Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312033
ทั่วไป:13627221
ทั้งหมด:13939254
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 520, 521, 522 ... 578, 579, 580  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/12/2023 9:06 pm    Post subject: Reply with quote

รัฐปัดไฮสปีดเอกชน เงื่อนไขสร้างไปจ่ายไป ชงเดินรถไปจ่ายไปแทน
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, December 06, 2023 05:46

เอกชนรอส่งเสริมบีโอไอ

อีอีซี ลุยเจรจาเอกชน ประเด็นข้อเสนอ "สร้างไปจ่ายไป" หลังแก้พื้นที่ทับซ้อน รถไฟ ไทย-จีน ไม่ลงตัว เอกชน ขอให้รฟท.สร้างแทน "จุฬา สุขมานพ" ยันแนวทางใหม่ "เดินรถไปจ่ายไป" หากเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาต้องเสนอครม.ไฟเขียวอีกครั้ง

โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงิน 224,544 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ที่มีบริษัทเอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพี เป็นคู่สัญญา ยังต้องเจรจาในบางประเด็นโดยเฉพาะการก่อสร้างพื้นที่ทับซ้อน ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ โครงสร้างร่วมระหว่าง รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีนกับไฮสปีดเชื่อม3 สนามบิน ซึ่งข้อเสนอเอกชนต้องการให้รฟท.เป็นผู้สร้างแทนเอกชน รูปแบบ "สร้างไปจ่ายไป" ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะตามเงื่อนไขสัมปทานเอกชนต้องเป็นผู้สร้าง รัฐเพียงส่งมอบพื้นที่เท่านั้น ส่วนการจ่ายเงิน จะจ่ายต่อเมื่องานก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดเดินรถทั้งระบบหากจ่ายให้เอกชนก่อน บางช่วงเกรงว่าเมื่อรับเงินไปแล้ว อาจทิ้งงานไม่ทำต่อในช่วงต่อไป อย่างไรก็ตาม การเจรจาดังกล่าวยืดเยื้อมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อยุติโดยมองว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปีดดีล

โดยเร็ว เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้าไปกว่านี้ โดยแนวทางใหม่ ที่เสนอต่อเอกชนคือ เดินรถไปจ่ายไปน่าจะเหมาะสมกว่า

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า ความคืบหน้า ในประเด็นข้อเสนอ "สร้างไปจ่ายไป" บนพื้นที่ทับซ้อนโครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทยจีน ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองนั้น ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับเอกชนในเรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อยุติ ขณะเดียวกันประเด็นดังกล่าวที่เป็นปัญหาอยู่นั้นตามหลักการในสัญญาระบุว่า หากสร้างแล้วเสร็จถึงจะชำระเงินให้เอกชนโดยที่ผ่านมาอีอีซีได้มีการหาแนวทางใหม่ คือ "เดินรถไปจ่ายไป" หากจะต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาจะต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่อีกครั้ง

"ในสัญญาระบุไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งต้องเจรจาไปพร้อมกันทีเดียว เพราะเป็นสาระสำคัญของหลักการที่ตกลงร่วมกัน ซึ่งภาครัฐจะไม่ลงทุนอะไรเลย โดยภาครัฐจะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเพื่อดำเนินการก่อสร้างเท่านั้นหากดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเดินรถ ภาครัฐถึงจะเริ่มดำเนินการชำระเงินให้แก่เอกชน ซึ่งเป็นแบบนี้มาตลอด"
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาโครงการนี้เป็นสัมปทานที่มีการแข่งขันประมูล หากจะเปลี่ยนหลักเกณฑ์กลางคันในทางกฎหมายไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการเจรจาร่วมกับเอกชนก่อน

แหล่งข่าวจากสกพอ. ระบุว่าที่ผ่านมาเงื่อนไขแก้สัญญาร่วมทุนฯและความเหมาะสมมี 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การปรับเงื่อนไขการชำระเงินค่าสิทธิเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 10,671 ล้านบาท ปรับเป็นแบ่งชำระงวดละ 1,067 ล้านบาทต่อปี ไม่เกิน 7 งวด 2.การแก้ไขปัญหาโครงสร้างโครงการทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง

และ 3.ร่างสัญญาใหม่กำหนดให้3หน่วยงานภาครัฐจะชำระเงินร่วมลงทุนราว 120,000 ล้านบาท ทำให้รัฐประหยัดงบประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีเงื่อนไขว่ารัฐจะชำระเงินให้เอกชนได้ต่อเมื่อมีการเปิดให้บริการโครงการฯหลังจากนั้นรัฐจะทยอยชำระเงินค่าก่อสร้างให้เอกชนเร็วขึ้นเป็นเดือนที่ 21 จากเดิมที่จ่ายเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จหรือในปีที่ 6 โดยมีการลดระยะเวลาที่รัฐจ่ายค่าก่อสร้างจาก 10 ปี เป็น 7 ปี ซึ่งเอกชนจะลดผลตอบแทนโครงการไม่เกิน 5% เพื่อให้เอกชนมีแรงจูงใจในการก่อสร้างโครงการฯให้แล้วเสร็จอย่างไรก็ตามข้อแรกได้ข้อยุติแล้วส่วนที่เหลือต้องเจรจา ดังกล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าการส่งมอบพื้นที่โครงการฯและการส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการของโครงการฯ (TOD มักกะสัน และศรีราชา) ของรฟท. ให้เอกชน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนฯ นั้น เอกชนร้องขอให้ รฟท. และ สกพอ. สนับสนุนการขอใช้และขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์บริเวณ TOD มักกะสัน โครงการฯ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ซึ่งลำรางฯ ดังกล่าวไม่ใช่เงื่อนไขในการส่งมอบพื้นที่

ทั้งนี้ในปัจจุบัน สกพอ. ได้ดำเนินการตามระเบียบข้างต้นแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบกรณีการขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์ บริเวณพื้นที่มักกะสันในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 4 (ครั้งที่ 5) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 แล้ว เบื้องต้นการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานครยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากมีข้อมูลรายละเอียดจำนวนมากที่ฝ่ายบริหารกรุงเทพ มหานครต้องนำเสนอเพิ่มเติม

แหล่งข่าวจากสกพอ. ระบุอีกว่า การส่งมอบพื้นที่โครงการ ช่วงพญาไท-ดอนเมืองปัจจุบันรฟท.ได้สิทธิครอบครองพื้นที่เวนคืนทั้งหมดแล้ว จำนวน 3 ไร่ 1 งาน 69.3 ตารางวา และพื้นที่หน่วยงานรัฐแล้ว ซึ่งเหลือการดำเนินงานขอใช้พื้นที่สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอพระบรมราชานุญาตต่อสำนักพระราชวัง โดยกระทรวงการคลังและกรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนแล้วอยู่ระหว่างตรวจรับพื้นที่ ซึ่งรฟท. ยู่ระหว่างเจรจาค่าทดแทนอาคารสิ่งปลูกสร้างเพื่อจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันต่อไป

ด้านความคืบหน้า ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ ดำเนินการโยกย้ายผู้บุกรุกแล้วเสร็จ จำนวน 15 หลัง ส่วนการรื้อย้ายสาธารณูปโภคช่วงดังกล่าว ขณะนี้ได้ดำเนินการรื้อย้ายสาธารณูปโภคแล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเพื่อก่อสร้างงานโยธาร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ต่อไป ขณะที่ช่วงพญาไท-บางซื่อได้ดำเนินการโยกย้ายผู้บุกรุกแล้วเสร็จ จำนวน 255 หลัง ปัจจุบันได้ดำเนินการรื้อย้ายท่อน้ำมันของ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด แล้วเสร็จ ช่วงหน้าสถานีจิตรลดาคงเหลือช่วงลอดคลองสามเสน 250 เมตร คาดว่าจะดำเนินการเชื่อมต่อท่อส่วนที่เหลือทั้งหมดพร้อมส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567

นอกจากนี้ยังมีการรื้อย้ายท่อรวบรวมน้ำเสียของกรุงเทพ มหานคร (กทม.) อยู่ระหว่างขอความเห็นชอบผลการจัดจ้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คาดว่าจะรื้อย้ายให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนหลังลงนามสัญญาจ้าง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครโดยล่าช้ากว่าแผนแล้ว 1 เดือน

โดยปัจจุบันรฟท.มีความพร้อมส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิอู่ตะเภา แล้ว แต่อยู่ระหว่างรอเอกชนได้รับบัตรส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเอกชนอยู่ระหว่างส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขอรับบัตรส่งเสริมฯ โดยเอกชนขอขยายระยะเวลาการออกบัตรส่งเสริมฯ ไปจนถึง 22 มกราคม 2567 โดยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ ซึ่ง รฟท. และ สกพอ. เห็นว่า การแก้ไขสัญญาในส่วนของการชำระค่าสิทธิแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ไม่กระทบหลักการสำคัญของโครงการฯ ตามมติคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 - 9 ธ.ค. 2566
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/12/2023 4:17 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมถกเร่งโปรเจคยักษ์อีอีซี รฟท.ส่งพื้นที่ไฮสปีดฯ ทันม.ค.67
กรุงเทพธุรกิจ 07 ธ.ค. 2566 เวลา 11:18 น.

การรถไฟฯ มั่นใจส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินครบ ม.ค.2567 ดันเอกชนเริ่มงานก่อสร้าง ขณะที่ “คมนาคม” เตรียมประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนพื้นที่อีอีซี 8 ธ.ค.นี้ หวังเข็นเม็ดเงินลงทุนตามเป้าหมาย

การรถไฟฯ มั่นใจส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินครบ ม.ค.2567 ดันเอกชนเริ่มงานก่อสร้าง ขณะที่ “คมนาคม” เตรียมประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนพื้นที่อีอีซี 8 ธ.ค.นี้ หวังเข็นเม็ดเงินลงทุนตามเป้าหมาย

โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของไทยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หลายโครงการล่าช้ากว่ากำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างมากแล้ว

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) โดยระบุว่า ความก้าวหน้าโครงการล่าสุดในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างเร่งรัดเตรียมพื้นที่เพื่อส่งมอบให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้าง ซึ่งในส่วนของพื้นที่นอกเมือง ช่วงสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา ได้ส่งมอบให้เอกชน 100% พร้อมเดินหน้างานก่อสร้างได้ทันที

ขณะที่งานเตรียมพื้นที่ส่งมอบในเมือง ช่วงดอนเมือง – พญาไท ปัจจุบันคืบหน้า 97.21% โดยอยู่ระหว่างรื้อย้ายระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร และอยู่ระหว่างรื้อย้ายท่อน้ำมันของ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) เบื้องต้น ร.ฟ.ท.คาดการณ์ว่าจะสามารถเคลียร์พื้นที่ช่วงดังกล่าว และส่งมอบให้เอกชนคู่สัญญาได้ภายในเดือน ม.ค.2567 เพื่อเร่งรัดให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้างโครงการต่อไป

8 ธ.ค.สุริยะถกบอร์ดลงทุนอีอีซี

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการฯ และจะมีการประชุมในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการลงทุนในโครงการต่างๆ พร้อมผลักดันการลงทุนให้เป็นไปตามแผนกำหนดไว้

นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการหารือถึงรายละเอียดของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่อีอีซีระยะต่อไป ที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 - 2570 ตามเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถของระบบรางและทางน้ำ และเชื่อมต่อกับการขนส่งสินค้ารูปแบบอื่น ตลอดจนการยกระดับโครงข่ายคมนาคมรองรับการเดินทางของประชนชนอย่างไร้รอยต่อ และยกระดับโครงข่ายคมนาคมด้วยมาตรการเชิงรุกและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/12/2023 7:26 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง งานโยธา ช่วงนวนคร-บ้านโพ
8 ธ.ค. 66

ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 4-3 งานโยธาสำหรับช่วงนวนคร-บ้านโพ เดือนพฤศจิกายน 2566

https://fb.watch/oONgh2vO3Q/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/12/2023 11:44 am    Post subject: Reply with quote

ดัน ไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2 3.4 แสนล้าน เชื่อมระบบราง 3 ประเทศ
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, December 09, 2023 06:46

"รฟท." เร่งแก้อีไอเอ เดินหน้าสร้างไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2 วงเงิน 3.4 แสนล้านบาท ชงคมนาคมไฟเขียวภายในธ.ค.นี้ เตรียมเปิดประมูลไตรมาส 2 ปี 67 หวังเชื่อมต่อการเดินทางระบบราง 3 ประเทศ

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) เฟส 1 จำนวน 14 สัญญา ซึ่งมีความคืบหน้าก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงคมนาคมยังผลักดันโครงการฯในระยะที่ 2 เพื่อให้ระบบรถไฟของไทย สามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศจีนและสปป.ลาวได้สะดวกมากขึ้น

รายงานข่าวจาก กระทรวงคมนาคม ผลักดันโครงการ ไฮสปีด ไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 341,351 ล้านบาท ล่าสุด รฟท. อยู่ระหว่างแก้ไขรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนนี้

หลังจากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในเดือนธันวาคม 2566 และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป คาดว่าจะเปิดประมูลภายในไตรมาส 2 ของปี 2567 และเริ่มก่อสร้างภายในเดือนธันวาคม 2567 ระยะเวลาก่อสร้าง 7 ปี หลังจากนั้นจะดำเนินการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 พร้อมเปิดให้บริการปี 2573

ขณะที่ความคืบหน้าด้านการเวนคืนที่ดินไฮสปีด ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯหนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 2 ช่วงนครราชสีมาหนองคาย วงเงิน 12,418 บาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเวนคืนที่ดินได้ ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่ที่ถูกเวนคืน ช่วงนครราชสีมา - บ้านไผ่ จำนวน 195 แปลงและช่วงบ้านไผ่ - หนองคาย จำนวน 1,764 แปลง

รายงานข่าวจากรฟท. ระบุว่า ตามแผนโครงการฯจะแบ่งการประมูลเพื่อดำเนินการก่อสร้างเป็นไม่เกิน 10 สัญญา เนื่องจากที่ผ่านมาการประมูลแต่ละโครงการฯ มีการแบ่งออกหลายสัญญา ทำให้ผู้รับจ้างรายเล็กไม่สามารถเข้าร่วมประมูลงานได้ เพราะเป็นสัญญางานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ในโครงการฯ ระยะที่ 2 ทางรฟท.มีความเห็นว่าควรขยายสัญญาให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการประมูลมากขึ้นสำหรับงานก่อสร้างให้แก่ผู้รับจ้างรายเล็ก ซึ่งจะทำให้ผู้รับจ้างมีรายเล็กมีผลงานเพิ่มขึ้น

"นอกจากนี้มีบางสัญญาที่อยู่ภายในเมืองสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ต้องมีการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค, ท่อระบายน้ำและระบบไฟฟ้า รวมทั้งผู้บุกรุกที่อาศัยภายในชุมชนใหญ่ ส่งผลให้การรื้อย้ายต้องใช้ระยะเวลา"
ทั้งนี้การออกแบบรางของโครงการฯมีขนาด 1.435 เมตร โดยรถไฟสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 250 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังหนองคาย ระยะทางรวม 609 กิโลเมตร (กม.) ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที

สำหรับแนวเส้นทางไฮสปีดไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 2 ตลอดระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.) นั้น แบ่งการก่อสร้างเป็น ทางรถไฟระดับพื้นดิน 185 กิโลเมตร (กม.) และทางรถไฟยกระดับ 171 กิโลเมตร (กม.) มีทั้งสิ้น 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่, สถานีบ้านไผ่, สถานีขอนแก่น, สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย โดยจะมีสถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง บริเวณสถานีรถไฟนาทา จังหวัดหนองคาย รวมทั้งจะมีการ ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสถานีนาทา จังหวัดหนองคาย

อย่างไรก็ตามไฮสปีดไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย มีเส้นทางครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา, จ.ขอนแก่น, จ.อุดรธานี และจ.หนองคายเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่มีความรวดเร็วและความปลอดภัยให้ประชาชน รวมทั้งยังเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับ สปป.ลาว และประเทศจีนด้วย

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 10 - 13 ธ.ค. 2566
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/12/2023 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟความเร็วสูงไฮสปีด สร้างไปจ่ายไป l THAN TALK | 11 ธ.ค. 66
ฐานเศรษฐกิจ
Dec 11, 2023


https://www.youtube.com/watch?v=LCHgHyGaaQ4
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/12/2023 8:02 pm    Post subject: Reply with quote

อัพเดตปลายปี 66 รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราช ทั้ง 14 สัญญา ไปถึงไหนแล้ว ปีหน้าต้องลุยอีก
Max Puttipong
Dec 9, 2023


https://www.youtube.com/watch?v=bdFlpmr8UuA
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 47114
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/12/2023 10:09 am    Post subject: Reply with quote

สกพอ. กระทุ้ง สภากทม. เร่งถอนลำราง'มักกะสัน'
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, December 09, 2023 06:45

สกพอ.กระทุ้ง สภากทม. เร่ง ถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์บริเวณ TOD มักกะสัน ตามระเบียบมหาดไทย หลังล่าช้า

การส่งมอบพื้นที่ โครงการ พัฒนาเชิงพาณิชย์ ( TOD) บริเวณรอบสถานีมักกะสัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้กับ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพี คู่สัญญา ส่วนหนึ่งในสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิอู่ตะเภา) ปัจจุบัน ยังติดปัญหาล่าช้า รอสภากรุงเทพมหานคร พิจารณา ถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวว่า ความคืบหน้าการส่งมอบพื้นที่โครงการฯและการส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการของโครงการฯ (TOD มักกะสัน และศรีราชา) ของรฟท. ให้เอกชน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนฯ นั้น เอกชนร้องขอให้รฟท. และสกพอ. สนับสนุนการขอใช้และขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์บริเวณ TOD มักกะสัน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ซึ่งลำรางฯ ดังกล่าวไม่ใช่เงื่อนไขในการส่งมอบพื้นที่

ปัจจุบัน สกพอ. ได้ดำเนินการตามระเบียบข้างต้น และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบกรณีการขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์ บริเวณพื้นที่มักกะสันในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 4 (ครั้งที่ 5) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 แล้ว เบื้องต้นการพิจารณาของสภากทม.ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากมีข้อมูลรายละเอียดจำนวนมากที่ฝ่ายบริหารกทม.ต้องนำเสนอเพิ่มเติม

ย้อนไปก่อนหน้านี้เอกชนคู่สัญญาพบว่าบริเวณด้านหลังของโฉนดที่ดินแปลงมักกะสัน(โซนA) 150 ไร่ มีลำรางสาธารณะปรากฎอยู่ สถาบันการเงินไม่อาจอนุมัติวงเงินกู้เพื่อดำเนินการก่อสร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินได้ ถึงแม้รฟท.ระบุว่าได้เปลี่ยนการใช้ประโยชน์ลำรางสาธารณะเป็นพื้นที่ตั้งของพวงรางรถไฟนานแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีผลทางกฎหมายเปลี่ยนสภาพการใช้ที่ดินลำรางสาธารณะย่อมมีปัญหาต่อการพัฒนาตามมาภายหลัง

ทั้งนี้เอกชนขอให้รฟท.หาแนวทางถอนสภาพลำรางสาธารณะออกจากโฉนดที่ดินโดยเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นแล้วการรับมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จะเดินต่อไม่ได้ เนื่องจากเอกชนมองว่า โครงการทั้งสองส่วนต้องไปพร้อมกัน ทำให้รฟท.ต้องเลื่อนออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) ออกไป เนื่องจากตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยการยื่นขอแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพลำรางสาธารณะ ต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีโดยกรมที่ดินต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา และเปิดรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่อีกทั้งยังเกี่ยวพันกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ ของกรมป่าไม้

ช่วงที่ผ่านมาตามข้อตกลงคณะกรรมกรรมการ 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบ ด้วยรฟท. สกพอ.และเอกชน เพื่อหาทางออกร่วมกันเกี่ยวกับลำรางสาธารณะที่เอกชนพบปรากฎอยู่บนโฉนดที่ดิน โครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์มักกะสัน โดยรฟท.ได้มีหนังสือหารือไปยังกฤษฎีกาและอัยการสูงสุดเพื่อวินิจฉัยว่า 1.กรณีหลักฐานลำรางสาธารณะที่ปรากฎอยู่บนที่ดินมักกะสันถือเป็น หนึ่งในเงื่อนไขการส่งมอบพื้นที่หรือไม่

2.เอกชนคู่สัญญาสามารถรับมอบพื้นที่เข้าดำเนินโครงการก่อนการถอนสภาพลำรางสาธารณะได้หรือไม่ 3.ลำรางเสื่อมสภาพไม่มีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ร่วมกันและมีหลักฐานรฟท.ใช้งานเป็นที่ตั้งของพวงรางเดินขบวนรถ ยังถือเป็นลำรางสาธารณะหรือไม่

แหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวว่า ประเด็นลำรางสาธารณะไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ของรฟท. ที่สำคัญกฤษฎีกาและอัยการสูงสุดยังเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาให้สกพอ.และกระทรวงมหาดไทยในฐานะกำกับดูแลกทม. ทำงานร่วมกัน และให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศยกเลิกลำรางสาธารณะที่ปรากฎหลักฐานว่าเสื่อมสภาพไม่เคยมีประชาชนใช้ประโยชน์บนที่ดินมักกะสันซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองของกทม.เป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อให้เอกชนคู่สัญญาสามารถเข้าพื้นที่ได้ก่อนตามกำหนดสัญญาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการถอนสภาพลำลางสาธารณะเปลี่ยนการใช้ประโยชน์เป็นที่ดินตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวต่อว่า รฟท.ยืนยันว่าการออก NTP เริ่มงานก่อสร้างโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินนั้นมีความพร้อมอย่างมาก ติดปัญหาเพียงพื้นที่ลำรางสาธารณะซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนเล็กน้อย 1% ของพื้นที่ก่อสร้างโครงการทั้งหมด ขณะที่เอกชนยืนยันว่า หากไม่มีการแก้ไขปัญหาส่วนนี้ให้แล้วเสร็จ อาจส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างโครงการทั้งหมด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหา ทำให้แผนส่งมอบพื้นที่จะล่าช้ากว่าแผนออกไป

"เราก็เข้าใจดีกว่าโครงการฯทั้งแนวเส้นทางและ TOD เป็นส่วนที่สอดคล้องกัน เพราะการพัฒนาโครงการจะเกื้อหนุนกัน ดังนั้นก็จำเป็นต้องออก NTP พร้อมกัน แต่พื้นที่ที่ติดปัญหานี้เป็นลำรางสาธารณะที่มีมานานมากแล้ว ปัจจุบันก็ไม่ได้มีการใช้งาน แทบไม่เห็นแล้วว่ายังมีพื้นที่ลำรางสาธารณะอยู่ แต่รายละเอียดตามโฉนดยังพบว่ามีลำรางเท่านั้น"
"สภากทม.ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากมีข้อมูลรายละเอียดจำนวนมากที่ฝ่ายบริหารกทม.ต้องนำเสนอเพิ่มเติม"

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 10 - 13 ธ.ค. 2566
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 10/12/2023 11:26 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ดัน ไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2 3.4 แสนล้าน เชื่อมระบบราง 3 ประเทศ
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, December 09, 2023 06:46

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 10 - 13 ธ.ค. 2566


ลิงก์มาแล้ว


ดัน ไฮสปีดไทย-จีน เฟส2 3.4 แสนล้าน เชื่อมระบบราง 3 ประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ
08 ธันวาคม 2566

“รฟท.” เร่งแก้อีไอเอ เดินหน้าสร้างไฮสปีดไทย-จีน เฟส2 วงเงิน 3.4 แสนล้านบาท ชงคมนาคมไฟเขียวภายในธ.ค.นี้ เตรียมเปิดประมูลไตรมาส 2 ปี 67 หวังเชื่อมต่อการเดินทางระบบราง 3 ประเทศ
https://www.thansettakij.com/business/economy/582841
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2023 12:35 am    Post subject: Reply with quote

สกพอ. กระทุ้ง สภากทม. เร่งถอนลำรางที่ดิน "มักกะสัน"ส่งมอบพื้นที่ลุยไฮสปีด

ฐานเศรษฐกิจ
08 ธันวาคม 2566

สกพอ.กระทุ้ง สภากทม. เร่ง ถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์บริเวณ TOD มักกะสัน ตามระเบียบมหาดไทย หลังต้องขอหลักฐานเพิ่มเติม เร่งส่งมอบพื้นที่ลุยไฮสปีด


การส่งมอบพื้นที่ โครงการ พัฒนาเชิงพาณิชย์ ( TOD) บริเวณรอบสถานีมักกะสัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้กับ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพี คู่สัญญา ส่วนหนึ่งในสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ปัจจุบัน ยังติดปัญหารอสภากรุงเทพมหานคร พิจารณา ถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์ หากยังส่งมอบพื้นที่ในส่วนนี้ไม่ได้เท่ากับการเข้าพื้นที่ก่อสร้างส่วนของไฮสปีดจะล่าช้าไปด้วย เพราะเอกชนต้องการเคลียร์ให้ครบทั้งสองส่วน100%



แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวว่า ความคืบหน้าการส่งมอบพื้นที่โครงการฯและการส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการของโครงการฯ (TOD มักกะสัน และศรีราชา) ของรฟท. ให้เอกชน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนฯ นั้น

เอกชนร้องขอให้รฟท. และสกพอ. สนับสนุนการขอใช้และขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์บริเวณ TOD มักกะสัน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ซึ่งลำรางฯ ดังกล่าวไม่ใช่เงื่อนไขในการส่งมอบพื้นที่

ปัจจุบัน สกพอ. ได้ดำเนินการตามระเบียบข้างต้น และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เสนอ ญัตติขอความเห็นชอบกรณีการขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์ บริเวณพื้นที่มักกะสันในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 4 (ครั้งที่ 5) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 แล้ว เบื้องต้นการพิจารณาของสภากทม.ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากมีข้อมูลรายละเอียดจำนวนมากที่ฝ่ายบริหารกทม.ต้องนำเสนอเพิ่มเติม


ย้อนไปก่อนหน้านี้เอกชนคู่สัญญาพบว่าบริเวณด้านหลังของโฉนดที่ดินแปลงมักกะสัน(โซนA) 150 ไร่ มีลำรางสาธารณะปรากฎอยู่ สถาบันการเงินไม่อาจอนุมัติวงเงินกู้เพื่อดำเนินการก่อสร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินได้ ถึงแม้รฟท.ระบุว่าได้เปลี่ยนการใช้ประโยชน์ลำรางสาธารณะเป็นพื้นที่ตั้งของพวงรางรถไฟนานแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีผลทางกฎหมายเปลี่ยนสภาพการใช้ที่ดินลำรางสาธารณะย่อมมีปัญหาต่อการพัฒนาตามมาภายหลัง

ทั้งนี้เอกชนขอให้รฟท.หาแนวทางถอนสภาพลำรางสาธารณะออกจากโฉนดที่ดินโดยเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นแล้วการรับมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จะเดินต่อไม่ได้ เนื่องจากเอกชนมองว่า โครงการทั้งสองส่วนต้องไปพร้อมกัน ทำให้รฟท.ต้องเลื่อนออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) ออกไป เนื่องจากตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยการยื่นขอแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพลำรางสาธารณะ ต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีโดยกรมที่ดินต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา และเปิดรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่อีกทั้งยังเกี่ยวพันกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ ของกรมป่าไม้

ช่วงที่ผ่านมาตามข้อตกลงคณะกรรมกรรมการ 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบ ด้วยรฟท. สกพอ.และเอกชน เพื่อหาทางออกร่วมกันเกี่ยวกับลำรางสาธารณะที่เอกชนพบปรากฎอยู่บนโฉนดที่ดิน โครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์มักกะสัน โดยรฟท.ได้มีหนังสือหารือไปยังกฤษฎีกาและอัยการสูงสุดเพื่อวินิจฉัยว่า

1.กรณีหลักฐานลำรางสาธารณะที่ปรากฎอยู่บนที่ดินมักกะสันถือเป็น หนึ่งในเงื่อนไขการส่งมอบพื้นที่หรือไม

2.เอกชนคู่สัญญาสามารถรับมอบพื้นที่เข้าดำเนินโครงการก่อนการถอนสภาพลำรางสาธารณะได้หรือไม่

3.ลำรางเสื่อมสภาพไม่มีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ร่วมกันและมีหลักฐานรฟท.ใช้งานเป็นที่ตั้งของพวงรางเดินขบวนรถ ยังถือเป็นลำรางสาธารณะหรือไม่

แหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวว่า ประเด็นลำรางสาธารณะไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ของรฟท. ที่สำคัญกฤษฎีกาและอัยการสูงสุดยังเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาให้สกพอ.และกระทรวงมหาดไทยในฐานะกำกับดูแลกทม. ทำงานร่วมกัน และให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศยกเลิกลำรางสาธารณะที่ปรากฎหลักฐานว่าเสื่อมสภาพไม่เคยมีประชาชนใช้ประโยชน์บนที่ดินมักกะสันซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองของกทม.เป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อให้เอกชนคู่สัญญาสามารถเข้าพื้นที่ได้ก่อนตามกำหนดสัญญาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการถอนสภาพลำลางสาธารณะเปลี่ยนการใช้ประโยชน์เป็นที่ดินตามกฎหมายต่อไป

รฟท.ยืนยันว่าการออก NTP เริ่มงานก่อสร้างโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินนั้นมีความพร้อมอย่างมาก ติดปัญหาเพียงพื้นที่ลำรางสาธารณะซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนเล็กน้อย 1% ของพื้นที่ก่อสร้างโครงการทั้งหมด ขณะที่เอกชนยืนยันว่า หากไม่มีการแก้ไขปัญหาส่วนนี้ให้แล้วเสร็จ อาจส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างโครงการทั้งหมด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหา ทำให้แผนส่งมอบพื้นที่จะล่าช้ากว่าแผนออกไป

“เราก็เข้าใจดีกว่าโครงการฯทั้งแนวเส้นทางและ TOD เป็นส่วนที่สอดคล้องกัน เพราะการพัฒนาโครงการจะเกื้อหนุนกัน ดังนั้นก็จำเป็นต้องออก NTP พร้อมกัน แต่พื้นที่ที่ติดปัญหานี้เป็นลำรางสาธารณะที่มีมานานมากแล้ว ปัจจุบันก็ไม่ได้มีการใช้งาน แทบไม่เห็นแล้วว่ายังมีพื้นที่ลำรางสาธารณะอยู่ แต่รายละเอียดตามโฉนดยังพบว่ามีลำรางเท่านั้น”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43921
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2023 12:40 am    Post subject: Reply with quote

โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงพระแก้ว-สระบุรีสัญญาที่ 4-6 ร่วมด้วยบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน)
ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ก่อนการก่อสร้างในพื้นที่
ชุมชนหนองน้ำใส ม.3ม.8 อ.ภาชี จ. พระนครศรีอยุธยา
บ.ที่ปรึกษา CSC และบริษัทยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นจำกัด(มหาชน) ลงร่วมตรวจสอบพื้นที่บริเวณเครื่องจักรสำหรับงานเจาะทดสอบเสาเข็ม DK87+600
ขอขอบคุณทุกหน่วยงานและประชาชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือกับการประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ค่ะ🙏🙏
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=335771022542755&id=100083295791460
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 520, 521, 522 ... 578, 579, 580  Next
Page 521 of 580

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©