Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312268
ทั่วไป:13901649
ทั้งหมด:14213917
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 460, 461, 462 ... 495, 496, 497  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/10/2023 7:35 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ปิดตำนาน 72 ปี”ตำรวจรถไฟ”ยุติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถไฟและสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:08 น.
ปรับปรุง:วันพฤหัสบดี ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:08 น.

ปิดฉาก ตำรวจรถไฟ ยุบหน่วยงานไปไม่รอด วนกลับมาจ้างตำรวจอีก : ถอนหมุดข่าว 16/10/66
News1
Oct 16, 2023


https://www.youtube.com/watch?v=EKSZcikFUKg
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 17/10/2023 10:59 am    Post subject: Reply with quote

ปิดฉาก 72 ปี! ยุบเลิก ตำรวจรถไฟ มีผลแล้ว ผู้โดยสารสาว หวั่นไร้ความปลอดภัย
เด่นออนไลน์
วันอังคาร ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09:14 น.

ปิดฉาก 72 ปี! ยุบเลิก ตำรวจรถไฟ มีผลแล้ว ผู้โดยสารสาว หวั่นไม่ความปลอดภัย เล่าเหตุการณ์ระทึกบนขบวนรถไฟจากขอนแก่นกลับมายังโคราช

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 หลังจากมีการประกาศราชกิจจานุเบกษา พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มีผลทำให้กองบังคับการตำรวจรถไฟ จะถูกยุบเลิกงานดูแลความปลอดภัยขบวนรถไฟ โดยในวันนี้ถือว่าเป็นวันสุดท้ายของการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะเป็นการปิดฉาก 72 ปี ตำรวจรถไฟ



ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสถานีรถไฟนครราชสีมา พบว่าในบริเวณสถานีไม่มีตำรวจรถไฟมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว เนื่องจากแต่ละนายแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟทั้งหมดที่สังกัดสถานีรถไฟนครราชสีมามีทั้งหมด 29 นาย ทำหนังสือขอคืนบ้านพักและสถานีให้กับทางการรถไฟไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา




พร้อมกับทำพิธีอำลากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้วันนี้จึงไม่มีตำรวจรถไฟมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยปกติแล้วจะมีตำรวจรถไฟประจำสถานีจะออกมาเดินตรวจตราความเรียบร้อยและคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่มาใช้บริการซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาของผู้มาใช้บริการ



นายวินัย บุสะวะ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีรถไฟนครราชสีมา กล่าวว่า ตนมาทำงานรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟนครราชสีมา มา 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟอยู่เป็นประจำ ซึ่งวันนี้ตำรวจรถไฟถูกยุบไปแล้ว ทำให้ตนรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป เพราะปกติแล้วจะทำงานร่วมกันตลอด โดยตลอดระยะเวลาที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่กันมารู้สึกดี ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร

ด้าน น.ส.วชิรกาญจน์ ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถไฟเป็นประจำ กล่าวว่า ตนเดินทางไปกลับโคราช-ขอนแก่น เป็นประจำ พอทราบข่าวว่าตำรวจรถไฟถูกยุบหน่วยงานไปแล้วทำให้รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัยขณะโดยสารรถไฟ โดยเฉพาะรถไฟสายยาวที่ไม่ค่อยจอดตามสถานีย่อยต่างๆ

โดยส่วนตัวแล้วตั้งแต่ใช้บริการรถไฟยังไม่เคยเกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นบนรถไฟ มีแค่เหตุการณ์เพียงครั้งเดียวที่เกิดเรื่องขึ้น คือในระหว่างที่ตนเดินทางจากขอนแก่นจะกลับมายังโคราชนั้น มีคนเมาอาละวาดอยู่บนขบวนรถไฟแต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ประจำขบวนเข้ามาระงับเหตุการณ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามการมีตำรวจรถไฟอยู่นั้นทำให้รู้สึกปลอดภัยกว่า

สังคมแคลงใจ วันนี้ยุบตำรวจรถไฟ แล้วใครดูแลโบกี้?
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10:19 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10:19 น.

กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) เป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการในสังกัดของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีภารกิจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทั้งบนขบวนรถไฟ สถานีรถไฟ รวมถึงพื้นที่ในอาณาบริเวณของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

หากย้อนไปในอดีตกิจการรถไฟไทย ได้ถือกำเนิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยมีประกาศพระบรมราชโองการสร้างทางรถไฟสยาม เส้นทางตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงเมืองนครราชสีมา ใน พ.ศ.2433 ซึ่งระหว่างที่ทางการกำลังก่อสร้างเส้นทางเดินรถไฟนั้น ได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้าย ปล้นสดมภ์ ทำลายทรัพย์สินของกรมรถไฟ อยู่เนืองๆ

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริก่อตั้งกองตำรวจพิเศษขึ้น ในปี พ.ศ.2437 เพื่อปกป้อง คุ้มครอง รักษาชีวิต และทรัพย์สินของบุคลากรกรมรถไฟ โดยเรียกชื่อว่า “กองตระเวนรักษาทางรถไฟสายนครราชสีมา” ถือได้ว่าข้าราชการตำรวจได้เข้ามามีบทบาทกับยานพาหนะที่เรียกว่ารถไฟ นับแต่บัดนั้น

กระทั่ง พ.ศ.2349 การก่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ได้สำเร็จลงบางส่วนจนสามารถที่จะเปิดเดินรถได้ ดังนั้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชพิธีเปิดทางเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพมหานคร-พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 71 กิโลเมตร

จึงถือเอา วันที่ 26 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสถาปนากิจการ การรถไฟ สืบมาจนปัจจุบัน

กิจการของกรมรถไฟ เจริญรุ่งเรืองถึงขั้นสามารถขยายเส้นทางเดินรถไปทั้งสายเหนือ และสายใต้ จึงได้มีพระราชดำริให้มีการจัดตั้ง “กองตระเวนรักษาทางรถไฟสายเหนือ” ขึ้นในปี พ.ศ.2442 และในปี พ.ศ.2443 จัดตั้ง “กองตระเวนรักษาทางรถไฟสายเพชรบุรี” ตามลำดับ

จากนั้นกรมรถไฟ ได้ร่วมกับกรมตำรวจ จัดวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ให้แก่กิจการรถไฟ และคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้โดยสาร จนมีการพิจารณาจัดตั้ง “กองตำรวจรถไฟ” ขึ้น ตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกรมตำรวจในกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ.2495 กำหนดให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2495

ดังนั้นเมื่อในอดีต วันที่ 15 พฤษภาคม ของทุกปี จึงเป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองตำรวจรถไฟ

“กองบังคับการตำรวจรถไฟ” เป็นวิวัฒนาการจาก “กองตำรวจรถไฟ” ที่ถือกำเนิดมาแล้ว 72 ปี ภารกิจที่ผ่านมามีหน้าที่ถวายอารักขารักษาความปลอดภัยให้พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ภารกิจสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งบนรางและบนขบวนรถไฟ

ทำหน้าที่ดูแลผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการรถไฟ รวมถึงสนับสนุนบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีสถานีตำรวจรถไฟ หน่วยบริการ กำลังพล ยานพาหนะ กระจายอยู่ในพื้นที่สำคัญทุกภาคทั่วประเทศ โดยปฏิบัติงานภายใต้ความรับผิดชอบในพื้นที่ของสถานีตำรวจรถไฟ จำนวน 15 สถานี กับอีก 40 หน่วยบริการ

ที่ผ่านมาตำรวจรถไฟ ต้องใส่ใจให้ความดูแลสถานีรถไฟ ทั่วประเทศ จำนวน 454 สถานี ขบวนรถโดยสาร-ขบวนรถขนสินค้า กว่า 300 ขบวน เส้นทางรถไฟกว่า 4,300 กิโลเมตร มีจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการ การดูแลกว่า 36.4 ล้านคนต่อปี โดยอัตราส่วนตำรวจรถไฟ 1 นาย ต้องดูแลผู้โดยสารกว่า 52,863 คน ขณะเดียวกันตำรวจรถไฟ 1 นาย ต้องดูแลรางรถไฟ 5.9 กิโลเมตร

ผลงานที่โดดเด่น นอกจากการดูแลผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่เป็นหน้าเป็นตาของทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ การรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว ยังมีผลงานด้านการปราบปรามอาชญากรรม ที่มาทั้งในรูปแบบของการลักทรัพย์ การพนัน การกระทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร การลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย การลำเลียงยาเสพติด ฯลฯ

ความมุ่งมั่นด้านการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ ของตำรวจรถไฟ ได้ผ่านประสบการณ์ ผ่านทักษะที่สั่งสมกันมาอย่างยาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น ถึง 72 ปี ทว่าวันนี้ “กองบังคับการตำรวจรถไฟ” ได้เป็นอดีต เหลือเพียงความทรงจำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จาก พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลให้หน่วยงานนี้ต้องยุติบทบาทลงตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

โดย พ.ร.บ.ดังกล่าว ยังให้โยกย้ายข้าราชการตำรวจกองบังคับการตำรวจรถไฟ ไปสังกัดอื่น ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเหลือไว้แค่ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ผ่านภาพถ่าย ข้อมูลที่ถูกบันทึกในตำรา ช่องทางโซเชียลมีเดีย และการบอกเล่าผ่านความทรงจำ ของผู้ที่เคยพบเห็นซึ่งจะบรรยายให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ฟังเท่านั้น

ณ ที่ตั้งสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ทีมข่าวของเราได้พบกับภาพความสับสน วุ่นวาย ของเหล่าตำรวจรถไฟ ในค่ำคืนวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตำรวจหลายนายกำลังช่วยกันขนย้ายข้าวของขึ้นรถกระบะ บางนายปัดกวาดพื้นที่บริเวณหน้าห้องขัง ส่วนหัวหน้าสถานีนั้นกำลังยืนจ้องมองภาพถ่าย “สมเด็จย่า” กับ “ในหลวง ร.9” ที่ถือเป็นภาพมงคล ซึ่งแขวนอยู่บนผนังคู่กับสถานีแห่งนี้มานานแสนนาน

ก่อนที่เจ้าตัวจะทอดถอนหายใจ อัญเชิญภาพดังกล่าวลงมาจากฝาผนัง เพื่อขนย้ายออกจากสถานที่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังจะส่งเจ้าหน้าที่มายึดคืนไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น
ภาพถ่ายที่ว่า เป็นบอร์ดแสดงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยตรัสให้ข้าราชการตำรวจฟังว่า

“สมเด็จย่าสิ้นแล้วอย่างสงบที่สุด สมเด็จย่ารักตำรวจมาก ช่วยดูแลงานต่างๆ ของตำรวจอย่างดี เป็นการสมควรที่ตำรวจทุกคนจะได้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเข้มแข็งอย่างสุดความสามารถ เพื่อประเทศชาติ เพื่อจะได้เป็นพระราชกุศลต่อสมเด็จย่าต่อไป”

พ.ต.ต.ไตรรงค์ หน่วยตุ้ย ส.รฟ.ธนบุรี กก.1 บก.รฟ.ในฐานะหัวหน้าสถานีรถไฟธนบุรี ที่กำลังจะเป็นแค่สถานีในตำนาน บอกเราว่า “พวกผมเป็นตำรวจ จะให้ย้ายไปทำหน้าที่อะไร ตรงไหน ก็ทำได้ พวกเราต้องปรับสภาพให้ได้ แต่การยุบหน่วยงานตำรวจรถไฟ ผมมองว่าประชาชนคงจะตั้งข้อกังขา และผู้ใช้บริการจะต้องประสบปัญหาความเดือดร้อน”

ที่ผ่านมาเอาเฉพาะความรับผิดชอบของสถานีรถไฟธนบุรี ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลแค่นักท่องเที่ยวกับผู้โดยสารบนโบกี้รถไฟ แต่พวกเรายังดูแลทั้งแพทย์และพยาบาล ของ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ดูแลหอพักแพทย์และพยาบาล ดูแลพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดรถไฟธนบุรี หรือตลาดศาลาน้ำร้อน ดูแลลูกค้าที่สัญจรเดินทางมาจับจ่ายใช้สอย

ทั้งประชากรหลักและประชากรแฝง ที่พักอาศัย และเดินทางเข้ามาในเขตรับผิดชอบ เอาแค่รอบๆ พื้นที่สถานี มีไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000 คน แม้จะมีอัตรากำลังแค่ ราวๆ 20 นาย แต่พนักงานสอบสวนของเรามีคดีให้ทำทุกวัน ทั้งคดีฉ้อโกง ลักวิ่งชิงทรัพย์ คดีจราจร ไฟไหม้ ที่น่าเห็นใจคือบรรดาแพทย์และพยาบาล มีบุคลากรของทางโรงพยาบาลไม่น้อยที่เดินเท้าเข้ามาแจ้งความได้

ส่วนใหญ่ตกเป็นผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากการถูกฉ้อโกง ซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ แต่หลังจากนี้ไม่มีตำรวจรถไฟ อยู่ใกล้ๆ อีกแล้ว หากแพทย์และพยาบาล ท่านใดประสบปัญหาอยากปรึกษาพนักงานสอบสวน หลังจากนี้พอออกเวรท่านจะต้องขับรถหรือเรียกรถโดยสารเดินทางไปที่ สน.บางกอกน้อย ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเวลาพักผ่อนก็จะลดน้อยลง

เมื่อทีมข่าวเราถาม มองเรื่องความปลอดภัยบนโบกี้รถไฟหลังจากนี้อย่างไร? หัวหน้าสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ตอบว่า “ยกตัวอย่างแค่บนตู้รถไฟโดยสารสาย วงเวียนใหญ่-มหาชัย ที่เรารับผิดชอบอยู่ ผมยังคิดภาพไม่ออกว่า ตำรวจท้องที่ซึ่งมีภารกิจล้นมือ กำลังไม่เพียงพอกันอยู่แล้วจะมาช่วยจัดการดูแลเรื่องความปลอดภัยกันยังไง ไหนจะเรื่องขอบข่ายอำนาจการสอบสวนซึ่งรถไฟแล่นไปตามทางเรื่อยๆ

ยังไม่ต้องนึกถึงรถไฟสายยาว อย่างเส้นทาง กรุงเทพมหานคร-สุไหงโกลก ซึ่งใช้เวลาเดินทางกันไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง ซึ่งที่ผ่านมา แต่ละเที่ยวจะมีตำรวจรถไฟ ปฏิบัติหน้าที่กัน 2 นาย เที่ยวไหนบังเอิญจับกุมคนร้ายได้บนโบกี้ จะมีตำรวจ 1 นาย ที่ต้องลงจากรถไฟนำตัวผู้ต้องหาไปส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ที่รับผิดชอบ

จากนั้นต้องเร่งกลับมาขึ้นรถไฟทำงานร่วมกับเพื่อนที่เหลืออยู่อีก 1 นายให้ไวที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงของการทำงานเพียงลำพัง เพราะระยะเวลาที่เหลือตำรวจเพียงนายเดียว นั่นไม่ใช่หลักการทำงานทางยุทธวิธี คิดง่ายๆ เอาอย่างนี้ถ้าไม่มีตำรวจประจำการบนรถไฟสายยาว จะให้ตำรวจท้องที่มาร่วมตรวจค้น สกัดจับกุมคนร้ายได้อย่างไร


ในเมื่อรถไฟก็ไม่ได้แวะจอดทุกสถานี ส่วนที่มีแวะจอดบ้างก็ไม่เกินสถานีละ 15 นาที ต้องระดมกำลังตำรวจมากแค่ไหน ถึงจะตรวจค้นได้ทุกโบกี้ ในเวลาที่มีอยู่จำกัดเช่นนี้ ความเห็นส่วนตัวมองว่า การมีตำรวจประจำการบนรถไฟเลย ย่อมสะดวกกว่า เพราะเดินตรวจตราได้ตลอดเวลาที่เราอยู่บนตู้โดยสาร

ก่อนลากลับเราถามว่า รู้สึกอย่างไรหลังตอนนี้สังคมเริ่มตื่นตระหนกหลังรู้ว่าจะไม่มีตำรวจรถไฟ? พ.ต.ต.ไตรรงค์ ให้ข้อคิดกลับมาอย่างน่าสนใจ ว่า “ตั้งแต่ผมทำงานมา ตำรวจรถไฟ มีสถิติการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้เยอะมาก มากเป็นอันดับต้นๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยนะ เพราะเรามีอำนาจและระบบที่ใช้ตรวจสอบได้ตั้งแต่ผู้ต้องหาซื้อตั๋วโดยสาร หลังจากนี้ก็ไม่แน่ใจว่าผู้บังคับบัญชากับหน่วยงานที่รับผิดชอบจะหาทางออกยังไง แต่ยืนยันได้ว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยทุกชีวิตและทรัพย์สินบนโบกี้รถไฟ ไม่น่าจะมีหน่วยงานไหนทำได้ดีไปกว่าตำรวจ”.
Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
ปิดตำนาน 72 ปี”ตำรวจรถไฟ”ยุติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถไฟและสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:08 น.
ปรับปรุง:วันพฤหัสบดี ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:08 น.

ปิดฉาก ตำรวจรถไฟ ยุบหน่วยงานไปไม่รอด วนกลับมาจ้างตำรวจอีก : ถอนหมุดข่าว 16/10/66
News1
Oct 16, 2023

https://www.youtube.com/watch?v=EKSZcikFUKg


Last edited by Wisarut on 19/10/2023 8:03 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/10/2023 7:13 pm    Post subject: Reply with quote

ผบ.ตร. แต่งตั้ง 45 ตำรวจรถไฟถูกยุบหน่วย ไปสังกัดหน่วยเปิดใหม่ใน บช.ก.
ไทยโพสต์ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 18:40 น.

17 ต.ค.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่ง ตร.ที่ 575/2566 ลงวันที่ 16 ต.ค. เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ใจความว่า ตามที่พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 163 กำหนดให้เมื่อครบหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้กองบังคับการตำรวจรถไฟเป็นอันยุบ และให้โอนเงินงบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทยในส่วนที่ได้รับจากงบประมาณแผ่นดินสำหรับเงินเดือน ค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอื่น ของข้าราชการตำรวจในกองบังคับการตำรวจรถไฟ มาเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 17 ต.ค.2566 นั้น

อ.ก.ตร.บริหารทรัพยากรบุคคล ในการประชุมครั้งที่ 14/2566 เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2566 ได้มีมติอนุมัติกำหนดตำแหน่งข้าราชการดำรวจระดับรองผู้บังคับการลงมาถึงระดับ ผู้บังคับหมู่ ให้กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อรองรับการยุบกองบังคับการตำรวจรถไฟ ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 86 แเห่งพระราชบัญญัติตำวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2566 จึงแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงมา ในสังกัดกองบังคับการตำรวจรถไฟให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่กำหนดขึ้นใหม่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จำนวน 45 ราย ปรากฎตามบัญชีรายชื่อที่แนบท้ายคำสั่งนี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2566 เป็นต้นไป โดยให้โอนอัตราเงินเดือนเดิมไปตั้งจ่ายสำหรับตำแหน่งใหม่หรือให้ขาดจากอัตราเงินเดือนเดิมไปรับอัตราเงินเดือนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2566 เป็นต้นไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 19/10/2023 11:49 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ผบ.ตร. แต่งตั้ง 45 ตำรวจรถไฟถูกยุบหน่วย ไปสังกัดหน่วยเปิดใหม่ใน บช.ก.
ไทยโพสต์ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 18:40 น.

Wisarut wrote:
สังคมแคลงใจ วันนี้ยุบตำรวจรถไฟ แล้วใครดูแลโบกี้?
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10:19 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10:19 น.

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
ปิดตำนาน 72 ปี”ตำรวจรถไฟ”ยุติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถไฟและสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:08 น.
ปรับปรุง:วันพฤหัสบดี ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:08 น.

ปิดฉาก ตำรวจรถไฟ ยุบหน่วยงานไปไม่รอด วนกลับมาจ้างตำรวจอีก : ถอนหมุดข่าว 16/10/66
News1
Oct 16, 2023

https://www.youtube.com/watch?v=EKSZcikFUKg


แล้วใครดูแล! บช.ก.ประกาศเขตรับผิดชอบเหตุบนขบวนรถไฟ หลัง ตำรวจรถไฟ ถูกยุบ
ข่าวด่วน
วันอังคาร ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 14:35 น.

บช.ก.ประกาศแจ้งเขตอำนาจการเข้ารับผิดชอบ เหตุบนขบวนรถไฟ หลัง ตำรวจรถไฟ ถูกยุบ มีผล 17 ต.ค.นี้ ไปอยู่ในความรับผิดชอบของบช.น.-สน.ต่างๆ

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 จากกรณีตำรวจรถไฟจะยุติการปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ซึ่งจะส่งให้มีผลดังนี้ 1.ขอบเขตความรับผิดชอบ และการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจรถไฟเดิมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อไปจะอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตามพื้นที่ของ สน.ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ



นอกจากนี้ ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดหน่วยงานและเขตอำนาจการรับผิดชอบ หรือเขตพื้นที่การปกครองของส่วนราชการ (ฉบับที่ 33) พ.ศ.2560 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ขอบเขตความรับผิดชอบ และการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจรถไฟเดิมในเขตภูมิภาค จะไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ตามพื้นที่ของ สภ.ต่างๆ




ส่วนกรณีเกิดการกระทำความผิดอาญาบนขบวนรถไฟ ก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาล หรือสถานีตำรวจภูธรตามในพื้นที่ต่างๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477 มาตรา 19 แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตำรวจรถไฟต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน และทุกภาคส่วนสำหรับมิตรไมตรี และความร่วมมืออันดีตลอด 72 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย
รฟท.ขอตำรวจทั่ว ปท.ส่งกำลังช่วยดูแลผู้โดยสาร-สถานี หลังยุบตำรวจรถไฟ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16:06 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 08:37 น.



รฟท.เผยยุบตำรวจรถไฟ แต่ยังมี MOU กับตำรวจสอบสวนกลาง ส่งกำลังจนท.ช่วยดูแลสถานี-บนขบวนรถในเขต กทม. ส่วนต่างจังหวัดหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1-9 ย้ำมีมาตรการทดแทนตลอดทุกการเดินทาง

นายเอกรัช ศรีอารยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่กองบังคับการตำรวจรถไฟได้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 การรถไฟฯ ได้เตรียมความพร้อมดำเนินแผนดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ทดแทนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจรถไฟ ตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟฯ เพื่อสร้างความอุ่นใจแก่ผู้โดยสารในการเดินทาง ทั้งภายในขบวนรถทุกขบวน และสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ



ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในเขตรถไฟ เพื่อดูแลยกระดับความปลอดภัย ป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมในเขตรถไฟ โดยทางตำรวจสอบสวนกลางมีขอบเขตความรับผิดชอบ และการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจรถไฟเดิม และได้กำหนดแผนโดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลความปลอดภัย และตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ และสถานีรถไฟอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจรถไฟในเขตภูมิภาค จะอยู่ในความรับผิดชอบของกองปัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ในพื้นที่ของสถานีตำรวจภูธรต่างๆ



นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกันสนับสนุน แลกเปลี่ยน วางแผน ป้องกัน ปราบปราม แก้ไขปัญหาอาชญากรรมในเขตพื้นที่ของการรถไฟฯ ทั้งในเรื่องของข้อมูลคนร้าย ผู้ก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัย ข้อมูลระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในเขตพื้นที่รถไฟทุกรูปแบบ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นการช่วยป้องกันปัญหาการโจรกรรมทรัพย์สินของการรถไฟฯ อีกด้วย



นายเอกรัชกล่าวว่า การรถไฟฯ ยังได้ซักซ้อมทำความเข้าใจถึงแผนดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร โดยได้เตรียมพร้อมบุคลากรของการรถไฟฯ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ตามสถานีต่างๆ ในการเข้ารับการฝึกมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อให้สามารถดูแลผู้โดยสาร และป้องกันเหตุเฉพาะหน้าได้ รวมถึงในส่วนขบวนรถทางไกล ได้เตรียมประสานขอกำลังเสริมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถ


ขณะเดียวกัน ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่รถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ของการรถไฟฯ อย่างเคร่งครัด และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ เพิ่มความถี่ในการออกตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ ทางรถไฟ และพื้นที่โดยรอบสถานีอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ตรวจสอบการใช้งานของกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ รวมถึงภายในขบวนรถโดยสารให้มีความพร้อมในการใช้งาน ซึ่งหลังจากนี้การรถไฟฯ ยังมีแผนขยายจำนวนการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบนตู้โดยสารต่างๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้นอีกด้วย



ที่สำคัญ การรถไฟฯ ยังได้จัดเตรียมความพร้อมของคู่สาย ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 สำหรับให้ผู้โดยสาร หรือประชาชนที่เดินทาง ให้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล หรือแจ้งเหตุด่วนได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสารทุกคน ให้รับรู้ถึงความตั้งใจของการรถไฟฯ ในการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางอย่างดีที่สุดตลอดมา และตลอดไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2023 10:55 am    Post subject: Reply with quote

กลับมาอีกครั้ง!รถไฟลอยน้ำขบวนพิเศษนำเที่ยว"เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์"เริ่มขายตั๋ว 25 ต.ค.นี้ สัมผัสบรรยากาศปลายฝนต้นหนาวตลอดเดือนพ.ย. 66 - ม.ค. 67
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 24 ตุลาคม 2566 เวลา 16:21 น.
ปรับปรุง: 24 ตุลาคม 2566 เวลา 16:21 น.


รฟท.ชวนเที่ยว“นั่งรถไฟลอยน้ำ”สัมผัสบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว ตลอดเดือนพ.ย. 66 - ม.ค. 67 กับขบวนรถพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เริ่มจำหน่ายตั๋ววันแรก 25 ต.ค.นี้ เปิดให้บริการเที่ยวแรก 4 พ.ย. 66

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่ได้ให้ความสำคัญและต้องการให้การรถไฟฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน และจังหวัดต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

โดยขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะเปิดให้บริการแบบไปเช้า-เย็นกลับ ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดในทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2566 - มกราคม 2567 รวม 24 วัน (ขบวนรถงดให้บริการช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ วันที่ 30 - 31 ธันวาคม 2566) ประกอบด้วย

เดือน พฤศจิกายน วันที่ 4,5,11,12,18,19,25,26 รวม 8 วัน
เดือน ธันวาคม วันที่ 2,3,9,10,16,17,23,24 รวม 8 วัน
เดือน มกราคม วันที่ 6,7,13,14,20,21,27,28 รวม 8 วัน



นายเอกรัช กล่าวว่า ขบวนรถพิเศษนำเที่ยว กรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ ขบวนที่ 921/926 เริ่มออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.00 น. ถึง จุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 09.25 น. โดยขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อนมีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ความงดงาม 20 นาที และเดินทางไปที่สถานีโคกสลุง มีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม ชิม ช้อป สินค้าพื้นเมือง OTOP พร้อมทั้งอาหารและของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดลพบุรี ประมาณ 30 นาที



จากนั้นขบวนรถจะพานักท่องเที่ยวกลับมาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 10.35 น. นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่นชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก นั่งรถตัวหนอนไหว้พระใหญ่ รับประทานอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น หรือท่องเที่ยวรอบนอกตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยใช้บริการรถตู้ของกลุ่มรถตู้ชุมชนหน้าเขื่อนฯ ที่นำมาให้บริการเป็นพิเศษ อัตราค่าบริการท่านละ 70 บาทตลอดเส้นทาง นำชมสถานที่ท่องเที่ยวทุ่งทานตะวัน ทุ่งดอกดาวกระจายและทุ่งหญ้าหลากสีที่บานสะพรั่งสวยงาม ณ บ้านกล้วย & ไข่ คาเฟ่ เดินทางต่อเพื่อไปชมสวนเฟิร์นยักษ์ บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปกับบรรยากาศสไตล์ชิคๆ ที่จุดชุมวิว ณ ไร่ทรัพย์ประยูร

จากนั้น ขบวนรถเที่ยวกลับออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 15.30 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 18.50 น. นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลงตามจุดต่าง ๆ โดยมีสถานีที่หยุดรับ-ส่ง ได้แก่ สถานีชุมทางบางซื่อ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี และชุมทางแก่งคอย



อัตราค่าโดยสารผู้ใหญ่และเด็กราคาเดียวกัน ดังนี้
รถธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม)

กรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ ไป-กลับ ราคา 330 บาท

สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง ไป-กลับ ราคา 330 บาท

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 150 บาท

รถปรับอากาศ ชั้น 2

รถนั่งปรับอากาศ (JR-WEST)

กรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ ไป-กลับ ราคา 500 บาท

สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง ไป-กลับ ราคา 500 บาท

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 250 บาท

รถนั่งปรับอากาศ (OTOP TRAIN และรถนั่ง/นอนปรับอากาศ JR-WEST)

กรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ ไป-กลับ ราคา 590 บาท

X

สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง ไป-กลับ ราคา 590 บาท

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ - กรุงเทพ เฉพาะเที่ยวกลับ 250 บาท

รถธรรมดา ชั้น 3 (รถโถง) เดินทางระยะสั้น ไม่สำรองที่นั่ง

สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง ไป-กลับ ราคา 200 บาท



นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังเปิดให้บริการตู้โดยสารพิเศษจัดเฉพาะเช่าเหมาคัน สำหรับนักท่องเที่ยว
ที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ สามารถเช่าพ่วงเพิ่มไปกับขบวนรถนำเที่ยวดังกล่าวได้ สอบถามข้อมูลได้ที่งานตั๋วหมู่คณะ หมายเลขโทรศัพท์ 02 6218701 ต่อ 5202

การรถไฟฯ เริ่มเปิดจองตั๋วโดยสาร ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งล่วงหน้า (สูงสุดไม่เกิน 30 วัน) ด้วยระบบ D-Ticket หรือที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2023 2:44 pm    Post subject: Reply with quote

ดราม่าสนั่น! สถานีรถไฟปิดช่องขายตั๋ว โขกค่าธรรมเนียมจุกๆ ก่อนชี้แจงแบบนี้
ทั่วไทย
25 ตุลาคม 2566 เวลา 11:38 น.


รฟท.แจงปมไล่ผู้โดยสารซื้อตั๋วบนขบวนรถ เหตุคิวที่สถานียาว ขออภัยเก็บค่าธรรมเนียม เหตุสื่อสารผิดพลาด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 ตุลาคม 2566 เวลา 16:16 น.
ปรับปรุง: 25 ตุลาคม 2566 เวลา 19:58 น.


การรถไฟฯ ชี้แจงกรณีการจำหน่ายตั๋วโดยสารบนขบวนรถไฟ ยืนยันไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเด็กนักเรียน และติดต่อคืนเงินค่าธรรมเนียมให้ผู้โดยสาร 3 คนที่ซื้อตั๋วที่สถานีไม่ทันแล้ว แจงสาเหตุคิวขายตั๋วยาว เกรงไม่ทันขบวนรถ

ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับผู้โดยสารไปซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟโนนสูง เพื่อเดินทางกับขบวนท้องถิ่น 430 โนนสูง-นครราชสีมา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีผู้โดยสารรอซื้อตั๋วเป็นจำนวนมาก และในขณะขบวนรถกำลังเข้าถึงสถานี พนักงานขายตั๋วโดยสารได้แจ้งให้ผู้โดยสารที่กำลังรอซื้อตั๋วที่สถานีให้ไปซื้อตั๋วบนขบวนรถไฟแทน แต่กลับถูกพนักงานบนขบวนรถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมไม่มีตั๋วโดยสาร เพิ่มเติมคนละ 100 บาท



นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่า หลังจากรับทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟฯ ได้เร่งรัดให้ฝ่ายเกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้ ในวันดังกล่าวได้มีผู้โดยสารมารอซื้อตั๋วโดยสารเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักเรียนที่มารอซื้อตั๋วโดยสารรายเดือน เนื่องจากเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก ซึ่งการจำหน่ายตั๋วโดยสารรายเดือนมีความจำเป็นต้องใช้เวลาการจำหน่ายตั๋วโดยสารนานกว่าตั๋วโดยสารปกติ ทำให้มีคิวยืนรอซื้อตั๋วโดยสารจำนวนมาก

ประกอบกับในระหว่างนั้นขบวนรถโดยสารกำลังมาถึงสถานีพอดี ทำให้เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วที่สถานีได้แจ้งให้ผู้โดยสารไปซื้อตั๋วบนขบวนรถแทนเพราะเกรงว่าจะขึ้นขบวนรถไม่ทัน แต่กลับไม่ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่บนขบวนรถทราบ ซึ่งถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่สถานีโนนสูง



ดังนั้น เจ้าหน้าที่บนขบวนรถจึงปฏิบัติตามระเบียบของการรถไฟฯ โดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมกรณีที่ผู้โดยสารขึ้นมาบนขบวนรถโดยที่ไม่มีตั๋วโดยสาร ซึ่งได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเฉพาะผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ จำนวน 3 คน ในอัตราคนละ 100 บาท แต่ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักเรียนแต่อย่างใด (เป็นระเบียบปฏิบัติของการรถไฟฯ อยู่แล้ว)


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถของการรถไฟฯ ได้ติดต่อไปยังผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบทั้ง 3 คนเพื่อประสานคืนเงินค่าปรับ พร้อมทั้งขออภัยในเหตุการณ์ที่ไม่ได้รับความสะดวกในการให้บริการ และให้การดูแลเยียวยาในกรณีดังกล่าวแล้ว ตลอดจนได้มีคำสั่งตักเตือนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปฏิบัติงานตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดกรณีเดิมซ้ำอีกเด็ดขาด พร้อมกับขอน้อมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขออภัยผู้โดยสารทั้ง 3 ท่าน มา ณ โอกาสนี้



ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะและคำติชมจากผู้โดยสาร ที่จะนำมาปรับปรุงการให้บริการรถไฟให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 27/10/2023 5:08 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟเหมือนเชือกสาน ที่ร้อยใจคนสองชาติเข้าด้วยกัน
ท่ามกลางบรรยากาศAsia Pacific Rail 2023 (จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย) คุณณภัทร หนุ่มอายุ 29 ปีผู้เป็นคนไทยเชื้อสายจีน และยังจบการศึกษามาจากประเทศจีน ได้แสดงออกถึงความรัก-ความผู้พันธ์ที่เขามีต่อรถจีน ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังศึกษาอยู่ในประเทศจีนเขาคนนี้เป็นผู้ที่เมื่อมีเวลาว่างจากการเรียนมักจะไปยืนดูรถไฟที่เขารักเป็นประจำ
เมื่อครั้งทีมงานจาก CRRC เดินทางมาประเทศไทยเพื่อทดสอบ-ส่งมอบหัวรถจักรรุ่นใหม่ในปี 2015 ที่ผ่านมา เขารู้ทันทีว่ารถไฟคันใหม่นี้ไม่เหมือนกับรถไฟที่ไทยมีใช้งานอยู่เดิมอย่างเห็นได้ชัด จากการได้พูดคุยเรื่องเทคนิคกับทีมงานนำไปสู่การได้ร่วมเดินทางทดสอบรถ และสิ่งนี้เองคือรากแห่งความสัมพันธ์ระกว่างคนสร้าง-คนรักรถไฟอันยั่งยืนที่งอกเงยจากจากวันนั้นสู่วันนี้
เมื่อสำเร็จการศึกษากลับสู่ประเทศไทย ไม่ว่าเราสองชาติจะอยู่ห่างไกลเพียงใด ทะเลกว้างใหญ่ผืนนี้ก็ไม่สามารถที่จะหยุดรั้งความสัมพันธ์ระกว่างเขาและ CRRC ได้ เพื่อเป็นการสืบสานและเผยแพร่วัฒนะธรรมของคนรักรถไฟ(Railway Culture) คุณณภัทรจึงประสานและรวบรวมกลุ่มคนรักรถไฟให้แนบแน่นบนสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะเดียวกันตัวเขาเองมักจะนำกิจกรรมและเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันทุกครั้งที่มีโอกาส เขาเองยังได้ทำหน้าที่ผู้สื่อสาร-ส่งมอบเรื่องราวใหม่ๆจากผู้ผลิตรถไฟอย่าง CRRC สู่คนรักรถไฟอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้เขาหวังเพียงว่าอยากให้คนไทยเข้าใจ-เข้าถึงความเป็นรถไฟได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานั้นสิ่งที่เขาลงมือทำได้ผลิดอกออกผลมาแล้วอย่างงดงาม
เมื่อทราบข่าวว่าทาง CRRC อยากจะจัดกิจกรรมเพื่อคนรักรถไฟขึ้นในประเทศไทย เขาไม่รอช้าที่จะช่วยเผยแพร่และแนะนำให้บรรดาพี่น้องคนรักรถไฟเดินทางมาร่วมกิจกรรม ในครั้งนั้นเองเขายังได้นำเสนอผลงานผลิตภัณฑ์คนรักรถไฟที่เขาได้ออกแบบขึ้น เช่น ชุดพวงกุญแจที่จัดทำขึ้นในโอกาสพิเศษนี้ต่อสายตาของทุกๆคนในงาน ทั้งนี้ เขามีแนวคิดในการดำเนินงานที่ว่าอยาก “ให้รถไฟเป็นมากกว่าการเดินทาง แต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและยั่งยืนสำหรับทุกคน” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ CRRC “链接世界,造福人类” ที่แปลเป็นภาษาไทยโดยคร่าวๆว่า “เชื่อมโยงโลก, สร้างสุขแก่มวลมนุษย์ฯ”
ขอบคุณทางหนังสือพิมพ์ People's Daily ฉบับวันที่ 26/10/2023 ที่นำเรื่องนี้มาเล่าสู่สังคมภายนอก
ขอบคุณ CRRC สำหรับมิตรภาพและโอกาสดีๆที่เเบ่งกันให้กันเสมอมา สัญญาว่าจะรักษาไว้ให้ดี
People's Daily เป็นชื่อนังสือพิมพ์ที่เราคุ้นหูมาตั้งแต่เด็ก ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งเราจะได้มีโอกาสขึ้นอยู่บนหนังสือพิมพ์ชื่อคั้นหูนี้ ดีใจจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเมื่อรู้ว่าเขาเลือกเอาเรื่องเล็กๆเราที่เราทำไปเผยเเพร่
ทุกครั้งที่รับรู้ว่าสิ่งที่เราทำมันสานฝันให้กับใครกลายๆคน ดวงใจน้อยๆดวงนี้มันฟูจนกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่
สัญญาใจยังคงเดิมที่ว่าจะนำโอกาส-เรื่องราวดีๆมาแบ่งปันกับคนรักรถไฟไทยทุกครั้งที่เราคนนี้จะทำได้
เนื้อข่าวเต็มๆ(แปลไทย)อยู่ในเพจนะ เดี๋ยวทิ้งที่มาไว้ให้
https://www.facebook.com/wenbin.qiu.5/posts/7405140656181200
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/10/2023 12:51 pm    Post subject: Reply with quote

ย้อนพัฒนาการ 7 ปี ‘รถไฟไทย’ เกิดอะไรขึ้นถึงกลับมาได้รับความนิยมเกรียวกราว
28 ตุลาคม 2566

https://www.posttoday.com/lifestyle/701277
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48290
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/10/2023 4:33 pm    Post subject: Reply with quote

Nakhon Si Thammarat นครศรีธรรมราช
28 ต.ค. 66 14:08 น.

https://www.facebook.com/NakhonSiThammaratToday/posts/344780271392525

ภาพประวัติศาสตร์ วันนี้!รถดีเซลรางแดวู ปรับอากาศ วิ่งออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เป็นครั้งแรก
.
ขบวนพิเศษโดยสาร เที่ยวปฐมฤกษ์ ทดสอบ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟสายวัฒธรรมภาคใต้เชื่อมอ่าวไทยสุดสายอันดามัน จากสถานีนครศรีธรรมราช-ไปสถานีกันตัง จังหวัดตรัง
.
ปล.หลังว่าขบวนพิเศษโดยสารที่ 913/914 นครศรีธรรมราช-ทุ่งสง-กันตัง จะได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน เพื่อได้ต่อยอดอนาคตอาจจะได้มีวิ่งบ่อยขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2023 12:34 am    Post subject: Reply with quote

เส้นทางรถไฟท่องเที่ยว 'สายเหนือ' ยกระดับและสร้างรายได้ 'เมืองรอง'
หน้าท่องเที่ยว
ท่องเที่ยว
วันศุกร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 14:15 น.

กองทุน ววน. โดย บพข. จับมือ รฟท. มรภ.ลำปาง เปิดเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวสายเหนือส่วนขยาย มุ่งยกระดับและสร้างรายได้จังหวัดเมืองรอง นำเที่ยวแบบครบวงจร เพิ่มมูลการขนส่งทางรถไฟ กระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจขยายตัวของตามภูมิภาค
กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงานคณะกรรมส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จัดพิธีเปิด การเดินรถไฟท่องเที่ยวรอบปฐมฤกษ์เชิงพาณิชย์และการทดสอบสินค้า และบริการทางการท่องเที่ยว ตามแผนงานวิจัยการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ บนเส้นทางรถไฟสายเหนือส่วนขยาย (เชียงใหม่ - ลำปาง ไปยังพิษณุโลก) ปี 2566



โดยรถไฟขบวนพิเศษ Lanna Modernization 954 ที่ได้นำเอาประวัติศาสตร์การสร้างรถไฟสายเหนือมาเป็นจุดเชื่อมโยงการจัดเส้นทาง เป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกับการท่องเที่ยวอื่น ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการท่องเที่ยวแบบใหม่ โดยให้รถไฟเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวที่ทำให้เกิดการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์และสร้างมูลค่าเพิ่ม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยการท่องเที่ยวรถไฟสายวัฒนธรรม ท่องเที่ยวธรรมชาติวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของท้องถิ่น







โอกาสนี้ ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว. และประธานอนุกรรมการแผนงานกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยรถไฟในครั้งนี้ นับเป็นการดำเนินการรถไฟท่องเที่ยวส่วนต่อขยายจากเส้นเดิมที่เชื่อมต่อระหว่าง จ.เชียงใหม่ – ลำพูน - ลำปาง เชื่อมต่อขยายมายัง จ.พิษณุโลก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานภาคีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางได้ดำเนินการวิจัยและออกแบบเส้นทางร่วมกับ รฟท. โดยในระยะแรก มีจำนวนทั้งหมด 4 โปรแกรมการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก เนื่องด้วยตลอดเส้นทางนั้น เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมธรรมชาติตลอดทั้งเส้นทาง รวมทั้งการเสริฟอาหารท้องถิ่นระหว่างโดยสารบนขบวนรถไฟ อีกด้วย



“โดยทาง บพข. และ สกสว.หวังว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการดังกล่าว ให้เป็นต้นแบบของการดำเนินงาน ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจในชุมชน พร้อมทั้งกระตุ้นและเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปยังจังหวัดเมืองรอง ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ สร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว นำไปสู่การก่อเกิดรายได้แก่ชุมชนในอนาคตอย่างมั่นคง และยั่งยืน” ผศ.สุภาวดี กล่าวเสริม



นำเที่ยวครบวงจร

นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางการรถไฟมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเดินรถไฟท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งของทางรถไฟ ที่นอกเหนือจากการขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้าแล้ว ก็ยังเป็นการนำเที่ยวแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มมูลการขนส่งทางรถไฟ กระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจขยายตัวของตามภูมิภาคที่ขบวนรถไฟนำเที่ยวผ่าน พร้อมทั้งขอเชิญชวนประชาชนมาท่องเที่ยวในเส้นทางสายเหนือนี้ เพราะเป็นการท่องเที่ยวแบบครบวงจร รวมถึงเส้นทางท่องเที่ยวสายอีสานและสายใต้ ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้



ด้าน ผศ.ณัฐนันท์ ฐิติยาปราโมทย์ หัวหน้าแผนงานวิจัย ดร.ปัณณทัต กัลยา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พร้อมทีมคณะนักวิจัย เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานตามแผนโครงการวิจัยการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา ที่ได้รับทุนวิจัยจาก บพข. ในปีงบประมาณ 2564 ที่มีการทดลองการเดินรถไฟท่องเที่ยวรอบปฐมฤกษ์ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นอย่างมาก เนื่องจากผลการทดลองเดินรถไฟส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว



เชื่อมโยงธุรกิจในภาคเหนือ

สำหรับการเชื่อมโยงธุรกิจในภาคเหนือแผนงานวิจัยนี้ ประกอบด้วย 2 โครงการย่อย ได้แก่

1) โครงการการพัฒนารูปแบบเส้นทาง กิจกรรมและผลิตภัณฑ์บริการของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนเส้นทางรถไฟสายเหนือส่วนขยาย

และ 2) โครงการการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนเส้นทางการท่องเที่ยวโดยรถไฟสายเหนือส่วนต่อขยาย ที่มุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบการเชื่อมโยงเส้นทางส่วนขยาย และการพัฒนาโมเดลการบริหารจัดการ



เพื่อยกระดับและเชื่อมโยงเส้นทางส่วนขยายการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟสายเหนือ ด้วยรูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ในลักษณะของการบูรณาการศาสตร์ทางวิชาการและการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภายนอก อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ผู้ประกอบการ ชุมชนในพื้นที่ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในด้านการท่องเที่ยว







เปิดเส้นทาง รถไฟท่องเที่ยวสายเหนือ

ในวันแรก ขบวนรถไฟเริ่มออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟลำพูน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้โดยสารรถรางเข้าชมเมืองลำพูน เข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก


จ.ลำพูน ก่อนจะออกเดินทางไปยัง 'สะพานขาวทาชมภู' ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและเป็นเหมือนอนุสรณ์ของการสร้างทางรถไฟสายเหนือจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ “ปากอุโมงค์ถ้ำขุนตาล” ส่วนสำคัญของสายเหนือ ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างเชียงใหม่และกรุงเทพฯ ก่อนออกเดินทางสู่สถานีรถไฟลำปาง สถานีปลายทางของกิจกรรมในวันแรก และเส้นทางในวันที่สอง เริ่มจากสถานีรถไฟลำปาง มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟบ้านปิน และสถานีรถไฟปางต้นผึ้ง ให้นักท่องเที่ยวได้ชมของดีของที่ระลึกในชุมชน อาทิ ผ้ามัดย้อม ผลิตภัณฑ์ OTOP อาหารท้องถิ่น ก่อนออกเดินทางสู่จุดหมายปลายทางในครั้งนี้ ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก



นอกจากนี้ ทางทีมคณะวิจัยได้เตรียมขยายผลไปในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะเป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา โดยมีจุดเริ่มต้นที่หาดใหญ่ มุ่งเน้นในเส้นทางระหว่างอ่าวไทยสู่อันดามัน และเตรียมขยายผลในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผนความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยคาดว่าจะเป็นเส้นทางจาก จ.ขอนแก่น ไปสู่เวียงจันทน์ ก่อนจะเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสาน เพื่อให้เป็น Gateway รถไฟการท่องเที่ยวสายยาวในอนาคต อีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 460, 461, 462 ... 495, 496, 497  Next
Page 461 of 497

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©