View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 10/01/2024 3:26 pm Post subject: |
|
|
ส่องแผนแจ้งเกิด รถไฟไฮสปีด วิ่งทั่วไทย 8 เส้นทาง กว่า 2.4 พันกม. 1.6 ล้านล้าน
เดลินิวส์ 10 มกราคม 2567 11:28 น.
นวัตกรรมขนส่ง
ส่องแผนแม่บทรถไฟไฮสปีดประเทศไทย มี 8 เส้นทางรวม 2,466 กม. งบลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท เร่งด่วน 4 สาย เพิ่งสร้างได้สายเดียว ไทย-จีน เปิดปี 71 อีก 7 สายตามแผนเร่งด่วน-กลาง-ยาว ทยอยเปิดให้บริการ 79 รฟท. ลุยของบปี 68 ทบทวนผลเดิม กรุงเทพฯ-หัวหิน เดินเครื่องศึกษาความเหมาะสม หัวหิน-สุราษฎร์ฯ
ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์ รายงานว่า กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างผลักดันแผนงานการพัฒนาทางรถไฟขนาดทางมาตรฐาน (รถไฟความเร็วสูง : รถไฟไฮสปีด) ให้เกิดขึ้นให้ได้ ตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟ ซึ่งกำหนดกรอบระยะเวลา 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มี 8 โครงการ ระยะทางรวม 2,466 กิโลเมตร (กม.) วงเงินรวมประมาณ1.69 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น *แผนระยะเร่งด่วน 4 โครงการ
1.โครงการรถไฟไฮสปีดไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กม. วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จและมีแผนเปิดบริการล่าสุดที่ปรับใหม่คือปี 71
2. โครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) 220 กม. วงเงิน 2.24 แสนล้านบาท เตรียมก่อสร้างตามแผนที่ปรับใหม่จะแล้วเสร็จเปิดบริการปี 71
3.โครงการรถไฟไฮสปีดกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เฟสที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก 380 กม. วงเงิน 2.76 แสนล้านบาท สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เตรียมเสนอผลศึกษาต้นทุนโครงการ และการสำรวจปริมาณความต้องการเดินทาง และผลศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ และการเงินของโครงการต่อกระทรวงคมนาคม ผลการศึกษามีความคุ้มค่าด้านเศรษฐศาสตร์ จะใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี นับแต่วันเริ่มการก่อสร้าง
4. โครงการรถไฟไฮสปีดไทย-จีน เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย 355 กม. วงเงิน 2.52 แสนล้านบาท อยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโครงสร้างพื้นฐานทางบกและทางอากาศ (คชก.) คาดว่าจะเปิดบริการปี 72
แผนระยะกลาง 2 โครงการ
1.โครงการรถไฟไฮสปีด กรุงเทพฯปาดังเบซาร์ เฟสที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน 211 กม. วงเงิน 1.01 แสนล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างทบทวนผลการศึกษาเดิม โดยพิจารณาต่อขยายถึงสุราษฎร์ธานี มีแผนขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 68
2.โครงการรถไฟไฮสปีด กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เฟสที่ 2 ช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ 288 กม. วงเงิน 2.32 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างหาข้อสรุปเรื่องรูปแบบการลงทุน
แผนระยาว 2 โครงการ
1.โครงการรถไฟไฮสปีดกรุงเทพฯปาดังเบซาร์ เฟสที่ 2 ช่วงหัวหินสุราษฎร์ธานี 424 กม. วงเงิน 2.35 แสนล้านบาท กระทรวงคมนาคม มอบหมาย รฟท. ศึกษาความเหมาะสมฯ มีแผนขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 68 เพื่อศึกษาความเหมาะสมโครงการตามข้อสั่งการของกระทรวงคมนาคม
2.โครงการรถไฟไฮสปีด กรุงเทพฯปาดังเบซาร์ เฟสที่ 3 ช่วงสุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ 335 กม. วงเงิน 1.97 แสนล้านบาท รฟท. มีแผนของบประมาณปี 69 เพื่อจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมโครงการต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43933
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/01/2024 4:00 pm Post subject: |
|
|
ผ่าทางตัน ไฮสปีดซีพี อีอีซีย้ำสร้างเสร็จ เปิดเดินรถก่อน 1 ปี ค่อยเจรจาใหม่
ฐานเศรษฐกิจ 12 มกราคม 2567
รัฐ-เอกชนผ่าทางตัน ไฮสปีด3สนามบิน ดึงขึ้นจากหล่ม เดินหน้าตอกเข็ม ชงครม.แก้สัญญาช่วงแอร์พอร์ตลิงก์ มี.ค.นี้ กล่อมเอกชน รับสร้างพื้นที่ทับซ้อน อีอีซีแนะก่อสร้างเสร็จ เปิดเดินรถก่อน 1 ปี ค่อยเจรจาใหม่ หลังยอม สร้างไป เดินรถไป เป็นช่วงๆ
โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แม่เหล็กสำคัญ ดึงนักลงทุนข้ามชาติ เข้าพื้นที่ แต่ปัจจุบันการเจรจาเพื่อนำไปสู่การเข้าพื้นที่ก่อสร้างยังไม่ข้อยุตินับตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา
ทั้งนี้ตามข้อเท็จจริง ภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2564 หรือ 2 ปี นับจากลงนามในสัญญาสัมปทานปี2562 ซึ่งเดิมทีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะต้องได้รับโอนเงินจำนวน 10,671 ล้านบาท ก้อนเดียวจบจากบริษัทเอเชีย เอรา วัน จำกัด (ซี.พี.) คู่สัญญา แลกกับการเข้าบริหาร โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฮสปีด แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์โควิดในปี 2563 ส่งผลให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักเอกชนได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤตในครั้งนี้ส่งผลให้เอกชนยื่นเงื่อนไขขอผ่อนชำระเป็นรายงวดนำมาสู่การแก้ไขสัญญาใหม่ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากสังคมว่ายังไม่ทันลงมือสร้างก็แก้สัญญาเสียแล้ว
อย่างไรก็ตามรฟท.ฐานะคู่สัญญารวมถึงรัฐบาลชุดที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันต้องยืดหยุ่น และยื่นมือช่วยเหลือเพื่อให้โครงการเดินต่อได้ เพราะหากสะดุดล้มกลางครัน อาจส่งผลเสียในหลายโครงการโดยเฉพาะเมืองการบินอู่ตะเภาและที่สำคัญยิ่งกว่าคือการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนแต่ปัญหาใหญ่คือสภาพคล่องที่เอกชนต้องการ ให้รัฐหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่า แต่ในทางปฏิบัติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ เอกชนต้องเจรจากับสถาบันการเงินเองหรือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะให้การช่วยเหลือ
อีกปมปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกและรัฐต้องเจรจากับเอกชนให้ก่อสร้างพื้นที่ทับซ้อนแต่เอกชนต้องการให้รฟท.เป็นฝ่ายก่อสร้างเพราะไม่ต้องการให้เกิดงบประมาณที่บานปลายและหากให้เอกชนเป็นฝ่ายสร้างได้มีข้อเสนอ สร้างไปจ่ายไป บนพื้นที่ทับซ้อนโครงสร้างร่วมกับไฮสปีด ไทย-จีน ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง แต่ในทางปฏิบัติ ไม่สามารถทำได้เพราะเกรงว่าจะเกิดการทิ้งงาน
ดังนั้นสกพอ.ได้หาทางออกใหม่ โดยยอมให้ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นช่วงๆและเปิดเดินรถ รัฐจึงจ่ายเงินค่างวดในลักษณะ เดินรถไปจ่ายไป ตามช่วงดังกล่าวทั้งนี้มองว่าหากจะต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมจะต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่อีกครั้ง
ชงครม.แก้สัญญา
สำหรับโครงไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กิโลเมตรวงเงิน 224,544 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอการแก้ไขร่างสัญญาฯ ต่อคณะกรรมการกำกับแก้ไขสัญญาฯ ซึ่งตามไทม์ไลน์ จะมีการประชุมภายในวันที่12 มกราคมนี้ หลังจากนั้นจะส่งร่างแก้ไขสัญญาฯให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน คาดว่าสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเสนอต่อคณะกรรมการอีอีซี หลังจากนั้นจะเสนอต่อครม.พิจารณาเห็นชอบ คาดว่าจะลงนามสัญญาแก้ไขร่างสัญญาฯได้ภายในกลางเดือนมีนาคม 2567
แหล่งข่าวจากสกพอ.ระบุว่า สำหรับความคืบหน้าสำหรับรายละเอียดการแก้ไขร่างสัญญาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ในครั้งนี้เป็นเรื่องการชำระค่าสิทธิ์แอร์พอร์ต ลิงก์ โดยเป็นการผ่อนชำระ 7 งวด รวมถึงการแก้ปัญหาผลกระทบทางการเงินในอนาคต หากเกิดสถานการณ์เหมือนช่วงโควิดซึ่งคณะกรรมการอีอีซีและครม.ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบในประเด็นดังกล่าวแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2566
เจรจาพื้นที่ทับซ้อน
แหล่งข่าวจากสกพอ.กล่าวอีกว่าส่วนกรณีที่ยังเจรจากับเอกชนไม่ได้ข้อยุติในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองกับไฮสปีดไทย-จีนเฟส 1 นั้น ที่ผ่านมาภาครัฐให้เอกชนเป็นผู้ดำเนิน การก่อสร้างเองและปรับวิธีการชำระเงิน ซึ่งจะต้องนำเรื่องเข้าคณะกรรมการอีอีซีก่อนขณะที่ช่วงพญาไท-บางซื่อ อยู่ระหว่างการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคบริเวณคลองสามเสนของกทม.คาคว่าภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม จะดำเนินการแล้วเสร็จ
ประเด็นพื้นที่ทับซ้อนจะได้ข้อสรุปเมื่อไรนั้น ตอบยากเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ฝ่ายเราเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของเอกชนด้วย เพราะปัจจุบันเอกชนที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ จะหมดอายุในวันที่ 22 มกราคมนี้ ทราบว่าเอกชนอาจจะขยายเวลารับการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอถึง 22 พฤษภาคม 2567 คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจน โดยรฟท.จะแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน ส่วนเอกชนจะดำเนินการอย่างไรเป็นสิทธิ์ของเขา ซึ่งจะมีผลต่อสัญญาที่เริ่มดำเนินการ ทำให้ไม่มีช่องสัญญาที่จะขยายเวลาออกไปอีก ที่ผ่านมาภาครัฐเจรจาให้เอกชนเป็นผู้ก่อสร้างช่วงพื้นที่ทับซ้อนเพียงรายเดียว หากมีผู้ก่อสร้างหลายรายอาจจะวุ่นวายได้ ซึ่งเอกชนมองว่าหากเป็นผู้ก่อสร้างเองจะมีเงื่อนไขเรื่องค่าก่อสร้างและการชำระเงินที่เป็นอุปสรรคโดยภาครัฐเคยเจรจาแล้ว แต่คณะกรรมการอีอีซีไม่อนุมัติ ทำให้ต้องกลับมาเจรจาร่วมกันใหม่
ถอนลำรางสาธารณะ
ทั้งนี้หากเอกชนไม่ยอมเป็นผู้ก่อสร้างช่วงพื้นที่ทับซ้อนท้ายที่สุดรฟท.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเอง แต่ปัจจุบันภาครัฐพยายามเจรจาให้เอกชนเป็นผู้ก่อสร้าง เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่อยู่ในโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน หากรฟท.เป็นผู้ก่อสร้างเองจะต้องของบประมาณและออกแบบรายละเอียดโครงการฯใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงที่โครงการจะล่าช้า
ส่วนประเด็นการส่งมอบพื้นที่โครงการฯและการส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการของโครงการฯ (TOD มักกะสัน และศรีราชา) ของรฟท. ให้เอกชน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนฯ โดยเอกชนร้องขอให้รฟท. และสกพอ. สนับสนุนการขอใช้และขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์บริเวณ TOD มักกะสัน ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานครเพื่อเห็นชอบกรณีการขอถอนสภาพลำรางสาธารณะประโยชน์นั้น พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานกว่า 80 ปี แต่ยังพบอยู่ในโฉนดที่ดิน ซึ่งทางกฎหมายสามารถขอใช้พื้นที่หรือเพิกถอนได้
ประเด็นลำรางสาธารณะประโยชน์จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนลงนามแก้ไขสัญญาหรือไม่นั้น มองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากในสัญญาระบุว่าประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ในเงื่อนของการส่งมอบพื้นที่ โดยรฟท.ยืนยันว่าต่อให้พื้นที่ดังกล่าวมีการฟื้นฟูหรือไม่ฟื้นฟูก็สามารถส่งพื้นที่ได้ หากมีการเพิกถอน ท้ายที่สุดหากเรื่องนี้ยังค้างคาอยู่เอกชนต้องพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเองตามกฎหมาย ซึ่งตามหลักการแล้วควรเพิกถอนลำรางสาธารณะ เพราะพื้นที่ฯไม่ได้มีการใช้งานมานานแล้ว
รัฐหาแหล่งเงินกู้ แทนsoft loan
แหล่งข่าวจากสกพอ.กล่าวต่อว่า กรณีที่เอกชนขอให้ภาครัฐช่วยหามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า (soft loan) ในโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินนั้น เรื่องนี้ทางอีอีซีได้อธิบายเอกชนว่าต้องทำความเข้าใจก่อนว่าซอฟต์โลนคืออะไร ถ้าในความหมายของภาครัฐคือมีมติครม.สั่งให้ธนาคารรัฐปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่า ยืนยันว่าภาครัฐไม่สามารถทำได้ แต่ในความหมายของเอกชนระบุว่าให้ทางอีอีซีเป็นคนกลางพาเอกชนไปเจรจากับธนาคารรัฐ ซึ่งไม่ใช่การการันตีเงินกู้ หากเป็นในกรณีนี้ภาครัฐยินดีช่วยเอกชนหาแหล่งเงินกู้อย่างดีที่สุดมากกว่าไม่ใช่การช่วยหามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า
ที่ผ่านมาอีอีซีได้มีการส่งหนังสือให้เอกชนจัดทำรายละเอียดแผนเงินกู้ให้ชัดเจน โดยเอกชนไม่เคยทำแผนดังกล่าวมาให้อีอีซี ซึ่งเอกชนอ้างว่ายังมีเรื่องของสัญญาที่ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ตามสัญญากำหนดให้ดำเนินการได้ต่อเมื่อมีการแจ้งหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) ก่อน หลังจากนั้นจะต้องดำเนินการกู้เงินภายใน 3 เดือนหลังจากออก NTP แต่ในเชิงธุรกิจจะมีการกู้เงินก่อนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เอกชนจะกู้เงินเพียง 3 เดือน หากเอกชนไม่ดำเนินการ ภาครัฐจะยึดการดำเนินการตามสัญญาปกติ
ส่วนสาเหตุที่เอกชนขอให้ภาครัฐช่วยหามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า (soft loan) เนื่องจากเอกชนมองว่าในปัจจุบันหากเจรจากู้เงินเพื่อก่อสร้างโครงการฯกับธนาคารพาณิชย์จะได้รับดอกเบี้ยสูงทำให้คนคํ้าประกันต้องรับผิดชอบสูง ส่งผลให้สัดส่วนการปล่อยเงินกู้ได้ลดลง ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทแม่มองว่าเป็นความเสี่ยงสูงจึงอยากให้ภาครัฐช่วย ซึ่งอีอีซียืนยันว่าช่วยได้โดยให้ธนาคารรัฐรู้สึกว่าความเสี่ยงไม่ได้มากอย่างที่ธนาคารเข้าใจ โดยให้เอกชนสามารถกู้ได้ในเงื่อนไขที่เอกชนสามารถรับได้
นอกจากนี้ในกรณีที่เอกชนขอให้ภาครัฐตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อใช้ในโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินนั้น โดยเอกชนให้เหตุผลว่าเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเดินรถในระหว่างนี้จะมีค่าซ่อมบำรุงรักษาและดอกเบี้ย ซึ่งรายได้จากการเก็บค่าโดยสารอาจจะน้อยและไม่เพียงพอต่อการชำระดอกเบี้ย จึงอยากให้ภาครัฐมีกองทุนสำรองเผื่อกรณีที่ชำระดอกเบี้ยไม่ได้จากการขาดทุน จนทำให้ธนาคารยึดโครงการฯ โดยใช้เงินจากกองทุนมาช่วยพยุงเพื่อไม่ให้โครงการล้ม
ทางอีอีซียืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการให้ได้ หากจะให้ภาครัฐช่วยอุ้มในขณะที่ยังไม่เกิดความเสี่ยง เพราะผิดกฎหมาย อีกทั้งภาครัฐไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าวที่ชัดเจน ซึ่งภาครัฐไม่มีงบประมาณที่จะช่วยในเรื่องนี้ ทั้งนี้อีอีซีมองว่าควรให้เอกชนก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จและเปิดเดินรถก่อนประมาณ 1 ปี เพื่อให้เห็นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น หลังจากนั้นค่อยพิจารณาความเสี่ยงอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องใช้ระยะเวลาการหารือนานพอสมควร
อย่างไรก็ตามโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ต้องเปิดหวูดลงมือก่อสร้าง เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบกับหลายโครงการที่เป็นห่วงโซ่ โดยเฉพาะเมืองการบินอู่ตะเภา และนักลงทุนอาจขาดความเชื่อมั่น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/01/2024 4:03 pm Post subject: |
|
|
ย้ายแล้ว! 'สถานีรถไฟกุดจิก' โคราช อายุ 124 ปี เหตุขวางเส้นทางไฮสปีดไทย-จีน
กรุงเทพธุรกิจ 12 ม.ค. 2567 เวลา 15:04 น.
ย้ายแล้ว! 'สถานีรถไฟกุดจิก' อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา อายุ 124 ปี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เหตุขวางเส้นทางไฮสปีดไทย-จีน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มกราคม 2567 ที่ สถานีรถไฟกุดจิก ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ดร.ภัทรพล บัญชาจารุรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) กุดจิก พร้อมตัวแทนภาคประชาชน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงวัยที่รักผูกพันกับการใช้บริการโดยสารขบวนรถไฟได้เดินทางมาดูทีมช่างจาก จ.ชัยภูมิ ดำเนินการย้ายอาคารสถานีรถไฟเก่าที่ต้องถูกรื้อถอนตามแผนพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา
โดยมีวิศวกรโยธาของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างงานสัญญาที่ 3-4 งานโยธา ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด มูลค่างาน 9,848 ล้านบาท ได้มาควบคุมการย้ายอาคารไม้สูง 2 ชั้น ความยาว 6 เมตร กว้าง 4 เมตร โดยรื้อถอนแยกชิ้นส่วนที่ทรุดโทรมตามสภาพการใช้งานกว่า 120 ปี และมัดกับโครงเหล็กอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้แย็กมือดีดขึ้นมาวางบนแท่งเหล็กกลมก่อนจะใช้รอกค่อยๆดึงตัวอาคารมาที่จุดใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามมีระยะห่างประมาณ 30 เมตร ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ภารกิจเสร็จลุล่วงไปด้วยดี
นางสุนันทา ฉายสัมฤทธิ์กุล อายุ 84 ปี เปิดเผยว่า มีความผูกพันกับสถานีกุดจิกมาตั้งแต่รับราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาบ้านกุดจิก ยุคสมัยกว่า 50 ปี การคมนาคมมีเพียงรถไฟเชื่อมต่อระหว่างตัวอำเภอและจังหวัด ตนและครอบครัวได้ใช้บริการรถไฟในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งตนนั่งรถไฟไอน้ำและรถจักรดีเซลไปที่สถานีสูงเนินและสถานีนครราชสีมาเป็นประจำ รู้สึกเสียดายและเสียใจ แต่เข้าใจบ้านเมืองต้องพัฒนามีความเปลี่ยนแปลง
นางฉลวย สุวรรณดวง อายุ 79 ปี ข้าราชการครูบำนาญ กล่าวว่า สมัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษานั่งรถไฟเดินทางไปเรียนหนังสือในตัว อ.สูงเนิน เป็นประจำ หากนอนตื่นสายไม่ทันรถไฟต้องเดินเท้าไปตามรางไม้หมอนระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร สถานีรถไฟแห่งนี้มีความผูกพันกับตนในทุกช่วงวัย โชคดีท้องถิ่นให้ความสำคัญอนุรักษ์ตัวอาคารสถานีไว้ให้คนรุ่นเก่าที่ยังมีชีวิตอยู่รวมทั้งรุ่นลูกรุ่นหลานได้รำลึกถึงความสำคัญ
นายสำราญ ด้วงสูงเนิน อายุ 77 ปี กล่าวว่า แทบทุกสัปดาห์ตนกับแม่ใช้บริการรถไฟตั้งแต่ยุคไอน้ำ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างเดินทางไปอำเภอที่มีสถานีรถไฟ เพื่อซื้อวัตถุดิบมาประกอบเป็นอาหารขายในท้องถิ่น ที่สำคัญสถานีรถไฟแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตร ชาว อ.ปักธงชัย จะขนสินค้าเกษตรใส่เกวียนมาถ่ายใส่ตู้สินค้า เพื่อส่งไปขายในตัวจังหวัดและกรุงเทพ ฯ ปัจจุบันมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ภาพในอดีตที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับสถานีรถไฟยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำ
ด้าน ดร.ภัทรพล นายก ทต.กุดจิก กล่าวว่า สถานีรถไฟกุดจิกมีอายุกว่า 124 ปี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จำเป็นต้องย้ายออกจากแนวเขต ชาวกุดจิกมีความผูกพันกับสถานีและรู้สึกเสียดาย จึงขอ รฟท.อนุรักษ์ไว้ให้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงประวัติศาสตร์ ต่อมาสภา ทต.กุดจิก ได้ตั้งงบประมาณย้ายอาคารสถานีมายังพื้นที่ฝั่งตรงข้ามรวมทั้ง บริษัท อิตาเลียนฯ ได้สนับสนุนงบส่วนหนึ่ง ในอนาคตจะพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น จัดแสดงนิทรรศการภาพและข้อมูลประวัติศาสตร์ ภาพเก่าเล่าเรื่องกุดจิก เพื่อเป็นจุดเช็คอินให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนท้องถิ่นรวมทั้งปรับปรุงตกแต่งเป็นที่ทำการชมรมผู้สูงอายุกุดจิก ทั้งนี้ปัญหาอุปสรรคคือโครงสร้างไม้ซึ่งใช้ลิ่มตอกยึด จึงมีหลายชิ้นส่วนชำรุดเสียหาย เมื่อเสร็จขั้นตอนการย้ายจะบูรณะซ่อมแซมเพื่อประโยชน์ใช้สอยส่วนรวมต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43933
Location: NECTEC
|
Posted: 12/01/2024 4:46 pm Post subject: |
|
|
ย้ายแล้ว...สถานีรถไฟกุดจิกโคราช 124 ปี เปิดทางสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
วันที่ 12 มกราคม 2567
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มกราคม 2567 ที่สถานีรถไฟกุดจิก ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ดร.ภัทรพล บัญชาจารุรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลกุดจิก พร้อมตัวแทนภาคประชาชน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงวัยที่รักผูกพันกับการใช้บริการโดยสารขบวนรถไฟได้เดินทางมาดูทีมช่างจาก จ.ชัยภูมิ ดำเนินการย้ายอาคารสถานีรถไฟเก่าที่ต้องถูกรื้อถอนตามแผนพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯนครราชสีมา โดยมีวิศวกรโยธาของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างงานสัญญาที่ 3-4 งานโยธา ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด มูลค่างาน 9,848 ล้านบาท ได้มาควบคุมการย้ายอาคารไม้สูง 2 ชั้น ความยาว 6 เมตร กว้าง 4 เมตร โดยรื้อถอนแยกชิ้นส่วนที่ทรุดโทรมตามสภาพการใช้งานกว่า 120 ปี และมัดกับโครงเหล็กอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้แย็กมือดีดขึ้นมาวางบนแท่งเหล็กกลมก่อนจะใช้รอกค่อยๆ ดึงตัวอาคารมาที่จุดใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามมีระยะห่างประมาณ 30 เมตร ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ภารกิจเสร็จลุล่วงไปด้วยดี
นางสุนันทา ฉายสัมฤทธิ์กุล อายุ 84 ปี เปิดเผยว่า มีความผูกพันกับสถานีกุดจิกมาตั้งแต่รับราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาบ้านกุดจิก ยุคสมัยกว่า 50 ปี การคมนาคมมีเพียงรถไฟเชื่อมต่อระหว่างตัวอำเภอและจังหวัด ตนและครอบครัวได้ใช้บริการรถไฟในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งตนนั่งรถไฟไอน้ำและรถจักรดีเซลไปที่สถานีสูงเนินและสถานีนครราชสีมาเป็นประจำ รู้สึกเสียดายและเสียใจ แต่เข้าใจบ้านเมืองต้องพัฒนามีความเปลี่ยนแปลง
นางฉลวย สุวรรณดวง อายุ 79 ปี ข้าราชการครูบำนาญ กล่าวว่า สมัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษานั่งรถไฟเดินทางไปเรียนหนังสือในตัว อ.สูงเนิน เป็นประจำ หากนอนตื่นสายไม่ทันรถไฟต้องเดินเท้าไปตามรางไม้หมอนระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร สถานีรถไฟแห่งนี้มีความผูกพันกับตนในทุกช่วงวัย โชคดีท้องถิ่นให้ความสำคัญอนุรักษ์ตัวอาคารสถานีไว้ให้คนรุ่นเก่าที่ยังมีชีวิตอยู่รวมทั้งรุ่นลูกรุ่นหลานได้รำลึกถึงความสำคัญ
นายสำราญ ด้วงสูงเนิน อายุ 77 ปี กล่าวว่า แทบทุกสัปดาห์ตนกับแม่ใช้บริการรถไฟตั้งแต่ยุคไอน้ำ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างเดินทางไปอำเภอที่มีสถานีรถไฟ เพื่อซื้อวัตถุดิบมาประกอบเป็นอาหารขายในท้องถิ่น ที่สำคัญสถานีรถไฟแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตร ชาว อ.ปักธงชัย จะขนสินค้าเกษตรใส่เกวียนมาถ่ายใส่ตู้สินค้า เพื่อส่งไปขายในตัวจังหวัดและกรุงเทพ ฯ ปัจจุบันมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ภาพในอดีตที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับสถานีรถไฟยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำ
ด้าน ดร.ภัทรพล นายก ทต.กุดจิก กล่าวว่า สถานีรถไฟกุดจิกมีอายุกว่า 124 ปี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จำเป็นต้องย้ายออกจากแนวเขต ชาวกุดจิกมีความผูกพันกับสถานีและรู้สึกเสียดาย จึงขอ รฟท.อนุรักษ์ไว้ให้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงประวัติศาสตร์ ต่อมาสภา ทต.กุดจิก ได้ตั้งงบประมาณย้ายอาคารสถานีมายังพื้นที่ฝั่งตรงข้าม รวมทั้ง บริษัท อิตาเลียน ฯ ได้สนับสนุนงบส่วนหนึ่ง ในอนาคตจะพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น จัดแสดงนิทรรศการภาพและข้อมูลประวัติศาสตร์ ภาพเก่าเล่าเรื่องกุดจิก เพื่อเป็นจุดเช็คอินให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนท้องถิ่นรวมทั้งปรับปรุงตกแต่งเป็นที่ทำการชมรมผู้สูงอายุกุดจิก ทั้งนี้ปัญหาอุปสรรคคือโครงสร้างไม้ซึ่งใช้ลิ่มตอกยึด จึงมีหลายชิ้นส่วนชำรุดเสียหาย เมื่อเสร็จขั้นตอนการย้ายจะบูรณะซ่อมแซมเพื่อประโยชน์ใช้สอยส่วนรวมต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43933
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47145
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
|