RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311651
ทั่วไป:13404467
ทั้งหมด:13716118
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 531, 532, 533 ... 559, 560, 561  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/02/2024 7:12 am    Post subject: Reply with quote

วิบากกรรม 'ไฮสปีดเทรน' รัฐผ่าทางตันเจรจา 'ซีพี' แก้สัญญา
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Monday, February 05, 2024 06:18

สกพอ. ยันไม่เลิกลงทุน “ไฮสปีดสามสนามบิน” ย้ำอยู่ในอำนาจคณะกรรมการกำกับสัญญา เร่งหารือซีพี เคาะปมออกหนังสือเริ่มก่อสร้างไม่รอบัตรส่งเสริม ชี้อีกหนึ่งทางออก ยื่นขอสิทธิประโยชน์การลงทุนจากอีอีซี เว้นภาษีไม่ต่ำกว่า 8 ปี พร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องแรงงาน

โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจกต์ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ผลักดันต่อเนื่อง เริ่มนับหนึ่งโครงการเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2562 โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) เอกชนผู้ชนะการประมูล ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเอเชีย เอรา วัน จำกัด

นับเป็นเวลามากกว่า 4 ปีที่โครงการร่วมทุนนี้ยังไม่สามารถตอกเสาเข็มก่อสร้างงานโยธาได้ โดยเกิดจากหลายปัจจัยแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจของโควิด-19 ทำให้เอกชนยื่นขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ ในการแก้ปัญหาชำระสิทธิ “โครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์” (ARL) ในช่วงปี 2563-2564 รวมไปถึงการแก้ปัญหาเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ นำมาสู่การแก้ไขรายละเอียดสัญญาร่วมลงทุน

ขณะเดียวกันการเตรียมความพร้อมส่งมอบพื้นที่เริ่มงานก่อสร้าง ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.เคลียร์พื้นที่พร้อมส่งในช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาแล้ว 100% ขณะที่พื้นที่ก่อสร้างช่วงพญาไท-บางซื่อ อยู่ระหว่างดำเนินการเวนคืนที่ดิน รื้อย้ายสาธารณูปโภค และพื้นที่ทับซ้อนช่วงบางซื่อ- ดอนเมือง ยังอยู่ระหว่างเจรจาให้เอกชนก่อสร้างโครงสร้างร่วมไปพร้อมกับทางวิ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน

ดังนั้นภาพรวมขณะนี้จึงเรียกว่ามีความพร้อมเริ่มงานก่อสร้าง หากเอกชนได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตามสัญญากำหนด แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับบีโอไอปฏิเสธขยายเวลาการยื่นเอกสารขอออกบัตรส่งเสริมการลงทุนให้บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด หลังจากหมดอายุเมื่อในวันที่ 22 ม.ค.2567

จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวว่า บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด อาจจะไม่เดินหน้าโครงการต่อหลังจากไม่ได้รับการต่อบัตรส่งเสริมการลงทุน โดยระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะมีการบอกเลิกสัญญาหรือบอกได้ว่าเอกชนที่ได้รับสัมปทานจะไม่ได้เดินหน้าโครงการต่อ

ขณะเดียวกัน สกพอ.ไม่สามารถที่จะเป็นผู้ที่บอกเลิกสัญญากับเอกชนได้ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับดูแลสัญญา ซึ่งอยู่ภายใต้ ร.ฟ.ท. พิจารณาว่าจะมีมติให้ เอเชีย เอราวัน ดำเนินการอย่างไรในฐานะคู่สัญญา หลังจากนั้นหากคณะกรรมการกำกับดูแลสัญญาพิจารณาแล้วเสร็จ จึงจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ตัดสินใจขั้นสุดท้าย

> “สกพอ.ในฐานะหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ผลักดันการพัฒนาโครงการนี้ มีจุดยืนอยากให้กลุ่มซีพี ซึ่งเป็นเอกชนที่ชนะการประกวดราคาเดินหน้าลงทุนโครงการ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกำกับสัญญา และการรถไฟฯ ว่าจะหารือกับทางเอกชนอย่างไร ในเมื่อขณะนี้เอกชนไม่ได้รับบัตรส่งเสริม”

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับสัญญาพิจารณาว่าจะเดินหน้าออกหนังสือเข้าพื้นที่เพื่อเริ่มงานก่อสร้าง โดยไม่ต้องรอให้เอกชนได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนก็ดำเนินการได้ แต่ต้องแก้ไขรายละเอียดสัญญาเพื่อกำหนดให้ ร.ฟ.ท.ออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP : Notice to Proceed) โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขรับบัตรส่งเสริมการลงทุน เพราะเงื่อนไขสัญญาร่วมทุนกำหนดไว้ว่าจะออกหนังสือ NTP ได้ต่อเมื่อเอกชนได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน

รวมทั้งปัจจุบันยังไม่ถือว่าขั้นตอนการขอหนังสือส่งเสริมการลงทุนเป็นที่สิ้นสุด เพราะเอกชนยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อบีโอไอในการขยายระยะเวลาได้ ซึ่ง สกพอ.บอกให้ภาคเอกชนไปยื่นอุทธรณ์สิทธิ์จากบีโอไอ แต่หากไม่ได้รับการต่ออายุก็มีทางเลือก คือ สามารถมาขอการส่งเสริมการลงทุนจากอีอีซีได้เช่นกัน โดยอีอีซีสามารถให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนในโครงการนี้ได้เช่นกัน

โดยสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีที่ให้ไม่แตกต่างกันมาก คือ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่น้อยกว่า 8 ปี นอกจากนั้น สกพอ.อำนวยความสะดวกในเรื่องใบอนุญาตการทำงานของชาวต่างชาติ การขอวีซ่า หรือการขออนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างในโครงการได้ด้วย

รวมทั้งรัฐบาลปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน และถือว่ามีความสำคัญต่อโครงการอีอีซี อยากให้มีการเริ่มก่อสร้างโครงการได้ เพราะว่าหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จการเดินทางไปยังพื้นที่อีอีซีจากกรุงเทพฯ จะใช้เวลาเพียงแค่ 1ชั่วโมงเท่านั้น ช่วยให้การเดินทางและการไปทำงาน การทำธุรกิจเกิดขึ้นด้วยความสะดวกและรวดเร็ว

“เชื่อว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับสัญญา คงเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เพราะเมื่อบีโอไอไม่ต่อการส่งเสริมการลงทุนให้กับเอกชนแล้ว คณะกรรมการกำกับสัญญาก็ต้องเป็นคนที่รับลูกต่อว่าจะเดินหน้าอย่างไร หากจะให้ออก NTP โดยไม่ต้องมีบัตรส่งเสริมจากบีโอไอได้ ก็ต้องส่งต่อไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ และหารือร่วมกับเอกชน หลังจากนั้นจึงจะได้คำตอบ ว่าจะก่อสร้างโดยไม่รอบัตรส่งเสริมหรือไม่”

เลขาธิการอีอีซี กล่าวย้ำด้วยว่า การพิจารณาขั้นตอนต่างๆ มีกระบวนการกำหนดไว้แล้ว หลังจากนี้อยู่ในขั้นตอนของการเดินหน้ากระบวนการพิจารณาในแง่ของกฎหมายที่สามารถทำได้ รวมทั้งผู้ร่วมทุนต้องหารือร่วมกันทั้งสองฝ่าย ไม่สามารถไปบอกเลิกสัญญาได้ทันที ไม่อย่างนั้นก็จะมีการฟ้องร้องตามมา ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนที่มีอยู่ และยืนยันว่า สกพอ.ไม่มีอำนาจในการไปบอกเลิกสัญญาแก่เอกชน

เลขาธิการบีโอไอ ยังออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า กรณีการไม่ต่ออายุบัตรส่งเสริมการลงทุนให้กับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน หลังจากหมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.2567 เนื่องจากเอกชนยังไม่ได้ลงทุนจริง โดยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการเจรจาแก้ไขสัญญากับภาครัฐบาล ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวไม่อยู่ในระเบียบของบีโอไอ อย่างไรก็ตามหลังจากการแก้สัญญากับภาครัฐเรียบร้อยแล้ว และทางเอกชนได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนอีกครั้ง ทางบีโอไอก็จะพิจารณาให้โดยด่วน


ส่อยื้อยาว!ไฮสปีด 3 สนามบินกก.กำกับฯนัดกลางก.พ.นี้ ถกปลดล็อคปมBOI เพิกถอนลำรางสาธารณะรอสภากทม.
ผู้จัดการออนไลน์ 5 ก.พ. 2567 08:00

ถอดปมยื้อ”ไฮสปีด 3 สนามบิน”บัตรส่งเสริมบีโอไอหมดอายุ และเพิกถอนลำรางสาธารณะ “มักกะสัน”ยังรอ สภากทม.เคาะ เงื่อนล็อกรฟท.ออก NTP ไม่ได้ ด้านกก.กำกับโครงการฯ นัดถก กลางก.พ.67 เร่งยุติทุกปัญหาในปีนี้ ส่วนยกเลิกสัญญาเป็นหนทางสุดท้ายแต่รัฐจะไม่ล้มโครงการ หวั่นกระทบอู่ตะเภาเมืองการบิน

แหล่งข่าวจากการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาทว่า จากที่ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุง เพื่อสอบถามความชัดเจน กรณีการออกหนังสือแจ้งเริ่มการก่อสร้าง (Notice to Proceed : NTP) ให้บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (ซี.พี.) นั้น สามารถยกเว้นเงื่อนไข เรื่องเอกชนยังไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้หรือไม่ โดยล่าสุดสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทำหนังสือตอบกลับมาที่ รฟท.แล้ว โดยระบุว่า เรื่องกังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นผู้พิจารณา

ทั้งนี้ จากคำตอบและข้อคิดเห็น ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในส่วนของรฟท. ได้ตีความและประเมินเบื้องต้นว่า กรณีรฟท. ส่งมอบหนังสือ NTP ให้กลุ่มซี.พี.เริ่มก่อสร้างโครงการโดยที่เอกชนยังไม่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน อาจจะเสี่ยงที่รฟท.จะเป็นผู้ทำผิดเงื่อนไขสัญญาที่ระบุว่า การออก NTP นั้นจะต้องให้ เอเชีย เอรา วันฯ รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) ก่อน ดังนั้นในขณะนี้รฟท.จึงยังไม่สามารถออกหนังสือ NTP ให้เอเชีย เอรา วันฯ เริ่มก่อสร้างโครงการได้ และยังคงต้องยึดหลักการเงื่อนไขในสัญญาไว้ก่อน

@กก.กำกับโครงการฯ นัด กลางก.พ. 67 ถกหาทางออก

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการกำกับโครงการฯ ที่มี นายมนตรี เดชาสกุลสมรองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน จะนัดประชุมหารือกันในช่วงกลางเดือนก.พ. 2567 เพื่อพิจารณาแนวทาง หลังจากได้รับคำตอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับเงื่อนไขสัญญา ระบุกรณีให้เอกชนเริ่มโครงการได้ มี 3 ประเด็น คือ 1. รฟท.ต้องส่งมอบพื้นที่โครงการในส่วนที่เกี่ยวกับรฟท.ซึ่งปัจจุบันรฟท.ยืนยัน เตรียมความพร้อมในการส่งมอบไว้แล้ว 2. มีการส่งมอบพื้นที่ TOD โดยเอกชนต้องจดทะเบียนสิทธิการเช่า และ 3 . เอกชนได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ )

@อีกปมยื้อ!รอสภากทม.เคาะเพิกถอน”ลำรางสาธารณะ”

สำหรับการพัฒนา TOD (Transit Oriented Development) พื้นที่มักกะสันขนาด150 ไร่ มีประเด็นเพิกถอนลำรางสาธารณะและ เอกชนต้องจดทะเบียนสิทธิการเช่าพื้นที่นั้น ปัจจุบันเอกชนยังไม่ได้ดำเนินการโดยอ้างว่า ยังติดประเด็นพื้นที่มักกะสันบางส่วน ยังเป็น ‘ลำรางสาธารณะ’ ที่รฟท.จะต้องขอถอนสภาพลำรางสาธารณะให้เรียบร้อยก่อน โดย สำนักงานคณะกรรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ ยื่นขอเพิกถอนลำรางสาธารณะดังกล่าวไปที่สภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ ซึ่งสภากทม.มีการพิจารณาอภิปรายกัน 2 ครั้งแล้วแต่ยังไม่เห็นชอบ

ซึ่งข้อเท็จจริงพื้นที่มักกะสัน ไม่มีสภาพเป็นลำรางสาธารณะ มานานแล้ว โดยหลังจากรฟท.ได้รับมอบพื้นที่มา ได้มีการถมลำรางเพื่อทำเป็นรางรถไฟ สร้างโรงงานมักกะสัน มากว่า 70-80 ปีแล้ว และได้มีการขุดบึงมักกะสันเป็นพื้นที่รับน้ำแทน พื้นที่ดังกล่าวจึงไม่มีสภาพเป็นลำรางสาธารณะ ขณะที่มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 28 ก.ย. 2565 ที่ให้กรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการแก้ไข ทบทวน หรือปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543

แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นที่รฟท.หารือไปยังอัยการสูงสุดกรณีการเริ่มงานได้หรือไม่ มีทั้งกรณีหากเอกชนยังไม่จดทะเบียนสิทธิเช่าพื้นที่ TOD และ ยังไม่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน ซึ่งในสัญญาระบุไว้ว่า คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิ์ขอยกเว้นเงื่อนไขได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการกำกับโครงการฯ ที่มีผู้แทนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและตัวแทนของเอกชนคู่สัญญาฯ จะต้องพิจารณารายละเอียดให้ครบถ้วนรอบด้านภายใต้หลักการของสัญญาร่วมลงทุนฯ แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนตามเงื่อนไข ตามหลักการ คู่สัญญาจะต้องหารือกันเพื่อหาข้อยุติ จนกระทั่งไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ ฝ่ายที่ได้รับกระทบ ก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญา

“ปี 2567 เป็นปีที่ควรจะได้ข้อสรุปและเริ่มต้นโครงการ ดังนั้น ประเด็นที่เป็นปัญหา ต้องมีการแก้ไขและตัดสินใจว่าจะดำเนินการโครงการต่อหรือไม่ สุดท้ายหากไปต่อไปได้จนนำไปสู่การยกเลิกสัญญากับ เอเชีย เอรา วันฯ ฝ่ายรัฐก็ต้องหารูปแบบอื่น ในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบินต่อไป เพราะโครงการคงยกเลิกไม่ได้ เนื่องจากจะกระทบ กับโครงการ รถไฟไทย-จีน และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาเมืองการบิน และกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในพื้นทีอีอีซีอีกด้วย “

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ระบุว่า กรณีที่ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ไม่ได้รับการต่ออายุบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หลังจากครบกำหนดการขยายเวลาครั้งที่2 เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2567 นั้นเอกชนสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อบีโอไอในการขยายระยะเวลาได้ซึ่งได้แนะนำให้เอกชนยื่นไปที่บีโอไอตามขั้นตอนแล้ว

@เปิดทาง ซี.พี. ชงข้อเสนอเพิ่มเติมสร้างโครงสร้างร่วม

แหล่งข่าวจาก รฟท. กล่าวถึงประเด็นโครงสร้างร่วมระหว่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กับ โครงการรถไฟไทย-จีน สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. รฟท.จะมอบให้ บริษัท เอเชีย เอรา วันจำกัด (ซี.พี.) เป็นผู้ก่อสร้างทั้งหมด โดยรฟท.จัดสรรวงเงินค่าก่อสร้างในส่วนของรถไฟไทย-จีน ล่าสุดได้สอบถาม ซี.พี.ไปแล้วว่า กรณีรฟท.จะมอบหมายให้เป็นผู้ก่อสร้าง ทางฝ่ายเอกชนมีข้อเสนออะไรที่จะขอเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ไม่ใช่ ข้อเสนอการปรับจ่ายเงินอุดหนุนเร็วขึ้น เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าว เป็นการเจรจาแนวทางเก่า ที่ บอร์ดอีอีซี ไม่เห็นชอบ ไปแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/02/2024 11:04 am    Post subject: Reply with quote

ส่องโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง | เศรษฐกิจติดบ้าน
Thai PBS

ในช่วงที่ผ่านมา เราคงจะเคยได้ยินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเชื่อม 3 สนามบิน หรือเส้นทางเพื่อเชื่อมกับประเทศลาวไปยังประเทศจีน ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในช่วงนี้ แล้วการที่ประเทศไทยของเราจะมีรถไฟความเร็วสูงจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง ? เปรียบเทียบกับต่างประเทศเขามีหลักคิดในการสร้างรถไฟความเร็วสูงอย่างไร ? หาคำตอบในประเด็นนี้กับ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน


https://www.youtube.com/watch?v=a4RNYnoBnu4
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43252
Location: NECTEC

PostPosted: 05/02/2024 1:29 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
วิบากกรรม 'ไฮสปีดเทรน' รัฐผ่าทางตันเจรจา 'ซีพี' แก้สัญญา
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันจันทร์ ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 06:18 น.


ส่อยื้อยาว!ไฮสปีด 3 สนามบินกก.กำกับฯนัดกลางก.พ.นี้ ถกปลดล็อคปมBOI เพิกถอนลำรางสาธารณะรอสภากทม.
ผู้จัดการออนไลน์ วันจันทร์ ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08:00 น.


คงเงื่อนไขรอสิทธิ์ BOI ‘รถไฟ’ ยังไม่เคาะสร้าง ไฮสปีด 3 สนามบิน
เขียนโดยisranews
เขียนวันจันทร์ ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09:00 น.

ไฮสปีด 3 สนามบินนิ่งต่อ หลัง ‘อัยการสูงสุด’ ตอบกลับ ‘รถไฟ’ โยนบอร์ดกำกับสัญญาพิจารณาปมไม่รอส่งเสริมการลงทุน ส่งมอบ NTP ‘รฟท.’ ประเมินเท่ากับเงื่อนไขเดิมที่ต้องให้ ซี.พี. ส่งเสริมการลงทุนยังอยู่ ส่งผลการมอบ NTP ทันทีทำไมได้ เสี่ยงผิดสัญญา จ่อคุยเอกชนถึงข้อเสนอเพิ่มเติมหลังมอบโครงสร้างร่วมไฮสปีดไทยจีน บางซื่อ-ดอนเมือง 2 หมื่นล้านให้รับผิดชอบ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 แหล่งข่าวจากการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท กับ บจ.เอเชียเอรา วัน (ซี.พี.) หลังจากได้ทำหนังสือถามสำนักงานอัยการสูงสุดไปว่า ตัวหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed:NTP) สามารถส่งมอบให้ซี.พี.ได้โดยที่ไม่ต้องให้เอกชนได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) หรือไม่

ล่าสุด เมื่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทำหนังสือตอบกลับมาที่ รฟท.แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับที่นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรืออีอีซี) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายสำนักเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญที่อัยการสูงสุดตอบกลับคือ ให้คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นผู้พิจารณา

แหล่งข่าวจาก รฟท.ประเมินว่า คำแนะนำดังกล่าวของสำนักงานอัยการสูงสุดเท่ากับว่า ทาง รฟท.ยังไม่สามารถส่งมอบหนังสือ NTP ให้กลุ่มซี.พี.เริ่มก่อสร้างโครงการได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ในเดือน ม.ค. 2567 เพราะเท่ากับว่า เป็นการยืนยันหลักการตามเงื่อนไขเดิมในสัญญาว่า จะต้องรอเอกชนคู่สัญญาได้รับการส่งเสริมการลงทุนก่อน หาก รฟท.ส่งมอบ NTP ให้จะเท่ากับ รฟท.ทำผิดเงื่อนไขสัญญาเสียเอง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ระยะเวลาหลังจากนี้จะใช้เวลาอีกนานหรือไม่ในการส่งมอบ NTP แหล่งข่าวจากรฟท.ตอบว่า น่าจะไม่นาน แต่ยังไม่ทราบว่า จะส่งมอบได้เมื่อไหร่ เพราะทุกอย่างจะเดินตามกระบวนการของ อีอีซี ซึ่งทั้งคณะกรรมการบริหารสัญญาและคณะกรรมการกำกับสัญญา เป็นเรื่องของทาง อีอีซี เป็นหลัก รฟท.คงไม่ไปก้าวล่วง

@เปิดทาง ซี.พี. ชงข้อเสนอเพิ่มเติมสร้างโครงสร้างร่วม
แหล่งข่าวจาก รฟท. กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นโครงสร้างร่วมรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง ระยะทางประมาณ 15 กม. วงเงินก่อสร้างประมาณ 20,000 ล้านบาท ตอนนี้แน่นอนแล้วว่า จะให้ ซี.พี.เป็นผู้ก่อสร้าง และได้ถาม ซี.พี.ไปแล้วว่า หากจะมอบหมายให้เป็นผู้ก่อสร้าง ทางฝ่ายเอกชนมีข้อเสนออะไรที่จะขอเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งข้อเสนอจ่ายเงินอุดหนุนให้เร็วขึ้น ไม่สามารถขอได้ เพราะคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.หรือบอร์ดอีอีซี) ไม่เห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว

บอร์ดกำกับ ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ นัดกลางเดือน ก.พ.นี้ หารือเงื่อนไขส่งมอบ NTP
เขียนโดยisranews
เขียนวันจันทร์ ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:06 น.

บอร์ดกำกับไฮสปีด 3 สนามบิน นัดกลางเดือน ก.พ.67 นี้ หารือประเด็นส่งมอบ NTP ให้ ซี.พี.เริ่มงาน พบมี 3 ประเด็นต้องสะสางทั้งการ ‘ส่งมอบพื้นที่-ส่งมอบพื้นที่มักกะสัน-เอกชนต้องได้ BOI’ หวังอีกปัญหา กทม.ยังไม่เพิกถอน ‘ลำรางสาธารณะ’ อาจกระทบการส่งมอบพื้นที่มักกะสัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท ที่มี บจ.เอเชีย เอราวัณ (ซี.พี.) เป็นคู่สัญญากับรัฐ ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี ยังไม่สามารถส่งมอบหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Profeed:NTP) ทำหนังสือตอบกลับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า การส่งมอบ NTP ต้องให้คณะกรรมการกำกับสัญญาเป็นผู้พิจารณา

ซึ่งทาง รฟท. ตีความว่า เป็นการยืนยันเงื่อนไขเดิมที่จะต้องให้เอกชนได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ก่อน จึงจะส่งมอบ NTP ได้นั้น

คงเงื่อนไขรอสิทธิ์ BOI ‘รถไฟ’ ยังไม่เคาะสร้าง ไฮสปีด 3 สนามบิน
ล่าสุด แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในส่วนของคณะกรรมการกำกับสัญญา ที่มี นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน มีรายงานว่า จะนัดประชุมหารือกันในช่วงกลางเดือนก.พ. 2567 นี้ เพื่อพิจารณาแนวทาง หลังจากได้รับคำตอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับเงื่อนไขสัญญา ระบุกรณีให้เอกชนเริ่มโครงการได้ มี 3 ประเด็น คือ 1. รฟท.ต้องส่งมอบพื้นที่โครงการในส่วนที่เกี่ยวกับรฟท.ซึ่งปัจจุบัน รฟท.ยืนยัน เตรียมความพร้อมในการส่งมอบไว้แล้ว 2. มีการส่งมอบพื้นที่ TOD โดยเอกชนต้องจดทะเบียนสิทธิการเช่า และ 3 . เอกชนได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นด้านการพัฒนา TOD (Transit Oriented Development) พื้นที่มักกะสันขนาด 150 ไร่ มีประเด็นเพิกถอนลำรางสาธารณะและ เอกชนต้องจดทะเบียนสิทธิการเช่าพื้นที่นั้น แหล่งข่าวระบุว่า ปัจจุบัน ทางซี.พี.ยังไม่ได้ดำเนินการโดยอ้างว่า ยังติดประเด็นพื้นที่มักกะสันบางส่วนที่ยังเป็น ‘ลำรางสาธารณะ’ ที่รฟท.จะต้องขอถอนสภาพลำรางสาธารณะให้เรียบร้อยก่อน โดยสำนักงานคณะกรรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ยื่นขอเพิกถอนลำรางสาธารณะดังกล่าวไปที่ สภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ ซึ่งสภากทม.มีการพิจารณาอภิปรายกัน 2 ครั้งแล้วแต่ยังไม่เห็นชอบ

ในข้อเท็จจริงพื้นที่มักกะสัน ไม่มีสภาพเป็นลำรางสาธารณะ มานานแล้ว โดยหลังจากรฟท.ได้รับมอบพื้นที่มา ได้มีการถมลำรางเพื่อทำเป็นรางรถไฟ สร้างโรงงานมักกะสัน มากว่า 70-80 ปีแล้ว และได้มีการขุดบึงมักกะสันเป็นพื้นที่รับน้ำแทน พื้นที่ดังกล่าวจึงไม่มีสภาพเป็นลำรางสาธารณะ ขณะที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ก.ย. 2565 ที่ให้กรมที่ดิน และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการแก้ไข ทบทวน หรือปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543

แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นที่รฟท.หารือไปยังอัยการสูงสุดกรณีการเริ่มงานได้หรือไม่ มีทั้งกรณีหากเอกชนยังไม่จดทะเบียนสิทธิเช่าพื้นที่ TOD และ ยังไม่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน ซึ่งในสัญญาระบุไว้ว่า คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิ์ขอยกเว้นเงื่อนไขได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการกำกับโครงการฯ ที่มีผู้แทนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและตัวแทนของเอกชนคู่สัญญาฯ จะต้องพิจารณารายละเอียดให้ครบถ้วนรอบด้านภายใต้หลักการของสัญญาร่วมลงทุนฯ แต่ หากไม่สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนตามเงื่อนไข ตามหลักการ คู่สัญญาจะต้องหารือกันเพื่อหาข้อยุติ จนกระทั่งไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ ฝ่ายที่ได้รับกระทบ ก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญา

“ปี 2567 เป็นปีที่ควรจะได้ข้อสรุปและเริ่มต้นโครงการ ดังนั้น ประเด็นที่เป็นปัญหา ต้องมีการแก้ไขและตัดสินใจว่าจะดำเนินการโครงการต่อหรือไม่ สุดท้ายหากไปต่อไปได้จนนำไปสู่การยกเลิกสัญญากับ เอเชีย เอรา วันฯ ฝ่ายรัฐก็ต้องหารูปแบบอื่น ในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบินต่อไป เพราะโครงการคงยกเลิกไม่ได้ เนื่องจากจะกระทบ กับโครงการ รถไฟไทย-จีน และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาเมืองการบิน และกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในพื้นทีอีอีซีอีกด้วย “ แหล่งข่าวทิ้งท้าย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43252
Location: NECTEC

PostPosted: 05/02/2024 6:57 pm    Post subject: Reply with quote

Land expropriation on Phyathai to Donmueang for high speed train 🚅 on 31 January 2024 is 97.21% done, to be finished in May 2024. A clear sign that some lands have series of disputes along with the issue with small stream (Makkasan canal) across Makkasan Factory yard which compelled BMA City councile to break the deadlock on the small stream and SRT while there is BOI as warned Asian Aera One that they need to seek new investment package from EEC while Attoney General has warned that the issue of NTP (Notice To Proceed) to start the construction cannot be possible without investment package
https://www.isranews.org/article/isranews/126036-isranew-38.html
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1111496
https://mgronline.com/business/detail/9670000010446
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=407048991884354&id=100077377680407
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/02/2024 9:30 pm    Post subject: Reply with quote

Update construction of the high-speed train from Kaeng Khoi Station to Muak Lek Station, Thailand
Iron Wheels Roaming
Feb 5, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=h_xnU-7qT9o
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/02/2024 11:02 am    Post subject: Reply with quote

เทียบสิทธิประโยชน์ EEC-BOI วัดใจ “เอรา วัน” ลุยไฮสปีด 3 สนามบิน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 - 10:52 น.

เป้าหมายของการดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ นอกจากความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลไทยได้เตรียมรองรับไว้แล้วนั้น อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี และด้านอื่น ๆ ที่เป็นแรงจูงใจ สามารถกระตุ้นการลงทุน และเร่งการตัดสินใจให้เร็วขึ้น

สำหรับประเด็นร้อน “โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” ซึ่งผู้ชนะการประมูล “บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด” ที่อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ต่อ BOI เพื่อขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมการลงทุนให้

วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” จึงได้รวบรวมสิทธิประโยชน์ในส่วนของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้เห็นกันว่าสิทธิประโยชน์ของใครตรงใจและต่างกันอย่างไร หากบริษัทเอเชียเอราวัน ต้องเลือกสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุด

เจรจาแบบรายต่อราย
นักลงทุนที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve แน่นอนว่าต้องเป็นผู้ประกอบการที่พิเศษประเทศต้องการ ความพิเศษดังกล่าวจำเป็นที่ต้องใช้วิธีที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการเจรจาแบบรายต่อราย

ในการเจรจาดังกล่าว เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เลขา EEC) มีอำนาจจะหารือถึงแผนการลงทุน เงื่อนไข สิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับ

การสนับสนุนของแต่ละฝ่ายที่มีให้กัน เช่น แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ การจ้างงาน การใช้วัตถุดิบในประเทศที่เป็นคนไทยผลิตเท่านั้น การดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม มาตรการเยียวยาต่างๆ จำเป็นต้องเข้มข้นและพิเศษเหนือกว่าการอนุมัติการลงทุนปกติ นี่คือสิทธิประโยชน์แรกที่ได้

EEC ได้อำนาจออกใบอนุญาตจากกฎหมาย 8 ฉบับ
ใน พ.ร.บ.นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวัน 2561 ระบุชัดเจนว่าในพื้นที่ EEC ซึ่งประกอบไปด้วย 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา นอกจากในการแบ่งเขตพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญแล้ว ยังมีการกำหนด “เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ” เพื่อวัตถุประสงค์ในการผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรม

เป็นสิทธิประโยชน์ในลำดับถัดมาคือ ผู้ประกอบการ นักลงทุนที่ลงทุนในเขตดังกล่าวจะได้รับการอำนวยความสะดวกในเรื่องของการอนุมัติ อนุญาต ความเห็นชอบ รวมถึงการจดทะเบียน

ภายใต้กฎหมาย 8 ฉบับ ประกอบด้วย กฎหมายว่าด้วยการขุดดนและถมดิน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องจักร กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข กฎหมายว่าด้วยคนเขาเมืองให้คนต่างด้าวอยู่ต่อในราชอาณาจักร กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน ซึ่งเป็นการบริการแบบจุดเดียวจบ (One Stop Service) โดยไม่ต้องติดต่อกับทั้ง 8 หน่วยงานนั้นอีก

ยกเว้นภาษีสูงสุด 13 ปี
สิทธิประโยชน์ถัดมา ผู้ประกอบการ นักลงทุนที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และกิจการที่เกี่ยวเนื่องในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษจะได้ สิทธิในการถือกรรมสิทธิในที่ดินเพื่อการประกอบกิจการหรือห้องชุดเพื่อการประกอบกิจการ สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร สิทธิในการที่จะได้รับยกเว้นหรือลดหยอนภาษีอากร สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน สิทธิประโยชน์ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนมักจะให้ความสนใจในเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี นั่นคือการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งจะยืนพื้นที่ 8 ปีไปเลย และจะบวกเพิ่มเมื่อเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) เป็นกิจการที่สนับสนุนหรือซัพพรายเชนให้กับอุตสาหกรรมหลัก หรือลงทุนใน 7 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษที่ได้ประกาศไว้ แล้วแต่เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะบวกเพิ่มได้สูงสุดอีก 5 ปี รวมแล้วจะได้รับการยกเว้นภาษีที่ 13 ปี

EEC Visa เริ่ม 1 ม.ค.67
และใช่ว่าการลงทุนจะบังคับให้ปักหมุดไว้เพียงแค่ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเท่านั้น สำหรับพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพผู้ประกอบการ นักลงทุนสามารถลงทุนได้เช่นกัน และนอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน เช่น การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ (EEC Visa)

โดยจะได้สิทธิ Work Permit อัตโนมัติ เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ อัตราคงที่ 17% อายุ VISA สูงสุด 10 ปี ตามระยะเวลาตามสัญญาจ้าง ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถรายงานตัวผ่านระบบออนไลน์ ใช้ช่องทางพิเศษ (Fast track) ณ สนามบินนานาชาติทั่วประเทศไทย โดยเริ่มขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

BOI ให้ต่างชาติเข้ามาศึกษาลู่ทางลงทุนได้ก่อน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นหน่วยงานสำคัญที่มีบทบาทหลักในการพิจารณาและให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะมีกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน 2560 และ พ.ร.บ. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 2560

ซึ่งรู้หรือไม่ว่ามีสิทธิ “อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาศึกษาลู่ทางการลงทุนได้ก่อน” หรือหากดูแล้วมีแนวโน้มการขยายการลงทุน มีผลประกอบการดี เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนก็จะขยายระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักรให้ด้วย

ยกเว้นภาษีตามประเภทกิจการ
แต่สิทธิประโยชน์หลักจากนี้ที่นักลงทุนจะได้แบบเต็มๆ คือ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามประเภทกิจการที่บีโอไอได้จัดหมวดหมู่ไว้ โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่ม โดย

A1+ ยกเว้นภาษี 10-13 ปี (ไม่จำกัดวงเงิน+สิทธิอื่นที่ไม่ใช่ภาษี)
A1 ยกเว้นภาษี 8 ปี (ไม่จำกัดวงเงิน+สิทธิอื่นที่ไม่ใช่ภาษี)
A2 ยกเว้นภาษี 8 ปี (บวกสิทธิอื่นที่ไม่ใช่ภาษี)
A3 ยกเว้นภาษี 5 ปี (บวกสิทธิอื่นที่ไม่ใช่ภาษี)
A4 ยกเว้นภาษี 3 ปี (บวกสิทธิอื่นที่ไม่ใช่ภาษี)
B ได้เพียงยกเว้นอากรเครื่องจักร วัตถุดิบ ของนำเข้าเพื่อวิจัย และสิทธิอื่นที่ไม่ใช่ภาษีเช่นกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ซึ่งอธิบายเพิ่มเติมได้ว่า สิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผล

ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% ให้หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเป็น 2 เท่า ให้หักค่าติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เกิน 25% ของเงินลงทุน ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นสำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก

ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษี คือ การอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาศึกษาลู่ทางการลงทุนได้ก่อนตามที่กล่าวมาในข้างต้น การอนุญาตให้นำช่างฝีมือและผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน อนุญาตให้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน อนุญาตให้ส่งออกซึ่งเงินตราต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ซึ่งจะได้วงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 200% ของเงินลงทุน/ค่าใช้จ่าย

ยังรวมไปถึงสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามพื้นที่ อย่างลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม เขต EEC เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) หรือจะเป็นพื้นที่ 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่ำ

พรบ.เพิ่มขีดความสามารถเว้นภาษี 15 ปี
นอกจากนี้ BOI ยังมีเครื่องมือพิเศษอีก คือ พ.ร.บ. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 2560 ที่จะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 15 ปี เงินสนับสนุนจากกองทุน 10,000 ล้านบาท

เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือการพัฒนาบุคลากรเฉพาะด้านของกิจการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งการสนับสนุนเงินดังกล่าวจะต้องมีการกำหนดเกณฑ์ รวมถึงรายละเอียดแต่ละโครงการอย่างเหมาะสมและเกิดความคุ้มค่ากับเงินที่สนับสนุนที่สุด มีประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมไทยและประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/02/2024 11:37 am    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา สัญญาที่ 3-5
6 ม.ค. 67 11:32 น.

เครื่องจักรยังคงเข้าพื้นที่เคลียร์ริ่งด้านหลังอาคารพิพาทอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำถนนลำเลียงวัสดุในโครงการฯ

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=369949155743522&id=100081853208848
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/02/2024 2:35 pm    Post subject: Reply with quote

Korat : เมืองที่คุณสร้างได้
6 ม.ค. 67 09:25 น.

#อัปเดตรื้อตึกข้างสถานีรถไฟโคราช ภาพล่าสุด! การรื้ออาคารตึกข้าง “สถานีรถไฟนครราชสีมา” เยื้องโรงเรียนมารีย์วิทยา อำเภอเมือง เพื่อเตรียมสร้าง “สถานีรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง” โฉมใหม่! โดยกำลังรื้อจากด้านในมาถึงด้านหน้าฝั่งริมถนนมุขมนตรี และเตรียมแท่งแบริเออร์กั้นพื้นที่แล้ว!

https://www.facebook.com/550999843863552/posts/693597156270486
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/02/2024 7:44 pm    Post subject: Reply with quote

BOI จ่อเคาะผลอุทธรณ์เอราวัน ยืดเวลาออกบัตรส่งเสริมไฮสปีด 3 สนามบิน ก.พ. 2567
Source - เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ
Tuesday, February 06, 2024 17:50

เลขาฯ บีโอไอ เผย "เอเชีย เอรา วัน" ยื่นขออุทธรณ์ขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 ขอเวลาปรึกษา EEC - รฟท. อีกครั้ง จี้ถามหาเหตุผลทำไมต้องขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมให้ไฮสปีดเทรนด์ คาดให้คำตอบได้ภายใน ก.พ. 66 นี้ ย้ำสามารถยื่นขอใหม่ได้เมื่อพร้อม

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (ซีพี) ในฐานะผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้ยื่นขออุทธรณ์การไม่อนุมัติขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 โดยให้เหตุผลว่า การแก้ไขสัญญาร่วมทุน เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลต่อการจัดหาเงินทุนของโครงการ และทำให้โครงการไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้

ดังนั้น บีโอไอจะหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมกับบริษัท เกี่ยวกับสถานะการแก้ไขสัญญาร่วมทุน และความจำเป็นในการขยายเวลา รวมถึงจะหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพิ่มเติมถึงทางออกของปัญหาดังกล่าว ก่อนที่จะพิจารณาคำขออุทธรณ์ของบริษัทต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

"ตามปกติแล้วเมิ่อเขาได้รับอนุมัติโครงการแล้ว เขาจะต้องรอให้เราออกบัตรส่งเสริมให้ก่อน ซึ่งเขาอยู่ในขั้นตอนนี้ ในขั้นตอนนี้นี่เองเขาขอขยายระยะเวลาเพื่อตะออกบัตรส่งเสริมได้ 3 ครั้ง ครั้งละ 4 เดือน ต้องชี้แจงให้เข้าใจกันก่อนว่าเขายังไม่ได้รับบัตรส่งเสริม เป็นแค่ขั้นของการรอออกบัตรเท่านั้น

ส่วนที่เขาจะไปขอใช้สิทธิประโยชน์ของใคร ของ EEC ก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิของเขา แต่มันไม่เกี่ยวกับว่าโครงการไฮสปีเเทรนด์จะต้องหยุดหรือชะลอ เพราะมันคนละส่วน ในส่วนของเราแค่เป็นส่วนเล็กๆ เท่านั้น เพราะต่อให้เขาได้หรือไม่ได้สิทํิประโยชน์จากเราโครงการมันก็ลงทุนเดินหน้าต่ออยู่แล้ว"

ทั้งนี้ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ได้รับการอนุมัติส่งเสริมจากบีโอไอ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 โดยบริษัทมีการยื่นขอขยายเวลาการตอบรับมติให้การส่งเสริม และขอขยายเวลาการยื่นเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมมา 2 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องรอการแก้ไขสัญญาระหว่าง รฟท. และบริษัท โดยการขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 2 บริษัทต้องส่งเอกสารประกอบการออกบัตรส่งเสริมภายในวันที่ 22 มกราคม 2567

ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 บีโอไอได้หารือกับ EEC และ รฟท. ถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งในที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ควรเร่งรัดให้บริษัทดำเนินการตามโครงการโดยเร็ว โดยหากบริษัทยื่นขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 บีโอไอจะทำหนังสือสอบถามความเห็นจาก EEC และ รฟท. ในฐานะเจ้าของโครงการ เพื่อประกอบการพิจารณา

ต่อมาในเดือนมกราคม 2567 บริษัทยื่นขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 บีโอไอจึงทำหนังสือสอบถามความเห็นจากทั้ง EEC และ รฟท. ซึ่งทั้งสองหน่วยงานให้ความเห็นว่า ความล่าช้าของโครงการจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความเชื่อมั่นของประเทศ อีกทั้งการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ไม่มีผลต่อการขอรับบัตรส่งเสริม จึงควรเร่งรัดให้บริษัทส่งเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมโดยเร็ว และไม่ควรขยายเวลาออกไปอีก ด้วยเหตุผลดังกล่าว

บีโอไอจึงพิจารณาไม่อนุมัติให้ขยายเวลาการยื่นเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 ตามความเห็นของทั้งสองหน่วยงาน โดยได้แจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้า เพื่อเร่งรัดให้ดำเนินการภายในวันที่ 22 มกราคม 2567 เมื่อบริษัทไม่ยื่นเอกสารภายในกำหนด มีผลทำให้มติเดิมสิ้นสุดลง แต่บริษัทก็ยังคงมีสิทธิยื่นขอรับการส่งเสริมใหม่จากบีโอไอเมื่อไรก็ได้หากมีความพร้อม และ บีโอไอก็จะเร่งพิจารณาให้โดยเร็ว เนื่องจากสาระสำคัญของโครงการไม่ได้เปลี่ยนแปลงและมีรายงานการวิเคราะห์เดิมอยู่แล้ว

ทั้งนี้ หากบริษัทเอราวัน ได้รับบัตรส่งเสริมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีระยะเวลาให้บริษัทลงทุนภายในกรอบเวลา 3 ปี และในระยะเวลาดังกล่าวหากบริษัทยังไม่พร้อมที่จะลงทุน ยังคงสามารถต่ออายุบัตรส่งเสริมได้อีก 4 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี รวมแล้ว 7 ปี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46024
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/02/2024 7:58 am    Post subject: Reply with quote

'บีโอไอ'ถกอีอีซี-รฟท. เร่งไฮสปีดจบในกุมภาฯ
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, February 07, 2024 at 05:44

"บีโอไอ" นัดถกสกพอ.-รฟท. หลังเอกชนยื่นอุทธรณ์ขยายเวลาออกบัตรส่งเสริม อุ้มไฮสปีด ขีดเส้นต้องจบก.พ.นี้ ฟากอีอีซี เปิดเอกชนยื่นสิทธิประโยชน์ ยึดกฎหมายอีอีซี ตั้งเป้าลงนามแก้สัญญาฯ-ตอกเข็มปีนี้

กรณีคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไม่อนุมัติ ขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 3 ให้กับ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพี คู่สัญญาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หรือไฮสปีดเทรน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิอู่ตะเภา) ที่บีโอไอมองว่า โครงการยังไม่มีความพร้อมลงทุน

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่ากรณีที่เอกชน ได้อุทธรณ์ขยายเวลา ออกบัตรส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่3 โดยให้เหตุผลว่า การแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลต่อการจัดหาเงินทุนของโครงการ และทำให้โครงการไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เบื้องต้นบีโอไอจะหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมกับเอกชนเกี่ยวกับสถานะการแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และความจำเป็นในการขยายเวลาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน รวมถึงจะหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)หรือ อีอีซีและ รฟท. ถึงทางออกของปัญหาดังกล่าว ก่อนที่จะพิจารณาคำขออุทธรณ์ของเอกชนต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

"ส่วนความเป็นไปได้ที่บีโอไอจะอนุมัติการยื่นอุทธรณ์ของเอกชนในครั้งนี้นั้น ยังตอบไม่ได้ เนื่องจากบีโอไออยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมและสอบถามความเห็นทั้ง 2 หน่วยงานก่อน แต่เอกชนยังคงมีสิทธิยื่นขอรับการส่งเสริมใหม่จากบีโอไอ เมื่อไรก็ได้หากมีความพร้อม โดยบีโอไอจะเร่งพิจารณาให้โดยเร็ว ซึ่งกระบวนการใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากสาระสำคัญของโครงการไม่ได้เปลี่ยนแปลงและมีรายงานการวิเคราะห์เดิมอยู่แล้ว"

สำหรับโครงการไฮสปีด ของบริษัท เอเชีย เอรา วัน ได้รับการอนุมัติส่งเสริมจากบีโอไอ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 โดยเอกชนมีการยื่นขอขยายเวลาการตอบรับมติให้การส่งเสริมและขอขยายเวลาการยื่นเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมมา 2 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องรอการแก้ไขสัญญาระหว่าง รฟท. และเอกชน โดยการขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 2 เอกชนต้องส่งเอกสารประกอบการออกบัตรส่งเสริมภายในวันที่ 22 มกราคม 2567

ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาบีโอไอได้หารือกับอีอีซี และ รฟท. ถึงความคืบหน้าของโครงการไฮสปีดซึ่งในที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ควรเร่งรัดให้เอกชนดำเนินการตามโครงการโดยเร็ว หากเอกชนยื่นขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 บีโอไอจะทำหนังสือสอบถามความเห็นจากอีอีซีและ รฟท. ในฐานะเจ้าของโครงการ เพื่อประกอบการพิจารณา

ต่อมาในเดือนมกราคม 2567 เอกชนยื่นขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 บีโอไอจึงทำหนังสือสอบถามความเห็นจากทั้งอีอีซีและรฟท. ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานให้ความเห็นว่า ความล่าช้าของโครงการจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความเชื่อมั่นของประเทศ อีกทั้งการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ไม่มีผลต่อการขอรับบัตรส่งเสริม จึงควรเร่งรัดให้เอกชนส่งเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมโดยเร็วและไม่ควรขยายเวลาออกไปอีก

"ด้วยเหตุผลดังกล่าวบีโอไอจึงพิจารณาไม่อนุมัติให้ขยายเวลาการยื่นเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 ตามความเห็นของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยได้แจ้งให้เอกชนทราบล่วงหน้า เพื่อเร่งรัดให้ดำเนินการภายในวันที่ 22 มกราคม 2567 เมื่อเอกชนไม่ยื่นเอกสารภายในกำหนด มีผลทำให้มติเดิมสิ้นสุดลง"

นายนฤตม์ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่บีโอไอไม่อนุมัติขยายเวลาให้เอกชนยื่นเอกสารขอออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 จะเป็นเงื่อนไขให้เอกชนต่อรองในการแก้ไขสัญญาไฮสปีดหรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นประเด็นระหว่างเอกชนและเจ้าของ

โครงการเพียงแต่บีโอไอสอบถามความเห็นทั้ง 2 หน่วยงานที่เป็นเจ้าของโครงการโดยตรงในกรณีนี้

ทั้งนี้ในกรณีที่เอกชนไม่ยื่นเอกสารขอขยายเวลาการออกบัตรส่งเสริมต่อบีโอไอมีสิทธิ์จะขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซีได้นั้น มองว่ามีความเป็นไปได้ เพราะกฎหมายอีอีซีสามารถให้สิทธิประโยชน์ได้เหมือนกันหรือเมื่อเอกชนมีความพร้อมสามารถกลับมายื่นเอกสารขอรับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอได้ไม่จำกัด ซึ่งบีโอไอยินดีที่ส่งเสริมโครงการฯนี้ เพราะอยากเห็นโครงการฯนี้เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมามีเอกชนหลายรายที่ยื่นเอกสารขอออกบัตรส่งเสริมจนได้รับบัตรส่งเสริมแล้ว หากมีปัจจัยที่เอกชนไม่สามารถดำเนินโครงการนั้นได้จนหยุดดำเนินโครงการไป เมื่อเอกชนมีความพร้อมก็สามารถกลับมายื่นคำขอใหม่ได้

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการสกพอ. กล่าวว่า กรณีที่บีโอไอไม่ขยายเวลาการยื่นเอกสารขอออกบัตรส่งเสริมด้านการลงทุนครั้งที่ 3 ของเอกชนจะกระทบกับการแก้ไขสัญญาไฮสปีดหรือไม่นั้น มองว่าเรื่องเป็นคนละเรื่องกัน เพราะการแก้ไขสัญญาเป็นไปตามมติกพอ.อนุมัติที่ได้ข้อยุติแล้ว ส่วนการขอขยายเวลากับบีโอไอเป็นเรื่องที่เอกชนต้องดำเนินการ Operate หากได้รายได้จากการเดินรถจะได้ภาษีอย่างไรบ้าง

ขณะเดียวกันในกรณีที่เอกชนไม่ได้มีการยื่นเอกสารขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมด้านการลงทุนจะกระทบต่อแผนการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) หรือไม่นั้น ตามเดิมการขยายเวลาฯนั้นเป็นเงื่อนไขในการออก NTP แต่เมื่อเอกชนไม่ได้รับการขยายออกบัตรฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่เอกชนไม่ได้ดำเนินการเอง ทำให้รฟท.ต้องเป็นผู้พิจารณาเองว่าในกรณีนี้ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้จะสละเงื่อนไขนี้เพื่อออก NTP โดยไม่ต้องรอบีโอไอหรือไม่ ปัจจุบันทราบว่าทางเอกชนได้ยื่นอุทธรณ์ขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมฯกับบีโอไอแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาจากบีโอไอ
"ในกรณีที่รฟท.จะขอออก NTP ให้เอกชนก่อนโดยไม่ต้องรอให้เอกชนยื่นอุทธรณ์ต่อบีโอไอแล้วเสร็จสามารถดำเนินการได้หรือไม่นั้น มองว่ามีความเป็นไปได้ แต่เรื่องนี้เราตอบแทนคณะกรรมการกำกับสัญญาตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯที่มีอำนาจพิจารณา โดยมีรฟท.เป็นประธานคณะกรรมการฯไม่ได้ ซึ่งเขาจะต้องพิจารณาว่าจะไปต่ออย่างไร"

สำหรับไทม์ไลน์การลงนามแก้ไขสัญญาโครงการฯคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปีนี้ เพราะตามกระบวนการแล้วรฟท.ต้องส่งร่างเอกสารแก้ไขสัญญาฯต่อสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ หลังจากนั้นจะส่งมาที่กพอ.และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเพื่อลงนามแก้ไขสัญญาฯใหม่ต่อไป ซึ่งอีอีซีอยากให้โครงการฯเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ หากรฟท.แจ้ง NTP แล้วเอกชนจะต้องเริ่มดำเนินการก่อสร้าง แต่ถ้ามีเหตุให้เอกชนที่จะไม่รับ NTP ก็ต้องพิจารณาอีกที

ส่วนกรณีการเจรจากับเอกชนในโครงการฯที่ล่าช้ามีความเป็นไปได้ที่จะบอกเลิกสัญญากับเอกชนหรือไม่นั้น เรื่องนี้อีอีซีไม่ใช่คู่สัญญา เพราะฉะนั้นการดำเนินการเกี่ยวกับสัญญาร่วมทุนผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ รฟท. แต่ทางอีอีซีจะพิจารณาในกรณีที่หากโครงการรถไฟล่าช้าจะกระทบต่อแผนดำเนินการลงทุนในส่วนอื่นๆหรือไม่ เช่น สนามบินอู่ตะเภา เนื่องจากบางธุรกิจจะพิจารณาว่าโครงการฯไฮสปีดจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่

นายจุฬา กล่าวต่อว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่าอีอีซีจะเปิดโอกาสให้เอกชนมีสิทธิ์ขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซีในโครงการฯนี้แทนการยื่นเอกสารขอขยายเวลาการออกบัตรส่งเสริมด้านการลงทุนต่อบีโอไอนั้น เรื่องนี้มีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ตามหลักแล้วเอกชนมีสิทธิ์ขอสิทธิประโยชน์จากบีโอไอได้ ซึ่งกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่การยื่นเอกสารขอขยายเวลาการออกบัตรฯในครั้งนี้จะต้องเริ่มกระบวนการใหม่หรือในปัจจุบันเอกชนมีสิทธิ์ขอสิทธิประโยชน์ด้านเป้าหมายอุตสาหกรรมจากอีอีซีก็สามารถดำเนินการได้ เพราะเอกชนมีสิทธิ์ใช้ได้ทั้ง 2 กฎหมาย

"หากเอกชนต้องการขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซีในโครงการฯจะต้องดำเนินการจัดทำ Business Plan ว่าเอกชนต้องการสิทธิประโยชน์ในด้านใดบ้าง ทั้งนี้การให้สิทธิประโยชน์ของอีอีซีจะขึ้นอยู่กับโครงการที่จะขอ ซึ่งอีอีซีต้องพิจารณาด้วยว่ามีสิทธิประโยชน์ได้บ้างที่เอกชนสามารถดำเนินการได้ ส่วนการขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซีจะต้องระบุในการแก้ไขสัญญาโครงการฯหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะสิทธิประโยชน์เป็นเพียงตัวบอกว่าระหว่างที่ดำเนินการและได้รายได้มาจะได้รับการสนับสนุนสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากภาครัฐอย่างไร ส่วนในสัญญาจะระบุเฉพาะด้านการก่อสร้างและ Operate เรื่องรถไฟเท่านั้น"

แหล่งข่าวจากสกพอ.เสริม ว่า กรณีที่เอกชนมีสิทธิ์ขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซีแทนการยื่นเอกสารขอขยายเวลาการออกบัตรส่งเสริมด้านการลงทุนกับบีโอไอในโครงการฯนั้น เอกชนมีสิทธิ์ขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซีได้ โดยตามขั้นตอนเอกชนสามารถยื่นเรื่องเข้ามาในระบบของอีอีซี ซึ่งใช้ระยะเวลาการพิจารณาไม่นาน เบื้องต้นสิทธิประโยชน์ที่เอกชนจะได้รับจากอีอีซี เช่น สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ,สิทธิประโยชน์ด้านการนำเข้าบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ,สิทธิประโยชน์ด้านวีซ่า รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านการขออนุญาตในส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นไปตามกำหนดของพ.ร.บ.อีอีซี

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 8 - 10 ก.พ. 2567


'ซีพี'ยื่นอุทธรณ์ส่งเสริมลงทุน'ไฮสปีดเทรน''บีโอไอ'ถก'อีอีซี-รฟท.'ก่อนเคาะขยายเวลา
Source - กรุงเทพธุรกิจ
Wednesday, February 07, 2024 at 04:41


คาดได้ข้อสรุป ก.พ. แจงยังไร้แผนเลิกสัญญา

กรุงเทพธุรกิจ "บีโอไอ" เผยได้รับเรื่องอุทธรณ์ขอส่งเสริมการลงทุนในโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน จากกลุ่มซีพี แล้ว เผยเตรียมหารืออีอีซี และ ร.ฟ.ท. คาด ได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้ แจงไทม์ไลน์- เหตุผลไม่ต่อบัตรส่งเสริมรอบ 3 เพราะโครงการ ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และ อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 224,544 ล้านบาท ที่มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นเจ้าของโครงการ และมี บจ.เอเชีย เอรา วัน (ซีพี) เป็นคู่สัญญาสัมปทานระยะเวลา 50 ปี ซึ่งล่าช้ากว่าแผนไปหลายปีนั้น

ปัจจุบัน โครงการหยุดชะงักลงเนื่องจาก มีการแก้ไขสัญญาระหว่างเอกชนผู้รับสัมปทานและภาครัฐ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปลายรัฐบาลก่อนและยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่ระยะเวลาของบัตรส่งเสริมการลงทุนที่เอกชนได้รับการขยายเวลามาแล้ว 2 ครั้ง หมดอายุลง ในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่การต่อระยะเวลาในครั้งที่ 3 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยังไม่ต่ออายุ แต่เอกชนผู้รับสัมปทานได้ยื่นขออุทธรณ์การไม่อนุมัติขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 ของบีโอไอ

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องของการขอส่งเสริมการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ภายหลังจากที่บีโอไอไม่ได้ ต่ออายุบัตรส่งเสริมการลงทุนครั้งที่ 3 ให้กับบริษัทเอเชีย เอรา วัน ในกลุ่มซีพี ที่ได้รับสัมปทานในโครงการว่าล่าสุดบริษัทได้ยื่นขออุทธรณ์การไม่อนุมัติขยายเวลาออกบัตร ส่งเสริมครั้งที่ 3 โดยเอกชนให้เหตุผลว่า การแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ในโครงการนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะส่งผลต่อการจัดหาเงินทุนของโครงการ และส่งผลในเรื่องการดำเนินโครงการต่อไป

บีโอไอคาดสรุปพิจารณาอุทธรณ์ ก.พ.นี้

โดยบีโอไอจะหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมกับบริษัทเกี่ยวกับสถานะการแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ และความจำเป็นในการขยายเวลา รวมถึงจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพิ่มเติมถึงทางออกของปัญหาดังกล่าว ก่อนที่จะพิจารณาคำขออุทธรณ์ของบริษัทต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้

นายนฤตม์ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงของบริษัท เอเชีย เอรา วัน ได้รับการอนุมัติส่งเสริมจากบีโอไอ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2563 โดยบริษัทมีการยื่นขอ ขยายเวลาการตอบรับมติให้การส่งเสริม และขอขยายเวลาการยื่นเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมมา 2 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องรอการแก้ไขสัญญาระหว่าง ร.ฟ.ท.และบริษัท โดยการขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 2 บริษัทต้องส่งเอกสารประกอบการออกบัตรส่งเสริมภายในวันที่ 22 ม.ค.2567

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ต.ค.2566 บีโอไอได้หารือกับอีอีซี และ ร.ฟ.ท. ถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งในที่ประชุมเห็นตรงกันว่าควรเร่งรัดให้บริษัทดำเนินการตามโครงการโดยเร็ว โดยหากบริษัทยื่นขอขยายเวลาออกบัตร ส่งเสริมครั้งที่ 3 บีโอไอจะทำหนังสือสอบถาม ความเห็นจาก อีอีซี และ ร.ฟ.ท.ในฐานะเจ้าของโครงการ เพื่อประกอบการพิจารณา

ชี้ไร้เหตุลงทุนล่าช้าปัดต่ออายุรอบ 3

ต่อมาในเดือน ม.ค.2567 บริษัทยื่นขอขยายเวลาออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 บีโอไอจึงทำหนังสือสอบถามความเห็นจาก ทั้งอีอีซี และ ร.ฟ.ท. ซึ่งทั้งสองหน่วยงานให้ความเห็นว่า ความล่าช้าของโครงการจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความเชื่อมั่นของประเทศ

อีกทั้งการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ไม่มีผลต่อการขอรับบัตรส่งเสริม จึงควรเร่งรัดให้บริษัทส่งเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมโดยเร็ว และไม่ควรขยายเวลาออกไปอีก ด้วยเหตุผลดังกล่าวบีโอไอจึงพิจารณาไม่อนุมัติให้ขยายเวลาการยื่นเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 ตามความเห็นของทั้งสองหน่วยงาน โดยได้แจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้า เพื่อเร่งรัดให้ดำเนินการภายในวันที่ 22 ม.ค.2567

เมื่อบริษัทไม่ยื่นเอกสารภายในกำหนด มีผลทำให้มติเดิมสิ้นสุดลง แต่บริษัทก็ยังคงมีสิทธิยื่นขอรับการส่งเสริมใหม่จากบีโอไอเมื่อไรก็ได้หากมีความพร้อม และบีโอไอก็จะเร่งพิจารณาให้โดยเร็ว เนื่องจากสาระสำคัญของโครงการไม่ได้เปลี่ยนแปลงและมีรายงานการวิเคราะห์เดิมอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวถึง กรณีกระแสข่าวว่า บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด อาจจะไม่เดินหน้าโครงการต่อหลังจากไม่ได้รับการต่อบัตรส่งเสริมการลงทุน โดยระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะมีการบอกเลิกสัญญา หรือบอกได้ว่าเอกชนที่ได้รับสัมปทานจะไม่ได้เดินหน้าโครงการต่อ

อีอีซียังไม่มีแผนบอกเลิกสัญญา

ขณะเดียวกัน สกพอ.ไม่สามารถที่จะเป็นผู้ที่บอกเลิกสัญญากับเอกชนได้ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับดูแลสัญญา ซึ่งอยู่ภายใต้ ร.ฟ.ท. พิจารณาว่าจะมีมติให้ เอเชีย เอรา วัน ดำเนินการอย่างไรในฐานะคู่สัญญา หลังจากนั้นหากคณะกรรมการกำกับดูแลสัญญาพิจารณาแล้วเสร็จ จึงจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ตัดสินใจขั้นสุดท้าย

"รัฐบาล ปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน และถือว่า มีความสำคัญต่อโครงการอีอีซี และอยากให้ มีการเริ่มก่อสร้างโครงการได้ เพราะว่าหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จการเดินทางไปยังพื้นที่อีอีซีจากกรุงเทพฯ จะใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ช่วยให้การเดินทาง และการไปทำงาน การทำธุรกิจเกิดขึ้นด้วยความสะดวกและรวดเร็ว"

ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 ก.พ. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 531, 532, 533 ... 559, 560, 561  Next
Page 532 of 561

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©