RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312269
ทั่วไป:13906216
ทั้งหมด:14218485
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 467, 468, 469 ... 495, 496, 497  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/01/2024 1:29 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ปล่อยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น ประเดิมขนส่งผลผลิตการเกษตรมูลนิธิโครงการหลวง
ผู้จัดการออนไลน์ 25 ม.ค. 2567 12:58

วันนี้ (25 ม.ค.) พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้ขนส่งผลิตผลโครงการหลวง จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ โดยมี นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการ จ.ลำพูน และคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมพิธีที่สถานีรถไฟลำพูน จ.ลำพูน

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ร่วมมือกับมูลนิธิโครงการหลวง และศูนย์วิจัยนวัตกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนายกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ผลิตผลทางการเกษตรโครงการหลวงให้มีประสิทธิภาพ ผ่านขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ขณะนี้การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะเริ่มขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นขบวนแรก ในวันที่ 25 มกราคม 2567 โดยเริ่มจากสถานีลำพูน จ.ลำพูน ไปยังสถานีบางกล่ำจ.สงขลา จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 8 ตัน ซึ่งมีผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ ดอกไม้

ทั้งนี้ การขนส่งด้วยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ สำหรับใช้ในการจัดเก็บและขนส่งผลิตผลทางการเกษตรตามโมเดลเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดการเน่าเสีย ลดต้นทุนการขนส่ง และยืดอายุของผลิตผลทางการเกษตร ที่สำคัญยังสามารถติดตาม ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์แบบเรียลไทม์ จึงถือเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ นำมาสู่โอกาสการขยายตลาดของมูลนิธิในอนาคต ตลอดจนช่วยยกระดับการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรทางรางให้มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน

นายเอกรัช กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่สามารถเชื่อมโยงจากแหล่งวัตถุดิบไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วประเทศสอดคล้องกับนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่สนับสนุนให้การรถไฟฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งให้กับภาคการเกษตร รองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ

ทั้งนี้ การรถไฟฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้า พร้อมกับขยายการให้บริการขนส่งสินค้าหลายประเภทในหลายเส้นทาง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโต ยกระดับระบบการขนส่งทางรางของไทย สู่การเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพของภูมิภาคต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/01/2024 3:21 pm    Post subject: Reply with quote

ขบวนปฐมฤกษ์! รถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น ขนผลิตผลโครงการหลวง จากเหนือสู่ใต้
เดลินิวส์ 25 มกราคม 2567 14:36 น.
นวัตกรรมขนส่ง

รฟท. ปล่อยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์แบบห้องเย็น นวัตกรรมใหม่ช่วยลดปัญหาเน่าเสียม ประเดิมขนส่งผลิตผลโครงการหลวง จาก “ลำพูน” ภาคเหนือสู่ภาคใต้ ขบวนแรก 25 ม.ค. ขนส่งผัก-ผลไม้-ดอกไม้ 8 ตัน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ยกระดับขนส่งสินค้าทางราง

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถไฟ ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูง เพื่อใช้ขนส่งผลิตผลโครงการหลวง จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ ที่สถานีรถไฟลำพูน จ.ลำพูน ซึ่งขบวนดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง รฟท., มูลนิธิโครงการหลวง และศูนย์วิจัยนวัตกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนายกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ผลิตผลทางการเกษตรโครงการหลวงให้มีประสิทธิภาพ ผ่านขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง 

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า รฟท. ได้เริ่มขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นขบวนแรก ในวันที่ 25 ม.ค.67 โดยเริ่มจากสถานีลำพูน จ.ลำพูน ไปยังสถานีบางกล่ำ จ.สงขลา จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 8 ตันซึ่งมีผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ทั้งนี้การขนส่งด้วยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ สำหรับใช้ในการจัดเก็บ และขนส่งผลิตผลทางการเกษตรตามโมเดลเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดการเน่าเสีย ลดต้นทุนการขนส่ง และยืดอายุของผลิตผลทางการเกษตร ที่สำคัญยังสามารถติดตาม ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์แบบเรียลไทม์ จึงถือเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ นำมาสู่โอกาสการขยายตลาดของมูลนิธิในอนาคต ตลอดจนช่วยยกระดับการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรทางรางให้มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน  

นายเอกรัช กล่าวอีกว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่สามารถเชื่อมโยงจากแหล่งวัตถุดิบไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วประเทศสอดคล้องกับนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ที่สนับสนุนให้ รฟท. เข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งให้กับภาคการเกษตร รองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ อย่างไรก็ตาม รฟท. ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้า พร้อมกับขยายการให้บริการขนส่งสินค้าหลายประเภทในหลายเส้นทาง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโต ยกระดับระบบการขนส่งทางรางของไทย สู่การเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพของภูมิภาคต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 25/01/2024 4:29 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ขบวนปฐมฤกษ์! รถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น ขนผลิตผลโครงการหลวง จากเหนือสู่ใต้
เดลินิวส์ 25 มกราคม 2567 เวลา 14:36 น.
นวัตกรรมขนส่ง


เปิดหวูดขบวนแรก!รถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นประเดิมสินค้าเกษตรโครงการหลวง จากเหนือสู่ภาคใต้ "ลำพูน - สงขลา"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 มกราคม 2567 เวลา 14:24 น.
ปรับปรุง: 25 มกราคม 2567 เวลา 14:24 น.


การรถไฟฯ เปิดหวูด ขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูง ประเดิมขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวง จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ "ลำพูน - สงขลา "เชื่อมจากแหล่งวัตถุดิบถึงปลายทาง ขยายศักยภาพการขนส่งทางรางแบบไร้รอยต่อ

วันนี้ (25 มกราคม 2567) พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถไฟ ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้ขนส่งผลิตผลโครงการหลวง จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ โดยมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมพิธีที่สถานีรถไฟลำพูน จังหวัดลำพูน



นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ร่วมมือกับ มูลนิธิโครงการหลวง และศูนย์วิจัยนวัตกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนายกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ผลิตผลทางการเกษตรโครงการหลวงให้มีประสิทธิภาพ ผ่านขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ขณะนี้การรถไฟฯมีความพร้อมที่จะเริ่มขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นขบวนแรก ในวันที่ 25 มกราคม 2567 โดยเริ่มจากสถานีลำพูน จังหวัดลำพูน ไปยังสถานีบางกล่ำ จังหวัดสงขลา จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 8 ตัน ซึ่งมีผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ ดอกไม้



ทั้งนี้ การขนส่งด้วยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ สำหรับใช้ในการจัดเก็บและขนส่งผลิตผลทางการเกษตรตามโมเดลเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดการเน่าเสีย ลดต้นทุนการขนส่ง และยืดอายุของผลิตผลทางการเกษตร ที่สำคัญยังสามารถติดตาม ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์แบบเรียลไทม์ จึงถือเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ นำมาสู่โอกาสการขยายตลาดของมูลนิธิในอนาคต ตลอดจนช่วยยกระดับการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรทางรางให้มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน



สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่สามารถเชื่อมโยงจากแหล่งวัตถุดิบไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วประเทศสอดคล้องกับนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่สนับสนุนให้การรถไฟฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งให้กับภาคการเกษตร รองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ



การรถไฟฯ ย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้า พร้อมกับขยายการให้บริการขนส่งสินค้าหลายประเภทในหลายเส้นทาง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโต ยกระดับระบบการขนส่งทางรางของไทย สู่การเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพของภูมิภาคต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/01/2024 6:37 am    Post subject: Reply with quote

รื้อสุสานรถไฟ​ฉะเชิงเทรา​ เคลียร์ซากรถไฟเก่าขาย
สุรเสียง พลับพลาสวรรค์
Jan 28, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=68iRAF26exI
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/01/2024 3:18 pm    Post subject: Reply with quote

แกะปมรถไฟไทย ตอนที่ 2 | SERIES เล่าเรื่องรถไฟ EP.2 ทำไมรถไฟไทยถึงมีแต่ปัญหา !!!
EG Channel
Jan 30, 2024

" Serie เล่าเรื่องรถไฟ " ร่วมสนุกและได้ความรู้ไปด้วยกัน กับเรื่องราวหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับรถไฟทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? ขาดทุนเหมือนกันหรือไม่ ? มีวิวัฒนาการอย่างไร ?


https://www.youtube.com/watch?v=xy7wi37Ll9I
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/01/2024 7:14 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯแจงเหตุถนน-ไฟส่องสว่างชำรุด ถ.กำแพงเพชร 6 เพราะขโมยตัด
ประขาชาติธุรกิจ วันที่ 31 มกราคม 2567 - 18:17 น.

การรถไฟฯ ชี้แจงกรณีถนนและระบบไฟส่องสว่างชำรุด บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 เหตุเกิดจากการขโมยตัดสายไฟ โดยอยู่ระหว่างเร่งรัดแก้ไข คาดแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ นี้

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนกรณีถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนเลียบทางรถไฟช่วงจตุจักร-รังสิตใต้ ซึ่งอยู่แนวรถไฟฟ้าสายสีแดงมีการชำรุด และพบปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างบางช่วงไม่ทำงานนั้น

ล่าสุดหลังจากรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขโดยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบในส่วนถนนพบถนนชำรุดเป็นหลุมบ่อจำนวน 7 แห่ง

ประกอบด้วย จุดที่ 1 ช่วงสถานีรังสิต- คลองรังสิตประยูรศักดิ์ จุดที่ 2 ช่วงสถานีหลักหก จุดที่ 3 ช่วงดอนเมือง จากแยกนายใช้-บมจ. ท่าอากาศยาน จุดที่ 4 ช่วงก่อนเข้าสถานีดอนเมืองฝั่งขาเข้า กทม. P347 จุดที่ 5 ช่วงก่อนเข้าสถานีทุ่งสองห้องฝั่งมาจากหลักสี่ จุดที่ 6 ช่วงก่อนเข้าสถานีบางเขนฝั่งมาจากทุ่งสองห้อง และจุดที่ 7 ช่วงวัดเสมียนนารีจนถึงแยกถนนงามวงศ์วานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ซึ่งการรถไฟฯ โดยผู้รับผิดชอบก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซม ทำให้ปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้วในจุดที่ 1 และ 2 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเตรียมเข้าพื้นที่ ซึ่งจะทยอยซ่อมแซมเสร็จครบทุกจุด ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567

ส่วนกรณีปัญหาระบบไฟส่องสว่างถนนกำแพงเพชร 6 จากการตรวจสอบ พบปัญหาเกิดจากการลักลอบตัดสายไฟหลายจุดจนทำให้ระบบไฟไม่ทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้การรถไฟฯ ได้เคยให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไข ด้วยการเดินสายเมนไฟฟ้าใหม่ จนสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังมีการลักลอบตัดสายไฟซ้ำ จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้ทำหนังสือแจ้งการไฟฟ้านครหลวงในการเร่งรัดแก้ไขเป็นกรณีเร่งด่วนจำนวน 3 จุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้ถนน ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้ว 1 จุด คือ บริเวณบ้านกลางเมือง-แยกวัดเสมียนนารี ส่วนจุดที่ 2 จากวัดเสมียนนารี-ทุ่งสองห้อง จะเข้าดำเนินการภายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 และจุดที่ 3 จากทุ่งสองห้อง – รังสิต อยู่ระหว่างการรอเอกสารและการแจ้งค่าใช้จ่ายจากการไฟฟ้านครหลวง ตามข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งการรถไฟฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

นายเอกรัชกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการดูแลป้องกันปัญหาระยะยาว การรถไฟฯ ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่เสี่ยง และขอให้ดำเนินการคดีกับผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากเป็นการทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหายแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้ทางสัญจรไปมาด้วย นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมส่งมอบถนนกำแพงเพชร 6 พร้อมระบบสาธารณูปโภคให้กับกรุงเทพมหานคร ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาต่อไปด้วย

“การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพย์สินของทางราชการ หากพบเห็นเหตุผิดปกติ โปรดแจ้งที่ Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 1690 หรือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ขอเตือนว่า พฤติกรรมลักขโมยสายไฟ รวมถึง ครอบครอง ซื้อขายอุปกรณ์ส่วนควบ เครื่องยึดเหนี่ยวทางรถไฟ อุปกรณ์ต่างๆ ของการรถไฟฯ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมาย ฐานลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้รับซื้อทรัพย์สินของทางราชการต่างๆ ก็มีความผิด ฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

ท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นของประชาชน โดยพร้อมน้อมรับทุกคำติชม เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความพึงพอใจต่อประชาชนผู้ใช้บริการสูงสุดต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 01/02/2024 10:21 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
การรถไฟฯแจงเหตุถนน-ไฟส่องสว่างชำรุด ถ.กำแพงเพชร 6 เพราะขโมยตัด
ประขาชาติธุรกิจ วันพุธ ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 18:17 น.


รฟท.เร่งซ่อมถนนกำแพงเพชร 6 ก.พ.นี้ไร้หลุมบ่อ เตือนขโมยสายไฟปรับหนัก 1 แสนบาท
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันพุธ ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 17:26 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 21:11 น.


รฟท.เร่งซ่อมถนนกำแพงเพชร 6 ก.พ.นี้เสร็จหมด 7 จุดไร้หลุมบ่อ แจงระบบไฟส่องสว่างชำรุดเหตุถูกขโมยตัดสายไฟ เตือนลักทรัพย์สินราชการโทษ คุก 1 ปี ถึง 5 ปี ปรับ 2 หมื่น ถึง 1 แสนบาท พร้อมประสาน กฟน.เร่งแก้ไขด่วน 3 จุดบรรเทาเดือดร้อนประชาชน

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนกรณีถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนเลียบทางรถไฟ ช่วงจตุจักร-รังสิตใต้ ซึ่งอยู่แนวรถไฟฟ้าสายสีแดงมีการชำรุด และพบปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างบางช่วงไม่ทำงานนั้น



ล่าสุดหลังจากรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขโดยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบในส่วนถนนพบถนนชำรุดเป็นหลุมบ่อจำนวน 7 แห่ง

ประกอบด้วย จุดที่ 1 ช่วงสถานีรังสิต- คลองรังสิตประยูรศักดิ์ จุดที่ 2 ช่วงสถานีหลักหก จุดที่ 3 ช่วงดอนเมือง จากแยกนายใช้-บมจ.ท่าอากาศยาน จุดที่ 4 ช่วงก่อนเข้าสถานีดอนเมืองฝั่งขาเข้า กทม. P347 จุดที่ 5 ช่วงก่อนเข้าสถานีทุ่งสองห้องฝั่งมาจากหลักสี่ จุดที่ 6 ช่วงก่อนเข้าสถานีบางเขนฝั่งมาจากทุ่งสองห้อง และจุดที่ 7 ช่วงวัดเสมียนนารีจนถึงแยกถนนงามวงศ์วานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ซึ่งการรถไฟฯ โดยผู้รับผิดชอบก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซม

ปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้วในจุดที่ 1 และ 2 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเตรียมเข้าพื้นที่ ซึ่งจะทยอยซ่อมแซมเสร็จครบทุกจุด ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567



ส่วนกรณีปัญหาระบบไฟส่องสว่างถนนกำแพงเพชร 6 จากการตรวจสอบพบปัญหาเกิดจากการลักลอบตัดสายไฟหลายจุดจนทำให้ระบบไฟไม่ทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้การรถไฟฯ ได้เคยให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขด้วยการเดินสายเมนไฟฟ้าใหม่จนสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังมีการลักลอบตัดสายไฟซ้ำ จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้ทำหนังสือแจ้งการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในการเร่งรัดแก้ไขเป็นกรณีเร่งด่วนจำนวน 3 จุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้ถนน ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้ว 1 จุด คือ บริเวณบ้านกลางเมือง-แยกวัดเสมียนนารี ส่วนจุดที่ 2 จากวัดเสมียนนารี-ทุ่งสองห้อง จะเข้าดำเนินการภายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 และจุดที่ 3 จากทุ่งสองห้อง-รังสิต อยู่ระหว่างการรอเอกสารและการแจ้งค่าใช้จ่ายจากการไฟฟ้านครหลวง ตามข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งการรถไฟฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้เสร็จโดยเร็วที่สุด



นายเอกรัชกล่าวว่า เพื่อเป็นการดูแลป้องกันปัญหาระยะยาว การรถไฟฯ ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่เสี่ยง และขอให้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากเป็นการทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหายแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้ทางสัญจรไปมาด้วย นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเตรียมส่งมอบถนนกำแพงเพชร 6 พร้อมระบบสาธารณูปโภคให้กรุงเทพมหานคร ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาต่อไปด้วย



“การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพย์สินของทางราชการ หากพบเห็นเหตุผิดปกติ โปรดแจ้งที่ Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ขอเตือนว่าพฤติกรรมลักขโมยสายไฟ รวมถึงครอบครอง ซื้อขายอุปกรณ์ส่วนควบ เครื่องยึดเหนี่ยวทางรถไฟ อุปกรณ์ต่างๆ ของการรถไฟฯ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมาย ฐานลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้รับซื้อทรัพย์สินของทางราชการต่างๆ ก็มีความผิด ฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย



ทั้งนี้ การรถไฟฯ พร้อมน้อมรับทุกคำติชม เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความพึงพอใจต่อประชาชนผู้ใช้บริการสูงสุดต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/02/2024 7:25 pm    Post subject: Reply with quote

ไฟไหม้บ้านพนักงานรถไฟวอด 3 หลัง
Source - บ้านเมืองออนไลน์
Saturday, February 03, 2024 19:00

เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักพนักงานการรถไฟชุมพรวอด 3 หลังซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นอายุหลายสิบปี ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร สาเหตุคาดมาจากไฟฟ้าลัดวงจรหลังจากเจ้าของบ้านต้นเพลิงบอกว่าปั่นผ้ากับเครื่องซักทิ้งไว้ก่อนออกไปตัดผมทราบอีกทีไฟไหม้บ้านแล้ว

เมื่อเวลา 12.40 น.วันที่ 3 ก.พ.67 มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ (กู้ภัยสายชลชุมพร) จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักพนักงานรถไฟตำบลท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองชุมพรจำนวน 3 คันเร่งไปที่เกิดเหตุ

พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากสถานีรถไฟชุมพรเพียง 50 เมตร โดยมีเพลิงโหมลุกไหม้บ้านพักพนักงานรถไฟอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นปลูกติดกันจำนวน 5 หลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อย่างต่อเนื่องโดยใช้เวลาประมาณ 40 นาทีสามารถความคุมเพลิงไว้ได้ สำรวจความเสียหายทั้งหมด 3 หลังอีก 2 หลังที่อยู่ใกล้กันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสกัดไว้ได้ยังพบว่าบ้านที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหลังคือเลขที่ 207 205 และ203

สอบสวนทราบว่าบ้านพักของพนักงานการรถไฟมีสภาพเป็นบ้านไม้สองชั้นอายุหลายสิบปีบ้านต้นเพลิงคือเลขที่ 207 เป็นของนายณัฏฐภัทร อารีอุดมโชติ อายุ 51 ปี พนักงานการรถไฟ ให้การว่าทำงานติดไปกับขบวนรถ 7 วันเพิ่งกลับเข้าบ้านเมื่อเช้าและปั่นซักผ้าทิ้งไว้ก่อนจะออกไปตัดผม ทราบอีกทีว่าเกิดเพลิงไหม้บ้านแล้ว โดยสิ่งของภายในบ้านพักถูกไฟไหม้เอาอะไรออกมาไม่ได้ และยังมีปืนอีก 1 กระบอกถูกไฟไหม้เสียหายเช่นกัน

ส่วนสาเหตุหลังจากเพลิงไหม้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังถามร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชุมพรเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 07/02/2024 12:48 am    Post subject: Reply with quote

การท่าเรือฯ เผยผลศึกษาพบ อ.น้ำพอง ขอนแก่น เหมาะจะตั้งท่าเรือบกที่สุดในอีสาน
ข่าว ทั่วไทย เศรษฐกิจท้องถิ่น
ไทยรัฐออนไลน์
วันศุกร์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 20:49 น.

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดยยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

รอง ผอ.การท่าเรือฯ เผยผลการศึกษา เรื่องการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ขอนแก่น พบว่าเหมาะที่สุดในการตั้งท่าเรือบก (Dry Port) ที่สุดในภาคอีสาน โดยพื้นที่ที่เหมาะสม คือ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง เพราะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟโนนพยอม


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ก.พ. 2567 นายศิริวัฒน์ พินิจพาณิชย์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประกอบการทดสอบความสนใจนักลงทุน โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ให้เกิดขึ้นในเชิงพาณิชย์ ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และสถาบันชุณหะวันเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน ได้กำหนดจัดการประชุมขึ้นโดยมีนักวิชาการ และนักธุรกิจในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมการประชุมจำนวนมาก


นายอภิเสต พงษ์สุวรรณ รองผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และการพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า การศึกษาในเรื่องของการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ขอนแก่น ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งขณะนี้เข้าสู่การแลกเปลี่ยนและรับฟังข้อเสนอแนะในกลุ่มภาคธุรกิจและเชิงพาณิชย์ โดยจะทำการประชุมร่วมกันทั้งที่ขอนแก่นและกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและผลการวิจัยที่ชัดเจนเสนอต่อที่ประชุมการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเสนอต่อกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน โดยยอมรับว่าขอนแก่นนั้นมีความเหมาะสมอย่างมากในการก่อตั้ง โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟโนนพยอม ที่จะเชื่อมต่อกับการขนส่งระบบรางได้อย่างครอบคลุม ซึ่งการดำเนินงานนั้นจะต้องประสานงานร่วมการรถไฟแห่งประเทศไทยในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด


"ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังเป็นประตูการค้าที่สำคัญของไทย มีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง 7.7 ล้านตู้ต่อปี และในปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังประสบปัญหาความแออัดในการขนส่งสินค้า ทำให้เสียเวลาในการขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งสินค้ามีการเรียกเก็บค่าหัวรถลากเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือบกในประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือ ลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งบริเวณท่าเรือ พร้อมทั้งรองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าที่จะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการโดยเฉพาะ ซึ่งผลการศึกษาด้านเกณฑ์การคัดเลือกจังหวัดพบว่า ขอนแก่นมีความเหมาะสมในการจัดตั้งท่าเรือบกตาหลักเกณฑ์ทั้งหมดในพื้นที่ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟโนนพยอมได้ทันที" รอง ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทยฯ กล่าว


นายอภิเสต กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นการรับฟังภาคธุรกิจเอกชน ตามรูปแบบที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยนำเสนอ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและเด่นชัดว่า จะเป็นไปในรูปแบบใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งการพัฒนาพื้นที่ การสร้างมูลค่าที่เกิดจากการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมไปถึงระบบการเชื่อมต่อการขนส่งทางบก และทางราง ทั้งระบบรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้น


รอง ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทยฯ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามในการศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาท่าเรือบกขอนแก่น โดยคณะทำงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอีสาน ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้นั้นจะศึกษาความเป็นไปได้ในรูปแบบการลงพื้นที่เหมาะสมกับ กทท. ทั้งในส่วนของรูปแบบตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ PPP, รูปแบบการลงทุนร่วมกันบริษัทเอกชน หรือ Joint Venture, รูปแบบใช้เงินทุนของ กทท. หรือรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. ปี 2567 นี้.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 44615
Location: NECTEC

PostPosted: 07/02/2024 11:44 am    Post subject: Reply with quote

กระทู้ถามของสมาชิกวุฒิสภา กระทู้ถามที่ ๐๐๓ (ร.) เรื่อง การส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย [ของ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา]
๓ ม.ค. ๒๕๖๗ เล่ม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒ ง หน้า ๓๖
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/13830.pdf
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 467, 468, 469 ... 495, 496, 497  Next
Page 468 of 497

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©