุนด้านรถไฟฟ้าอีวี ซึ่งขณะนี้มีเข้ามาแล้ว 4 บริษัท และจะได้เจรจาอีก 2 บริษัท จะสามารถสร้างเม็ดเงินกว่าล้านล้านบาท ซึ่งนับตัวเลขไม่ได้ เพราะประเทศจีนพัฒนาเยอะมาก และเป็นความโชคดีที่ไทยตั้งอยู่จุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญ เรามีความเป็นกลาง มีความเป็นมิตร
เมื่อวานนี้ผมรู้สึกว่ามีความผูกพันที่ดีมากๆ กับนายกฯ จีน ซึ่งท่านได้ให้เบอร์มือถือไว้ หากมีอะไรก็สามารถโทรพูดคุยได้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยสองประเทศต้องพึ่งพากัน โดยเราต้องพึ่งจีนในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ ซึ่งในงานเลี้ยงอาหารค่ำวานนี้ ในการแสดงดนตรีร้องเพลงไทย คือ เพลงลอยกระทง ซึ่งมีการฝึกกันนานมาก แสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับเรา ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดีมาก นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันถึงการนำเข้า-ส่งออกสินค้าการเกษตร ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนทุกมิติ โดยตนได้ขอให้การนำเข้าวัวของจีน ที่เป็นนโยบายหลักของไทย ที่จะส่งออกวัวให้กับจีนที่เป็นตลาดใหญ่ แต่เนื่องจากปัจจุบันการส่งออกวัวจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่ประเทศลาว
รัฐบาลไทยจึงขอให้มีการศูนย์ตรวจสอบที่ประเทศไทย ซึ่งจะทำตามกฎของประเทศจีนทุกอย่าง เช่น การตรวจโรค การฉีดวัคซีน ซึ่งมีความสำคัญมาก จะทำให้การพัฒนาส่งออกวัวได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางราง หรือทางเรือ ไม่ต้องไปพึ่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกฯ จีนยืนยันให้ความสำคัญและจะพิจารณาข้อเสนอของไทย
ขณะเดียวกัน ยังได้หารือเรื่องวีซ่าฟรี ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติให้คนจีนเข้าไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึง 29 ก.พ.67 แต่รัฐบาลมีความประสงค์จะขยายให้เป็นแบบระยะยาว ซึ่งทางจีนรับไปพิจารณา แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าน่าจะได้รับการตอบสนองที่ดี
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Posted: 19/10/2023 7:49 pm Post subject:
คืนสภาพลำรางรับน้ำท่วม ข้าง รพ.รถไฟ, บึงมักกะสัน สก.จี้ กทม.เร่งแก้ไข
ข่าวทั่วไทย กทม.
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันพฤหัสบดี ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10:24 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภา กทม. ที่ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) เมื่อวันที่ 18 ต.ค.66 นายพีรพล กนกวลัย สก.เขตพญาไท ได้ยื่นญัตติเรื่อง ขอให้ กทม. คืนสภาพและขุดลอกลำรางสาธารณะจำนวน 2 ลำราง ให้สามารถระบายน้ำลงสู่บึงข้าง รพ.บุรฉัตรไชยากร (รพ.รถไฟ) และบึงมักกะสัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากบึงข้าง รพ.บุรฉัตรไชยากร และบึงมักกะสันในพื้นที่เขตราชเทวี เป็นพื้นที่รองรับปริมาณน้ำ (แก้มลิง) ในช่วงฤดูฝนของพื้นที่เขตราชเทวีและเขตใกล้เคียง แต่มีลำรางสาธารณะ 2 ลำราง ซึ่งเคยใช้ในการระบายน้ำลงสู่บึงข้างโรงพยาบาลและบึงมักกะสันตื้นเขินและเป็นพื้นดิน จำเป็นต้องคืนสภาพลำรางทั้ง 2 ลำรางนี้ตามรังวัด สามารถระบายน้ำตามเส้นทางลำรางเดิมไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่
จึงขอให้ กทม. คืนสภาพลำรางสาธารณะทั้ง 2 ลำราง และขุดลอกให้ระบายน้ำลงสู่บึง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ทั้งนี้ลำรางทั้งสองแห่งถูกขอถอนสภาพลำราง เพื่อพัฒนาพื้นที่รองรับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และตั้งแต่ปี 2562 ยังไม่มีการก่อสร้างใดๆเลย และจากการลงพื้นที่ของคณะกรรมการระบายน้ำ สภา กทม.พบว่า ปัจจุบันลำรางนี้ไม่มีน้ำอยู่แล้ว และไม่ได้เป็นลำรางธรรมชาติ เป็นเพียงการขุดดินขึ้นไว้ด้านข้างให้เป็นเนินกั้นลำราง ซึ่งก่อนที่จะถอนสภาพ หน่วยงานต้องสร้างที่กักเก็บน้ำที่มีปริมาณไม่น้อยกว่าเดิมให้ก่อน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่สถานีแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อม 3 สนามบิน ต้องการพื้นที่ไปพัฒนา ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้สร้างระบบระบายน้ำทดแทนของเดิมให้ได้ โดยสำนักการระบายน้ำได้หารือกับการทางรถไฟและได้ข้อกำหนด 6 ข้อ เพื่อดำเนินการ ซึ่งจะกำชับให้สำนักการระบายน้ำเข้าไปดูแล.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/10/2023 8:21 am Post subject:
สุรพงษ์จบปัญหา'สถานีอยุธยา'
Source - เดลินิวส์
Friday, October 20, 2023 03:45
เร่งรถไฟไฮสปีดสายแรกเสร็จ69 สีแดงรังสิต-มธ.เข้าครม.24ต.ค.
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เน้นการพัฒนาระบบรางเชื่อมโลกทั้งหมด จึงได้สั่งการให้ติดตาม และเร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ระยะ (เฟส)ที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) และโครงการรถไฟทางคู่สายต่าง ๆ รวมทั้งเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ให้จบภายในสิ้นปี 66 โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองระยะทาง 15.21 กม. ที่ยังติดประเด็นเรื่องการดำเนินงานกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นช่วงที่มีโครงสร้างทับซ้อนกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตลอดจนสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม.ที่ยังรอความชัดเจนเรื่องการสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งในประเด็นนี้ตนจะเป็นผู้เจรจากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยด้วยตัวเอง เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออกแน่นอน และยืนยันว่าต้องสร้างสถานีอยุธยา ทั้งนี้ในการเจรจาจะนำทุกสิ่งวางขึ้นบนโต๊ะทั้งหมด ทั้งประโยชน์ที่จะได้รับ และผลเสีย มั่นใจว่าสถานีอยุธยาสามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชนเมืองเก่าได้ และอาจเป็นสถานีที่สวยที่สุด เป็นแลนด์มาร์คดึงดูดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมก็ได้ ปัจจุบันโครงการรถไฟไฮสปีดเฟสที่ 1 มีความคืบหน้าประมาณ 27% ตามแผนที่ปรับใหม่ต้องแล้วเสร็จภายในปี 70 โดยปัญหาต่าง ๆ ของ 2 สัญญานี้มีทางออกแล้ว 90%
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้เร่งรัดรถไฟชานเมืองสายสีแดง (รถไฟฟ้าสีแดง) ส่วนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้ได้เสนอช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) รอบรรจุเป็นวาระในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะพิจารณาในการประชุมวันที่ 24 ต.ค.นี้ ส่วนอีก 2 เส้นทาง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา จะเสนอ สลค.ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช เบื้องต้นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นชอบทางวาจามาแล้ว คาดว่าจะเสนอ สลค. เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้ประมาณเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าจะเปิดประกวดราคา (ประมูล) ทั้ง 3 เส้นทางได้ในต้นปี 67
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า รถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยเฉพาะสายสีแดงจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีระบบฟีดเดอร์ที่ดีป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบรางให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้มอบให้ขร. และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) หารือร่วมกันในการจัดฟีดเดอร์เข้าถึงทุกสถานีโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นมี 2 แนวทาง 1.ปรับปรุงเส้นทางเดิม โดยเป็นแนวทางที่ทำได้เร็วที่สุด และ 2.กำหนดเส้นทางใหม่ คาดว่าหากทำได้จะช่วยดึงดูดผู้โดยสารมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางรางคาดว่าจะเสนอกลับไปยัง ครม. พิจารณาได้ภายในปี 66 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปลายปี 67 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและคุ้มครองผู้โดยสาร
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการมอบนโยบายครั้งนี้ นายสุรพงษ์ ได้เร่งรัดให้การก่อสร้างโครงการรถไฟไฮสปีด เฟสที่ 1 แล้วเสร็จภายในปี 69 เร็วกว่าแผนที่จะแล้วเสร็จในปี 70.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 20 ต.ค. 2566
สุรพงษ์ พร้อมนั่งหัวโต๊ะเจรจาสถานีอยุธยา
Thai PBS News
Oct 20, 2023
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ระบุว่าโครงการรถไฟไทย-จีน ช่วงสถานีอยุธยา เพื่อให้โครงการดำเนินการต่อไปได้ไม่ล่าช้า จะดำเนินการสร้างรางผ่านสถานีอยุธยาไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุป ยืนยันต้องจบภายในปีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=sfDVIC9MSX4
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Posted: 20/10/2023 1:22 pm Post subject:
เริ่มแล้ว สถานีรถไฟความเร็วสูงปากช่อง เปิดพื้นที่นอกเมือง
เชื่อมโยงสะดวก ทั้งเข้าเมือง และสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมเปิดพื้นที่รองรับการพัฒนาเมืองใหม่
วันนี้ผมไปปากช่องมา พอมีเวลาช่วงเที่ยงเลยผ่านไปดูความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง สถานีปากช่อง
ซึ่งสถานีรถไฟความเร็วสูงปากช่อง เป็นการก่อสร้างในพื้นที่ใหม่ บริเวณบ้านจันทึก ห่างจากสถานเดิมประมาณ 5 กิโลเมตร
เนื่องจากสถานีปากช่อง ปัจจุบัน อยู่กลางตลาดปากช่อง ซึ่งเดินทาง เข้า-ออก ยากและแออัดมาก พร้อมกับการเดินทางไปยังเขาใหญ่ และสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองปากช่อง ไปได้ค่อนข้างยาก
ทำให้ในการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน เลยมีย้ายตำแหน่งสถานี ออกไปนอกเมือง
แต่ปัญหาของการเปิดพื้นที่ใหม่ ทำให้ต้องมีการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม ซึ่ง พรบ.เวนคืน ออกมาได้ 2 ปี ซึ่งปัจจุบันเริ่ม ก่อสร้าง หลังจากการส่งมอบพื้นที่ได้
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/654692926806298/?mibextid=01WlX5
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Posted: 20/10/2023 9:15 pm Post subject:
สุรพงษ์ ลุยเจรจา! ปีนี้ต้องจบปม สถานีอยุธยา เร่งรถไฟไฮสปีดสายแรกเสร็จปี 69
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
19 ตุลาคม 2566 เวลา 19:30 น.
สุรพงษ์ ลุยเจรจาทุกฝ่ายหาข้อยุติ สถานีอยุธยา ต้องจบปีนี้ สั่ง กรมราง ติดตามเร่งรัดสร้างรถไฟไฮสปีด-ทางคู่ จี้ให้เสร็จปี 69 ขณะที่สีแดงต่อขยาย รังสิต-มธ. เข้าครม. เส้นแรก 24 ต.ค.นี้ มอบ ขร.-ขบ. จัดทำฟีดเดอร์เข้าทุกสถานี ดึงคนใช้รถไฟฟ้าเพิ่ม ขณะที่กฎหมายขนส่งทางราง คาดชู๊ดเข้าครม.ปลายปีนี้
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางราง(ขร.) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เน้นการพัฒนาระบบรางเชื่อมโลกทั้งหมด จึงได้สั่งการให้ติดตาม และเร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ระยะ(เฟส)ที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร(กม.) และโครงการรถไฟทางคู่สายต่างๆ รวมทั้งเคลียร์ปัญหาต่างๆ ให้จบภายในสิ้นปี 66 โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองระยะทาง 15.21 กม. ที่ยังติดประเด็นเรื่องการดำเนินงานกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นช่วงที่มีโครงสร้างทับซ้อนกัน
ADVERTISEMENT
ADVERTISEMENT
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตลอดจนสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร(กม.) ที่ยังรอความชัดเจนเรื่องการสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งในประเด็นนี้ตนจะเป็นผู้เจรจากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยด้วยตัวเอง เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออกแน่นอน และยืนยันว่าต้องสร้างสถานีอยุธยาทั้งนี้ในการเจรจาจะนำทุกสิ่งวางขึ้นบนโต๊ะทั้งหมด ทั้งประโยชน์ที่จะได้รับ และผลเสีย มั่นใจว่าสถานีอยุธยาสามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชน เมืองเก่าได้ และอาจเป็นสถานีที่สวยที่สุด เป็นแลนด์มาร์คดึงดูดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมก็ได้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันโครงการรถไฟไฮสปีดเฟสที่ 1 มีความคืบหน้าประมาณ 27% ซึ่งตามแผนต้องแล้วเสร็จภายในปี 70 โดยปัญหาต่างๆ ของ 2 สัญญานี้มีทางออกแล้ว 90%
ADVERTISEMENT
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้เร่งรัดการดำเนินการรถไฟชานเมืองสายสีแดง(รถไฟฟ้าสีแดง) ส่วนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้ได้เสนอช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) รอบรรจุเป็นวาระในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) คาดว่าจะพิจารณาในการประชุมวันที่ 24 ต.ค.นี้ ส่วนอีก 2 เส้นทาง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา จะเสนอ สลค.ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช เบื้องต้นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เห็นชอบทางวาจามาแล้ว คาดว่าจะเสนอ สลค. เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้ประมาณเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคา(ประมูล) ทั้ง 3 เส้นทางได้ในต้นปี 67
ADVERTISEMENT
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า รถไฟฟ้าสายต่างๆ โดยเฉพาะสายสีแดงจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีระบบฟีดเดอร์ที่ดีป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบรางให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้มอบให้ขร. และกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) หารือร่วมกันในการจัดฟีดเดอร์เข้าถึงทุกสถานีโดยเร็วที่สุด ซึ่งเบื้องต้นมี 2 แนวทาง 1.ปรับปรุงเส้นทางเดิม โดยเป็นแนวทางที่ทำได้เร็วที่สุด และ 2.กำหนดเส้นทางใหม่ คาดว่าหากทำได้จะช่วยดึงดูดผู้โดยสารมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับร่างร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การขนส่งทางราง คาดว่าจะเสนอกลับไปยังครม. พิจารณาได้ภายในปี 66 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรต่อไป และคาดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในปลายปี 67 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการให้กับประชาชนมากขึ้น และช่วยคุ้มครองผู้โดยสาร อาทิ กรณีที่รถไฟฟ้าล่าช้า หรือรถไฟขัดข้อง ซึ่งจะกำหนดมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม ขณะเดียวกันยังจะช่วยทำให้ค่าโดยสารมีความเป็นธรรม และราคาถูกลงด้วย เพราะกำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามทุกระบบเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนไม่ว่าจะเป็นของผู้ประกอบการรายใดก็ตาม รวมทั้งการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้น อาทิ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพราะกฎหมายจะเขียนชัดเจนว่า ต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลโดยต้องเสนอมายังคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อกำหนดกลไกเยียวยาผู้ประกอบการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการมอบนโยบายครั้งนี้ นายสุรพงษ์ ได้เร่งรัดให้การก่อสร้างโครงการรถไฟไฮสปีด เฟสที่ 1 แล้วเสร็จภายในปี 69 เร็วกว่าแผนที่จะแล้วเสร็จในปี 70..
รมช.สุรพงษ์ประกาศเจรจาจบทุกปัญหาสถานีอยุธยา
*เร่งไฮสปีดสายแรกเลื่อนกลับมาให้เสร็จเร็วขึ้น 1 ปี
*แจ้งข่าวดีขยายสายสีแดงรังสิต-มธ.เข้าครม24ต.ค.
*คิวต่อไปชงพ.ย.อีก2เส้นตลิ่งชัน-ศาลายา-ศิริราช
*ลุยประมูลพร้อมกัน3เส้นทางต้นปีหน้าสร้างแน่นอน
*สั่งกรมรางxกรมขนส่งจัดฟีดเดอร์เข้าทุกสถานีด่วน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/874010674176168/?mibextid=cr9u03
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 21/10/2023 7:57 am Post subject:
หอการค้า 5 ภาคจี้รัฐบาล อัดยาแรงสู้วิกฤตเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 21 ตุลาคม 2566 - 07:22 น.
หอการค้า 5 ภาคจี้รัฐบาลอัดยาแรง เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งดอกเบี้ยแพง หนี้ครัวเรือนพุ่ง ส่งออกติดลบ ความหวังรายได้ท่องเที่ยวดับวูบทั่วประเทศ จากเหตุสุดวิสัยยิงกราดพารากอน-สงครามอิสราเอล กระทบไฮซีซั่นหนัก หอการค้าภาคใต้ชี้ภูเก็ต-กระบี่-พังงา เมืองท่องเที่ยวหลักต่างชาติมาแค่ 12% มาตรการฟรีวีซ่าไร้ผล วอนเร่งสร้างความเชื่อมั่น พร้อมเคลียร์ความชัดเจนเรื่องเงินดิจิทัล 5.6 แสนล้าน
นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานหอการค้าภาคกลาง หอการค้าไทย เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ขณะนี้รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ภายใต้นโยบายรัฐบาลที่ประกาศโรดแมปเพื่อการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมแนวทางที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งทางหอการค้าไทยได้แนะนำไปแล้วว่า รัฐบาลควรทำระยะสั้น และเริ่มแบบเฉพาะกลุ่ม โดยใช้ฐานผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว รัฐบาลควรทำการตลาดแบบเชิงรุก เพื่อดึงต่างชาติเข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะตลาดจีน รัฐบาลควรทำการตลาดเชิงรุกในเรื่องการให้ข้อมูล และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารทางโซเชียล เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง และมีความมั่นใจที่จะกลับมาเที่ยวเมืองไทยเช่นเดิม
ตอนนี้ข้อมูลข่าวสารทางโซเชียลหลายเรื่องที่คนจีนได้รับ ทั้งในเรื่องความปลอดภัย เหตุการณ์ที่สยามพารากอน, เรื่องนักท่องเที่ยวจีนที่ถูกจับตัวไปโดนตัดไต, เรื่องค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ อีกทั้งก่อนหน้านี้มีบล็อกเกอร์, พวกยูทูบเบอร์, อินฟลูเอนเซอร์ รีวิวการท่องเที่ยวไทยในทางที่ไม่ดี คนจีนกลับเชื่อ ทำให้คนจีนส่วนใหญ่หันไปเที่ยวประเทศอื่นแทน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว
นอกจากนี้ เรื่องความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ความสามารถในการแข่งขันของบริษัท และผู้ประกอบการ SMEs รัฐบาลควรมีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากวันนี้ต้องยอมรับว่าการขับเคลื่อนในภาคอุตสาหกรรมของไทย เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมผลิตฮาร์ดดิสก์ เป็นอุตสาหกรรมขาลงหมดแล้ว ฟันเฟืองที่เป็นเครื่องจักรเก่าเปรียบเหมือนคนแก่
ดังนั้น ในแง่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตควรจะไปทิศทางใด ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สะท้อนเรื่องความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องคน ต้องมีการวางแผน upskill และ reskill อย่างชัดเจน อาจต้องทำร่วมกับภาคเอกชน การพัฒนาทักษะแรงงานให้ตอบสนองความต้องการของตลาด รวมถึงการปรับแก้ไขกฎระเบียบ และนโยบายที่เอื้ออำนวยให้แข่งขันได้
นายธวัชชัยกล่าวต่อไปว่า ในภาคการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ วันนี้ที่นักลงทุนต่างชาติไม่มาประเทศไทย คงไม่ใช่ประเด็นเฉพาะอัตราค่าแรงงานของไทยแพงกว่า หรือค่าไฟแพงกว่า แต่เป็นเรื่องข้อตกลงทางการค้า โดยประเทศคู่แข่งกับมีเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้ผู้ลงทุนที่ดีกว่า ดังนั้น รัฐบาลก็ต้องเร่งแก้ปัญหาจุดเหล่านี้พร้อมกัน
ส่วนเรื่องการเมือง ปกติช่วง 3-6 เดือนแรก ต้องให้เวลารัฐบาลใหม่ทำงาน คิดว่าช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ถือว่าทำงานไปแล้วหลายเรื่อง
หอภาคเหนือจี้แก้ PM 2.5
นายสมบัติ ชินสุขเสริม รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานหอการค้าภาคเหนือ เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ระหว่างปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ อยากให้รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน โฟกัสเรื่องเศรษฐกิจก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องปากท้องของประชาชน
ขณะที่ปัญหาการเมืองในขณะนี้ค่อนข้างนิ่งแล้ว โดยอยากให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับประเด็นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด เนื่องจากเป็นการนำเงินคงคลังออกมาใช้ล่วงหน้า ไม่ควรเน้นนโยบายประชานิยมมากเกินไป จึงอยากให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
ขณะเดียวกัน ควรเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากขึ้น เพราะขณะนี้คนในประเทศเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศจะกระจุกตัวเฉพาะเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ส่วนการท่องเที่ยวเมืองรองกำลังอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งระบบได้รับผลกระทบมากในขณะนี้ ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ การขอสินเชื่อยากขึ้น และหนี้สินที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น จึงอยากให้รัฐบาลชุดนี้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างเร่งด่วน
นายสมบัติกล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาเร่งด่วนของภาคเหนือที่อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขด่วน 3 เรื่องคือ 1.ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวทุกปี เป็นเวลาถึง 3 เดือน (มีนาคม-พฤษภาคม) ทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งปัจจุบันมีการขับเคลื่อนของสภาลมหายใจภาคเหนือในการแก้ปัญหานี้ และล่าสุดได้ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุนการแก้ปัญหา PM 2.5 จึงอยากให้รัฐบาลได้ติดตามการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
2.อยากให้รัฐบาลพัฒนาแหล่งน้ำของภาคเหนือ โดยเฉพาะการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในจังหวัดต่าง ๆ เนื่องจากในฤดูฝนเมื่อมีฝนปริมาณมากและเกิดน้ำท่วม ซึ่งแหล่งน้ำจากภาคเหนือราว 80% จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้มากพอ เพราะไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำมากเพียงพอ ที่จะสามารถดึงน้ำมาใช้ในช่วงฤดูแล้ง 3.ปัญหาของผู้ประกอบการ SMEs ก็เป็นประเด็นที่รัฐบาลควรต้องโฟกัส โดยเฉพาะการสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ให้เกิดสภาพคล่อง และการผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
ไฮซีซั่นภาคใต้เงียบสนิท
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก่อน เนื่องจากตอนนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างหนัก ไม่ต่างจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทั้งการส่งออกติดลบ
ขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นความหวังเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ โดยภาคใต้ช่วงก่อนโควิดเคยมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 600,000 กว่าล้าน ในช่วงไฮซี่ซั่นปีนี้ผู้ประกอบการคาดหวังว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็นสองเท่าจากปี 2565 มีรายได้ประมาณ 200,000-300,000 ล้านบาท แต่เดือนตุลาคม 2566 ถือว่าเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นไฮซีซั่นแล้ว ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงายังค่อนข้างเงียบกว่าทุกปี มีตัวเลขยอดการจองห้องเข้ามาเพียง 12-13%
ขณะที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มีการจองห้องพักเข้ามาแล้วก็มีการยกเลิก หากเทียบกับช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 จะเริ่มเห็นยอดการจองห้องพัก เพื่อจะมาเข้าพักในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ประมาณ 70-80% แล้ว ตอนนี้แม้มีมาตรการฟรีวีซ่า แต่ไม่สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ แนวโน้มรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2566 น่าจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์กราดยิงและมีผู้เสียชีวิตที่สยามพารากอน และสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ดังนั้น รัฐบาลควรหันหน้ามาแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
ปกติปีที่ผ่านการท่องเที่ยวภาคใต้จะเงียบในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน และช่วงเดือนตุลาคมจะกระเตื้องขึ้นมา 20-30% แต่ปี 2566 กลายเป็นว่าเดือนตุลาคมการท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นมาเพียง 1-2% ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระอย่างหนัก เนื่องจากได้ลงทุนปรับปรุงกิจการ และเตรียมพนักงานจำนวนมากไว้รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น
ตอนนี้ดูจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ตอนนี้เศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ หากธุรกิจท่องเที่ยวไม่ฟื้น ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สินค้าเกษตร การค้าขาย การลงทุน การก่อสร้าง เกี่ยวโยงกันหมด รัฐบาลควรหันหน้ามาแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
นายวัฒนากล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายแจก เงินดิจิทัล 5.6 แสนล้านบาท ทางภาคเอกชนเห็นด้วยกับนโยบาย เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และคาดว่า GDP จะเพิ่มขึ้น 3-5% แต่ภาครัฐก็ยังไม่มีความชัดเจนทั้งขั้นตอนและวิธีการแจก จึงไม่ค่อยมีความเชื่อมั่น ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งออกมาชี้แจงที่มาที่ไปของเงินให้ชัดเจน เชื่อว่าทุกคนก็จะเห็นด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนหลายภาคส่วนออกข่าวถึงความไม่ค่อยโปร่งใส ถ้าหากมีการแจกอยากเสนอให้เป็นการแจกคล้ายโครงการคนละครึ่งที่มีการแจกเงินเป็นรอบ ๆ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่าการแจกเงินครั้งเดียว
หอตะวันออกเร่งเปิดตลาดใหม่
นายปรัชญา สมะลาภา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานหอการค้าภาคตะวันออก เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ตอนนี้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจคือเรื่องใหญ่ การส่งออกติดลบ ทั้งปัจจัยภายในประเทศ ที่มีเหตุการณ์กราดยิงขึ้นที่พารากอน และต่างประเทศมีสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกเริ่มลดลงอีก ตอนนี้รัฐบาลควรเร่งเปิดตลาดใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นการส่งออกควบคู่กับหานโยบายมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ควรมีการเปิดฟรีวีฟ่าในหลายประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น และจัดอีเวนต์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เน้นประชาสัมพันธ์ไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเชิญชวนให้กลุ่มทัวร์โอเปอเรเตอร์มาที่ไทยเพื่อดูงานอีเวนต์ต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติได้
ตอนนี้ทัวร์โอเปอเรเตอร์ต่างชาติส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุ จึงจำเป็นที่ต้องประชาสัมพันธ์หลายรูปแบบ อาทิ ประชาสัมพันธ์ผ่านออนไลน์ รวมถึงดึงโอเปอเรเตอร์จากเมืองนอกพาเขาไปชมอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการฟรีวีซ่า และเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น ก็คิดว่าจะสามารถช่วยเรื่องท่องเที่ยวได้
ทั้งนี้ ประชาชนกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้ครัวเรือน และการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อยากเสนอให้ทางภาครัฐช่วยพักชำระหนี้ไปก่อน ส่วนนโยบายแจกเงินดิจิตอล ทางภาคเอกชนเห็นด้วย เพราะจะต้องมีเงินมาช่วยมาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันนโยบายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน ทั้งเงื่อนไขและที่มาที่ไปของจำนวนเงินนอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และสนามบินอู่ตะเภา ก็คาดหวังว่าจะมีความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น
หออีสานให้เร่งแก้ปัญหาปากท้อง
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ปัจจุบันสถานการณ์ทางการเมืองนิ่งแล้ว แต่ทุกอย่างเหมือนอยู่ในภาวะชะลอตัว สิ่งที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขเป็นอันดับแรกคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่จะแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ เพราะหากเศรษฐกิจไม่ดี ปัญหาทางด้านการเมืองก็จะกลับมาอีก
เดิมทีหลายคนรู้สึกว่าในรัฐบาลชุดก่อนเศรษฐกิจไม่ดีเท่าไหร่ และคิดว่าหากเปลี่ยนรัฐบาล หรือได้รัฐบาลใหม่สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ปัจจุบันความรู้สึกอาจจะไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ เพราะยังไม่เห็นมาตรการ การช่วยเหลือประชาชนเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อน อย่างการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านแอปเป๋าตังมีโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง แม้มองโดยภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยจะยังดูดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตอนนี้คล้ายกับว่าแค่พอประคองตัวได้ เพราะมีรากฐานที่ดีเท่านั้น
โดยพื้นฐานของเศรษฐกิจในประเทศไทย ยังคงเอื้อให้ประชาชนมีกำลังพอจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคได้อยู่ แต่ทุกคนยังชะลอดูสถานการณ์ และไม่มีความเชื่อมั่นเท่าไหร่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ชะลอการลงทุนเพื่อดูทิศทางของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอกอย่างเรื่องสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย สงครามอิสราเอล รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกด้วย คิดว่าภายในปี 2566 นี้ ทุกคนยังต้องประคองตัวเองไว้ และใช้จ่ายเงินเท่าที่จำเป็น
นายสวาทกล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะแจกเงิน 10,000 บาทให้กับประชาชน แต่รัฐบาลควรมีความชัดเจนและมีวิธีการใช้ให้ง่ายมากกว่านี้ เนื่องจากมีข้อมูลของประชาชนอยู่แล้ว อาจจะโฟกัสไปยังกลุ่มที่เปราะบางที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็ทยอยขยายไปยังกลุ่มอื่น ๆ ให้ครอบคลุมน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการ
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะอยากให้รัฐบาลปล่อยให้หน่วยงานท้องถิ่นกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผนึกกำลังทำงานให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่นั้น ๆ เพื่อเกิดผลสัมฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่าใช้โมเดลเดียวแก้ปัญหากับทั้งหมดทั่วประเทศ เพราะสภาพปัญหาแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน และจะกลายเป็นว่าเกาไม่ถูกที่คัน ไม่ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ ข้อสำคัญคืออย่าให้มีเรื่องทุจริต หากทำได้จะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่นั้น ๆ ได้ถูกต้องตรงจุด
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top