RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311651
ทั่วไป:13405234
ทั้งหมด:13716885
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 536, 537, 538 ... 559, 560, 561  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/02/2024 6:23 am    Post subject: Reply with quote

เปิดเหตุผล ITD เจรจาต่างชาติ ขายหุ้นเหมืองโปแตช หลังขาดสภาพคล่อง
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Friday, February 23, 2024 06:01

“ไอทีดี” จ่อขายหุ้นในเอเซีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น ที่ได้สิทธิเหมืองอุดรฯ หลังขาดสภาพคล่องขอเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 5 ชุด นายกฯ ทวงถามแหล่งเงินทุน “อุตสาหกรรม” รับอยู่ในแผนหาผู้ร่วมทุนใหม่ เผยรัฐบาลเร่งเหมืองโปแตชที่ล่าช้า ชี้ซาอุฯ สนลงทุนเหมืองโปแตชในไทย

โครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี ที่บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (APPC) ได้รับประทานบัตรการทำเหมืองเมื่อเดือน ต.ค.2565 โดยกระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่าเป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่มีแผนการผลิตปีละ 2 ล้านตัน และประเมินว่าจะมีปริมาณการผลิตตลอดอายุโครงการ 25 ปี อยู่ที่ 33.67 ล้านตัน และมีมูลค่าการลงทุนโครงการ 36,000 ล้านบาท

สำหรับบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2527 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท มีชื่อเดิม คือ บริษัท ไทยอะกริโกโปแตซ จำกัด มีกรรมการบริษัท 7 คน เช่น นายเปรมชัย กรรณสูต, นางนิจพร จรณะจิตต์, นายธรณิศ กรรณสูต

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าว บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัทก่อสร้างในกรุงเทพฯ กำลังหารือที่ปรึกษารายหนึ่งและคุยกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพรวมทั้งจากจีน การพูดคุยกับผู้ที่สนใจกำลังดำเนินอยู่ และอาจไม่ได้ทำข้อตกลงกันก็ได้

บลูมเบิร์กส่งคำถามไปยังเอเซีย แปซิฟิค โปแตซ ซึ่งส่งต่อไปให้ไอทีดีแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

ทั้งนี้ ไอทีดีเป็นบริษัทก่อสร้างใหญ่สุดรายหนึ่งของไทย ซื้อเอเซีย แปซิฟิค โปแตซ มาเมื่อปี 2549 บริษัทได้สิทธิสำรวจและพัฒนาแหล่งโปแตซชั้นดีใน จ.อุดรธานี

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตซยื่นขอสิทธิในแหล่งโปแตซดังกล่าวขนาด 26,565 ไร่ในปี 2546 แต่ต้องรอจนถึงปี 2565 เพิ่งได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการให้ดำเนินโครงการเป็นเวลา 21 ปี บริษัทมีกำลังการผลิตโปแตซปีละ 2 ล้านตัน

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน มาตรวจเหมืองหลักเมื่อวันที่ 19 ก.พ.2567 และสอบถามแหล่งที่มาของเงินทุนเพื่อทำโครงการ พร้อมพบกับประชาชนผู้คัดค้านเหมืองโปแตซ

สำหรับ ITD ก่อตั้งขึ้นในปี 2497 มูลค่าตลาดเคยสูงราว 3 พันล้านดอลลาร์ในทศวรรษ 1990 แล้วตกลงมาตั้งแต่นั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์ ไตรมาสสามของปี 2566 บริษัทรายงานขาดทุนสุทธิ 44.7 ล้านบาท ปี 2565 ทั้งปีขาดทุน 4.76 พันล้านบาท

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานและผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ที่เคยต้องโทษคดีเสือดำ ได้รับการพักโทษและปล่อยตัวเมื่อปีก่อน

ก่อนหน้านี้กรุงเทพธุรกิจเคยรายงานเมื่อเดือน ม.ค.ว่า ไอทีดีมีแผนเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 พันล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือน ก.พ.ต่อมาผู้ถือหุ้นกู้ตกลงที่จะขยายวันไถ่ถอนออกไปอีก 2 ปี

“อุตสาหกรรม” ชี้อยู่ในแผนหาผู้ร่วมทุนใหม่

นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเท่าที่ได้รับรายงานว่า การหาผู้ร่วมทุนเข้ามาถือหุ้นร่วม ITD ถือเป็นแผนการดำเนินการที่ ITD วางไว้อยู่แล้ว ซึ่งการดำเนินการธุรกิจเหมืองแร่มีการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการการทำเหมืองแร่โดยคนต่างด้าวและการห้ามยื่นคำขอรับใบอนุญาตเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น

“เข้าใจว่าเขาคงหาผู้ร่วมทุนที่อาจเป็นแผนของเขาอยู่แล้ว ซึ่งธุรกิจเหมืองแร่ถือเป็นธุรกิจที่ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ และผ่านความเห็นชอบโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยหากเป็นการหาผู้ร่วมทุนและแบ่งสัดส่วนหุ้น 30-40% ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไร” นายอดิทัต กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2566 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี ได้รับประทานบัตรในการทำเหมืองเมื่อเดือน ต.ค.2565

ทั้งนี้บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด รายงานกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อเดือน ธ.ค.2566 ว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุน Project Finance และหากการเงินอนุมัติจะเร่งรัดการผลิตแร่โปแตชได้ภายใน 3 ปี

สำหรับโครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี มีพื้นที่ 26,000 ไร่ ตั้งอยู่อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยมีปริมาณสำรองแร่รวม 267 ล้านตัน ซึ่งจะนำแร่ขึ้นมาผลิตเป็นปุ๋ยโปแตชได้ 34 ล้านตัน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปเร่งรัดเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลังจากโครงการมีความล่าช้า ในขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญนักลงทุนซาอุดิอาระเบียที่สนใจลงทุนในไทย เพื่อเดินทางมาไทยและเยี่ยมชมเหมืองแร่โปแตชในไทยในเดือน ก.พ.2567

“ไอทีดี”เจอปัญหาสภาพคล่อง

ทั้งนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในโครงการเหมืองแร่โปแตช ผ่านทางบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (APPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ITD ถือหุ้นใหญ่ 90% และกระทรวงการคลังถือหุ้น 10%

สำหรับโครงการเหมืองแร่โปแตช เป็นโครงการที่กระทรวงอุตสาหกรรมโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกประกาศเชิญชวนให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตแร่โปแตช ซึ่งบริษัท APPC ได้รับสิทธิดังกล่าวระยะเวลา 25 ปี เป็นคำขอประทานบัตร 4 แปลง ของแหล่งแร่อุดรใต้ รวมเนื้อที่ 26,446 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ITD เผชิญสารพัดปัญหาธุรกิจส่งผลให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ทั้งโครงการลงทุนหลายโครงการมีความผิดพลาด ทั้งตัวโครงการที่ไม่เป็นไปตามแผน และโครงการที่ล่าช้าไปกว่าแผน อันเนื่องมาจากความชัดเจนของภาครัฐ และสถานการณ์ไม่เป็นใจ จนส่งผลต่อสภาพคล่องของบริษัทตึงตัวมาก

รวมทั้งการลงทุนในโครงการทวาย เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ที่เมียนมา มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ไปจนถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เกือบ 4,000 ล้านบาท โดย ITD ไม่ได้มีรีเทิร์นจากโครงการเหล่านี้กลับเข้ามาเลย ประกอบกับปัญหางบค้างท่อและการเบิกจ่ายงบจากภาครัฐที่ ITD เข้าไปรับงานมีความล่าช้า


ขอเลื่อนชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้

ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวสะท้อนมาที่ฐานะการเงินของ ITD จนต้องตัดสินใจเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ 5 รุ่น ออกไป 2 ปี และชำระเพียงดอกเบี้ยหุ้นกู้ โดยเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2567 ได้ส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นรับทราบ ประกอบด้วย ITD มีหุ้นกู้ ITD242A ที่เตรียมจะครบกำหนด 15 ก.พ. 2567 ประมาณ 2,000 ล้านบาท และยังมีหุ้นกู้ถึงเดือน มิ.ย. 2568 คงค้างอีก 4 รุ่น รวม 1.24 หมื่นล้านบาท (รวม 5 รุ่น 1.45 หมื่นล้านบาท) ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติตามที่ ITD ขอแล้ว

สอดคล้องกับกระแสเงินสดของ ITD ในมือมีเพียง 4,600 ล้านบาท ตัวเลข ณ เดือน ก.ย.2566 และมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีก 8,200 ล้านบาท และเงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัญหาหุ้นกู้จะแก้ไขและต่อลมหายใจให้ ITD ได้ แต่ปัญหายังไม่หมด เนื่องจาก ITD ยังมีภาระเงินกู้จากธนาคารอีก 2.32 หมื่นล้านบาท และหนี้สินจากสัญญาเช่าและหนี้สินทางการเงินอื่นๆ อีก 1,200 ล้านบาท ส่งผลให้ ITD เผชิญความยากลำบากในการใช้ช่องทางระดมทุนอื่นๆ มาใช้หนี้เงินกู้แบงก์

ทั้งนี้ ย้อนดูงบการเงินของ ITD ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า ขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง ยกเว้นช่วง 9 เดือนปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิราว 379 ล้านบาท แต่ถ้าแคะดูไส้ในของงบการเงินงวดนี้พบว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขายสินทรัพย์ออกไปจึงทำให้งบดูดีมีกำไร

ขณะที่งบปีอื่นขาดทุนสุทธิทุกปี โดยปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 4,759 ล้านบาท ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 155 ล้านบาท ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,104 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 37.34 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/02/2024 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

ความคืบหน้าทางรถไฟความเร็วสูงช่วงคลองขนานจิตร-สีคิ้ว
Anusorn jansiri
Feb 23, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=DiBeKLb-taE


สร้าง'สถานีอยุธยา'จุดเดิมไม่ย้ายไม่มุด
Source - เดลินิวส์
Friday, February 23, 2024 05:20

ผู้ว่ารฟท.ลั่นตอบกลับสผ. 'ความคิด'ทำให้เกิดปัญหา

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงรายละเอียดที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้ตั้งข้อสังเกตในรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ในโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 3 ประเด็น โดยประเด็นสำคัญที่สุดคือ ให้เพิ่มทางเลือกอื่นนอกจากการก่อสร้างสถานีอยุธยาในพื้นที่เดิม ส่วนอีก 2 ประเด็นเป็นเรื่องของรูปแบบเอกสารที่ให้ปรับเปลี่ยนใหม่จะเร่งดำเนินการเพิ่มเติมตามข้อสังเกตส่งกลับไปยัง สผ. โดยเร็วที่สุด

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า การที่ สผ. ให้เพิ่มเติมข้อมูลนั้น ไม่ได้มีปัญหา รฟท. จะนำข้อมูล 5 แนวทางการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งได้มาจากผลการประชุมร่วม ระหว่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กรมศิลปากร, สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรมโยธาธิการและผังเมือง และ รฟท. เมื่อปี 64 ส่งกลับไปยัง สผ. ประกอบด้วย
1.ก่อสร้างเป็นลักษณะสถานี และทางวิ่งใต้ดิน
2. ก่อสร้างเส้นทางรถไฟเลี่ยงพื้นที่มรดกโลก
3. ก่อสร้าง สถานีก่อนถึงสถานีรถไฟอยุธยาเดิมหรือเลยออกไป
4. ก่อสร้างสถานีในตำแหน่งสถานีเดิมพร้อมจัดทำผังเมืองเฉพาะ และ
5. ก่อสร้างเฉพาะทางวิ่งไปก่อน โดยจะกำหนดที่ตั้งสถานีภายหลัง

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ รฟท. จะยืนยันกลับไปถึงสาเหตุที่เลือกแนวทางที่จะก่อสร้างสถานีในตำแหน่งเดิม ซึ่งทางเลือกนี้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และมีการศึกษามาก่อนแล้ว โดยพื้นที่การก่อสร้างก็ตั้งอยู่ในเขตทางรถไฟเดิม และมีระยะห่างจากพื้นที่แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาประมาณ 1.5 กิโลเมตร (กม.) ดังนั้นการก่อสร้างจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อโบราณสถานหรือทัศนียภาพในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ยืนยันว่าคงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเส้นทาง หรือขุดอุโมงค์ รวมทั้งย้ายสถานที่ตั้งสถานีอยุธยาได้ เพราะหากเปลี่ยนเส้นทางจะกระทบกับภาพรวมการดำเนินงานทั้งหมด ต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่ต้องออกแบบ และเวนคืนใหม่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย

นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า ส่วนการขุดอุโมงค์ ก็ต้องเจอปัญหาน้ำท่วม ขณะที่การย้ายพื้นที่สร้างสถานีอยุธยาไปบริเวณบ้านม้า ก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลจากชุมชนประมาณ 7 กม. ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสถานีรถไฟความ เร็วสูง และไม่มีใครที่ จะสร้างสถานีรถไฟให้ผู้โดยสารลงกลางป่าที่ผ่านมา รฟท. ได้พยายามปรับแบบสถานีการก่อสร้างให้มีขนาดเล็กลงแล้ว และยืนยันว่าไม่กระทบพื้นที่อุทยานประวัติ ศาสตร์แน่นอน เวลานี้มองว่าปัญหาการก่อสร้างสถานีอยุธยาติดอยู่ที่ความคิดเท่านั้น ขณะที่การดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้สถานีอยุธยา เป็นงานที่อยู่ในสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. โดยรายงาน HIA จะต้องเสนอให้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา ก่อนเสนอไปยังองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสต่อไป.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ก.พ. 2567

ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
23 ก.พ. 67

ต้องสร้าง“สถานีอยุธยา”จุดเดิม-ไม่ย้าย-ไม่มุดอุโมงค์
*ผู้ว่าฯรฟท.แจงรายละเอียดหนังสือตอบกลับสผ.
*ยันรฟท.ทำทุกอย่างถูกขั้นตอนถูกต้องหมดแล้ว
*ความคิดคนทำให้รถไฟไฮสปีดเกิดปัญหายืดเยื้อ

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/942951003948801
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43252
Location: NECTEC

PostPosted: 23/02/2024 12:54 pm    Post subject: Reply with quote

ตามนี้ครับ

คมนาคม ยันไฮสปีด สถานีอยุธยา ไม่กระทบมรดกโลก พัฒนาบนเส้นทางเดิม ไม่มีเวนคืน
เศรษฐกิจ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 - 19:21 น.


กระทรวงคมนาคม ยืนยันรถไฟความเร็วสูงอยุธยาไม่กระทบมรดกโลก เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้เป็นผู้ชี้แจง ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ เพื่อชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้าง สถานีรถไฟความเร็วสูงพระนครศรีอยุธยา ตามที่ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งกระทู้ถามแยกเฉพาะ โดยยืนยันว่า โครงการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อมรดกโลก และกระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาอย่างยั่งยืน







นายสุรพงษ์ชี้แจงว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) เพื่อลดข้อกังวลใจของ UNESCO และประชาชน โดยประเทศไทยยังไม่เคยมีการจัดทำรายงาน HIA มาก่อน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมตระหนักถึงความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบต่อการเป็นมรดกโลก โดยขอยืนยันว่า สถานีอยุธยาไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่มรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ UNESCO แต่อยู่ห่างออกไป 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่ ดังนั้น การขยายตัวของเมืองเข้าไปในเขตมรดกโลกจึงเป็นไปได้ยาก



Advertisement
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ได้ยกตัวอย่างเมืองมรดกโลกอื่นๆ ที่มีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ เช่น วัดโทจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และมรดกโลกมหาวิหารโคโลญ ประเทศเยอรมนี เพื่อแสดงให้เห็นว่าสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาสามารถอยู่ร่วมกับมรดกโลกได้ และอธิบายถึงแผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะ รองรับผู้โดยสาร รวมทั้งพัฒนาเส้นทางรถสาธารณะ และปรับปรุงระบบขนส่งรูปแบบใหม่

โดยสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาได้ออกแบบมาเพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยว มีพื้นที่จอดรถ พื้นที่สีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภูมิทัศน์รอบสถานีจะสวยงาม เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยว



ยืนยันว่าได้ดำเนินการศึกษาแนวทางปรับปรุงรูปแบบสถานีเพื่อลดผลกระทบต่อโบราณสถาน พร้อมทั้งดำเนินการตามผลการศึกษา ออกแบบรายละเอียด และมติคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง โดยการพัฒนาพื้นที่สถานีอยุธยาถือเป็นการพัฒนาบนแนวเส้นทางเดิม ไม่ได้ทำการเวนคืนที่ดินแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นเรื่องทุนจากต่างประเทศ นายสุรพงษ์กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินการจ้างโดยมีผู้รับจ้างเป็นบริษัทของไทย วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนใหญ่ล้วนมาจากไทย และมีคณะผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นเข้าร่วมสังเกตการณ์อย่างโปร่งใส

รมช.คมนาคมระบุว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงอยุธยาถือเป็นโครงการพัฒนาที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ รัฐบาลมีแผนรองรับผลกระทบต่างๆ อย่างรอบคอบ และคำนึงถึงความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน
https://www.youtube.com/watch?v=mcWPG-d8WMI


Mongwin wrote:


สร้าง'สถานีอยุธยา'จุดเดิมไม่ย้ายไม่มุด
Source - เดลินิวส์
Friday, February 23, 2024 05:20

ผู้ว่ารฟท.ลั่นตอบกลับสผ. 'ความคิด'ทำให้เกิดปัญหา

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงรายละเอียดที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้ตั้งข้อสังเกตในรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ในโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 3 ประเด็น โดยประเด็นสำคัญที่สุดคือ ให้เพิ่มทางเลือกอื่นนอกจากการก่อสร้างสถานีอยุธยาในพื้นที่เดิม ส่วนอีก 2 ประเด็นเป็นเรื่องของรูปแบบเอกสารที่ให้ปรับเปลี่ยนใหม่จะเร่งดำเนินการเพิ่มเติมตามข้อสังเกตส่งกลับไปยัง สผ. โดยเร็วที่สุด

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า การที่ สผ. ให้เพิ่มเติมข้อมูลนั้น ไม่ได้มีปัญหา รฟท. จะนำข้อมูล 5 แนวทางการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งได้มาจากผลการประชุมร่วม ระหว่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กรมศิลปากร, สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรมโยธาธิการและผังเมือง และ รฟท. เมื่อปี 64 ส่งกลับไปยัง สผ. ประกอบด้วย
1.ก่อสร้างเป็นลักษณะสถานี และทางวิ่งใต้ดิน
2. ก่อสร้างเส้นทางรถไฟเลี่ยงพื้นที่มรดกโลก
3. ก่อสร้าง สถานีก่อนถึงสถานีรถไฟอยุธยาเดิมหรือเลยออกไป
4. ก่อสร้างสถานีในตำแหน่งสถานีเดิมพร้อมจัดทำผังเมืองเฉพาะ และ
5. ก่อสร้างเฉพาะทางวิ่งไปก่อน โดยจะกำหนดที่ตั้งสถานีภายหลัง

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ รฟท. จะยืนยันกลับไปถึงสาเหตุที่เลือกแนวทางที่จะก่อสร้างสถานีในตำแหน่งเดิม ซึ่งทางเลือกนี้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และมีการศึกษามาก่อนแล้ว โดยพื้นที่การก่อสร้างก็ตั้งอยู่ในเขตทางรถไฟเดิม และมีระยะห่างจากพื้นที่แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาประมาณ 1.5 กิโลเมตร (กม.) ดังนั้นการก่อสร้างจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อโบราณสถานหรือทัศนียภาพในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ยืนยันว่าคงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเส้นทาง หรือขุดอุโมงค์ รวมทั้งย้ายสถานที่ตั้งสถานีอยุธยาได้ เพราะหากเปลี่ยนเส้นทางจะกระทบกับภาพรวมการดำเนินงานทั้งหมด ต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่ต้องออกแบบ และเวนคืนใหม่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย

นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า ส่วนการขุดอุโมงค์ ก็ต้องเจอปัญหาน้ำท่วม ขณะที่การย้ายพื้นที่สร้างสถานีอยุธยาไปบริเวณบ้านม้า ก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลจากชุมชนประมาณ 7 กม. ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสถานีรถไฟความ เร็วสูง และไม่มีใครที่ จะสร้างสถานีรถไฟให้ผู้โดยสารลงกลางป่าที่ผ่านมา รฟท. ได้พยายามปรับแบบสถานีการก่อสร้างให้มีขนาดเล็กลงแล้ว และยืนยันว่าไม่กระทบพื้นที่อุทยานประวัติ ศาสตร์แน่นอน เวลานี้มองว่าปัญหาการก่อสร้างสถานีอยุธยาติดอยู่ที่ความคิดเท่านั้น ขณะที่การดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้สถานีอยุธยา เป็นงานที่อยู่ในสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. โดยรายงาน HIA จะต้องเสนอให้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา ก่อนเสนอไปยังองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสต่อไป.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ก.พ. 2567

ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
23 ก.พ. 67

ต้องสร้าง“สถานีอยุธยา”จุดเดิม-ไม่ย้าย-ไม่มุดอุโมงค์
*ผู้ว่าฯรฟท.แจงรายละเอียดหนังสือตอบกลับสผ.
*ยันรฟท.ทำทุกอย่างถูกขั้นตอนถูกต้องหมดแล้ว
*ความคิดคนทำให้รถไฟไฮสปีดเกิดปัญหายืดเยื้อ

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/942951003948801
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/02/2024 7:57 am    Post subject: Reply with quote

ความคืบหน้าทางรถไฟความเร็วสูงช่วงสีคิ้ว-นครราชสีมา
Anusorn jansiri
Feb 24, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=Vi5wuKxCizo
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/02/2024 3:59 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” โต้ปม “ไฮสปีดไทย-จีน” สถานีอยุธยา กระทบมรดกโลก
ฐานเศรษฐกิจ 25 กุมภาพันธ์ 2567

“คมนาคม” ยืนกราน “ไฮสปีดไทย-จีน” สถานีอยุธยา ไม่กระทบมรดกโลก หลังห่างพื้นที่ขึ้นทะเบียน 1.5 กม. มั่นใจมีแผนรับผลกระทบ

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้เป็นผู้ชี้แจง ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ เพื่อชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงฯ (ไฮสปีดไทย-จีน) สถานีพระนครศรีอยุธยา ตามที่นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งกระทู้ถามแยกเฉพาะ โดยยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อมรดกโลก และกระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) เพื่อลดข้อกังวลใจของ UNESCO และประชาชน เนื่องจากไทยยังไม่เคยมีการจัดทำรายงาน HIA มาก่อน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ตระหนักถึงความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบต่อการเป็นมรดกโลก

“ยืนยันว่าสถานีอยุธยาไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่มรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ UNESCO แต่อยู่ห่างออกไป 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่ ดังนั้นการขยายตัวของเมืองเข้าไปในเขตมรดกโลกจึงเป็นไปได้ยาก”

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ยกตัวอย่างเมืองมรดกโลกอื่น ๆ ที่มีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ เช่น วัดโทจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และมรดกโลกมหาวิหารโคโลญ ประเทศเยอรมนี เพื่อแสดงให้เห็นว่าสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาสามารถอยู่ร่วมกับมรดกโลกได้และอธิบายถึงแผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะ รองรับผู้โดยสาร รวมทั้งพัฒนาเส้นทางรถสาธารณะ และปรับปรุงระบบขนส่งรูปแบบใหม่ โดยสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยว มีพื้นที่จอดรถ พื้นที่สีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภูมิทัศน์รอบสถานีจะสวยงาม เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ยืนยันว่าได้ดำเนินการศึกษาแนวทางปรับปรุงรูปแบบสถานี เพื่อลดผลกระทบต่อโบราณสถาน พร้อมทั้งดำเนินการตามผลการศึกษา ออกแบบรายละเอียด และมติคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง โดยการพัฒนาพื้นที่สถานีอยุธยาถือเป็นการพัฒนาบนแนวเส้นทางเดิม ไม่ได้ทำการเวนคืนที่ดินแต่อย่างใด

Click on the image for full size

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีประเด็นเรื่องทุนจากต่างประเทศนั้น โครงการได้ดำเนินการจ้างโดยมีผู้รับจ้างเป็นบริษัทของไทย วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนใหญ่ล้วนมาจากไทย และมีคณะผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เข้าร่วมสังเกตการณ์อย่างโปร่งใส

“โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) สถานีอยุธยาถือเป็นโครงการพัฒนาที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ รัฐบาลมีแผนรองรับผลกระทบต่างๆ อย่างรอบคอบ และคำนึงถึงความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/02/2024 6:54 pm    Post subject: Reply with quote

ล่าสุด | สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน สัญญา 4-7 สถานีที่คืบหน้าที่สุดในโครงการ
nanny official
Feb 25, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=Mv-vjAVeikQ

*ย่านสถานีสระบุรี โครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน
**สถานีสระบุรี สัญญาที่4-7 ต.ตะกุด อ.เมืองสระบุรี (บริเวณด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี)
ชั้นที่ 1 ชั้นชานชาลารถไฟทางไกลในอนาคต
ชั้นที่ 2 ชั้นจำหน่ายตั๋วและเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารชั้นที่ 3 พื้นที่โถงพักคอยรถไฟความเร็วสูง
และชั้นที่ 4 ชั้นชานชลารถไฟความเร็วสูง
ตัวสถานีเป็นอาคารยกระดับ ความยาว 310 เมตร (สามารถรองรับตู้รถไฟได้มากถึง 12 ตู้ขบวน) กว้าง 6 - 8 เมตร ระดับความสูงชานชาลาจากระดับสันราง 1 - 1.25 เมตร (ขึ้นอยู่กับชนิดของขบวนรถ) ค่ะ ‎
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/02/2024 8:02 am    Post subject: Reply with quote

ยืน10,325ล้านได้ถึง31มี.ค.
Source - เดลินิวส์

Monday, February 26, 2024 05:33

สร้างทางวิ่งก่อนสถานีอยุธยา ถ้าบุญชัยฯเทยิ่งโลว์สปีด11ปี+

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จะเร่งผลักดันการลงนามสัญญากับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ผู้รับจ้างสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 10,325 ล้านบาท ให้ได้ภายในเดือน ก.พ. 67 สัญญา 4.5 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. เพื่อให้งานในภาพรวมเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องแม้สัญญานี้ยังมีประเด็นเรื่องรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา แต่ก็ไม่ได้ทำให้การทำงานของสัญญานี้สะดุด เพราะหากลงนามสัญญาแล้วสามารถก่อสร้างทางวิ่งก่อนได้เลย

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ยังอยู่ในกระบวนการภายในของบริษัท บุญชัยพาณิชย์ฯ โดยได้ขยายการยืนราคามาแล้ว 1 เดือน และหากเอกชนมีความจำเป็นจะขอยืนราคาต่ออีก 1 เดือน ถึงวันที่ 31 มี.ค. ก็ยังไม่มีปัญหาใด ยังรอได้ เพราะยังเกิดประโยชน์กับภาครัฐเวลานี้ราคาค่าก่อสร้างน่าจะขยับเพิ่มขึ้นไปจากเดิมแล้ว และยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของโครงการฯ ส่วนสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. ที่มีโครงสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) จากบริเวณวัดเสมียนนารี ถึงสถานีดอนเมือง ระยะทาง 10 กม. ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด(กลุ่มซีพี) ซึ่งเป็นเอกชนคู่สัญญา

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า เวลานี้ รฟท. ได้พยายามเร่งรัดผู้รับจ้างแต่ละสัญญา และจัดการปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเวนคืนที่ดิน ซึ่งเหลืออีกไม่มากแล้ว เพื่อให้งานก่อสร้างเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเปิดให้บริการรถไฟไฮสปีด เฟสที่ 1 ให้ได้ภายในปี 71 ตามแผนที่ปรับใหม่ล่าสุด สำหรับสัญญาที่ยังมีปัญหาอยู่ และต้องเร่งดำเนินการนอกจากนี้คือสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม. ซึ่งชาวบ้านอยากให้สร้างบริเวณโคกกรวด-บ้านใหม่ ระยะทางประมาณ 7 กม. เป็นทางยกระดับแทนทางระดับดิน คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. พิจารณาเดือน มี.ค. 67 โดยการปรับเป็นยก ระดับใช้งบประมาณเพิ่มอีกกว่า 4,000 ล้านบาท จากเดิม 7,750 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ เฟสที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. มี 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี 60 มีความคืบหน้าในภาพรวม 30.95% ล่าช้าประมาณ 51.55% โดยก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% จำนวน 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา และรอการลงนามสัญญา 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 4-1 และสัญญาที่ 4-5 ทั้งนี้การขยายระยะเวลาการยืนราคาของเอกชน เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ รฟท. ว่าจะให้ขยายต่อไปอีกนานเท่าไหร่หรือตัดสินใจเปิดประมูลใหม่ โดยการเปิดประมูลใหม่จะถือเป็นเรื่องใหญ่ วงเงินการก่อสร้างจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันราคาวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ก็ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งงานก่อสร้างจะล่าช้าไปอีก.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 ก.พ. 2567

ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
26 ก.พ. 67 07:29 น.

รฟท.ให้บุญชัยฯยืนราคา 10,325 ล้านได้ถึง31มี.ค.นี้
*เรียกเซ็นสัญญาทำทางวิ่งก่อนสร้าง“สถานีอยุธยา”
*แต่ถ้าผู้รับเหมาเท“ไฮสปีดสายแรกโลว์สปีด11ปี+”

ttps://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/944441197133115


Last edited by Mongwin on 26/02/2024 10:40 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/02/2024 8:08 am    Post subject: Reply with quote

ปรับแบบ'สถานีบ้านใหม่' แก้ปมไฮสปีดไทย-จีน ยัน'สถานีอยุธยา'จุดเดิม
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Monday, February 26, 2024 06:38

ปรับแบบ"สถานีบ้านใหม่" แก้ปมไฮสปีดไทย-จีน ยัน"สถานีอยุธยา"จุดเดิม

ผู้จัดการรายวัน360 - รฟท.เร่งเคลียร์ปมไฮสปีดไทย-จีน ยอมปรับแบบยกระดับช่วง "บ้านใหม่" เพิ่มกว่า 4 พัน ล้านบ. เร่งเสนอบอร์ดเคาะ พร้อมยันสร้าง "สถานีอยุธยา" จุดเดิมทางเลือกดีสุด คาด มี.ค.เซ็นจ้าง "บุญชัยฯ" สร้างทางวิ่งก่อน

ผู้จัดการรายวัน360 - รฟท.เร่งเคลียร์ปมไฮสปีดไทย-จีน ยอมปรับแบบยกระดับช่วง "บ้านใหม่" เพิ่มกว่า 4 พันล้าน บ. เร่งเสนอบอร์ดเคาะ พร้อมยันสร้าง "สถานีอยุธยา" จุดเดิมทางเลือกดีสุด คาด มี.ค. เซ็นจ้าง "บุญชัยฯ" สร้างทางวิ่งก่อน

วานนี้ (25 ก.พ.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.ได้เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ระยะที่ 1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา ซึ่งยังติดปัญหา 2-3 ประเด็น ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เช่น กรณี สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ที่งานก่อสร้างยังไม่คืบหน้ามากนัก เนื่องจากมีประเด็นประชาชนในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ จ.นครราชสีมา เรียกร้องให้ปรับรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ จากแบบเดิมที่เป็นทาง ระดับดิน

"ที่ผ่านมา รฟท.ได้หารือร่วมกับ ผู้เกี่ยวข้อง และได้สรุปใช้ทางเลือกที่ 4 คือ เป็นทางยกระดับ ซึ่งมีวงเงินค่าก่อสร้างเพิ่มกว่า 4 พันล้านบาท แต่ยังอยู่ในกรอบวงเงินรวม 1.79 แสนล้านบาท และต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพิ่มประมาณ 2 ปี" นายนิรุฒ ระบุ
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ได้เสนอรายงานหารือไปยังกระทรวงคมนาคม พิจารณารับทราบแนวทางแล้ว หลังจากนี้จะชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชน อีกครั้ง และเร่งนำเข้าเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ภายในเดือน มี.ค. 67 เพื่อขออนุมัติการปรับแบบและแก้ไขเปลี่ยนแปลง (Voriation Order : VO) เป็นงานเพิ่มเติม และขอเพิ่มกรอบ วงเงินในสัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวดนครราชสีมา ต่อไป ซึ่งไม่ต้องเปิดประมูลใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 27 ก.พ.67 จะมีการรายงานคณะอนุกรรมการ จัดระบบการจราจรทางบกจังหวัด นครราชสีมา ถึงความคืบหน้าแนวทางก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. วงเงิน 7,750 ล้านบาท โดยมีการปรับรูปแบบเป็นโครงสร้างยกระดับ มีระยะทาง 7.85 กม. ซึ่งมีค่างานก่อสร้างเพิ่มอีก 4,791.45 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้างเพิ่มอีก 28 เดือน โดยปัจจุบันสัญญา 3-5 โคกกรวด-นครราชสีมา มีผลงานเพียง 5.87% พร้อมกันนี้ ในช่วงดังกล่าวจะมีการปรับแบบโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ เป็นโครงสร้างยกระดับแบบเสาตอม่อ แทนคันดิน ช่วงโคกกรวด-ภูเขาลาด ด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับ รถไฟความเร็วสูง

นายนิรุฒ ยังได้กล่าวถึงกรณีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้มีข้อสังเกต เรื่องการศึกษา รายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) การก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ว่า รฟท.จะเร่งส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ สผ. ซึ่งข้อสังเกต เรื่องแนวทางอื่นๆ นั้นต้องยืนยันว่า เมื่อปี 2559 รฟท.ได้มีการพิจารณาไว้ 5 แนวทางและได้มีการเลือกแนวทางที่ดีที่สุด มาดำเนินการศึกษารายละเอียด เพราะหากจะศึกษารายละเอียดทั้ง 5 แนวทาง จะมีค่าใช้จ่ายสูง และเสียเวลาเพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่อ สผ.ต้องการรับทราบแนวทางอื่น รฟท.จะสรุปไปให้ สผ.รับทราบ เพราะเป็นข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ความเห็นที่ให้เปลี่ยนแนวเส้นทาง จะทำให้โครงการเปลี่ยนแปลงมีผล กระทบอย่างมาก อาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการมูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท ที่กำลังเดินหน้า

"กรณีย้ายสถานี ไปอยู่ที่บ้านม้า ซึ่งโครงการยังอยู่ในแนวเส้นทางเดิม รฟท.ไม่เห็นด้วย เพราะไม่มีรถไฟความเร็วสูงที่ไหน ไปจอดรับส่งที่กลางทุ่งนา ไกลชุมชนถึง 7 กม. ที่ผ่านมาได้ปรับแบบสถานีให้เล็กลง และปรับโครงสร้างทางให้ต่ำลงแล้ว ซึ่งเรื่อง HIA ไม่ได้มีผลบังคับทางกฎหมาย เราทำการศึกษาเพื่อให้ทางมรดกโลก รู้สึกว่า เราได้ทำตามที่มีข้อคิดเห็น" ผู้ว่าฯ รฟท.กล่าว
สำหรับในส่วนของการก่อสร้าง นายนิรุฒ กล่าวว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจะไม่มีปัญหา โดย สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม.นั้น อยู่ระหว่างเตรียม ลงนามสัญญา กับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด เป็นผู้รับจ้างวงเงิน 10,325 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างทางวิ่งไปก่อน ซึ่งทางเอกชน ยืนราคาถึงสิ้นเดือน ก.พ. 67 อยู่ระหว่างการพิจารณาภายในของเอกชน หากยังไม่สามารถลงนามได้ทันภายใน ก.พ.นี้ ยังสามารถเจรจาเพื่อขยายการยืนราคาต่ออีก 1 เดือน ทั้งนี้ ยอมรับว่า หากเอกชนไม่ยืนราคา รฟท.ก็ต้องเปิดประกวดราคาใหม่ ซึ่งต้องทำราคากลางใหม่ นอกจากค่าก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นแล้วยังเสียเวลาอีก.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 26 ก.พ. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/02/2024 8:11 am    Post subject: Reply with quote

ปรับแบบ'สถานีบ้านใหม่' แก้ปมไฮสปีดไทย-จีน ยัน'สถานีอยุธยา'จุดเดิม
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Monday, February 26, 2024 06:38

ปรับแบบ"สถานีบ้านใหม่" แก้ปมไฮสปีดไทย-จีน ยัน"สถานีอยุธยา"จุดเดิม

ผู้จัดการรายวัน360 - รฟท.เร่งเคลียร์ปมไฮสปีดไทย-จีน ยอมปรับแบบยกระดับช่วง "บ้านใหม่" เพิ่มกว่า 4 พัน ล้านบ. เร่งเสนอบอร์ดเคาะ พร้อมยันสร้าง "สถานีอยุธยา" จุดเดิมทางเลือกดีสุด คาด มี.ค.เซ็นจ้าง "บุญชัยฯ" สร้างทางวิ่งก่อน

ผู้จัดการรายวัน360 - รฟท.เร่งเคลียร์ปมไฮสปีดไทย-จีน ยอมปรับแบบยกระดับช่วง "บ้านใหม่" เพิ่มกว่า 4 พันล้าน บ. เร่งเสนอบอร์ดเคาะ พร้อมยันสร้าง "สถานีอยุธยา" จุดเดิมทางเลือกดีสุด คาด มี.ค. เซ็นจ้าง "บุญชัยฯ" สร้างทางวิ่งก่อน

วานนี้ (25 ก.พ.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.ได้เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ระยะที่ 1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา ซึ่งยังติดปัญหา 2-3 ประเด็น ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เช่น กรณี สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ที่งานก่อสร้างยังไม่คืบหน้ามากนัก เนื่องจากมีประเด็นประชาชนในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ จ.นครราชสีมา เรียกร้องให้ปรับรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ จากแบบเดิมที่เป็นทาง ระดับดิน

"ที่ผ่านมา รฟท.ได้หารือร่วมกับ ผู้เกี่ยวข้อง และได้สรุปใช้ทางเลือกที่ 4 คือ เป็นทางยกระดับ ซึ่งมีวงเงินค่าก่อสร้างเพิ่มกว่า 4 พันล้านบาท แต่ยังอยู่ในกรอบวงเงินรวม 1.79 แสนล้านบาท และต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพิ่มประมาณ 2 ปี" นายนิรุฒ ระบุ
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ได้เสนอรายงานหารือไปยังกระทรวงคมนาคม พิจารณารับทราบแนวทางแล้ว หลังจากนี้จะชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชน อีกครั้ง และเร่งนำเข้าเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ภายในเดือน มี.ค. 67 เพื่อขออนุมัติการปรับแบบและแก้ไขเปลี่ยนแปลง (Voriation Order : VO) เป็นงานเพิ่มเติม และขอเพิ่มกรอบ วงเงินในสัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวดนครราชสีมา ต่อไป ซึ่งไม่ต้องเปิดประมูลใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 27 ก.พ.67 จะมีการรายงานคณะอนุกรรมการ จัดระบบการจราจรทางบกจังหวัด นครราชสีมา ถึงความคืบหน้าแนวทางก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. วงเงิน 7,750 ล้านบาท โดยมีการปรับรูปแบบเป็นโครงสร้างยกระดับ มีระยะทาง 7.85 กม. ซึ่งมีค่างานก่อสร้างเพิ่มอีก 4,791.45 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้างเพิ่มอีก 28 เดือน โดยปัจจุบันสัญญา 3-5 โคกกรวด-นครราชสีมา มีผลงานเพียง 5.87% พร้อมกันนี้ ในช่วงดังกล่าวจะมีการปรับแบบโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ เป็นโครงสร้างยกระดับแบบเสาตอม่อ แทนคันดิน ช่วงโคกกรวด-ภูเขาลาด ด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับ รถไฟความเร็วสูง

นายนิรุฒ ยังได้กล่าวถึงกรณีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้มีข้อสังเกต เรื่องการศึกษา รายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) การก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ว่า รฟท.จะเร่งส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ สผ. ซึ่งข้อสังเกต เรื่องแนวทางอื่นๆ นั้นต้องยืนยันว่า เมื่อปี 2559 รฟท.ได้มีการพิจารณาไว้ 5 แนวทางและได้มีการเลือกแนวทางที่ดีที่สุด มาดำเนินการศึกษารายละเอียด เพราะหากจะศึกษารายละเอียดทั้ง 5 แนวทาง จะมีค่าใช้จ่ายสูง และเสียเวลาเพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่อ สผ.ต้องการรับทราบแนวทางอื่น รฟท.จะสรุปไปให้ สผ.รับทราบ เพราะเป็นข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ความเห็นที่ให้เปลี่ยนแนวเส้นทาง จะทำให้โครงการเปลี่ยนแปลงมีผล กระทบอย่างมาก อาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการมูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท ที่กำลังเดินหน้า

"กรณีย้ายสถานี ไปอยู่ที่บ้านม้า ซึ่งโครงการยังอยู่ในแนวเส้นทางเดิม รฟท.ไม่เห็นด้วย เพราะไม่มีรถไฟความเร็วสูงที่ไหน ไปจอดรับส่งที่กลางทุ่งนา ไกลชุมชนถึง 7 กม. ที่ผ่านมาได้ปรับแบบสถานีให้เล็กลง และปรับโครงสร้างทางให้ต่ำลงแล้ว ซึ่งเรื่อง HIA ไม่ได้มีผลบังคับทางกฎหมาย เราทำการศึกษาเพื่อให้ทางมรดกโลก รู้สึกว่า เราได้ทำตามที่มีข้อคิดเห็น" ผู้ว่าฯ รฟท.กล่าว
สำหรับในส่วนของการก่อสร้าง นายนิรุฒ กล่าวว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจะไม่มีปัญหา โดย สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม.นั้น อยู่ระหว่างเตรียม ลงนามสัญญา กับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด เป็นผู้รับจ้างวงเงิน 10,325 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างทางวิ่งไปก่อน ซึ่งทางเอกชน ยืนราคาถึงสิ้นเดือน ก.พ. 67 อยู่ระหว่างการพิจารณาภายในของเอกชน หากยังไม่สามารถลงนามได้ทันภายใน ก.พ.นี้ ยังสามารถเจรจาเพื่อขยายการยืนราคาต่ออีก 1 เดือน ทั้งนี้ ยอมรับว่า หากเอกชนไม่ยืนราคา รฟท.ก็ต้องเปิดประกวดราคาใหม่ ซึ่งต้องทำราคากลางใหม่ นอกจากค่าก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นแล้วยังเสียเวลาอีก.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 26 ก.พ. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46032
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/02/2024 10:47 am    Post subject: Reply with quote

ITD หาผู้ซื้อหุ้นเหมืองโปแตช ดึงพันธมิตรร่วมทุนปลดล็อกการเงิน
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Monday, February 26, 2024 06:40

ปัญหาสภาพคล่อง "อิตาเลียนไทย" เปิดทางหาผู้ซื้อหุ้นเหมืองโปแตช ลือหนึ่งในนั้นเป็นกลุ่มธุรกิจจีน บริษัทยอมรับอยู่ระหว่างพิจารณา ขณะเกณฑ์ D/E ไม่เกิน 3 เท่ายัง เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ หลายฝ่ายเชื่อท้ายที่สุดได้พันธมิตรร่วมลงทุน

ราคาหุ้นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

หรือ ITD ขยับขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่มีรายงานว่า บริษัทกำลังพิจารณาขายหุ้น 90% ในบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีสิทธิทำเหมืองแร่ในประเทศไทย และกำลังหามองหาเงินทุนประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ โดย ITD กำลังทำงานร่วมกับที่ปรึกษา และเจรจากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงผู้ซื้อจากประเทศจีน

ทั้งนี้เพียงแค่ 2 วันทำการหลังจากที่ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น พบว่าราคาหุ้น ITD ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36.23% จาก 0.69 บาท/หุ้น (20ก.พ.67) มาอยู่ที่ 0.94 บาท/หุ้น (23ก.พ.67)

สำหรับ ITD เป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และบริษัทได้เข้าซื้อกิจการแร่โปแตชในเอเชียแปซิฟิกในปี 2549 โดยบริษัทมีสิทธิในการสำรวจและพัฒนาแหล่งแร่โปแตชคุณภาพสูงในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ITD ถือหุ้น 90% กระทรวงการคลัง 10%) ยื่นขอสิทธิ์ในพื้นที่ 10,500 เอเคอร์ต่อรัฐบาลในปี 2546 แต่ต้องใช้เวลาจนถึงปี 2565 กว่าจะได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการในการดำเนินโครงการเป็นเวลา 21 ปี โดยตามการระบุในเว็บไซต์บริษัทมีกำลังการผลิตโปแตช 2 ล้านตันต่อปี

โดยมีการประเมินว่า จะมีปริมาณการผลิตตลอดอายุโครงการ อยู่ที่ 33.67 ล้านตัน และมีมูลค่าการลงทุนโครงการ 36,000 ล้านบาท ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบเหมืองหลักเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา ตามคำแถลงของรัฐบาล โดยถามถึงแหล่งที่มาของเงินทุนสำหรับโครงการนี้ และยังได้พบกับประชาชนที่ต่อต้านเหมือง โปแตชด้วย

ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า มูลค่าตลาดของ ITD ลดลงนับจากประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษ 1990 ปัจจุบันลดลงเหลือ 100 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ปี 2565 บริษัทรายงานผลขาดทุน 4.76 พันล้านบาท ขณะที่ไตรมาส3/66 บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิ 44.7 ล้านบาท

ITD ยอมรับหาผู้ร่วมลงทุน

ล่าสุด ITD ออกมาชี้แจงกรณีมีการเสนอข่าวดังกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาคัดเลือก และเจรจา ผู้ร่วมทุนที่จะเข้ามาลงทุนในบางส่วน และเมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้น บริษัทฯ จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป

มีรายงานว่า ITD ซื้อ บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตซ จำกัด มาเมื่อปี 2549 โดยบริษัทได้สิทธิสำรวจและพัฒนาแหล่งโปแตชชั้นดีใน จ.อุดรธานี หลังยื่นขอสิทธิในแหล่งโปแตชดังกล่าวขนาด 26,565 ไร่ใน ปี 2546 แต่ต้องรอจนถึงปี 2565 เพิ่งได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการให้ดำเนินโครงการเป็นเวลา 21 ปี

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ITD มีที่มาที่ไปอย่างน่าสนใจ เริ่มจากช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า หุ้นกู้ 5 รุ่นของบริษัท จะขยายเวลาออกไปอีก 2 ปี ได้แก่ รุ่น ITD24DA มูลหนี้ 2,455 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.8% รุ่น ITD24DB มูลหนี้ 1,215 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% รุ่น ITD242A มูลหนี้ 2,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5.25% รุ่น ITD254A มูลหนี้ 6,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5.5% และรุ่น ITD266A มูลหนี้ 2,785 ล้านบาท ดอกเบี้ย 6.20% โดยทั้ง 5 รุ่นนั้นมีมูลค่ารวมกัน 14,455 ล้านบาท

โดย ITD มีแผนที่จะขยายเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี แลกกับเงื่อนไขในปีแรก บริษัทจะเพิ่มดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.25% ต่อปี และเพิ่มดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.50% ในปีที่ 2 โดยจะชำระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดเพียงครั้งเดียวในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่ ทำให้ ITD ต้องมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 108.4125 ล้านบาท จากเดิมที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายทั้งสิ้น 810.81 ล้านบาท ซึ่งแผนดังกล่าวจะดำเนินการได้ ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ในวันที่ 17 ม.ค. 2567

สภาพคล่องมูลเหตุสำคัญ

ชนวนเหตุของปัญหาในครั้งนี้ ITD แจงว่า ในปี 2566 มีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่กระทบกับการดำเนินงานของบริษัท อาทิ สถานการณ์สงครามในต่างประเทศ ราคาวัสดุ และน้ำมันที่สูงขึ้น การประกาศขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีผลต่อต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลล่าช้า ส่งให้โครงการภาครัฐต่างๆ ที่ชะลอตัวลงจากแผนงานเดิม ทำให้บริษัท มีปริมาณงานลดลงไม่เป็นไปตามประมาณการ

และจากปัญหาที่เกิดขึ้น ITD ต้องเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ ทั้งเจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ และเลื่อนการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท รวมไปถึงการขอกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำมาใช้ในโครงการงานต่างๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทคาดหวังว่าหากประสบความสำเร็จ จะทำให้บริษัทผ่านพ้นปัญหาการขาดเงินทุนหมุนเวียน สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ไม่เพียงเท่านี้ การขาดสภาพคล่องด้านทุนหมุนเวียนของบริษัท ยังลุกลามไปถึงศักยภาพในการดำเนินงานโครงการต่างๆในมือ เพราะ ผู้ว่าจ้างบางโครงการเริ่มสงสัยว่า ITD จะดำเนินงานของตนให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนดของระยะเวลาในแต่ละโครงการได้หรือไม่

มีรายงานว่า ปัจจุบัน ITD มีโครงการในมือ (Backlog) รวมกันสูงถึง 370,000 ล้านบาท โดยโครงการที่มีผลชี้วัดสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศและอนาคตของบริษัท ได้แก่ 1. โครงการทางด่วนพระราม 3 -ดาวคะนอง (สัญญา 3) วงเงิน 4,814 ล้านบาท 2. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) วงเงิน 92,512 ล้านบาท 3. โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ(สัญญา 1) วงเงิน 22,347 ล้านบาท 4. โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนกรุงเทพฯหนองคาย เฟสแรก (สัญญา 4-5) วงเงิน 9,264 ล้านบาท 5. โครงการรถไฟฟาสายสีส้ม งานโยธาส่วนตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมฯบางขุนนนท์) งานเดินรถทั้งระบบ (มีนบุรี-บางขุนนนท์) มูลค่า 140,000 ล้านบาท 6.โครงการรถไฟฟาสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 78,000 ล้านบาท และ 7.งานส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคารท่าเทียบเรือระบบถนนและระบบสาธารณูปโภค ของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 จังหวัดชลบุรี วงเงิน 7,387 ล้านบาท เป็นต้น

นอกจากนี้ เมื่อมีการเลื่อนชำระหนี้ และมีการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่ม ย่อมทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(D/E) ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น สิ่งนี้ทำให้ITD ต้องการขอผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ration) ตามที่กำหนดในข้อกำหนดสิทธิโดยให้มีผลตั้งแต่สิ้นปี 2566 จนถึงรอบบัญชีปี 2568 และผ่อนผันให้บริษัทดำเนินการเจรจาหรือเข้าทำสัญญากับ เจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดชำระหนี้

อย่างไรก็ตามข้อกำหนดสิทธิของ ITD ระบุไว้ว่า ต้องมีอัตรา ส่วน D/E Ratio ไม่เกิน 3 เท่า และหากย้อนดูงบการเงินของ ITD ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง ยกเว้นช่วง 9 เดือนปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 379 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขายสินทรัพย์ออกไป จึงทำให้งบมีกำไร ขณะที่งบปีอื่น ๆ ขาดทุนสุทธิทุกปี เริ่มตั้งแต่ ปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) กำไรสุทธิ 379 ล้านบาท ,ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 4,759 ล้านบาท,ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 155 ล้านบาท ,ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,104 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 37.34 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัท ทำให้หลายฝ่ายมองว่า จุดเปลี่ยนสำคัญของ ITD เริ่มขึ้นจากศาลทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีกล่าวหานายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ ITD กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก หรือ "คดีเสือดำ" มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี 14 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เมื่อธันวาคม 2564 โดยต้องยอมรับว่าการขาดหัวเรือใหญ่มีผลต่อการดำเนินงานของบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ

ผู้ถือหุ้นไฟเขียวขยายเวลา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67 บริษัทรายงานว่า จากการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 สำหรับวาระที่ 2 (ซึ่งเลื่อนมาจากการ ประชุมเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567) ในวันที่ 30 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) สำหรับหุ้นกู้ของ ITD ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 (ITD254A) เนื่องจาก วาระที่ 2 สำหรับหุ้นกู้ ITD254A ไม่ครบเป็นองค์ประชุม จึงไม่สามารถประชุมผู้ถือหุ้นกู้ได้ และต้องเลื่อนออกไป

ทั้งนี้ วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี และ (ก) การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.25% ต่อปี (นับแต่วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึงวันครบ 1 ปี จากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม) และ (ข) การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.50% ต่อปี (นับแต่วันครบ 1 ปี จากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึง (แต่ไม่นับรวม) วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่) โดยจะชำระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดเพียงครั้งเดียวในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่ (ที่ขยายออกไป)

โดยผู้ถือหุ้นกู้เห็นชอบด้วยคะแนน 3,442,100 คะแนน คิดเป็น 97.4354% (ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ ที่จะต้องได้รับการอนุมัติไม่น้อยกว่า 75% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าร่วมประชุมและออกเสียง) และผลของการลงคะแนนเสียงและมติที่ประชุมจะมีผลบังคับใช้และผูกพันกับผู้ถือหุ้นกู้ทุกรายที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ITD254A

เพิ่มผู้ร่วมทุนช่วยผลักดัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ที่ผ่านมาด้วยเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากและด้วยสถานะทางการเงินที่กำลังประสบปัญหา ทำให้ ITD พยายามหา ผู้เข้ามาร่วมลงทุนในเหมืองโปแตชอยู่แล้ว แต่การดำเนินการธุรกิจเหมืองแร่มีการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการการทำเหมืองแร่โดยคนต่างด้าว และการห้ามยื่นคำขอรับใบอนุญาตเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น ทำให้คาดว่าดีลที่จะเกิดขึ้นน่าจะเป็นไปในรูปแบบร่วมทุน เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้ แม้บริษัทจะเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงเวลานี้

D/E 3 เท่า อุปสรรคสำคัญ

ก่อนหน้านี้ "ทริสเรทติ้ง" ลดอันดับเครดิตองค์กรของ ITD เป็นระดับ "BB+" จากเดิมที่ระดับ "BBB-" และลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทเป็นระดับ "BB" จากเดิมที่ระดับ "BBB-" ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตนั้นยังคง "Negative" หรือ "ลบ" ทั้งนี้ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ให้ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท 1 ขั้น เพื่อสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมของบริษัทที่ระดับ 55.8% ซึ่งสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 50%

โดยกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) ของ ITD ยังเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตามภาระดอกเบี้ยของ ITD ก็เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2.2 พันล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเกิดจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนและต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ภาระหนี้ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเกินกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งที่ระดับ 4.3 หมื่นล้านบาท โดย ณ เดือนกันยายน 2566 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุน ของ ITD อยู่ที่ระดับ 78.9% ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 79.7% ในปี 2565 อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายของ ITD อยู่ที่ 2.75 เท่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 จากระดับ 5.1% ในปี 2565

ทริสเรทติ้ง ระบุว่าแม้ว่าผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้น แต่ ITD ก็ยังคงมีข้อจำกัดภายใต้ข้อกำหนดทางการเงินเป็นอย่างมาก ซึ่งตามข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญของหุ้นกู้และเงินกู้ยืมจากธนาคารนั้นระบุให้บริษัทต้องรักษาอัตราส่วนภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับไม่เกิน 3 เท่า ซึ่ง ITD มีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 2.89 เท่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 2.97 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 .

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 26 ก.พ. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 536, 537, 538 ... 559, 560, 561  Next
Page 537 of 561

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©